รีวิว ส้มป่อย
สวัสดีครับนี่คือหนึ่งในหนังไทยอีกเรื่อง หนังไทยnetflix ที่มีความฮา ผสม กับ ความบ้านนอก ๆ อารม คล้าย ๆ ไทยบ้าน นั้นแหละครับ ส ปอย หนัง สำหรับ ส้มป่อย นี่คือหนังรอมคอมสไตล์ไทย ๆ ที่จะพาพวกเราไปเยือนเมืองเหนือ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี แถว ๆ จังหวัดลำพูน กับเรื่องราวของสาวสวยผู้เบื่อบ้านเกิดตัวเอง และ อยากจะหนีออกไปไกล ๆ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ส้มป่อย คือชื่อของตัวเอก และ เป็นชื่อหนังเรื่องนี้ ส้มป่อย (น้ำตาล พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ จากละครเรื่อง แค้นรักสลับชะตา และ ประกาศิตกามเทพ) เป็นสาวเหนือที่มีบุคลิกไม่เรียบร้อย ผิดจากภาพลักษณ์สาวเหนือในความคิดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งอาจส่งผลให้เธอยังไม่มีแฟนสักที เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างเบื่อกับงานวันรวมญาติที่เหล่าเครือญาติที่ได้ผัวเป็นคนกรุงเทพฯ จะพาผัว และ ลูกกลับมาเยี่ยม ก็คงจะมีแต่แม่ของเธอนี่แหละที่ไม่ได้มีผัวเป็นคนกรุงเทพฯ เหมือนอย่างญาติคนอื่น และ นั่นอาจเป็นสาเหตุให้เธอคิดอยากจะมีแฟนเป็นคนกรุงเทพฯ
ประเภท: ตลก / โรแมนติก
ผู้กำกับ: ส้มป่อยทีม
นำแสดงโดย: พิจักขณา วงศารัตนศิลป์, ธนพล จารุจิตรานนท์, ธัชทร ทรัพย์อนันต์
ความยาว: 120 นาที
กำหนดฉายในไทย: 4 พฤศจิกายน 2021
รีวิว ส้มป่อย
รีวิว ส้มป่อย หนังไทยเรื่องนี้ มีพล็อต ส้มป่อยเต็มเรื่อง บท และ การดำเนินเรื่องที่เรียกได้ว่า ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน และ เน้นใช้เสน่ห์ของนักแสดง ผสมกับความสามารถในการแสดงที่สามารถใส่ได้ทั้งคอมิดี้ เล่นให้ดูตลก โอเวอร์เล็ก ๆ แต่ก็มีความน่ารักผสมอยู่ในนั้นแต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเล่นซีนดราม่าก็เอาอยู่มากพอจะทำให้คนอินตาน้ำตาซึมตามได้ เหมาะสำหรับคอหนังที่ต้องการเสพความบันเทิง ไม่ต้องการอะไรที่เคร่งเครียดเกินไป ไม่คาดหวังสิ่งที่แปลกใหม่หรือการดำเนินเรื่องที่เกินคาด
เพลงประกอบของหนังก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ‘อยากมีแฟนแล้ว’ เวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่ในหนังหรือเวอร์ชันใหม่ที่ร้องไว้โดย ส้ม มารี (Zommarie) แต่ที่ประทับใจสุด ๆ ก็เห็นจะเป็น ‘ไม่เคย’ เวอร์ชันภาษาเหนือที่ร้องไว้โดย ไม้เมือง
เป็นหนังที่ทำให้เห็นลีลา และ บทบาทใหม่ ๆ จาก น้ำตาล พิจักขณา เพราะเธอต้องเล่นเป็นผู้หญิงกระโดกกระเดก ที่ชอบกินลาบ ชอบกินเหล้า มักจะเมาเละภาพตัดอยู่หลายช่วง ซึ่งน้ำตาลผู้มีเบาหน้าสไตล์สวยมหาชนก็ดูไม่ห่วงสวย ใส่ลีลาปากจัดเต็มที่
ขณะเดียวกันลีลาอ่อยผู้ชายก็ใส่เต็มเช่นกัน ขณะที่ตัว ป๊อป ธัชทร อาจจะไม่ได้บทที่ส่งให้มากนัก แต่กับ ตี๋ ธนพล ดูเหมือนจะได้เล่นอะไรมากกว่า แม้โดยส่วนตัวจะไม่ค่อยชอบใจนัก กับการที่ตัวเอกของเรื่องมีอาชีพคนทรงแบบนี้ [แถมในเรื่องก็ยังโดยนางเอกจับได้ซะอีก] แต่พอถึงช่วงเวลาดราม่า เขาก็ทำได้ดี
โดยส่วนตัวแล้วไม่ถึงกับขำคิกคักไปกับบทคอมิดี้สักเท่าไหร่นัก แต่ความน่ารักของน้ำตาลพาให้ผ่านไปได้เกือบหมด ถ้าใครเป็นคนเหนืออยู่แล้วก็น่าจะอิน และ สนุกกับหนังเรื่องนี้เพราะประสบการณ์ร่วมย่อมจะมากกว่า
เรื่องย่อ
ส้มป่อย สาวละปูน(ลำพูน) สาวโสดขาแรง สายฮา ที่ไม่อยากติดแหง็กใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในบ้านเกิด การได้แฟนดี ๆ ไปใช้ชีวิตคูล ๆ อยู่กรุงเทพฯ ถือเป็นลาภอันประเสริฐ ความหวังเดียวที่จะช่วยให้ฝันเป็นจริงคือต้องหาแฟนเป็นหนุ่มชาวกรุง และ แล้วฟ้าก็ประทาน “แวน” ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวมาให้
ส้มป่อยจึงโร่ปรึกษา “แซ้ป” เจ้าเข้าทรงสายแว้นซ์นั่งทางในหากลเม็ดมัดใจผู้บ่าวเมืองกรุง โดยที่ส้มป่อยไม่รู้เลยว่าแซ้ปแอบชอบเธอ จู่ ๆ เสน่ห์ก็แรงขึ้นมา ส้มป่อยจะเดินหน้าอ่อยแวนต่อหรือพอแค่นี้
ความรู้สึกหลังรับชม
เราอาจจะได้เห็นได้ดูหนังทรงไทบ้านทางฝั่งอีสานมาก็ประมาณแล้ว ส้มป่อย HD แต่ไม่ค่อยได้เห็นสไตล์กำเมืองออกมาโลดแล่นบนหน้าจอหนังไทยบ่อยสักเท่าไหร่ และ เรื่องนี้ก็ได้เข้ามาเติมเต็มเสน่ห์พื้นเมืองของไทยอีกภาคได้อย่างค่อนข้างเติมเต็ม หนังเรื่องนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าใครเป็นผู้กำกับ เพราะแปะติดเอาไว้ว่า ภาพยนตร์โดย ส้มป่อยทีม ที่เป็นการรวมตัวของนักสร้างหนังหน้าใหม่ที่มาร่วมกันระดมความคิดในหนังเรื่องนี้
ส้มป่อย ก็เป็นหนังไทยที่มาพร้อมกับสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างตายตัวเรื่องหนึ่ง เพราะแน่นอนว่าบทหนังแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย แต่หนังเลือกหยิบเอาความเป็นสาวเอื้องเหนือ วิถีความเป็นล้านนา เสน่ห์ความผู้คนทางภาคเหนือมาถ่ายทอดในมุมมองที่อาจจะไม่ค่อยได้พบเจอสักเท่าไหร่ กลายเป็นหนังภาษากำเมืองที่แทรกซึมคลุกวงในไปได้อย่างไม่รู้
พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยความจำเจ กับแค่พล็อตแม่สาวอยากมีผู้ที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะได้สะดุดตาผู้ และ ได้มาครอบครอง กับเส้นเรื่องเลิฟไลน์ที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือไปจากที่คิดเอาไว้สักเท่าไหร่ แต่ตลอด 2 ชั่วโมงของหนังก็สามารถตรึงใจผู้ชมเอาไว้ได้ค่อนข้างอยู่หมัด มีทั้งมุมน่ารัก ๆ มุมประทับใจ และ มุมน่าเบื่อ ปะปนกันไปเป็นองค์ประกอบ
แต่ ส้มป่อย ก็ได้นักทำหนังระดับยอดฝีมือมาช่วยปลุกปั้นงานอยู่ นำโดย “โขม ก้องเกียรติ” กับ “มะเดี่ยว ชูเกียรติ” เข้ามาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ และ ที่ปรึกษาให้หนังเรื่องนี้ตามลำดับ กลั่นกรองออกมาเป็นเรื่องราวรักพัลวันตามประสาแม่สาวที่มีอินเนอร์ความแฮ่นป้อจายเต็มปรอท ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับที่พอขำได้แบบเบาะสั่น
แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยพยุงหนังเอาไว้ได้มาก ๆ ก็คือ “น้ำตาล พิจักขณา” ที่มารับหน้าที่ และ แบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่องได้อย่างทรงเสน่ห์ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นผลงานหนังเรื่องแรกของเธอ แต่กลับงัดทักษะทางการแสดง และอินเนอร์ของสาวแพร่ออกมาใช้ในการถ่ายทอดเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมชาติ บวกกับความน่ารักแก่นแท้ในตัวเธอ ส่งเสริมให้หนังเรื่องนี้อบอวลไปด้วยเสน่ห์ที่แตะต้องได้
ต้องยอมรับเลยว่า น้ำตาล พิจักขณา เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ช่วยขับเคลื่อน และ ประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ส้มป่อยจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องมีเธอเป็นหนึ่งในส่วนประกอบในนั้นจริง ๆ ในขณะที่ 2 หนุ่มที่เข้ามาเสริมก็ช่วยซัพพอร์ตหนังได้ค่อนข้างดี
ไม่ว่าจะเป็น “ตี๋ ธนพล” หรือ “ป๊อบ ธัชทร” แม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่ค่อยเจนจัด และ มีชั่วโมงบินทางการแสดงได้เท่ากับนางเอก แต่เสน่ห์ของพวกเขาก็ช่วยส่งเสริมตัวหนังได้เป็นอย่างดี
รีวิว ส้มป่อย
รีวิว ส้มป่อย หนังไทยที่พาเราขึ้นเหนือไปชมบรรยากาศ ส้มป่อย นักแสดง ต่างจังหวัดในแถบลำพูน พาไปพบกับเรื่องราวของสาวละปูนที่มีทั้งความแก่น ความฮา และ ไม่รู้สึกมีความสุขกับการที่ต้องติดอยู่ที่นั่น ฝันอยากได้แฟนที่เป็นคนกรุงเทพฯ จนมาเจอหน้าหล่อ ๆ ของแวน ชายหนุ่มที่มาถ่ายภาพบ้านเมือง วัฒนธรรม และ ธรรมชาติของล้านนา ทำให้เธอได้เจอเขา
แต่หนังก็สร้างตัวละครอีกตัวมาเป็นคู่แข่งกัน แซ้ป คือชายหนุ่มผู้มีอาชีพเป็นหมอดูร่างทรง ที่สาวเจ้าไม่เคยเชื่อถือ และ มองเห็นเป็นความหลอกลวง แต่เพียงแว้บแรกที่เขาเห็นเธอก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง แน่นอนว่า เขาต้องใช้ความเป็นร่างทรงออกอุบายเพื่อให้แวนไม่สมหวัง
เรื่องนี้ ตัวละครแทบจะพูดภาษาเหนือกันทั้งเรื่อง เหลือไทยกลางไว้สำหรับแวน คนกรุงเทพฯ ไว้เท่านั้น ให้ฟีลลิ่งล้านนา เหมือนคนดูได้ไปใช้ชีวิตท่ามกลางคนเหนือ
เริ่มต้นเรื่อง อาจจะขัดเขินอยู่บ้าง แต่พอเรื่องราวเดินไปก็เหมือนจะเข้าฝักกันมากขึ้น ตัวหนังเดินเรื่องไปเรื่อย แม้อาจช้าบางจุด หากก็ไม่มีเวิ่นเว้อเอาแต่เล่นมุขเฮฮา บทหนังพาเราไปในจุดที่คุ้นเคยไม่มีอะไรแปลกใหม่
ทุกอย่างจึงคล้ายจะเดินไปตามความคาดเดาของคนดู จะติดอยู่บ้างก็คงเป็นระยะเวลาของเรื่องราวที่กระชั้นสั้นจนเกินไป ทำให้รู้สึกทุกอย่างมันรวดเร็วเกิดความกังขาในความรักของคนทั้งสาม แต่ถึงกระนั้น ตัวหนังก็พาให้เราอินไปกับฉากชวนสะเทือนใจได้อยู่
เหมือนหนังจะเล่าเรื่องความคิดระหว่างคนต่างจังหวัดที่มีต่อคนกรุงเทพฯ นางเอกเองที่ตั้งใจจะหาแฟนเป็นคนกรุงเทพฯ ที่สามารถพาเธอออกไปจากบ้านเกิดที่แสนน่าเบื่อ แต่ก็กลับได้พบอีกคนที่อยู่บ้านเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน กินอาหารเหมือนกัน และ ถ้าทั้งสองคนต่างยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวเธอเหมือน ๆ กัน เธอจะเลือกคนไหนดี?
อีกทั้งหนังก็ยังอาจเล่าไปถึงขั้นว่า เราควรเป็นคนแบบไหนดี ควรจะทำตัวเรียบร้อยอย่างที่คนหนึ่งชอบ หรือควรจะเป็นตัวของตัวเอง
บทสรุป
จะบอกว่า ส้มป่อยเป็นความเซอร์ไพรส์หรือไม่ ส้มป่อย Pantip ก็อาจจะเป็นได้ เพราะถือว่าหนังค่อนข้างเหนือความคาดหมายจากที่คิดเอาไว้เล็กน้อย สูตรสำเร็จที่ขับเคลื่อนด้วยเอกลักษณ์ของนักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ กับการหยิบเอาวัฒนธรรมพื้นเมืองมาตีแผ่ในรูปแบบที่ค่อนข้างอินไซด์ และ เก็บรายละเอียดวิถีท้องถิ่นได้อย่างเข้าถึงในประมาณหนึ่ง นี่จึงเป็นเสน่ห์ที่ส้มป่อยสามารถทำได้ถึงแก่น
โดยสรุปแล้ว ส้มป่อย เป็นหนังไทยที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่ใด ๆ เหมือนเปรียบเทียบกับหนังรอมคอมเรื่องอื่น ๆ แต่มีเสน่ห์เพราะการหยิบเอาวิถีท้องถิ่นของคนภาคเหนือมาถ่ายทอดในรูปแบบที่ลึกซึงถึงแก่นได้จริง ๆ บทหนังอาจจะเบาโหวง แต่ก็ได้เสน่ห์ และ ทักษะของนักแสดงนำมาช่วยเกื้อหนุนเอาไว้ได้ดี ทำให้หนังไทยที่ชื่อว่า ส้มป่อย สื่อออกมาได้น่าประทับใจ๋ได้ระดับหนึ่ง…