รีวิว guardians of the galaxy 1

รีวิว guardians of the galaxy 1

รีวิว guardians of the galaxy 1

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับวันนี้แอดมินจะมาแนะนำหนังมาเวล ที่ถ้าแฟนมาเวล แฟนๆหนังฮีโร่ท่านไหน ชอบฮีโร่สายฮา สายเกรียน แอดอยากแนะนำเรื่องนี้เลย หนังจากมาร์เวล สตูดิโอส์ ผู้สร้างภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่บล็อคบัสเตอร์ที่ครองใจแฟน ๆ มาแล้วทั่วโลกอย่าง ไอรอนแมน, ธอร์, กัปตันอเมริกา และ ดิ อเวนเจอร์ส สู่ทีมนักสู้กลุ่มใหม่ “การ์เดียนส์ ออฟ เดอะ กาแล็กซี” มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยในห้วงอวกาศ มาร์เวลส์ การ์เดียนส์ ออฟ เดอะ กาแล็กซี ได้ขยายจักรวาลภาพยนตร์ของมาร์เวลสู่ห้วงอวกาศ เว็บหนัง

รีวิว guardians of the galaxy 1

รีวิวหนังดัง เหมือนหนังซัมเมอร์ทั่วๆ ไปที่หวังเป็นจ่าฝูงในตารางบ็อกออฟฟิศ และ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนดูทั่วไปทุกเพศทุกวัยทั้งบนแผ่นดินโลก และ ทั้งกาแล็กซี่หากเป็นไปได้ โครงสร้างของหนังจึงไม่ถูกออกแบบให้แปลกแหวกแนวหรือซับซ้อนได้มากไปกว่าการรีไซเคิลโครงสร้างเดิม และ เสริมแต่งด้วยมุกต่างๆนานา เลือกตัวละครที่สามารถฮ็อตฮิต สร้างสรรค์เทคนิคภาพพิเศษให้เพลินตา และ ฉากแอคชั่นอวกาศลุ้นระทึกเพลินใจ คนทำรู้ดีว่าเมื่อรวมร่างอะไหล่พิเศษเหล่านี้ได้เมื่อไหร่ก็แน่นอนว่าจะได้ยานอวกาศลำงามเดินทางพาหนังให้มีโอกาสกอบโกยรายได้มหาศาลได้ง่ายดาย

เมื่อมองตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้มีหนังที่ให้ความบันเทิงในแบบเดียวกันเพิ่มมากขึ้นๆ จนเรียกได้ว่าซ้ำซาก ทั้งเรื่องราว และ รูปแบบการนำเสนอ ซึ่งถ้าไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากการ์ตูนยอดฮิตของมาร์เวล คงมีกระแสเปรียบเทียบกับหนังผจญภัยในอวกาศเรื่องก่อนหน้ามากกว่านี้ทั้ง Star Wars (George Lucas, 1977)/ Serenity (Joss Whedon, 2005) / Star Trek (JJ. Abrams, 2009 / A+25)

รีวิว garden of the galaxy 1

รวมไปถึงหนังในอาณาจักรซูปเปอร์ฮีโร่ฝั่ง Marvel อย่าง Thor (Kenneth Branagh, 2011 / B) ที่การออกแบบกายภาพตัวละครที่คล้ายคลึงกัน และ The Avengers (Joss Whedon, 2012 / A+30) ที่โครงสร้างลักษณะตัวละครแบบฉบับกลุ่มฮีโร่ต่างคาแร็กเตอร์มารวมกันเพื่อทำภารกิจ นอกจากนั้นยังมี Green Lantern (Martin Campbell, 2011 / C+) จากฝั่ง DC ที่หลายฉากในหนัง และ ความตลกเฮฮาทำให้นึกถึง แต่ Guardians of the Galaxyทำได้ลงตัวกว่าฮีโร่ชุดเขียวห่างกันหลายขุมอุกาบาตนัก ดูหนัง

เมื่อ ปีเตอร์ ควิลล์ นักท่องอวกาศจอมสะเพร่า ตกเป็นเป้าของการตามล่า หลังจากที่เขาได้ขโมยวัตถุทรงกลมลึกลับมาจาก โรแนน จอมวายร้ายผู้ทรงพลังที่ต้องการคุกคามทั้งจักรวาล ในการหลบหนีจากการตามล่าของโรแนน ควิลล์ต้องจำใจปรองดองกับเหล่าผู้นอกคอกทั้ง 4, ร็อคเก็ต – แรคคูนกระสุนเดือด, กรู้ท – ฮิวแมนนอยด์ที่มีรูปร่างเหมือนต้นไม้, กาโมร่า ผู้อันตราย และ ซับซ้อน และ แดรกซ์ เดอะเดสทรอยเยอร์ ผู้มุ่งมั่นต่อการแก้แค้น แต่เมื่อควิลล์ได้ค้นพบพลังที่แท้จริงของวัตถุลึกลับ และ อันตรายอันใหญ่หลวงที่มันจะนำมาสู่จักรวาล เขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะรวมทีมกับเหล่าอริที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันทั้ง 4 โดยมีชะตาของจักรวาลเป็นเดิมพัน

รีวิว garden of the galaxy 1

นอกจากความเป็นหนังแอคชั่น ไซ-ไฟแล้ว ความสัมพันธ์ของ ’สตาร์ลอร์ด’ กับ ‘กาโมร่า’ รวมถึงมนุษย์ต่างดาวที่สืบสายพ่อแม่ลูกต่างสายพันธ์ต่างๆ ก็มีความน่าสนใจในเรื่องของชาติพันธุ์ ทำให้นึกถึงปฏิกิริยาของเหล่ามนุษย์ชายที่มีต่อรูปร่างของเอเลี่ยนที่ปลอมเปลือกเป็นมนุษย์สาว ‘สกาเล็ต โจแฮนซัน’ ในหนังเรื่อง Under the Skin (Jonathan Glazer, 2013 / A+30)

ซึ่งเหล่ามนุษย์ต่างดาวใน Guardians of the Galaxy มีความรักใคร่โดยมองข้ามรูปร่างภายนอกที่แตกต่าง แม้กระทั่งสตาร์ลอร์ดที่เคยอยู่ในฐานะเด็กชาวโลกในนาม ปีเตอร์ ควิลล์ แต่ชีวิตที่เติบโตผจญภัยในอวกาศก็ทำให้เขาได้ลิ้มรสสวาทสาวๆมาทั่วกาแล็กซี่ คือมองในมุมกลับกันชายทั้งหลายที่ถูกเอเลี่ยนจัดการใน Uder the Skin ไม่มีทางจะพิศวาทมนุษย์ต่างดาวตัวเขียวอย่างกาโมร่าได้ง่ายๆ เป็นมุมมองเล็กๆที่น่าสนใจดี

สรุป guardians of the galaxy 1

รีวิวหนังดัง ผู้กำกับ James Gunn ขึ้นยานลำเดียวกันกับคนเขียนบทพา Guardians of the Galaxy เอาตัวรอดได้ด้วยการรัวเร้าความสนุกเฮฮาแบบไม่ยั้ง ผ่านสถานการณ์ที่สนุกสนานน่าตื่นเต้น และ ความยั่วยวนกวนเท้าของแต่ละตัวละครผู้พิทักษ์จักรวาลที่บริหารเสน่ห์ความเป็นลูสเซอร์กันได้พอดีๆ อาจมียานแตกบ้างเมื่อรวมกลุ่มกันยิงมุกผ่านบทสนทนาที่ตั้งใจปูพื้นจนจับทางได้

อย่างเช่น มุก ‘I am Groot’ ของ ‘กรู๊ท’ ที่เรียกเสียงฮาได้ในช่วงแรกๆก่อนที่จะเบื่อ จนถูกนำไปใช้ในบทซาบซึ้งในตอนท้ายที่ออกอาการจั๊กจี้ได้เหมือนกัน แต่ก็กลับมาลอยลำได้เมื่อถึงคิวมุกที่เล่นล้อด้วยจังหวะซ่อน และ การตัดต่อ อย่างเช่น มุกอาวุธพิฆาตของ ’ยอนดู’ ที่กั๊กไว้ไม่ปล่อยมุกให้เห็น เป็นอาวุธที่ดูทึ่มๆแต่อีกมุมเหมือนซ่อนพิษสงก่อนที่จะมาเท่สุดทางอย่างร้ายกาจในฉากท้ายๆ เว็บดูหนัง

รีวิว garden of the galaxy 1

และ มุกเพลงของสตาร์ลอร์ดที่ฟีตเจอริ่งร่วมกับการอ้างชื่อ Kevin Becon ซึ่งถ้าขาดส่วนนี้ไปเรื่องทั้งเรื่องอาจไม่มีอะไรพิเศษให้น่าจดจำนัก แต่ตอนท้ายก็เอามาใช้ได้กวนฮาที่สุดครั้งหนึ่งจากมุกทั้งหมดในเรื่อง แม้มันจะกึ่งๆความงี่เง่าไปหน่อยก็ตามรวมถึงฉากแหกคุกในช็อตที่สตาร์ลอร์ดไปเจรจาขอขาเทียมด้วยท่าทีประนีประนอม ขณะที่ตัดกลับมาภายนอกทุกคนกำลังยิงถล่มวิ่งสู้วิ่งหนีกันวุ่นวาย แต่ในฉากวุ่นเดียวกันนี้ยังมีบางแผลเล็กๆน้อยให้มองเห็นซึ่งถูกละเลยในการรักษา

ชอบอะไร

– หนังเรื่องนี้เป็นหนังฮีโร่ของมาร์เวลล์ที่มีสไตล์ ไม่เหมือนฮีโร่เรื่องอื่นๆ คือเรื่องนี้มันจะดูเก่าๆ เรทโทรดูเชยๆ แต่โคตรเทห์อ่ะ ถ้าชอบสไตล์ย้อนยุคจะชอบเรื่องนี้
– แน่นอนว่าม้วนเทป อาจจะกลับมาฮิตอีกครั้งนึง และ เพลงที่หนังเลือกมาประกอบก็เทห์ ถ้าชอบฟังเพลงยุค 70 อัพก็จะรู้จักเพลงพวกนี้ฮะ
– ความโดดเด่นที่สุดของหนังเรื่องนี้คือคาแรกเตอร์เข้าใจทำให้มันกวนตีน และ ตลก ตัวละครเด่นสุดๆเลยก็คือ กรู๊ท อีต้นไม้เนี่ยแหล่ะ คือดูแล้วเชื่อว่าหลายคนต้องหลงรักฮี #ฮีน่ารักฮีมุ้งมิ้ง
– ฉากสงครามก็เจ๋งนะฮะ ฉากสงครามช่วงท้ายเนี่ยอลังกาลพอๆกะพวกอเวเจอร์เลยทีเดียว คือเทคนิคภาพโอเค ฉากอวกาศก็สวย ไม่ค่อยเห็นฉากอวกาศเป็นสีแบบนี้เท่าไหร่
– แถมเรื่องนี้แอดแมวว่า 3D โอเคกว่าหนังมาร์เวลลทั่วไปนะฮะ มีกระจก มีอะไร…”แตกใส่หน้า” เยอะแยะเลย
– แอดแมวดูแบบ 4DX นี่เรียกว่าคุ้มเพราะจัดเต็ม เสียว- สั่น- ซาบซ่าน-ซอกหู เอคเฟคนวดหลังสบายไม่ต้องไป healthland อีกสักระยะเลยฮะ

ไม่ชอบอะไร ???

– คือเนื้อเรื่อง มันโคตรธรรมดาเลย พล็อตหนังแอคชั่นอวกาศทั่วไปเลยฮะ และ ด้วยหนังสไตล์แบบนี้ เหตุผลแรงจูงใจตัวละครไม่ต้องพูดถึง แค่ตลก และ มันส์ก็โอเคแล้ว
– กว่าจะรู้สึกสนุกกะหนังก็เกือบครึ่งเรื่องแล้วหล่ะ ช่วงแรกๆ จังหวะการเล่าตัดต่อ ยังไม่ดึงดูดเท่าไหร่ฮะ รู้สึกตาลายด้วย
– เสียดายนักแสดงบางคน อย่าง อีป้ารองพื้นไม่ทาคออย่าง Glenn Close ระดับคนที่เข้าชิงออสการ์ 6 ครั้งอย่างนาง น่าจะมีบทบาทที่เด่นกว่านี้นะฮะ
– สงสัยนางเอก โซอี ซัลดานา นางเป็นอะไรกะกิ้งก่ารึเปล่า คือชอบเปลี่ยนสีผิวตัวเองเรื่องที่แล้ว avatar ก็สีฟ้า เรื่องนี้ก็เป็นชะนีสีเขียวไม่แต่งหน้าแต่มาสคราร่าเป๊ะ…แล้วเรื่องหน้าจะสีอะไรอีก 5555

สรุป
– สนุกกว่าที่คิดไว้เยอะมาก ด้วยความที่เป็นคนไม่ถูกจริตกะหนังแนวแอคชั่นไซไฟ คือคาดกว่าจะหลับ
– แต่เรื่องนี้มีแอบง่วงในช่วงแรก หลังจากนั้นสนุกดูเพลินเลยทีเดียว คือไม่กะโหลกกะลามาม่าปลากระป๋องเลยนะฮะ
– ดูได้ทุกระบบ 4DX ก็คุ้มเพราะสั่นทั้งเรื่อง IMAX ก็น่าจะคุ้มเพราะฉากสงครามช่วงท้ายอลังการลานกว้างแอโรบิกหลังโลตั้สยังสู้ไม่ได้ 3D ก็ดีกว่าที่คิดเยอะเลย
– ให้คะแนนความชอบ 8 /10

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *