รีวิว หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก
สวัสดีครับนี่คือหนังไทยอีกเรื่องที่ฮาขี้แตกเลยครับกับภาพยนตร์ หลวงพี่เท่ง หนังไทยย้อนยุค ที่มีอยู่ด้วยกันถึง 3 ภาค และครั้งนี้ ผู้เขียนจะมารีวิว หลวงพี่เท่ง ภาค 3 ให้สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยได้รับชมกัน ส ปอย หนัง หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ผลงานการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมาย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ มาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นน้อย วงพรู ที่มารับบทเป็น น้อย ในอดีตเขาเคยเป็นนักร้องหนุ่มมาดเซอร์ แต่เมื่อเขาเริ่มอยากพยายามจะหลีกหนีความวุ่นวาย และ ความจริงที่เขากำลังจะต้องเผชิญ เขาจึงเลือกทางที่หวังจะพบกับความสงบนั้นก็คือ การบวชเป็นพระ ซึ่งเมื่อเป็นพระแล้วเขาก็ยังเป็นพระที่ขวางโลก และ รักความยุติธรรมเช่นเดิม คนต่อมาคืออุ๋ย บูดาเบลส มารับบทเป็น พระประเสริฐ คนต่อมาคือโยกเยก เชิญยิ้ม มารับบทเป็น พระโยกเยก คนต่อมาคือโน้ต เชิญยิ้ม มารับบทเป็น ตาส่ง มัคนายกประจำวัด และ คนต่อมาคือเอ็ม บูดาเบลส และ แจ็ค แฟนฉัน ที่มารับบทเป็น เด็กวัดตัวแสบ ที่มักจะคอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่ประจำๆ โดยภาพยนตร์เรื่อง หลวงพี่เท่ง 3 The Holy Man III เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2553
รีวิว หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก
รีวิว หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2548 ภาพยนตร์เรื่องหลวงพี่เท่งได้ถูกฉายเป็นครั้งแรก ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ พระนครฟิล์ม และ กำกับภาพยนตร์โดย โน้ต เชิญยิ้ม ซึ่งทำรายได้จากการฉายไปมากถึง 141 ล้านบาท จนขึ้นแท่นเป็นหนังตลกของไทยเรื่องแรกที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท และ ติดอันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดในอันดับที่ 16 (เคยขึ้นไปสูงสุดในอันดับที่ 5) ทั้งยังเป็น 1 ใน 100 หนังไทยแห่งทศวรรษจากการสำรวจของนิตยสารไบโอสโคป
หลวงพี่เท่ง 3 หลวงพี่ เท่ ง 3 037 (อังกฤษ: Holy Man 3) เป็นภาพยนตร์ภาค 3 ของชุด “หลวงพี่เท่ง” ออกฉายเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553 กำกับโดย บำเรอ ผ่องอินทรกุล (โน้ต เชิญยิ้ม) โดยผู้แสดงเป็นหลวงพี่ในภาคนี้ คือ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือ น้อย วงพรู นักเรียนนอก และ นักร้องชื่อดังที่หันหน้าเข้าสู่ร่มเงาแห่งพุทธศาสนาเพื่อกล่อมเกลาจิตใจที่ว้าวุ่น และ หลีกหนีจากปัญหา โดยมีนิสัยเป็นคนขวางโลกนิดๆ แต่ก็มีความเข้าใจในหลักสัจธรรมหลายอย่าง
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “น้อย” (น้อย วงพรู) นักร้องหนุ่มมาดเซอร์ ที่พยายามจะหลีกหนีจากโลกที่วุ่นวาย และ ความจริงที่ตนเองได้รับ โดยหนทางที่เค้าเลือก เพื่อหวังจะพบกับความสงบนั้น คือ การเปลี่ยนแปลง จากนักร้องหนุ่มเป็นพระ พระน้อย ผู้ซึ่งยังคงมีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นพระขวางโลก รักความยุติธรรม พูดจากำปั้นทุบดิน เป็นคนตรงเหมือนไม้บรรทัด ที่มาบวชเพราะเบื่อสังคม เบื่อคนไทยไม่รักกัน เบื่อความแตกแยก
แต่เส้นทางในชีวิตเส้นนี้ของเค้าไม่เป็นไปดังหวัง เพราะในวัดที่เค้าบวช ยังมี “พระประเสริฐ” (นที เอกวิจิตร), “พระโยกเยก” (โยกเยก เชิญยิ้ม) มัคทายกประจำวัดของ “มัคทายกส่ง” (โน้ต เชิญยิ้ม) และ เด็กวัดตัวแสบ อีก 2 คนของ “เอ็ม” (กิตติพงษ์ คำสาตร์), “อู๊ด” (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) ที่คอยสร้างความวุ่นวายให้วัดอยู่เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นเค้ายังต้องพบกับเหตุการณ์อลม่านป่วนจิตจนต้องเข้าไปมีส่วนร่วม
ความรู้สึกหลังรับชม
อาจเป็นความโชคร้ายของหนังภาค 3 เรื่องนี้ด้วย ดู หนัง หลวงพี่ เท่ ง 4 ที่วางกำหนดฉายชนหนังภาค 3 คุณภาพยอดเยี่ยมอย่าง Toy Story เพราะฉะนั้นเมื่อดูสองเรื่องติดๆกัน จึงเกิดการเปรียบเทียบอย่างช่วยไม่ได้ และ กับหนังตลกเรื่องนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เดินตามสัจธรรม “หนังภาคต่อมักจะแย่กว่าหนังภาคแรก” แถมภาคนี้ไม่ใช่แค่ภาคต่อธรรมดา แต่อาศัยชื่อเรื่องหากินมาถึงภาค 3 เข้าไปแล้ว เพราะฉะนั้นคุณภาพจึงออกมาแย่ยกกำลังสามไปด้วย
โดยภาคนี้ได้ทีมนักแสดงใหม่ยกชุด และ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสองภาคแรกเท่าไหร่นัก ว่าด้วยพระบวชใหม่สองรูป ที่เข้ามาปกป้องทรัพย์สมบัติของวัดจากแกงค์ตัดเศียรพระ ขณะเดียวกันก็ศึกษาธรรมะ และ เทศน์สั่งสอนชาวบ้านให้ศรัทธาในศาสนาไปด้วย ซึ่งด้วยพล็อตเรื่องที่เบาบางว่างโล่งแบบนี้ จึงเปิดโอกาสให้หนังยัดมุขตลกแบบมุขชนมุขหากินได้ตลอดทั้งเรื่อง
ถ้าถามว่าหนังขำมั้ย ก็บอกได้ว่ามีส่วนที่พอจะทำให้หัวเราะได้อยู่บ้าง ขณะเดียวกันก็มีมุขที่ซ้ำซาก และ ฝืดสุดๆอยู่ด้วยปะปนกัน หนังทำออกมาค่อนข้างฉาบฉวย และ สะเปะสะปะ การลำดับเรื่องยังดูวกวน และ ให้อารมณ์ที่ไม่ต่อเนื่อง รวมทั้งมีฉากไร้สาระที่ใส่มาเพื่อยืดเวลาของเรื่องออกไปมาก ซึ่งที่แย่ก็คือฉากเหล่านี้ค่อนข้างน่ารำคาญ และ ดูถูกสติปัญญาคนดูพอสมควร แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นเีื่รื่องธรรมดาชาชินที่พบอยู่บ่อยๆ ในหนังตลกของพระนครฟิล์มก็ตาม
หนังพยายามแทรกประเด็นเรื่องการทำนุบำรุงศาสนา หรือถ่ายทอดกิจอันดีของสงฆ์เอาไว้ด้วย แต่ก็ทำได้เพียงผิวเผิน และ ไม่สามารถต่อยอดความคิดให้คนดูได้ เนื่องจากโดนมุขตลกในเรื่องกลบไปจนหมด
ดังนั้นหนังตลกเรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่คนดูไม่ได้อะไรติดกลับออกจากโรงไปเลย เว้นแต่ความบันเทิง คะแนนที่ผมมอบให้หลวงพี่เท่ง 3 จึงมาจากจังหวะดีๆในการยิงมุข และ ความบันเทิงแบบเบาๆเท่านั้น ส่วนเนื้อเรื่องต้องส่ายหัวว่าน่ากลุ้มใจจริงๆครับ
รีวิว หลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก
รีวิวหลวงพี่เท่ง 3 รุ่นฮาเขย่าโลก หลวงพี่เท่ง เป็นภาพยนตร์แนวตลก ดูหนัง หลวงพี่ เท่ ง เต็มเรื่อง เสนอวิถีชีวิตของชาวไทยในชนบทที่ละเลยศาสนาพุทธแต่ละกลับหันไปงมงายกับไสยศาสตร์ที่เกิดจากการหลอกลวง หลวงพี่เท่งพระหนุ่มที่พึ่งมาจำพรรษาที่วัดในชุมชนนี้จึงต้องต่อสู้กับความไม่รู้ และ ความงมงายของชาวบ้าน
สุดท้ายแล้วฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายมีชัย การเล่าเรื่องของเรื่องหลวงพี่เท่งดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่าย มีการสอดแทรกมุขตลกตามรสนิยมคนไทย ได้รับคำวิจารณ์ว่า เท่ง เถิดเทิง แสดงได้ดีมาก มุขตลกในเรื่องไม่ถึงกับตลกจนน้ำตาเล็ด แต่ก็สามารถดูได้อย่างคลายเครียดได้ และ มีข้อคิดอีกด้วย
แม้ว่าจะมีบางส่วนเห็นว่า หนังเรื่องดังกล่าวไม่สนุกเลย และ ไม่ตลก มีการตัดต่อก็กระโดดไปกระโดดมา ทั้งยังเป็นการนำวงการศาสนามานำเสนอในมุมที่ตลกโปกฮา แต่ถึงอย่างนั้นภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ คำวิจารณ์ และ ไม่มีปัญหาใดๆ จากการพิจารณาของกองเซ็นเซอร์ (ในขณะที่ภาค 2 และ 3 อาจจะมีการติดขัดบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ฉลุย)
บทสรุป
น่าจะบอกได้ว่าหนัง หลวงพี่ เท่ ง 2 เต็มเรื่อง หลวงพี่เท่ง 3 เป็นการรวมตัวของนักแสดงเยอะมาก แต่ทว่าน่าเสียดายที่ความเยอะนั้น ไม่ได้ช่วยเติมเต็มช่องว่างของหนังให้สมบูรณ์ ถึงแม้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา และ ความปรองดองมาเป็นที่ตั้ง ซึ่งดูจะเข้ากับกระแสสังคมในตอนนี้
แต่แปลกมันกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกลึกซึ้งไปกับเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอนี้เลย และ น่าเสียดาย “แอ๊ด คาราบาว” 1 ฉาก กับบัวลอย ที่ดูแล้วก็ไม่ได้ความรู้สึกเท่าที่ควร นอกจากขายสินค้า น่าจะให้มีอะไรมากกว่านี้ เพิ่มเนื้อหาในส่วนภููมิหลังความสัมพันธ์ของพระน้อยกับก๊วนฮาเล่ย์ให้มากขึ้น แล้วไปตัดส่วนที่เป็นตลกไม่จำเป็นออกจะดีกว่า