Category Archives: หนังไทยnetflix

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

หนังไทยย้อนยุค หากถามผมว่าส่วนตัวแล้วหนังแนวต่อสู้แอ็คชั่นบู๊ต่อสู้แหลกของไทยผมชอบเรื่องอะไร? ผมคงตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่าก็ต้องตมยำกุ้งเนี่ยแหละครับ ถึงจะเก่าแต่พี่จา พนม เขาเล่นฉากคิวบู๊ สุดจริงๆ แต่น่าเสียดายหนังแอคชั่นไทยๆ แบบนี้กลับทำได้แค่ครั้งเดียว ก่อนที่ค่อยๆ ลดมาตรฐานลงไปตามกาลเวลาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุที่หนังขาดจิตวิญญาณในแบบดั้งเดิมลงไปจนทำให้สุดท้ายหนังแนวนี้กลับกลายเป็นแค่หนังเตะๆ ต่อยๆ ที่แทบหาแก่นสารใดๆ ไม่ได้อีกเลย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีผลมาเรื่อยๆ ถึงตอนนี้ผมคงบอกได้ไม่เต็มปากว่า ต้มยำกุ้ง 2 นั้นยังหลงเหลือความเป็นภาพยนตร์อีกต่อไปอยู่หรือไม่ เพราะสิ่งที่ได้สัมผัสในต้มยำกุ้งภาคนี้นั้นก็เปรียบเสมือน Action Stunt Show หรือถ้าหากยังจัดหมวดหมู่ว่าเป็นภาพยนตร์แล้วนั้นคงต้องบอกว่าหนังคัลท์มาก ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ต้มยำกุ้ง 2 มีเนื้อเรื่องที่ดูเป็นเนื้อเรื่องมากกว่า ต้มยำกุ้ง อย่างชัดเจน ไม่ดูเป็น “ช้างกูอยู่ไหน” อีกต่อไป จนทั่วโลกเข้าใจไปว่าเรามีช้างเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านกันหมด แต่ถึงจะวางเนื้อเรื่องมาอย่างซับซ้อน แต่ความน่าเชื่อก็ยังดูน้อยเกินไป ผมเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องเชื่อมต่อเนื้อเรื่องมาจากต้มยำกุ้ง แต่ตรงนี้แหล่ะที่ถ้าได้วางเนื้อเรื่องใหม่ทั้งหมด จาไม่ได้เลี้ยงช้าง หม่ำไม่ได้เป็นตำรวจสากล เนื้อเรื่องมันจะน่าเชื่อถือมากกว่านี้มากมาย เอาตรงๆคือ ส่วนตัวไม่อยากได้ช้างเข้ามาเกี่ยวอีกแล้ว แต่จะให้ขามคนเลี้ยงช้างกลายเป็นหน่วยซีล ก็เป็นไปไม่ได้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2 ผ่านมา 8 ปี เพิ่งจะมีภาคสองกับเขา เมื่อผู้กำกับอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว หยิบเอาโปรเจ็กต์ที่พา จา พนม ไปอีกระดับขึ้นด้วยการมีนักแสดงจากต่างชาติมาร่วมด้วย มาสานต่อด้วย ‘ต้มยำกุ้ง 2’ ภาคที่สองที่ถ่ายทำในเมืองไทยล้วนๆ และยังเสริมทัพด้วยนักแสดงไทยอีกหลายหน้า โดยเฉพาะ จีจ้า ญาณิน และนักแสดงจากต่างชาติที่มาสมทบอีกมากมาย

เรื่องราวมันก็ผ่านมาเนิ่นนานจนแทบจะจดจำเนื้อหาของภาคแรกไม่ได้แล้ว นอกไปเสียจากวลีที่ติดปากไปเสียทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง “ช้างกูอยู่ไหน?” และฉากการต่อสู้ที่ถ่ายกันแบบลองช็อตอันน่าทึ่งฉากนั้น

นับเป็นโปรเจกต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมาของค่ายสหมงคลฟิล์ม และขึ้นแท่นหนังที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุดในไทยไปแล้วสำหรับ ต้มยำกุ้ง 2 3D ด้วยเม็ดเงินกว่า 500 ล้านบาท ทีมงานคงแบกความกดดันพอสมควร

ความสำเร็จทางด้านรายรับทั้งในไทยและตลาดโลกของหนัง ต้มยำกุ้ง ภาคแรก และการห่างหายไปนานของ จา พนม หรือ โทนี่ จา ที่เราไม่ได้เห็นหนังของเขามานาน จึงไม่แปลกที่ ต้มยำกุ้ง 2 จะถูกคาดหวังจากคนดูชาวไทยมากเป็นพิเศษ การเลือกทำเป็นหนังแอ็คชั่น 3 มิติ ก็คือสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการจะสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้กับตัวเอง รวมไปถึงการให้นักแสดงระดับโลกที่มีชื่อเสียงมาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ต้มยำกุ้ง 2-3D ไม่ได้มองเพียงแต่ลูกค้าชาวไทยแต่ยังมองไปถึงตลาดระดับโลกเป็นสำคัญ

หากไม่นับปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับ จาพนม หรือ โทนี่จา ต้มยำกุ้ง 2 ถ่ายทำกันได้ราบลื่น มีองค์ประกอบที่จะเป็นหนังฟอร์มยักษ์แห่งปี ทว่า เมื่อฟังบทสัมภาษณ์ของ ปรัญชา ปิ่นแก้ว ก่อนหนังเข้าฉาย นํ้าเสียงมีความกังวล ทั้งเรื่องงบประมาณบานปลาย บทหนังที่ถูกแก้แล้วแก้อีก

ก่อนหน้านี้ ต้มยำกุ้ง ภาคแรกถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องบทภาพยนตร์ที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ขายแต่แอ็คชั่น ภาคนี้ได้ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ (13เกมสยอง,หลุด4หลุด) มือเขียนบทชั้นดีของค่ายมาร่วมงาน กระนั้น กรอบที่ถูกตีว่าไม่เอาช้างทำให้หนังขาดธีมหลัก สุดท้ายทีมงานก็หันมาใช้ช้างเป็นหลักในการดำเนินเรื่องเหมือนเดิม ทำให้ต้องเขียนบทใหม่หมด ซึ่งต่อมาสร้างปัญหาให้หนัง ต้มยำกุ้ง2 พอสมควร

เรื่องย่อ

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

เล่าถึง ขาม (จาพนม) จากภาคแรกที่ไปบู๊สนั่นในประเทศซิดนีย์ซึ่งกลับมาเมืองไทยใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นคนเลี้ยงช้างในชนบท จนกระทั่งมีกลุ่มนายทุนมาขอซื้อช้างของเขา แน่นอนเขาไม่ขาย ไม่นานช้างของเขาก็ถูกขโมยไป (ตัวเบอเร่อเอาไปกันง่ายๆ) และภารกิจตามล่าช้างสุดขอบฟ้าจึงเริ่มต้นขึ้น ดูหนังใหม่ ต้มยํากุ้ง 3

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

บทของหนังดำเนินเรื่องเร็วยิ่งกว่าหนังรถแข่ง จนอดคิดในใจไม่ได้ว่าว่า นี่พวกคุณจะไม่หยุดคุยกันให้รู้เรื่องหน่อยเหรอ เนื้อหาของหนังไม่มีอะไรใหม่จากภาคแรกเลย ตัวละครก็ซํ้าเดิม ที่เพิ่มมาก็ไม่มีใครโดดเด่น ไม่อาจโทษคนเขียนบทคนเดียว เพราะหนังเรื่องนี้ถูกสร้างมาให้ขายแอ็คชั่น ฉากจึงมาก่อนบทสนทนา

ฉากต่อสู้หลายๆฉากเหมือนเคยผ่านตามาในหนังบู๊ของเครือสหมงคลหลายเรื่อง เพียงแต่เปลี่ยนโลเคชั่น ซึ่งเมื่อใส่แอ็คชั่นทุกอย่างที่มีลงมาหมดโดยไม่สนใจแก่นของหนัง มันจึงดูมั่วและเยอะมากเกินไป ทำให้ผมนึกถึงประโยคติดปากของผู้กำกับหลายคน 5 4 3 2 แอ็คชั่น! คือซัดกันลูกเดียวเลย

จึงเป็นอย่างที่เห็น ต้มยำกุ้ง 2 นอกจากจะไม่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังมีส่วนที่น่าเบื่อและชวนงงอยู่มาก หนังไม่มีความสมจริงเลย อาทิ ทำไมผู้ร้ายจงใจจะเอาช้างตัวนี้ให้ได้ ทั้งที่ถ้าเอาตัวอื่นที่เจ้าของไม่ดุขนาดนี้งานคงง่ายกว่า จาพนมฆ่าไม่ตายครับ เด็กแว้นเป็นร้อยทำอะไรไม่ได้ โดดตึกก็ไม่ตาย ตกสะพานก็ชิว ไฟช็อตแค่สั่นๆ (อีกนิดเดียวเป็น มาเชเต้ ล่ะ) ในเรื่องยิงกันหูดับตับไหม้แต่แทบไม่มีใครตายด้วยอาวุธปืนเลย องค์กรลับของMr.LCดูยิ่งใหญ่มาก แต่ไหงมีคนน้อยจัง นับเบอร์อื่นๆหายไปไหนหมด และอื่นๆอีกมากมาย ภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง 2

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2

รีวิว ต้มยำกุ้ง 2 กลับมาคราวนี้ พวกเขายังเลือกที่จะเล่าเรื่องในพล็อตเดิม คือ ขาม (โทนี่ จา / จา พนม / พนม ยีรัมย์ / ทัชชกร ยีรัมย์) ผู้เติบโตมากับช้างน้อยผู้เป็นเสมือนน้องรัก แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเศรษฐีมาขอซื้อช้าง เมื่อขามไม่ขายมันก็เลยถูกขโมย ตามท้องเรื่อง ขามก็จะต้องออกไปตามหาช้างของตนที่หายไป เมื่อเขาพบเจอผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้เอาช้างไป เขากลับพบว่าเศรษฐีผู้นั้นเสียชีวิตแล้ว

และนำมาซึ่งเงื่อนงำบางอย่างที่เกี่ยวกับประเทศที่โลกไม่รู้จัก และทีมนักสู้ที่ไม่เคยมีตัวตนในโลกจริง

นักแสดงสมทบที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ มีบทบาทที่เกลี่ยๆ กันไปไล่ตั้งแต่ รฐา โพธิ์งาม (หรือ ญาญ่าหญิง), Marrese Crump, RZA, จีจ้า ญาณิน, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา และคนอื่นๆ อีกเยอะ แต่โดยรวม หลายคนก็คงพุ่งเป้าไปที่สาวญาญ่าหญิง เพราะในเรื่องนี้ เธอสวยสง่ามาในคอสตูมที่ดูเซ็กซี่แปลกตา บู๊ไม่โดดเด่นแต่หน้าตาและเสื้อผ้าเรียกร้องความสนใจคนดูเอามากๆ ขณะที่จีจ้า เรื่องนี้ไม่เน้นสวยแต่เน้นบู๊แทนเลยไม่ค่อยจะมีบทพูดนัก ส่วนดาราตลกอย่าง หม่ำ จ๊กมก ดูจะเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยมีผลกับเรื่องโดยรวมมากเท่าที่ควรนะ

ขณะที่ดาราต่างชาติ กลับมีคนดำสองหน่อซึ่งบางทีก็ออกมาทำให้เราสับสนได้เหมือนกัน ต้มยํากุ้งภาค 3

สรุป

เป็นความพยายามที่จะดั้นด้นค้นหาภาพใหม่ๆ ในฉากบู๊แอ็คชั่นของ “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งถึงจะดูใหม่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก อีกทั้งบางครั้งยังดูแหม่งๆ กับเรื่องราวที่ดูไม่สมจริงในบางช่วงของการเชื่อมโยงบางฉากเข้าด้วยกัน และเช่นเดียวกับบทที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เหมือนจะสร้างมาเพื่อปูเข้าสู่ฉากบู๊ที่ต้องการจะมีในเรื่องก็เท่านั้น

สิ่งที่พอจะหวังได้กับหนังที่ทุนระดับ 500 ล้านบาทเรื่องนี้ก็คงจะเป็นที่ฉากบู๊ที่จัดมาอย่างเต็ม จนหลังๆ เริ่มเหนื่อยที่ต้องดูอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ขณะที่ CG ในหนังก็ยังดูไม่เนียมคมสมจริงนัก ผสมกับการตัดต่อที่ดูโดดๆ เลยยิ่งทำให้ดูแปลกๆ เข้าไปใหญ่ ด้านงานภาพ 3 มิติ จากการสังเกตกับแว่น 3 มิติที่ได้รับแจกในโรง SF World Cinema พบว่ามีภาพบางส่วนที่ดูเหลี่ยมๆ ไม่เนียนมากนัก แต่ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีในเรื่องลูกเล่นที่นำมาใช้หลอกล่อกับสายตาคนดู

โดยรวม “ต้มยำกุ้ง 2” เป็นหนังที่พยายามเอาใจคอหนังบู๊ที่พล็อตเป็นเรื่องรอง พยายามจะสร้างความแปลกใหม่กับฉากบู๊ของตัวเอง แต่ก็ยังมีความไม่สมบูรณ์ที่เห็นได้ชัดอยู่มากพอควร ดูเพื่อความสนุก เอามัน กับดูการออกแบบฉากต่อสู้ ต้มยํากุ้ง 2 เต็มเรื่อง

ชื่อภาพยนตร์: ต้มยำกุ้ง 2 / The Protector 2
ผู้กำกับภาพยนตร์: ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์
นักแสดงนำ: จา พนม ยีรัมย์ (ทัชชกร ยีรัมย์), Marrese Crump, จีจ้า ญาณิน, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, รฐา โพธิ์งาม, ชูพงษ์ ช่างปรุง, RZA
แนว/ประเภท: Action
ความยาว: 104 นาที

 

 

 

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1

หนังไทยnetflix ภาพยนตร์ไทย เป็นที่รู้ๆของใครหลายๆคนว่า ประเทศเรานั้นมักชอบทำหนังแนวตลก แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างหนังผีไม่น้อยหน้าประเทศอื่นๆเลยครับ แต่ก็เพราะว่า หนังไทยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปทาง ตลก และพี่นาคก็เป็นหนังกึ่งน่ากลัวกึ่งตลกครับ และที่วันนี้ที่ผมหยิบยกพล็อตเรื่องของการบวชนาคมาเป็นปมต้นเหตุแห่งเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ผู้ชมต้องมาหาคำตอบของคำโปรยในหน้าหนังที่ว่า ” ถ้ากูไม่ได้บวช ก็ไม่มีใครได้บวช ” หนังได้เปิดปมไว้ให้เราสงสัย ผีพี่นาคทำไมไม่ให้คนอื่นบวช ทำไมพี่นาคจึงกลายเป็นผี เรามาร่วมกันหาคำตอบได้ในภาพยนตร์เรื่อง พี่นาค กันนะครับ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ค่ายไฟว์สตาร์ส่งหนังผีประจำปีมาเสิร์ฟตลาดหนังไทยอีกครั้ง โดยนำผู้กำกับอย่าง ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ เจ้าของผลงานผีตลกบทซับซ้อนอย่าง มอญซ่อนผี (2558) กลับมาทำงานกับพลอตแปลกล้อกับหนังผีไทยระดับตำนานตั้งแต่ชื่อ ซึ่งคงตั้งต้นไอเดียด้วย นางนาก + พี่มากพระโขนง + พลอตผีไม่กลัวพระ + ความเชื่อเรื่องการบวชนาค กลายมาเป็น พี่นาค ได้น่าสนใจดีทีเดียว ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1 โหน่ง หนุ่มหล่อวัยเบญจเพสสุดซวย ที่ถูกหักอก และ ตกงานในเวลาเดียวกัน เขาหอบหิ้วความเสียใจขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับไปพักใจที่บ้านเกิด แต่กลับซวยซํ้าสอง เมื่อไปเจอกับเพื่อนเก่าอย่าง บอลลูน เฟิร์ส และ ก๊อต แก๊งกระเทยเพื่อนซี้ หอบหิ้วดีกรีแฟชั่นนิสต้า ที่หวังเคลมโหน่งอย่างออกนอกหน้าจนโหน่งเอือมระอา แต่เพื่อนซี้มีอันต้องซี้ไปจริง ๆ เมื่อรถโดยสารที่พวกเขานั่งมา เกิดอุบัติเหตุจนทําให้ก๊อตเสียชีวิต ทั้งสามโศกเศร้า และ ยังหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงตกลงปลงใจจับมือพากันไปบวชล้างซวย แต่เคราะห์ซํ้ากรรมซัดขัดใจตุ๊ด เมื่อวัดที่ทั้งสามคนตั้งใจไปขอบวชนั้น มีเรื่องเล่าขานว่าวัดนี้มีผีพี่นาคที่เฮี้ยนแรงขั้นสุด เกิดเป็นอาถรรพ์อันน่าสะพรึงรอคอยอยู่ งานบวชก็ต้องมี เรื่องผีก็โผล่มา กลายเป็นความผวาเลเวลอัพ ทั้งสามจึงรวมพลังตั้งสติวีนวัดแตก เพื่อให้ได้บวชอย่างที่ตั้งใจ แต่การบวชครั้งนี้จะลุล่วงสมปรารถนา หรือพวกเขาจะกลายเป็นผีนาคเฝ้าวัดสานต่อตํานานสยองพี่นาคคนต่อไปต้องติดตามชม

เรื่องย่อ

รีวิว พี่นาค 1

เรื่องราวของ 3 เพื่อนซี้ที่มีเหตุต้องไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง บอลลูน (เอม วิทวัส) ได้บนบานสารกล่าวไว้ว่าถ้าถูกรางวัลจะมาแก้บนด้วยการบวชพร้อมกับเพื่อน ๆ นั่นก็คือ เฟิร์ส (เจมส์ ภูริพรรธน์) สองตุ๊ดเพื่อนซี้ และ โหน่ง (ออกัส วชิรวิชญ์) เพื่อนหนุ่มหล่อที่ต้องมาบวชล้างซวยในวัยเบญจเพส เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้ง เพราะวัดที่พวกเขากำลังจะมาบวชนี้มีตำนานว่าใครมาบวชที่นี่ไม่ได้ จะต้องมีอันเป็นไปทุกคน ทั้งสามเลยจะคิดหนีกลับไม่บวชแล้ว แต่ก็ไม่ได้อีกคือใครหนีก็ตายอีกเหมือนกัน ทำให้ทั้ง 3 ต้องพยายามบวชให้สำเร็จให้จงได้ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับ ผีพี่นาคนน (ชิน ชินวุฒ) ที่คอยหลอกหลอนเพื่อไม่ให้พวกเขาได้บวช แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ คิดหาวิธีแก้ไข และ หาทางที่จะบวชในวัดแห่งนี้ให้ได้ เรื่องที่พวกเขาจะต้องเจอจะน่ากลัวมากน้อยสักเพียงไหน และ พวกเขาจะสามารถบวชได้หรือไม่ คุณก็ลองไปหาดูได้ในหนังกันให้เต็ม 2 ตานะครับ เรามาเอาใจช่วยพวกเขาไปด้วยกัน พี่นาค 1 เต็มเรื่อง youtube

ความรู้สึกหลังดู

รีวิว พี่นาค 1

หนังขึ้นชื่อว่าเป็นหนังผีตลกอีกเรื่องหนึ่ง แบบว่าทำมายังไงก็ไม่ขาดทุน ในส่วนของความเป็นผีนั้นต้องชื่นชม ผกก. ที่มาจากสายงานกำกับศิลป์หนังไทยมาหลายต่อหลายเรื่อง ลองมาหมดแล้วแทบทุกแนว จึงแม่นในการสร้างบรรยากาศความหลอนได้สะพรึงมาก ทั้งวัดป่ากลางหุบเขาไร้ผู้คน ศาลเพียงตาที่ตั้งให้นาคที่ตายไปก่อนได้บวชจนมีตำนานว่าใครมาบวชวัดนี้ก็มักจะต้องตายไปก่อน ฉากการแห่นาคผีที่ทั้งขบวนเป็นคนไร้หัว และ ลานรูปปั้นพระอรหันต์เป็นสิบเป็นร้อยที่วัดใหญ่ชอบปั้นรายล้อมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ทั้งที่น่าจะอุ่นใจศักดิ์สิทธิ์ ก็เอามาขยี้ได้น่ากลัวด้วยเช่นกัน

ตัวผีพี่นาคได้ ชิน-ชินวุฒ อินทรคูสิน มารับบทผีอาฆาตที่มีเป้าหมายแน่นอน แต่ก็ยากจะทำให้พึงพอใจ ซึ่งไอ้ความไม่ชัดเจนนี้ก็เป็นสูตรของผีแค้นที่เหมือนไร้เหตุผล คุยกันไม่รู้เรื่อง แถมหยิบพระพุทธรูป เดินในวัดวาแบบไม่เกรงกลัวใด ๆ ก็ทำให้เราต้องเอาใจช่วยฝั่งมนุษย์กับพระพอสมควร นับว่าดึงสูตรสำเร็จที่ดีในการเป็นหนังผีมาใช้ได้ลงตัวทั้งบรรยากาศ และ ตัวผีเอง

ในด้านความบันเทิงก็ใช้สูตรตุ๊ดสูตรคำสบถ ตามแนวหนังผีที่ไฟว์สตาร์ถนัดมาก่อนจากพวก หอแต๋วแตก มาใช้ แต่ข้อดีคือหย่อนลงตามเหมาะสมไม่ได้ถึงกับยอมเสียแกนเรื่องเพื่อสร้างสถานการณ์ตลกอย่างที่หนังไทยบางเรื่องทำ และ การได้ เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี หรือ เอม ตามใจตุ๊ด มาจับคู่ปล่อยฮากับ เจมส์-ภูวดล เวชวงศา ที่คนหลังปรับลุคเป็นตุ๊ดบ้าผู้ชายได้ลืมภาพเดิมไปมาก ก็เรียกว่าลงตัวมากกว่าที่คาด แม้จะมีบ้างที่ดูบทต่อล้อต่อเถียงจะต่อไม่ติดเป๊ะแต่เคมีโดยรวมถือว่าพยุงหนังได้ไม่น่าเบื่อ

แถมวิธีการออกแบบตัวละครในหนังเรื่องก็จัดได้ว่า น่ารำคาญ และ ไม่ค่อยใช้สมองในการแก้ไขสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครเลือกจะออกมาฝึกท่องคำขานนาคหน้าพระพุทธรูปในยามวิกาลทั้งที่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มีผีออกอาละวาด หรือ ตัวละครออกมาเข้าห้องน้ำกลางคืน และ เห็นเงาตะคุ่ม ๆ และ ตัดสินใจเดินตามไป เป็นต้น พฤติกรรมงี่เง่าแบบนี้ แม้เราจะเข้าใจได้ว่าหนังออกแบบมาเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น แต่เมื่อเรามองในมุมของความสมเหตุสมผลแล้ว มันกลับยิ่งทำให้เราไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครมากเท่านั้น

ในขณะที่ฝั่งดราม่าแกนหลักเป็นหน้าที่ของ ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ ที่มีดราม่าเรื่องพ่อบีบบังคับ และ ตัวเขาไม่มีความต้องการบวชไม่ได้ศรัทธา ซึ่งจะเป็นตัวที่ต้องนำพาผู้ชมเรียนรู้ผ่านการพัฒนาตัวละครนี้ให้ซาบซึ้งกับความหมายของการบวช โดยมีดอกไม้หนึ่งเดียวอย่างพลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล มาเป็นตัวเสริมให้พระเอกเข้าใจตัวเองมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนทางผู้สร้างก็มีทัศนคติ และ ความตั้งใจดีในการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าแห่งผ้าเหลือง ผ่านกิมมิกนาคในตำนานพุทธศาสนาที่ปรารถนาจะบวชแต่บวชไม่ได้ เช่นเดียวกับผีนาคที่อยากบวชแต่ก็บวชไม่ได้ ในขณะที่คนที่บวชได้อย่างพระเอกกลับไม่ได้มีความใส่ใจเล็งเห็นผลในสิ่งที่เขามีสิทธิ์อย่างสบาย ๆ นี้เลย พี่นาค 1 เต็มเรื่อง dailymotion

องค์ประกอบของหนัง

– บรรยากาศ ชอบบรรยากาศของหนังเรื่องนี้มาก เพราะมันดูสมจริง ดูขลัง และ น่าขนลุกขนพอง กับโลเคชั่นของวัดในยามค่ำคืนที่ดูวังเวงเสียเหลือเกิน

– ความตลก หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีซีนตลกเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมอยู่หลากหลายซีนเลยทีเดียว บางซีนก็เป็นทั้งมุุกตลกไปพร้อม ๆ กับความลุ้นความน่ากลัวก็มี จนไม่อาจคาดเดาได้จริง ๆ

– พล็อตเรื่อง พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าดีอยู่ในระดับนึงเลยทีเดียว มีการตัดต่อที่ไหลลื่น ดูแล้วไม่สะดุดตาหรือคาใจ เนื้อเรื่องก็ปิดเงื่อนซ่อนงำได้ดีชวนให้ติดตามตลอดเรื่อง

รีวิว พี่นาค 1

รีวิว พี่นาค 1 เรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง “พี่นาค” โฟกัสไปที่โหน่ง (ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์) หนุ่มวัยเบญจเพส ที่เพิ่งอกหัก และ ตกงานมาหมาด ๆ เขาตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด แต่ระหว่างที่ขึ้นรถทัวร์ เขากลับรู้สึกดวงซวยเมื่อตัวเองดันไปเจอเพื่อนเก่าอย่างบอลลูน เฟิร์ธ และ ก็อต สาวซี้แกงค์กะเทยที่แอ้วโหน่งจนเขาต้องเอือมระอา ความซวยเกิดขึ้นเมื่อรถทัวร์เกิดอุบัติเหตุส่งผลให้ก็อตเสียชีวิต

เพื่อนสามคนที่เหลืออยู่จึงมองว่านี่อาจจะเป็นอาถรรพ์เบญจเพส ประกอบกับบอลลูนเพิ่งสำเหนียกได้ว่า เขาเคยบนว่าจะบวชที่วัดแห่งหนึ่ง ทั้งสามจึงตัดสินใจว่าจะไปขอบวช แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้เลยก็คือวัดที่พวกเขาเลือกมีเรื่องน่ากลัวรอพวกเขาอยู่ นั่นก็คือวิญญาณอาฆาตจากนาคตนหนึ่งที่เสียชีวิตก่อนเข้าร่มกาสาวพัสตร์ ทำให้เขาจองเวรคนอื่น ๆ ที่จะบวชที่วัดแห่งนี้ให้มีอันเป็นไป กว่าที่ทั้งสามจะตระหนักได้ว่าอันตรายรอพวกเขาอยู่ ก็สายเกินไปเสียแล้ว

จะว่าไป “พี่นาค” เป็นหนังที่ว่าด้วยตัวละครหลักของเรื่องต้องวิ่งหนีผีอย่างหัวซุกหัวซุน ความสนุกคือการที่ตัวละครต้องหาทางรอดจากวิญญาณร้าย ในขณะเดียวกันหนังก็ต้องหาจังหวะผ่อนคลายผู้ชมด้วยการใส่มุกตลกเพื่อให้คนดูไม่ตึงเครียดจนเกินไป แต่ปัญหาประการใหญ่ของหนังเรื่องนี้คือบทภาพยนตร์ที่เราอาจจะพูดได้ว่า หลังจากที่ 10 นาทีแรกผ่านไป ตัวเรื่องราวก็แทบจะไม่คืบหน้าไปไหนเลยจนกระทั่งหนังผ่านไป 1 ชั่วโมง พี่นาค1เต็มเรื่องภาคไทย

สรุป

แต่กระนั้นการเล่าเรื่องผ่านเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงนี้เองที่เป็นเรื่องน่าติง เพราะครึ่งเรื่องแรกดูปูหลายอย่างมาดีทั้งมู้ดความน่ากลัว ความตลก ปมดราม่าของตัวละคร และ ปมปริศนาของเรื่องราว แต่ทว่าพอหนังเข้าครึ่งหลัง กลับเล่นง่ายด้วยมุกที่คนดูเดาได้จนจบแต่ตัวละครยังใบ้อึ้งจับต้นชนปลายไม่ถูกอย่างน่าเวทนา ทั้งความแข็งแรงของการเล่าเรื่องก็เริ่มล้าไอเดีย และ พึ่งพิงการใช้แฟลชแบ็กขยายความเอาง่าย ๆ อย่างไม่จำเป็น

ซึ่งส่วนมากเป็นฉากสำคัญในพัฒนาการความคิดของพระเอกด้วย ยิ่งหนังเดินเรื่องไปมากขึ้น ๆ เราก็ยิ่งเห็นบาดแผลในการจะประสานฉากจบที่คิดไว้ การหาแลนดิ้งสวย ๆ ให้ตัวเองเป็นความพยายามที่เราในฐานะคนดูเหนื่อยอยู่พอสมควร แต่กระนั้นฉากหลังไคลแม็กซ์ที่หนังยังเก็บมุกเด็ดไว้ ก็ถือว่ามาได้เหนือคาดหมายพอสมควร แม้จะไม่มีหักมุมใหญ่ให้น่าจดจำ แต่หนังก็เก็บเล็กประสมน้อยจนพอผ่านมาตรฐานหนังไทยที่พอไปวัดไปวาได้เช่นกัน (ก็แน่ล่ะทั้งเรื่องเล่นกันอยู่ในวัดนี่นะ 55) เป็นอีกหนึ่งหนังที่บันเทิงน่าจะถูกใจคอหนังผีตลกไทยครับ พี่นาค1 เต็มเรื่อง 037

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับวันนี้มาย้อนรอบกับตำนานหนังสยองขวัญไทยยุค 90 เรื่องราวความสยองที่ได้ผู้กำกับอย่าง สมจริง ศรีสุภาพ ว่าด้วยเรื่องราวชวนสยองภายในโรงเรียนประจำชายล้วนที่มีประวัติการฆาตกรรมหมู่จากนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากแรงกดดันของการใช้ชีวิตในสังคมโรงเรียนประจำ จนทำให้หนุ่มป๊อปปูลาร์อย่าง หม่อมราชวงศ์ดาวดึงส์ สิรา (รับบทโดย เจษฎาภรณ์ ผลดี) ต้องจบชีวิตไปกับเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ที่โรงเรียนเซนต์จอร์จ นักเรียนกลุ่มหนึ่งสังเกตว่ามีรูปของนักเรียนเกียรตินิยมติดอยู่แต่ไม่ได้เขียนรายละเอียดเอาไว้ พวกเขาจึงไปสืบเรื่องราวจนได้รู้ว่านักเรียนคนนั้นได้ฆ่าตัวตาย แต่พวกเขาไม่เชื่อ..จึงชักชวนกันเล่นผีถ้วยแก้ว และ ได้คำตอบว่าคือการฆาตกรรม ต่อมาเริ่มมีคนตายในโรงเรียนมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนในกลุ่มที่เล่นผีถ้วยแก้ว พวกเขาจึงต้องหาตัวฆาตกรให้พบก่อนที่จะไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน! ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต ใครจะเคยรู้ว่า 303 เป็นตัวเลขที่มีความน่ากลัวมาก่อนในยุคหนึ่ง โดยเฉพาะเหล่าวัยรุ่นยุค 90s คงจะจำ และ คุ้นเคยกับทั้งสามตัวเลขนี้เป็นอย่างดี 303 กลัว กล้า อาฆาต ภาพยนตร์ไทยสยองขวัญแนวสแลสเชอร์ (Slasher) กำกับโดย สมจริง ศรีสุภาพ ว่าด้วยเรื่องราวชวนสยองภายในโรงเรียนประจำชายล้วนที่มีประวัติการฆาตกรรมหมู่จากนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากแรงกดดันของการใช้ชีวิตในสังคมโรงเรียนประจำ จนทำให้หนุ่มป๊อปปูลาร์อย่าง หม่อมราชวงศ์ดาวดึงส์ สิรา (รับบทโดย เจษฎาภรณ์ ผลดี) ต้องจบชีวิตไปกับเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย

แต่แทนที่เหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นจะเป็นอดีตลับที่เลือนหายไปตามกาลเวลา กลับมีเด็กนักเรียนเข้าใหม่แห่งห้อง 303 อยากสืบความจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น น้ำแข็ง (รับบทโดย เทย่า โรเจอร์), ชายแดน (รับบทโดย อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์), ป้องเขต (รับบทโดย พอล วิสุทธิ์ แครี่), กุศลสร้าง (รับบทโดย อนันดา เอเวอริงแฮม), ไตรสูรย์ (รับบทโดย ปริญญา อินทชัย) และ สินสมุทร (รับบทโดย ทรงวุฒิ ศรีเชิดชูธรรม) จึงได้เล่นผีถ้วยแก้วเพื่อค้นหาความจริง แต่การเล่นครั้งนี้เปรียบเสมือนการเปิดประตูให้วิญญาณของนักเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรในเหตุการณ์ครั้งนั้นกลับคืนชีพขึ้นมาเพื่อแก้แค้นอีกครั้ง

เรื่องย่อ

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

ชายแดน (อาทิตย์ ริว) ได้เข้าไปเรียนต่อที่โรงเรียนเซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำแบบคาทอลิคที่มีกฎเข้มงวดมาก และ มีการรับน้องอย่างรุนแรง เขา และ กลุ่มเพื่อน ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับกรณีการฆ่าตัวตายอย่างลึกลับ ของ ม.ร.ว. ดาวดึงส์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) นักเรียนที่ได้รับเกียรตินิยมที่มีชื่ออยู่จารึกอยู่ในกรอบกลางห้องโถงของโรงเรียน นักเรียนกลุ่มหนึ่งด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงพยายามค้นหาความจริง โดยเริ่มจากเล่นผีถ้วยแก้ว ซึ่งมีน้ำแข็ง (เทย่า โรเจอร์) ซึ่งเป็นลูกสาวของครูร่วมเล่นด้วย แต่สุดท้ายนักเรียนก็ค่อย ๆ ตายไปทีละคน

จุดสังเกต

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

โดยฉากการตายของหนังเรื่องนี้ถือว่ามีหลากหลายแนวมาก ไม่ว่าจะเป็นการปีนขึ้นหอพักในเวลากลางคืนแล้วตกลงมาตาย การใช้ไดร์เป่าผมขณะที่ขาเหยียบน้ำ ซึ่งหากไฟรั่วก็สามารถช็อตได้ตลอดเวลา หรือจะเป็นการอมปลายกระบอกปืนแล้วยิงตัวเองตาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นฉากที่ดูรุนแรง และ สะเทือนใจขณะรับชมเป็นอย่าง

แต่ถ้าจะให้พูดถึงความหลอนนั้น ทุกคนจะต้องนึกถึงฉากนักเรียนชายที่เป็นฆาตกรเข้าสิงร่างของ สินสมุทร หนึ่งในคนที่เล่นผีถ้วยแก้ว แล้วมัด น้ำแข็ง ลูกของภารโรงแสวงลากไปกับพื้นเพื่อฝังทั้งเป็นในป่า ซึ่งระหว่างทางที่ไปนั้นได้มีการร้องเพลง มอญซ่อนผ้า ที่เป็นเสียงอย่างเดียวโดยไม่มีจังหวะใดๆ ประกอบ ซึ่งน้ำเสียงนั้นก็ดูเยือกเย็น เงียบเหงา คล้ายกับต้องการเพื่อนไปเล่นด้วยสักคน (ไปเล่นเถอะ ไปเล่นกันเถอะ)

นิตยสารมูวี่ไทม์ วิจารณ์ไว้ว่า “ที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือ บรรยากาศของหนังที่ไม่ค่อยมีใครทำซักเท่าไหร่ พอทำออกมา ทั้งการตัดต่อ ถ่ายภาพ รวมถึงดนตรีประกอบ และ เครื่องแต่งกายจัดอยู่ขั้นดีเลยทีเดียว แต่หากใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับบท และ นักแสดงมากกว่านี้ หนังจะดีขึ้นเยอะ” และ ยังเปรียบเทียบว่า “หนังยังได้รับอิทธิพลจากหนังสยองขวัญฝรั่งอย่างเรื่อง I Know What You Did Last Summer”

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต

รีวิว 303 กลัวกล้าอาฆาต สมัยที่หนังออกฉาย (ปี 1998) เราไม่ได้ดูในโรง อาศัยดูจากห้องวิดีโอของห้องสมุดเปิดทีละนิดๆ ก็เลยไม่เคยดูแบบเต็มๆ เรื่องสักที โดยเฉพาะฉากเริ่มนี่ไม่เคยทัน (ได้ดูอีกทีก็คือเล่นผีถ้วยแก้วแล้ว) แต่ในความทรงจำก็คือ น่ากลัวมาก ฉากฆ่ายังจำได้ติดตา ฉากไฟช็อต อีกคนโดนกระซวกท้องเลือดพุ่งออกปาก ฉากคัตเตอร์แกร่กๆ ฯลฯ มายุคนี้ฉากพวกนี้ก็เด็กๆ ไปเลย

การดูหนังสยองไทยเก่าๆ ทำให้มองเห็นภาพรวมของกระแสหนังสยองขวัญฮอลีวู้ดช่วงนั้นได้อย่างน่าสนใจ อย่างเรื่องนี้ก็คือได้รับอิทธิพลมาจาก I Know What You Did Last Summer หรือแนว “เชือดหวีดสยอง” ที่ต่อยอดมาจากยุค 80s (อย่างพวกเฟรดดี้ เจสัน ฯลฯ) ซึ่งพอมายุค 90s ก็อัปเกรดขึ้นโดยการผสมแนวคิดของ Whodunit เข้าไปด้วย คือนอกจากจะลุ้นว่าใครตายบ้างแล้ว ก็ยังต้องมาปะติดปะต่อเอาว่าฆาตกรตัวจริงคือใคร นี่คือช่วงยุคปลายๆ 90s ก่อนที่กระแสจะเปลี่ยนเป็นแนวสยองจิตวิทยา (จากการมาถึงของ The Sixth Sense) ในต้นปี 2000s และ กลายเป็นแนวผีหลอกวิญญาณหลอนจากคุณเจมส์ วาฬ ในยุค 2010s ไม่แน่ว่าพอถึงปี 2020 เราอาจได้ดูหนังเชือดหวีดสยองจิตวิทยาที่มีผีห่าเข้ามาสิงด้วยก็เป็นได้

สรุป

หนังที่มีบรรยากาศของความไม่น่าไว้วางใจ และ ความลึกลับ ที่สร้างความสงสัยใคร่รู้ไปพร้อมกับตัวละครหลักๆ ในเรื่อง ว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร และ ทำไปเพราะมีจุดประสงค์อะไร และ หากใครอยากเห็นวัยหนุ่มสาวของดารานักแสดงอย่าง อนันดา หรือเทย่า ก็ไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ ถือเป็นงานแจ้งเกิด และ กลายเป็นภาพจำของนักแสดงหลายๆ คน ทั้ง อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์, อนันดา เอเวอริงแฮม, ปริญญา อินทชัย, ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ, เทย่า โรเจอร์ รวมถึงพระเอกตลอดกาลอย่าง เจษฎาภรณ์ ผลดี

303 กลัว กล้า อาฆาต เป็นอีกหนึ่งในความทรงจำของหนังสยองขวัญที่สามารถผนวกกับความเป็นหนังผีแนวไทยๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งยังหยิบยกประเด็นการถูกบูลลี่ออกมาตีแผ่เป็นเรื่องแรกๆ ของภาพยนตร์ไทย ซึ่งหากใครยังไม่มีกิจกรรมกระตุกต่อมความกลัวในคืนฮาโลวีน THE STANDARD POP ขอแนะนำหนังเรื่องนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยส่วนตัวผมให้คะแนน 6/10

กำกับ สมจริง ศรีสุภาพ
เขียนบท เฌอ โกรี
นักแสดงนำ อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์ , พอล วิสุทธิ์ แครี่ , อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม , เทย่า โรเจอร์ , ปริญญา อินทชัย , เจษฎาภรณ์ ผลดี
ผู้จัดจำหน่าย ไท เอนเตอร์เทนเมนท์
วันฉาย 2 ตุลาคม พ.ศ. 2541
ความยาว 90 นาที
ประเทศ ไทย
ภาษา ไทย
ทำเงิน 28.2 ล้านบาท

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับเชื่อว่าหลายๆคนคงจะชอบหนังสัตว์ประหลาดหรือไคจูอะไรประมาณนั้น ผมเองก็ชอบนะ 555 นี้เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตลาดหนังสัตว์ประหลาดในไทยในรูปแบบใหม่ๆที่เรามักไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ผมก็ขอเรียนเชิญมากองรวมกันเอาไว้ตรงนี้ เพราะนี่คืออีกหนึ่งความหวังของวงการไทจู กับหนังที่ใคร ๆ ก็เฝ้ารอคอย เพราะใช้เวลาสร้างมายาวนานถึง 5 ปี กับ “The Lake บึงกาฬ” ที่โฆษณาเอาไว้ว่าใช้ทุนสร้างถึง 88 ล้านบาท นับว่าเป็นอีกโปรเจกต์ใหญ่อีกเรื่องของวงการหนังไทย เพียงแต่ว่า..ผลลัพธ์โดยรวมที่ออกมานั้น หนังเรื่องนี้จะปังหรือพังกันแน่…ไปพิสูจน์กันสิ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ผลงานหนังเรื่องล่าสุดของนักสร้างหนังรุ่นใหม่ที่กำลังคร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังไทยตอนนี้ อย่าง “ลี ทองคำ” ที่มาในเรื่องนี้เขาทุ่มเทให้กับแทบจะทุกองค์ประกอบของหนัง นับตั้งแต่การจุดประกายหาไอเดียสร้างสรรค์ปลุกปั้นเรื่องนี้ขึ้นมากับมือ นั่งเก้าอี้ผู้กำกับดูแลงานสร้าง เขียนบทเอง ซ้ำยังรับหน้าที่ตัดต่อหนังเองทั้งหมดด้วย บนพื้นฐานความแพสชั่นส่วนตัวของเขา มีอยากจะแต่งเติมจินตนาการวัยเด็กกับฉากหลังเป็นพื้นที่บ้านเกิดของเขา ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ บึงกาฬ หรือ The Lake ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดไทยแท้อีกหนึ่งเรื่อง จากผู้กำกับเลือดอีสาน ลี ทองคำ ทุ่มเทปลดเปลือกตั้งแต่ริเริ่ม เขียนบท กำกับ และตัดต่อ ด้วย Passion ต้องการชูบ้านเกิดของตัวเองให้โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม ยกระดับวงการหนังไทย ใช้เทคนิคพิเศษเนรมิตร “ไทจู” ทั้งการไปดึง จอร์ดู เชลล์ (Jordu Schell) นักออกแบบสัตว์ประหลาดในหนัง ‘Cloverfield’ (2008) และ ‘Avatar’ (2009) มาช่วยสร้างสัตว์ประหลาดในบึงใหญ่ที่ผสมระหว่างปลาดุก จระเข้ และงู

โดยใช้วิสัยทัศน์การนำเสนอที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังอย่าง ‘Jurassic Park’ (1993) หรือ ‘Godzilla’ (1998) ที่คุ้นตากับฉากสัตว์ร้ายกลางสายฝนและความมืดดำของค่ำคืนสลับแสงฟ้าผ่าและไฟฉุกเฉินในบรรยากาศเมืองต่างจังหวัดของไทยได้อย่างลงตัว และตอกย้ำว่าผู้สร้างเองก็แม่นยำในการคุมมู้ดและโทนของหนังพอสมควร สัตว์ประหลาดตัวเอกให้เทียบเคียงแฟรนไชส์ จูราสสิค ปังแค่ไหน เดี๋ยวรีวิวให้ฟัง

เรื่องย่อ thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ

ภาพยนตร์สัตว์ประหลาดสายเลือดไทย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนในภาคอีสาน จังหวัด บึงกาฬ หลังเกิดพายุฤดูร้อน อันเนื่องจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ จากฝีมือมนุษย์ ก็นำพาให้ ชาวบึงกาฬได้พบกับสัตว์ประหลาดร้าย ไทจู ที่ไม่รู้ที่มาที่แน่ชัด และไม่รู้มันต้องการอะไร และมันคือตัวอะไรกันแน่ แต่ที่รู้แน่ๆคือ พวกมันดุร้าย น่าสะพรึงกลัว ออกอาละวาด และฆ่าคนไม่ยั้ง แล้วพวกเขาจะจัดการกับ พวกมัน ยังไง?

และในท้ายที่สุดคุณอาจจะพบว่า พวกมันอาจจะมีความต้องการที่ไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์อย่างพวกเราเลยก็ได้ และมนุษย์นั่นแหละ คือ สิ่งมีชีวิต ที่โหดร้ายที่สุดในพื้นพิภพ นี้ มาอย่างช้านานแล้ว!!! The Lake บึงกาฬ ตัวอย่าง

จุดสังเกต

รีวิว thelake บึงกาฬ

แม้ว่าเราจะสัมผัสได้ถึงเจตนารมณ์และความตั้งใจที่แน่วแน่มาก ๆ ในความพยายามที่ตัวสร้าง “ไทจู” หรือ หนังสัตว์ประหลาดแบบไทย ๆ ออกมาสักเรื่อง ที่ยอมรับเลยว่าแพสชั่นตรงนี้ในหนังมีอยู่ล้นเปี่ยม เพียงแต่ว่าเมื่อได้ลองนำเอาองค์ประกอบต่าง ๆ มาประกอบรวมร่างเข้าด้วยกันทั้งหมดดูแล้วนั้น มันกลายเป็นปัง…ที่ไม่ให้ปังเพราะประทับใจ แต่เป็นปังที่เกือบจะพังครืน เพราะแทบจะทุกส่วนในหนังเรื่องนี้นั้น ยังไม่สามารถสื่อสารถึงคนดูได้ และสารของหนังยังค่อนข้างอ่อน..ถึงอ่อนมาก

เริ่มต้นที่บทหนังของ The Lake บึงกาฬ ที่แทบจะหาแก่นสารใด ๆ ไม่ได้เลย หนังไม่ได้มีการเกริ่นกล่าวนำเรื่องราวใด ๆ มาก่อนทั้งสิ้น แบบว่ามาถึงก็จับโยนสัตว์ประหลาดและฟาดฟันบุกเมืองแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งนั้น แม้ว่าในฐานะคนดูก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้สร้างอยากจะสื่อสารแล้วก็ตาม

แต่ก็ดูเหมือนว่า..เอ๊ะ สรุปก็ไม่ได้ไปทางนั้น แล้วก็ไม่ได้ไปทางนี้ กลายเป็นบทหนังที่แกว่งเคว้งไปมา เหมือนไม่รู้จะไปทางไหน แม้กระทั่งช่วงท้ายในตอนบทสรุปก็เกือบจะหาทิศทางไม่เจอว่าจะไปจบลงตรงไหนดี

ในเมื่อบทหนังออกมาแบบนี้ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปเป็นลูกโซ่เกือบจะทั้งหมด บทที่ดีไม่ดีก็ไม่สามารถส่งตัวละครให้โดดเด่นขึ้นได้ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก ๆ เพราะว่า The Lake บึงกาฬ แทบจะไม่ได้เห็นบทบาทการแสดงที่น่าจดจำใด ๆ เลยสักซีนเดียว ทั้งที่ได้นักแสดงระดับยอดฝีมือมาเรียงแถวกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น “ตุ้ย ธีรภัทร์”, “ออม สุชาร์” หรือ “ปู วิทยา” ที่ทั้งหมดถูกนำมาวางแบบไร้ตำแหน่ง แทบจะหาความเป็นตัวละครยืนนำ (Protagonist) ไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนมอบการแสดงมาอย่างเต็มที่ก็ตาม

และอีกส่วนที่กลายเป็นจุดที่ฉุดรั้งให้ภาพรวมของ The Lake บึงกาฬ สะพรึงพรั่งพรูดิ่งหนักยิ่งเข้าไปอีก ก็คืองานตัดต่อ (Editing) และการลำดับการเล่าเรื่องราว (Segment) ที่ผู้สร้างรับหน้าที่นี้อีกเช่นเดียวกัน กลายเป็นการว่าหนังมีแค่เพียงประมาณ 15 นาทีแรก ที่เปิดฉากขึ้นมาและพอจะสร้างอรรถรสน่าสนใจขึ้นได้ แต่เมื่อมาถึงฉากสั่งน้ำที่ใคร ๆ ต้องจดจำเมื่อได้ดูนั่้งเรื่องนี้ นั่นคือสัญญาณของความสะพรึงเริ่มต้นขึ้นแล้ว บึงกาฬ the lake นักแสดง

รีวิว thelake บึงกาฬ

รีวิว thelake บึงกาฬ ตั้งแต่ชื่อเรื่อง บึงกาฬ ตัวสัตว์ประหลาด ไทจู ก็ผสมผสานจากสัตว์พื้นบ้าน 3 อย่าง ปลาดุก งู ไอ่เข้ วัฒนธรรม การดูดน้ำถุง ร้านกาแฟรถเข็น การทำนา จับกบ และการเล่าถึงชีวิตของผู้คนอีสานนั้น ผูกพันธ์กับความเชื่อ ศาสนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผ่านเรื่องเล่าตำนาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ผ่านตัวละคร ถือเป็น soft power ของไทยที่ดีได้ตลอดเรื่อง

การตัดต่อหนังเรื่องนี้แทบจะยังไม่ราบเรียบและไม่คล้องจ้องกับเนื้อเท่าที่ควร หรือหากจะให้พูดแบบตรงไปตรงมาจริง ๆ จุดนี้คือหายนะของหนังหายนะเรื่องนี้จริง ๆ หนังต้องพังพินาศลงเพราะการลำดับเรื่องที่โดดไปมาบ่อยครั้ง ซ้ำรายกับมุมกล้องที่พยายามเร้าอารมณ์แต่กลับทำให้ปวดหัว

อีกทั้งยังมีฉากซีนที่ไม่ต่อเนื่อง ตัดฉับไปมาขัดอารมณ์ผู้ชมบ่อยครั้ง แทนที่หนังจะดึงอารมณ์ขึงขังให้อยู่กับคนดู กลายเป็นความขบขันมาแทนที่ เพราะงานตัดต่อที่บางจุดไม่น่าจะปล่อยผ่านมาแบบนี้ได้

โดยเฉพาะในหนัง The Lake บึงกาฬ ที่บรรยากาศแวดล้อม (Environment) ส่วนใหญ่ในเรื่องนั้น จะต้องมีฉากฝนตกอยู่เกือบจะครึ่งเรื่อง เพราะสถานการณ์พายุเข้าในพื้นที่ แต่น่าขันที่เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วเวลาเดียวกัน แต่สลับกันไปมาแต่ละพื้นที่

ภาพตรงนั้นฝนกำลังตกหนักแต่ตัดภาพมาตรงนี้กลับไม่มีฝน ทั้งที่โลเคชั่นตามท้องเรื่องนั้น ท้องที่ที่เกิดเหตุก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรถึงขนาดนี้สภาพอากาศจะแตกต่างกันได้เช่นนี้ ถึงจะเป็นเพียงจุดเล็กน้อยในหนัง แต่กลายเป็นสิ่งที่ขัดอารมรณ์ไปอย่างน่าเสียดายไม่น้อย หนังบึงกาฬ

สรุป thelake บึงกาฬ

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมนั้น The Lake บึงกาฬ ถือว่าเป็นหนังที่เข้ามาช่วยยกระดับวงการหนังไทยในแง่เทคนิคงานสร้างที่แปลกตาและแปลกใหม่แบบที่ไม่ค่อยเห็นใครเคยทำเช่นนี้มาก่อน แต่หนังก็ยังสอบตกในพาร์ทอื่น ๆ ทั้งบทหนัง การเล่าเรื่อง และการลำดับตัดต่อที่ทำให้หนังเข้าขั้นเกือบจะหายนะเลยทีเดียว

ถึงจะน่าเสียดายที่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น คงจะต้องบอกว่า…ยังไม่ได้บรรทัดฐานในแบบที่คาดหวังเอาไว้ แต่เราก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับผู้สร้าง เพราะอย่างน้อย ๆ เห็นถึงเจตนาและความพยายาม และยอมรับเลยว่าเทคนิคงานสร้างของพวกเขาในเรื่องนี้…ก็เจ๋งอยู่

สุดท้ายอยากให้คนไทย ไปสนับสนุน ดูหนังเรื่องนี้กันเยอะ ๆ เพราะใช้เวลาสร้าง ถึง 5 ปี ทุนสร้างถึง 80 ล้านบาท ร่วมทุนระหว่าง 2 ประเทศ ไทย – จีน มี 2 เวอร์ชั่นทั้งไทย และ จีน แต่บอกหน่อยว่า เนื้อหาสองภาค จะต่างกันเล็กน้อยด้วยนะ โดยส่วนตัวให้คะแนน 6/10 ครับ เกือบดีแล้ว … the lake บึงกาฬ เต็มเรื่อง

 

รีวิว 12 begin

รีวิว 12 begin

หนังไทยย้อนยุค เป็นหนังไทยที่ไม่ไช่หนังผีแต่ดูแล้วไม่รู้ทำไมได้อารมนั้นเอามากๆ รู้สึกกลัวๆยังไงก็ไม่รู้แหะ เป็นหนังเรื่องสั้นก็ว่าได้นะครับ เป็นการปูเรื่องเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะเข้าเรื่องหนัง 13 เกมสยอง เป็นหนังไทยแนวระทึก พล็อตเรื่องชวนให้ลุ้นติดตามเหงื่อตก แน่นอนครับ เป็นหนังที่ออกฉายเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2549 กำกับโดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล นำแสดงโดย กฤษดา สุโกศล, อชิตะ สิกขมานา, ศรัณยู วงษ์กระจ่าง และ ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์ 13 เกมสยอง เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเรื่อง “13th Quiz Show” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูน “รวมเรื่องสั้นจิตหลุด” (My Mania) ของ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ นักเขียนการ์ตูนชาวไทย สำหรับรางวัลที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคือ รางวัลสาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม โดย กฤษดา สุโกศล จากรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2549 ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ภาพยนตร์ภาคก่อนหน้าของ 13 เกมสยอง เป็นหนังสั้น ชื่อเรื่อง 11 (หรือ Earthcore) , 12 Begin และ ภาคต่อ ชื่อเรื่อง 14 Beyond ภาพยนตร์ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูด ชื่อเรื่อง 13 Sins กำกับโดย แดเนียล สแตมม์ ผู้กำกับชาวเยอรมัน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว 12 begin

รีวิว 12 begin

รีวิว 12 begin หนังสั้นเรื่อง 12 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กนักเรียนชาย ม.3 กลุ่มหนึ่ง ที่มี เต้ (อเล็กซานเดอร์ ไซมอน เรนเดล) มิก ( ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์) แบ้ (โอฬาร กีรติกุญธร) และ เพื่อนใหม่ที่เพิ่งมาเข้ากลุ่ม เบิร์ด (สันติภาพ เต็งไตรรัตน์) ที่มาเล่าเรื่องประหลาดให้พวกเขาทั้ง 3 ฟังว่า เมื่อคืนขณะที่ออนเอ็ม (โปรแกรมสนทนาทางอินเตอร์เนต) ปรากฎว่า “ กี้ ” โผล่เข้ามาทักทายเขา ทั้งที่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า กี้ (พิสิฐ โชติจุฬางกูร) เพื่อนเก่าในกลุ่มสมัย ม.2 คนนี้ มีชื่อคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างหายตัวไปหรือเสียชีวิตมานานแล้ว

เรื่องย่อ

รีวิว 12 begin

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพมหานคร เมื่อกลุ่มเด็ก ม.3 ประกอบด้วย เต้ แบ้ และ มิก ได้พบว่า เพื่อนเก่าของพวกเขาเมื่อสมัยเรียนด้วยกันในชั้น ม.2 ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ กลับโผล่ออกมาทักทายเพื่อนใหม่ที่เพิ่งมาเข้ากลุ่มคือ เบิร์ด ทางอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมสนทนา ทำให้ทั้งกลุ่มต่างพากันสงสัย และ พยายามที่จะค้นหาว่า ใครกันที่เป็นคนปลอมตัวมาเป็น “กี้” เพื่อนคนที่ทั้งกลุ่มต่างเข้าใจว่าได้ตายไปแล้ว หรือจะกลายเป็นกี้จริง ๆ ที่กลับมาเพื่อล้างแค้นเพื่อน ๆ ที่เหลืออยู่

…คนในกลุ่มต่างก็ช่วยกันเพื่อสืบหาว่าต้นตอของกี้ ในอินเตอร์เน็ตนั้น มาจากที่ไหนกันแน่ จนกระทั่งเมื่อแบ้ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ได้ตามสืบ และ ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ พ.ต.อ. สุรชัย ผู้เป็นพ่อของเต้ ต้องเข้ามารับสืบสวนคดีนี้ และเมื่อยิ่งทุกคนได้ติดตามคดีประหลาดนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ความจริงท้ายที่สุดก็ยิ่งทำให้ทุกคนตะลึงกับความโหดร้ายของสัญชาตญาณดิบที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน… 12 เกมสยาม pantip

นักแสดงจาก 12 begin

รีวิว 12 begin

– พ.ต.อ. สุรชัย ตันติวีระกุล (ศรัญยู วงศ์กระจ่าง) – ตำรวจพ่อหม้ายที่ต้องเลี้ยงลูกชายวัยกำลังโตอย่างลำพัง สุรชัยก็เหมือนพ่อที่เป็นตำรวจทั่ว ๆ ไปคือระเบียบจัด ชอบควบคุม แต่ทว่าภายใต้การดูแลที่ดูจะเข้มงวดของเขาสุรชัยรักลูกชายคนเดียวของเขามาก แต่ไม่รู้วิธีการแสดงออกอย่างไร ด้วยเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นได้พรากลูกชายไปจากเขา ทำให้เขาเสียใจมาก และ ออกติดตามคดีลึกลับนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อชดใช้สิ่งที่เขาได้สูญเสียไป 12 เกมสยาม สปอย

– แม่กี้ (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) – แม่ผู้โศกเศร้ากับการสูญเสียของเธอ เธอยังไม่บอกว่ากี้เป็นอะไรตาย แต่ตัวละครตัวนี้เก็บเงื่อนงำอะไรบางอย่างไว้มิใช่น้อย จะมีบทบาทมากในภาคต่อไป

– เต้ (อเล็กซานเดอร์ ไซมอน แรนเดลล์) – เด็กนักเรียน ม.ต้น ลูกชายของสุรชัย เต้เป็นเด็กเงียบ ๆ เหมือนคิดอะไรตลอดเวลา ซึ่งดูเป็นปกติของเด็กวัยนี้แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเต้เหมือนกำความลับอะไรบางอย่างอยู่ เมื่อเหตุการณ์มาถึงจุดที่อันตราย เขาต้องการความช่วยเหลือแต่ไม่รู้จะบอกกับพ่อหรือคนรอบข้างอย่างไร จนในที่สุดมันก็สายเกินไป

– กี้ (พิสิฐ โชติจุฬางกูร) – เด็กน้อยผู้ล่วงลับไปแล้วในความเชื่อของเพื่อน ๆ แต่กี้กำลังอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลก แต่ก่อนกี้เคยเป็นเด็กติดเกมจนมีอาการหลงผิดคิดว่า ตัวเองสร้างโลกได้ จนกระทั่งต้องออกไปรักษาตัว แล้วก็เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ

– มิก (ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์) – เพื่อนสนิทของเต้ เป็นเด็กนักกีฬา มิกเป็นคนจิตใจดี รักเพื่อน ยอมเสียสละให้เพื่อนได้ แต่บางครั้งก็ใจร้อนวู่วาม

– แบ้ (โอฬาร กีรติกุญธร) – เพื่อนในกลุ่มเต้ พูดมาก ฉลาด เก่งคอม แต่ปากสว่างเลยโดนดี

– เบิร์ด (สันติภาพ เต็งไตรรัตน์) – เพื่อนใหม่ในกลุ่มเต้ เป็นเด็กติดเกมเหมือนกับกี้ แต่อยู่ในระดับอ่อน ๆ ไม่ถึงขั้นบ้ามาก เป็นคนแรกที่เจอกับกี้

รีวิว 12 begin

รีวิว 12 begin ภาพยนตร์เรื่อง 13 เกมสยอง ออกฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ทำรายได้รวมไปได้ 18.47 ล้านบาท และ ต่อมาได้ออกฉายในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 และ ได้ฉายใน Puchon International Fantastic Film Festival ช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 ที่เมืองปูชอน เกาหลีใต้ และ ยังได้ร่วมฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Fanatasia Film Festival ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา ซึ่งบัตรที่ฉายในงานเทศกาลครั้งนี้เต็มทั้งสองรอบ จนมิตช์ เดวิส ตำแหน่งไดเรกเตอร์ออฟอินเตอร์เนชันนอลโปรแกรมมิง ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกภาพยนตร์จากทั่วโลกเข้าร่วมในเทศกาลครั้งนี้ เขียนบทความพูดถึงภาพยนตร์ 13 เกมสยอง ในหนังสือ และ เว็บไซต์ทางการของเทศกาลไว้ว่า “หากคุณมีโอกาสที่จะได้ชมภาพยนตร์เรื่องเดียวในซัมเมอร์นี้ เราขอแนะนำ 13 เกมสยอง” 12 begin 12 เกมสยาม

สรุป

ส่วนตัวถือว่าเป็นหนังที่ดีมากในเรื่องของพล็อต และ องค์ประกอบอื่น ๆ แม้จะมีข้อสงสัยอะไรหลาย ๆ อย่างเช่น ทำไมเรียกพ่อเต้ว่า สุรชัย เฉย ๆ เพราะปกติ เวลาเรียกพ่อเพื่อน เราจะไม่เรียกชื่อเฉย ๆ คาดว่าคงมีอะไรมากกว่านั้น โดยส่วนตัวแล้วก็เป็นหนังที่มีหลายฉากให้ชวนแหวะชวนสยอง เป็นหนังที่่องค์ประกอบโดยรวมก็ถือว่าไม่เลวนะครับ ส่วนตัวขอให้คะแนน 5/10 ครับ ดูหนังออนไลน์ 12 Begin

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

หนังไทยย้อนยุค นี่คือหนังไทยปี 61 โดยจากผลงานเรื่องที่สองของตั๊ก บงกช ผกก.ที่มีผลงานอยู่พอสมควรกับเรื่องราวภาพยนตร์ไทยที่กล่าวว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง นักแสดงที่ผันตัวเองมาอยู่เบื้องหลัง ทั้งกำกับ และ เขียนบท ถ่ายทอดเรื่องราวของ 2 หญิงสาวเพื่อนสนิทอย่างโย ที่เป็นดารานางแบบ ที่ไม่มีใครจ้างงาน และ พิม ที่พบว่าตนเองนั้นต้องเผชิญโรคร้าย ดูเหมือนชีวิตจะไม่ราบรื่นเท่าไร การใช้ชีวิตมีแต่ปัญหาทั้ง 2 จะจัดการกับชีวิตอย่างไร ต้องไปดูกันแต่สำหรับรีวิวนี้อ่านโล่ด…. ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ยาเสพย์ติด เพื่อนรัก ฆาตกรรม และ โรคร้าย องค์ประกอบซ้ำ ๆ เดิม ๆ พวกนี้หากถูกนำมาเขย่า และ ผสมให้ดีอาจเกิดคอกเทลหนังระทึกขวัญ ดราม่า เคล้ามิตรภาพลึกซึ้งออกมาได้ แต่สำหรับ Sad Beauty นอกจากภาพสวยเหมือนมิวสิควีดีโอแล้ว ประเด็นของเรื่องกลับบางเบา และ ไม่อาจนำพาให้คนดูเชื่อในความสัมพันธ์ของตัวละครได้เลยด้วยซ้ำ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย พ้อยท์ อัพ ฟิล์มส์ (Point up Films) และ เอ็ม พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ “เพื่อนฉันฝันสลาย (Sad Beauty)” ผลงานการกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ “ผม – บงกช เบญจรงคกุล” ที่ทุ่มเทแรงกาย และ แรงใจสุดตัวเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เพื่อนสุดที่รัก พร้อมเปิดแฟนเพจของภาพยนตร์ และ ยังเป็นแอดมินเองเพื่อได้คุยกับแฟน ๆ อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่จะได้เห็นฝีไม้ลายมือจากนักแสดงอย่างเธอ

“เพื่อนฉันฝันสลาย” สร้างขึ้นมาจาก แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ของ ตั๊ก บงกช ผู้กำกับภาพยนตร์ กับเพื่อนสุดที่รัก “จริง ๆ ผมตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้ตั้งนานแล้วค่ะ เพียงแต่ว่าตอนนั้น ผมตั้งชื่อว่า “ความรักอีกความรู้สึก (emotion love) ทีนี้พอวันเวลามันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

ผมเลยรู้สึกว่า พอเขียนไปเรื่อย ๆ ความเศร้าของบทมันเยอะขึ้น มันก็เลยเปลี่ยนชื่อเป็น “Sad Beauty เพื่อนฉันฝันสลาย” เพราะว่าด้วยยุคสมัยแล้ว ตอนนั้นช่วงคิดที่จะทำ มัน 8 ปีก่อนหน้านี้ค่ะ ก่อนที่ผมจะแต่งงานด้วยซ้ำ บทเรื่องนี้เขียนเสร็จแล้ว

แต่พอเราดำเนินเรื่องมาสักพัก เราก็รู้สึกว่า ขั้นตอนของการทำภาพยนตร์ มันต้องดูแนวของแต่ละปี ว่าคนดูของแต่ละปีมันเป็นยังไง ภาพยนตร์ของโลกไปถึงไหนกันแล้ว เราก็เลยกลับมานั่งดูจุดพีค จุดชะลอ และ ไปถึงจุดจบ ก็เริ่มเปลี่ยน คือเปลี่ยนเนื้อเรื่องค่ะ

แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์พื้นฐานความเป็นเนื้อเรื่องเก่าอยู่ เปลี่ยนไปจากเดิมไม่เยอะค่ะ แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเพื่อนค่ะ เพื่อนที่ผมมีความรู้สึกดีกับเค้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังเพื่อนจริง ๆ ค่ะ เพื่อนผู้หญิง เป็นหนังของเพื่อน ทุกคนมีเพื่อนผู้หญิง เพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นเพื่อนผู้หญิงที่เป็นเพื่อนจริง ๆ แล้วก็สนิทกัน เป็นเรื่องจริงที่ผมมีเพื่อน แล้วเค้าก็เสียไป เสียไปตอนอายุ 23 แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเจอเพื่อนที่เหมือนเค้าอีกเลย”

เรื่องย่อ เพื่อนฉันฝันสลาย

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

ตัวหนังเล่าเรื่องราวที่เหมือนเป็นกึ่งอัตชีวประวัติของผม บงกชเองที่เธอเลือกถ่ายทอดมันผ่านตัวละครชื่อ โย (ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟลเวอร์) นางแบบสาวปากสว่างที่มักมีเรื่องกับนักข่าวจนผู้จัดการ และ คนในวงการเอือมเธอกันเป็นแถว มีเพียง พิม (ภัควดี เพ็งสุวรรณ) เพื่อนสาวนักศึกษาที่ทั้งเรียบร้อย และ เป็นเด็กดีคอยอยู่ข้าง ๆ เธอเสมอในวันที่ทุกคนหันหลังให้ แต่ในคืนหนึ่งที่โยหวังปลอบใจพิมหลังรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็ง ทั้งคู่ก็เผลอพลั้งมือฆาตกรรมพ่อเลี้ยงของพิมจนนำไปสู่การเดินทางเพื่อกำจัดศพแต่ความลับครั้งนี้ก็กัดกร่อนความสัมพันธ์ของทั้งคู่จนยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพื่อน ฉัน ฝัน สลาย

จุดสังเกตรีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

“ผมอยากให้ทุกคนไปดูหนังเรื่องนี้ค่ะ ผมอยากให้คนเห็นคุณค่าของเพื่อนค่ะ คือเมื่อไหร่ที่เรายังมีเพื่อนอยู่ แล้วเพื่อนคนนั้นเค้าดีกับเรา เราไม่รู้ว่าควรจะมีเพื่อนมากหรือเพื่อนน้อย แต่ว่าควรให้อภัยกัน เราต้องอยู่ด้วยกัน อยากให้ทุกคนรู้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมลงมือทำงานเอง, เขียนบทเอง ซึ่งเขียนจากความรู้สึกจริง ๆ รวมถึง ผมเปิด Facebook Fanpage ของหนังเรื่องนี้ขึ้นมา (www.fabook.com/SadBeautyMovie/) และ เป็นแอดมินเพจเอง

ใครอยากรู้อะไรก็ถามกันเข้ามา ผมจะเข้ามาตอบเองทุก ๆ คำถาม และ ก็จะมี Facebook Live เพื่อจะได้พูดคุยกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าผมทุ่มทุก ๆ อย่างให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ๆ ด้วยความที่รักภาพยนตร์ รักเมืองไทย ก็อยากต่ออาชีพภาพยนตร์ และ ก็หนังไทยยังอยู่ต่อไป ยังไง ๆ ใจผมก็ยังอยู่กับภาพยนตร์ไทย ถึงแม้ว่าแม่ผมจะเคยพูดว่า อยู่กับภาพยนตร์จน..นะ แต่ผมก็บอกว่า โอเคจน..ก็ยอม”

จนมาถึงจุดที่พลิกผัน เมื่อวันหนึ่งโรคร้ายเข้ามาเยือนในชีวิตของพิม พร้อมกับที่ โย และ พิม ต้องพยายามปกปิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองร่วมกันทำไว้ เพราะว่าถ้ามีใครรู้ชีวิตของเธอ 2 คนจะพังลงในพริบตา 8 ก.พ. ต้อนรับเดือนแห่งความรักทุกโรงภาพยนตร์ sad beauty

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย

ถือว่าผู้กำกับหนังที่เป็นผู้หญิงของวงการหนังไทยมีไม่มากนัก เมื่อเทียบอัตราส่วนก็แทบไม่ถึงครึ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ ตั๊ก บงกช ที่ผันตัวจากการเป็นนักแสดงผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มานับ 10 ปี เพื่อนฉันฝันสลาย Sad Beauty เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่ 3 และ เป็นครั้งแรกที่นั่งแท่นกำกับเดี่ยว แค่ปล่อยตัวอย่างแรกก็สร้างความเซอร์ไพรส์ทันที เพราะไม่คิดว่าจะทำออกมาแนวนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวดราม่าผสมฆาตกรรม

เพื่อนฉัน ฝันสลาย Sad Beauty ว่าด้วยเรื่องราวของ โย และ พิม ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งเเต่เด็ก โยเป็นนางแบบชื่อดัง เธอมีความสวย เเต่ในความสวยของเธอนั้นไม่มีอะไรเลย เธอใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่มีแก่นสาร นอกจากหาเงินที่ได้มาจากงานนางเเบบ เเละใช้เงินเที่ยวไปวัน ๆ เท่านั้น

เเต่ด้วยความโชคดีของเธอ เธอมีเพื่อนที่น่ารักเเละหวังดีกับเธอมากอย่างพิม เพื่อนที่เเสนดีของโย เพื่อนสาวที่ไปไหนไปกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอเข้าใจโยเสมอ จนมาถึงจุดที่พลิกผัน เมื่อวันหนึ่งโรคร้ายเข้ามาเยือนชีวิตของพิม พร้อมกับที่โย และ พิมต้องพยายามปกปิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองร่วมกันทำไว้ เพราะว่าถ้ามีใครรู้ชีวิตของเธอทั้งคู่จะพังลงในพริบตา เพื่อนฉันฝันสลาย ดูหนังออนไลน์

สรุป เพื่อนฉันฝันสลาย

รีวิว เพื่อนฉันฝันสลาย หนังดูง่าย และ ดีกว่าที่คิด ส่วนการวิธีการเล่าเรื่องก็เข้าใจง่าย ไม่มีความซับซ้อน แต่บางทีก็ตัดเรื่องราวไปมา ชวนงงบ้าง ทำให้รู้เลยว่าเป็นความเอาแต่ใจ และ ความต้องการของผู้กำกับแน่ๆ เพราะมีเอกลักษณ์บางอย่างที่สื่อออกมาให้เห็นชัดเจน ซึ่งนอกจากจะสื่อประเด็นความรักที่มีต่อเพื่อนแล้ว ยังมีเรื่องของวงการบันเทิงที่ทำให้เห็นว่าคนที่เคยผ่านประสบการณ์มาแล้วจะสื่อออกมาให้เห็นได้ดีที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุด และ ทำให้หนังน่าติดตามก็คือ นักแสดง ทั้ง ฟลอเรนซ์ วนิดา ที่หวนคืนมาเล่นหนังเต็มเรื่องอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายจากวงการหนังไทยไปโลดแล่นในวงการฮอลลีวูด ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็ถือว่าคืนฟอร์มได้ดี และ ที่เกินความคาดหมายก็คือ นักแสดงหน้าใหม่ แอม ภัควดี ไม่คิดว่าเธอจะลงทุนโกนหัวจริง โชว์เรือนร่างอย่างเต็มที่ไม่เคอะเขินเลย รวมทั้งฝีมือทางการแสดงก็ไม่เหมือนมือใหม่เลย เชื่อว่าเธอน่าจะไปได้อีกไกลสำหรับวงการนี้

โดยภาพรวมของหนังทำให้นึกถึงหนังไทยสมัยก่อน ทั้งความสมจริง และ ความดิบเถื่อนที่สามารถสัมผัสได้ โดยเฉพาะจุดไคล์แม็กซ์ ซึ่งถือว่าสร้างความเซอร์ไพรส์มาก เพราะไม่คิดว่าจะมีความดิบมากขนาดนี้จากฝีมือของผู้กำกับหญิงที่ชื่อว่า ตั๊ก บงกช ถือเป็นอีกหนึ่งหนังคุณภาพของคนไทยที่ควรสนับสนุน

คือสรุปเลยละกันว่า เพื่อนฉันฝันสลาย น่าจะเป็นงานส่วนตัวของผมบงกช ที่ไม่ได้หวังให้คนดูเข้าถึงได้ทุกคน แต่อาการหนักสุดของหนังคือบทที่ไม่มีทิศทาง พยายามใส่รายละเอียดรายทางเยอะแยะท่ามกลางโครงเรื่องที่ไม่แข็งแรงนัก แม้งานโปรดักชั่นจะสวยงาม ถ่ายสวย คุมเทคนิคดี แต่กลับสอบตกทั้งความบันเทิง และ คุณค่าทางจิตใจอย่างที่ผู้กำกับหวังให้คนอื่นรู้สึกร่วมไปกับเธอ ดูหนังเพื่อนฉันฝันสลาย hd

 

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

หนังไทยnetflix สวัสดีจ้าวันนี้แอดมินมาแนะนำหนังไทยที่ก็ไม่ได้มีพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่แหวกแนวจากหนังไทยรักเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องบทนี่ ต้องยกให้เค้าจริงๆครับ จากเพื่อนสนิททั้งสองได้เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็น “แฟน” เมื่อ เต๋ “บิวกิ้น” และ โอ้เอ๋ว “พีพี” ต้องเดินทางจากบ้านเกิดที่ภูเก็ต ขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพฯ เต๋พยายามจัดสรรเวลามานอนที่คอนโดโอ้เอ๋วเพื่อจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อกิจกรรมชมรมละครฝั่งเต๋เริ่มเข้มข้นขึ้น เวลาที่มีให้กันก็ลดน้อยลงไป ทั้งคู่ต้องเผชิญกับการปรับตัว เข้ากับความวุ่นวายของเมืองใหญ่ และ โลกใบใหม่ที่ไม่มีทางรู้เลยว่าข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง แม้ว่าทั้งคู่นั้นจะเรียนคณะนิเทศศาสตร์เหมือนกัน แต่เพราะอยู่คนละมหาวิทยาลัย ทำให้ทั้งสองก็ได้พบเจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ และ ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนกัน และ สิ่งนั้นเองที่จะค่อย ๆ หล่อหลอม เต๋ และ โอ้เอ๋ว ให้เติบโตขึ้นไปกันคนละทาง เส้นทางที่มาพร้อมกับความฝัน และ คำสัญญาว่าจะรักกันไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะรักษามันไว้ได้จริงหรือไม่ ร่วมติดตามเรื่องราวชีวิตรักของ เต๋ และ โอ้เอ๋ว ได้ใน “แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part 2” (I Promised You the Moon)

ซีรีส์เริ่มตอนแรก 22 ตุลาคม ผ่านมาถึงวันนี้ก็ 3ep แล้วจ้ะ ขอบอกตรงนี้เลยว่า ได้มูฟออนเป็นวงกลมกันแน่นอนสำหรับซีรีส์น้ำดีที่นาดาวบางกอกตั้งใจเสิร์ฟให้เป็นอาหารตา และ อาหารใจขนาดนี้ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ เรื่องราวแห่งมิตรภาพของ เต๋ (บิวกิ้น) และ โอ้เอ๋ว (พีพี) เพื่อนสนิทสมัยเด็กที่ห่างหายกันไปหลายปีด้วยความบาดหมางเล็กน้อย แต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก และ กินเวลายาวนานจนได้กลับมาพบกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน เพื่อเตรียมสอบแอดมิชชันเข้ามหาวิทยาลัย ต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่นที่จะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน จากเพื่อนรัก กลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ แต่ความสัมพันธ์ และ เรื่องค้างคาในอดีต ทำให้สองคนผูกพันกันมากขึ้น รู้จักรู้ใจกันมากขึ้นจนพาไปสู่ความรู้สึกแบบใหม่ ที่ต่างก็ไม่เคยรู้สึกกันมาก่อน ความสัมพันธ์ครั้งนี้จึงมีทั้งความฝัน และ ความผูกพันของเด็กหนุ่มสองคนเป็นเดิมพัน

พล็อตเรื่อง

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

พล็อตพื้น ๆ ออกมาแบบนี้เลยละจ้ะ แต่สามารถขยายมันออกมาได้มากมายจนกลมกลึง บทมีความละเอียดอ่อน และ ไม่ปล่อยความรู้สึกใดใดให้หลุดไปเลยสักนิดเดียว เนื้อเน้น ๆ ไม่มีน้ำ เคี้ยวกันหนึบหนับอร่อยลิ้น แต่ละฉากที่ออกมาสื่อสารความรู้สึกถึงใจคนดูได้อย่างเฉลียวฉลาด โดยเฉพาะภาษาภาพต่าง ๆ สามารถดึงให้เข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้อย่างเนียน ๆ เป็นซีรีส์ที่มีความเรียลแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ เมื่อพูดถึงความจริงที่ว่า เมื่อความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ บางครั้งเราก็แปลหัวใจตัวเองไม่ออก

การใช้ภาษาจีนเป็นโครงสร้างของบทเป็นอะไรที่คลาสสิกเอามาก ๆ ในทุก ๆ ฉากจะมีการสื่อสารด้วยภาษาภาพ ภาษาพูด กริยาอารมณ์ของตัวละครต่อกันเป็นฉาก ๆ เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ และ ที่สำคัญ มันสวยงาม ทุกบทสนทนาของตัวละครมีความหมายเรียกว่าเราจะทิ้งคำพูดไหนไปแบบไม่สนใจไม่ได้เลย มันมีความหมายแฝงอยู่ในนั้นแทบจะทุกประโยค ไม่ต้องถึงกับตั้งใจดูเลยนะคะ แต่ซีรีส์จะทำให้เราคลาดสายตาจากหน้าจอไปไม่ได้เองโดยอัตโนมัติ เพราะเราจะเหมือนเป็นส่วนหนึ่งกับเนื้อเรื่อง แทบจะนั่งอยู่ข้าง ๆ หรือร่วมความรู้สึกเดียวกันกับตัวละครเลยด้วยซ้ำในหลาย ๆ ฉาก แปลรักฉันด้วยใจเธอ ย้อนหลัง

จุดสังเกต

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

เรื่องนี้ขอเอนเอียงไปชื่นชมกับความสามารถของบิวกิ้นเป็นพิเศษ เพราะฮีรับบทหนักกว่าใคร ๆ ใจบางมากแม่เอ้ยยย อินเนอร์บิวกิ้นคือตีบทแตกกระจุยกระจาย ดึงความรู้สึกร่วมของคนดูได้เต็มเหนี่ยว เราสามารถรู้สึกอึดอัด และ สับสนไปกับเขา พูดไม่ออกบอกไม่ถูก และ ฟุ้งซ่านจนเกินต้าน ใจเราต้องการอะไร และ เป็นอะไรอยู่ในขณะนี้ ใครก็ได้บอกฉันทีเพราะฉันไม่รู้จะบอกกับตัวเองยังไง ฉันแปลหัวใจตัวเองไม่ออก…อินเนอร์บิวกิ้นมันส่องแสงออกมาแบบเจิดจรัส จนคนดูทางบ้านอดลุ้นไปด้วยไม่ได้

ชื่อเรื่องมันบอกความรู้สึกตัวละคร เต๋ หมดทุกอย่างเลยนะ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก พูดไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าจะพูดออกมาว่ายังไง สับสนรึเปล่าก็ไม่รู้ เข้าใจหัวใจตัวเองรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ก็ปฏิเสธความรู้สึกนั้นไม่ได้ เรื่องนี้ตัว โอ้เอ๋ว เป็น LGBT ที่เปิดเผยชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อนทุกคนรู้แม้กระทั่งตัวเต๋เองยิ่งรู้ดีกว่าใคร ๆ ตัวละครเต๋จะเป็นคนที่ลุ่มลึกในความรู้สึก อึดอัดร้อนรน และ สับสนจนบอกไม่ถูก บิวกิ้นเล่นบทนี้ได้แตกกระจุย สามารถส่งอินเนอร์ตัวละครออกมาได้แบบจัง ๆ จนคนดูมีความรู้สึกร่วม เข้าถึง ได้ง่าย ๆ

บวกกับเพลงประกอบที่ส่งออกมาได้จังหวะ และ เข้ากับฉาก การตัดต่อที่กลมกลืน เรียกว่าละมุนเลยทีเดียว โลเคชัน ฉาก มุมกล้อง ทุกอย่างที่ประกอบกันมีความหมายที่แปลความออกมาได้หมด ส่งให้ซีรีส์มีความกลมและ สวยงามจนรู้สึกได้เลยว่า ตัวละครเต๋กำลังเผชิญอยู่กับอะไร และ บอกเราออกมาดัง ๆ

ว่าความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นมาในรูปแบบใด มันสวยงามเสมอ อีกอย่างที่ต้องชมอย่างจริงจังเลยก็คือ การคุลมโทนของซีรีส์เรื่องนี้เป๊ะปัง ไม่กระเด็นออกไปไหน นอกจากการใช้ภาษาจีนเป็นโครงสร้างของบทแล้ว การใช้สี แดง เขียว น้ำเงินในซีรีส์ ยังเป็นสื่อสัญลักษณ์ของตัวละคร สร้างภาพจำ และ อารมณ์ร่วมให้อินมากขึ้นไปอีก แปลรักฉันด้วยใจเธอ ดู

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภูเก็ตแตกแน่ ๆ งานนี้ ทัวร์จีนทัวร์ไทยต้องแห่กันไปลงที่ภูเก็ต บรรยากาศท้องทะเล มุมกล้องที่สื่อออกมาถึงความเป็นส่วนตัว ที่มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นเป็นเจ้าของมันทำให้ภูเก็ตเต็มไปด้วยความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น การสื่อสารสวยงามที่ผู้กำกับบรรจงสื่อออกมา

สร้างภาพลักษณ์ของความรักให้สวยงาม โดยที่เราไม่สนใจเลยว่าจะเป็นความรักในรูปแบบไหนได้ง่าย ๆ เป็นซีรีส์ Y สะอาดสะอ้าน และ งดงามชวนมอง ฟิน เขิน กดดัน มีความสุข และ เข้าใจในหัวอกของตัวแสดงได้อย่างซึมลึก เป็นมิตรภาพความรักที่สร้างอารมณ์ร่วมได้หลากหลายเอามาก ๆ

เอาเป็นว่าผมก็จะรีวิวตามความรู้สึกที่ได้ดูไปแล้วกันนะครับ อาจจะมีปน ๆ กับที่ได้อ่านมา และ เห็นต่างกับคนอื่นบ้าง ซึ่งรีวิวนี้จะเปิดเผยเนื้อหาสำคัญถึง EP3 ของ Part 2 ทั้งนี้ผมดูมาตั้งแต่ Part แรกแล้วแต่ไม่ได้รีวิว เพราะเป็นซีรีส์ที่ผมรู้สึกว่าเขียนรีวิวแบบไม่สปอยล์เลยยากมาก (Part แรก เลยไม่ได้เขียน แต่ต่อไปอาจจะมีเขียนแบบสปอยล์ปน ๆ มาบ้างครับ เดี๋ยวจะไม่ได้เขียนอะไรเลย ฮา ๆ)

จนอยากจะยกให้เป็นซีรีส์ Y อันดับ 1 ของปีนี้ไปเลยทีเดียว งานประกาศรางวัลปีนี้สนุกแน่ ๆ ค่ะ ซีรีส์ออนแอร์มา 3 ตอนแล้วนะคะ เรื่องนี้เป็นซีรีส์ 5 ตอนจบ ที่ขัดใจคนดูตอนนี้มาก เพราะอยากให้มีสัก 12 ตอน แปลรักฉันด้วยใจเธอ netflix

สรุป

ยังไงก็ตาม ส่วนตัวแล้วผมก็ยังมองว่าซีรีส์เรื่องนี้ มีประเด็นที่อยากติดตามไปถึงตอนจบครับ เพียงแต่เส้นทางที่ซีรีส์เดินไปแตกต่างจากเดิมพอสมควร เพราะรสชาติของ Part 1 และ Part 2 เป็นเหมือนการเดินเรื่องต่อกัน แต่ประเด็นที่หยิบยกมาเล่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย ถ้าพาร์ทแรกเป็นเรื่องราวของการไม่รู้ใจตัวเองของเต๋ พาร์ทหลังคงเป็นเรื่องราวของการมองแฟนเป็นของตายของเต๋ นั่นเอง แปลรักฉันด้วยใจเธอ ภาค 1

แปลรักฉันด้วยใจเธอ

โปรดิวเซอร์: ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร
กำกับการแสดง : บอส-นฤเบศ กูโน
แนวละคร: Romantic Coming of Age
ผลิต : นาดาว บางกอก ร่วมกับ LINE TV
เวลาออกอากาศ : ตอนใหม่ ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. บน LINE TV

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

หนังไทยย้อนยุค ถ้าให้พูดถึงนักแสดงตลกของบ้านเรา คงจะไม่นึกถึงเขาเหล่านี้ไม่ได้ เท่ง โหน่ง หม่ำ นักแสดงตลกรุ่นพ่อ ที่มีหนังมีผลงานมากมาย แต่วันนี้เรื่องที่ผมจะมาแนะนำนั้นเป็นหนังตลกที่นำแสดงโดยเท่ง ดาราตลก รุ่นใหญ่ ที่มีผลงานเพลงอย่าง ‘กินตับ” ซึ่งผมว่าเพลงนี้ช่วยประชาสัมพันธ์หนังจีวรบินได้แบบเกินร้อยเลยล่ะครับแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปดูในโรง มารอเก็บตกดูตอนแผ่นออกแทน ซึ่งก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ตีตั๋วเสียเงินเป็นร้อย เสียแค่ค่าแผ่น 20 บาทเท่านั้น พอทำใจได้ ถ้าเสียเป็นร้อยล่ะคงมีเสียดายเงินแน่ๆ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เป็นภาพยนตร์ไทย เดิมชื่อ พระเท่งนักเลงโหน่ง เริ่มออกฉายวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 อำนวยการผลิตโดยสหมงคลฟิล์ม ผู้กำกับการแสดงโดย เท่ง เถิดเทิง , สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ แสดงนำร่วมกับ โหน่ง ชะชะช่า ภาพยนตร์ทำรายได้ 65.32 ล้านบาท ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน ภาพยนตร์เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ และสมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของพระและเสี่ย ที่โชคชะตานำพาให้พวกเขาต้องมาเจอและฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ที่มารับบทเป็น พระเท่ง พระที่หลบลี้หนีความวุ่นวายไปจำศีลภาวนาอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี และน่าจะได้มีโอกาสกลับมาจำวัดที่ประเทศไทย ถ้าตั๋วเครื่องบินโดยสารไม่ดันเต็มไปเสียก่อน คนต่อมาคือชูศักดิ์ เอี่ยมสุข รับบทเป็น เสี่ยโหน่ง พ่อค้าอัญมณีเศรษฐีผู้ร่ำรวยทั้งเงินทองและอิทธิพล ถึงเป็นผู้มีอิทธิพลแต่ก็ยังมีกุศลจิตจึงตัดสินใจนิมนต์พระเท่งให้โดยสารเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเดินทางกลับไทยพร้อมกัน โดยภาพยนตร์เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2554

เรื่องย่อ เท่งโหน่ง จีวรบิน

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

ภาพยนตร์เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เปิดเรื่องราวมาที่ พระเท่ง พระรูปหนึ่งที่ต้องหลบลี้หนีความวุ่นวายไปจำศีลภาวนาอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี โดยที่น่าจะได้มีโอกาสกลับมาจำวัดที่ประเทศไทยอย่างสะดวกโยธินซะที ถ้าตั๋วเครื่องบินโดยสารไม่ดันเต็มไปเสียก่อน และก็เช่นเดียวกันกับ เสี่ยโหน่ง พ่อค้าอัญมณีเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยและมากล้นไปด้วยอิทธิพล ที่เขาก็ได้บังเอิญมาติดต่อธุรกิจที่เดียวกับพระเท่งพอดี และด้วยความที่เสี่ยโหน่งเป็นคนจิตใจดีเขาจึงตัดสินใจนิมนต์พระเท่งให้โดยสารเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเดินทางกลับมาพร้อมกันกับเขา จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันนำไปสู่การเดินทางผจญภัยฝ่าวิบากกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของคนที่เกิดมาเป็น พระ และอีกคนที่เกิดมาเป็น เสี่ย แล้วบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามชมได้ในภาพยนตร์ไทยคอมเมดี้เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เท่งโหน่งจีวรบิน แฟนโม

ความประทับใจ เท่งโหน่ง จีวรบิน

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

ภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็น หนังตลกขวัญใจใครหลายๆคนเลยใช่มั้ยหล่ะค่ะ ด้วยเนื้อหาของเรื่องที่ทั้งสนุกทั้งอลหม่าน ที่สำคัญคือนักแสดงตลกขวัญใจคนไทยทั้งสองคนนั้นก็คือ เท่งและโหน่ง ที่พวกเขาสองคนพลัดกับปล่อยมุก ตบมุกกันได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าดูไปฮาไป ดูไปหัวเราะไป แต่อาจจะติดอยู่ที่การดำเนินเรื่องนิดหน่อย ที่เดินเรื่องช้าและงงๆกับฉากแต่ละฉากในเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นความฮาก็ช่วยให้หนังเดินต่อไปได้อยู่ดี ขอแนะนำสำหรับใครที่เป็นคอหนังตลกไม่ควรพลาดนะคะกับภาพยนตร์ไทยคอมเมดี้เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เท่งโหน่งจีวรบิน หมออนามัย

เรื่องของนักแสดง อันนี้หายห่วงอยู่แล้วครับ แต่ละคนเล่นได้ดีนะ เพราะส่วนใหญ่ก็มาเล่นเป็นตัวเอง 555 บทคุ้นเคยๆ ทั้งนั้น แต่ที่ออกจะงงนิดหน่อยคือพี่โหน่งแกมาซะน้อยเชียว ตอนแรกนึกว่าจะโผล่มาตีคู่ ได้รับการสอนสั่งจากพระเท่งจนกลับใจเป็นคนดี แต่นี่ถึงตอนจบเสี่ยโหน่งก็ยังป่วนศาสนาเท่าเดิม อันนี้ก็แอบเสียดายอีกนิด เพราะจริงๆ พี่โหน่งแกเล่นหนังเก่งนะครับ (ดูอย่างใน ฟอร์มาลีน แมน ก็ได้ครับ พี่แกเล่นตลกก็ดี แต่พอถึงเวลาต้องดราม่านี่ก็ยอดเยี่ยมไม่หยอกเหมือนกัน)

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน

รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน เมื่อโชคชะตาชวนศรัทธามาร่วมกันผ่าวิกฤตกับสถานการณ์ที่พร้อมพลิกและผันอยู่หลายตลบทำให้ “พระเท่ง” ที่หลบลี้หนีความวุ่นวายไปจำศีลภาวนาอยู่ที่ต่างประเทศหลายปีน่าจะได้มีโอกาสกลับมาจำวัดที่ประเทศไทยอย่างสะดวกโยธินซะที ถ้าตั๋วเครื่องบินโดยสารไม่ดันเต็มไปเสียก่อน เฉกเช่นกับที่ “เสี่ยโหน่ง” พ่อค้าอัญมณีเศรษฐีผู้มั่งคั่งและมากล้นไปด้วยอิทธิพลไม่บังเอิญมาติดต่อธุรกิจที่นี่พอดี ถึงเป็นผู้มีอิทธิพลแต่ก็ยังมีกุศลจิตจึงตัดสินใจนิมนต์พระเท่งให้โดยสารเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเดินทางกลับมาพร้อมกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันนำไปสู่การเดินทางผจญภัยฝ่าสารพัดวิบากกรรมที่ครั้งหนึ่งจะเกิดขึ้นในชีวิตของคนที่เกิดมาเป็น “พระ” และอีกคนที่เกิดมาเป็น “เสี่ย”

เมื่อทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนมี “เกิด” ก็ย่อมมี “ดับ” มี “โชค” ก็ต้องมี “เคราะห์” แถมอยู่ใกล้กันเพียงแค่พลิกฝ่ามือ ภาพยนตร์ไอเดียฮาที่มีธรรมเป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมพุ่งทะยานขึ้นฟ้าด้วยความสนุกคลุกเคล้ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แถมมี “พระ, เสี่ย, เครื่องบินลำโต, กัปตันหน้าหล่อ, เลขาสาวสุดเซ็กซี่, แอร์สาวระดับนางฟ้า, นักการเมืองขี้หลี, ทนายสุดเพี้ยน, โจรป่า” มาพัวพันกันอย่างอีรุงตุงนัง ไม่ใครรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่งานนี้รับรองว่าความฮาพร้อมบังเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างปัจจุบันทันด่วน…แน่นอน

เนื้อเรื่องก็มาแบบง่ายๆ ครับ เปิดมาก็แนะนำให้เรารู้จักกับ พระเท่ง (พี่เท่ง เถิดเทิง) ที่เพิ่งเสร็จจากการฝึกวิปัสสนาที่ทิเบต แล้วกำลังจะกลับประเทศไทน ทีนี้ตอนขากลับก็ได้เสี่ยโหน่ง (พี่โหน่ง ชะชะช่า) รับอาสาพาขึ้นเครื่องส่วนตัวกลับมาด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อมีโจรร้าย (สมชาย เข็มกลัด) แฝงตัวขึ้นไปหวังลักพาเสี่ยโหน่งและคิดจะชิงตู้เซฟของเสี่ยไปด้วย ซึ่งพระเท่งที่อยู่ในเหตุการณ์พอดีก็เลยตกกระไดพลอยโจน โดนจับไปอยู่ในค่ายของพวกโจร แถวๆ เขตชายแดน

ขอเล่าประมาณนี้นะครับ เนื้อเรื่องถัดจากนั้นก็ลองไปหาคำตอบกันต่อได้ ด้วยการเช่าหรือซื้อมาชม ซึ่งกระผมแนะนำให้เช่ามาก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งใจเร็วด่วนซื้อเลย มุกฮาที่ขำจัดๆ ปรากฏว่าไปอยู่ในตัวอย่างแล้วก็ MV เพลงกินตับหมดแล้วครับ ส่วนในหนังก็ออกแนวเรื่อยๆ มีมุกยิงตลอด แต่ก็ไม่ได้ขำอะไรนัก แม้จะมีดารารับเชิญเยอะก็เถอะ (หนึ่งในนั้นต้องมีพี่หม่ำแน่นอน) แต่ก็แค่พอยิ้มน่ะครับ

จุดที่ผมว่าหนังมาถูกทางก็คือ การผูกเรื่องให้พระเท่งมาอยู่ในดงโจร ซึ่งถ้าเขียนบทดีๆ ล่ะก็ หนังจะได้ทั้งฮาและสาระเลยล่ะครับ ให้พระเท่งค่อยๆ สอนโจร เปลี่ยน “ใจมาร” ให้กลายเป็น “ใจพระ” สอนทีละคนๆ ระหว่างนั้นก็ใส่มุกไป แค่นี้เท่งโหน่งจีวรบินก็จะกลายเป็นหนังดีได้ไม่ยาก

แม้หนังจะมาถูกทาง ทว่าเนื้อในกลับไปอีกทางครับ ก็อย่างที่คาดน่ะแหละ หนังเขาน่ะจะเน้นขำ เน้นฮา เน้นเรื่องใส่มุกมากกว่าใส่สาระ ไปๆ มาๆ เกือบทั้งเรื่องเลยลงสูตรหนังตลกแบบพิมพ์นิยมแบบที่เราคุ้นเคย เพียงแต่มุกทั้งหลายมันไม่ค่อยจะเข้าเป้าน่ะครับ เท่งโหน่งจีวรบิน netflix

บทสรุป เท่งโหน่ง จีวรบิน

โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าหลวงพี่เท่งนั้นเข้าท่ากว่าครับ ไม่ว่าจะในแง่สาระหรือความตลก จนอยากจะให้พี่เท่งได้กลับไปสวมบทหลวงพี่เท่งอีกสักรอบจัง

แต่ผมก็แอบรู้สึกเสียดายพอสมควรครับ เพราะหนังน่ะสามารถยกระดับตัวเองให้ได้ทั้งความเป็นหนังฮาและหนังดี แต่ก็ไม่ทำกัน รู้สึกเหมือนตอนดู ตุ๊กกี้ เจ้าหญิงขายกบ น่ะครับ ที่พล็อตเรื่องเข้าท่า และสามารถทำให้เป็นหนังดีที่เอาความน่ารักสไตล์ตุ๊กกี้มาขายได้ เช่น หน้าไม่สวยแต่ใจงาม ดูกะเปิ๊บกะป๊าบแต่มีความรับผิดชอบ อะไรทำนองนั้น ซึ่งถ้าหยอดประเด็นพวกนี้มาใส่นี่ จะไม่ใช่แค่ได้หนังดีเท่านั้นนะครับ แต่ยังเป็นการสร้างแบรนด์มุมบวกให้กับตัวตุ๊กกี้ได้อีกเยอะด้วย

แต่แล้วหนังก็เลือกทางสายง่ายครับ นั่นคือเอาฉากมาชนฉาก เอามุกมาชนมุกให้มันครบชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง กับเรื่องจีวรบินนี้ ก็คล้ายกันครับ มุกชนมุก ฉากชนฉาก ดูได้แบบเรื่อยๆ แต่จบแล้วก็จบกัน ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไร ทั้งๆ ที่หนังสามารถไปถึงจุดนั้นได้ เพราะหลายฉากก็เข้าท่านะ อย่างตอนที่คนหนึ่งในแก๊งโจรพยายามปกป้องพระเท่ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณ หรือชื่อของหัวหน้าโจร (รับบทโดยพี่สมชาย ศักดิกุล) ก็มีประเด็นให้เล่นต่อได้อีกเยอะ โดยส่วนตัวผมขอให้ 6/10 เท่งโหน่งจีวรบิน เต็มเรื่อง

 

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีจ้าวันนี้ผู้เขียนรีวิวมีหนังไทยมาแนะนำหนังไทยตลกที่มีนักแสดงตลกชั้นนำของประเทศมากมาย เรียกได้ว่าเรียกเสียงฮือฮาอย่างมากเลยครับ โดยหลังจากที่ลงคิวฉายต่อเนื่องกันแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา “บักแตงโม” ก็จะถือได้ว่าเป็นหนังทิ้งทายกับหนังไทยมาราธอนเซ็ตนี้ ก่อนจะต้องเปิดทางให้กับเหล่าหนังฮอลลิวูดฟอร์มยักษ์ได้มีซีนกัน และ นี่คือหนังตลกสไตล์ไทยพื้นบ้านที่คอหนังแนวนี้คุ้นเคยกันดี กับลายเส้นเด่นชัดจาก พระนครฟิลม์ ที่สำคัญเรื่องนี้ยังเป็นการผลงานการแสดงชิ้นสุดท้ายของ 2 ดาวตลกผู้ล่วงลับที่ทิ้งทวนเอาไว้อีกด้วย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง ภาพยนตร์ตลกเรื่องใหม่ของไทยที่อาจชวนให้ใครหลาย ๆ คนหายเครียดกันได้ กับหนังใหม่เรื่อง บักแตงโม (2022) ผลงานกำกับโดย ฐิติพงศ์ ใช้สติ นำขบวนความฮาโดย ก้อง ห้วยไร่, สิริอมร อ่อนคูณ, ค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน หนังใหม่อีกเรื่องที่ชวนให้เราคิดถึงจากการไปของสองนักแสดงตลกชื่อดังอย่าง น้าค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน ที่ถึงแม้ตัวจะจากไปแต่ก็ยังฝากผลงานไว้คนไทยได้มีรอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะกันเสมอ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม หนังเรื่องนี้ได้ “เอิร์น-ฐิติพงศ์ ใช้สติ” ผู้กำกับที่เคยลับฝีมือมาจากเรื่อง นะโม OK มาทำหน้าที่กำกับ และ ร่วมเขียนบทหนัง แต่องค์ประกอบต่าง ๆ นั้น ก็ไม่ได้พึงพาความทะเยอทะยานอะไรสักเท่าไหร่ เพราะโดยภาพรวมนั้น บักแตงโม แทบจะไม่มีแก่นสารใด ๆ มาประดับอยู่แล้ว นอกจากฉากปะติดปะต่อ ยิงมุกตลก ทั้งเซ็ตขึ้น และ ด้นสดตามพรสวรรค์ของนักแสดง เส้นเรื่องมีอยู่เพียงนิดเดียว และ ยังเป็นพล็อตที่ง่ายเกือบจะจืดสนิทไปซะแล้ว

แต่ก็นับว่าดีที่หนังเรื่องนี้ได้ทีมนักแสดงชุดใหญ่มาช่วยประคับประคอง และ ปรุงรสชาติให้ไม่กลายเป็นแกงจืดที่พยายามใส่เครื่องปรุง และ นี่ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบโดดเด่นเพียงอย่างเดียวที่มองเห็นในหนังเรื่องนี้ “ก้อง ห้วยไร่” ก็มารับบทในครอบของ ก้อง ห้วยไร่ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือประดิษฐ์การแสดงใด ๆ

เขาก็ยังแสดงเป็นตัวเอง และ ใส่ความเป็นธรรมชาติของตัวเองตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่ “ฟิฟิล์ม-สิริอมร อ่อนคูณ” ที่คราวนี้ออกจากจักรวาลไทบ้านชั่วคราว มาเล่นหนังอีสานเรื่องอื่นดูบ้าง ก็ยังติดตามลักษณ์เดิม ๆ แต่เสน่ห์ของเธอ ก็ยังช่วยผลักดันหนังเรื่องนี้ให้ขับเคลื่อนไปได้ดีเช่นกัน

เรื่องย่อ บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม

บักแตงโม เป็นเรื่องราวของ “โทนี่” ทายาทมหาเศรษฐี หนุ่มนักเรียนนอกที่ต้องมาดูแลธุรกิจของพ่อ ซึ่งตอนนี้มี “ลุงอำนาจ” ดูแลธุรกิจแทนพ่อ และ หวังจะฮุบสมบัติ แต่โชคชะตาเล่นตลกทำให้โทนี่โดนตามฆ่าจนเขาต้องหนีตายแบบไม่คิดชีวิต โทนี่หลบการตามล่าโดยปลอมเป็น “บักแตงโม” ลูกจ้างในร้านอาหารของ “แม่ดาว” ซึ่งมี “เดือน” ลูกสาวสุดรักสุดหวง โทนี่หลงรักเดือนทันทีที่ได้เห็น แต่ความรักของบักแตงโมก็ดูจะไม่ง่าย เพราะไม่ได้มีแค่แม่ดาวว่าที่แม่ยายที่แสนโหดเป็นอุปสรรคใหญ่ แต่ยังมีศัตรูหัวใจของโทนี่ อย่าง “มิกซ์” เจ้าถิ่นบ้านรวยเพื่อนสนิทที่คิดกับเดือนมากกว่าคำว่าเพื่อน

แม้แม่ดาวจะใช้งานหนักแค่ไหนบักแตงโมก็ไม่เคยหวั่น ขอแค่ทุกวันได้ใกล้ชิดกับเดือน บักแตงโมได้รู้ว่าที่สองแม่ลูกต้องทำงานหนักก็เพื่อหาเงินมาปลดหนี้กับ “มาดามโซเฟีย” ให้ได้ก่อนร้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อทิ้งให้ให้สองคนแม่ลูกจะโดนยึด ในระหว่างที่โทนี่หลบซ่อนตัวเป็นบักแตงโม โทนี่ได้รับความช่วยเหลือลับ ๆ จาก “ปีแอร์” ลูกน้องเก่าของพ่อ และ จ่าแรมโบ้” คู่ซี้เก่าของปีแอร์ โทนี่เร่งหาทางวางแผนทวงคืนสมบัติทุกอย่างของพ่อจากลุงให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะโทนี่จะได้กลับมาช่วยเหลือครอบครัวของเดือน รักแท้ของ บักแตงโม จะผ่านบททดสอบครั้งสำคัญได้หรือไม่ แม่ดาวจะได้ร้านมาเป็นของตัวเองมั้ย และ บักแตงโมจะได้กลับมาสืบทอดมรดกหรือเปล่า? บักแตงโมออนไลน์

บทวิจารณ์

รีวิว บักแตงโม

ทางด้านนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น “ตั๊ก ศิริพร”, “สุนารี ราชสีมา” หรือ “ฮาย อาภาพร” ทั้ง 3 หญิงผู้นี้ ถือว่ารู้หน้าที่ และ รู้จังหวะของตัวเองที่จะหยอดใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้ แม้ว่ามุกที่พวกเธองัดออกมาใช้ในหนังเรื่องนี้ จะสามารถหาดูตามรายการโทรทัศน์ของพวกเธอได้ก็ตาม ขณะที่ “ตาต้า ชาติชาย” ที่ตอนเล่นหนังไทบ้านก็ถือว่าเป็นนักแสดงไทบ้านที่มีฝีมืออยู่แล้ว พอมาเล่นเรื่องนี้ก็ถือว่าได้ขัดเกลาศักยภาพของเขาไปอีกทาง แม้บทบาทที่ได้รับจะไม่มีมิติใด ๆ เลย แต่เขาสามารถเล่นบทนี้ออกมาได้น่าสงสาร และ หมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน

ถึงแม้ เจ๊ดาว จะใช้งานเขาหนักหนาแค่ไหน บักแตงโม ก็ไม่บ่น และ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ เดือน และ เขาก็ได้รู้ว่าสาเหตุที่สองแม่ลูกคู่นี้ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาชดใช้หนี้ มาดามโซเฟีย ให้ได้ก่อนที่บ้านรวมถึงร้านของเขาจะถูกยึด ขณะที่โทนี่ได้ปลอมตัวอยู่นั้นเขาได้รับความช่วยเหลือแบบลับ ๆ จาก ปีแอร์ ลูกน้องคนสนิทของพ่อ และ จ่าแรมโบ้ เพื่อนสนิทของ ปีแอร์ และ เขาต้องรีบทวงคืนทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่เป็นของพ่อเขาจากลุงให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะกลับไปตอบแทนการช่วยชีวิตเขาจากครอบครัวของเดือนรักแรกพบของ บักแตงโม

และ แน่นอนว่าไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 ดาวตลกผู้ล่วงลับที่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของพวกเขา “โรเบิร์ต สายควัน” ยังคงกลับมารับบทเดิม ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี บทตำรวจที่ดูยังไงก็ยังขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของเขา และ นั่นก็คือว่าเป็นเสน่ห์ที่เขาสามารถขับมันออกมาได้ แม้ว่าในหนังเรื่องนี้จะมีซีนของเขาออกมาได้ไม่ค่อยสะใจสักเท่าไหร่ใด แต่ก็ถือว่าเป็นผลงานชิ้นสุุดท้ายที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย

แต่ตำแหน่ง MVP ของหนังเรื่องนี้ต้องยกให้กับ “น้าค่อม ชวนชื่น” และ นี่คือศิลปินตลกที่เราคงต้องยกย่องให้เป็นตำนานตัวจริง เพราะรู้หรือไม่ว่า ทุกซีนที่มีน้าค่อมปรากฏออกมาในหนังเรื่องนี้ คือความบันเทิง และ สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้อย่างไม่ฝืน เพราะพรสรรค์ในการใส่มุกตลก และ จังหวะการตลกแบบเฉพาะของเขาเท่านั้น น้าค่อมสามารถปรุงแต่งมุกต่าง ๆ ออกมาได้แบบไม่ต้องพยายามทำให้ตลก แต่มันสามารถตลกได้ตัวของมันเอง และ นี่ก็กลายเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของน้า…ที่คนดูจะต้องจดจำเช่นเดียวกัน บักแตงโม hd

รีวิว บักแตงโม

รีวิว บักแตงโม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่าง เอิร์น “ฐิติพงศ์ ใช้สติ” อีกทั้งตัวเขายังมีส่วนในการเขียนบทถาพยนตร์อีกด้วย ส่วนฝั่งของนักแสดงคนอื่น ๆ อย่าง “ตั๊ก ศิริพร “สนารี ราชสีมา และ “ฮาย อาภาพร ถือว่าพวกเขารู้หน้างานรู้จังหวะของตัวเองถึงแม้มุกของพวกที่นำมาใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้

จะหาดูได้ตามรายการทีวีปกติทั่วไป สลับกลับมาฝังของ “ตาต้า ชาติชาย” ที่ทุกคนรู้จักเขาในนาม บักเซียง ตอนที่ดูเขาแสดงภาพยตร์ไทบ้าน ก็ต้องยอมรับตามตรงเลยว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ พอเขาได้มาแสดงเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการดึงเอาศักยภาพด้านการแสดงของเขาออกมาอีกถึงแม้บทบาทจะไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่จากภาพยนตร์

แม้ว่า บักแตงโม จะดูไม่ต่างไปจากหนังตลกไทยแบบเดิม ๆ ที่มักจะหยิบเอามุกหยาบ ๆ มุกเหยียด ๆ กับเรื่องใต้สะดือมาทำใหชวนโจ๊ก แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังตลกที่ไม่ได้ลามปามและเกินขอบเขตมากเกิน พล็อตเรื่องและโครงสร้างอาจจะมีแค่หยิบมือ

หนังมีออกน้ำหลุดทะเลไปบ้างในบางจังหวะ มีบางช่วงที่น่าเบื่อ บางส่วนที่ขำขัน แต่สุดท้ายแล้ว บักแตงโม ก็สามารถดึงตัวเองให้กลับมาสู่เส้นเรื่องของตัวเองและไปได้ตลอดลอดฝั่งได้ถึงตอนจบ แม้จะเสียดายว่าหนังขาดความสดใหม่ไปค่อนข้างมาก เพราะหวังจะทำหนังออกมาคลอกับเพลงดัง แต่เพลงดังกล่าวก็ผ่านความนิยมไป 2-3 ปีได้แล้ว บักแตงโมเต็มเรื่อง

สรุป บักแตงโม

โดยภาพรวมนั้น บักแตงโม ยังไม่ใช่หนังตลกที่ดีอะไร หนังยังไร้มิติและแก่นสาร แต่ก็ดูแล้วย่อยง่ายเหมือนกันนั่งบริโภคคอนเทนท์อยู่หน้าจอทีวีที่บ้านตอนวันหยุด มันเกือบจะเป็นหนังที่ไม่มีอะไรให้น่าจดใจแล้ว เพียงแต่ความโดดเด่นของนักแสดงตลกทั้ง 2 ท่าน น้าค่อม กับ โรเบิร์ต กลายเป็นจุดดึงดูดที่ทำให้เราซึบซัมไปกับการโลดแล่นบนจอเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขา และพวกเขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ คิดว่านี่น่าจะถูกใจคอหนังไทย แต่หากจะเอาสาระใด ๆ อย่ามาหาจากหนังเรื่องนี้ บักแตงโม ภาพยนตร์

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง บักแตงโม

ประเภท: ตลก / โรแมนติก
ผู้กำกับ: ฐิติพงศ์ ใช้สติ
นำแสดงโดย: ก้อง ห้วยไร่, สิริอมร อ่อนคูณ, ศิริพร อยู่ยอด, ค่อม ชวนชื่น
ความยาว: 112 นาที
กำหนดฉายในไทย: 28 เมษายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา

หนังไทยnetflix วันก่อนมีเพื่อนบ้านคนหนึ่งมาแนะนำหนังผีเขาบอกว่าน่ากลัวมาก เราก็คิดในใจว่าขนาดนั้นเลยหรอ เกริ่นก่อนนะครับผมเป็นคนไม่กลัวผีครับ ผมจึงตัดสินใจลองดูหนังเรื่อง มนตรา จึงอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆกันครับถ้าหากว่าปีที่แล้ว..เราเคยสะดุ้งไปกับความหลอนของไทยสุดสะพรึง อย่าง “ร่างทรง” มาแล้ว มาในปีนี้เรามาเผชิญหน้ากับความเร้นลับ และ หลอนชวนสะอิดสะเอียนจากไต้หวัน นี่คือ “Incantation มนตรา” หนังสยองขวัญที่ถล่มรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นี่คือหนังสยองที่มาแนววิดีโอฟุตเทจที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรแล้ว แต่มีทีเด็ดในสตอรี่ และ การเล่าเรื่องนี้ที่เขย่าขวัญผู้ชมได้ดีในชั่วโมงสุดเฮี้ยน! ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ส ปอย หนัง เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ สยองขวัญสัญชาติไต้หวันปี 2022 ที่ใช้ลีลาการเล่าเรื่องแบบ found footage กำกับ และ เขียนโดย Kevin Ko หนังเข้าฉายในไต้หวันวันที่ 18 มีนาคม 2022 และ กลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญของไต้หวันที่ทำรายได้สูงสุด จากนั้นก็นำมาฉายทาง Netflix เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2022 ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา ตัวเรื่องทำมาเป็นแนวสมมุติเรื่องผ่านเรียลฟุตเทจจากกล้องให้เหมือนเรื่องจริง ก็แบบแนวร่างทรงหรือเก่า ๆ เลยก็ The Blair Witch Project ผสมกับไอเดียแนวเรื่องของ The ring คำสาปมรณะผ่านวิดีโอเทป ซึ่งถ้าคนที่ไม่เคยดูเดอะริงมาก่อนก็คงแอบว้าวสนุกไปกับพล็อตเรื่องที่เริ่มต้นเตือนคนดูว่านี่คือคำสาป ถ้าดูกับรู้เรื่องจะมีอันเป็นไป ซึ่งมันได้ผลยั่วผู้ชมให้อยากดูได้แน่นอน แต่สำหรับคนที่เคยดูเดอะริงมาแล้วการที่เรื่องขึ้นต้นก็อปกันมาตรง ๆ แบบนี้เป็นอะไรที่รู้สึกเฟลขึ้นมาทันที และ ไม่ใช่แค่เริ่มต้นเหมือน ตอนท้ายคลี่คลายปมก็ยังมาแนวเดอะริงอีก ทำให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่พล็อตหรือไอเดียใหม่เลย แต่แค่นำเอาแนวเรียลฟุตเทจมาผสมกับเดอะริงให้ออกมาเป็นเรื่องนี้เท่านั้น

เรื่องย่อ

รีวิว มนตรา

เป็นเรื่องราวของ หลี่รู่หนาน คุณแม่ยังสาวที่กำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียลูกสาวของตัวเอง จากคำสาปมนตราที่เธอเองก็ยังไม่มีความรู้ ดังนั้นเธอจึงเริ่มต้นที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเอาไว้ เป็นหลักฐาน และ ข้อมูลที่เกิดขึ้นกับเธอกับลูกเอาไว้ เพื่อแชร์ให้กับผู้ที่สนใจได้ศึกษา แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้อนาคตเช่นเดียวกันว่า ลูกสาวกับเธอจะรอดปลอดภัยได้หรือไม่ เพลง มา ยา

เค้าโครงที่สร้างจากเรื่องจริง

รีวิว มนตรา

เอาเป็นว่าถ้าตัดเรื่องพล็อตเหมือนเดอะริงออกไป ว่ากันด้วยเรื่องจุดเด่นของเรื่องนี้ก็มีอยู่ ด้วยการครีเอทฉากเรียลฟุตเตจสยอง ๆ ไว้มากมายทั้งเรื่อง เป็นหนังที่เรียกว่าเน้นตัดเรียลฟุตเทจฉากสยอง ๆ ลึกลับน่ากลัวมาให้ดูโดยเฉพาะ ทั้งความแหวะของสิ่งที่ถ่ายมาอย่างหนอนจำนวนมาก น้ำเหลืองเละ ๆ บนตัว ฉากทำร้ายตัวเองเพราะโดนคำสาปแบบสยอง ๆ หรือแนวผีที่มีแต่เด็กมองเห็นก็ใช้บ่อย ฉากศาลเจ้าจีนเอเชียที่เป็นเมนหลักของเรื่องดูยังไงก็น่ากลัวแต่แรกอยู่แล้วด้วยยิ่งเพิ่มความสยองเข้าไปอีก ฉากตุ้งแช่ก็ทำได้ดีกว่าเรื่องอื่น ๆ เรียกว่าใครขวัญที่ขวัญอ่อนดูเรื่องนี้อาจจะรับไม่ไหวเลยก็ได้ เป็นหนังที่สร้างกับเสิร์ฟจุดขายนี้ด้วยเรียลฟุตเทจออกมาได้ดีจนต้องชม

แม้การตัดฟุตเทจหลอน ๆ สยอง ๆ มาเสิร์ฟผู้ชมต่อเนื่องจะออกมาดี แต่ตัวเรื่องเองจริง ๆ กลับเป็นปัญหาจากจุดนี้เช่นกัน เพราะกลายเป็นการทำให้ลำดับเรื่องดูงง ๆ เข้าใจยากแบบที่ไม่ควรจะทำให้ดูยากแบบนี้เลย ตัวเรื่องเริ่มจากปัจจุบันที่นางเอกแม่ของเด็กเล่าถึงที่มาของวิดีโอที่กำลังจะเปิดให้คนดูกันผ่านโลกออนไลน์ แล้วเล่าย้อนว่าไปโดนคำสาปจากไหนเป็นฉากสั้น ๆ ของแก๊งท้าล่าผีสมัยก่อนของเธอที่ไปบุกอุโมงค์ในศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ตัดสลับกับเหตุการณ์เลี้ยงลูกบุญธรรมของเธอที่มาโดนคำสาปไปด้วย รวมกับการพยายามเล่าเรื่องในตอนที่เปิดเทปนี้ให้ดู แล้วก็ยังมีฟุตเทจของกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์ต่าง ๆ กับตัวละครเสริมประกอบเรื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นฉากสั้น ๆ ตัดสลับไปมาแบบไม่มีจุดบอกว่านี่คือเวลาไหน ช่วงไหน ให้ผู้ชมคิดเอาเอง ซึ่งก็ไม่ถึงกับงงในช่วงเวลามาก แต่จะงงกับการที่เล่าเรื่องกระโดดไปมานี่แหละ ทำให้เรื่องดูเข้าใจยากโดยใช่เหตุ แอบปวดหัวนิด ๆ ต้องคิดต่อเรื่องให้ติดเอง ถือเป็นจุดบอดเรื่องนี้เลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ความพยายามที่จะทำให้เรื่องดูเป็นเรียลฟุตเทจก็กลายเป็นหลายฉากดูฝืน ๆ จะให้เป็นให้ได้ อย่างเด็กถือกล้องวิดีโอไปถ่ายนั่นนี่ ตัวแม่เจออะไรก็ถ่ายไม่หยุด แม้แต่ฉากโดนผีหลอกก็ยังจะต้องถือกล้องถ่ายไว้อีก ซึ่งดูเฟคมากจนทำให้ความเรียลฟุตเทจที่ว่ากลายมาเป็นส่วนทำร้ายหนังเองด้วยเช่นกัน เธอ ไป กับ สายลม

รีวิว มนตรา

รีวิว มนตรา คุณจะรู้สึกหลอนทุกครั้งที่ได้คิดประโยคที่ว่า “พวกคุณเชื่อในการอวยพรไหม? 6 ปีก่อนฉันเคยทำผิดให้ข้อห้ามที่น่ากลัว ช่วยฉันด้วย มาท่องพร้อม ๆ กัน หรือจะท่องในใจก็ได้…” แน่นอนว่าหนังสไตล์ found footage ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่อะไรกับวงการหนังอีกต่อไปแล้ว เพราะผู้ชมต่างคุ้นชินจากใน The Blair Witch Project และ Paranormal Activity หรือแม้กระทั่ง ร่างทรง หนังไทยเมื่อปีก่อนก็ทำออกมาในลักษณะนี้

แต่สำหรับ Incantation มนตรา นั้น แม้จะไม่ได้มีสไตล์ที่แปลกใหม่ แต่กลับใช้วิธีการเล่าเรื่องที่เข้มข้นสุดหลอนไปตลอดทั้งเรื่อง หนังมีเพียงโครงเรื่องที่ไม่ได้เยอะมาก แต่ค่อย ๆ ใช้ฟุตเทจภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ มาใช้เป็นการเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ พาผู้ชมไปสำรวจแต่ละมุมมอง ทั้งจากในอดีต และ ปัจจุบัน ท่ามกลางฉากน่ากลัวมากมายที่สอดแทรกเอาไว้แบบไม่ต้องอาศัยการเชื่อมโยงจังหวะใด ๆ แต่เป็นความสมจริงที่ออกมาการแสดงที่มีเซ็กเมนต์ที่ค่อนข้างน่าสนใจดี

ถึงแม้ว่ารูปแบบความเชื่อ และ การศรัทธาบูชาที่ใส่อยู่ในหนังเรื่องนี้นั้น อาจจะเป็นความเชื่อเฉพาะส่วนบุคคล และ เป็นเชื่อที่ต่างวัฒนธรรมของแต่ละประเทศกันไป แต่เชื่อว่าคนไทยก็น่าจะสัมผัสได้ถึงความหลอน และ ความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ที่สอดแทรกใส่เข้ามาได้อย่างสุดทางกำลังพอดี อีกทั้งยังสามารถอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ให้กับผู้ชมได้เห็นมากที่สุด ถึงจะทิ้งเบาะแส และ ปมเอาไว้เยอะแยะที่อาจจะยังไม่สามารถเข้าถึง และ เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ได้ก็ตาม

“เควิน โค” ที่ถือว่าเป็นนักสร้างหนังรุ่นใหม่ของไต้หวัน ถือว่าประสบความสำเร็จกับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะหยิบยืมใช้เทคนิคจากหนังสยองแบบเดิม ๆ มาใช้ แต่ก็มีลูกเล่น และ เทคนิคการเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง และ รู้จังหวะอารมณ์ที่ผู้ชมอยากสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ และ ทำให้ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ออกมาค่อนข้างถึงใจถึงอารมณ์ และ ไปได้เกือบจะสุดทาง

โปรดักชั่นของ Incantation มนตรา ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้ว่ามุมกล้องฟุตเทจต่าง ๆ จะมีดูสมจริง และ ปลอมประหลาดปะปนกันไปบ้าง แต่ก็กลายเป็นจุดบกพร่องที่สามารถมองข้ามไปได้ เพราะการเล่าเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี ส่วนทางด้านการแสดงนั้น หนังไม่ได้ใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายอะไร แต่ “ช่ายเกิ้นเย่” ก็ถือว่าแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ค่อนข้างดี เป็นศึกหนักของเธอ แต่เธอก็ทำออกมาได้ดีไม่น้อย The Young Wolf

สรุป มนตรา

หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวคติชนวิทยา และ เทววิทยาสยองขวัญจากไต้หวัน ใช้ลีลาการะเรื่องแบบฟาวล์ฟุตเทจที่มีความกลัว น่าติดตามในระดับดี แต่ก็ยังรักษาขนบเดิมของหนังแนว ฟาวล์ฟุตเทจเกินไป ซึ่งไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดก็คือการล่อลวงคนดูให้เชื่อ และ ทำตาม และ ก็ไปตลบหลังในท้ายเรื่อง ซึ่งเป็นการหักมุมที่ดีมาก ๆ ทั้งหมดทั้งมวลมันจึงทำให้มนตรามีเสน่หฺ และ มี มีเวทมนต์มากพอที่จะตรึงเราเอาไว้กับหน้าจอ ตลอดระยะเวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้อย่างดี ใครที่ชอบเรื่องราวความสยองขวัญ ใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเทววิทยาแบบผีประทะพุทธ ใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับคติชนวิทยา รับรองว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

ตัวหนังพยายามเพิ่มดราม่าความสัมพันธ์แม่ลูกที่เธอไปรับมาแล้วพยายามเลี้ยงให้ดี เป็นแม่ที่ดี โดยมีตัวละครชายที่เป็นคนสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเป็นพ่อที่ห่วงใยเด็กคนนี้อีกคน แต่ด้วยความที่เรื่องมันเน้นตัดฉากมาเพื่อให้สยองน่ากลัวตลอด ผีก็หลอกพร่ำเพรื่อมาก ฉากดราม่าความสัมพันธ์ดี ๆ อะไรพวกนี้ก็เลยไม่ทำให้รู้สึกอินเท่าไหร่ เหมือนเป็นแค่ส่วนที่พยายามทำให้ตอนจบของเรื่องนี้ดูมีเหตุผลของคนเป็นแม่เพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ตอนจบที่คาดเดายากอะไรเลย เผลอ ๆ คนดูรู้แต่แรกเริ่มแล้วด้วยว่าจะจบแบบนี้ครับ

สรุปแล้วเป็นหนังผีที่น่ากลัวจริง ฉากเรียลฟุตเทจก็ทำได้ดี (แม้จะดูเฟค ๆ เยอะ) แต่มามีปัญหาหลัก ๆ กับการเล่าเรื่องตัดสลับทำให้เรื่องดูยากแบบไม่เข้าท่า แล้วถ้านับความเหมือนกับพล็อตเรื่องกับคอนเซ็ปต์ของเดอะริงด้วย ทำให้แฟน ๆ เดอะริงคงไม่ปลื้มกับเรื่องนี้นักครับ

เอาเป็นว่าในภาพรวมนั้น Incantation มนตรา ก็คืออีกหนึ่งหนังผีไต้หวันที่ขึ้นแท่นเป็นระดับมาสเตอร์พีชของปีนี้ได้โดยปริยาย แม้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ อาจจะไม่สดใหม่ และก็มีกลิ่นอายเดิม ๆ แบบฉบับหนังผีไต้หวันที่มักจะเล่นกับความเชื่อและความผูกพัน แต่หนังเรื่องนี้ก็มีสตอรี่ที่หนักแน่นเพียงพอที่จะประคองผู้ชมไปได้ อีกทั้งยังได้วิสัยทัศน์ที่ดีจากผู้กำกับ ที่รู้จังหวะและสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังเอาไว้ และนั่นก็คือการตอบโจทย์เหมือนกับบทสรุปของหนังที่ทะเยอทะยานและน่าจดจำเป็นอย่างดี… มนตราเต็มเรื่อง

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง มนตรา

ประเภท: สยองขวัญ
ผู้กำกับ: เควิน โค
นำแสดงโดย: ช่ายเกิ้นเย่, ชอว์น หลิน, เกาอิงซวน
ความยาว: 115 นาที
กำหนดฉายในไทย: 8 กรกฎาคม 2022 (ที่ Netflix)