รีวิว thirteen lives

รีวิว thirteen lives

หนังไทยnetflix สวัสดีครับย้อนรอยไปเมื่อ 4 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ที่ต้องหยุดโลกเขย่าเมืองไทย อย่างการที่มีกลุ่มเด็กได้ไปติดถ้ำที่ แห่งหนึ่งในประทศไทย อย่างภารกิจช่วยเหลือเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าและโค้ชเอกรวม 13 คนออกจากถ้ำหลวงก็ได้กลายเป็นเรื่องราวสุดเหลือเชื่อที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างหาทางนำมาบอกเล่าในแบบของตนเองโดยมี ‘The Cave นางนอน’ หนังไทยฝรั่งกำกับของ ทอม วอลเลอร์ (Tom Waller) ผู้กำกับที่ผลิตหนังไทยอย่างต่อเนื่องบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของทีมดำน้ำต่างชาติในภารกิจนี้ออกฉายพร้อมดราม่ารอบสื่อที่ท่านอดีตผู้ว่าวอล์กเอาต์และต่อว่าหนังอย่างรุนแรง ออกฉายนำร่องไปก่อนแล้วในปี 2019 และในปีนี้ ‘Thirteen Lives’ อีกหนึ่งหนังจากเหตุการณ์นี้ก็ได้ฤกษ์ฉายทางสตรีมมิงน้องใหม่อย่าง Prime Video ในวันนี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ซึ่งในภาพรวมนอกจากบทหนังที่ถูกเขียนอย่างรัดกุมโดย วิลเลียม นิโคลสัน (William Nicholson) ที่เล่าเรื่องราวได้รอบด้านและเปี่ยมอารมณ์แล้ว การได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง รอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) ที่เชี่ยวชาญการทำหนังจากเรื่องจริงมาตั้งแต่ ‘Apollo 13’ ในปี 1995 ซึ่งกับ ‘Thirteen Lives’ โฮเวิร์ดก็ยังโชว์ฝีมือได้จัดจ้านผสานดราม่าผสมกับข้อมูลจริงได้อย่างลงตัวมาก ๆ และที่สำคัญมากคือโฮเวิร์ดใส่หัวใจแบบคนไทยลงไปในเรื่องราวด้วยเลยทำให้ภาพรวมของหนังไม่ได้เนยนมเสียจนกลบความกลมกล่อมและมีรสชาติแบบไทย ๆ เสียทีเดียว ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว thirteen lives

รีวิว thirteen lives

รีวิว thirteen lives หากเทียบกับ ‘The Cave นางนอน’ แล้วสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ใช้เป็นโครงเรื่องก็มีบางส่วนที่ทาบทับกันสนิททั้งเรื่องของนักดำน้ำอังกฤษที่หนังเรื่องแรกใช้เป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะนักดำน้ำชื่อคริส ที่มีในหนังทั้ง 2 เรื่อง แต่สิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ดูจะก้าวข้ามกับดักเรื่องเล่าจากความจริงคือการที่หนังมุ่งนำเสนอ ‘อารมณ์’ ตัวละครเป็นศูนย์กลาง แม้กระทั่งฉากเปิดเรื่องที่แม้จะมีฉากเตะฟุตบอล ฉากจอดจักรยานหน้าถ้ำแล้วเดินเข้าไปเหมือนกัน แต่หนังก็ทำให้เห็นความเป็น “มนุษย์” มากกว่าความเป็น “บุคคลในข่าว” แบบในหนังเรื่องแรก

และเมื่อหนังได้นำเสนอตัวละครฝั่งไทยอย่าง นายณรงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายขณะนั้นและทีมงานบางส่วนอย่างทีมวิศวกรน้ำที่มีส่วนช่วยในการผันน้ำออกจากถ้ำไปแล้ว การที่หนังไปโฟกัสตัวละครนักดำน้ำในถ้ำอย่าง ริค และ จอห์น พร้อมปูสถานะที่ต่างกันเมื่อฝ่ายแรกคือหนุ่มโสดที่ประกาศตัวว่าไม่ได้ชอบเด็กด้วยซ้ำกับฝ่ายหลังที่เป็นพ่อที่มีลูกชายพร้อมแนวคิดที่แทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิงก็สร้างความดรามาติกให้เรื่องราวที่ถูกห่อหุ้มด้วยข้อมูลข่าวสารที่คนทั้งโลกรู้อยู่แล้วได้อย่างลงตัว

รวมถึงการใช้บริการนักแสดงระดับเอลิสต์อย่าง วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) และ โคลิน ฟาเรลล์ (Colin Farell) มาแสดงเป็นริคและจอห์นนี่แหละครับคือการดึงให้หนังสามารถโน้มน้าวอารมณ์ผู้ชมได้โดยไม่ลืมที่จะกล่าวถึงบริบทแวดล้อมทั้งภารกิจผันน้ำที่เอาความเสียสละของชาวนาในพื้นที่มาสร้างอารมณ์ดราม่าชวนน้ำตาซึมให้หนังได้อย่างลงตัว หรือกระทั่งภารกิจของจ่าแซมที่ได้เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ มารับบทบาทสำคัญก็เป็นการให้เกียรติกับความเสียสละของวีรบุรุษได้แบบที่คนไทยเองก็ไม่มองว่าหนังไปโปรต่างขาติเหมือน ‘The Cave นางนอน’ ได้อย่างหมดจดงดงาม

เรื่องย่อ thirteen lives

รีวิว thirteen lives

Thirteen Lives เป็นเรื่องราวที่อ้างอิงมาจากสถานการณ์จริงที่ จ.เชียงราย ในปี 2561 หลังเกิดเหตุเด็ก ๆ ทีมฟุตบอลและโค้ชทั้ง 13 คน หายตัวไปในถ้ำหลวง เนื่องจากน้ำหลากและปิดทางเข้า-ออกทั้งหมด ทำให้กลายเป็นภารกิจค้นหาและกู้ภัยที่เป็นการร่วมแรงร่วมใจของหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งคนไทยและต่างชาติกว่า 17 ประเทศ ที่ยื่นมือเข้ามาร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือตลอดระยะเวลาเกือบ 17 วันของเหตุในครั้งนี้ thirteen lives 2022 13 ชีวิต

thirteen lives เรื่องราวท่สร้างจากเรื่องจริง

รีวิว thirteen lives

คงต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า เรื่องราวเหตุการณ์จากถ้ำหลวงกลายเป็นอะไรที่ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับคนดูอีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนดูชาวไทย ที่ไม่ต่างกับการนั่งดูข่าวเดิมซ้ำ ๆ วนไปอีกครั้ง ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นชาเลนจ์ที่ที่สำคัญของทีมผู้สร้างหนังว่าจะหยิบเลือกและวางโครงเล่าเรื่องออกมาในทิศทางใด ให้ไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะแน่นอนว่าเรื่องราวในเหตุการณ์นี้ก็ไม่สามารถเลี่ยงทิศทางเดิมไปได้

แม้ว่า Thirteen Lives จะยังคงใช้สูตรเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นมาจากหนังเหตุการณ์เดียวกันเรื่องอื่น ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่วิสัยทัศน์ของผู้กำกับ รอน ฮาวเวิร์ด ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า…เขาค่อนข้างฉลาดและพลิกแผลงในส่วนของการเล่าเรื่องออกมาให้ผู้ชมรู้สึกจับใจและตราตรึงใจได้อยู่ในที่สุด ดังนั้นในช่วงครึ่งแรกของหนังนั้น ค่อนข้างดำเนินและเล่าเรื่องราวไปได้ค่อนข้างกระชับฉับไวดี

ก็เพราะว่า Thirteen Lives ได้มีเป้าหมายและทิศทางที่ต้องการสื่อสารจริง ๆ อยู่ในช่วงครึ่งหลังนั่นเอง ซึ่งก็คือการร้อยเรียงเรื่องราวของทั้ง 13 ชีวิต ในการตีแผ่มุมมองของภารกิจช่วยเหลือและกู้ภัยที่ออกจากถ้ำหลวงอย่างยากลำบาก และนี่เองเป็นไฮไลต์เด่นของหนังเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาเราแทบจะยังไม่เคยเห็นการถ่ายทำภาพในมุมเช่นนี้จากที่ใดมาก่อน กับปฏิบัติการเชิงลึกในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาที่ละคน ๆ

ซึ่งในภาพรวมนอกจากบทหนังที่ถูกเขียนอย่างรัดกุมโดย วิลเลียม นิโคลสัน (William Nicholson) ที่เล่าเรื่องราวได้รอบด้านและเปี่ยมอารมณ์แล้ว การได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง รอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) ที่เชี่ยวชาญการทำหนังจากเรื่องจริงมาตั้งแต่ ‘Apollo 13’ ในปี 1995 ซึ่งกับ ‘Thirteen Lives’ โฮเวิร์ดก็ยังโชว์ฝีมือได้จัดจ้านผสานดราม่าผสมกับข้อมูลจริงได้อย่างลงตัวมาก ๆ และที่สำคัญมากคือโฮเวิร์ดใส่หัวใจแบบคนไทยลงไปในเรื่องราวด้วยเลยทำให้ภาพรวมของหนังไม่ได้เนยนมเสียจนกลบความกลมกล่อมและมีรสชาติแบบไทย ๆ เสียทีเดียว thirteen lives ฉายวันไหน

รีวิว thirteen lives

รีวิว thirteen lives เทคนิคงานสร้างระดับฮอลลิวูดของหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่าไว้วางใจได้เลย ถึงแม้ว่าในช่วงเปิดเรื่องแรก ๆ จะค่อนข้างไม่กลมกลินสักเท่าไหร่ สัมผัสเห็นได้เลยว่าเป็นการเซ็ตติ้งฉากเมืองไทยเกินไปสักหน่อย พร้อมกับแอบเสียดายเล็ก ๆ ว่าน่าจะได้มีโอกาสได้ถ่ายทำในเมืองไทยจริง ๆ แต่พอหนังเล่าเรื่องได้เข้าที่เข้าทางแล้วนั้น จุดเช็ตติ้งต่าง ๆ ที่เคยขัดใจก็มีองค์ประกอบอื่น ๆ มาบดบังทดแทนกันไปได้

การออกแบบถ้ำหลวงและฉากหลังต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ ถึงจะพอมองออกว่าเป็นฉากอยู่บ้าง แต่หนังก็ได้การเล่าเรื่องและดำเนินทำช่วยทำให้มองข้ามจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้ด้วยดี แต่กระนั้นก็ต้องยกนิ้วให้กับการเก็บรายละเอียดความเป็นท้องถิ่นไทยในหนังเรื่องนี้ เพราะสามารถทำออกมาได้แบบไม่ขัดหูขัดตา ทั้งฉากธรรมชาติและบรรยากาศโดยทั่วไป

องค์ประกอบการแสดงคงเป็นสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย แน่นอนว่านี่คือหนังฮอลลิวูดและสิ่งที่หนังต้องการเล่าก็เพื่อจะสดุดีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือในทุก ๆ ฝ่าย แต่คงจะเน้นไปที่ทีมนักประดาน้ำนานาชาตินั่นเอง และ 3 นักแสดงหนุ่ม “คอลิน ฟาร์เรลล์”, “วิกโก้ มอร์เทนเซน” และ “โจล เอ็ดเกอร์ตัน” ก็ถือว่ารับบทบาทนี้ได้ค่อนข้างดีใช้ได้ทุกคนเลยทีเดียว ความเป็นมืออาชีพของพวกเขาทำให้บทเหล่านี้เป็นของง่าย ๆ เหมือนปอกกล้วยเข้ามา และทำให้คนดูเชื่อได้ไม่ยาก

ส่วนทั่งฝั่งของทีมนักแสดงไทยในเรื่องนี้ ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าชื่นชมไม่แพ้กัน แม้ว่าหนังจะเน้นที่นักแสดงสากล แต่ยังเคารพและเกลี่ยบทบาทต่าง ๆ ในกับตัวละครทุกตัวอย่างได้ลงตัว นักแสดงไทยทุกคนมีซีนที่โดดเด่นพอ ๆ กัน และต่างคนต่างมีสปอตไลต์เป็นของตัวเอง “ปู สหจักร” กับ “ตุ้ย ธีรภัทร์” เป็นตัวแทนหมู่บ้านที่ทำหน้าที่เป็นเดอะแบกของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี การแสดงของพวกเขาถือว่าใช้ในระดับสากล thirteen lives พากย์ ไทย

สรุป thirteen lives

คงจะต้องบอกว่า Thirteen Lives ไม่ใช่สารคดี แต่มันคือบันเทิงคดี แน่นอนว่าเรื่องราวต่าง ๆ นั้นไม่ถูกถ่ายทอดตามดหตุการณ์จริงแบบตรงเป๊ะ เพราะหนังจำเป็นจะต้องปรุงแต่งใส่อรรถรสให้กับคนดูอยู่เช่นกัน ดังนั้นไม่ควรจะกะเกณฑ์ถึงความสมจริงในการเล่าเรื่อง เพราะหนังเรื่องแค่ได้แรงบันดาลใจมาเฉย ๆ ตัวละครต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะมีตัวละครอยู่จริงทุกคาแรกเตอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อนำมาส่งเสริมภาพรวมของหนังให้กลมกล่อมยิ่งขึ้นนั่นเอง

เอาเป็นว่าโดยสรุปแล้วว่า Thirteen Lives อาจจะประเด็นที่ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว้าวอะไรแล้ว เพราะมันค่อนข้างซ้ำซาก แต่จากมุมมองการถ่ายทอดของ รอน ฮาวเวิร์ด เขารู้ดีกว่าคนดูต้องการดูอะไร และสามารถสร้างการตอบสนองโจทย์นั้นออกมาได้น่าพอใจ จึงหนังจะมีจุดบกพร่องประปรายอยู่เต็มไปหมดก็ตาม แต่ในภาพรวมนั้นก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นหนัง ถ้ำหลวงฉบับฮอลลิวูดที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจเรื่องนี้

ทั้งนี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ชมหนัง Thirteen Lives บนจอใหญ่ในโรงภาพยนตร์ มุมมองและความคิดเห็นอาจจะแตกต่างคนละแบบกับผู้ชมที่ได้รับชมหนังเรื่องนี้อยู่หน้าจอและโทรทัศน์ที่บ้าน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มีความยาวไปสักหน่อย และอาจจะเป็นอุปสรรคในการมีสมาธิต่อการรับชมอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวไปบ้าง แต่กระนั้น Thirteen Lives ก็ยังคงถือว่าเป็นหนังถ้ำหลวงที่น่าประทับใจเรื่องหนึ่ง อาจจะไม่ได้สร้างความแปลกใหม่แต่กลับภูมิใจในหลายองค์ประกอบ thirteen lives เต็มเรื่อง

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *