Category Archives: หนังไทยมาใหม่

รีวิว กล้องติดตาย

รีวิว กล้องติดตาย

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับวันนี้มาต่อกันที่หนังไทยอีกเรื่อง ที่มีพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่น่าสนใจ อันที่จริงก็ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่ในบ้านเรานั้น หาหนังแนวๆนี้ไม่ค่อยได้ครับ ล่าสุดติดเทรนด์ฮอตตั้งแต่วันแรกกับ #ชวนดูSLRฉายวันแรก ที่เป็นการปรับโหมดมาสู่ความสะพรึงกลัวในหนังที่ดูเบื้องต้นแล้ว อาจจะรู้สึกซ้ำซากจำเจ กับ “SLR กล้อง ติด ตาย” แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่า อย่าเพิ่งตัดสินหนังจากเพียงแค่ตัวอย่างและใบปิดหนังเลย เพราะจะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้ที่ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไปสุด ๆ ปนเปอารมณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็พอที่จะเป็นหนังผีไทยที่แตกต่างและพอจะพาไปไหนมาไหนด้วยได้อยู่ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง SLR กล้อง ติด ตาย หนังไทยสยองขวัญแอ็คชั่น ผสมจิตวิทยาแนวใหม่ กับหลายความเชื่อ ทั้งเรื่องปีศาจ และความเชื่อของคนโบราณ ที่ว่าการถ่ายภาพคือ การดูดพลังและวิญญาณ เนื้อหาชวนติดตาม มุมภาพใหม่ โทนเร้าอารมณ์ แต่จะเกี่ยวของกันยังไง 21 เม.ย. นี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว กล้องติดตาย

รีวิว กล้องติดตาย

รีวิว กล้องติดตาย อาจดูเหมือนหนังผี แต่กลับไม่ใช่… จริงอยู่ที่รากเหง้าของเรื่องมาจากความเชื่อของคนไทยโบราณที่เชื่อว่า “อย่าถ่ายรูปเพราะจะดูดวิญญาณไป” แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีความสอดคล้องกับแนวคิดทางศาสตร์การถ่ายภาพที่ว่า “ดึงจิตวิญญาณออกมา ทั้งจากคนที่เป็นแบบ และจากคนที่กดชัตเตอร์”

ดังนั้น “SLR กล้อง ติด ตาย” จึงเป็นหนังแนว Psychological Thriller ที่พยายามเล่าถึงจิตวิญญาณและความขัดแย้งภายในจิตใจของมนุษย์ มากกว่าที่จะ Horror แถมยังมีความทะเยอทะยานที่จะอินเตอร์ และแหวกแนวจากหนังไทยทั่วไป กล่าวคือ แทนที่จะเป็นหนังผี แต่กลับเป็นหนังแนวปิศาจ ซาตาน และมอนสเตอร์เสียมากกว่า

อย่างไรก็ตามก็ต้องบอกว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้สามารถสอบผ่านฉลุยในบทบาทตัวเองได้อย่างน่าจับตา โดยเฉพาะ นนน ตัวเอกของเรื่องที่ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์กับการแสดงออกทางสีหน้าของเจ้าตัวที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังรู้สึกชื่นชมตัวโปรเจกต์นี้ที่พยายามพาหนังสยองขวัญไทยไปในทิศทางใหม่ๆ ที่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ หาที่ทางของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ ถึงแม้หลายๆ อย่างจะยังดูขาดๆ เกินๆ ไม่น้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าสิ่งที่ SLR พยายามจะพิสูจน์ตัวเองและไปให้ถึง มันควรค่าต่อการปรบมือในตอนท้าย ทั้งยังเป็นอะไรที่วงการหนังสยองบ้านเราต้องการในโมงยามนี้จริงๆ

เรื่องย่อ

รีวิว กล้องติดตาย

แดน (นนน-กรภัทร์) นักศึกษาหนุ่มที่กำลังมุ่งมั่นทำธีสิสจบ ด้วยการถ่ายภาพ แต่ถ่ายยังไงก็ไม่โดนใจอาจารย์เอ็ม อาจารย์เจ้าของธีสิส ทำให้เขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ไปตามฝันที่นิวยอร์ก พร้อมกับ เพื่อนและคนรัก อย่าง น้ำ และ เกรซ (เฌอปราง) (นนท์-ศดานนท์) จนกระทั่ง อาจารย์เอ็ม ได้มอบกล้อง SLR ตัวหนึ่งมาให้แดน แนะให้ใช้กล้องตัวนี้ ทำธีสิส ให้ได้ โดยโจทย์คือ ถ่ายภาพบุคคลมาให้ได้ 7 คน ภายใน 14 วัน แต่ใครจะรู้ว่า… หลังจากถ่ายภาพไป คนที่ถูกแดนถ่าย กลับทยอย เสียชีวิตไปทีละคน จนกลายเป็นพวกเขา เข้าไปพัวพันกับความเชื่อในลัทธิปีศาจ ที่มีความตายเป็นเดิมพัน! SLR รีวิว

ความรู้สึกหลังดู

รีวิว กล้องติดตาย

– ส่วนที่ผมชอบในภาพยนตร์

หลังจากที่ผมได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วก่อนอื่นต้องขอชื่นชมในการวางพล็อตที่แปลกใหม่ใช้ปีศาจมาเล่าเรื่องมันไม่ใช่หนังผีนะครับ และงานภาพ มุมกล้อง การจัดแสง ฉากต่างๆ ซึ่งถ่ายทอดออกมาได้สวยงาม จังหวะการบิ้วอัพที่เก่งมากจนต้องลุ้นตามโดยเฉพาะซีนที่มีการหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย ซึ่งแบบอย่ากดนะเว้ย อย่ามีอะไรโผล่มานะเว้ยเฮ้ย หนังเรื่องนี้ทำผมขนลุกได้เลยในบางซีน. ในส่วนของการเล่นเทคนิคJumpscare ก็มีช่วงที่แบบจะหลอกก็ไม่หลอก (โดนแกง) ฉากที่นึกว่าไม่มี (มันดันโผล่มา)

อีกอย่างที่ผมขอชื่นชมเลย คือ นักแสดง นนน (แดน) ถ่ายทอดบทแดนออกมาได้ดีมาก ทั้งการกลัว การยึกๆยัก แววตา ซีนอารมณ์ เก่งจริงๆครับ. ผมเคยดูการแสดงของเขาจากซีรีส์เรื่องต่างๆ รุ่นพี่ Secret Love / my dear loser / The Gifted ก็เห็นแววของเขาแล้วว่าแสดงดีมาก รวมถึง เฌอปราง ก็แสดงได้ดี ถึงแม้จะมีติดๆขัดๆบางช่วง รู้สึกว่าใน Homestay ถ่ายทอดออกมาได้ดีกว่าเรื่องนี้ครับ. สุดท้ายคือการใช้CG ที่ทำได้อยู่ในระดับดี อาจจะมีลอยอยู่บ้างแต่ก็ให้อภัยครับที่กล้านำเสนอ

– ส่วนที่ผมไม่ชอบในภาพยนตร์

การเล่าเรื่องครับผมรู้สึกว่ามันเริ่มต้นช้าไปนิดนึงแอบเบื่อเล็กน้อย และ บางซีนที่ผมรู้สึกว่าหนังไม่จำเป็นต้องเล่าและตัดออกไปเลยก็ได้ บทพูด(dialogue)บางช่วงที่มันดูแข็งตื้อๆ มันดูเบียว ไม่สมจริงเท่าไหร่ มันทำให้ผมเสียอารมณ์อยู่ด้วย ในช่วงท้ายของหนังผมค่อนข้างเอนไปทางไม่ชอบอย่างมาก

ความน่ากลัวที่เล่นใส่ผมในช่วงกลางเรื่องหายไปหมดเลยและผมก็เริ่มรู้สึกตลกแทน ผมคิดว่าถ้าเขายังคงเล่นconceptแบบช่วงกลางเรื่องที่เน้นน่ากลัว กดดัน เกร็งไปยันจดมันจะโอเคกว่านี้มากๆ กล้อง ติด ตาย วิจารณ์

รีวิว กล้องติดตาย

รีวิว กล้องติดตาย จะเห็นได้ว่า ผู้กำกับพยายามทำให้เป็นหนังกฎแห่งกรรมที่โมเดิร์น แน่นอนว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ว่าจะยากดีมีจน ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน แต่ทุกการกระทำของคนเรามีความหมาย ทุกเส้นทางที่เราเลือกล้วนมีผลกระทบ ไม่ใช่แค่กับตนเอง แต่ยังกระทบยังผู้อื่นด้วย ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

“SLR กล้อง ติด ตาย” จึงเป็นหนังสยองขวัญที่ตั้งคำถามกับทิศทางสังคมเชิงหนุ่มสาวว่าพวกเขาจะเติบโตไปทางไหน เส้นทางที่พวกเขาเลือกคือคำตอบว่าคน ๆ นั้นให้ค่ากับอะไรมากกว่ากัน โดย pain points หลักของเรื่อง คือสิ่งที่หนุ่มสาวหลายคนต้องประสบ นั่นคือเรื่องโอกาส ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการศึกษาหรืออาชีพการงาน

ตัวเอกของเรื่องคือ “แดน” (นนน-กรภัทร์ จาก The Gifted) นักศึกษาหนุ่มด้านภาพถ่าย ที่สอบธีสิสกับอาจารย์เอม (อ้น–นพพันธ์) แต่ไม่ผ่านเสียที ในขณะที่เพื่อนสนิทของเขา “น้ำ” (เฌอปราง BNK48 จาก Homestay) และ “เกรท” (นนท์-ศดานนท์ จาก ดิวไปด้วยกันนะ) เรียนจบแล้ว และกำลังจะได้ไปเรียนต่อด้วยกันที่นิวยอร์ก

ในที่สุด อาจารย์เอมได้ให้กล้อง SLR ตัวหนึ่งกับแดน และบอกให้เอากล้องตัวนี้ไปถ่ายงานมาใหม่ ต่อมาแดนได้ค้นพบว่า มันเป็นกล้องปีศาจ ถ่ายใคร คนนั้นก็ตาย เขาต้องเลือกว่าจะยอมถ่ายต่อให้จบเพื่อรักษาชีวิตและอนาคตทางการศึกษาของตนเองไว้ หรือจะล้มเลิกเพื่อรักษาชีวิตคนบริสุทธิ์เอาไว้

น่าเสียดายที่ “SLR กล้อง ติด ตาย” มีความพยายามที่จะเป็นทุกอย่างและมีทุกรสมากเกินไป ทำให้หนังยังไปไม่สุดทาง ทั้งสยองขวัญ สัตว์ประหลาด จิตวิทยา ดราม่าต้นทุนชีวิต มิตรภาพและรักสามเส้า ฯลฯ จริง ๆ ถ้าหนังอยากจะโกอินเตอร์แบบหนังเกาหลี เขาเล่นเรื่องต้นทุนชีวิต ทุนนิยม หรือการสำรวจจิตใจให้หนัก ๆ ไปเลยจะดีกว่า แล้วให้มอนสเตอร์เป็นตัวเสริมนิดหน่อย เหมือนหนังมอนสเตอร์แจ้งเกิดของบงจุนโฮ slr หนังผี

สรุป

แม้ว่า SLR จะโปะหน้าว่าเป็นหนังสยองขวัญ และมีจัมป์สแกร์เป็นบางช่วง แต่ส่วนตัวรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้เอาตายขนาดนั้น จริตของมันไปทางหนังสยองตะวันตกมากกว่า มีการพูดถึงความเชื่อ การบูชาซาตาน

หนังยังดึงอารมณ์ได้ไม่สุด และคล้ายว่าจะยังสับสนในความทีเล่นทีจริงของตัวเองอยู่สักหน่อย จะซีเรียสก็ไม่ถึง จะแฟนตาซีจัดจ้านก็ไม่ใช่ ถ้าหากหนังเลือกจะไปสุดในสักทางคงดีกว่านี้

อย่างไรก็ตาม โดยรวม “SLR กล้อง ติด ตาย” ก็ออกมาดีเกินค่าเฉลี่ยหนังไทยมากอยู่ ไม่ได้ชอบแต่เชียร์ เพราะถือว่าแปลกใหม่ กล้าเล่นกล้าลอง โปรดักชั่นและซีจีถือว่าผ่าน ภาพสวย แต่ภาพสยองก็สยองแบบแหวะไปเลย ไม่แนะนำสำหรับคนขวัญอ่อนเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นแฟน ๆ นักแสดงนำ หรือเป็นนักดูหนังที่อยากสนับสนุนหนังไทยสักเรื่อง เราคิดว่า “SLR กล้อง ติด ตาย” ควรค่าที่จะได้รับแรงสนับสนุนนั้น เพลง ประกอบ หนัง กล้อง ติด ตาย

 

 

 

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1

หนังไทยnetflix ภาพยนตร์ไทย เป็นที่รู้ๆของใครหลายๆคนว่า ประเทศเรานั้นมักชอบทำหนังแนวตลก แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างหนังผีไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆเลยครับ แต่ก็เพราะว่า หนังไทยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทาง ตลก และพี่นาคก็เป็นหนังกึ่งน่ากลัวกึ่งตลกครับ และที่วันนี้ที่ผมหยิบยกพล็อตเรื่องของการบวชนาคมาเป็นปมต้นเหตุแห่งเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ผู้ชมต้องมาหาคำตอบของคำโปรยในหน้าหนังที่ว่า ” ถ้ากูไม่ได้บวช ก็ไม่มีใครได้บวช ” หนังได้เปิดปมไว้ให้เราสงสัย ผีพี่นาคทำไมไม่ให้คนอื่นบวช ทำไมพี่นาคจึงกลายเป็นผี เรามาร่วมกันหาคำตอบได้ในภาพยนตร์เรื่อง พี่นาค กันนะครับ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ค่ายไฟว์สตาร์ส่งหนังผีประจำปีมาเสิร์ฟตลาดหนังไทยอีกครั้ง โดยนำผู้กำกับอย่าง ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ เจ้าของผลงานผีตลกบทซับซ้อนอย่าง มอญซ่อนผี (2558) กลับมาทำงานกับพลอตแปลกล้อกับหนังผีไทยระดับตำนานตั้งแต่ชื่อ ซึ่งคงตั้งต้นไอเดียด้วย นางนาก + พี่มากพระโขนง + พลอตผีไม่กลัวพระ + ความเชื่อเรื่องการบวชนาค กลายมาเป็น พี่นาค ได้น่าสนใจดีทีเดียว ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1 โหน่ง หนุ่มหล่อวัยเบญจเพสสุดซวย ที่ถูกหักอก และ ตกงานในเวลาเดียวกัน เขาหอบหิ้วความเสียใจขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับไปพักใจที่บ้านเกิด แต่กลับซวยซํ้าสอง เมื่อไปเจอกับเพื่อนเก่าอย่าง บอลลูน เฟิร์ส และ ก๊อต แก๊งกระเทยเพื่อนซี้ หอบหิ้วดีกรีแฟชั่นนิสต้า ที่หวังเคลมโหน่งอย่างออกนอกหน้าจนโหน่งเอือมระอา แต่เพื่อนซี้มีอันต้องซี้ไปจริง ๆ เมื่อรถโดยสารที่พวกเขานั่งมา เกิดอุบัติเหตุจนทําให้ก๊อตเสียชีวิต ทั้งสามโศกเศร้า และ ยังหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงตกลงปลงใจจับมือพากันไปบวชล้างซวย แต่เคราะห์ซํ้ากรรมซัดขัดใจตุ๊ด เมื่อวัดที่ทั้งสามคนตั้งใจไปขอบวชนั้น มีเรื่องเล่าขานว่าวัดนี้มีผีพี่นาคที่เฮี้ยนแรงขั้นสุด เกิดเป็นอาถรรพ์อันน่าสะพรึงรอคอยอยู่ งานบวชก็ต้องมี เรื่องผีก็โผล่มา กลายเป็นความผวาเลเวลอัพ ทั้งสามจึงรวมพลังตั้งสติวีนวัดแตก เพื่อให้ได้บวชอย่างที่ตั้งใจ แต่การบวชครั้งนี้จะลุล่วงสมปรารถนา หรือพวกเขาจะกลายเป็นผีนาคเฝ้าวัดสานต่อตํานานสยองพี่นาคคนต่อไปต้องติดตามชม

เรื่องย่อ

รีวิว พี่นาค 1

เรื่องราวของ 3 เพื่อนซี้ที่มีเหตุต้องไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง บอลลูน (เอม วิทวัส) ได้บนบานสารกล่าวไว้ว่าถ้าถูกรางวัลจะมาแก้บนด้วยการบวชพร้อมกับเพื่อน ๆ นั่นก็คือ เฟิร์ส (เจมส์ ภูริพรรธน์) สองตุ๊ดเพื่อนซี้ และ โหน่ง (ออกัส วชิรวิชญ์) เพื่อนหนุ่มหล่อที่ต้องมาบวชล้างซวยในวัยเบญจเพส เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้ง เพราะวัดที่พวกเขากำลังจะมาบวชนี้มีตำนานว่าใครมาบวชที่นี่ไม่ได้ จะต้องมีอันเป็นไปทุกคน ทั้งสามเลยจะคิดหนีกลับไม่บวชแล้ว แต่ก็ไม่ได้อีกคือใครหนีก็ตายอีกเหมือนกัน ทำให้ทั้ง 3 ต้องพยายามบวชให้สำเร็จให้จงได้ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับ ผีพี่นาคนน (ชิน ชินวุฒ) ที่คอยหลอกหลอนเพื่อไม่ให้พวกเขาได้บวช แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ คิดหาวิธีแก้ไข และ หาทางที่จะบวชในวัดแห่งนี้ให้ได้ เรื่องที่พวกเขาจะต้องเจอจะน่ากลัวมากน้อยสักเพียงไหน และ พวกเขาจะสามารถบวชได้หรือไม่ คุณก็ลองไปหาดูได้ในหนังกันให้เต็ม 2 ตานะครับ เรามาเอาใจช่วยพวกเขาไปด้วยกัน พี่นาค 1 เต็มเรื่อง youtube

ความรู้สึกหลังดู

รีวิว พี่นาค 1

หนังขึ้นชื่อว่าเป็นหนังผีตลกอีกเรื่องหนึ่ง แบบว่าทำมายังไงก็ไม่ขาดทุน ในส่วนของความเป็นผีนั้นต้องชื่นชม ผกก. ที่มาจากสายงานกำกับศิลป์หนังไทยมาหลายต่อหลายเรื่อง ลองมาหมดแล้วแทบทุกแนว จึงแม่นในการสร้างบรรยากาศความหลอนได้สะพรึงมาก ทั้งวัดป่ากลางหุบเขาไร้ผู้คน ศาลเพียงตาที่ตั้งให้นาคที่ตายไปก่อนได้บวชจนมีตำนานว่าใครมาบวชวัดนี้ก็มักจะต้องตายไปก่อน ฉากการแห่นาคผีที่ทั้งขบวนเป็นคนไร้หัว และ ลานรูปปั้นพระอรหันต์เป็นสิบเป็นร้อยที่วัดใหญ่ชอบปั้นรายล้อมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ทั้งที่น่าจะอุ่นใจศักดิ์สิทธิ์ ก็เอามาขยี้ได้น่ากลัวด้วยเช่นกัน

ตัวผีพี่นาคได้ ชิน-ชินวุฒ อินทรคูสิน มารับบทผีอาฆาตที่มีเป้าหมายแน่นอน แต่ก็ยากจะทำให้พึงพอใจ ซึ่งไอ้ความไม่ชัดเจนนี้ก็เป็นสูตรของผีแค้นที่เหมือนไร้เหตุผล คุยกันไม่รู้เรื่อง แถมหยิบพระพุทธรูป เดินในวัดวาแบบไม่เกรงกลัวใด ๆ ก็ทำให้เราต้องเอาใจช่วยฝั่งมนุษย์กับพระพอสมควร นับว่าดึงสูตรสำเร็จที่ดีในการเป็นหนังผีมาใช้ได้ลงตัวทั้งบรรยากาศ และ ตัวผีเอง

ในด้านความบันเทิงก็ใช้สูตรตุ๊ดสูตรคำสบถ ตามแนวหนังผีที่ไฟว์สตาร์ถนัดมาก่อนจากพวก หอแต๋วแตก มาใช้ แต่ข้อดีคือหย่อนลงตามเหมาะสมไม่ได้ถึงกับยอมเสียแกนเรื่องเพื่อสร้างสถานการณ์ตลกอย่างที่หนังไทยบางเรื่องทำ และ การได้ เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี หรือ เอม ตามใจตุ๊ด มาจับคู่ปล่อยฮากับ เจมส์-ภูวดล เวชวงศา ที่คนหลังปรับลุคเป็นตุ๊ดบ้าผู้ชายได้ลืมภาพเดิมไปมาก ก็เรียกว่าลงตัวมากกว่าที่คาด แม้จะมีบ้างที่ดูบทต่อล้อต่อเถียงจะต่อไม่ติดเป๊ะแต่เคมีโดยรวมถือว่าพยุงหนังได้ไม่น่าเบื่อ

แถมวิธีการออกแบบตัวละครในหนังเรื่องก็จัดได้ว่า น่ารำคาญ และ ไม่ค่อยใช้สมองในการแก้ไขสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครเลือกจะออกมาฝึกท่องคำขานนาคหน้าพระพุทธรูปในยามวิกาลทั้งที่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีผีออกอาละวาด หรือ ตัวละครออกมาเข้าห้องน้ำกลางคืน และ เห็นเงาตะคุ่ม ๆ และ ตัดสินใจเดินตามไป เป็นต้น พฤติกรรมงี่เง่าแบบนี้ แม้เราจะเข้าใจได้ว่าหนังออกแบบมาเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น แต่เมื่อเรามองในมุมของความสมเหตุสมผลแล้ว มันกลับยิ่งทำให้เราไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครมากเท่านั้น

ในขณะที่ฝั่งดราม่าแกนหลักเป็นหน้าที่ของ ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ ที่มีดราม่าเรื่องพ่อบีบบังคับ และ ตัวเขาไม่มีความต้องการบวชไม่ได้ศรัทธา ซึ่งจะเป็นตัวที่ต้องนำพาผู้ชมเรียนรู้ผ่านการพัฒนาตัวละครนี้ให้ซาบซึ้งกับความหมายของการบวช โดยมีดอกไม้หนึ่งเดียวอย่างพลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล มาเป็นตัวเสริมให้พระเอกเข้าใจตัวเองมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนทางผู้สร้างก็มีทัศนคติ และ ความตั้งใจดีในการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าแห่งผ้าเหลือง ผ่านกิมมิกนาคในตำนานพุทธศาสนาที่ปรารถนาจะบวชแต่บวชไม่ได้ เช่นเดียวกับผีนาคที่อยากบวชแต่ก็บวชไม่ได้ ในขณะที่คนที่บวชได้อย่างพระเอกกลับไม่ได้มีความใส่ใจเล็งเห็นผลในสิ่งที่เขามีสิทธิ์อย่างสบาย ๆ นี้เลย พี่นาค 1 เต็มเรื่อง dailymotion

องค์ประกอบของหนัง

– บรรยากาศ ชอบบรรยากาศของหนังเรื่องนี้มาก เพราะมันดูสมจริง ดูขลัง และ น่าขนลุกขนพอง กับโลเคชั่นของวัดในยามค่ำคืนที่ดูวังเวงเสียเหลือเกิน

– ความตลก หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีซีนตลกเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมอยู่หลากหลายซีนเลยทีเดียว บางซีนก็เป็นทั้งมุุกตลกไปพร้อม ๆ กับความลุ้นความน่ากลัวก็มี จนไม่อาจคาดเดาได้จริง ๆ

– พล็อตเรื่อง พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าดีอยู่ในระดับนึงเลยทีเดียว มีการตัดต่อที่ไหลลื่น ดูแล้วไม่สะดุดตาหรือคาใจ เนื้อเรื่องก็ปิดเงื่อนซ่อนงำได้ดีชวนให้ติดตามตลอดเรื่อง

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1 เรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง “พี่นาค” โฟกัสไปที่โหน่ง (ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์) หนุ่มวัยเบญจเพส ที่เพิ่งอกหัก และ ตกงานมาหมาด ๆ เขาตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด แต่ระหว่างที่ขึ้นรถทัวร์ เขากลับรู้สึกดวงซวยเมื่อตัวเองดันไปเจอเพื่อนเก่าอย่างบอลลูน เฟิร์ธ และ ก็อต สาวซี้แกงค์กะเทยที่แอ้วโหน่งจนเขาต้องเอือมระอา ความซวยเกิดขึ้นเมื่อรถทัวร์เกิดอุบัติเหตุส่งผลให้ก็อตเสียชีวิต

เพื่อนสามคนที่เหลืออยู่จึงมองว่านี่อาจจะเป็นอาถรรพ์เบญจเพส ประกอบกับบอลลูนเพิ่งสำเหนียกได้ว่า เขาเคยบนว่าจะบวชที่วัดแห่งหนึ่ง ทั้งสามจึงตัดสินใจว่าจะไปขอบวช แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้เลยก็คือวัดที่พวกเขาเลือกมีเรื่องน่ากลัวรอพวกเขาอยู่ นั่นก็คือวิญญาณอาฆาตจากนาคตนหนึ่งที่เสียชีวิตก่อนเข้าร่มกาสาวพัสตร์ ทำให้เขาจองเวรคนอื่น ๆ ที่จะบวชที่วัดแห่งนี้ให้มีอันเป็นไป กว่าที่ทั้งสามจะตระหนักได้ว่าอันตรายรอพวกเขาอยู่ ก็สายเกินไปเสียแล้ว

จะว่าไป “พี่นาค” เป็นหนังที่ว่าด้วยตัวละครหลักของเรื่องต้องวิ่งหนีผีอย่างหัวซุกหัวซุน ความสนุกคือการที่ตัวละครต้องหาทางรอดจากวิญญาณร้าย ในขณะเดียวกันหนังก็ต้องหาจังหวะผ่อนคลายผู้ชมด้วยการใส่มุกตลกเพื่อให้คนดูไม่ตึงเครียดจนเกินไป แต่ปัญหาประการใหญ่ของหนังเรื่องนี้คือบทภาพยนตร์ที่เราอาจจะพูดได้ว่า หลังจากที่ 10 นาทีแรกผ่านไป ตัวเรื่องราวก็แทบจะไม่คืบหน้าไปไหนเลยจนกระทั่งหนังผ่านไป 1 ชั่วโมง พี่นาค1เต็มเรื่องภาคไทย

สรุป

แต่กระนั้นการเล่าเรื่องผ่านเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงนี้เองที่เป็นเรื่องน่าติง เพราะครึ่งเรื่องแรกดูปูหลายอย่างมาดีทั้งมู้ดความน่ากลัว ความตลก ปมดราม่าของตัวละคร และ ปมปริศนาของเรื่องราว แต่ทว่าพอหนังเข้าครึ่งหลัง กลับเล่นง่ายด้วยมุกที่คนดูเดาได้จนจบแต่ตัวละครยังใบ้อึ้งจับต้นชนปลายไม่ถูกอย่างน่าเวทนา ทั้งความแข็งแรงของการเล่าเรื่องก็เริ่มล้าไอเดีย และ พึ่งพิงการใช้แฟลชแบ็กขยายความเอาง่าย ๆ อย่างไม่จำเป็น

ซึ่งส่วนมากเป็นฉากสำคัญในพัฒนาการความคิดของพระเอกด้วย ยิ่งหนังเดินเรื่องไปมากขึ้น ๆ เราก็ยิ่งเห็นบาดแผลในการจะประสานฉากจบที่คิดไว้ การหาแลนดิ้งสวย ๆ ให้ตัวเองเป็นความพยายามที่เราในฐานะคนดูเหนื่อยอยู่พอสมควร แต่กระนั้นฉากหลังไคลแม็กซ์ที่หนังยังเก็บมุกเด็ดไว้ ก็ถือว่ามาได้เหนือคาดหมายพอสมควร แม้จะไม่มีหักมุมใหญ่ให้น่าจดจำ แต่หนังก็เก็บเล็กประสมน้อยจนพอผ่านมาตรฐานหนังไทยที่พอไปวัดไปวาได้เช่นกัน (ก็แน่ล่ะทั้งเรื่องเล่นกันอยู่ในวัดนี่นะ 55) เป็นอีกหนึ่งหนังที่บันเทิงน่าจะถูกใจคอหนังผีตลกไทยครับ พี่นาค1 เต็มเรื่อง 037

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับเชื่อว่าหลายๆคนคงจะชอบหนังสัตว์ประหลาดหรือไคจูอะไรประมาณนั้น ผมเองก็ชอบนะ 555 นี้เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตลาดหนังสัตว์ประหลาดในไทยในรูปแบบใหม่ๆที่เรามักไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ผมก็ขอเรียนเชิญมากองรวมกันเอาไว้ตรงนี้ เพราะนี่คืออีกหนึ่งความหวังของวงการไทจู กับหนังที่ใคร ๆ ก็เฝ้ารอคอย เพราะใช้เวลาสร้างมายาวนานถึง 5 ปี กับ “The Lake บึงกาฬ” ที่โฆษณาเอาไว้ว่าใช้ทุนสร้างถึง 88 ล้านบาท นับว่าเป็นอีกโปรเจกต์ใหญ่อีกเรื่องของวงการหนังไทย เพียงแต่ว่า..ผลลัพธ์โดยรวมที่ออกมานั้น หนังเรื่องนี้จะปังหรือพังกันแน่…ไปพิสูจน์กันสิ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ผลงานหนังเรื่องล่าสุดของนักสร้างหนังรุ่นใหม่ที่กำลังคร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังไทยตอนนี้ อย่าง “ลี ทองคำ” ที่มาในเรื่องนี้เขาทุ่มเทให้กับแทบจะทุกองค์ประกอบของหนัง นับตั้งแต่การจุดประกายหาไอเดียสร้างสรรค์ปลุกปั้นเรื่องนี้ขึ้นมากับมือ นั่งเก้าอี้ผู้กำกับดูแลงานสร้าง เขียนบทเอง ซ้ำยังรับหน้าที่ตัดต่อหนังเองทั้งหมดด้วย บนพื้นฐานความแพสชั่นส่วนตัวของเขา มีอยากจะแต่งเติมจินตนาการวัยเด็กกับฉากหลังเป็นพื้นที่บ้านเกิดของเขา ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ บึงกาฬ หรือ The Lake ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดไทยแท้อีกหนึ่งเรื่อง จากผู้กำกับเลือดอีสาน ลี ทองคำ ทุ่มเทปลดเปลือกตั้งแต่ริเริ่ม เขียนบท กำกับ และตัดต่อ ด้วย Passion ต้องการชูบ้านเกิดของตัวเองให้โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม ยกระดับวงการหนังไทย ใช้เทคนิคพิเศษเนรมิตร “ไทจู” ทั้งการไปดึง จอร์ดู เชลล์ (Jordu Schell) นักออกแบบสัตว์ประหลาดในหนัง ‘Cloverfield’ (2008) และ ‘Avatar’ (2009) มาช่วยสร้างสัตว์ประหลาดในบึงใหญ่ที่ผสมระหว่างปลาดุก จระเข้ และงู

โดยใช้วิสัยทัศน์การนำเสนอที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังอย่าง ‘Jurassic Park’ (1993) หรือ ‘Godzilla’ (1998) ที่คุ้นตากับฉากสัตว์ร้ายกลางสายฝนและความมืดดำของค่ำคืนสลับแสงฟ้าผ่าและไฟฉุกเฉินในบรรยากาศเมืองต่างจังหวัดของไทยได้อย่างลงตัว และตอกย้ำว่าผู้สร้างเองก็แม่นยำในการคุมมู้ดและโทนของหนังพอสมควร สัตว์ประหลาดตัวเอกให้เทียบเคียงแฟรนไชส์ จูราสสิค ปังแค่ไหน เดี๋ยวรีวิวให้ฟัง

เรื่องย่อ thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ

ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดสายเลือดไทย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนในภาคอีสาน จังหวัด บึงกาฬ หลังเกิดพายุฤดูร้อน อันเนื่องจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ จากฝีมือมนุษย์ ก็นำพาให้ ชาวบึงกาฬได้พบกับสัตว์ประหลาดร้าย ไทจู ที่ไม่รู้ที่มาที่แน่ชัด และไม่รู้มันต้องการอะไร และมันคือตัวอะไรกันแน่ แต่ที่รู้แน่ๆคือ พวกมันดุร้าย น่าสะพรึงกลัว ออกอาละวาด และฆ่าคนไม่ยั้ง แล้วพวกเขาจะจัดการกับ พวกมัน ยังไง?

และในท้ายที่สุดคุณอาจจะพบว่า พวกมันอาจจะมีความต้องการที่ไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์อย่างพวกเราเลยก็ได้ และมนุษย์นั่นแหละ คือ สิ่งมีชีวิต ที่โหดร้ายที่สุดในพื้นพิภพ นี้ มาอย่างช้านานแล้ว!!! The Lake บึงกาฬ ตัวอย่าง

จุดสังเกต

รีวิว thelake บึงกาฬ

แม้ว่าเราจะสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์และความตั้งใจที่แน่วแน่มาก ๆ ในความพยายามที่ตัวสร้าง “ไทจู” หรือ หนังสัตว์ประหลาดแบบไทย ๆ ออกมาสักเรื่อง ที่ยอมรับเลยว่าแพสชั่นตรงนี้ในหนังมีอยู่ล้นเปี่ยม เพียงแต่ว่าเมื่อได้ลองนำเอาองค์ประกอบต่าง ๆ มาประกอบรวมร่างเข้าด้วยกันทั้งหมดดูแล้วนั้น มันกลายเป็นปัง…ที่ไม่ให้ปังเพราะประทับใจ แต่เป็นปังที่เกือบจะพังครืน เพราะแทบจะทุกส่วนในหนังเรื่องนี้นั้น ยังไม่สามารถสื่อสารถึงคนดูได้ และสารของหนังยังค่อนข้างอ่อน..ถึงอ่อนมาก

เริ่มต้นที่บทหนังของ The Lake บึงกาฬ ที่แทบจะหาแก่นสารใด ๆ ไม่ได้เลย หนังไม่ได้มีการเกริ่นกล่าวนำเรื่องราวใด ๆ มาก่อนทั้งสิ้น แบบว่ามาถึงก็จับโยนสัตว์ประหลาดและฟาดฟันบุกเมืองแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งนั้น แม้ว่าในฐานะคนดูก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้สร้างอยากจะสื่อสารแล้วก็ตาม

แต่ก็ดูเหมือนว่า..เอ๊ะ สรุปก็ไม่ได้ไปทางนั้น แล้วก็ไม่ได้ไปทางนี้ กลายเป็นบทหนังที่แกว่งเคว้งไปมา เหมือนไม่รู้จะไปทางไหน แม้กระทั่งช่วงท้ายในตอนบทสรุปก็เกือบจะหาทิศทางไม่เจอว่าจะไปจบลงตรงไหนดี

ในเมื่อบทหนังออกมาแบบนี้ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปเป็นลูกโซ่เกือบจะทั้งหมด บทที่ดีไม่ดีก็ไม่สามารถส่งตัวละครให้โดดเด่นขึ้นได้ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก ๆ เพราะว่า The Lake บึงกาฬ แทบจะไม่ได้เห็นบทบาทการแสดงที่น่าจดจำใด ๆ เลยสักซีนเดียว ทั้งที่ได้นักแสดงระดับยอดฝีมือมาเรียงแถวกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น “ตุ้ย ธีรภัทร์”, “ออม สุชาร์” หรือ “ปู วิทยา” ที่ทั้งหมดถูกนำมาวางแบบไร้ตำแหน่ง แทบจะหาความเป็นตัวละครยืนนำ (Protagonist) ไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนมอบการแสดงมาอย่างเต็มที่ก็ตาม

และอีกส่วนที่กลายเป็นจุดที่ฉุดรั้งให้ภาพรวมของ The Lake บึงกาฬ สะพรึงพรั่งพรูดิ่งหนักยิ่งเข้าไปอีก ก็คืองานตัดต่อ (Editing) และการลำดับการเล่าเรื่องราว (Segment) ที่ผู้สร้างรับหน้าที่นี้อีกเช่นเดียวกัน กลายเป็นการว่าหนังมีแค่เพียงประมาณ 15 นาทีแรก ที่เปิดฉากขึ้นมาและพอจะสร้างอรรถรสน่าสนใจขึ้นได้ แต่เมื่อมาถึงฉากสั่งน้ำที่ใคร ๆ ต้องจดจำเมื่อได้ดูนั่้งเรื่องนี้ นั่นคือสัญญาณของความสะพรึงเริ่มต้นขึ้นแล้ว บึงกาฬ the lake นักแสดง

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ ตั้งแต่ชื่อเรื่อง บึงกาฬ ตัวสัตว์ประหลาด ไทจู ก็ผสมผสานจากสัตว์พื้นบ้าน 3 อย่าง ปลาดุก งู ไอ่เข้ วัฒนธรรม การดูดน้ำถุง ร้านกาแฟรถเข็น การทำนา จับกบ และการเล่าถึงชีวิตของผู้คนอีสานนั้น ผูกพันธ์กับความเชื่อ ศาสนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผ่านเรื่องเล่าตำนาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ผ่านตัวละคร ถือเป็น soft power ของไทยที่ดีได้ตลอดเรื่อง

การตัดต่อหนังเรื่องนี้แทบจะยังไม่ราบเรียบและไม่คล้องจ้องกับเนื้อเท่าที่ควร หรือหากจะให้พูดแบบตรงไปตรงมาจริง ๆ จุดนี้คือหายนะของหนังหายนะเรื่องนี้จริง ๆ หนังต้องพังพินาศลงเพราะการลำดับเรื่องที่โดดไปมาบ่อยครั้ง ซ้ำรายกับมุมกล้องที่พยายามเร้าอารมณ์แต่กลับทำให้ปวดหัว

อีกทั้งยังมีฉากซีนที่ไม่ต่อเนื่อง ตัดฉับไปมาขัดอารมณ์ผู้ชมบ่อยครั้ง แทนที่หนังจะดึงอารมณ์ขึงขังให้อยู่กับคนดู กลายเป็นความขบขันมาแทนที่ เพราะงานตัดต่อที่บางจุดไม่น่าจะปล่อยผ่านมาแบบนี้ได้

โดยเฉพาะในหนัง The Lake บึงกาฬ ที่บรรยากาศแวดล้อม (Environment) ส่วนใหญ่ในเรื่องนั้น จะต้องมีฉากฝนตกอยู่เกือบจะครึ่งเรื่อง เพราะสถานการณ์พายุเข้าในพื้นที่ แต่น่าขันที่เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วเวลาเดียวกัน แต่สลับกันไปมาแต่ละพื้นที่

ภาพตรงนั้นฝนกำลังตกหนักแต่ตัดภาพมาตรงนี้กลับไม่มีฝน ทั้งที่โลเคชั่นตามท้องเรื่องนั้น ท้องที่ที่เกิดเหตุก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรถึงขนาดนี้สภาพอากาศจะแตกต่างกันได้เช่นนี้ ถึงจะเป็นเพียงจุดเล็กน้อยในหนัง แต่กลายเป็นสิ่งที่ขัดอารมรณ์ไปอย่างน่าเสียดายไม่น้อย หนังบึงกาฬ

สรุป thelake บึงกาฬ

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมนั้น The Lake บึงกาฬ ถือว่าเป็นหนังที่เข้ามาช่วยยกระดับวงการหนังไทยในแง่เทคนิคงานสร้างที่แปลกตาและแปลกใหม่แบบที่ไม่ค่อยเห็นใครเคยทำเช่นนี้มาก่อน แต่หนังก็ยังสอบตกในพาร์ทอื่น ๆ ทั้งบทหนัง การเล่าเรื่อง และการลำดับตัดต่อที่ทำให้หนังเข้าขั้นเกือบจะหายนะเลยทีเดียว

ถึงจะน่าเสียดายที่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น คงจะต้องบอกว่า…ยังไม่ได้บรรทัดฐานในแบบที่คาดหวังเอาไว้ แต่เราก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับผู้สร้าง เพราะอย่างน้อย ๆ เห็นถึงเจตนาและความพยายาม และยอมรับเลยว่าเทคนิคงานสร้างของพวกเขาในเรื่องนี้…ก็เจ๋งอยู่

สุดท้ายอยากให้คนไทย ไปสนับสนุน ดูหนังเรื่องนี้กันเยอะ ๆ เพราะใช้เวลาสร้าง ถึง 5 ปี ทุนสร้างถึง 80 ล้านบาท ร่วมทุนระหว่าง 2 ประเทศ ไทย – จีน มี 2 เวอร์ชั่นทั้งไทย และ จีน แต่บอกหน่อยว่า เนื้อหาสองภาค จะต่างกันเล็กน้อยด้วยนะ โดยส่วนตัวให้คะแนน 6/10 ครับ เกือบดีแล้ว … the lake บึงกาฬ เต็มเรื่อง

 

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

หนังไทยnetflix สวัสดีจ้าวันนี้แอดมินมาแนะนำหนังไทยที่ก็ไม่ได้มีพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่แหวกแนวจากหนังไทยรักเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องบทนี่ ต้องยกให้เค้าจริงๆครับ จากเพื่อนสนิททั้งสองได้เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็น “แฟน” เมื่อ เต๋ “บิวกิ้น” และ โอ้เอ๋ว “พีพี” ต้องเดินทางจากบ้านเกิดที่ภูเก็ต ขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพฯ เต๋พยายามจัดสรรเวลามานอนที่คอนโดโอ้เอ๋วเพื่อจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อกิจกรรมชมรมละครฝั่งเต๋เริ่มเข้มข้นขึ้น เวลาที่มีให้กันก็ลดน้อยลงไป ทั้งคู่ต้องเผชิญกับการปรับตัว เข้ากับความวุ่นวายของเมืองใหญ่ และ โลกใบใหม่ที่ไม่มีทางรู้เลยว่าข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง แม้ว่าทั้งคู่นั้นจะเรียนคณะนิเทศศาสตร์เหมือนกัน แต่เพราะอยู่คนละมหาวิทยาลัย ทำให้ทั้งสองก็ได้พบเจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ และ ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนกัน และ สิ่งนั้นเองที่จะค่อย ๆ หล่อหลอม เต๋ และ โอ้เอ๋ว ให้เติบโตขึ้นไปกันคนละทาง เส้นทางที่มาพร้อมกับความฝัน และ คำสัญญาว่าจะรักกันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะรักษามันไว้ได้จริงหรือไม่ ร่วมติดตามเรื่องราวชีวิตรักของ เต๋ และ โอ้เอ๋ว ได้ใน “แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2” (I Promised You the Moon)

ซีรีส์เริ่มตอนแรก 22 ตุลาคม ผ่านมาถึงวันนี้ก็ 3ep แล้วจ้ะ ขอบอกตรงนี้เลยว่า ได้มูฟออนเป็นวงกลมกันแน่นอนสำหรับซีรีส์น้ำดีที่นาดาวบางกอกตั้งใจเสิร์ฟให้เป็นอาหารตา และ อาหารใจขนาดนี้ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ เรื่องราวแห่งมิตรภาพของ เต๋ (บิวกิ้น) และ โอ้เอ๋ว (พีพี) เพื่อนสนิทสมัยเด็กที่ห่างหายกันไปหลายปีด้วยความบาดหมางเล็กน้อย แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก และ กินเวลายาวนานจนได้กลับมาพบกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน เพื่อเตรียมสอบแอดมิชชันเข้ามหาวิทยาลัย ต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่นที่จะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน จากเพื่อนรัก กลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ แต่ความสัมพันธ์ และ เรื่องค้างคาในอดีต ทำให้สองคนผูกพันกันมากขึ้น รู้จักรู้ใจกันมากขึ้นจนพาไปสู่ความรู้สึกแบบใหม่ ที่ต่างก็ไม่เคยรู้สึกกันมาก่อน ความสัมพันธ์ครั้งนี้จึงมีทั้งความฝัน และ ความผูกพันของเด็กหนุ่มสองคนเป็นเดิมพัน

พล็อตเรื่อง

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

พล็อตพื้น ๆ ออกมาแบบนี้เลยละจ้ะ แต่สามารถขยายมันออกมาได้มากมายจนกลมกลึง บทมีความละเอียดอ่อน และ ไม่ปล่อยความรู้สึกใดใดให้หลุดไปเลยสักนิดเดียว เนื้อเน้น ๆ ไม่มีน้ำ เคี้ยวกันหนึบหนับอร่อยลิ้น แต่ละฉากที่ออกมาสื่อสารความรู้สึกถึงใจคนดูได้อย่างเฉลียวฉลาด โดยเฉพาะภาษาภาพต่าง ๆ สามารถดึงให้เข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้อย่างเนียน ๆ เป็นซีรีส์ที่มีความเรียลแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ เมื่อพูดถึงความจริงที่ว่า เมื่อความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ บางครั้งเราก็แปลหัวใจตัวเองไม่ออก

การใช้ภาษาจีนเป็นโครงสร้างของบทเป็นอะไรที่คลาสสิกเอามาก ๆ ในทุก ๆ ฉากจะมีการสื่อสารด้วยภาษาภาพ ภาษาพูด กริยาอารมณ์ของตัวละครต่อกันเป็นฉาก ๆ เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ และ ที่สำคัญ มันสวยงาม ทุกบทสนทนาของตัวละครมีความหมายเรียกว่าเราจะทิ้งคำพูดไหนไปแบบไม่สนใจไม่ได้เลย มันมีความหมายแฝงอยู่ในนั้นแทบจะทุกประโยค ไม่ต้องถึงกับตั้งใจดูเลยนะคะ แต่ซีรีส์จะทำให้เราคลาดสายตาจากหน้าจอไปไม่ได้เองโดยอัตโนมัติ เพราะเราจะเหมือนเป็นส่วนหนึ่งกับเนื้อเรื่อง แทบจะนั่งอยู่ข้าง ๆ หรือร่วมความรู้สึกเดียวกันกับตัวละครเลยด้วยซ้ำในหลาย ๆ ฉาก แปลรักฉันด้วยใจเธอ ย้อนหลัง

จุดสังเกต

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

เรื่องนี้ขอเอนเอียงไปชื่นชมกับความสามารถของบิวกิ้นเป็นพิเศษ เพราะฮีรับบทหนักกว่าใคร ๆ ใจบางมากแม่เอ้ยยย อินเนอร์บิวกิ้นคือตีบทแตกกระจุยกระจาย ดึงความรู้สึกร่วมของคนดูได้เต็มเหนี่ยว เราสามารถรู้สึกอึดอัด และ สับสนไปกับเขา พูดไม่ออกบอกไม่ถูก และ ฟุ้งซ่านจนเกินต้าน ใจเราต้องการอะไร และ เป็นอะไรอยู่ในขณะนี้ ใครก็ได้บอกฉันทีเพราะฉันไม่รู้จะบอกกับตัวเองยังไง ฉันแปลหัวใจตัวเองไม่ออก…อินเนอร์บิวกิ้นมันส่องแสงออกมาแบบเจิดจรัส จนคนดูทางบ้านอดลุ้นไปด้วยไม่ได้

ชื่อเรื่องมันบอกความรู้สึกตัวละคร เต๋ หมดทุกอย่างเลยนะ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก พูดไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าจะพูดออกมาว่ายังไง สับสนรึเปล่าก็ไม่รู้ เข้าใจหัวใจตัวเองรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ก็ปฏิเสธความรู้สึกนั้นไม่ได้ เรื่องนี้ตัว โอ้เอ๋ว เป็น LGBT ที่เปิดเผยชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อนทุกคนรู้แม้กระทั่งตัวเต๋เองยิ่งรู้ดีกว่าใคร ๆ ตัวละครเต๋จะเป็นคนที่ลุ่มลึกในความรู้สึก อึดอัดร้อนรน และ สับสนจนบอกไม่ถูก บิวกิ้นเล่นบทนี้ได้แตกกระจุย สามารถส่งอินเนอร์ตัวละครออกมาได้แบบจัง ๆ จนคนดูมีความรู้สึกร่วม เข้าถึง ได้ง่าย ๆ

บวกกับเพลงประกอบที่ส่งออกมาได้จังหวะ และ เข้ากับฉาก การตัดต่อที่กลมกลืน เรียกว่าละมุนเลยทีเดียว โลเคชัน ฉาก มุมกล้อง ทุกอย่างที่ประกอบกันมีความหมายที่แปลความออกมาได้หมด ส่งให้ซีรีส์มีความกลมและ สวยงามจนรู้สึกได้เลยว่า ตัวละครเต๋กำลังเผชิญอยู่กับอะไร และ บอกเราออกมาดัง ๆ

ว่าความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นมาในรูปแบบใด มันสวยงามเสมอ อีกอย่างที่ต้องชมอย่างจริงจังเลยก็คือ การคุลมโทนของซีรีส์เรื่องนี้เป๊ะปัง ไม่กระเด็นออกไปไหน นอกจากการใช้ภาษาจีนเป็นโครงสร้างของบทแล้ว การใช้สี แดง เขียว น้ำเงินในซีรีส์ ยังเป็นสื่อสัญลักษณ์ของตัวละคร สร้างภาพจำ และ อารมณ์ร่วมให้อินมากขึ้นไปอีก แปลรักฉันด้วยใจเธอ ดู

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภูเก็ตแตกแน่ ๆ งานนี้ ทัวร์จีนทัวร์ไทยต้องแห่กันไปลงที่ภูเก็ต บรรยากาศท้องทะเล มุมกล้องที่สื่อออกมาถึงความเป็นส่วนตัว ที่มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นเป็นเจ้าของมันทำให้ภูเก็ตเต็มไปด้วยความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น การสื่อสารสวยงามที่ผู้กำกับบรรจงสื่อออกมา

สร้างภาพลักษณ์ของความรักให้สวยงาม โดยที่เราไม่สนใจเลยว่าจะเป็นความรักในรูปแบบไหนได้ง่าย ๆ เป็นซีรีส์ Y สะอาดสะอ้าน และ งดงามชวนมอง ฟิน เขิน กดดัน มีความสุข และ เข้าใจในหัวอกของตัวแสดงได้อย่างซึมลึก เป็นมิตรภาพความรักที่สร้างอารมณ์ร่วมได้หลากหลายเอามาก ๆ

เอาเป็นว่าผมก็จะรีวิวตามความรู้สึกที่ได้ดูไปแล้วกันนะครับ อาจจะมีปน ๆ กับที่ได้อ่านมา และ เห็นต่างกับคนอื่นบ้าง ซึ่งรีวิวนี้จะเปิดเผยเนื้อหาสำคัญถึง EP3 ของ Part 2 ทั้งนี้ผมดูมาตั้งแต่ Part แรกแล้วแต่ไม่ได้รีวิว เพราะเป็นซีรีส์ที่ผมรู้สึกว่าเขียนรีวิวแบบไม่สปอยล์เลยยากมาก (Part แรก เลยไม่ได้เขียน แต่ต่อไปอาจจะมีเขียนแบบสปอยล์ปน ๆ มาบ้างครับ เดี๋ยวจะไม่ได้เขียนอะไรเลย ฮา ๆ)

จนอยากจะยกให้เป็นซีรีส์ Y อันดับ 1 ของปีนี้ไปเลยทีเดียว งานประกาศรางวัลปีนี้สนุกแน่ ๆ ค่ะ ซีรีส์ออนแอร์มา 3 ตอนแล้วนะคะ เรื่องนี้เป็นซีรีส์ 5 ตอนจบ ที่ขัดใจคนดูตอนนี้มาก เพราะอยากให้มีสัก 12 ตอน แปลรักฉันด้วยใจเธอ netflix

สรุป

ยังไงก็ตาม ส่วนตัวแล้วผมก็ยังมองว่าซีรีส์เรื่องนี้ มีประเด็นที่อยากติดตามไปถึงตอนจบครับ เพียงแต่เส้นทางที่ซีรีส์เดินไปแตกต่างจากเดิมพอสมควร เพราะรสชาติของ Part 1 และ Part 2 เป็นเหมือนการเดินเรื่องต่อกัน แต่ประเด็นที่หยิบยกมาเล่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย ถ้าพาร์ทแรกเป็นเรื่องราวของการไม่รู้ใจตัวเองของเต๋ พาร์ทหลังคงเป็นเรื่องราวของการมองแฟนเป็นของตายของเต๋ นั่นเอง แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภาค 1

แปลรักฉันด้วยใจเธอ

โปรดิวเซอร์: ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร
กำกับการแสดง : บอส-นฤเบศ กูโน
แนวละคร: Romantic Coming of Age
ผลิต : นาดาว บางกอก ร่วมกับ LINE TV
เวลาออกอากาศ : ตอนใหม่ ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. บน LINE TV

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีจ้าวันนี้ผู้เขียนรีวิวมีหนังไทยมาแนะนำหนังไทยตลกที่มีนักแสดงตลกชั้นนำของประเทศมากมาย เรียกได้ว่าเรียกเสียงฮือฮาอย่างมากเลยครับ โดยหลังจากที่ลงคิวฉายต่อเนื่องกันแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา “บักแตงโม” ก็จะถือได้ว่าเป็นหนังทิ้งทายกับหนังไทยมาราธอนเซ็ตนี้ ก่อนจะต้องเปิดทางให้กับเหล่าหนังฮอลลิวูดฟอร์มยักษ์ได้มีซีนกัน และ นี่คือหนังตลกสไตล์ไทยพื้นบ้านที่คอหนังแนวนี้คุ้นเคยกันดี กับลายเส้นเด่นชัดจาก พระนครฟิลม์ ที่สำคัญเรื่องนี้ยังเป็นการผลงานการแสดงชิ้นสุดท้ายของ 2 ดาวตลกผู้ล่วงลับที่ทิ้งทวนเอาไว้อีกด้วย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ภาพยนตร์ตลกเรื่องใหม่ของไทยที่อาจชวนให้ใครหลาย ๆ คนหายเครียดกันได้ กับหนังใหม่เรื่อง บักแตงโม (2022) ผลงานกำกับโดย ฐิติพงศ์ ใช้สติ นำขบวนความฮาโดย ก้อง ห้วยไร่, สิริอมร อ่อนคูณ, ค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน หนังใหม่อีกเรื่องที่ชวนให้เราคิดถึงจากการไปของสองนักแสดงตลกชื่อดังอย่าง น้าค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน ที่ถึงแม้ตัวจะจากไปแต่ก็ยังฝากผลงานไว้คนไทยได้มีรอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะกันเสมอ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม หนังเรื่องนี้ได้ “เอิร์น-ฐิติพงศ์ ใช้สติ” ผู้กำกับที่เคยลับฝีมือมาจากเรื่อง นะโม OK มาทำหน้าที่กำกับ และ ร่วมเขียนบทหนัง แต่องค์ประกอบต่าง ๆ นั้น ก็ไม่ได้พึงพาความทะเยอทะยานอะไรสักเท่าไหร่ เพราะโดยภาพรวมนั้น บักแตงโม แทบจะไม่มีแก่นสารใด ๆ มาประดับอยู่แล้ว นอกจากฉากปะติดปะต่อ ยิงมุกตลก ทั้งเซ็ตขึ้น และ ด้นสดตามพรสวรรค์ของนักแสดง เส้นเรื่องมีอยู่เพียงนิดเดียว และ ยังเป็นพล็อตที่ง่ายเกือบจะจืดสนิทไปซะแล้ว

แต่ก็นับว่าดีที่หนังเรื่องนี้ได้ทีมนักแสดงชุดใหญ่มาช่วยประคับประคอง และ ปรุงรสชาติให้ไม่กลายเป็นแกงจืดที่พยายามใส่เครื่องปรุง และ นี่ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบโดดเด่นเพียงอย่างเดียวที่มองเห็นในหนังเรื่องนี้ “ก้อง ห้วยไร่” ก็มารับบทในครอบของ ก้อง ห้วยไร่ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือประดิษฐ์การแสดงใด ๆ

เขาก็ยังแสดงเป็นตัวเอง และ ใส่ความเป็นธรรมชาติของตัวเองตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่ “ฟิฟิล์ม-สิริอมร อ่อนคูณ” ที่คราวนี้ออกจากจักรวาลไทบ้านชั่วคราว มาเล่นหนังอีสานเรื่องอื่นดูบ้าง ก็ยังติดตามลักษณ์เดิม ๆ แต่เสน่ห์ของเธอ ก็ยังช่วยผลักดันหนังเรื่องนี้ให้ขับเคลื่อนไปได้ดีเช่นกัน

เรื่องย่อ บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม

บักแตงโม เป็นเรื่องราวของ “โทนี่” ทายาทมหาเศรษฐี หนุ่มนักเรียนนอกที่ต้องมาดูแลธุรกิจของพ่อ ซึ่งตอนนี้มี “ลุงอำนาจ” ดูแลธุรกิจแทนพ่อ และ หวังจะฮุบสมบัติ แต่โชคชะตาเล่นตลกทำให้โทนี่โดนตามฆ่าจนเขาต้องหนีตายแบบไม่คิดชีวิต โทนี่หลบการตามล่าโดยปลอมเป็น “บักแตงโม” ลูกจ้างในร้านอาหารของ “แม่ดาว” ซึ่งมี “เดือน” ลูกสาวสุดรักสุดหวง โทนี่หลงรักเดือนทันทีที่ได้เห็น แต่ความรักของบักแตงโมก็ดูจะไม่ง่าย เพราะไม่ได้มีแค่แม่ดาวว่าที่แม่ยายที่แสนโหดเป็นอุปสรรคใหญ่ แต่ยังมีศัตรูหัวใจของโทนี่ อย่าง “มิกซ์” เจ้าถิ่นบ้านรวยเพื่อนสนิทที่คิดกับเดือนมากกว่าคำว่าเพื่อน

แม้แม่ดาวจะใช้งานหนักแค่ไหนบักแตงโมก็ไม่เคยหวั่น ขอแค่ทุกวันได้ใกล้ชิดกับเดือน บักแตงโมได้รู้ว่าที่สองแม่ลูกต้องทำงานหนักก็เพื่อหาเงินมาปลดหนี้กับ “มาดามโซเฟีย” ให้ได้ก่อนร้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อทิ้งให้ให้สองคนแม่ลูกจะโดนยึด ในระหว่างที่โทนี่หลบซ่อนตัวเป็นบักแตงโม โทนี่ได้รับความช่วยเหลือลับ ๆ จาก “ปีแอร์” ลูกน้องเก่าของพ่อ และ จ่าแรมโบ้” คู่ซี้เก่าของปีแอร์ โทนี่เร่งหาทางวางแผนทวงคืนสมบัติทุกอย่างของพ่อจากลุงให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะโทนี่จะได้กลับมาช่วยเหลือครอบครัวของเดือน รักแท้ของ บักแตงโม จะผ่านบททดสอบครั้งสำคัญได้หรือไม่ แม่ดาวจะได้ร้านมาเป็นของตัวเองมั้ย และ บักแตงโมจะได้กลับมาสืบทอดมรดกหรือเปล่า? บักแตงโมออนไลน์

บทวิจารณ์

รีวิว บักแตงโม

ทางด้านนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น “ตั๊ก ศิริพร”, “สุนารี ราชสีมา” หรือ “ฮาย อาภาพร” ทั้ง 3 หญิงผู้นี้ ถือว่ารู้หน้าที่ และ รู้จังหวะของตัวเองที่จะหยอดใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ แม้ว่ามุกที่พวกเธองัดออกมาใช้ในหนังเรื่องนี้ จะสามารถหาดูตามรายการโทรทัศน์ของพวกเธอได้ก็ตาม ขณะที่ “ตาต้า ชาติชาย” ที่ตอนเล่นหนังไทบ้านก็ถือว่าเป็นนักแสดงไทบ้านที่มีฝีมืออยู่แล้ว พอมาเล่นเรื่องนี้ก็ถือว่าได้ขัดเกลาศักยภาพของเขาไปอีกทาง แม้บทบาทที่ได้รับจะไม่มีมิติใด ๆ เลย แต่เขาสามารถเล่นบทนี้ออกมาได้น่าสงสาร และ หมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน

ถึงแม้ เจ๊ดาว จะใช้งานเขาหนักหนาแค่ไหน บักแตงโม ก็ไม่บ่น และ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ เดือน และ เขาก็ได้รู้ว่าสาเหตุที่สองแม่ลูกคู่นี้ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาชดใช้หนี้ มาดามโซเฟีย ให้ได้ก่อนที่บ้านรวมถึงร้านของเขาจะถูกยึด ขณะที่โทนี่ได้ปลอมตัวอยู่นั้นเขาได้รับความช่วยเหลือแบบลับ ๆ จาก ปีแอร์ ลูกน้องคนสนิทของพ่อ และ จ่าแรมโบ้ เพื่อนสนิทของ ปีแอร์ และ เขาต้องรีบทวงคืนทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่เป็นของพ่อเขาจากลุงให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะกลับไปตอบแทนการช่วยชีวิตเขาจากครอบครัวของเดือนรักแรกพบของ บักแตงโม

และ แน่นอนว่าไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 ดาวตลกผู้ล่วงลับที่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของพวกเขา “โรเบิร์ต สายควัน” ยังคงกลับมารับบทเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี บทตำรวจที่ดูยังไงก็ยังขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของเขา และ นั่นก็คือว่าเป็นเสน่ห์ที่เขาสามารถขับมันออกมาได้ แม้ว่าในหนังเรื่องนี้จะมีซีนของเขาออกมาได้ไม่ค่อยสะใจสักเท่าไหร่ใด แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานชิ้นสุุดท้ายที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย

แต่ตำแหน่ง MVP ของหนังเรื่องนี้ต้องยกให้กับ “น้าค่อม ชวนชื่น” และ นี่คือศิลปินตลกที่เราคงต้องยกย่องให้เป็นตำนานตัวจริง เพราะรู้หรือไม่ว่า ทุกซีนที่มีน้าค่อมปรากฏออกมาในหนังเรื่องนี้ คือความบันเทิง และ สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้อย่างไม่ฝืน เพราะพรสรรค์ในการใส่มุกตลก และ จังหวะการตลกแบบเฉพาะของเขาเท่านั้น น้าค่อมสามารถปรุงแต่งมุกต่าง ๆ ออกมาได้แบบไม่ต้องพยายามทำให้ตลก แต่มันสามารถตลกได้ตัวของมันเอง และ นี่ก็กลายเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของน้า…ที่คนดูจะต้องจดจำเช่นเดียวกัน บักแตงโม hd

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่าง เอิร์น “ฐิติพงศ์ ใช้สติ” อีกทั้งตัวเขายังมีส่วนในการเขียนบทถาพยนตร์อีกด้วย ส่วนฝั่งของนักแสดงคนอื่น ๆ อย่าง “ตั๊ก ศิริพร “สนารี ราชสีมา และ “ฮาย อาภาพร ถือว่าพวกเขารู้หน้างานรู้จังหวะของตัวเองถึงแม้มุกของพวกที่นำมาใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้

จะหาดูได้ตามรายการทีวีปกติทั่วไป สลับกลับมาฝังของ “ตาต้า ชาติชาย” ที่ทุกคนรู้จักเขาในนาม บักเซียง ตอนที่ดูเขาแสดงภาพยตร์ไทบ้าน ก็ต้องยอมรับตามตรงเลยว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ พอเขาได้มาแสดงเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการดึงเอาศักยภาพด้านการแสดงของเขาออกมาอีกถึงแม้บทบาทจะไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่จากภาพยนตร์

แม้ว่า บักแตงโม จะดูไม่ต่างไปจากหนังตลกไทยแบบเดิม ๆ ที่มักจะหยิบเอามุกหยาบ ๆ มุกเหยียด ๆ กับเรื่องใต้สะดือมาทำใหชวนโจ๊ก แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังตลกที่ไม่ได้ลามปามและเกินขอบเขตมากเกิน พล็อตเรื่องและโครงสร้างอาจจะมีแค่หยิบมือ

หนังมีออกน้ำหลุดทะเลไปบ้างในบางจังหวะ มีบางช่วงที่น่าเบื่อ บางส่วนที่ขำขัน แต่สุดท้ายแล้ว บักแตงโม ก็สามารถดึงตัวเองให้กลับมาสู่เส้นเรื่องของตัวเองและไปได้ตลอดลอดฝั่งได้ถึงตอนจบ แม้จะเสียดายว่าหนังขาดความสดใหม่ไปค่อนข้างมาก เพราะหวังจะทำหนังออกมาคลอกับเพลงดัง แต่เพลงดังกล่าวก็ผ่านความนิยมไป 2-3 ปีได้แล้ว บักแตงโมเต็มเรื่อง

สรุป บักแตงโม

โดยภาพรวมนั้น บักแตงโม ยังไม่ใช่หนังตลกที่ดีอะไร หนังยังไร้มิติและแก่นสาร แต่ก็ดูแล้วย่อยง่ายเหมือนกันนั่งบริโภคคอนเทนท์อยู่หน้าจอทีวีที่บ้านตอนวันหยุด มันเกือบจะเป็นหนังที่ไม่มีอะไรให้น่าจดใจแล้ว เพียงแต่ความโดดเด่นของนักแสดงตลกทั้ง 2 ท่าน น้าค่อม กับ โรเบิร์ต กลายเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้เราซึบซัมไปกับการโลดแล่นบนจอเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา และพวกเขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ คิดว่านี่น่าจะถูกใจคอหนังไทย แต่หากจะเอาสาระใด ๆ อย่ามาหาจากหนังเรื่องนี้ บักแตงโม ภาพยนตร์

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง บักแตงโม

ประเภท: ตลก / โรแมนติก
ผู้กำกับ: ฐิติพงศ์ ใช้สติ
นำแสดงโดย: ก้อง ห้วยไร่, สิริอมร อ่อนคูณ, ศิริพร อยู่ยอด, ค่อม ชวนชื่น
ความยาว: 112 นาที
กำหนดฉายในไทย: 28 เมษายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา

หนังไทยnetflix วันก่อนมีเพื่อนบ้านคนหนึ่งมาแนะนำหนังผีเขาบอกว่าน่ากลัวมาก เราก็คิดในใจว่าขนาดนั้นเลยหรอ เกริ่นก่อนนะครับผมเป็นคนไม่กลัวผีครับ ผมจึงตัดสินใจลองดูหนังเรื่อง มนตรา จึงอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆกันครับถ้าหากว่าปีที่แล้ว..เราเคยสะดุ้งไปกับความหลอนของไทยสุดสะพรึง อย่าง “ร่างทรง” มาแล้ว มาในปีนี้เรามาเผชิญหน้ากับความเร้นลับ และ หลอนชวนสะอิดสะเอียนจากไต้หวัน นี่คือ “Incantation มนตรา” หนังสยองขวัญที่ถล่มรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นี่คือหนังสยองที่มาแนววิดีโอฟุตเทจที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรแล้ว แต่มีทีเด็ดในสตอรี่ และ การเล่าเรื่องนี้ที่เขย่าขวัญผู้ชมได้ดีในชั่วโมงสุดเฮี้ยน! ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ สยองขวัญสัญชาติไต้หวันปี 2022 ที่ใช้ลีลาการเล่าเรื่องแบบ found footage กำกับ และ เขียนโดย Kevin Ko หนังเข้าฉายในไต้หวันวันที่ 18 มีนาคม 2022 และ กลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญของไต้หวันที่ทำรายได้สูงสุด จากนั้นก็นำมาฉายทาง Netflix เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2022 ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา ตัวเรื่องทำมาเป็นแนวสมมุติเรื่องผ่านเรียลฟุตเทจจากกล้องให้เหมือนเรื่องจริง ก็แบบแนวร่างทรงหรือเก่า ๆ เลยก็ The Blair Witch Project ผสมกับไอเดียแนวเรื่องของ The ring คำสาปมรณะผ่านวิดีโอเทป ซึ่งถ้าคนที่ไม่เคยดูเดอะริงมาก่อนก็คงแอบว้าวสนุกไปกับพล็อตเรื่องที่เริ่มต้นเตือนคนดูว่านี่คือคำสาป ถ้าดูกับรู้เรื่องจะมีอันเป็นไป ซึ่งมันได้ผลยั่วผู้ชมให้อยากดูได้แน่นอน แต่สำหรับคนที่เคยดูเดอะริงมาแล้วการที่เรื่องขึ้นต้นก็อปกันมาตรง ๆ แบบนี้เป็นอะไรที่รู้สึกเฟลขึ้นมาทันที และ ไม่ใช่แค่เริ่มต้นเหมือน ตอนท้ายคลี่คลายปมก็ยังมาแนวเดอะริงอีก ทำให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่พล็อตหรือไอเดียใหม่เลย แต่แค่นำเอาแนวเรียลฟุตเทจมาผสมกับเดอะริงให้ออกมาเป็นเรื่องนี้เท่านั้น

เรื่องย่อ

รีวิว มนตรา

เป็นเรื่องราวของ หลี่รู่หนาน คุณแม่ยังสาวที่กำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียลูกสาวของตัวเอง จากคำสาปมนตราที่เธอเองก็ยังไม่มีความรู้ ดังนั้นเธอจึงเริ่มต้นที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเอาไว้ เป็นหลักฐาน และ ข้อมูลที่เกิดขึ้นกับเธอกับลูกเอาไว้ เพื่อแชร์ให้กับผู้ที่สนใจได้ศึกษา แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้อนาคตเช่นเดียวกันว่า ลูกสาวกับเธอจะรอดปลอดภัยได้หรือไม่ เพลง มา ยา

เค้าโครงที่สร้างจากเรื่องจริง

รีวิว มนตรา

เอาเป็นว่าถ้าตัดเรื่องพล็อตเหมือนเดอะริงออกไป ว่ากันด้วยเรื่องจุดเด่นของเรื่องนี้ก็มีอยู่ ด้วยการครีเอทฉากเรียลฟุตเตจสยอง ๆ ไว้มากมายทั้งเรื่อง เป็นหนังที่เรียกว่าเน้นตัดเรียลฟุตเทจฉากสยอง ๆ ลึกลับน่ากลัวมาให้ดูโดยเฉพาะ ทั้งความแหวะของสิ่งที่ถ่ายมาอย่างหนอนจำนวนมาก น้ำเหลืองเละ ๆ บนตัว ฉากทำร้ายตัวเองเพราะโดนคำสาปแบบสยอง ๆ หรือแนวผีที่มีแต่เด็กมองเห็นก็ใช้บ่อย ฉากศาลเจ้าจีนเอเชียที่เป็นเมนหลักของเรื่องดูยังไงก็น่ากลัวแต่แรกอยู่แล้วด้วยยิ่งเพิ่มความสยองเข้าไปอีก ฉากตุ้งแช่ก็ทำได้ดีกว่าเรื่องอื่น ๆ เรียกว่าใครขวัญที่ขวัญอ่อนดูเรื่องนี้อาจจะรับไม่ไหวเลยก็ได้ เป็นหนังที่สร้างกับเสิร์ฟจุดขายนี้ด้วยเรียลฟุตเทจออกมาได้ดีจนต้องชม

แม้การตัดฟุตเทจหลอน ๆ สยอง ๆ มาเสิร์ฟผู้ชมต่อเนื่องจะออกมาดี แต่ตัวเรื่องเองจริง ๆ กลับเป็นปัญหาจากจุดนี้เช่นกัน เพราะกลายเป็นการทำให้ลำดับเรื่องดูงง ๆ เข้าใจยากแบบที่ไม่ควรจะทำให้ดูยากแบบนี้เลย ตัวเรื่องเริ่มจากปัจจุบันที่นางเอกแม่ของเด็กเล่าถึงที่มาของวิดีโอที่กำลังจะเปิดให้คนดูกันผ่านโลกออนไลน์ แล้วเล่าย้อนว่าไปโดนคำสาปจากไหนเป็นฉากสั้น ๆ ของแก๊งท้าล่าผีสมัยก่อนของเธอที่ไปบุกอุโมงค์ในศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ตัดสลับกับเหตุการณ์เลี้ยงลูกบุญธรรมของเธอที่มาโดนคำสาปไปด้วย รวมกับการพยายามเล่าเรื่องในตอนที่เปิดเทปนี้ให้ดู แล้วก็ยังมีฟุตเทจของกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์ต่าง ๆ กับตัวละครเสริมประกอบเรื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นฉากสั้น ๆ ตัดสลับไปมาแบบไม่มีจุดบอกว่านี่คือเวลาไหน ช่วงไหน ให้ผู้ชมคิดเอาเอง ซึ่งก็ไม่ถึงกับงงในช่วงเวลามาก แต่จะงงกับการที่เล่าเรื่องกระโดดไปมานี่แหละ ทำให้เรื่องดูเข้าใจยากโดยใช่เหตุ แอบปวดหัวนิด ๆ ต้องคิดต่อเรื่องให้ติดเอง ถือเป็นจุดบอดเรื่องนี้เลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ความพยายามที่จะทำให้เรื่องดูเป็นเรียลฟุตเทจก็กลายเป็นหลายฉากดูฝืน ๆ จะให้เป็นให้ได้ อย่างเด็กถือกล้องวิดีโอไปถ่ายนั่นนี่ ตัวแม่เจออะไรก็ถ่ายไม่หยุด แม้แต่ฉากโดนผีหลอกก็ยังจะต้องถือกล้องถ่ายไว้อีก ซึ่งดูเฟคมากจนทำให้ความเรียลฟุตเทจที่ว่ากลายมาเป็นส่วนทำร้ายหนังเองด้วยเช่นกัน เธอ ไป กับ สายลม

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา คุณจะรู้สึกหลอนทุกครั้งที่ได้คิดประโยคที่ว่า “พวกคุณเชื่อในการอวยพรไหม? 6 ปีก่อนฉันเคยทำผิดให้ข้อห้ามที่น่ากลัว ช่วยฉันด้วย มาท่องพร้อม ๆ กัน หรือจะท่องในใจก็ได้…” แน่นอนว่าหนังสไตล์ found footage ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่อะไรกับวงการหนังอีกต่อไปแล้ว เพราะผู้ชมต่างคุ้นชินจากใน The Blair Witch Project และ Paranormal Activity หรือแม้กระทั่ง ร่างทรง หนังไทยเมื่อปีก่อนก็ทำออกมาในลักษณะนี้

แต่สำหรับ Incantation มนตรา นั้น แม้จะไม่ได้มีสไตล์ที่แปลกใหม่ แต่กลับใช้วิธีการเล่าเรื่องที่เข้มข้นสุดหลอนไปตลอดทั้งเรื่อง หนังมีเพียงโครงเรื่องที่ไม่ได้เยอะมาก แต่ค่อย ๆ ใช้ฟุตเทจภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ มาใช้เป็นการเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ พาผู้ชมไปสำรวจแต่ละมุมมอง ทั้งจากในอดีต และ ปัจจุบัน ท่ามกลางฉากน่ากลัวมากมายที่สอดแทรกเอาไว้แบบไม่ต้องอาศัยการเชื่อมโยงจังหวะใด ๆ แต่เป็นความสมจริงที่ออกมาการแสดงที่มีเซ็กเมนต์ที่ค่อนข้างน่าสนใจดี

ถึงแม้ว่ารูปแบบความเชื่อ และ การศรัทธาบูชาที่ใส่อยู่ในหนังเรื่องนี้นั้น อาจจะเป็นความเชื่อเฉพาะส่วนบุคคล และ เป็นเชื่อที่ต่างวัฒนธรรมของแต่ละประเทศกันไป แต่เชื่อว่าคนไทยก็น่าจะสัมผัสได้ถึงความหลอน และ ความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ที่สอดแทรกใส่เข้ามาได้อย่างสุดทางกำลังพอดี อีกทั้งยังสามารถอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ให้กับผู้ชมได้เห็นมากที่สุด ถึงจะทิ้งเบาะแส และ ปมเอาไว้เยอะแยะที่อาจจะยังไม่สามารถเข้าถึง และ เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ได้ก็ตาม

“เควิน โค” ที่ถือว่าเป็นนักสร้างหนังรุ่นใหม่ของไต้หวัน ถือว่าประสบความสำเร็จกับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะหยิบยืมใช้เทคนิคจากหนังสยองแบบเดิม ๆ มาใช้ แต่ก็มีลูกเล่น และ เทคนิคการเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง และ รู้จังหวะอารมณ์ที่ผู้ชมอยากสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ และ ทำให้ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ออกมาค่อนข้างถึงใจถึงอารมณ์ และ ไปได้เกือบจะสุดทาง

โปรดักชั่นของ Incantation มนตรา ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้ว่ามุมกล้องฟุตเทจต่าง ๆ จะมีดูสมจริง และ ปลอมประหลาดปะปนกันไปบ้าง แต่ก็กลายเป็นจุดบกพร่องที่สามารถมองข้ามไปได้ เพราะการเล่าเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านการแสดงนั้น หนังไม่ได้ใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายอะไร แต่ “ช่ายเกิ้นเย่” ก็ถือว่าแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ค่อนข้างดี เป็นศึกหนักของเธอ แต่เธอก็ทำออกมาได้ดีไม่น้อย The Young Wolf

สรุป มนตรา

หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวคติชนวิทยา และ เทววิทยาสยองขวัญจากไต้หวัน ใช้ลีลาการะเรื่องแบบฟาวล์ฟุตเทจที่มีความกลัว น่าติดตามในระดับดี แต่ก็ยังรักษาขนบเดิมของหนังแนว ฟาวล์ฟุตเทจเกินไป ซึ่งไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดก็คือการล่อลวงคนดูให้เชื่อ และ ทำตาม และ ก็ไปตลบหลังในท้ายเรื่อง ซึ่งเป็นการหักมุมที่ดีมาก ๆ ทั้งหมดทั้งมวลมันจึงทำให้มนตรามีเสน่หฺ และ มี มีเวทมนต์มากพอที่จะตรึงเราเอาไว้กับหน้าจอ ตลอดระยะเวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้อย่างดี ใครที่ชอบเรื่องราวความสยองขวัญ ใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเทววิทยาแบบผีประทะพุทธ ใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับคติชนวิทยา รับรองว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

ตัวหนังพยายามเพิ่มดราม่าความสัมพันธ์แม่ลูกที่เธอไปรับมาแล้วพยายามเลี้ยงให้ดี เป็นแม่ที่ดี โดยมีตัวละครชายที่เป็นคนสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเป็นพ่อที่ห่วงใยเด็กคนนี้อีกคน แต่ด้วยความที่เรื่องมันเน้นตัดฉากมาเพื่อให้สยองน่ากลัวตลอด ผีก็หลอกพร่ำเพรื่อมาก ฉากดราม่าความสัมพันธ์ดี ๆ อะไรพวกนี้ก็เลยไม่ทำให้รู้สึกอินเท่าไหร่ เหมือนเป็นแค่ส่วนที่พยายามทำให้ตอนจบของเรื่องนี้ดูมีเหตุผลของคนเป็นแม่เพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ตอนจบที่คาดเดายากอะไรเลย เผลอ ๆ คนดูรู้แต่แรกเริ่มแล้วด้วยว่าจะจบแบบนี้ครับ

สรุปแล้วเป็นหนังผีที่น่ากลัวจริง ฉากเรียลฟุตเทจก็ทำได้ดี (แม้จะดูเฟค ๆ เยอะ) แต่มามีปัญหาหลัก ๆ กับการเล่าเรื่องตัดสลับทำให้เรื่องดูยากแบบไม่เข้าท่า แล้วถ้านับความเหมือนกับพล็อตเรื่องกับคอนเซ็ปต์ของเดอะริงด้วย ทำให้แฟน ๆ เดอะริงคงไม่ปลื้มกับเรื่องนี้นักครับ

เอาเป็นว่าในภาพรวมนั้น Incantation มนตรา ก็คืออีกหนึ่งหนังผีไต้หวันที่ขึ้นแท่นเป็นระดับมาสเตอร์พีชของปีนี้ได้โดยปริยาย แม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ อาจจะไม่สดใหม่ และก็มีกลิ่นอายเดิม ๆ แบบฉบับหนังผีไต้หวันที่มักจะเล่นกับความเชื่อและความผูกพัน แต่หนังเรื่องนี้ก็มีสตอรี่ที่หนักแน่นเพียงพอที่จะประคองผู้ชมไปได้ อีกทั้งยังได้วิสัยทัศน์ที่ดีจากผู้กำกับ ที่รู้จังหวะและสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังเอาไว้ และนั่นก็คือการตอบโจทย์เหมือนกับบทสรุปของหนังที่ทะเยอทะยานและน่าจดจำเป็นอย่างดี… มนตราเต็มเรื่อง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง มนตรา

ประเภท: สยองขวัญ
ผู้กำกับ: เควิน โค
นำแสดงโดย: ช่ายเกิ้นเย่, ชอว์น หลิน, เกาอิงซวน
ความยาว: 115 นาที
กำหนดฉายในไทย: 8 กรกฎาคม 2022 (ที่ Netflix)

รีวิว fearless love

รีวิว fearless love

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับนี่คือหนังไทยใหม่ล่าสุด ระทึกขวัญ หนังไทยเรื่องล่าสุดของ นักแสดงชายตัวพ่ออย่าง แดน วรเวช ที่เป็นทุกอย่างจริงๆสำหรับเรื่องนี้ 555 ทั้งกำกับเองและเล่นเอง จากสารตั้งต้น คือ ไวรัล “ทวงคืนแพทตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช” งานนี้แดนแกงตัวเอง สู่หนังที่จะทำให้คุณเดาทางไม่ออก ตั้งแต่เห็นตัวอย่าง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง จากนักร้องบอยแบนด์แห่งยุค กลายมาเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าเสน่ห์ และทุกวันเขาก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งคนสร้างหนังที่คลอดผลงานใหม่ ๆ ออกมาเสริมวงการหนังไทยเสมอ และนี่คือผลงานล่าสุดของ “แดน วรเวช” ที่ยังรักษาคอนเซ็ปต์แนวคิดและความเป็นตัวของตัวเขาเองเช่นเดิม กลั่นกรองออกมาเป็น “ทวงคืน Fearless Love” หนังรักในท่วงทำนองของความเฮี้ยน ที่สารภาพตรง ๆ ว่าตอนแรกที่หนังโปรโมตออกมา ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะเป็นหนังรัก หนังตลก หรือหนังบู๊ แต่สุดท้ายแล้ว มันคือหนังผีจ้าาาาา…คุณผู้ชม ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว fearless love

รีวิว fearless love

รีวิว fearless love ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่แรกว่า ทวงคืน เป็นหนังที่ทำให้เรารู้สับสนเล็ก ๆ ว่าตกลงมันคือหนังอะไรกันแน่ ตัดทีเซอร์ออกมาทีแรกเหมือนจะเป็นรอมคอม หนังออกมาอีกตัวมีกลิ่นหนังบู๊ แต่พอใบปิดโผล่ออกเท่านั้น สรุปว่าเป็นหนังผี เป็นหนังที่แกงฟิลลิ่งคนดูได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกฉาย และผลลัพธ์ที่ออกมานั้น…ไม่แกง แต่เกือบจะกลายเป็นความเละเทะปะปนทนดูไปตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของเรื่องที่แสนฟุ่มเฟือยเกินไป
แน่นอนว่า แดน วรเวช มารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขยนบทหนังเรื่องนี้เอง โดยเขาหยิบเอาคอนเซ็ปต์ที่สังคมมักจะแอบแซวเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแฟนสาวในชีวิตจริง อย่าง “แพทตี้ อังศุมาลิน” ที่เอาจริง ๆ นะ แค่การคิดหยิบเอาประเด็นนี้มาชูเป็นหนังก็ถือว่าไอเดียบรรเจิดดีแล้ว เป็นอะไรที่ท้าทายและเล่นกับสังคมกลุ่มหนึ่งได้อย่างน่าลิ้่มลอง เพียงแต่การตีโจทย์และนำเสนอของหนังจะออกมาเป็นอย่างไรเท่านั้นแหละ

ซึ่งผลสุดท้ายก็คือ ทวงคืน คือหนังที่หยิบเอาประเด็นดังกล่าวมาใช้ได้แทบจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใด ๆ สุดท้ายมันก็เป็นแค่คำโปรโมตของหนังคำเดียวเท่านั้น เพราะเนื้อหาในหนังได้ฉีกไปอีกแทบ เต็มไปด้วยส่วนที่ขาด ๆ เกิน ๆ บางจุดก็เอ่อล้นเจิงนอง กับจังหวะที่ใส่เข้ามาแบบทีเล่นทีจริง ไม่สามารถหาจังหวะไหนที่จะหัวเราะได้เต็มสูบ หรือซึ้งสะกิดใจได้เลยสักเลย กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความสะเปะสะปะ ใส่กลิ่นอาย (tone) และทิศทาง (setting) ไปทางสากล แต่ไม่นำไปสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จได้สักทาง ทวงคืน นักแสดง

เรื่องย่อ

รีวิว fearless love

เรื่องราวของคู่รักยูทูปเบอร์ที่กำลังจะเลิกรา “ดิน” แดน วรเวช และ “พลอย” แพทตี้ อังศุมาลิน แต่ต้องแกล้งรักกัน เพื่อทำ Content ทายอินลูกค้า แหวนเพชรเม็ดเป้ง ระหว่างทาง จับพลัดจับผลูมาเจอ “บริบูรณ์” บีม กวี ไลฟ์โค้ชพ่อลูกอ่อนที่ใช้ลูกช่วยทำมาหากิน และนำไปสู่เรื่องราวประหลาดระหว่างทาง ที่มี “ลุงพล” เต๋า สมชาย ชายลึกลับ ที่นำพาพวกเขาไปพบกับบ้านร้างเก่าแก่กลางทุ่งข้าวโพด ที่มีรูปปั้นโบราณของชายนามว่า “ขุนอำมหิตตราชัย” เต๋า เศรษฐพงษ์ จนพบเจอเรื่องหลอนจากอดีตชาติ ที่รอคอยการ ทวงคืน บางสิ่ง จากพวกเขาในชาตินี้ และตบท้ายด้วยมุมมอง ความรักชวนซึ้ง แบบหักมุม ที่คุณคาดไม่ถึง

บทวิจารณ์

รีวิว fearless love

ส่วนที่โดดเด่นที่สุดและเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดปูทางมาเพื่อสิ่งนี้ก็คือ โมเมนต์หวาน ๆ ระหว่างแดน-แพทตี้ ที่เราจะได้เห็นทั้งในบทบาทของดิน-พลอย และวิดีโอหวาน ๆ จากแดน-แพทตี้ที่แทรกอยู่ในเรื่อง ส่วนนี้แฟน ๆ ของทั้งคู่ต้องอิ่มอกอิ่มใจกันแน่นอน

และส่วนที่ผู้เขียนคิดว่า ทวงคืน ทำได้ดีที่สุดคือความสยองขวัญ ฉาก Jump Scare ทำให้คนดูส่งเสียงกรี๊ดและสะดุ้งได้หลายครั้งตลอดเรื่อง การเห็นภาพวิญญาณปรากฏผ่านหน้าจอโทรศัพท์และกล้องยิ่งทำให้ความรู้สึก ‘มีอยู่แต่จับต้องไม่ได้’ มีมากขึ้น และทำให้คนดูรู้สึก ‘เสียเปรียบ’ ไปพร้อมกับตัวละคร

งานกำกับและดีไซน์ต่าง ๆ ของทวงคืนนั้น ถือว่ายังให้ผ่าน ออกแบบมาได้ค่อนข้างพอใจ แต่หนังมาตกม้าตายทุกครั้งกับการใส่จังหวะที่ประดักประเดิดตลอดทั้งเรื่อง ซ้ำร้ายคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครก็ช่างบิ้วท์ทำให้ดูน่ารำคาญใจมาก ๆ จะบอกตามตรงเลยว่า ช่วงครึ่งแรกของหนังนั้นเหมือนเป็นการจับคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ทั้ง 3-4 คนมาใส่เอาไว้รวม ๆ กัน แล้วก็เถียง ๆ คิด ๆ ไปคนละทาง ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ขับขันด้วยแล้ว แทนที่จะบิวท์อารมณ์ให้น่ากลัวกลับกลายเป็นน่ารำคาญแทน

แต่ก็ยังดีที่หนังได้ทีมนักแสดงที่ช่วยเอาไว้มาก ๆ โดยเฉพาะ แดน-แพทตี้ ที่คือคู่รักในชีวิตจริงอยู่แล้ว เขารู้จังหวะและการเข้าหาทางแสดงที่ดีของกันและกัน ทำให้ทุกอย่างดูไหลลื่นดี (ไม่นับอินเนอร์ที่น่ารำคาญของตัวละครที่ทั้งคู่ได้รับนะ) โดยเฉพาะในท้าย ๆ กับฉากอารมณ์ที่ทั้งสองผลัดกันสื่อสารกันไปมา ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ก็น่าเสียดายว่าจุดดีเพียงเล็กน้อยเท่านี้นั้น ไม่สามารถลบล้างความสะเปะสะปะของหนังลงไปได้

ขณะที่ “บีม กวี” ที่ถือว่ากลับมาขึ้นจอใหญ่เล่นหนังอีกครั้งในรอบหลายปี ก็มาด้วยบทที่เหมือนมาเป็นตัวเสริมที่จริง ๆ ไม่ต้องมีก็ได้ บางจุดก็ดูไปได้กับแคสติ้งของ แดน-แพทตี้ แต่บางจุดจะใส่เข้ามาเป็นเชื่อมก็ยังดูโดด ๆ และขัดแย้งชอบกล แม้จะใส่คาแรกเตอร์ของเขามาให้เป็นอีกตัวละครที่มีมิติอยู่ไม่น้อย แต่มันยังดูไม่ค่อยเข้ากับหนังเรื่องนี้ จะว่าเป็นส่วนเกินของหนังก็ไม่ใช่ แต่ก็ยังเป็นบทบาทที่ไม่เข้ากับหนังทั้งเรื่องนี้อีกอยู่ดี ทวงคืนออนไลน์

รีวิว fearless love

รีวิว fearless love จากเนื้อหาหลักของเรื่อง สิ่งที่เราเห็นจากภาพยนตร์ ทวงคืน อย่างเด่นชัดคือการล้อเลียน ทั้งคู่รักเน็ตไอดอล คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมาทั้งที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง การสร้างภาพ การหาแสง ความสำคัญของยอดการเข้าถึง ล้วนเป็นภาพสะท้อนโลกปัจจุบันที่สื่อและโซเชียลมีเดียมีบทบาทต่อชีวิตคนมาก ยอดวิว ยอดไลก์ และยอดแชร์เป็นสิ่งที่ผู้คน โดยเฉพาะอินฟลูเอ็นเซอร์ทั้งหลายให้ความสำคัญมากจนเกิดปัญหา และความตลกร้ายของ ทวงคืน คือการล้อเลียนที่ดูเหมือนจะเป็นการล้อเลียนนักแสดงผู้รับบทบาทในภาพยนตร์เอง นับว่าเป็นอารมณ์ขันร้าย ๆ ที่ครีเอทีฟดีทีเดียว

อย่างที่หลายคนอาจได้เห็นจากตัวอย่างภาพยนตร์แล้วว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้รวมหลายสิ่งหลายอย่างไว้มากมายเหลือเกิน ทั้งความรัก ผี ความตลก การสะท้อนสังคม การล้อเลียน และมุกตลกที่พยายามอัปเดตให้เป็นปัจจุบันที่สุด แต่การใส่หลายประเด็นหลากอารมณ์ในระยะเวลาอันสั้นทำให้ ทวงคืน เป็นยำใหญ่ที่รสชาติยังไม่กลมกล่อมนัก และอาจทำให้คนดูรู้สึกเบื่อไปตั้งแต่ครึ่งแรกของภาพยนตร์ หรือสับสนว่าควรรู้สึกสนุกหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่รับรสได้มากที่สุดในยำจานนี้ก็คือความพยายาม

กล่าวคือภาพยนตร์มีการนำเสนอเหตุการณ์ในบางช่วงที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก เพื่อให้เรื่องราวของตัวละครสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างลื่นไหล มันจึงทำให้เราเกิดคำถามกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพอสมควร และส่วนที่อาจผิดหวังได้หากตั้งความหวังไว้สูงเกินไปคือความตลกขบขัน ที่ดูเหมือนว่าผู้กำกับพยายามจะขับเน้นให้ภาพยนตร์ดูตลกมากเกินไปจนส่งผลให้บางมุกอาจดูฝืน ๆ ไปสักหน่อย ทวงคืน netflix

สรุปภาพยนตร์

โดยสรุปแล้วก็มีจุดที่ทำให้รู้สึกติดขัดอยู่บ้างในแง่ของมุกตลกขบขัน และการสร้างสถานการณ์ที่ดูไม่สมเหตุสมผล แต่โดยภาพรวมแล้ว ทวงคืน ก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีการนำเสนอที่แปลกใหม่ มีการใส่สัญลักษณ์บางอย่างผ่านการกระทำของตัวละครที่ชวนให้เราตีความ รวมถึงฉาก Jump Scare ที่สอดแทรกเข้ามาได้ตรงจังหวะ และที่สำคัญคือการกลับมารวมตัวกันบนจอภาพยนตร์อีกครั้งของศิลปินที่ทุกคนต่างคิดถึง

เอาเป็นว่า..เราสรุปให้ทุก ๆ คนได้ทราบว่า ทวงคืนเป็นหนังผีแกมตลกนะทุกคน ใส่ปมความรักซึ้ง ๆ เข้ามาบางหน่อย โดยภาพรวมนั้นยังถือว่าหนังไม่ได้มอบรสชาติที่อร่อยสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพอทานได้ แค่อาจจะต้องฝืนกลืนลงท้องไปสักนิด เพราะด้วยการหยิบเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ เข้ามาอย่างมากมายของหนังเรื่องนี้ ทำให้รสชาติยังไม่จัดจ้านและถึงที่สุดเพียงพอ เดี๋ยวหวาน เดี๋ยวเค็ม เดี๋ยวเผ็ด แบบสลับไปมาตลอด 2 ชั่วโมง

แม้ว่าการแสดงของทีมนักแสดงทั้งหมดจะค่อนข้างดีตามมาตรฐาน แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถช่วยยกระดับให้ ทวงคืน หลุดพ้นออกจากตราบาปของจังหวะหนังที่เกือบจะเละเทะไปได้ แม้ว่าหนังจะพยายามสื่อสารในความหมายของชื่อหนังอยู่เรื่อย ๆ แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นข้อความที่ยังไม่สามารถซื้อใจผู้ชมได้อยู่ดี และค่อนข้างเบาบางและความโดดเด่นไปสักหน่อย ก็บริโภคได้…แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลย ทวงคืนสนุกไหม

รีวิว ภาพหวาด

รีวิว ภาพหวาด

หนังไทยมาใหม่ เขาว่ากันว่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้นั้น ได้เค้าโครงมาจากเรื่องจริง โดยแต่เดิมทีหนังเรื่องนี้นั้นบทหนัง คือบทภาพยนตร์จากทางเกาหลีที่เป็นตัวต้นฉบับ ซึ่งเป็นธรรมเนียมการปฏิบัติของการสร้างหนังภายใต้ชายคาของบริษัทอย่างซีเจ เมเจอร์ และได้บริษัทร่วมทุนสร้างไทย-เกาหลีที่เคยมีงานภาพยนตร์มาแล้ว 4 เรื่อง และ กับ ‘ภาพหวาด’ ที่บทภาพยนตร์ร่างแรก ๆ ได้นักเขียนบิ๊กเนมอย่าง เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ มาเริ่มโครงการดัดแปลงบทก่อนจะได้ทีมใหม่ทั้ง อรอุษา ดอนไสว, ปัญญ์ หอมชื่น และ สุรพงษ์ เพลินแสง ที่มารับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกหลังสร้างชื่อจากวงการโฆษณา ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ใครชอบหนังไทยสยองขวัญลองรับชม Cracked ภาพหวาด ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับ สุรพงษ์ เพลินแสง ได้นักแสดงหนุ่มหล่อ นิชคุณ 2PM ประกบคู่กับสาวแพต ชญานิษฐ์ รอยแตกปริศนาในภาพวาดนำมาซึ่งความสยองขวัญ หลอนติดตา ชวนขนหัวลุก น่าดูแค่ไหนไปติดตามกับรีวิวนี้กันค่ะ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว ภาพหวาด

รีวิว ภาพหวาด

รีวิว ภาพหวาด หนังเริ่มต้นที่นิวยอร์กด้วยเสียงบทสนทนาระหว่าง รุจา (รับบทโดย แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พยายามโทรไปยืมเงินใครบางคนเพื่อนำมารักษาดวงตาของ ราเชล (รับบทโดย นีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน) ลูกสาวตัวน้อยของเธอก่อนตาจะบอด หลังสิ้นไร้หนทาง ประตูห้องของเธอก็ถูกเคาะโดยคุณอา (รับบทโดย ปู-สหจักร บุญธนกิจ) ที่เรียกเธอให้กลับเมืองไทยเพื่อจัดการเรื่องมรดกที่พ่อของเธอทิ้งไว้ให้ก่อนตาย

และ เป็นบ้านหลังเดิมที่เชียงใหม่ท่ามกลางบรรยากาศฉ่ำแฉะด้วยห่าฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่่งโดยหนึ่งในมรดกที่เธอจำต้องจัดการเพื่อขายต่อคือภาพ “Portrait of a Beauty” มูลค่ามหาศาลที่แอบซ่อนความทรงจำอันเลวร้ายภายใต้ชายคาบ้านของเธอแต่เมื่อภาพที่จะกลายเป็นทุนสำหรับผ่าตัดตาของราเชลเกิดความเสียหาย เธอจำเป็นต้องให้ช่างซ่อมแซมภาพ (รับบทโดย นิชคุณ หรเวชกุล) เข้ามาบูรณะให้สมบูรณ์แต่มรดกที่เธอกำลังได้รับอาจมาพร้อมความลับสุดสยองที่หลอกหลอนอยู่ในครอบครัวของเธอเอง

เรื่องย่อ ภาพหวาด

รีวิว ภาพหวาด

บอกเล่าเรื่องราวของรุจา (แพต ชญาณิษฐ์) คุณแม่ยังสาวของ ราเชล (นีน่า ณัฐชา) ลูกสาวตัวน้อยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดดวงตาอย่างเร่งด่วน จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก เมื่อได้รับการติดต่อให้รับมรดกเป็นภาพวาดราคาแพงสองภาพ รุจาจึงจำใจกลับเชียงใหม่ มายังบ้านอาถรรพ์สุดลึกลับ บ้านที่เธออยากหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะรอยร้าวในภาพวาดทำให้เธอไม่สามารถขายภาพได้ทันที ระหว่างการซ่อมแซม เธอต้องเจอกับประสบการณ์สยองขวัญต่าง ๆ มากมาย รุจาจะสามารถรอดพ้นจากความน่ากลัวนี้ได้หรือไม่ ต้องไปติดตาม ภาพหวาด ดูหนัง

วิจารณ์หนัง ภาพหวาด

รีวิว ภาพหวาด

หนึ่งในจุดเด่นมาก ๆ ของ ‘ภาพหวาด’ คือการใช้งานศิลปะมาองค์ประกอบในการเล่าเรื่อง ทั้งการเป็นโมทีฟ (Motif) ที่ใช้ซ้ำ ๆ ในการเล่าเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะรอยแตกของภาพที่หนังค่อย ๆ ยั่วให้เราอยากรู้ปริศนาเบื้องหลังของมันอีกทั้งมันยังตอบโจทย์เรื่องราวอันเกี่ยวพันกับเรื่องราวในวัยเด็กของรุจา และ เป็นวัยเด็กของรุจานี่เองที่ทำให้รู้สึกเลยว่าบทหนังเองก็แอบซ่อนการวิพากษ์เรื่องที่ไม่มีใครกล้าพูดในประเทศนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียนไม่แพ้กัน

แม้ว่าบทหนังเองจะไม่ได้ใหม่มาก แต่พรหมแดนบางอย่างหนังก็กล้าข้ามได้อย่างน่าชื่นชมโดยเฉพาะประเด็นปิตาธิปไตย เมื่อครอบครัวอยู่ใต้อำนาจของชายบ้าคลั่งที่เอาศิลปะมาเปฺ็นข้อต่อรองทั้งการเป็นศิลปินหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และ ผู้สร้างสรรค์งานที่คุกคามสวัสดิภาพในชีวิตซึ่งหากมองให้ลึกแล้วเปลี่ยนบริบทจาก “ศิลปินใหญ่” มาเป็น “คนใหญ่คนโต” และ วีรกรรมที่เป็นที่ร่ำลือกันแล้วล่ะก็ความสยองคงไม่ได้หมายถึงเพียงเรื่องราวบนจอเท่านั้น ซึ่งก็ต้องอาศัยประสบการณ์ว่าคุณ “เก็ต” กับสิ่งที่หนังพยายามบอกหรือเปล่าเท่านั้นเอง

ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังให้รุจาเป็นตัวแทนของคนในสังคมไทยที่พอมาคิดดูก็ชวนเจ็บแสบไม่น้อยเลย เพราะด้วยประโยค “ถ้าเราทำเป็นไม่เห็นมัน มันก็ทำอะไรเราไม่ได้” ซึ่งแม้ประโยคนี้จะมีโผล่มาในตัวอย่างแต่ตัวหนังจริงบอกได้เลยว่าประโยคนี้แทบจะทำให้เราเห็นภาพความรุนแรงในสังคมไทยที่เราได้แต่ทำเป็นหลับตาแล้วคิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นหรือที่บรรดากลุ่มผู้ประท้วงในสังคมไทยเรียกว่า “พวกอิกนอร์แรนซ์” นั่นแหละ ซึ่งก็ทำให้ความสยองของ “ภาพหวาด” มีมิติด้านสังคมการเมืองแบบเปรียบเปรยหรืออัลเลอร์กอรี (Allegory) ได้อย่างน่าสนใจ

แต่แล้วความน่าสนใจของหนังก็ค่อย ๆ เกิดรอยร้าวรอยรั่วที่ลุกลามไปเรื่อย ๆ ด้วยท่าบังคับของการเป็นหนังผีทั้งความตุ้งแช่ที่มาพร่ำเพรื่อ และ ที่สำคัญคือปมที่ปูไว้ตอนต้นอย่างการหาเงินไปรักษาตาของลูกก็ดูจะกลืนหายเหมือนสีที่ถูกขูดออกจากภาพ “Portrait of a Beauty” จนยอมรับเลยว่ามันเกือบทำให้หนังเป๋ ๆ ไปบ้างเหมือนกันในช่วงกลางเรื่อง แต่แล้วตัวหนังก็กลับมาทำคะแนนได้อีกครั้งในองก์สุดท้ายที่ผู้กำกับแทบจะเดิมพันหมดหน้าตักพลิกผันจากดราม่าสยองขวัญกลายเป็นทริลเลอร์ได้แบบวัดไปเลยว่าคนดูจะชอบหรือชัง แต่ที่แน่ ๆ คืออย่างน้อยตอนจบของหนังก็เมกเซนส์พอสำหรับปมต่าง ๆ ที่ปูมาแม้ว่าจะมีบางปมหนังยังเล่าไม่เคลียร์ และ ตัดจบไปอย่างน่าเสียดายก็ตาม ภาพหวาด เต็มเรื่อง

รีวิว ภาพหวาด

รีวิว ภาพหวาด ภาพยนตร์ Cracked ภาพหวาด (2022) เป็นผลงานจากค่าย CJ Major Entertainment เป็นหนังไทยงานอินเตอร์เพราะเป็นการร่วมทุนระหว่าง ไทย เกาหลี ไต้หวัน และ สิงค์โปร์ เล่าเรื่องของรุจา คุณแม่ยังสาวที่ต้องกลับมายังบ้านเก่าที่เธอและ แม่กลัวมากจนหนีไปจากที่นี่กว่า 10 ปีแล้ว การกลับมาอีกครั้งทำให้เธอ และ ลูกต้องเจอเรื่องประหลาดต่าง ๆ มากมาย ผ่านรูปภาพที่ได้รับเป็นมรดก เป็นที่มาของชื่อเรื่อง ภาพหวาด เนื้อเรื่องหลัก ๆ ก็ประมาณนี้

หนังเล่าเรื่องได้น่าติดตาม ค่อย ๆ เปิดปมมาทีละนิดทำให้อยากรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้แพตต้องหนีไปให้ไกลจากบ้านหลังนี้ มีปริศนาชวนให้สงสัยใคร่รู้มากมาย ทั้งภาพวาด รอยร้าว กระท่อมกลางป่า งู แต่ละอันชวนหลอนทุกอัน บวกกับคาแรกเตอร์ของเด็กน้อยราเชล ที่สายตามีปัญหา เวลามองผ่านมุมมองของเธอก็ยิ่งทำลุ้นระทึก

ความหลอน ใช้ได้เลยนะ มีซีนสะดุ้งหลายซีน ความน่ากลัวแบบกลัวจนอยากปิดตาก็มี ผ้าคลุมขาว ๆ มันทำให้หลอนสติหลุด ขนหัวลุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในเรื่องแต่ละตัวละครตั้งแต่แม่บ้าน รุจา ลูกสาว ชวนหลอน ทำขวัญผวาเกือบตลอดเวลา แต่หนังผี อย่าถามหาความเป็นเหตุเป็นผล มันอธิบายไม่ได้อยู่แล้ว ภาพหวาด นักแสดง

สรุป ภาพหวาด

จุดเด่นของเรื่องนี้คือภาพสวย ให้ความหลอนเต็มพิกัดทั้งบ้านเก่าเต็มไปด้วยฝุ่น และ ห้องอับ ๆ สตูดิโอที่เก็บภาพอาถรรพ์ รวมทั้งป่ารกร้าง กระท่อมกลางป่า บวกกับเอ็ฟเฟกต์ CG คุณภาพเยี่ยม และ เสียงสุดหลอน คนจิตอ่อน ต้องพิจราณาให้ดีก่อนรับชม ภาพหวาด pantip

ถ้าชอบหนังสยองขวัญไทย งานภาพสวย ดำเนินเรื่องน่าติดตาม น่าจะถูกใจ Cracked ภาพหวาด (2022) หนุ่มนิชคุณแสดงดี ส่วนนางเอกสาวแพตก็ดูหลอนได้เรื่อง ทุกอย่างมีอาถรรพ์ ทั้งบ้าน ทั้งภาพ ทั้งงู หวาดผวากันต่อเนื่อง จัดเป็นหนังผีที่สยองได้ที่ ใครชอบแนวสยองขวัญไม่พลาดกันนะ ให้คะแนน 7/10 สามารถรับชมได้ทาง Netflix หนังยาว 1 ชั่วโมง 32 นาที ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน และ อุปกรณ์ที่รองรับ หรือกล่อง TrueID TV โดยส่วนตัวผมขอให้ 6/10 ครับ

เรื่อง : Cracked ภาพหวาด (2022)
ประเภท : ภาพยนตร์สยองขวัญ น่ากลัว สุดหลอน
นักแสดง : นิชคุณ, แพต ชญานิษฐ์, นีน่า ณัฐชา
ระยะเวลาการรับชม : 1 ชั่วโมง 32 นาที
ช่องทางการรับชม : Netflix
คะแนนจากผู้เขียน : 7/10

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

หนังไทยnetflix สวัสดีครับวันนี้ผู้เขียนมีหนังไทยมาแนะนำกันครับ เป็นหนังไทยปีนี้ เรื่องราวความคึกคะนองของวัยรุ่น 16 ห้าว 19 เดือด – ต่อกันด้วยอีกหนึ่งโปรแกรมหนังไทยที่ส่งมาลงโรงฉายในช่วงวันสงกรานต์ปี กับหนังดราม่าแอคชั่นวัยเรียนที่ระบุว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอดีต

กับกลุ่มวัยรุ่น จ.เชียงใหม่ และปฐมบทของหนัง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย ใน “16 ห้าว 19 เดือด” (My True Friends: The Beginning) หนังเหมือนจะเจริญรอบตามความสำเร็จจากหนังไทยแนว ๆ เดียวกันเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่คราวนี้มาพร้อมกับทัพนักแสดงวัยรุ่นเลือดใดคับคั่ง นำทีมมาโดย “ริว วชิรวิชญ์” พระเอกหน้าใหม่สุดฮอต ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง และเมื่อคืนวานนี้ (11 เม.ย.) ชิกเนเจอร์ และ เอ็ม พิคเจอร์ส ได้ฤกษ์จัดฉายรอบปฐมทัศน์โลกของหนัง 16 ห้าว 19 เดือด อย่างเป็นทางการ ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน โดยมีแขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และแฟน ๆ กลุ่มแรกที่มีโอกาสได้พิสูจน์ชมหนังเรื่องนี้เป็นกลุ่มแรก ๆ

โดยฟีดแบกแรกที่ออกมานั้น หลายเสียงระบุว่าเป็นตัวหนังกับทีเซอร์หนังค่อนข้างแตกต่าง เพราะเนื้อแท้เป็นการเล่าดราม่าเชิงมิตรภาพมากกว่าจะต่อยตีกัน และเป็นการตีแผ่ในยุค 80s ได้ออกมาค่อนข้างน่าพอใจในระดับที่พอรับได้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

รีวิว 16ห้าว 19เดือด เรื่องราวปฐมบทของหนังเรื่อง “มึงกู ​เพื่อนกันจนวันตาย” ที่เคยออกฉายไปตั้งแต่ปี 2555 ผลงานการกำกับของ อัศจรรย์ สัตโกวิท โดยค่ายพระนครฟิล์ม โดย 16 ห้าว 19 เดือด จะเป็นเหตุการณ์ที่ตัวเอกของเรื่องอยู่ในห้วงชีวิตสมัยมัธยมกัน (ริว – วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล)

เด็กหนุ่มที่สูญเสียพ่อแม่ไปในอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำ ทำให้เขาต้องคอยเลี้ยงดูน้อง ๆ ถึง 3 คน ในฐานะพี่ชายคนโต เขาจึงจำเป็นต้องแบกรับความคาดหวังเอาไว้ต่าง ๆ นานา กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยในโรงเรียน ซึ่งกันทำเพื่อปกป้องน้อง ๆ ส่งผลให้ตัวเองถูกไล่ออกมาจากโรงเรียนก่อนจะจบชั้นม.3

ท่ามกลางความดูแลของปู่และย่า ที่ไม่เข้าใจในตัวกัน และมองว่าหลานตัวเองเป็นเด็กเกเรไม่รักดี แต่แทนที่กันจะมานั่งอธิบายความจริง เขาก็เลือกที่จะเงียบและกลายเป็นคนผิดในสายตาของคนอื่นเพื่อปกป้องน้อง ๆ ของตัวเอง จนกระทั่งกันย้ายไปเรียนที่ใหม่ในเชียงใหม่

ทำให้เขาได้พบกับสาวสวยอย่าง ปรินซ์ (มิย่า-พิชชา ทองเจือ) และแอบตกหลุมรักที่ได้ทำความรู้จักทว่ากิตติศัพท์การมีเรื่องมีราวของกัน ทำให้ ก้า (โดม-เพชร ธำรงชัย) ไม่ชอบขี้หน้าของกันตั้งแต่แรกเห็น ทำให้ทั้งสองมักจะมีเรื่องกันในช่วงแรก ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ เมื่อปรับความเข้าใจกันได้ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปโดยปริยาย

ความวุ่นวายในรั้วโรงเรียนตามประสาวัยรุ่นไปจนถึงการไม่ชอบขี้หน้าและนำไปสู่การยกพวกตีกันระหว่างอันธพาลรุ่นใหญ่ ลามเลยไปจนถึงหัวโจกของแก๊งดังในเมืองเชียงใหม่ กันในฐานะหัวหน้าแก๊งสเปิร์มที่ทั้งรูปหล่อ มีเสน่ห์และเก่งในเรื่องการชกต่อยเพราะมีพื้นฐานเรื่องมวย จึงอดทนไม่ได้ในทุกครั้งที่เขาเห็นคนอ่อนแอถูกรังแก ส่งผลให้เหล่าวัยรุ่นพวกนี้ไม่มีใครยอมใคร

เรื่องย่อ 16ห้าว 19เดือด

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

16 ห้าว 19 เดือด เป็นเรื่องราวของคำว่า “เพื่อน” และ “มิตรภาพ” ระหว่างลูกผู้ชาย จุดเริ่มต้นของ “เพื่อนแท้” ที่จะคบกันไปจนวันตาย “กัน” เด็กหนุ่มที่ไม่คิดว่า การมีเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญ ได้ย้ายโรงเรียนมาเจอกับมิตรภาพครั้งใหม่ ที่เขาไม่เคยสัมผัส แต่เหมือนเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา บทพิสูจน์ของเพื่อนแท้จะนำมาซึ่งความอบอุ่นของมิตรภาพ ที่คุณคาดไม่ถึง 16 ห้าว 19 เดือด เรื่องย่อ

การดำเนินเรื่อง 16ห้าว 19เดือด

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

หลังจากสูญเสียพ่อแม่อย่างกระทันจากอุบัติเหตุรถคว่ำ!! กัน ต้องดูแลน้องทั้งสาม กาย เก้อ กิ๊ง แทนพ่อแม่ที่จากไป การปกป้องน้องที่โดนรังแกทำให้กันโดนไล่ออก กันย้ายมาเรียน ม.5 เทอม2 ที่โรงเรียนใหม่ ด้วยความหน้าตาดี มีรถยนต์ขับมาเรียน ทำให้นักเรียนหญิงพากันกรี๊ดกร๊าด

สร้างความไม่พอใจให้กับ ก้า หัวโจก ก้ากลั่นแกล้งกันทุกทางและสั่งห้ามใครยุ่งเกี่ยวหรือคบกันเป็นเพื่อน ทำให้นักเรียนทุกคนไม่กล้าเข้าใกล้กัน จะมีก็แค่ ปริ๊นซ์ เด็กสาวหัวหน้าห้อง ที่เห็นใจและคบกันเป็นเพื่อน การที่กันโดนรังเกียจสร้างทำให้เขาไม่อยากยุ่งกับใคร กันตั้งใจว่าต่อไป ในชีวิตเขาไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน เพราะคงไม่มีใครจริงใจกับเขา

ช่วงปิดเทอม กันกับปริ๊นซ์ชอบไปเที่ยว “ลานสเกต” ซึ่งเป็นสถานบันเทิงสุดฮิตของวัยรุ่นยุคนั้น ทำให้ต้องมาเจอ ก้ากับ แชมป์ ที่ชอบมาเที่ยวเช่นกัน ก้าเข้าไปหาเรื่องกันอีกจนเกิดชกต่อยขึ้น แต่สุดท้ายปริ๊นซ์ก็เคลียร์จนทุกคนเข้าใจกันได้ และกลายเป็นเพื่อนกันวันหนึ่ง

ระหว่างกันพาปริ๊นซ์ไปขับรถเล่นนอกเมือง ปริ๊นซ์ถูก เปา ยิปซี หัวโจกแก๊งไนท์บาซ่ากับลูกน้องลวนลาม กันใช้ประแจฟาดหัวเปาจนแตก หลังจากวันนั้นทำให้กันต้องมีศัตรูเพิ่มเป็นสองด้าน

เปา ยิปซีสั่งให้ เบียร์ กับลูกน้องออกตามล่ากัน จนทำให้เพื่อน ๆ ของกันโดนทำร้าย กันเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุจึงตัดสินใจไปหาเปา ยิปซีถึงถิ่นเพื่อจบปัญหาที่ตัวเองสร้างขึ้น และ นี้คือจุดเริ่มต้น “มิตรภาพ” ระหว่าง “ลูกผู้ชาย” ก่อนจะสร้างตำนานคำว่า “เพื่อนแท้” ที่คบกันไปจนวันตาย 16 ห้าว 19 เดือด pantip

รีวิว 16ห้าว 19เดือด

รีวิว 16ห้าว 19เดือด สิ่งที่น่าสนใจของ 16 ห้าว 19 เดือด คือหนังดำรงตำแหน่งเป็นพรีเควลของ มึงกู ​เพื่อนกันจนวัน โดยเรื่องหลังนักแสดงที่มารับบทกันก็คือ หนุ่มหล่ออย่างมาริโอ้ เมาเร่อ แม้จะไม่ได้ดูเรื่องหลังมาก่อน หนังก็ไม่ได้ยากต่อการทำความเข้าใจ น่าเสียดายที่หนังมีการเลือกโลเคชั่น รวมไปถึงการเซทอัพฉากหลัง

บริบทโดยรวมให้เป็นยุคสมัย 80 อาทิ ลานโรเลอร์สเกต เพลงป๊อปวัยรุ่น เสื้อผ้าการแต่งตัว เรียกว่ามีการค้นคว้าทำการบ้านมาอย่างดี แต่ปัญหาหลักใหญ่ ๆ ของเรื่อง คือหนังมีลักษณะของการเป็น “ทีวีซีรีส์” ที่เล่าแต่ละฉากเป็นห้วง ๆ ไม่ค่อยเชื่อมโยงกัน

ยังไม่รวมไปถึงตัวละครในหนังที่เยอะแยะไปหมด ยังไม่รวมไปถึงเมื่อไหร่ก็ตามที่หนังมีเพลงประกอบฉาก ก็ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังนั่งดูมิวสิกวิดีโอยังไงอย่างนั้น 16 ห้าว 19 เดือด นักแสดง

บทสุป 16ห้าว 19เดือด

16 ห้าว 19 เดือด เป็นเรื่องราวของคำว่า “เพื่อน” และ “มิตรภาพ” ระหว่างลูกผู้ชาย จุดเริ่มต้นของ “เพื่อนแท้” ที่จะคบกันไปจนวันตาย “กัน” เด็กหนุ่มที่ไม่คิดว่า การมีเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญ ได้ย้ายโรงเรียนมาเจอกับมิตรภาพครั้งใหม่ ที่เขาไม่เคยสัมผัส แต่เหมือนเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา บทพิสูจน์ของเพื่อนแท้จะนำมาซึ่งความอบอุ่นของมิตรภาพ ที่คุณคาดไม่ถึง

แต่น่าเสียดายที่ 16 ห้าว 19 เดือด ออกฉายหลังจากหนังอย่าง 4Kings ที่พูดถึงความรักของเพื่อนพ้องในประเด็นเดียวกัน แต่เรื่องหลังทำได้เข้าถึงและซึมเนื้อในถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารให้กับคนดูมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว 16 ห้าว 19 เดือด ไม่ได้ถือเป็นหนังที่เลวร้าย และน่าจะตอบโจทย์แฟนคลับของนักแสดงนำในเรื่องได้เป็นอย่างดี 16 ห้าว 19 เดือด ตัวอย่าง

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

หนังไทยมาใหม่ เรียกได้ว่าเป็นหนังไทยที่มาแรงจริง ๆ ครับสำหรับช่วงนี้นั้น สำหรับวงการซีรีส์ไทยในปีนี้ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ โดยในหลายค่ายต่างปล่อยซีรีส์พล็อตน่าสนใจออกมาเสิร์ฟให้แฟน ๆ ได้เลือกชมอย่างต่อเนื่อง ทาง Korseries ก็ไม่พลาดที่จะยกซีรีส์วัยรุ่นรีเมค ‘Romantic Blue The Series โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะ ซีรีส์’ ที่เกิดจากความร่วมมือของ ช่อง 8 และ แพลตฟอร์มวีดีโอออนไลน์ชื่อดังจากจีน iQIYI (อ้ายฉีอี) มาสรุปภาพรวมของ 2 ตอนแรกให้ได้รับชมกัน ส ปอย หนัง ใครที่คิดว่ากำลังจะดูดีไหม? หรือไม่ดูดี? จะน่าติดตามแค่ไหน ตามมาอ่านกันได้เลย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เป็นซีรีส์รีเมคจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันที่ถูกฉายในปี 2538 ซึ่งได้ความนิยมอย่างล้นหลามจนทำกำไรจากการฉายไปมากกว่า 45 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินนี้สำหรับ 24 ปีที่แล้วถือว่าไม่น้อยเลย! เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ฮอตฮิตสำหรับวัยรุ่นไทยในยุคนั้น จนส่งให้เรื่องนี้กวาดรางวัลจากรางวัลภาพยนต์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2538 ไปถีง 8 รางวัลกันเลยทีเดียว ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

เรื่องย่อ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงรักสามเศร้าระหว่าง ไม้ (รับบทโดย โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ) พี่ชายคนโตของบ้านที่เป็นผู้ให้มาตลอดชีวิต และ มีภาระหน้าที่ต้องหาเงินเพื่อรักษาพ่อที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ เม่น (รับบทโดย สิงโต-ปราชญา เรืองโรจน์) น้องชายที่ป่วยเป็นโรคร่างกายผลิตเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยความที่โดนพี่ชายตามใจมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เป็นคนเอาแต่ใจ และ กล้าพูดความต้องการของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน

และ สุดท้าย เด็กสาวผู้เข้ามาครอบครองพื้นที่หัวใจของ 2 พี่น้องโดยไม่รู้ตัวอย่าง ป้อน (รับบทโดย น้ำตาล-ทิพนารี วีรวัฒโนดม) นักเรียนสาวหน้าตาดี ที่บังเอิญเจอไม้ครั้งแรกที่ร้านเครื่องเขียน เธอ และ ไม้ต้องการลูกโลกใบเดียวกันจนเกิดการยื้อแย้งลูกโลกใบนั้น และ แม้เธอจะได้ลูกโลกใบนั้นมา แต่ป้อนก็หวังว่าถ้าได้เจอไม้อีก เธอจะมอบลูกโลกใบนี้ให้กับเขา

ไม่นานเกินรอ ป้อนก็ได้พบกับไม้อีกครั้ง เธอเข้าใจผิดว่าไม้กำลังงัดรถพ่อของเธออยู่ จนพ่อของเธอต้องรีบเข้ามาห้าม และ บอกให้รู้ว่า ไม้กำลังช่วยปลดล็อครถให้อยู่ต่างหาก แม้จะหน้าแตกแต่ป้อนก็ต้องแกล้งโวยวายกลบเกลื่อน และ ได้มอบลูกโลกที่ยื้อแย่งกันอยู่บนรถเป็นของตอบแทนที่ไม้ช่วยพ่อของเธอเอาไว้ จนเกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ในใจของพวกเขาขึ้นมา

ในขณะเดียวกัน เม่นที่บังเอิญเจอป้อนก็ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง จนป้อนได้รู้ว่าเม่นกับไม้เป็นพี่น้องกัน เธอจึงสบโอกาสที่จะเข้าใกล้ไม้ผ่านน้องชายคนนี้

ในขณะที่เรื่องราวความรักกำลังเข้มข้น ปมปัญหาในชีวิตก็รุมเร้าไม้ไม่ต่างกัน เพราะพ่อล้มป่วยกะทันหันทำให้ไม้เริ่มเดินเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมเพื่อหาเงินมารักษาพ่อ ด้วยการเข้าร่วมแก๊งขโมยรถกับ โต (รับบทโดย เต๋า-สมชาย เข็มกลัด) ผ่านการแนะนำของพี่ชายร่วมอู่ซ่อมรถพ่ออย่าง โบ้ (รับบทโดย โมทย์-ปราโมทย์ แสงศร)

และ ในตอนที่ไม้กำลังเลือกเส้นทางผิด ป้อนก็พยายามเข้าใกล้ และ ช่วยให้ไม้กลับมาเดินในทางที่ถูกต้อง จนทำให้เม่นรู้ว่าป้อนกับไม้มีใจให้กัน และ รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกหักหลัง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์ นักแสดง

นักแสดง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

นอกจากนี้ยังมีการนำนักแสดงของเวอร์ชันปี 2538 มาร่วมแสดงในเวอร์ชันล่าสุดด้วย โดย เต๋า-สมชาย เข็มกลัด ผู้เคยรับบท ไม้ มารับบท โต หัวหน้าแก๊งขโมยรถสุดโฉด โมทย์-ปราโมทย์ แสงศร ผู้เคยรับบท เม่น มารับบท โบ้ พนักงานอู่ซ่อมรถผู้ชักชวนให้ไม้เข้ามาสู่เส้นทางการขโมยรถนี้ และ นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้เคยรับบท ป้อน มารับบท อนงค์ ใครที่เกิดไม่ทันหรือยังติดใจเวอร์ชันเก่าอยู่ ถือเป็นฤกษ์ดีที่จะมาดูเรื่องนี้อีกครั้งเลย โลกทั้งใบให้นายคนเดียวเดอะซีรีส์ ep 5

ไม้ : โอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ
เม่น : สิงโต-ปราชญา เรืองโรจน์
ป้อน : น้ำตาล-ทิพนารี วีรวัฒโนดม
โต : เต๋า-สมชาย เข็มกลัด
โบ้ : โมทย์-ปราโมทย์ แสงศร
อนงค์ : นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา
ทิว : ทนงศักดิ์ ศุภการ
เจ็กซ้ง : ปริญญ์ วิกรานต์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

รีวิว โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์ ความน่าสนใจของเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ แม้จะเป็นพล็อตยุค 90s ที่ทุกคนคุ้นชิน และ เคยดูมาแล้ว แต่ต้องบอกว่าทีมงานทำการบ้านมาได้ดีมากเลยทีเดียว สำหรับการผสมผสานบรรยากาศของยุค 90 และ วิถีชีวิตของคนในปี 2563 ออกมาได้อย่างกลมกลืน และ ไม่รู้สึกแปลก ทีมงานยังคงใช้รถรุ่นเก่าอย่าง Benz 1964 เพื่อคงความคลาสสิกของเรื่องเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการแชร์ข่าวซุบซิบผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คงหาไม่ได้ในสมัยก่อนแน่ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว 2020 ทุกตอน

สรุป โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์

มาถึงตอนนี้แล้วหลายคนเห็นถึงความดราม่าที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหากันแล้วใช่ไหม~ ถ้าใครชอบเรื่องราวความรักสามเศร้าสุดเข้มข้นจากซีรีส์เรื่อง Hwarang หรือ Reply 1988 ที่พระเอก และ พระรองต่างสนิทสนมกัน แต่ต้องมาทำคะแนนเพื่อชิงหัวใจผู้หญิงที่พวกเขารัก บอกได้เลยว่าคุณมาถูกทางแล้ว เพราะแค่ 2 ตอนแรกก็เห็นเค้ารางความดราม่าหน่วงหัวใจแล้ว!

บรรยากาศของความรักที่ต้องหักห้าม และ ความรักที่เจ็บปวดของทั้งสามคน จุดจบจะเป็นเช่นไร ติดตามชมกันต่อได้ใน โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะ ซีรีส์ ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.40 น. ทางช่อง 8, แอปพลิเคชัน iQIYI (อ้ายฉีอี้) และ เว็บไซต์ iQ.com โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะ ซีรีส์ เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2563 โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เดอะซีรีส์ ep 4

บทประพันธ์ : มนต์ศักดิ์ เกษศิรินทร์เทพ /ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล /ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ
บทโทรทัศน์ : องอาจ สิงห์ลำพอง
กำกับการแสดง : องอาจ สิงห์ลำพอง
แนวละคร : โรแมนติก ดราม่า
ผลิต : สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.40 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 และ แอปพลิเคชัน iQIYI (อ้ายฉีอี้) และ เว็บไซต์ iQ.com (ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งสมาร์ตโฟน และ แท็บเล็ตได้ใน App Store และ Google Play ไม่มีค่าใช้จ่าย)
ระยะเวลาออกอากาศ : ตอนแรกวันเสาร์ที่12 ธันวาคม 2563