Category Archives: หนังไทยnetflix

รีวิว Zombeavers

รีวิว Zombeavers

รีวิว Zombeavers

หนังไทยnetflix นี่คือหนังตัว บีเว่อร์ สุดสยอง ที่โดนสารเคมีที่เป็นพิษจนทำให้มันวิวัฒนาการจนกลายมาเป็นผู้ล่ามนุษย์ นี่คือหนัง Zombeavers ออกฉายครั้งแรกปี 2014 อเมริกันตลกสยองขวัญภาพยนตร์กำกับโดยจอร์แดนรูบิน ,ขึ้นอยู่กับสคริปต์โดยอัลแคปแลนจอร์แดนรูบินและจอน Kaplan หนังดังในกลุ่มของเด็กวิทยาลัยการเข้าพักที่กระท่อมริมแม่น้ำที่กำลังถูกโจมตีโดยฝูงเป็นผีดิบ บีเว่อร์ ตัวอย่างภาพยนตร์ได้รับการปล่อยตัวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2014 และกลายเป็นไวรัล ภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์โลกวันที่ 19 เมษายน 2014 ที่งาน Tribeca Film Festival ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ในเดือนธันวาคม 2557 Zombeaversได้รับการปล่อยตัวในรูปแบบดีวีดี

รีวิว Zombeavers

รีวิวหนังดัง ขณะขนส่งสารเคมีที่เป็นพิษ คนขับรถบรรทุกคู่หนึ่งชนกวางและสูญเสียกระป๋องหนึ่งถัง มันกลิ้งลงไปในแม่น้ำ ล่องไปตามกระแสน้ำ และกระเด็นบีเว่อร์หลายตัวที่เขื่อนของพวกมันต่อมา นักศึกษาวิทยาลัย Mary, Zoe และ Jenn มาถึงกระท่อมของลูกพี่ลูกน้องของ Mary ใกล้เขื่อน แม้ว่าโซอี้และเจนจะผิดหวังที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ

แมรี่ยืนยันว่าพวกเขาจะใช้เวลาอีกสองวันข้างหน้าโดยไม่มีการรบกวนจากเทคโนโลยีหรือเด็กผู้ชาย ขณะว่ายน้ำที่ทะเลสาบ สาวๆ ค้นพบเขื่อนบีเวอร์ เมื่อเจนว่ายเข้าไปใกล้เพื่อดูบีเวอร์ พวกเขาก็ต้องประหลาดใจกับหมี สมิท นักล่าในท้องที่ แกล้งหมีและตักเตือนสาวๆ ให้อยู่ห่างจากบีเว่อร์และแต่งตัวให้เหมาะสมมากขึ้น ดูหนัง

ในตอนกลางคืน แฟนของสาว ๆ บัค ทอมมี่ และแซมมาเล่นตลกกับพวกเขา ด้วยความรำคาญ แมรี่สั่งให้พวกเขาออกไป แต่โซที่รู้ว่าพวกเขากำลังจะมา ยืนกรานว่าพวกเขาจะอยู่ต่อไป เจนพูดให้แมรี่ปล่อยให้พวกเขาอยู่ต่อ ในขณะที่เธอต้องการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ของเธอกับแซม ผู้ซึ่งนอกใจเธอ

เมื่อทั้งคู่แยกจากกัน เจนออกไปอาบน้ำเพียงเพื่อจะโจมตีโดยบีเวอร์ ทอมมี่ฆ่ามันด้วยไม้เบสบอลแต่เจนและแมรี่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติมากกว่าโรคพิษสุนัขบ้า ดูหนัง พวกเขาเอาศพใส่ถุงแล้ววางไว้ข้างนอกที่ระเบียง ในตอนเช้า พวกเขาพบว่ามันหายไป และเจนยืนยันว่ามันไม่ใช่แค่กินโดยสัตว์ป่า

รีวิว Zombeavers

ทุกคนยกเว้นเจนไปว่ายน้ำในทะเลสาบ แซมและแมรี่คุยกันว่าจะบอกเจนเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวของพวกเขาดีไหม แต่พวกเขาก็ถูกขัดจังหวะเมื่อบีเว่อร์กัดเท้าของบัคและเกาทอมมี่ บีเวอร์ตัวเดียวกับที่โจมตีเจนก่อนหน้านี้ไล่ตามเธอกลับบ้าน เธอใช้มีดปักมันไว้กับเคาน์เตอร์แต่อย่าก่อนที่มันจะเกาขาของเธอ

แซมโยนสุนัขของโซอี้ลงไปในน้ำเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ และคนอื่นๆ ในกลุ่มก็หนีไปที่บ้าน และพบว่าบีเว่อร์ตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว ขณะที่ซอมบี้บีเว่อร์รายล้อมบ้าน ทอมมี่เสนอตัวว่าจะออกไปกับบัคเพื่อขอความช่วยเหลือ และโซอี้ก็ไปกับเขา การขับรถของพวกเขาถูกขัดจังหวะเมื่อบีเว่อร์โค่นต้นไม้บนถนน และทอมมี่ก็ก้าวเท้าออกไป แต่จะถูกต้นไม้อีกต้นหนึ่งล้มทับทับ

สมิธช่วยบัคและโซอี้ และพวกเขาขับรถปิกอัพเพื่อกลับบ้าน ซึ่งคนอื่น ๆ ได้ขึ้นเครื่องไว้ เข้าไปไม่ได้ก็ไปบ้านเพื่อนบ้าน พวกเขาพบว่าเพื่อนบ้านเสียชีวิต และสายโทรศัพท์ของพวกเขาถูกตัดขาด บาดแผลของเธอทำให้เจนกลายเป็นซอมบี้เหมือนบีเวอร์และโจมตีแมรี่ ดูหนังออนไลน์

ขณะที่น้ำลายของเจนไหลเข้าไปในปากของแมรี่ แซมช่วยแมรี่ด้วยการตีเจนจากด้านหลัง แมรี่และแซมขังตัวเองในห้องน้ำและตรวจสอบรอยขีดข่วนกัน ความพึงพอใจที่ไม่ได้รับบาดเจ็บพวกเขาเริ่มที่จะมีเพศสัมพันธ์ แต่ขัดจังหวะ Jenn พวกเขาและฆ่าแซมกัดออกของเขาอวัยวะเพศชาย ในขณะเดียวกัน บัคก็กลายเป็นซอมบี้และโจมตีสมิธ โซอี้หนีโดยการกระโดดผ่านหน้าต่าง ทำให้ตัวเองเปื้อนเลือด

สรุป Zombeavers

รีวิวหนังดัง เมื่อบีเวอร์ทำบ้านของลูกพี่ลูกน้องของแมรี่โดยไม่ได้ตั้งใจ แซมก็ลุกขึ้นเป็นซอมบี้ เมื่อแมรี่ฆ่าแซม เธอก็ได้พบกับโซอี้อีกครั้ง Smyth ซึ่งตอนนี้กลายเป็นซอมบี้ ยิงใส่พวกเขาขณะที่พวกเขาหนีเข้าไปในรถบรรทุกของเขา เจนกระโดดขึ้นไปบนรถบรรทุก แต่โซอี้วิ่งแซง แมรี่และโซอี้ร่วมกันไปถึงจุดที่ทอมมี่เสียชีวิตและกลายเป็นซอมบี้

เมื่อถนนถูกปิดกั้น พวกเขาจึงตัดสินใจเดิน แมรี่เชื่อว่าโซอี้อาจถูกกัดเนื่องจากหน้าตาที่เปื้อนเลือดของเธอ แมรี่จับเธอที่จ่อปืนด้วยปืนพกที่กู้คืนจากรถบรรทุกของสมิธ ขณะที่โซอี้ประท้วงว่าเธอไม่ติดเชื้อ แมรี่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นซอมบี้ โซอี้ฆ่าเธอด้วยขวานและเดินจากไป ระหว่างทาง เธอได้พบกับคนขับรถบรรทุกคนเดิมที่ทิ้งกระป๋องไปก่อนหน้านี้ และพวกเขาก็วิ่งทับเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ในลำดับหลังเครดิต ผึ้งจะติดเชื้อจากศพและกลับสู่รังของมันในสภาพซอมบี้

รีวิว Zombeavers

Al Kaplan, Jordan Rubin และ Jon Kaplan เริ่มทำงานในสคริปต์สำหรับZombeaversในปี 2012 จากนั้น Rubin ได้รวบรวมหลักฐานตัวอย่างแนวคิดที่รวบรวมมาจากภาพยนตร์สยองขวัญต่างๆ รายการเกี่ยวกับธรรมชาติของ BBC และช่องทางโซเชียลมีเดีย และนำเสนอ ตัวอย่างหนัง BenderSpink และ Armory Films ทั้งสองบริษัทตกลงที่จะจัดหาเงินทุนให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้เข้าสู่ขั้นตอนการผลิตก่อนการผลิตหลังจากนั้นไม่นาน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีรุ่น animatronic ของบีเว่อร์เมื่อเทียบกับเทคนิคพิเศษ CGI ดูหนังออนไลน์

และรูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นโดยผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต นักแสดงหญิงCortney Palm , Rachel Melvin และ Lexi Atkins พร้อมด้วยนักแสดงตลก/นักแสดง Bill Burr ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ หลักการถ่ายภาพเกิดขึ้นในซานตาคลาริตา แคลิฟอร์เนียที่ดิสนีย์แรนช์ในช่วง 21 วันและด้วยงบประมาณเพียงเล็กน้อย Epic Pictures Group อัปโหลดตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2014 และตัวอย่างดังกล่าวก็แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ชมรวมกันกว่าล้านครั้งในเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ เดือนเดียวกัน บริษัท ผู้ผลิตยังสร้างโปสเตอร์ภาพยนตร์หลาย parodying รางวัลออสการ์เสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์แรงโน้มถ่วง , อเมริกัน Hustleและเธอ

นักแสดง
Rachel Melvin รับบทเป็น Mary Daughtry
คอร์ทนีย์ ปาล์ม รับบท โซอี้
Lexi Atkins รับบทเป็น Jenn
ฮัทช์ ดาโน รับบท แซม
Jake Weary รับบทเป็น ทอมมี่
ปีเตอร์ กิลรอย รับบทเป็น บั๊ก แต่เดิม โจ โอไบรอัน ถูกคัดออกเพราะต้องลาออกจากงานเนื่องจากไข้หวัดใหญ่
บิล เบอร์ รับบท โจเซฟ
Rex Linn รับบทเป็น Smyth
เบรนท์ บริสโค รับบท วินสตัน เกรเกอร์สัน
Phyllis Katz รับบทเป็น Myrne Gregorson
Robert R. Shafer รับบท Trucker
แชด แอนเดอร์สัน รับบท อดัม
Jamie, David และ Eoin รับบทเป็น The Debauchery Beavers
จอห์น เมเยอร์ รับบท ลุค
Fred Tatasciore พากย์เป็น Zombie beavers (ร้องนำ)

กำกับโดย จอร์แดน รูบิน
ผลิตโดย อีวาน แอสโทรว์สกี้ , คริส เบนเดอร์ , คริสโตเฟอร์ เลโมเล่
เขียนโดย อัล แคปแลน , จอร์แดน รูบิน , จอน แคปแลน
เรื่องโดย อัล แคปแลน , จอร์แดน รูบิน , จอน แคปแลน
นำแสดงโดย Rachel Melvin , ฮัทช์ ดาโน , Cortney Palm , Lexi Atkins , Bill Burr , Jake Weary , ปีเตอร์ กิลรอย , จอห์นเมเยอร์
ดนตรีโดย อัล แคปแลน , จอน แคปแลน

รีวิว John Wick 3

รีวิว John Wick 3

รีวิว John Wick 3

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับวันนี้แอดมินมารีวิวหนัง John Wick 3: Parabellum ในภาคใหม่นี้ John Wick พระเอกของเรานั้นจะต้องเจอกับศึกหนักที่สุดเลยก็ว่าได้ เมื่อเขาต้องถูกคนทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัว $14 ล้านเหรียญ เนื่องจากเขาได้แหกกฎกลาง โดยการฆ่าคนในพื้นที่โรงแรมของ Continental และ ยิ่งคนที่เขาฆ่าคือสมาชิกระดับสูง เขาจึงต้องสู้ และ ฆ่ากับศัตรูรอบด้านเพื่อหาทางหลบหนีออกจากเมืองนิวยอร์ก

เมื่อปี 2014 John Wick งานกำกับครั้งแรกของผกก. David Leitch และ Chad Stahelski (อดีตสตั๊นท์แมนจากThe Matrix) ได้กลายเป็นหนังที่ฮิตเกินคาดด้วยแอ็คชั่นมันส์ ๆ และ การสร้างโลกนักฆ่าที่แปลกใหม่ ว่าด้วยเรื่องของอดีตมือปืนที่ออกตามล่าพวกมาเฟียที่งัดเข้าบ้าน และ ฆ่าหมาที่เป็นของต่างหน้าภรรยาของเขา หนังไทยมาใหม่

ก่อนที่หนังจะขยายสเกลไปเป็นยุทธภพมือปืนในภาค2 (Stahelskiกำกับคนเดียว โดยLeitchไปกำกับDeadpool 2 และ Atomic Blonde) และ สานต่อความเดือดมาจนถึงภาค3เมื่อจอห์น วิค ถูกนักฆ่าทั้งโลกไล่ตามหลังจากที่เขาได้ฆ่าคนในอาณาเขตของโรงแรมคอนทิเนนทัลที่เป็นสถานที่ห้ามฆ่าคน ดูหนัง

รีวิว John Wick 3

รีวิวหนังดัง สำหรับภาค 3 นี้ ได้รับชื่อภาคว่า Parabellum ซึ่งจริง ๆ มาจากประโยคลาตินสุดโด่งดังที่มีคำเต็ม ๆ ว่า Si vis pacem, para bellum หรือที่มีคนแปลไทยไว้อย่างเพราะพริ้งนานมาแล้วว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ โดยว่ากันว่ามันเป็นประโยคที่สืบเนื่องย้อนไปได้ยันสมัยโรมันนั่นเลยแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ความมีชื่อเสียงของมันนั้นก็ยังสืบทอดมาสู่ภาพลักษณ์ของกระสุนปืนที่แพร่หลายที่สุดในโลกตระกูลหนึ่ง หรือก็คือ กระสุน 9 มม. ที่มีฉายาเรียกท้ายว่า พาราเบลลั่ม เช่นเดียวกับชื่อภาค 3 ของหนังนั่นเอง

นี่คือการกลับมาของหนังแอคชั่นที่สาวกหนังบู๊ทั่วโลกรอคอย และ สำหรับใครที่ลืม ๆ (ซึ่งจริง ๆ ลืมหนังตระกูลนี้ยากนะ ภาพจำมันเยอะเลย) ลองชมคลิปสรุปภาค 1-2 แบบรวบรัดมาก ๆ จากค่ายสหมงคลนี้ดูก่อนเลย เดี๋ยวจะได้เหลากันยาว ๆ ต่อ

ภาคนี้ยังคงรักษาจุดเด่นของJohn Wick ไว้ครบเหมือนเดิม คือฉากแอ็คชั่นที่เท่ ดุเดือด และ มีอารมณ์ขันแบบตลกร้ายอยู่ในที แถมยังเพิ่มความหลากหลายในฉากแอ็คชั่นให้มากขึ้นด้วย จากสองภาคก่อนที่ยังแค่ยิงกันเฉย ๆ ภาคนี้มีทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ไปจนถึงขี่ม้าไล่ฆ่ากัน หรือแม้กระทั่งใช้หมาช่วยต่อสู้ด้วย ดูหนังออนไลน์

ส่วนความโหดเดือดก็ทวีคูณมากขึ้นเพราะศัตรูคราวนี้ของจอห์น วิคนั้นไม่ได้แค่มาเยอะ แถมยังขนความโหดมาเต็มที่ (ส่วนคีอานู รีฟส์ ยังคงโชว์ความสามารถในฉากแอ็คชั่นได้อย่างน่าทึ่งเช่นเดิม) ทำให้ฉากแอ็คชั่นที่โหดอยู่แล้วยิ่งฮาร์ดคอร์ขึ้นไปอีก ทำเอาสะดุ้งไปกับความโหด และ เว่อร์ไปเหมือนกันในบางช่วง

รีวิว John Wick 3

หนังเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่อง เมื่อ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ทำผิดกฎของวงการนักฆ่าที่ห้ามทำภารกิจใด ๆ (ห้ามฆ่าแกงกันนั่นล่ะ) ในเขตธรณีของพื้นที่เป็นกลาง โดยในเรื่องนั้นคือโรงแรมคอนติเนนทัลของสภาสูงเหล่านักฆ่านั่นเอง ซึ่งการแหกกฎของวิคเพื่อล้างแค้นครั้งนี้ ทำให้สหายเก่าผู้ดูแลโรงแรมอย่าง วินสตัน (ไอแอน แมคเชน) ต้องกลั้นใจส่งคำร้องให้อัปเปหิจอห์น วิค ออกจากวงการ พร้อมตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ

ผลคือนอกจากจอห์นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากคนทั้งโลกนักฆ่าแล้ว เขายังถูกทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ทิ้งค่าหัวอันดับสองบนตารางกระจุย หนังเล่าเรื่องแบบไร้รอยต่อมาที่ภาคนี้ เมื่อจอห์นมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนคำสั่งอัปเปหิจะถูกประกาศ

เขาจึงดิ้นรนสุดชีวิตในการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อที่จะยังมีคนได้จดจำเรื่องราวของคนรักของเขาต่อไป (โรแมนติกไปแล้วเฮีย) ซึ่งการดิ้นรนของจอห์นนี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ คือหนทางแห่งสันติที่เขาจะไม่ต้องฆ่าทุกคนที่จะมาฆ่าเขา นั่นคือการก่อสงครามเพื่อกรุยทางไปเจรจากับผู้ครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกนักฆ่าให้ยกเลิกคำสั่งอัปเปหิเขานั่นเอง

และ บอกได้เลยว่าเส้นทางที่จอห์น วิค เลือกนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้แต่เป็นกองกะโหลกพะเนินเทินทึก ทั้งยังขยายจักรวาลนักฆ่าในเรื่องออกไปกว้างไกลมาก ทั้งพิธีในขนบนักฆ่าที่แปลกประหลาดที่มีมากกว่าตราโลหิตซึ่งถูกใช้ตั้งแต่ภาคที่ 2 เรื่อยมาถึงภาคนี้

ทั้งภูมิหลังที่ไม่คิดว่าจะได้รู้ของจอห์น วิค ซึ่งน่าแปลกใจทีเดียว กระบวนการยุติธรรมสุดแสนเลือดเย็น และ เที่ยงธรรมของโลกนักฆ่าผ่านตัวละครใหม่อย่าง ตุลาการ (อาเชีย เคท ดิลเลี่ยน – นักแสดงสาวจาก Orange Is the New Black) ที่ทำเอาผู้ทรงอำนาจอย่างวินสตันกับ หัวหน้าแก๊งบาวเวรี่ (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) แทบปางตายได้

รวมถึงทีมนักฆ่าขั้นพระกาฬที่เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับจอห์น วิค แบบพลาดนิดเดียวก็เสียวตายได้จริง ๆ ซะที ยังรวมไปถึงโลกภายนอกนิวยอร์กที่เป็นฉากหลักของเรื่องมาตลอด 2 ภาค เราได้ไปไกลถึงแดนทะเลทราย และ โรงแรมนักฆ่าที่นอกเหนือจากคอนติเนนทัลด้วย คือหนังขยายไปได้ไกลมาก และ อาจเผยลาสต์บอสของแฟรนไชส์นี้ไว้ด้วย ต้องติดตามเลย

รีวิว John Wick 3

หลายครั้งทีมงานหนังแฟรนไชส์นี้ได้ใช้คำเรียกแนวศิลปะการต่อสู้ที่ผสมหลากหลายแนวเข้ากับการใช้อาวุธไม่ว่าจะมีดหรือปืน (หรือแม้แต่ ดินสอ หนังสือ) ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังจอห์น วิคนี้ว่า Gun Fu ซึ่งเป็นการเล่นคำ Gun ผสมกับ Kung Fu

ซึ่งแม้จะไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแต่ก็ทำให้เห็นภาพแนวทางการออกแบบการต่อสู้อันโดดเด่นแพรวพราวของหนังได้อย่างดี (เหมือนตอนที่ทีมสตั๊นท์ไทยเคยผสมมวยไทยเข้ากับยิมนาสติก จนกลายเป็นงานเอกลักษณ์ระบือโลกในองก์บากมาแล้ว – งานแบบนี้ล่ะที่น่าจดจำ)

มันจึงเป็นหนังที่เราต้องทำการศึกษาทั้งการออกแบบการเคลื่อนตัว แม่ไม้ท่าทางต่าง ๆ การออกแบบซีนให้ไหลลื่นต่อเนื่อง ตลอดจนการเคลื่อนกล้อง การสอดผสานของตัวละครหลักกับทีมสตั๊นท์แมน ( และ ภาคนี้มีเหล่าน้องสัตว์มาร่วมแจมด้วยทั้ง ม้า ทั้งสุนัข โคตรโหดบอกเลย) มันเลยทำให้จอห์น วิค กลายเป็นงานหนังบู๊อ้างอิง เป็นต้นแบบเป็นครูให้หนังแอคชั่นรุ่นหลังได้ต่อยอดต่อไปแน่ ๆ ดูหนัง

บทสรุป John Wick 3

รีวิวหนังดัง โลกยุทธภพมือปืนที่ถูกขยายสเกลขึ้นในภาคสอง ก็ถูกขยายให้กว้างขึ้นไปอีกในภาคนี้ ด้านอื่น ๆ ขององค์กรนักฆ่าจะถูกเปิดเผยมากขึ้นในภาคนี้ ทั้งบุคลากรชั้นยศอื่นที่มาปรากฎตัว อย่างผู้พิพากษา หรือ “ผู้อาวุโส” ขององค์กร มันทำให้โลกนักฆ่าของจอห์น วิค ดูมีสีสัน และ น่าค้นหามากขึ้น ราวกับสภาเจไดในสตาร์วอร์สยังไงยังงั้น แต่จุดที่น่าสนใจคือเราจะได้รู้ที่มาของจอห์น วิคด้วย ว่าเขามาจากไหน รวมไปถึงรู้จุดหมายในการต่อสู้ ว่าเขาทำไปขนาดนี้เพื่ออะไรกัน และ นั่นก็ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยจอห์น วิคขึ้นไปอีก ดูหนังออนไลน์

John Wick 3 : Parabellum เป็นหนังแอ็คชั่นเท่ ๆ อุดมความมันส์ ที่อาจจะมันส์ที่สุดในครึ่งปีแรกนี้ด้วยซ้ำ และ มันทำให้เราอยากเห็นว่าหนังภาคต่อไปของมันจะเป็นยังไงต่อ เพราะมันทิ้งปมตอนท้ายได้น่าติดตามเหลือเกิน

จุดเด่น
** สไตล์เอกลักษณ์ที่สร้างแฟรนไชส์ จอห์น วิค ได้แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ชมกันยาว ๆ ไปอีกกี่ภาคก็ไม่เบื่อ
** ความจัดเจนในการออกแบบดีไซน์ แสง ฉาก ซีนการต่อสู้ สุดยอด
** ผูกเรื่อง และ ขยายรายละเอียดของโลกสมมติได้โคตรน่าติดตามต่อ
** ดาราทั้งหลักทั้งรับเชิญมาเยอะมาก คาแรกเตอร์น่าจดจำทุกตัว
** ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคอหนังบันเทิง สนุก ตลก ดราม่า เท่ ครบรส

จุดสังเกต
** ความโหด บางฉากนี่ “ติดตา” เลย
** แอคชั่นเยอะจนรู้สึกเรื่องเดินน้อยไปนิด
** ความพยายามสร้างเรื่องราวต่อยอดที่ทำให้ภาคนี้จบไม่อิ่มนัก

คะแนน 8/10

รีวิว John Wick 2

รีวิว John Wick 2

รีวิว John Wick 2

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับ วันนี้แอดมินมารีวีว จอนห์ วิค 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้แอดมินได้รีวิว จอนห์ วิค ภาคแรกไป ก็ได้มีกระแสฮือฮามากมาย ทำให้แอดมิน ต้องออกมารีวิว ภาค 2 ต่อให้เพื่อนๆกัน แม้เราอาจบอกหนังอย่าง La La Land หรืออย่าง Manchester by the Sea ได้อย่างไม่เกรงว่าใครจะค่อนขอดว่า 10/10 แต่กับหนังแอคชั่นสไตล์คอมมิคจ๋า ๆ แถมเป็นหนังภาคต่อที่มักจะห่วยมากกว่าดี อย่าง John Wick: Chapter 2 เนี่ยนะ ที่ซัดคะแนนจากเว็บวิจารณ์หนังได้สะบั้นหั่นแหลก ระดับ 90% จาก Rottentomatoes.com และ 8.5/10 จาก imdb.com เรียกว่าบูทอัพจากภาคแรกที่มันอยู่แล้วขึ้นมาอีกเยออออะมากกกก หนังไทยnetflix

John Wick: Chapter 2 เป็นการกลับมาอีกครั้งของบุรุษนักฆ่าอย่ายุ่งกับหมาตู ซึ่งภาคแรกเมื่อปี 2014 หนังประสบความสำเร็จดีทั้งคำวิจารณ์และรายได้ จนสตูไฟเขียวให้ผู้กำกับ แชด สตาเฮลสกี้ ที่มีผลงานด้านสตันท์และฉากต่อสู้บู๊ล้างนรกมาแล้วมากมาย อย่าง หนัง The Matrix ไตรภาค (1999-2003), 300 (2006), The Expendables (2010) และ Iron man 2 (2010) เป็นอาทิ ได้กลับมาสานต่อเรื่องราวที่เขากับ ดีเร็ก โคลสแตด มือเขียนบทภาคแรกได้เริ่มไว้

แถมยังวางเป็นหนังไตรภาคอีกด้วย!!

รีวิว John Wick 2

รีวิวหนังดัง คือถ้าใครจำได้ภาคเดิมเนี่ย มันแนะนำตัวละคร จอห์น วิค เป็นหลักล่ะ เขาคือชายที่อาศัยอยู่กับหมาชื่อ เดซี่ วันดีคืนดีก็โดนลูกชายแก๊งมาเฟียมาหาเรื่องขโมยรถ แล้วก็พลั้งมือฆ่าหมาที่ถือเป็นของดูต่างหน้าของภรรยาที่เสียไปของเขา

เขาก็เลยต้องกลับมาสวมวิญญาณนักฆ่าที่วางมือไป เพื่อล้างแค้นทวงรถคืน ระหว่างทางเราก็จะได้เห็นโลกของ จอห์น วิค ว่ามีความแฟนตาซีแบบคอมมิคจำพวก Sin City หรือ Kick-ass อยู่เหมือนกัน ทั้งโรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่เป็นเหมือนศูนย์กลางการจ้างงานและเขตปลอดอาวุธของโลกอาชญากร และร้านค้าบริการต่าง ๆ ที่สนับสนุนการจ้างวานฆ่าต่าง ๆ แต่ก็มาแบบบาง ๆ ไม่ได้เน้นหรือขยายความมันนัก หนังเลยเป็นสไตล์ลุงนักฆ่าล้างบางวัยรุ่นห้าวเป้งแอนด์เดอะแก๊งมาเฟียของบิดาเท่านั้นเอง

แต่มาภาคนี้ ผู้กำกับคงได้ขยายวงเงินเพราะเครดิตภาคแรกดี เลยจัดเต็มโลกทัศน์ในเรื่องทั้ง กฎนักฆ่า วงการนักฆ่าที่แฝงตัวทุกหัวระแหง รูปแบบการปกครองที่มีสภาสูง 12 ที่นั่ง โรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่เป็นกลุ่มผู้รักษาระบบระเบียบ

คือ จัดเต็มจักรวาลนักฆ่ามาก แล้วหนังก็ไม่ได้เล่าแบบยัดนู่นนี่มาให้น่าเบื่อเลย เพราะเส้นเรื่องหลักจากตัวละครที่แข็งแรงแล้วอย่างจอห์น วิคนั้นผูกผมเข้าไปขยายจักรวาลได้ลื่นไหลและมันมาก ๆ

หนังเล่าเรื่อง จอห์น วิค ที่หลังจากภาคแรกแล้วก็เปิดเรื่องมาทวงรถคืนต่อจากมาเฟียเลย ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องเคยดูภาคแรกมาลุยภาคนี้เลยก็รู้เรื่องนะแค่ดูเทรลเลอร์ภาคเก่ามาหน่อยก็พอ เพราะหนังเล่าย้อนภาคก่อนได้ฉลาดมาก ๆ แค่บทสนทนาของมาเฟียกับลูกน้องก็เล่าจบ เห็นบรรยากาศที่คนในวงการหวาดเกรงจอห์นได้ดี

รีวิว John Wick 2

และเพราะเรื่องส่วนตัวนี่เองที่ทำให้วงการก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้วางมือจริง ส่งผลให้ ซานติโน่ (ริคาร์โด สคามาริโอ) เจ้าหนี้ผู้ถือตราเลือดของจอห์น มาทวงสัญญาให้ตอบแทนบุญคุณ ซึ่งในวงการถือเป็นกฎที่ห้ามปฏิเสธแต่จอห์นก็ปฏิเสธเพราะอยากใช้ชีวิตธรรมดาที่เขาได้รับจากภรรยาคนรัก ดูหนัง

ซานติโน่เลยจัดหนักถล่มบ้านจอห์นทิ้งทำลายสิ่งยึดติดในโลกธรรมดาของจอห์นไม่เหลือชิ้นดี จอห์นจึงเลือกไม่ได้ที่จะต้องกลับมาสู่วงการเพื่อล้างหนี้เดิมให้ตัวเองเป็นอิสระ และจะได้มีสิทธิ์ฆ่าซานติโน่ล้างแค้นคืน แต่ก็นั่นล่ะนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันเกมอำนาจของโลกมืดจนไม่อาจถอนตัว และคนดูก็ได้มันกันยาว ๆ เลย

ซานติโน มาทวงสัญญาตราเลือด นักแสดงนำ คีอานู รีฟส์ ยังกลับมาเล่นบทเดิมอีกครั้ง สำหรับ รีฟส์ เขาถือเป็นนักแสดงคู่บุญที่มีสายสัมพันธ์กับแชดดีตั้งแต่ครั้งที่เล่นเรื่อง Point Break (1991) ซึ่งเป็นหนังที่แชดเริ่มอาชีพสตันท์แบบไม่ได้เครดิต โดยได้แสดงแทนรีฟส์ในฉากเสี่ยงตายด้วย

ซึ่งหลังจากเรื่องนี้แชดยังได้เป็นสตันท์ตัวแทนให้รีฟส์อีกหลายเรื่องเลย ทั้ง The Matrix 1-2, The Replacements (2000) และ Constantine (2005) ทั้งยังไปช่วยออกแบบศิลปะการต่อสู้ในหนังฝีมือการกำกับเรื่องแรกของรีฟส์อย่าง Man of Tai Chi (2013) อีกด้วย เรียกว่าระหว่างสองคนนี้คงเป็นโชคชะตาพิเศษบางอย่าง ไม่แปลกใจเลยที่หนังเรื่องแรกของแชด เขาจะเลือกเพื่อนคนสำคัญมาแสดงนำอย่างนี้ แล้วก็ดันลงตัวโคตร ๆ เลยด้วย

รีวิว John Wick 2

ซึ่งครั้งนี้คีอานู รีฟส์ได้เตรียมตัวกับการกลับมารับบทด้วยการทุ่มเทไปเข้าค่ายฝึกการยิงปืนทุกชนิด รวมไปถึงฝึกยุทธวิธีการดวลปืน และการเคลียร์พื้นที่จากศัตรูมากมาย กับอดีตนายทหารหน่วยรบพิเศษนานกว่า 40 ชั่วโมง ทั้งเพิ่มทักษะการต่อสู้หลากหลายแขนง อาทิ กังฟู, จินจิทสุ และยูโด เพื่อพร้อมแสดงฉากสตันท์-แอคชั่นด้วยตนเองแบบสุดฝีมือ ดูหนัง

และนี่คืออีกเหตุผลนอกจากเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและระอุขึ้น คือการแสดงฉากต่อสู้ของรีฟส์นั้นดูเข้มแข็งขึ้น คมขึ้น ไม่เงอะงะเหมือนตอนภาคแรก คือบางช่วงนี้อย่างกับได้ดู จา พนม ในต้มยำกุ้งที่ลุยเดี่ยวกับสมุนตัวร้ายเป็นสิบ ๆ

แต่จอห์น วิค นั้นได้สร้างเอกลักษณ์การต่อสู้ที่ต่างจากหนังอื่นคือ การใช้ปืนสู้ระยะประชิดที่ทำออกมาได้เจ๋งมาก ๆ คือทั้งลุ้นแบบศิลปะการต่อสู้และรุนแรงแบบทีเดียวตายได้ เมื่อรวมกับสไตล์ภาพที่จัดจ้านทางศิลป์ไม่ว่าทั้งการวางเฟรมและจัดแสงสีตัด รวมถึงความแม่นในการตัดฉากต่อสู้ และการสร้างสรรค์ฉากสู้ที่หลากหลายมีสไตล์โคตร ๆ ทั้งการสู้ด้วยรถในอู่

การยิงระยะประชิดเดี่ยวกับหลายสิบในพิพิธภัณฑ์ การสู้ด้วยมีดพกในรถไฟฟ้า การเดินยิงสู้กันด้วยปืนเก็บเสียงระหว่างฝูงชน และนักฆ่าหลายสไตล์ที่ถามโถมมาหาจอห์น ทั้งนักฆ่าสาวมือไวโอลิน นักฆ่าซูโม่ร่างยักษ์ และเหล่านักฆ่าที่แฝงตัวเป็นคนปกติ คือ โอ่ย เจ๋งมากมันมากครับ สมแล้วที่ผู้กำกับอยู่ในวงการแอคชั่นมานาน

บทสรุป John Wick 2

รีวิวหนังดัง หนังยังได้ ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น กลับมาเล่นร่วมกับ คีอานู รีฟส์ อีกครั้งนับตั้งแต่ The Matrix Revolutions (2003) ด้วย ในบทราชันย์คนจรจัด, รูบี้ โรส ที่เพิ่งวาดลวดลายใน xXx: Return of Xander Cage (2017) ก็มารับบท เอเรส นักฆ่าใบ้ที่ใช้ภาษามือได้กวนตีนมาก, คอมมอน แร๊พเปอร์และนักแสดงชื่อดังที่มารับบทนักฆ่าคู่แค้น คาสเชี่ยน, ปีเตอร์ สตอร์แมร์ นักแสดงมากฝีมือในบท อับบราม อาของตัวร้ายในภาคก่อน

และเพราะภาคนี้เนื้อเรื่องมีภารกิจสำคัญที่ข้ามฟากไปยังประเทศอิตาลีจึงได้ ริคาร์โด สคามาริโอ นักแสดงสุดเก๋าชาวอิตาเลี่ยนมารับบท ซานติโน ตัวร้ายประจำภาคที่น่าหมั่นไส้ขั้นสุดในความเลวด้วย ส่วนหมาจากเจ้าเดซีภาคก่อน ก็มาสู่เจ้าพิตบูลน้อยที่ไม่มีชื่อเพราะจอห์นไม่อยากผูกพันมาก ซึ่งแม้หน้าตาน้องหมาจะน่ากลัวแต่นิสัยน่ารักมาก ๆ เสียดายบทน้อยไปนิด ดูหนังออนไลน์

ส่วนพวกตัวละครเก่า ๆ ที่ยังไม่ตายก็ยังจัดกลับมาครบทั้ง วินสตัน (เอียน แมคเชน) ผู้จัดการโรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่เป็นที่พักของพวกทำงานโลกเบื้องหลังและเป็นเพื่อนที่จริงใจคนหนึ่งของจอห์น, ชารอน (แลนซ์ เรดดิค) พนักงานต้อนรับแห่งโรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่ภาคนี้ได้เห็นอะไรมากขึ้น และ อูรีลิโอ (จอห์น ลีกุยเซโม) เจ้าของอู่ดัดแปลงรถเถื่อนก็ยังวนเวียนห่าง ๆ เหล่านี้ก็รอการขยายและน่าจะมีบทบาทสำคัญ ๆ ในภาคสุดท้ายด้วยครับ

คือภาคก่อนเหมือนยอดมนุษย์สู้กับพวกกี้ ๆ ก็ว่ามันแล้ว แต่ภาคนี้ยอดมนุษย์เจอเหล่าสัตว์ประหลาดมันเลยโคตรมันเข้าไปอีก ต้องดู ไม่ดูคือพลาด บอกเลยจ้า ดูหนังออนไลน์

สรุป

** ให้ 8.5/10 คะแนน เพราะฉากบู๊ออกแบบมาได้ดี แต่เนื้อหาบางตอนยังรู้สึกไม่ค่อยเคลียร์
** พล็อตเรื่องเป็นแนวไล่ฆ่า พระเอกอึด แกร่งและทักษะการต่อสู้ดีมาก
** ไม่มีเซ็นเซอร์ฉากต่อสู้ที่เลือดสาด เรียกว่ายิงกันหูดับตับไหม้แทงกันเลือดสาด
** มีมุขตลกสอดแทรกชวนขำด้วยนะ
** ตอนจบทำคนดูอึ้งและชวนติดตามดูต่อภาคต่อไป

รีวิว John Wick 1

รีวิว John Wick 1

รีวิว John Wick 1

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับ หนังที่แอดมินจะมารีวิวนั้น เป็นหนังแอ็คชั่น ที่โด่งดังมากๆ เนื่องจากบท และตัวนักแสดง ที่โครตจะดีเลยครับ โดยหลังจากที่ถ่ายหนังชุด The Matrix ไปนั้น เจ้าตัว คีอานู รีฟส์ ก็ได้วนเวียนอยู่กับหนังดราม่า รวมทั้งแฟนตาซีเป็นส่วนใหญ่ มีจับปืนบ้างใน Constantine ปี 2005 ก่อนที่จะมาเล่นภาพยนตร์แอ็คชั่นยิงกันใน Street Kings เมื่อปี2008 รวมทั้งเว้นจากบทบู๊ยาวๆก่อนจะหันไปจับดาบใน 47 Ronin ที่ฉายเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าใด

หลายท่านเริ่มดูหมิ่นว่า คีอานู รีฟส์ อาจไม่เหมาะสม กับหนังแอ็คชั่นอีกต่อไป แถมผลงาน ในตอน10ปี ที่ล่วงเลยไปไม่ว่าแนวไหน ก็ไม่ค่อยมีเรื่อง มีราวน่าจำเลย กระนั้นในปี 2014 เขาก็กลับมาอีกรอบ กับบทมือปืนระดับ พระกาฬในภาพยนตร์เรื่อง John Wick ดูหนังออนไลน์

เนื้อหาของ John Wick เล่าถึง จอห์น วิค มือสังหารอันดับ1ของวงการมือสังหารที่ออกจากวังวนแห่งการสังหารไปดำรงชีวิตอย่างเงียบๆนานยาวนานหลายปี เขาพึ่งจะเสียใจ จากการจากไปอย่างนึกไม่ถึงของเมียสาว เธอรู้สึกตัวว่าเจ็บป่วยก็เลยวางแผน ส่งสุนัขมา อยู่เป็นเพื่อนเขา ข้างหลังเธอตาย จอห์น เริ่มกระปรี้กระเปร่าขึ้นบ้าง แต่ว่าแล้ววันต่อมาก็มีชายวัยรุ่น กับพวกบุกเข้ามาในบ้าน รังควานร้างกายเขา ก่อนที่จะฉกรถคันสวยไป แต่สิ่งที่เลวทรามที่สุดเป็นพวกมันฆ่าสุนัขของเขาตาย หนังไทยnetflix

รีวิว John Wick 1

รีวิวหนังดัง นี่คือหนังแอคชั่น ที่สาวกหนังบู๊ทั่วโลกรอคอย กับ อดีตนักฆ่าระดับตำนาน ที่วางมือไปเพราะความรัก และ เขาต้องมาจับปืนอีกครั้งด้วยความโกรธ แค้น ทำให้เขาต้องเข้าสู่วงการนักฆ่าอีกครั้ง เป็นการไล่ล่าสุดมันส์ ที่ไม่มีการปรานี หรือ เมตตา และ ไม่มีใครที่จะหยุดเขาได้ และ เขาคือ จอห์น วิค แรงกว่านรก

เรื่องราวเกี่ยวกับ จอห์น วิค นักฆ่าที่ฝีมือดีที่สุดในวงการนักฆ่า และ หลังจากนั้น เขาได้ตัดสินใจออกจากวงการ เพราะเขาต้องการใช้ชีวิต อย่างสงบกับคนรักของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้สูญเสียคนรักของเขาไปอย่างกะทันหัน ทำให้เขาเสียใจโศกเศร้ากับ การจากไปของภรรยาเป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่เธอจะเสีย เธอได้มอบสิ่งเตือนใจให้กับ จอห์น นั้นคือน้องหมา และ มันเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเขามาก

ต่อมาได้มีคนบุกรุก บ้านของเขา เพื่อมาขโมยรถคันโปรดของ จอห์น แถมยังฆ่าน้องหมา ของเขาอีกด้วย ทำให้ จอห์น จึงต้องปลุกสัญชาตญาณนักฆ่า ในตัวขึ้นมาอีกครั้ง และ เขาจึงเริ่มตามไล่ล่าคนที่ฆ่าน้องหมาของเขา และ วิกโก ซึ่งเป็น หัวหน้าแก๊งค์อาชญากร และ เป็นพ่อของ โยเซฟ ซึ่งเป็นคนที่ฆ่าน้องหมา ของ จอห์น และ วิกโก ก็ต้องการปกป้องลูกของเขา ด้วยเหมือนกัน เลยตั้งค่าหัวของจอห์นไว้ที่ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ ที่ มันส์ ระห่ำ และ เขาพร้อมที่จะเอาคืน ทุกคนที่ฆ่าน้องหมาของเขา

ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่น มันส์ ระห่ำ สุด ๆ ตัวหนังเต็มไปด้วย ฉากฆ่ากันแบบโหด ๆ ดุ ๆ แต่ก็เป็นไปด้วย ความสนุก ลุ้น ระห่ำ สะใจ เป็นที่จัดเต็มมากกับฉากบู๊ และลีลาการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ทำได้ดีทุกรูปแบบเลย จริง ๆ ส่วนเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมาก ตัวหนังออกแบบ โลกของนักฆ่า ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูหนังออนไลน์

รีวิว John Wick 1

แต่เราจะเห็นวิธีการต่อสู้ของ ตัวละคร ที่ทั้งเท่ และ ไม่ธรรมดา และ หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นต่างจากหนังนักฆ่าเรื่องอื่น ๆ ถือเป็นหนังแอคชั่นที่ฆ่ากันได้โหดเลือดสาดมากถึงมากที่สุด บทหนังดีเรียบง่าย แต่ก็แฝงด้วยแง่มุมที่ลึกซึ้ง ๆ และ ตัวหนังมีความน่าสนใจเยอะมาก มันดูยิ่งใหญ่ ตื่นเต้น ลุ้น เพราะตัวหนังดูสนุกตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง

ส่วน CG ทำออกมาดีมาก ส่วนความแปลกตาของหนังเรื่องนี้คือ ฉากแอ็คชั่นที่ มันส์ ระห่ำ เป็นอะไรที่มีเสน่ห์ดี ตัวหนังผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

ส่วนด้านนักแสดงนำก็ได้ (คีอานู รีฟส์) รับบทเป็น จอห์น วิค นี่ถือว่าเป็นอีกจุดที่เพิ่ม เสน่ห์ให้กับหนังได้อย่างดี และ พี่แกเล่นสวมบทบาทของตัวละครได้อย่างมีมิติมาก ยิ่งฉากปะทะอารมณ์กันท้ายเรื่อง เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ต้องบอกว่ามันส์มาก ทำออกมาได้ถึง ซีนดวลปืนดุเดือด เหลือเกิน

สะใจมาก และ ส่วนที่ชอบมากที่สุดคือ สุดขีดความบ้าคลั่งของตัวละครนี่แหละ และ ตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ ในหนังอัดแน่นไปด้วยความ มันส์ และ เรื่องราวของตัวละครได้อย่างเข้มข้น และ ส่วนด้านรายได้ก็ถือว่าคุ้มค่าทุนอยู่ โดยตัวหนังทำรายได้ไป 86 ล้านดอลลาร์ และ จากทุนสร้าง 20 ล้านดอลลาร์ เท่านั้นเอง

ตัวหนังสนุก มันส์ ฉากแอ็คชั่นจัดเต็มทุกฉาก และ ตัวหนังเล่าเรื่องของนักฆ่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ ด้วยฉากการต่อสู้ที่น่าประทับใจ และ ตัวหนังอัดแน่นด้วย ฉากแอ็คชั่นมันส์ ๆ และ เนื้อเรื่องที่เข้มข้น

ทั้งสิ้นนี้จำต้องยกความดีความชอบให้กับฝีมือการแสดงของ คีนู รีฟส์ ที่เยี่ยมสุดๆมาดหรูเข้ากับชุดสูท ลุคไว้หนวดเครากับผมยาวบางทีอาจไม่แตกต่างจาก 47 Ronin เท่าไหร่ แต่ว่าในประเด็นนี้เขาสร้างคาแร็กเตอร์ใหม่ที่น่าจำกว่า ถือว่าเป็นการคืนฟอร์มแบบมีสไตล์มากมาย อีกผู้ที่เด่นรองมาเป็น ไมเคิล นีควิสต์ เล่นเป็นตัวร้ายที่มีหลายมิติดี ดูหนัง

หนังเรื่อง John Wick 1

รีวิวหนังดัง จอห์น วิค หวนมาจับปืนอีกครั้งด้วยความโกรธแค้นถึงขีดสุด เขาออกลุยเดี่ยวตามล่า คนที่ฆ่าหมาของเขา ซึ่งเป็นลูกชายของ วิกโก้ หัวหน้าแก๊งค์รัสเซียผู้ทรงอิทธิพลและเป็นอดีตผู้จ้างวานของเขาเอง วิกโก้ รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของ จอห์น จึงสั่งระดมคนคุ้มกันลูกชายพร้อมตั้งค่าหัวเขาเพื่อให้มือปืนชั้นนำคนอื่นมาช่วยกันจัดการ มือปืนในตำนาน

พล็อตของหนังง่ายมาก บทไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่เสียเวลาพูดพล่ามทำเพลงให้มากความ เทนํ้าหนักให้ฉากแอ็คชั่นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต้องบอกว่ามันส์มาก ทำออกมาได้ถึง ซีนดวลปืนดุเดือด เสียงดังสนั่น การต่อสู้มือเปล่าก็รุนแรง สะใจคนชอบหนังบู๊ ดนตรีประกอบเร้าอารมณ์ เข้ากับบรรยากาศดิบเถื่อน คอสตูมมีสีเดียวคือดำ เลือดสาดพอสมควร แต่ไม่ถึงกับน่าแหวะ อีกอย่างที่โดดเด่นคือรถที่นำมาประกอบฉาก แต่ละคันโดนใจคนชอบรถคลาสสิกมากๆ

รีวิว John Wick 1

หนังมีส่วนที่เกินจริงไปบ้าง ไม่สมเหตุผลบ้าง (อย่าถามหาตำรวจ ยิงกันขนาดนี้เสียงหวอไม่มีสักแอะ) กระนั้นความโอเวอร์ของมันนี่แหละที่สร้างความสนุก นับเป็นหนังอาชญากรรมที่บันเทิงที่สุดในรอบหลายปี เทียบเคียงได้กับภาพยนตร์แอ็คชั่นในตำนานอย่าง Taken แต่ที่ชอบเพิ่มเติม คือการสร้างโลก ของมืดปืนที่ดาร์ค และ คูลสุดๆ อาทิ เหรียญทองที่ใช้จ่ายกันเฉพาะวงใน ทีมเก็บศพมืออาชีพ โรงแรมมือปืน และ กฏเหล็กของวงการ

John Wick คือการฉายผู้เดียวของ คีนู รีฟส์ ที่น่าสนใจ ถึงจะพอเพียงเดาเรื่องได้ แต่ก็ยังเป็นเหตุให้พวกเราลุ้นตามรวมทั้งเอาใจช่วยได้ตลอด ไม่ถึงกับเพอร์เฟ็กต์สมบูรณ์พร้อม แม้กระนั้นถ้าหากมองข้างช่องโหว่ยิบย่อยไป ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของเขาที่ไม่สมควรพลาด ดูหนัง

คะแนน 8/10

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับหนังเรื่องนี้เป็นหนังจีนเรื่องดัง หนังเก่ายอดนิยมที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหน ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในด้านแอ็คชั่น ที่มาแรงแซงหนังไทยที่กำลังเข้าฉายในตอนนั้น ซึ่งกำลังจะเข้าฉาย ก็มีหนังจีนเรื่องหนึ่ง ตัวเอกใส่หน้ากากดำ แถมตั้งชื่อหนังว่า หน้ากากฮีโร่ ฮัดช่า!! จะมาท้าชนกับอินทรีแดงไทยหรือไร แต่คงไม่ เพราะวันฉายก็ห่างกันไกลอยู่ เหมือนกับเข็นออกมาทักทาย ให้คนได้รู้ว่า มีทั้งหน้ากากดำ-หน้ากากแดงนะจ๊ะ

แต่พอเหลือบไปดูโปสเตอร์อีกที ดอนนี่ เยน ขวัญใจของกระผมเอง โผล่มาเล่นเรื่องนี้อีกด้วย แถมด้วยผู้กำกับ แอนดรู เลา ที่ไว้ใจในเครดิตหนังเก่า 2คน2คม อินเฟอร์นอลอัฟแฟร์ ก็มั่นใจได้ว่า หนังนี่คงไม่ป๊อกแป๊กอะไรนัก แอนดรู เลา หยิบตำนานของนักสู้ชาวจีนท่านี้ออกมาเล่าใหม่ ในมุมมองที่ทันสมัย ทำให้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่เลย เฉินเจิ้น เฉินเจิน เรียกอะไรดี ดูหนังออนไลน์

ก่อนไปดู ก็ทำใจไว้อย่างหนึ่งก่อนเลยว่า ไม่รู้จักเฉินเจิน ไม่เคยดูหนังบรู๊ซ ลี หรือหนังในสมัยที่เจ๊ทลี เคยเล่นเอาไว้ เอ่อ แล้วจะดูรู้เรื่องไหมเนี่ย แต่ก็อย่างว่า มีดอนนี่ เยน และเป็นหนังแอ๊คชั่น ก็น่าจะคุ้มเวลาที่ได้รับชม อย่างอื่นค่อยไปว่าทีหลัง หนังไทยมาใหม่

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิวหนังดัง หนังฉายแบบจอกว้าง 2.35:1 ครับ กว้างเปิดสุด แนะนำชมในโรงใหญ่ ที่พูดถึงจอกว้างอยู่บ่อยๆ เพราะผมว่า เป็นไซส์ภาพที่เหมาะกับโรงภาพยนตร์ จอ LCD ที่บ้าน ก็ให้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ จอใหญ่ และยาว และเวลาคุณเข้าโรงหนัง โรงใหญ่ โรงเล็ก ตังค์ก็เสียเท่ากันนะ ผมเลยมักจะเช็คดูว่า โรงใหญ่ของสาขานี้ฉายเรื่องอะไร แล้วก็เป็นอีกเหตุผลในการตัดสินใจเข้าไปชมภาพยนตร์ในโรงหนัง

เปิดฉากในยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่สงครามยุโรป ประเทศฝรั่งเศส ชาวจีนก็ได้เข้าไปช่วยสู้รบด้วย เฉินเจิน(ดอนนี่ เยน) ก็เป็นหนึ่ง ที่ไปร่วมสู้รบ ก็มีแต่ปืนกับมือนี่แหละ เหตุการณ์เปิดโอกาสให้เฉินเจิน ได้โชว์ฝีมือ สู้กันแบบเว่อร์ๆ มือเปล่ากับปืนนี่แหละ แต่ทันทีที่รัวหมัด โอ๊ววว ยิปมันอีกแล้ว แต่ถึงจะเก่งขนาดไหน ก็เก่งคนเดียว เพื่อนชาวจีนที่ไปร่วมรบกันก็เสียชีวิตไปมากมาย สงครามก็เป็นซะอย่างนี้

ตัดมาที่มหานครเซี่ยงไฮ้ ยุค 1920 จีน ซึ่งถูกญี่ปุ่นยึดครองอยู่ เฉินเจิน ปลอมตัวมาเป็นนักธุรกิจ เพื่อแทรกซึมไปสู่สังคมชั้นสูง และเพื่อเข้าไปสืบข้อมูลเตรียมวางแผนโค่นล้มกองทัพญี่ปุ่น ก็สิงอยู่ไนต์คลับดังของเซี่ยงไฮ้ นาม คาซาบลังก้า ที่เอาไว้ให้คนชั้นสูงหย่อนใจจากภัยสงคราม?

ระหว่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพวกใครบ้าง ใครเป็นไส้ศึก ใครเป็นพวกเดียวกัน เฉินเจินไปหลงนักร้องสาวดาวประจำคลับอย่างกีกี้ (ซูฉี) โดยไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้นี่แหละ ว่าหล่อนมีอะไรซ่อนอยู่ พอตกกลางคืน เฉินเจินก็สวมหน้ากากดำ กระโดดโหยงเหยง คอยปกป้องพี่น้องชาวจีนที่โดนญี่ปุ่นข่มเหง ก็ได้โชว์สเต็ปมวยจีน และผู้กำกับก็ได้โชว์สไตล์ภาพที่หวือหวา อย่าพลาดฉากเปิดตัวหน้ากากดำท่ามกลางสายฝน และก็ตามมาด้วยฉากแอ็คชั่นอีกพอสมควร แต่ฉากนิ่งๆ สืบนั่นนี่ เยอะกว่า

รีวิว The Legend of Chen Zhen

ซีนที่ชอบคือ การดวลกับนักยูโดร้อยกว่าคน และมีเฉินเจินคนเดียว นึกภาพที่นีโอ โดนเอเจนท์สมิธเป็นร้อยรุมนั่นแหละครับ จะเก่งเทพไปไหน (ฉากแบบนี้ มีมาตั้งแต่สมัยหนังบรู๊ซ ลี แล้ว) เออแฮะ ฉากนี้เค้าทำบูชาหนังภาคก่อนรึเปล่า มันดูคล้ายๆกัน รวมไปถึงไคล์แมกซ์การดวลกับลูกของ อาจารย์ยูโด ที่ฝังแค้นเนื่องจากพ่อโดนเฉินเจินปราบ ไปในภาคก่อนนู้น วิญญาณบรู๊ซ ลี ก็เข้าสิง เสียงดัง จ๊ากๆๆๆ โหดและหนักแน่นด้วย

เป็นอีกครั้ง ที่ดูหนังแล้วเห็นถึงความน่ากลัว และเกรงขามอย่างประเทศญี่ปุ่น ประเทศเล็กๆ บนเกาะกลางทะเล แต่มีพลังอำนาจในการรุกรานประเทศอื่นได้ ยิ่งมารุกรานจีนแบบนี้ โอ้โห เก่งแฮะ ยิปมันนั่นก็ทีนึงแล้วนะ ดอนนี่ เยน นี่มีคู่ต่อสู้เป็นญี่ปุ่นอีกแล้ว ดูหนังออนไลน์

ผมเองเกิดไม่ทันเห็นความน่ากลัวของญี่ปุ่นครับ แล้วเวลาฟังคนอื่นๆเล่า ก็นึกภาพไม่ออกอยู่ดี ญี่ปุ่นเคยร้ายขนาดนี้เลยเหรอ โกโบริก็ออกจะใจดี แต่ภาพจากหนัง เวลาบ้านเมืองที่อยู่ในภาวะสงครามนี่ น่าหดหู่และหวาดกลัวชะมัด เดี๋ยวก็ระเบิดที่นั่น ที่นี่ อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย คนมีอำนาจรังแกประชาชน เล่นกันถึงตาย ผู้พิทักษ์บ้านเมืองก็ช่วยอะไรไม่ได้ และมีเฉินเจิ้นเพียงคนเดียว ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้อยู่ดี สิ่งสำคัญคือคนในชาติต้องรวมพลัง

รอบที่ได้ชม เป็นเสียงจีน และซับไตเติ้ลไทยแบบตอก (แบบที่ได้ดูตามโรงลิโด้นะ) ซึ่งจะตัวเล็กๆ บางๆ บางทีก็ขาวไปกับจอหนัง แล้วเรื่องนี้พูดกันเยอะซะด้วย ฉากที่แนะนำตัวละคร ฉากที่มีตัวหนังสือบรรยายภาพเหตุการณ์บนจอ ทำเอาอ่านซะแทบไม่ทัน ใครเป้นใคร มันมาแล้วมันก็หายไป และก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าขำนัก แต่หากได้ดูแบบพากย์ไทย ทีมพากย์คงเล่นซะขำกว่านี้ โรงฉายทั่วไปเป็นเสียงไทย มีแต่โรงเอมโพเรี่ยม เป็นเสียงจีนจ้า

เรื่องราวของ The Legend of Chen Zhen

รีวิวหนังดัง นอกจากนั้น Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen ยังมีน้ำเสียงชาตินิยมแบบค่อนข้างรุนแรงชนิดไม่ค่อยเห็นในหนัง (ที่ฟอร์มใหญ่ ๆ หน่อย) ในยุคนี้สักเท่าไหร่นัก ผู้กำกับยัดบทตัวร้ายอันแทบไม่มีความดีปรากฎให้กับประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็ม ๆ แตกต่างกับหนังที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันในยุคนี้ (ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ Fearless) ที่มักจะมีน้ำเสียงประเภทสมานฉันท์ปรองดอง (ที่บางคนเรียกว่า แทงกั๊ก ตีกิน) เป็นหลัก

อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับว่าผมเห็นด้วยหรือคล้อยตามกับแนวคิดแบบใดนะครับ แต่ชอบอารมณ์อันไม่ประนีประนอมของ Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen (ที่เข้าใจว่า คงหวังกับตลาดจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก) ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของสงครามยุคโบราณ และยังทำให้หนังมีอารมณ์ใกล้เคียงกับหนังกังฟูยุคเก่าดี ดูหนัง

สำหรับสาว ๆ ในเรื่อง (ที่ไม่ค่อยบทบาทเด่นอะไรสักเท่าไหร่) ซูฉี แสดงดีและสวยเหมือนเดิม แต่สำหรับผมเธอโดนขโมยซีนด้วยนักแสดงสาวรุ่นใหม่อย่าง ฮั่วซื่อเหยียน (รับบทแฟนสาวของ นายพลเจิ่น ที่รับเชิญโดยหยูเหวินเล่อ) ที่ออกมาแค่ 2 ฉากแต่ก็ยังเปร่งประกายสุด ๆ

รีวิว The Legend of Chen Zhen

หนังมีฉากแฟชลแบ็คถึงเหตุการณ์ใน Fist of Fury ภาคแรก (ยาสุอากิ คุโรตะ รับเชิญ) ถ่ายออกมาได้อารมณ์หนังยุคเก่าดี ฉากที่เฉินเจินรำลึกถึงอาจารย์ฮั่วหยวนเจี๋ย และสำนักเดิมของเขา ก็ยังทำออกมาได้น่าประทับใจทุกตอน โดยเฉพาะในการเสนออารมณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่ใจของตัวเอง เมื่อเขาตัดสินใจลงสู่สงครามต่อต้านพวกต่างชาติ ที่เจ้าตัวรู้ว่าไม่มีทางชนะ

โดยรวมแล้วถ้านำกันในเรื่องความลงตัวกลมกลื่น Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen ถือว่าด้อยกว่างานอย่าง Ip Man และ Fearless อยู่หนึ่งขั้น ผมเองดูไปสักประมาณครึ่งเรื่องแล้วก็ยังรู้สึกผิดหวังนิด ๆ แต่ในครึ่งหลังของหนังถือว่าทำคะแนนตีตี้นมาได้พอสมควร

เกร็ดเล็กน้อยสำหรับตอนจบของหนัง ตัวละครหญิงที่สวมชุดทหารญี่ปุ่นที่ปรากฎตัวในตอนใกล้จบ ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็น คาวาชิม่า โยชิโกะ หญิงสาวเชื้อสายจีนญี่ปุ่นผู้มีบทบาทอยู่สูงต่อความขัดแย้ง และความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นและจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (เข้าใจว่าตัวละครของซูฉี ก็ได้รับอิทธิพลบางประการมาจากหญิงผู้มีตัวตนในประวัติศาสตร์คนนี้ด้วย) ดูหนังเกี่ยวกับ คาวาชิม่า โยชิโกะ เรื่องอื่น ๆ ได้ที่นี่ครับ

สรุปสั้นๆว่า ถ้าเป็นแฟนหนังของ ดอนนี่ เยน ยังไงก็ต้องไปดูกันต่อ แต่ถ้าไม่ใช่แฟน คุณอาจต้องใช้พลังในการรอคอยซักหน่อย กว่าจะไปถึงฉากแอ๊คชั่นแต่ละซีนได้ แต่รับรองว่าแต่ละซีนนี่ เท่ห์ไม่หยอก แล้วจะหลงพี่แก ดูหนัง

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิวหนังดัง ในภาพยนตร์ เป็นหนังใหม่ที่ มาแรงแสงทางโค้งสมชื่อจริงๆ หนังเรื่องนี้นั้น เป็นหนังไทยที่ฉีกจากหนังไทยหลายๆเรื่องที่ผ่านๆ มาเลย บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ เกา คนที่หมกมุ่นอยู่กับอาชีพ กับ กีฬา จนลืมสิ่งรอบข้างไปเสียหมด เรื่องนี้เป็น ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ของผู้กำกับ ที่มีสไตล์เอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์ไทย อย่าง เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ หนังไทยnetflix

โดย หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ได้นักแสดงระดับ A-List อย่าง ญาญ่า อุรัสยา มาประกบกับ นัท ณัฏฐ์ กิจจริต พระเอกที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองในฝีมือการแสดงซึ่ง ฉายแสงความเฉียบมาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว อาทิ ในหนัง ดูหนัง อาชีวะยุค 90s ในเรื่อง 4Kings

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิวหนังดัง เรื่องย่อ หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ นั้น ถือเป็นหนังเรื่องเล่าที่เฉพาะกลุ่มมากๆ ผู้คนเล็กๆ อย่างชีวิตของตัวละคร เกา (แสดงโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต ) ซึ่งรับบทในเรื่อง เป็น แชมป์ Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือแชมป์กีฬาเรียงแก้ว ซึ่งมันไม่ได้ Mass เลยในสังคมไทย

แต่หนังก็ชี้ประเด็นว่า กีฬาเฉพาะกลุ่มแบบนี้ มันมีความหมาย มันมีคุณค่าในตัวของมันเองเสมอๆ มันไม่สนเพศ มันไม่สนวัย แต่มันสนแค่ “สถิติ สถิติ และสถิติ” แค่นั้น ซึ่งหากมองให้ชัด ทุกการกระทำเล็กๆ ของทุกอย่างในสังคม

แม้ว่ามันจะไม่มีผลกระทบในวงกว้าง แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีความหมายกับคนบางกลุ่ม และมันได้รับความนิยมจากคนบางกลุ่ม อย่างเช่นกีฬา Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือ กีฬาเรียงแก้ว นั่นเอง …ทุกอย่างย่อมมีคุณค่าในตัวเอง

ตัวรสชาติของภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ เต็มไปด้วย การยั่วล้อ ตลกร้าย เสียดสีหนังดังต่างๆ แต่อีกนัยหนึ่ง มันก็เหมือนกับการ “คาราวะ” หนังเหล่านั้นที่ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เอามาล้อเลียนด้วย ทั้งหนังตระกูล Fast & Furious ,The Dark Knight รวมถึงการ ตัดต่อย้ำๆ ซ้ำๆ ขยี้ แบบย้อนไทม์ไลน์แบบหนัง Doctor Strange ในฉากเช็ดม่านมูลี่ ดูหนังออนไลน์

การที่ ตัวละคร เกา (แสดงโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต ) มุ่งมั่นทำสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างเล่นกีฬาเรียงแก้ว บางทีมันอาจไม่เหมาะกับค่านิยมสังคมไทยเลย ที่กรอบสังคมเอาแต่มุ่งมั่นให้แทบทุกคนเดินไปตามแป้นพิมพ์ เบ้าหลอมสังคมไทย ที่ต้องมีอาชีพที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่า การได้ทำสิ่งที่รัก พร้อมๆทั้งเป็นอาชีพได้อีกล่ะ…

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

ในระหว่างที่ ตัวละคร เกา มุ่งมั่นเพื่อจะเป็นแชมป์โลกกีฬาเรียงแก้วนั้น ต้องบอกว่า เขาโชคดีที่มี แฟน(ภรรยา) อย่าง เจ (รับบทโดย ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์) ที่คอยสนับสนุนทุกอย่างในชีวิต , คอยทำงานบ้านให้ , คอยใช้ สกิลต่างๆในการจัดการชีวิตประจำวัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซ่อมปั้มน้ำ เป็นต้น

โดยที่ เกา ไม่ต้องจัดการเรื่องต่างๆในชีวิตเลย ขอแค่โฟกัสแค่การเล่น Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือ กีฬาเรียงแก้ว เท่านั้นก็พอ

แต่ในขณะเดียวกัน ตัวละคร เจ ก็มีความฝันกับเขาเหมือนกัน นั่นคือ การเป็นแม่คน การมีลูก ซึ่งมันอาจจะดูเหมือนไม่ใช่ความฝันยิ่งใหญ่อะไร แต่เราทุกคนก็ไม่ควรไปปรามาส ความฝันของใครก็ตาม (จริงไหม?) …แต่ดูเหมือนว่า เกา จะตอบสนองความฝันของเจ ไม่ได้เลย

เรื่องราวความรัก และ การไล่ล่าความฝันของคนเนิร์ดๆ แบบตัวละคร เกา และคนธรรมดาๆ แบบตัวละคร เจ ซึ่งคอยจะสนับสนุนคู่รักทุกอย่าง ต้องเดินมาถึงจุดทางแยก ที่เป็นปมสำคัญของเรื่อง และมันสามารถนำพาผู้ชม ให้เห็นภาพของ ตัวละคร เกา ชีวิตคนเนิร์ดๆ ที่จะค่อยๆเติบโตเป็น “ผู้ใหญ่” ที่ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ดูหนัง

เมื่อ หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ดำเนินเรื่องเดินทางมาถึงจุดทางแยกของเรื่อง มันช่างเป็นการตั้งประเด็นคำถามว่า ความสำเร็จของใครสักคนนั้น มันอาจจะต้องมาพร้อมกับปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่จะสนับสนุนให้บุคลากรสักคนสามารถพัฒนาตัวเองและเดินไปถึงเส้นชัยที่วางเอาไว้ ใช่หรือไม่ ?

ความสำเร็จของคนเรา บางทีมันอาจจะต้อง “แลก” ด้วยอะไรบางอย่าง อย่างเช่นในเรื่องนี้ มันอาจจะต้องแลกตัว “เวลา”ในชีวิตของคนดูแลเกาอย่างเจ ใช่ไหม ?

สรุปหนัง FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิวหนังดัง นอกจากนี้ ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ยังพูดถึงการอัพเลเวล การเติบโตเป็น “ผู้ใหญ่” แบบเร็วที่สุด และไวที่สุดด้วย นั่นคือ การจะเติบโตได้ มันอาจจะต้องผ่านการเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด และ มันอาจจะต้องเสียอะไรบางอย่างไป

ส่วนเรื่อง ความรัก แม้มันจะมีกลิ่นและรสแบบโรแมนติกเล็กๆ แต่ มันก็สะท้อนความจริง ที่เกิดขึ้นกับทุกคน ว่าแท้จริงแล้ว บางทีคู่รักกัน มันอาจไม่หอมหวาน ไม่ได้เป็นความรักไร้เงื่อนไข ใดๆ อย่างที่ใครๆฝันหา …

แต่ระหว่างตัวละคร เกา กับ เจ มันไม่ใช่รักแบบไร้เหตุผล แต่มันคือรัก ที่เป็นรูปแบบความรักแบบผู้ใหญ่จริงๆ ที่มี “เงื่อนไข” ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง – ความรักที่แท้จริงในชีวิตคนจริงๆ มันคือการ ดีลบางอย่างของคนสองคนที่สมประโยชน์ต่อกัน…ใช่ไหม ?

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

และที่สำคัญที่สุด ที่หนัง ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ถ่ายทอดประเด็นคำถามได้ดี นั่นคือ ชีวิตคนเราจะฝันธรรมดาไม่ได้เลยหรือ ? การเป็นแบบคนธรรมดาๆ แบบเจ ไม่ได้เลยหรือ…ซึ่งในความเป็นจริง ชีวิตใครก็ชีวิตมัน ใครฝันอะไรก็ทำได้ตามใจอยู่แล้ว อย่าไปกังวลกับกรอบของสังคมที่คอยขีด คอยเป็นแส้โบยตีว่า ถึงอายุเท่านั้น เท่านี้ ต้องมีนู้น มีนี้… ดูหนังออนไลน์
.
ตัวหนัง เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ พาคนดูให้ไป ทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆในชีวิตมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ความฝันที่เราเคยมีและทุ่มเทเวลาให้กับมันอย่างเต็มเปี่ยม …แต่ในทางกลับกัน ในเวลาเดียวกัน บางครั้ง เราอาจจะต้องเจียดเวลาที่เคยมี ไปให้กับสิ่งอื่นๆบ้าง…เพื่อให้ชีวิตมัน สมดุล…

 

รีวิว Ant-Man

รีวิว Ant-Man

รีวิว Ant-Man

รีวิวหนังดัง สำหรับหนัง Antman ผมคิดว่าหนังนั้นจะไม่ได้สนุกอะไรมากมาย คิดว่าคงจะเหมือนหนังทั่วไปๆ แต่เอาจริงๆผมไม่ค่อยได้คาดหวังอะไรกับมันมาก เพราะหนังเรื่องนี้มีปัญหามาตลอดตั้งแต่ก่อนสร้าง ยันเรื่องที่ ผกก เลย และเขียนบทคนเก่าอย่าง Edgar Wright ออกไป การถ่ายทำ การผลืตหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีอุปสรรคเยอะมากแต่!!!! หนังกลับทำออกมาได้ที่กว่าที่ผมคาดไว้เยอะมาก ถึงแม้จะไม่ได้อลังการณ์เท่า Age of ultron แต่หนังมันกลับกลมกล่อมและลงตัวมาก หนังไทยnetflix

รีวิว Ant-Man

รีวิวหนังดัง ในภารกิจใหม่สุดเร่งด่วน เพื่อต่อกรกับวายร้ายพลังสุดเทพอย่าง โกสต์ (ฮันนาห์ จอห์น คาเมน) ที่มีพลังทะลุทุกสิ่ง กับวายร้ายเจ้าพ่อค้าอาวุธอย่าง ซอนนี่ เบิร์ช (วอลตัน ก็อกกินส์) ซึ่งอีกด้านเขากับโฮปก็ต้องตามหา เจเน็ต (มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์) แม่ของโฮปกลับมาจากมิติควอนตัมให้จงได้ สก็อตต์ต้องกลับมาสวมชุดใหม่อีกครั้ง และเรียนรู้ที่จะต่อสู้เป็นทีมไปพร้อมกับ เดอะ วอส์พ เพื่อหาคำตอบในอดีตของ เจเน็ต และ ดร. พิม ที่เป็นปริศนาสำหรับพวกเขา

จะว่าไปหนังมาร์เวลนั้น ถึงจะยืนเนื้อหาในความเป็นซูเปอร์ฮีโร่และพลังพิเศษต่าง ๆ แต่ถ้าลองจับสังเกตกันดี ๆ เราจะเห็นว่าฮีโร่แต่ละตัวต่างก็มีสูตรหรือแนวหนังที่ใช้ต่างกัน ทั้งนี้ต้องชื่นชม เควิน ไฟกี ประธานมาร์เวลและผู้ดูแลจักรวาลหนังมาร์เวลทั้งหลาย ที่ชาญฉลาดพอในการวางแพลนประสบการณ์ให้ผู้ชมได้รับรสที่หลากหลายตลอดเวลา ดูหนัง

พูดอีกอย่างคือไม่ให้ผู้ชมที่ดูหนังมาร์เวลกันปีละ 1-3 เรื่อง ไม่เกิดอาการเลี่ยนหนังฮีโร่เกินไปนั่นเอง ดังนั้นเราจึงมีหนังก้าวพ้นวัยแบบปัญญาวัยรุ่นว้าวุ่นอย่าง สไปดี้ หนังดราม่าการเมืองอย่าง ซีวิลวอร์ และ แบล็กแพนเธอร์ หรืออย่าง แก๊งพิทักษ์อวกาศ ที่กลายเป็นหนังตลกแบบนอสตัลเจีย ส่วน ธอร์ ภาคล่าสุดก็อวตารตัวเองกลายเป็นหนังตลกติ๊งต๊องไปเรียบร้อย

และแน่นอนสำหรับ Ant-Man and the Wasp ที่ใช้ชื่อไทยได้ตร๊งตรงจนสิ้นคิดอย่าง แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ ถ้าจะให้พูดว่าเป็นหนังแนวไหน นี่คือหนังสไตล์รอมคอม หรือ โรแมนติกคอเมดี้

รีวิว Ant-Man

ที่ว่าด้วยพ่อหม้ายลูกติดที่พยายามคืนดีกับแฟนสาวคนใหม่ ที่ดันมีคุณพ่อสุดเฮี้ยบซึ่งดันเกลียดขี้หน้าเขาอยู่ด้วย เป็นโครงหลัก ส่วนพลังพิเศษต่าง ๆ มาเป็นเพียงน้ำจิ้มและอุปสรรคให้ความสัมพันธ์ของพระ-นาง ตลอดจนกับลูกสาวพระเอก และกับว่าที่พ่อตา เจริญงอกงามขึ้นเท่านั้นเอง ดูหนังออนไลน์

ดังนั้นใครชอบแนวหนังรักตลก ๆ ที่เดินเรื่องแบบซิทคอม เต็มไปด้วยสถานการณ์ชวนหัวปั่นและฮา นี่คือหนังซูเปอร์ที่เป็นคำตอบของคุณเลยครับ ส่วนแฟนมาร์เวลทั่วไปนี่อาจไม่ใช่หนังที่ตอบโจทย์ความเข้มข้น ไม่ได้มีฮีโร่ดัง ๆ ที่คุ้นเคยจากแก๊งอเวนเจอร์สมาแจม (เพราะช่วงเวลาเดียวกันนี้กำลังไฝว้กับพวกธานอสอยู่) แถมไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงสำคัญอะไรส่งผลกระทบยังหนังรวมพลอย่าง Avengers 4 ที่แว่ว ๆ ว่าอาจใช้ชื่อภาคว่า End Game ด้วย

ด้วยความที่เป็นหนังสแตนด์อะโลน ไม่ต้องไปเข้าใจหนังเรื่องอื่น ๆ ในจักรวาลมาร์เวลมาก จึงสามารถเริ่มต้นดูที่ภาคนี้ได้เข้าใจเลยเช่นกัน (เหมาะกับการพาแฟนสาวที่ชอบรอมคอมมาเริ่มติดหนังมาร์เวลมาก ๆ ฮะ) นี่จึงเป็นหนังที่ดึงทักษะออกมาได้สูงสุด สำหรับผู้กำกับผู้ช่ำชองกับแนวรอมคอม อย่าง เพย์ตัน รี้ด (Bring it on, Yes Man, The Break-Up) ซึ่งรับหน้าที่ตั้งแต่ภาคแรกได้อย่างดี

ด้านดาราก็ได้ทีมเดิมที่ตอนนี้รู้สึกว่าเคมีเข้าคู่ลงตัวกันมาก ๆ แล้ว ไม่ค่อยมีจุดขัดเขินแบบภาคแรก และที่สำคัญตัวละครฝั่งพระเอกแต่ละกลุ่มดูมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันที่น่าสนใจขึ้น อย่างเช่น หลุยส์ กับ ดร. พิม ที่เห็นอาการขยาดของ ดร. พิม ได้ชัดและสร้างสถานการณ์ตลกขบขันใหม่ ๆ ขึ้นได้อีก เป็นต้น

นอกจากนี้หนังยังมีดาราสมทบที่มากฝีมือมาแจมในภาคต่อนี้มากขึ้นด้วย ทั้ง มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ ในบทของ เจเน็ต หรือ เดอะวอส์พ รุ่นแรก และ ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น ในบทของ ดร. บิลล์ ฟอสเตอร์ หรือฉายา โกไลแอธ ฮีโร่ขยายร่างรุ่นแรก ซึ่งต่างก็เป็นดาราที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ และผ่านงานแสดงในหนังฮีโร่มาก่อนแล้วทั้งสิ้น ก็ทำให้หนังภาคนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในการปั้นแต่งตัวละครด้วย

ในขณะที่ฝ่ายเขียนบทก็ได้ดารานำอย่าง พอล รัดด์ ที่เคยร่วมเขียนบทในภาคแรกมาสานต่อบทบาทอีกในภาคนี้ โดยร่วมกับทีมเขียนบทจาก Spider-Man: Homecoming ซึ่งก็เหมาะเจาะอีกเช่นกันเพราะ หนังดึงความเป็นปุถุชนฮีโร่บ้าน ๆ ที่สัมผัสได้ อย่าง สก็อตต์ แลง พระเอกที่ถูกรัฐกักบริเวณเป็นเวลา 2 ปีจากการไปช่วยกัปตันอเมริกาในซีวิลวอร์

รีวิว Ant-Man

ทำให้เขาไม่สามารถออกนอกบริเวณบ้านตัวเองได้ ทุกครั้งที่ออกไป กำไรไฮเทคที่ข้อเท้าจะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่อย่าง มิสเตอร์วู (ในคอมมิคคือเอเจ้นท์ผู้รวมทีมเหล่าฮีโร่สายลับลอบเร้นด้วย) เข้ามาตรวจสอบ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเขาต้องกลับไปเผชิญหน้ากับแฟนและพ่อของเธอที่กำลังยั้วะเขาเต็มอัตราจากการเอาพลังไปใช้โดยไม่ปรึกษา

ทำให้เขาต้องรักษาสมดุลในการเป็นนักโทษที่ดีที่ใกล้วันได้รับอิสรภาพเพื่อจะได้เป็นพ่อที่ดีให้ลูก กับการเป็นแฟนที่ดีในภารกิจช่วยเหลือแม่ของแฟนในมิติควอนตัมกลับมา ซึ่งอันหลังก็วุ่นวายน่าดูเพราะนอกจาก พ่อค้าอาวุธที่พยายามจะแย่งพลังมดมาใช้แล้ว ยังมีศัตรูลึกลับที่มีพลังทะลุทุกสิ่งได้ไล่ล่าเพื่อแย่งชิงแล็บของ ดร. พิม ด้วย

ความพิเศษของหนังแอนท์แมนคือ การเล่าปัญหาของฮีโร่อย่าง สก็อตต์ แลงก์ ที่เอาจริง ๆ เขาก็คือคนธรรมดาที่ได้พลังจากอุปกรณ์ ไม่มีพลังเหนือมนุษย์ติดตัวแบบกัปตันอเมริกา หรือไม่มีปัญญามีความร่ำรวยล้นฟ้าแบบ โทนี่ คือถ้าไม่มีอุปกรณ์เขาก็สู้ใครแทบไม่ได้ ดูหนัง

เขาเป็นแค่คนที่ตกงานติดสถานะอาชญากรที่อยากกลับไปมีชีวิตปกติให้ลูกสาวของเขาได้ภูมิใจ ปัญหาของแลงก์จึงเป็นปัญหาแบบมนุษย์ปุถุชนที่เราสัมผัสได้ง่าย เอาใจช่วยได้ง่าย ไม่ต้องไปผูกกับเหตุการณ์ระดับโลกแบบหนังมาร์เวลช่วงหลังเลย เพราะความเป็นหนังครอบครัวแบบนี้ก็ได้ใจคนดูทั่วไป และคนดูหน้าใหม่ได้ไม่ยากเย็น ยิ่งแอนท์แมนเป็นจำพวกฮีโร่ตกกระไดพลอยโจน และเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ก็ยิ่งเห็นอกเห็นใจเขาได้ง่าย

บทสรุป Ant-Man

รีวิวหนังดัง สถานการณ์ขัดแย้งกันเองเหล่านี้ จึงสร้างความขบขันได้มากมาย ซึ่งพัฒนาขึ้นมากจากภาคแรก เพราะในภาคแรกเป็นการใช้ตัวละครอย่างหลุยส์ในการเรียกเสียงฮาเสียมากกว่า แต่กับภาคนี้มันมีความตลกทั้งแบบเดิมและแบบที่คนทั่วไปอินได้ง่ายอย่างตลกสถานการณ์ เช่น การที่พระเอกต้องรีบกลับบ้านให้ทันก่อนเจ้าหน้าที่วูจะจับได้ว่าเขาแอบออกไปเป็นแอนท์แมน

จนอาจทำให้ต้องติดคุกยาวต่อไป เป็นต้น ทำให้กลายเป็นความบันเทิงที่ลงตัวมากขึ้น แม้หลาย ๆ ฉากอาจเรียกได้แค่เสียง หึหึ แต่กับบางฉากต้องบอกว่ากรามค้างจริง ๆ โดยเฉพาะฉาก แอนท์แมนแอ๊บแมน นี่ตลกมาก

และนี่คือหนังเรื่องที่ 20 ของจักรวาลหนังมาร์เวล ที่กลายเป็นหนังชุดซูเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคใหม่ไปเรียบร้อย และแม้จะเป็นหนังที่มาเข้าโรงหลังจาก Avengers: Infinity Wars (2018) ก็ตาม แต่น่าจะจัดเข้าชุดเฟส 3 เช่นเดียวกับ Captain America: Civil War (2016), Spider-Man: Homecoming (2017) และ Black Panther (2018) เสียมากกว่า

เพราะหนังเล่าช่วงเวลาระหว่างผลกระทบจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งแตกหักระหว่างกัปตันอเมริกา และไอออนแมน ยาวมาถึงก่อนช่วงการบุกโลกของธานอสในอินฟินิตี้วอร์ เป็นสำคัญ ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้สร้างผลกระทบกับหนังเรื่องอื่นไม่มากนัก แต่ช่วงท้ายหรือตอนจบของหนังก็ได้ทิ้งก้อนปริศนาสำคัญที่น่าจะส่งผลเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ต่อหนังแอนท์แมน ดูหนังออนไลน์ หรือแม้แต่จักรวาลมาร์เวลในอนาคตก็เป็นได้ ถ้าสิ่งที่ผมมโนอยู่เกิดขึ้นจริงว่าแอนท์แมนจะได้รับพลังใหม่ กลืนกับอีกตัวละครสำคัญในจักรวาลคอมมิค

ข้อดี
** ความสนุกเป็นหัวใจใหญ่เลย สนุกมากกก จนจุดอ่อนจะช่างมันเลยก็ได้
** มีแนวทางของตัวเอง แตกต่างจากฮีโร่ตัวอื่น ทำให้จดจำง่าย
** การออกแบบย่อร่างและขยายร่างที่เป็นพลังหลัก เอามาใช้ได้คุ้มมาก
** หนังมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ๆ กว่าภาคเก่า ตัวละครมีเสน่ห์มาก ลงตัวกว่าเดิมมาก
** เหมือนไม่ค่อยทิ้งปมอะไร แต่ก็แอบซ่อนสิ่งชวนคิดที่กระทบจักรวาลมาร์เวลไว้ด้วย

ข้อเสีย
** ตรรกะอ่อนบ้าง ตามสภาพหนังรอมคอมเน้นความสนุก
** ใครชอบความเข้มข้นแอ๊กชันสะบั้นหั่นแหลกทุก ๆ นาที อาจไม่ได้ขนาดนั้น หนังเน้นการเล่าเรื่องมากกว่า

 

รีวิว Red Notice

รีวิว Red Notice

รีวิว Red Notice

รีวิวหนังดัง หนังแอ็คชั่นที่ไม่ได้มีแต่ฉากบู๊ แต่ยังคงความสนุกความฮา ครบรส และนี่คือ หนึ่งในพล็อตหนังบล็อกบัสเตอร์ที่มักได้รับความนิยมที่สุดได้แก่หนังแนวแอ็กชันจารกรรมที่ว่าด้วยเหตุการณ์ปล้นซ้อนแผน และ แม้ว่าหนังหลายเรื่องมักจะจบที่การถ่ายเอกสารบทหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้มาผสมปนกันไม่ต่างจากวลีเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่ด้วยความสนุก เสน่ห์ของตัวละคร และ ฉากแอ็กชันยิ่งใหญ่อลังการก็มักจะทำให้หนังแนว ๆ นี้ได้เงิน และ ความนิยมจนได้สร้างภาคต่ออยู่เนือง ๆ ดูหนังออนไลน์

รีวิว Red Notice

รีวิวหนังดัง ‘Red Notice’ เลือกเปิดเรื่องด้วยฉากปล้นสุดอลังการที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งอิตาลีที่พาเราไปรู้จักกับเจ้าหน้าที่จอห์น ฮาร์ตลีย์ (รับบทโดย ดเวย์น จอห์นสัน Dwayne Johnson) กับ สารวัตรเออร์วาชี แดช (รับบทโดย ริทู อาร์ยา Ritu Arya) ที่ได้ตามจับตัวโนแลน บูธ (รับบทโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส Ryan Reynolds) ยอดโจรสมองเพชรที่ขโมยไข่คลีโอพัตราสำเร็จเป็นใบแรกจากจำนวน 3 ใบ แต่แล้วฮาร์ตลีย์ก็ถูกบิชอป (รับบทโดย กัล กาด็อต Gal Gadot) ยอดโจรสาวหลอกจัดฉากจนต้องเข้าคุกไปพร้อมกับบูธ ทั้งคู่เลยต้องจำใจร่วมมือกันแหกคุกเพื่อออกล่าไข่คลีโอพัตราตัดหน้าบิชอป และ ล้างมลทินให้กับฮาร์ตลีย์ ดูหนังออนไลน์

ดูจากพล็อตแล้ว ‘Red Notice’ แทบจะเดินตามสูตรหนังจารกรรมทุกอย่างต่างกันเพียงแค่พอหนังต้องมีดเวย์น จอห์นสัน หรือเดอะร็อกแล้วก็เหมือนการดำเนินเรื่องต่าง ๆ ดูจะเป็นไปเพื่อรองรับมุกตลก ขายเสน่ห์นักแสดง และ ฉากแอ็กชันสุดระห่ำเป็นหลัก มากกว่าให้คนดูติดตามแผนอันชาญฉลาดหรือการหักมุมหักเหลี่ยมเฉือนคมไปมาเหมือนหนังจารกรรมในตำนานอย่าง ‘The Thomas Crown Affair’ ที่ผู้กำกับนำมาเป็นแรงบันดาลใจ

ซึ่งการวิเคราะห์ของผมมีข้อมูลประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ อย่างแรกดเวย์น จอห์นสันมีเครดิตเป็นเอ็กเช็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ (Executive Producer) ของหนัง และ การเลือก รอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์ (Rawson Marshall Thurber) ที่เคยร่วมงานกับจอห์นสันมาทั้ง ‘Central Intelligence’ และ ‘Skyscraper’ มาเขียนบท และ กำกับหนัง ต้องยอมรับอย่างนึงว่าเธอร์เบอร์ได้ทำให้ ‘Red Notice’ เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนผสมผสาน และ ขายเสน่ห์นักแสดงดังที่กลายเป็นจุดขายสุดแข็งแรงของหนังโดยเฉพาะการรวมนักแสดงซูเปอร์ฮีโรทั้ง 2 ค่ายไว้ในหนังเรื่องเดียว หนังไทยnetflix

รีวิว Red Notice

ดังนั้นต่อให้เราดูไปแล้วรู้สึกว่าพล็อตเรื่องมันคุ้นแบบบอกไม่ถูก แถมจุดหักมุมก็ไม่ได้เกินคาดเพราะเชื่อว่าใครดูหนังแนวนี้มาเกิน 10 เรื่องก็น่าจะพอเดาออกตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้วแถมฉากโจรกรรมก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือน่าเอาใจช่วยนักดังนั้นความบันเทิงหลักของ ‘Red Notice’ เลยมาจากการได้ดูดาราซุปตาร์โปรยเสน่ห์ใส่กันมากกว่า ซึ่งหนังก็เล่นหนักถึงขึ้นให้ตัวละครโนแลน บูธของไรอัน เรย์โนลด์สมีความเป็นแพนเซ็กช่วล (Pansexual) หรือความปรารถนาแบบไม่สนเพศ คล้ายตัวละครเดดพูลที่เรย์โนลด์สสวมบทบาทจนบรรดาสาววายดูแล้วน่าจะมีกรี๊ดกร๊าดกันไม่มากก็น้อยเวลาที่เห็นเขาอยู่ร่วมจอกับจอห์นสัน

ส่วนกัล กาด็อต ไม่ต้องพูดอะไรมากอยู่แล้วเพราะไม่ว่าเธอจะปรากฎกายในชุดราตรีสีแดงสุดร้อนแรงหรือชุดผจญภัยทะมัดทะแมง ทุกพื้นที่ก็พร้อมเป็นรันเวย์ให้เธอเสมอ และ แม้บทบิชอปของเธอจะดูไม่ค่อยมีบทบาทอะไรในเรื่องเป็นชิ้นเป็นอัน แต่หากขาดกาด็อตตัวหนัง ‘Red Notice’ คงขาดเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้คนดูติดหนึบอยู่หน้าจอ และ พูดคำว่า ‘สวยมาก’ ได้สิ้นเปลืองที่สุดในชีวิตขนาดนี้ ดูหนัง

สำหรับนักแสดงอีกคนที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้น ริทู อาร์ยา นักแสดงที่มีเชื้อสายอินเดีย และ เริ่มทำให้คนดูคุ้นหน้าจาก ‘The Umbrella Academy’ ซีซัน 2 ซีรีส์จากคอมิกดังทางเน็ตฟลิกซ์ที่คราวนี้มารับบทตำรวจสายสืบที่ดูมีหน่วยก้านดีไม่น้อยเลย เสียดายเพียงแค่หนังดันไปขายเสน่ห์ของ 3 ดารานำเป็นหลัก และ หนักมือมาก ๆ เลยกลายเป็นว่าการแสดงของเธอที่ไม่ธรรมดากลายเป็นเพียงวิวข้างทางไปอย่างน่าเสียดาย

มีเนื้อเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จ ที่พอจะเดาทางได้ แต่ทำไมเวลาดูไปเรื่อย ๆ แอดมินถึงได้ร้องเฮ้ย!! ขึ้นมาบ่อยครั้ง ซึ่งมันก็มีจุดหักมุมให้เรารู้สึกพีคในพีคในพีคได้อยู่บ้าง หนังก็ออกแบบมาให้เป็นหนังที่ดูเพื่อความบันเทิง ดูสนุก ไม่เครียด ดูได้เพลิน ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นแนวทางที่เซฟสุด ๆ ทำออกมาได้มาตรฐานหนังแอคชั่นติดคอมเมดี้ของ Netflix ไปเลยเต็ม ๆ

สรุปใน Red Notice

รีวิวหนังดัง แค่นักแสดงนำก็กินขาดไปแล้ว กับดาราฮอลลีวูดตัวท็อปแห่งวงการทั้ง 3 คน อย่าง ดเวน์ จอห์นสัน , ไรอัน เรย์โนลส์ และ กัล กาด็อท ที่ทำให้หนังมีจุดยืนที่แสนเฟอร์เฟค ด้วยการแสดงที่แสนจะมีเสน่ห์แพรวพราว โปรยเสน่ห์ใส่กันไม่มีว่างเว้น ซึ่งบทบาทของแต่ละคนก็สามารถดึงเอาจุดเด่นออกมาได้ดี โดยดเวย์น ได้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอระดับสูงที่เราเองก็แสนจะคุ้นเคยกับภาพจำที่รับบทตำรวจมาตลอด ไรอัน ซึ่งรับบทเป็นหัวขโมย ซึ่งก็ใส่เต็มความมุกเยอะดูเป็นหนุ่มเสเพล ส่วนนักแสดงสาวพราวเสน่ห์อย่างกาด็อท รับบทเป็น บิชอป จอมโจรสาวที่สุดแสนจะเก่งกาจมากฝีมือ และ เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของทางการ เรียกว่าเลือกตัวนักแสดงมาได้ถูกคนมาก ๆ แม้ค่าตัวนักแสดงจะเกินตัวไปก็เถอะ หากใครได้ดูก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่แหละ

รีวิว Red Notice

ถือว่า Red Notice เป็นหนังแอคชั่นโจรกรรมที่มีเนื้อเรื่องสูตรสำเร็จ ดูได้เพลิน ๆ เพื่อความบันเทิงล้วน ๆ องค์ประกอบของหนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ ฉากแอคชั่นมีมาให้ต่อเนื่อง แต่ไม่จัดเต็ม ไม่สมกับเป็นหนังที่มีนักแสดงระดับตำนานแบบนี้ และ ทุนสร้างก็สูงเกินโดยใช้ทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านเหรียญฯ ฉากต่าง ๆ ถือว่าออกแบบออกมาได้ดี CG ยอดเยี่ยมมีความสมจริง ฉากแอคชั่นตู้มต้าม ไล่ล่ากันแบบไม่มีใครยอมใคร นักแสดงนำสามารถดึงดูดผู้คนในการรับชมได้มากกว่าหนัง ซึ่งหากใครเป็นแฟน ๆ ของเหล่านักแสดงนำนี้ ก็บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะการแสดงที่ยอดเยี่ยม และ เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ทำให้หนังดูมีความน่าสนใจดูแล้วไม่เบื่อ ดูหนัง

แอดมินขอเทคะแนนให้กับ Red Notice ที่ 7/10 ถือเป็นหนังขายเสน่ห์ของดารานำ และ ทำออกมาได้ดี ฉากแอคชั่นเทียบชั้นหนังโรงได้ เป็นหนังโจรกรรมที่ดูเบาไปนิดหากจะกล่าวถึงในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย และ หนังโจรกรรมที่ผ่าน ๆ มาดูเจาะเข้าไปในห้องลับได้ยากกว่านี้ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ใครหลาย ๆ คนเอะใจอยู่ไม่น้อยกับความเข้าห้องไปขโมยไข่คลีโอพัตราใบที่ 2 อย่างง่ายดาย การสลับฉาก และ เล่าเรื่องคล้าย ๆ หนังเก่าปี 2000 เล่าเรื่องได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด เอาเป็นว่าหนังทำออกมาได้ดีน่าสนใจในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ก็อยากให้ทุกคนได้รับชมหนังเรื่องนี้ เพราะมันก็ไม่ได้แย่จนเกินไป สำหรับวันนี้แอดมิน ต้องขอจบการรีวิวหนังสนุก ๆ ไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวหนังเรื่องต่อไป สวัสดีค่ะ

จุดเด่น
– ขายเสน่ห์ทั้งดเวย์น จอห์นสัน กัล กาด็อต และ ไรอัน เรย์โนลด์ส ได้แพรวพราวมาก
– ฉากแอ็กชันดูดี เทียบชั้นหนังโรง

จุดสังเกต
– พลอตเรื่องคล้ายหนังจารกรรมเรื่องอื่น ๆ เดาง่ายมากว่าจะหักมุมไปทางไหน
– ภารกิจการปล้นดูง่ายไปหน่อย และ ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่ควร

ประเภทภาพยนตร์ : Action, comedy
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Rawson Marshall Thurber
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Rawson Marshall Thurber
ค่ายหนัง/สตูดิโอ : Flynn Picture CompanySeven Bucks ProductionsBad Version, Inc.
คะแนนจาก IMDb : 6.4

รีวิว Mothering Sunday

รีวิว Mothering Sunday

รีวิว Mothering Sunday

รีวิวหนังดัง วันนี้แอดมินมาแนะนำหนังรักๆของทางอังกฤษ หนังเรื่อง Mothering Sunday เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่กำลังเป็นที่พูดถึงไม่น้อย ไม่ว่าจะด้านดีหรือร้าย แอดมินก็อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปสัมผัสกันเอง เป็นภาพยนตร์ของอังกฤษที่กำกับโดย Eva Hussonจากบทภาพยนตร์โดย Alice Birchซึ่งสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดย Graham Swift มันดาราโอเดสซาหนุ่ม , Josh โอคอนเนอร์ ,โอลิเวียโคลแมน และ โคลินเฟิร์ ธ หยิบเอามาเล่า และ รีวิวกันเบา ๆ ในวันนี้ก็คือหนังเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะลงจอให้เช่าชมกันที่ทรูไอดีในสัปดาห์นี้

นี่คือหนังโรแมนติกดราม่า จากอังกฤษที่ชื่อว่า “Mothering Sunday” อาจจะเป็นหนังที่อยู่นอกสายตาของผู้ชมไปสักหน่อย เพราะตัวหนังก็ไม่ได้มีกระแสโด่งดัง และนักแสดงที่เรียกคนดู แต่ปรากฏว่า ความละเมียดละไม และ ความสวยงามของหนังเรื่องนี้ กลายเป็นเสน่ห์ อันชวนหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่มาพร้อมกับการแสดง ที่น้อยแต่มากของทั้งทีมแคสติ้งเรื่องนี้ จะมีการฉายรอบปฐมทัศน์โลกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ดูหนังออนไลน์

รีวิว Mothering Sunday

รีวิวหนังดัง Mothering Sunday ดัดแปลงมาจากนวนิยายโรแมนซ์ขายดีของ “เกรแฮม สวิฟต์” ที่มีชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวของแม่บ้าน ประจำตระกูล ของบ้านนีเวน อย่าง เจน แฟร์ไชล์ด ที่มีชีวิตแสนเรียบร้อยในฐานะลูกจ้างในบ้านของนายท่านกับนายหญิง ในช่วงหลังสงครามโลกครั้ง 1 แต่ปรากฏว่า เบื้องลึกเบื้องหลัง ในวันหยุดงานที่แสนธรรมดานั้น เธอแอบซ่อนความลับ ในความสัมพันธ์ระหว่าง ชายคนหนึ่ง ที่มีฐานะ ที่สูงศักดิ์กว่า นั่นก็คือ พอล เชอร์ริ่งแฮม ทั้งแอบนัดกันไปมีสัมพันธ์ ลึกซึ้งสุดสวาท ในวันก่อนที่เขาจะต้องอำลาจากไป เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมายที่เป็นหญิงอีกคน

หนังเรื่องนี้ถือได้ว่า ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงามราวกับบทกวี การเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ ไล่ลำดับความสำคัญเพิ่มพูนยิ่งขึ้น ผ่านความคิดของละครต่าง ๆ ของเรื่องทำออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์พลังหญิงของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส “เอวา ฮัซซัน” กับการดัดแปลงบทของ “อลิซ เบิร์ซ” ที่กลายเป็นการลงตัวของสมการโจทย์ของหนังเรื่องนี้ที่ออกมาอย่างคมคาย และ เต็มไปด้วยอารมณ์ที่บาดซึมลึกเข้าไปเรื่อย ๆ หนังไทยnetflix

รีวิว Mothering Sunday

เสน่ห์ในหนัง Mothering Sunday ก็คือการเล่าเรื่อง ที่ใส่ความซับซ้อนเข้าไปแต่ไม่ทำให้ยุ่งเหยิง กับการเล่าเรื่องในมุมมองของตัวละครหลักที่ค่อย ๆ สอดแทรกในช่วงแต่ยุคสมัยนำมาประกอบร่างกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังได้ไดอะล็อก และ บทหนังคำพูดต่าง ๆ ที่ร้อยเรียงออกมาเป็นอย่างดี เหมือนกับบทกวี ดูหนัง ตามที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น ทำให้ภาษารักของหนังเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่งดงามไปตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่ามันจะถูกแทรกด้วย ความเจ็บปวดตลอดทางก็ตาม

แน่นอนว่า ไฮไลต์เด็ดดวงที่สุดของหนังเรื่องก็คือทีมนักแสดงแบบยกแฝง เรียกได้ว่า ทุกตัวละคร และ นักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ดีหมด “โอเดสซา ยัง” อนุภาพ และ เสน่ห์ของเธอในหนังเรื่องนี้รุนแรงมาก เป็นหนังที่เหมือนจะไม่ได้ออกแรงมาก แต่เธอสามารถพยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัด และ ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยท่างท่าการแสดงที่ให้มาแค่เล็กน้อยแต่ทรงพลังเหลือเกิน เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาแนวทางการแสดงไม่เบา

ขณะที่ “จอช โอคอนเนอร์” ก็เช่นเดียวกัน ที่มอบการแสดง แบบน้อยแต่มาก แสดงออกอินเนอร์ต่าง ๆ ออกมาจากท่วงท่า มากกว่าคำพูด และ เขาก็ทำได้ดี หนังยังมี 2 ตัวเป้ง “คอลิน เฟิร์ธ” กับ “โอลิเวีย โคลแมน” ร่วมสมทบด้วย และ การแสดงของนักแสดงระดับตำนานทั้ง 2 คนนี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ยืนนิ่งส่งอารมณ์ก็บาดใจผู้ชมไปถึงก้นบึ้งไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาคือองค์ประกอบสมทบที่ช่วยเติมเต็มความเฉียบคมให้กับหนังเรื่องนี้โดยแท้

รีวิว Mothering Sunday

ถึงแม้ว่า Mothering Sunday อาจจะเป็นหนังรักที่ค่อย ๆ พาคนดูสำรวจตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ด้วยจังหวะที่ไม่ได้หวือหวาอะไรสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาถึงบทสรุป ของหนังในช่วงท้ายนั้น กลับสามารถย่ำยีหัวใจคนดูไปได้เกือบแหลกเลยทีเดียว มีหลาย ๆ องค์ประกอบที่งดงาม ในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ทำให้ชอกช้ำไม่น้อย เมื่อดำเนินเรื่อง มาถึงปลายทาง มันกลายเป็นหนังที่ดำเนินไปด้วยความเจ็บปวดที่น่าประทับใจจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเนื้อหาในหนัง Mothering Sunday อาจจะไม่เหมาะกับ ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีสักเท่าไหร่ เนื่องจากมีภาพ และ ฉากที่ไม่เหมาะสม และ วาบหวิวทางการแสดงปะปนอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นส่วนประกอบ ที่เหมาะสม และ เข้ากับตัวหนังได้เป็นอย่างดี โดยไม่ได้สื่อไปในเชิง อนาจารแต่อย่างใด ดูหนังออนไลน์ เพราะสุดท้ายหนังรักเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนคลื่น ทะเลที่คอย ซัดสาดเข้าใส่ ตัวเองทีละเรื่อย ๆ มีทั้งคลื่นอ่อน ๆ ที่ยังยืนได้กับคลื่นแรง ๆ ที่พาทำให้จะล้มเซได้อยู่เช่นกัน

สรุปใน Mothering Sunday

รีวิวหนังดัง ในเดือนมิถุนายนปี 2020 ได้มีการประกาศโอเดสซาหนุ่ม , Josh โอคอนเนอร์ , โอลิเวียโคลแมน และ โคลินเฟิร์ ธได้เข้าร่วมทีมนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้กับอีว่าฮัสสันผู้กำกับจากบทภาพยนตร์โดยอลิซเบิร์ช ในเดือนกันยายน 2020 Sope Dirisuเข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ โดยLionsgateจะจัดจำหน่ายในสหราชอาณาจักร

การถ่ายภาพหลักเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2020 ในเดือนพฤษภาคม 2021 มีรายงานว่า เกลนดา แจ็กสันจะปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูหนัง

ปล่อย
ในเดือนกันยายน 2020 Sony Pictures Classicsได้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในสหรัฐฯ จะมีรอบปฐมทัศน์โลกที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Mothering Sunday อุบัติรักวันแม่

นักแสดง
– โอเดสซา ยัง รับบท เจน แฟร์ไชลด์
– จอช โอคอนเนอร์ รับบท พอล เชอริงแฮม
– Olivia Colman รับบท นาง Niven
– Colin Firth รับบท คุณ Niven
– โซเป ดิริสุ รับบทเป็น โดนัลด์
– Glenda Jackson

ประเภท: โรแมนติก / ดราม่า
ผู้กำกับ: เอวา ฮัซซัน
ภาพยนตร์ เจมี่ แรมเซย์
แก้ไขโดย เอมิลี ออร์ซินี
บริษัทผู้ ผลิต ภาพยนตร์หมายเลข 9 , Film4 Productions , สื่อแยบยล , สถาบันภาพยนตร์อังกฤษ
จัดจำหน่ายโดย ไลออนส์เกต
นำแสดงโดย: โอเดสซา ยัง, จอช โอคอนเนอร์, คอลิน เฟิร์ธ
ความยาว: 100 นาที
กำหนดฉายในไทย: 30 มิถุนายน 2022 ( ที่ TrueID )

รีวิว The Man from Toronto

รีวิว The Man from Toronto

รีวิว The Man from Toronto

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับวันนี้แอดมินจะมารีวิวหนังบู๊สุดดังที่ควรจะดังมากกว่านี้แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังเกิดการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 เป็นอย่างหนักจึงทำให้หนังนี้ไม่ประสบคามสำเร็จเท่าที่ควร นึกว่าออกฉายไปหมดแล้วเสียอีก สำหรับหนังที่โดนโรคเลื่อนมาจากช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก แต่ก็ยังไม่หมดครับ ยังมีเรื่องนี้ล่ะ The Man From Toronto หนังของค่ายโซนี่ที่วางกำหนดฉายเดิมไว้ตั้งแต่พฤศจิกายน 2020 นู่นเลย แล้วก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้ายขายให้ Netflix ไปซะดีกว่า ซึ่งก็เพิ่งสตรีมมิงไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นี่เอง หนังไทยnetflix

รีวิว The Man from Toronto

รีวิวหนังดัง The Man From Toronto เป็นฉายาของนักฆ่า และ นักทรมานเหยื่อรีดข้อมูล รับบทโดย วูดดี้ ฮาร์เรลสัน เขารับงานจากนายหน้าหญิงคนเดิมมากว่า 20 ปี รับบทโดย เอลเล็น บาร์กิน จนเกิดเรื่องผิดคาดในวันหนึ่งเมื่อ โทรอนโตรับงานรีดข้อมูลจากเหยื่อที่กระท่อมหลังหนึ่ง แต่เผอิญที่ เท็ดดี้ แจ็กสัน รับบบทโดย เควิน ฮาร์ต เดินทางมาที่บ้านหลังนี้ก่อนเพราะดูบ้านเลขที่ผิด เข้าใจว่าเป็นกระท่อมที่เขาจะมาพักฉลองวันเกิดให้ภรรยา ทำให้ผู้ว่าจ้างเข้าใจผิดว่าเท็ดดี้เป็นโทรอนโต ซ้ำร้ายไปกว่านั้น FBI บุกบ้านที่เกิดเหตุ

แต่ผู้ว่าจ้างส่งภาพของเท็ดดี้ไปให้หัวหน้าใหญ่เรียบร้อยแล้วว่าบุคคลในภาพนี้คือโทรอนโต FBI จึงบังคับให้เท็ดดี้เป็นสาย สวมรอยเป็นโทรอนโตรับงานต่อเนื่องจากผู้ว่าจ้างเดิม เพื่อทาง FBI จะตามรวบตัวหัวหน้าใหญ่ ขณะเดียวกันโทรอนโตตัวจริงก็ตามสืบจนรู้ตัวตนของเท็ดดี้ และ มั่นใจว่าผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างเท็ดดี้ต้องทำแผนการเละไม่เป็นท่าแน่ จึงตามไปในปฏิบัติการที่ 2 เพื่อต้องการเผยตัวตน และ ทวงงานคืน และ ทำให้ทราบว่าเบื้องหลังการว่าจ้างครั้งนี้คือแผนการใหญ่ระดับชาติ ถ้าทั้งคู่ปล่อยให้บอสใหญ่ทำตามแผนสำเร็จจะมีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก

จะว่าไป หนังแนวจับคู่ คนหนึ่งบู๊คนหนึ่งฮาแบบนี้ไม่เคยห่างหายไปจากฮอลลีวูดเลย เรื่องเด่น ๆ ที่พอจำกันได้ก็มี 48 Hrs (1982), Bad Boys (1995), Rush Hour (1998), Shanghai Noon (2000), Cop Out (2000),The Nice Guys (2016), Central Intelligence (2016) และ แม้กระทั่งตัวผู้กำกับ แพทริก ฮิวส์ (Patrick Hughes) เองก็เพิ่งผ่านหนังแนวคู่หูอย่าง The Hitman’s Bodyguard ที่เพิ่งมีภาค 2 ออกมาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ก็คงเป็นสาเหตุให้เขาเป็นตัวเลือกให้รับหน้าที่กำกับเรื่องนี้กระมัง

ถ้าพิจารณากันที่เนื้อหาแล้ว หนังสามารถไปได้ในแนวแอ็กชันจริงจัง เพราะว่ากันด้วยเรื่องของโลกนักฆ่า ให้โทรอนโตนักฆ่ามืออาชีพต้องมาเจอกับวายร้ายบิ๊กเบิ้มที่มีแผนการร้ายระดับโลก ทำให้เขาเปลี่ยนใจมายับยั้งแผนการ นายหน้าจึงต้องส่งนักฆ่าอีกหลายคนมาตามเก็บเขาแทน

รีวิว The Man from Toronto

แต่หนังเลือกที่จะมาทางคอมเมดี้ ด้วยการให้นักฆ่าต้องจับคู่กับยูทูบเบอร์ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง ออกมาเป็นภาพที่เราคุ้นตากันเป็นอย่างดี ฝ่ายหนึ่งพูดน้อยต่อยหนัก หน้าตาเคร่งเครียดตลอดเวลา อีกฝ่ายเป็นหนุ่มร่างเล็กเจ้าอารมณ์พูดไม่หยุด ซึ่งก็ได้ เควิน ฮาร์ต (Kevin Hart) นักแสดงผิวดำที่ถนัดมาก ๆ กับบทอย่างนี้ เรียกว่าบทเดิมเลยก็ได้ที่เขาแสดงร่วมกับ ดเวย์น จอห์นสัน ใน Central Intelligence

เมื่อหนังถูกตีกรอบให้อยู่ในเส้นทางคอมเมดี้ และ มีเรต PG-13 จำกัดอยู่ หนังก็เลยไม่มีภาพรุนแรงให้เห็น และ คำหยาบให้ได้ยิน พอมีฉากรุนแรง หนังก็จะตัดภาพหรือให้ดูแค่สีหน้าตัวละครแค่นั้นพอ แม้โทรอนโตผู้ช่ำชองในการทรมานรีดข้อมูลเหยื่อ แต่ทุกครั้งที่จะลงมือเหยื่อก็ใจเสาะคายความลับเสียก่อน ดูหนังออนไลน์

แล้วสุดท้ายบทก็พลิกบุคลิกให้โทรอนโตกลายเป็นหนุ่มจิตใจดีไปซะงั้นในครึ่งหลังของเรื่อง บรรดานักฆ่ารายอื่น ๆ ในเรื่อง ที่วางมาดวางฟอร์มมาเสียโหด แต่ก็ต้องเจอกับกฎเหล็กว่านี่คือหนังคอมเมดี้ ก็เลยกลายเป็นตัวตลกกันเสียหมด เสียท่าได้แม้กับตัวตลกเสียงดังอย่าง เท็ดดี้ แจ็กสัน โดยไม่มีเหตุผลใด ๆ ประกอบทั้งสิ้น

ผลก็คือ The Man From Toronto กลายเป็นหนังที่ให้รสชาติจืดสนิท ไปได้ไม่สุดทั้งแอ็กชัน และ คอมเมดี้ ฉากแอ็กชันก็ไม่ได้ชวนลุ้นเอาใจช่วย เพราะผู้ร้ายแต่ละคนก็ดูช่างไร้พิษสง มีดีหน่อยก็ The Man From Miami ที่ปูทางมาดูโหดมีฉากแอ็กชันยาว ๆ ให้โชว์ และ นับว่าเป็นฉากที่ดีที่สุดในหนังแล้วล่ะ

แต่บทลงเอยของไมอามี่ก็ช่างงี่เง่าสิ้นดี ฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่องดูเล่นใหญ่ใส่ระเบิดตูมตามแถมเล่นเทคนิคสุดคลาสสิกให้ตัวละครวิ่งแบบสโลว์โมชันก็ดูแบบผ่าน ๆ ไปไร้อารมณ์ร่วม หันมาดูพาร์ตคอมเมดี้ของหนัง ด้วยความยาว 1 ชั่วโมง 50 นาที หนังระดมยิงมุกถี่ ทั้งด้วยการแสดงแบบตั้งใจเอาฮาของ เควิน ฮาร์ต และ บทพูดที่ออกจากปากของเขาที่ล้วนทำได้แค่เพียงรอยยิ้มมุมปากระหว่างชมเท่านั้น ไม่มีมุกไหนเลยที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้สำเร็จ

ฉากที่น่าพอใจสุดกลับกลายเป็นฉากดราม่าแค่ส่วนเล็ก ๆ ที่แทรกอยู่ในหนัง เมื่อโทรอนโต และ เท็ดดี้ได้พูดคุยเปิดใจกัน ทำให้โทรอนโตได้เปิดเผยด้านซอฟต์ของตัวเองออกมา และ ฉากที่ได้เจอกับแอน สาวสวยที่เข้าหาโทรอนโตจนทำให้นักฆ่าอย่างเขาดูเป็นหนุ่มนิ่ม และ เขินอายได้ ดูหนังออนไลน์

ดูจบแล้วรู้สึกดีใจไปกับ เจสัน สตาแธม (Jason Statham) ที่มาทะเลาะกับผู้อำนวยการสร้างแล้วโบกมือลาโปรเจกต์ก่อนเปิดกล้องไปแค่ 6 สัปดาห์ ทีมงานจึงรีบติดต่อ วูดดี้ ฮาร์เรลสัน ให้มาเสียบบทแทน ซึ่งก็ต้องบอกว่าฮาร์เรลสันดูเหมาะดีกับบทนักฆ่าสายโหด แม้จะเข้าวัยเลข 6 แล้ว พี่แกก็ยังดูหนุ่มกว่าวัย ดูแลหุ่นดี เล่นฉากบู๊ได้ทะมัดทะแมง เพียงแต่ว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นผลงานด้านลบในเครดิตของพี่วูดดี้ซะมากกว่า ส่วน เควิน ฮาร์ต นั้นไม่มีอะไรให้พูดถึง เพราะได้บทเดิม ๆ ที่คุ้นตาผู้ชม

สรุป The Man from Toronto

รีวิวหนังดัง แนวแอคชั่น คอมเมดี้ อาชญกรรม เรื่องราวเกิดจากความเข้าใจผิดจนทำให้เท็ดดี้ต้องสวมรอยเป็นชายจากโตรอนโตนักฆ่าสุดโหด เท็ดดี้ตัวฮาของเรื่อง ชายที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่างแต่กลับประสบความสำเร็จในการรีดเค้นข้อมูลเหยื่อซะอย่างนั้น ขณะที่ชายจากโตรอนโตก็จำต้องไว้ชีวิตเท็ดดี้ และ ร่วมมือด้วยเพราะลูกค้าดันได้รูปหน้าของเท็ดดี้ และ เข้าใจผิดว่าเท็ดดี้คือชายจากโตรอนโตไปแล้ว ดูหนัง

รีวิว The Man from Toronto

แต่การร่วมมือกันของทั้งคู่กลับก็นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีซะอย่างนั้น แม้หนังจะการดำเนินเรื่องเป็นไปตามสูตรหนังตลกแต่ก็ยังคงสนุกอยู่ดี เป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ ระหว่างทานอาหารหรือก่อนเข้านอน ช่วยคลายเครียดได้เลย แม้หนังจะไม่ถึงกับฮาก๊ากสุดขีด แต่ก็ทำให้หลุดขำได้ตลอดทั้งเรื่อง และ เสียงพากย์ไทยก็ช่วยให้หนังตลกขึ้นด้วยค่ะ พากย์ไทยทำได้ดีมากจริง ๆ ดูหนัง

เอาเป็นว่า ถ้ามี The Man From Toronto อยู่ในรายชื่อหนังที่จะเลือกดู ขอให้ข้ามไปก่อนเลย เก็บเรื่องนี้ไว้ตอนที่ไม่มีอะไรจะดูแล้วจริง ๆ

จุดเด่น
– วูดดี้ ฮาร์เรลสัน ยังดูดีอยู่มากในวัย 60 ปี

จุดสังเกต
– ไม่สุดสักทาง ทั้งแอ็กชันก็ไม่ตื่นตา ชวนลุ้น คอมมีดี้ก็ไม่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้เลย
– ตัวร้ายในเรื่อง ปูมามีพิษสงดีแต่ก็กากล้วน ๆ ปราบง่ายหมด
– เควิน ฮาร์ต จำเจกับคาแรกเตอร์เดิม ๆ

– คะแนน 8.7/10

ชายจากโตรอนโต ก็เป็นหนังแอคชั่นคอมเมดี้อีกเรื่องที่เหมาะกับคนที่ชอบหนังบู๊ฮา ๆ ดูได้เพลิน ๆ คลายเครียดระหว่างวัน และ ขอแนะนำให้ดูแบบพากย์ไทยนะคะจะตลกขึ้นเยอะเลย สามารถดูเรื่องนี้ได้ทาง Netflix น้า