Category Archives: หนังไทยnetflix

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

หากใครยังจำกันได้ หนังไทยnetflix นี่นับเป็นหนังไทยเรื่องแรก ที่ได้ฉายในปี 2021 เรื่อง บอสฉันขยันเชือด สำหรับในปีนั้น บอสฉันขยันเชือด ส ปอย หนัง คือหนังที่ถูกพูดถึงอย่างมาก หลังจากที่ตอนแรกนั้นมีคิวเข้าฉาย 28 มกราคม แต่แล้วก็ต้องเลื่อนวันฉายออกมาเนื่องจากการกลับมาระบาด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี อีกครั้งของโควิด-19 ครับ โดยหนังกำกับโดยคุณ ภูวนิตย์ ผลดี ผู้กำกับจาก App War แอปชนแอปครับ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ โดยในหนัง MY BOSS IS A SERIAL KILL บอสฉันขยันเชือด นี้ได้นักแสดงชั้นนำหลายคนร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็น ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา,เผือก-พงศธร จงวิลาส,มุกดา-นรินทร์รักษ์,ปราโมทย์-ปาทาน,ไอซ์-ปรีชญา พงษธนานิกร,พอวิไล อภิรัชฎาพร และ สัณหณัฐ ทิราชีพ

ประเภท: ตลก / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: ภูวนิตย์ ผลดี
เข้าฉาย: 1 เมษายน 2021
นำแสดงโดย: ก้อง สหรัถ, ไอซ์ ปรีชญา, มุกดา นรินทร์รักษ์

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

รีวิว บอสฉันขยันเชือด บอสฉันขยันเชือด คือผลงานเรื่องแรกจากค่าย TAI MAJOR ที่ก่อตั้งโดย บอสฉันขยันเชือด เต็มเรื่อง สองพี่น้อง วิสูตร และวิชา พูลวรลักษณ์ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการภาพยนตร์ไทยมาอย่างยาวนาน โดยมีวิสูตรที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมสร้างและเป็นผู้บริหารค่าย GTH จนประสบความสำเร็จ มาดูแลการผลิตในฐานะโปรดิวเซอร์ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ยังได้ ศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์ และภูวนิตย์ ผลดี หนึ่งในผู้กำกับจาก โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง (2560) ภายใต้ค่ายเก่าของวิสูตรอย่าง T Moment มารับหน้าที่กำกับในครั้งนี้ (โดยค่าย T Moment ของวิสูตรได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2562 เนื่องจากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย)

สำหรับคอหนังไทยที่เคยติดตามผลงานจากค่าย T Moment ทั้ง 3 เรื่องอย่าง โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง (2560), App War แอปชนแอป (2561) และ The Pool นรก 6 เมตร (2561) เราจะสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า จุดร่วมของผลงานทั้ง 3 เรื่องที่โดดเด่นมาก ๆ คือบิ๊กไอเดียของเรื่องที่แปลกใหม่และน่าสนใจ

ทั้ง โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ 4 นายตำรวจหุ่นหมีที่ต้องทำภารกิจลดน้ำหนักเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องถูกปลด, App War แอปชนแอป ที่หยิบนำการแข่งขันของธุรกิจสตาร์ทอัพยุคใหม่มานำเสนอในรูปแบบของหนังโรแมนติก-คอเมดี้ และ The Pool นรก 6 เมตร

หนังแนวเอาตัวรอดที่ตั้งคำถามง่ายๆ แต่น่าสนใจว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณต้องติดอยู่ในสระว่ายน้ำลึก 6 เมตรกับจระเข้หนึ่งตัว ทั้งหมดนี้แสดงให้เราเห็นถึงเป้าหมายของวิสูตรที่ต้องการผลิตผลงานที่โดดเด่นด้วยบิ๊กไอเดียที่ ‘แข็งแรง’ ออกมาให้คอหนังไทยได้ชมมากขึ้น

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

เรื่องราวของภายในออฟฟิศของแบรนด์เสื้อผ้านกกระทาคู่ ของคุณต้น (ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา) บอสใหญ่ประจำบริษัท ที่ถูกสงสัยว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องสาวออฟฟิศ และเรื่องราวสุดป่วนทั้งหมดจึงเริ่มขึ้นเมื่อ เมษา (มุกดา นรินทร์รักษ์) ได้ร่วมมือกับ โบกี้ (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) และหลิน (พอวิไล อภิรัชฎาพร) สามสาวออฟฟิศรุ่นใหม่ต้องร่วมมือกันออกสืบหาความจริงเกี่ยวกับประธานบริษัทของพวกเธอว่าเป็นฆาตกรหรือไหม

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

เปิดเรื่องมาก จะเป็นการปูเรื่องของตัวละครอย่าง เมษา และ โบกี้ ที่ชอบสืบหาเรื่องเร้นลับ บอสฉันขยันเชือด เต็มเรื่อง พากย์ไทย และคลี่คลายข้อสงสัยลงยูทูปในสมัยเรียน จนหนังได้นำเนินมาเรื่อย ๆ จนถึงช่วงวัยทำงาน ซึ่งทั้งคู่นั้นก็ทำงานที่เดียวกัน แต่แล้วเมื่อเรื่องราวการตายของคนในออฟฟิศได้ถูกเปิดขึ้นจนทำให้เมษาและโบกี้เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปสืบหาความจริงเกี่ยวกับคดีนี้ครับ

หนังไทยที่ทำออกมาได้ค่อยข้างลงตัวเลยทีเดียว แต่การดำเนินเรื่องมียืด ๆ บ้างในช่วงกลาง ๆ แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร ดูเพลินอยู่นะเอาจริง ๆ ชอบในความหักมุมของหนังที่แบบคิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ไม่เหมือนในตัวอย่างหนังที่เราดูกันก่อนเข้าโรงภาพยนตร์แน่นอนครับ

ส่วนช่วงคลายแม็คของหนังเรื่องนี้บอกเลยไม่ควรพลาด ทั้งมันส์ ทั้งสะใจ ลุ้นเอาใจช่วยแบบลืมตัวกันเลยทีเดียวครับ เอาจริง ๆ ไม่อยากสปอยเนื้อเรื่องเยอะ อยากให้ไปลุ้นกันดีกว่าใครจะเป็นฆาตกรสาวออฟฟิศตัวจริง กับหนังไทยเรื่องนี้ครับ

อีกหนึ่งข้อที่เห็นได้ชัด คือบทบาทของตัวละครอย่าง ดร.อัง ผู้สวมบทโดย โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน ที่มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นมาก ๆ ตั้งแต่ปรากฏตัวออกมาในตัวอย่าง แต่หนังกลับไม่ได้หยิบความโดดเด่นของเขามาใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราคิดว่าหากทีมสร้างให้เวลาในการเล่าเรื่องกับ ดร.อัง อีกสักหน่อย เขาจะเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่สร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของ บอสฉันขยันเชือด ที่นำเสนอได้ลงตัวมาก ๆ คือมุกตลกขบขันที่ใส่เข้ามาอย่างตรงจังหวะ รวมถึงทัพนักแสดงทุกคนต่างถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของตัวเองได้อย่างมีเสน่ห์ โดยเฉพาะ ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ผู้สวมบทเป็น ต้น ที่แผ่รังสีความน่าเกรงขามและความเข้มงวดออกมา จนทำให้เรารู้สึกหวาดระแวงบอสผู้เต็มไปด้วยปริศนาคนนี้ตามไปด้วย

รวมถึง 3 นักแสดงหญิงอย่าง มุกดา นรินทร์รักษ์, ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร และผักกาด-พอวิไล อภิรัชฎาพร ที่รับบทเป็นสาวออฟฟิศที่ต้องร่วมมือกันตามหาตัวจริงของบอส ซึ่งเป็น 3 ตัวละครที่ออกแบบคาแรกเตอร์ออกมาได้ลงตัวมาก ๆ เมื่อพวกเธอปรากฏตัวอยู่ในซีนร่วมกัน

จุดด้อยข้อแรกที่เห็นชัดมากที่สุด คือปมปัญหาภายในเรื่องที่ถูกปูเอาไว้อย่างน่าสนใจและชวนติดตาม แต่กลับไม่ได้ถูกหยิบมาใช้อย่างเต็มที่

รีวิว บอสฉันขยันเชือด

รีวิว บอสฉันขยันเชือด บอสฉัน..ขยันเชือด มาพร้อมกับเรื่องราวชวนพิศวงในออฟฟิศ บอสฉันขยันเชือด เฉลย เมื่อแก๊งหนุ่มสาวอยู่ ๆ ก็ไปแอบล่วงรู้ความลับของเจ้านายตัวเองว่า บอสใหญ่ของพวกเขาเคยมีอดีตเป็นฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง แล้วเรื่องนี้จะแอบอยู่เฉยได้อย่างไร เมื่อออฟฟิศลุกเป็นไฟ ปฏิบัติขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความลับอันแสนระทึกที่มาพร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะจึงได้เกิดขึ้น

ก่อนอื่นใดก็ต้องยอมรับเลยว่า My Boss is a Serial Killer นับว่าเป็นหนังไทยที่ค่อนข้างมีสไตล์ที่แปลกและแหวกแนวจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ที่เคยมีมา เราไม่ค่อยจะได้เห็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนแกมตลกโปกฮา กลิ่นอายคล้าย ๆ กับนิยายของ ‘อกาธา คริสตี’ อะไรทำนองนั้น แต่ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ออกมาในท้ายที่สุด หนังไทยเรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตีโจทย์และถ่ายทอดเรื่องราวที่หนังควรจะเป็นได้ออกมาได้ถูกที่ถูกทางในแบบที่ควรจะเป็น

กลายเป็นว่า บอสฉัน..ขยันเชือด จะเป็นหนังสืบสวนสอบสวนก็ไปไม่สุดทาง จะเป็นหนังตลกก็แทบไม่มีอะไรให้หัวเราะ หรือจะเป็นหนังฆาตกรรมเขย่าขวัญหักมุมก็ยังไม่ได้ ผลลัพธ์ที่ออกมาของหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นความสะเปะสะปะ หากเปรียบเป็นเมนูอาหารสักชามหนึ่ง ก็เป็นแกงที่ค่อนข้างจืด เผลอ ๆ เกือบจะไม่มีรสชาติอะไรเลยด้วยซ้ำ

โครงเรื่องของหนังค่อนข้างน่าสนใจ แต่กลับตีความและตีโจทย์ออกมากับบทหนังที่อ่อนปวกเปียกที่เป็นปัญหาหลัก ๆ ของหนังไทยส่วนใหญ่ บทของหนังเรื่องนี้ไม่สามารถสร้างมิติใด ๆ ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเห็นถึงความพยายามมาก ๆ แล้วก็ตาม แต่ที่ส่งออกมาถึงคนดูกลายเป็นความไม่ลงตัวอะไรเลยสักอย่าง กลายเป็นหนังที่แค่…ดูได้เรื่อย แอบน่าเบื่อไปสักหน่อย ถึงจะได้ทีมนักแสดงที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว

บทสรุป

เอาเป็นว่าภาพรวมของ บอสฉัน..ขยันเชือด บอสฉันขยันเชือด pantip ถือว่ายังออกได้ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่ คงจะเป็นเพียงแค่หนังดูได้เพลิน ๆ แต่จะไม่ได้ทำให้คนดูฟินไปสุดทางได้สักทาง เหมือนกับหนังเก็บเอาไว้ดูขั้นเวลาว่าง ๆ ก็น่าจะพอได้ แต่อาจจะมีอาการกดเพลย์-กดหยุดอยู่หลาย ๆ ครั้ง เพราะหนังดำเนินเรื่องราวไปเรื่อย ๆ แทบจะไม่มีจุดพีคใด ๆ ให้ดึงดูดใจ

แม้กระทั่งไคลแมกซ์สุดท้ายก็ยังไม่ดีพอ ส่วนที่ดีที่สุดของหนังก็คงต้องขอบคุณ ทีมนักแสดงมืออาชีพ ที่พวกเขารับหน้าที่ของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี และพยายามช่วยพยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดความไม่น่าจดจำของหนังทั้งเรื่องนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยเอาไว้ เพราะ บอสฉัน..ขยันเชือด น่าจะกลายเป็นหนังไทยที่จะไม่มีใครนึกถึงในระยะยาว และอาจจะเลือนหายเข้าไปในสารบบหนังไทยอย่างน่าเสียดาย

โดยส่วนตัวให้คะแนน 7/10

รีวิว พจมานสว่างคาตา

รีวิว พจมานสว่างคาตา

สำหรับ พจมานสว่างคาตา หลาย ๆ คนคงไม่คุ้นหู หนังไทยมาใหม่ แต่หาพูดถึง หอแต๋วแตก เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะ อ่อ กันบ้าง นับเป็นภาพยนตร์สร้างชื่อสร้างกำไรให้กับผู้กำกับหนังไทยตัว top ที่คงไม่มีใครเกิน ส ปอย หนัง พชร์ อานนท์ ที่มีหนังใหม่ปล่อยออกมาแทบจะเรื่อย ๆ เลยครับ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันปีละ 2-3 เรื่องโดยตลอด โดยแต่ละเรื่องก็จะมีเอกลักษณ์ในแบบของแก ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ คือหยิบเอาสถานการณ์ปัจจุบันมาเป็นมุกตลกใส่ไว้ในหนัง เปรียบเสมือนจดหมายเหตุของยุคนั้น ๆ รวมถึงหยิบเอาบุคคลในกระแสมาปรากฏตัว และ รับเชิญอยู่เรื่อย ๆ เช่นเดียวกับผลงานชิ้นล่าสุดอย่าง พจมานสว่างคาตา หนังที่เปรียบเสมือนภาคแยกของ หอแต๋วแตก นั่นเอง

รีวิว พจมานสว่างคาตา

รีวิว พจมานสว่างคาตา

รีวิว พจมานสว่างคาตา ภาพยนตร์เรื่อง พจมานสว่างคาตา เป็นภาพยนตร์ไทยแนว คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ พชร์ อานนท์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นโก๊ะตี๋ อารามบอย ที่มารับบทเป็น พจมาน สาวน้อยน่ารักที่เดินทางจากบ้านนอกเข้าสู่กรุงเทพ เพื่อมาเรียนหนังสือต่อตามความประสงค์ของพ่อที่สั่งไว้ก่อนตาย

คนต่อมาคือจาตุรงค์ โพธาราม รับบทเป็น หม่อมอัมราภาแพรวพรรณนารายณ์พรรณนาโวหารสมานจิต เป็นหม่อมป้าของพจมาน คนต่อมาคือเอกชัย ศรีวิชัย รับบทเป็น เบ้อเริ่มเทิ่ม คนต่อมาคือยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ รับบทเป็น หญิงจิ๊ดริด คนต่อมาคือวีรดิษฐ์ ศรีมาลัย รับบทเป็น ชายน้อยหนึ่ง

คนต่อมาคือพชร์ อานนท์ รับบทเป็น แม่ช่อมณี คนต่อมาคือชาลี ไตรรัตน์ รับบทเป็น ชายกลาง และ คนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือเขมนิจ จามิกรณ์ รับบทเป็น หญิงสาวที่เข้ามาสวมรอยเป็นพจมาน

โดยภาพยนตร์พจมานสว่างคาตา เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2563

เรื่องย่อ

รีวิว พจมานสว่างคาตา

เรื่องราวสุดวายป่วง และ สยองพองขนใน พจมาน สว่างคาตา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พจมาน สาวน้อยผู้เรียบร้อยน่ารักเดินทางจากบ้านนอกเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนหนังสือต่อตามความประสงค์ของบิดาที่สั่งไว้ก่อนเสียชีวิต โดยให้พจมานไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บ้านดอกไม้ทองกับครอบครัวของหม่อมอัมราภาแพรวพรรณนารายณ์พรรณาโวหารสมานจิต (จาตุรงค์ โพธาราม) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหม่อมป้า

และ แล้วเมื่อพจมานเดินย่างกรายเข้ามาอยู่ที่บ้านดอกไม้ทอง เธอก็ได้พบกับ เบ้อเริ่มเทิ่ม (เอกชัย ศรีวิชัย), หญิงจิ๊ดริด (ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์), ชายน้อยหนึ่ง (วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย) ที่มีร่างกายพิการ ขาเป๋ ปากเบี้ยว และ เหล่าบรรดาคนรับใช้ที่คอยกลั่นแกล้งพจมานสารพัด โดย แม่ช่อมณี (พชร์ อานนท์) หัวหน้าแม่บ้านซึ่งเป็นผู้กุมความลับสำคัญของบ้านดอกไม้ทอง

เธอก้าวมาในบ้านอย่างที่ไม่คาดคิดว่าชีวิตของเธอนั้นกำลังตกอยู่ในในอันตราย! ทุกคนได้ร่วมกันวางแผนฆ่าพจมาน เพราะไม่อยากให้เธอมาแย่งมรดก แต่แผนการกลับล้มเหลวทุกคร้ัง จนกระทั่งจู่ ๆ พจมานกลับลื่นตกบันไดลงไปตายเองต่อหน้าคนในบ้านเสียอย่างนั้น

แต่แล้วท่ามกลางความสะใจ และ ดีใจ หม่อมอัมราภาเพิ่งนึกได้ว่าพินัยกรรมจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อคนในตระกูลอยู่ครบ และ พรุ่งนี้เป็นวันที่ ชายกลาง (ชาลี ไตรรัตน์) จะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่มีพจมานก็จะไม่สามารถเปิดพินัยกรรมได้ ว่าแล้วแม่ช่อมณี หัวหน้าแม่บ้าน ได้แนะนำสาวสวยคนหนึ่ง (เขมนิจ จามิกรณ์)ให้เข้ามาสวมรอยเป็นพจมาน

โดยสัญญาว่าจะมอบเงินก้อนโตให้เธอเอาไปเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่… ใช่แล้ว และ นับตั้งแต่ที่สาวสวยนามแพนเค้กก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมภารกิจพิเศษ พร้อม ๆ กับการต้องเผชิญหน้ากับผีพจมานตัวจริง! ที่คลั่งแค้นชนิดตั้งใจจะหลอกหลอนทุกคนในบ้านจนสว่างคาตา

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว พจมานสว่างคาตา

โดยเรื่องราวที่หากเล่าแบบเข้าใจได้ง่ายที่สุด มันก็คือ มุกล้อเลียน (Parody) หนังเรื่อง บ้านทรายทอง นั่นเอง เพียงแต่มีเรื่องการหักหลังซ้อนแผนเมื่อคุณหญิงแม่ (จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก) หญ ิงเบ้อเริ่มเทิ่ม (เอกชัย ศรีวิชัย) และ หญิงกะจิ๊ดริด (อาจารย์ ยิ่งศักดิ์) รวมหัวกันฆ่าพจมาน สว่างคาตา (โก๊ะตี๋ อารามบอย) และ เอา แพนเค้ก (แพนเค้ก เขมนิจ) สาวสก๊อยมาสวมรอยหวังให้แต่งงานกับชายกลาง (แน็ก ชาร์ลี ปอทเจส) เพื่อฮุบสมบัติบ้านดอกไม้ทอง แต่แล้ววิญญาณของพจมานตัวจริงก็ปรากฏตัวเพื่อทวงความยุติธรรมคืน

แม้การดำเนินเรื่อง และ สไตล์การกำกับของพี่พชร์ อานนท์ จะไม่ได้ทำให้ พจมานสว่างคาตา หักศอกสร้างเซอร์ไพรส์อะไรให้เราเท่าไหร่ แต่นี่คือหลักฐานชั้นดีว่าเมื่อหนังไม่ได้เดินเรื่องหรือพยายามพามันไปไกลจากความถนัดของผู้กำกับนัก เราเลยเห็นความแม่นยำในการเล่าเรื่อง และ พัฒนาการ (หรืออาจจะไกลแค่ ลำสาลี ก็ตาม) ที่เห็นได้ชัดเลยคือคราวนี้พี่พชร์ “เลือก” ใช้เฉพาะมุกที่ “ใช่” และ “โดน” เท่านั้น ที่สำคัญการมี บ้านทรายทอง เป็นเหมือนพิมพ์เขียวในการยั่วล้อ และ เอามุกทันเหตุการณ์ตามถนัดมาใส่ก็ทำให้หนังลงตัวพอดี

แม้จะมีมุกแป้กมาประปรายแต่มันก็ยังอยู่ในปริมาณที่พอดี และ ทำให้ มุก ฮา ๆ ทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุดต่างจากหนังยุคหลังที่พยายามหนีการเล่าเรื่องแบบ หอแต๋วแตก จนผิดทิศผิดทาง ใส่ลูกเล่นและ มุกอัปเดตหนักมือจนความสนุกไปไม่ถึงที่หมาย นั่นก็เพราะมันมีโครงเรื่องหลัก และ สูตรสำเร็จของนิยาย ก. สุรางคนางค์ เป็นแกนหลักที่มันตั้งใจยั่วล้อ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมุกเจน นุ่น โบว์ หรือ Social Distancing มันก็ยังไม่ทำให้โครงเรื่องหลักเสียไปแต่อย่างใด

ถือเป็นก้าวสำคัญเลยในการทำหนังตลกที่เริ่มเข้าหาคนดูหนังวงกว้าง ผนวกกับงานถ่ายทำที่ไม่สุกเอาเผากิน แม้แต่ฉากที่ถูกถ่ายซ่อมก็ยังแสดงถึงความตั้งใจเท่าที่งบประมาณจะพอมี และ เพื่อให้หนังยังคงบันทึกหมายเหตุประเทศไทยไว้ได้อย่างตั้งใจ

นอกนั้นก็คือสิ่งที่เราคุ้นเคย และ ต้องทำใจยอมรับเมื่อก้าวเข้าโรงเพื่อดูหนังของเขาคือมุกสัปดน ขายความหยาบคาย และ การข้ามตรรกะชนิดที่มีตัวละครโผล่มาแบบไม่มีที่มาที่ไป แต่หากปรับโหมดให้ตรงกับจักรวาลหนังแบบ พชร์ อานนท์ ได้แล้ว ขอบอกว่า พจมานสว่างคาตา จะกลายเป็นหนังฮาลั่นไม่สนโลกที่คุณจะเกลียดตัวเองว่าชอบหนังเรื่องนี้ไปได้อย่างไรเชียวล่ะ

รีวิว พจมานสว่างคาตา

รีวิว พจมานสว่างคาตา พจมานสว่างคาตา ภาพยนตร์ของผู้กำกับ พจมานสว่างคาตา movie2free มือทอง “พชร์ อานนท์” ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้เป็นภาพยนต์ไทยแนวคอมเมดี้ตามแนวของผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” ที่มีผลงานภาพยนต์โด่งดัง เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ที่มีมาแล้วถึง 6 ภาค

เดิมทีนั้น ภาพยนตร์มีกำหนดฉายอย่างแน่นอนในวันที่ “1 เมษายน” และ ประกาศกร้าวแข็งแรงว่าอย่างไรก็ไม่เลื่อนฉาย เพราะในตอนนั้น “โควิด-19” ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย จึงส่งผลให้ภาพยนตร์ไทยหลาย ๆ เรื่องเลื่อนฉาย ยกเว้นกับ “พจมาน สว่างคาตา”

แต่สุดท้ายนั้นก็ต้องจำยอมเลื่อนฉายออกไปก่อน เพราะโรงภาพยนตร์ถูกปิดตามมติ ครม. จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายล่าช้าไปถึง 2 เดือนครึ่งเลยทีเดียว

ในช่วงที่โรงภาพยนตร์ถูกปิด จึงทำให้ “พจมาน สว่างคาตา” มีเวลาทำ Post Production นานมากขึ้น และ สิ่งที่ทำให้แฟนหนังหลาย ๆ คนฮือฮา นั่นก็คือ การพากย์ทับมุกเข้าไปใหม่ให้ทันกระแสมากขึ้น เช่น ส้มหยุด..หยุดโดยไม่มีอะไรกั้น, เจน นุ่น โบว์ จนไปถึงมุกโควิด-19 อีกด้วย จนถึงขั้นใส่หน้ากากอนามัย CG เลยทีเดียว

“พจมานสว่างคาตา” เป็นภาพยนตร์ภาคแยกของภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก” แต่เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ “พจมานสว่างคาตา” นั้นไม่มีเนื้อเรื่องหลักของภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก” แต่อย่างใด หากใครที่ไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” เราขอรับรองว่าไม่งงแน่นอนค่ะ (แต่ถ้าใครมีเวลาว่างก็ลองไปดูภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ย้อนหลังในYoutube channel “Major Group” ดูนะคะ ถูกลิขสิทธิ์แน่นอนค่ะ)

บทสรุป

พจมาน สว่างคาตา อาจจะไม่ใช่หนังที่จะเป็นหนังดี พจมาน สว่าง คา ตา wiki บางทีแม้แต่ความตลกของหนังก็ยังก้ำกึ่ง แต่ในที่สุด จักรวาลของพชร์ อานนท์ก็ยังคงสามารถมีแง่มุมมากมายให้พูดคุยคิดต่อ ไม่ว่าจะจำเป็นต้องคิดหรือตั้งใจให้คิด ถึงที่สุดนี่ก็คือหนังหัวรั้นที่อาจมีทุนเป็นธงนำ

สรุปแล้ว พจมานสว่างคาตา ก็คือหนังที่ต่อยอดมาจาก หอแต๋วแตกนั่นเอง ถ้าคุณเป็นแฟนหนังสไตล์พชร์ อานนท์ อยู่แล้ว ก็น่าจะชื่นชอบ และ เพลิดเพลินกับหนังได้ไม่ยาก เพราะมีองค์ประกอบที่คุณคุ้นเคยดี แต่มันก็ไปได้ตามทางของมันโดยไม่ต้องตีสองหน้าประนีประนอมใด ๆ กับผู้ชมที่ไม่ใช่ผู้ชมของมัน และ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราสนุกกับหนังชุดนี้มาโดยตลอด

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1

หากใครที่ชอบหนังแนวแอ็คชั่น ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ศิลปะการต่อสู้ และ ไม่อยากพลาดหนังดี ๆ ที่ในสมัยนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ผมก็อยากจะส่งต่อหนังคุณภาพอีกเรื่อง ที่เผื่อใครจะยังไม่เคยรับชมได้ไปหารับชมกันนะครับ ส ปอย หนัง บอกตรง ๆ ว่า คนที่รักคนที่ชอบใน ศิลปะการต่อสู้ ห้ามพลาด ทุกประการ! สำหรับ Ip Man เป็นหนังแนวชีวประวัติ กึ่ง แอ็คชั่น ดราม่า ที่ตัวหนังจะกล่าวถึง “ยิปมัน”(ดอนนี่ เยน) ปรมาจารย์หมัดหย่งชุนที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา และ บุตรชายในเมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา กำกับโดย วิลสัน ยิป เขียนบทโดย เอ็ดมอนด์ หว่อง โดยเนื้อเรื่องดัดแปลงจากชีวประวัติของ ยิปมัน เจ้าสำนักศิลปะการต่อสู้ของจีน หมัดหย่งชุน ซึ่งต่อมายิปมันได้เป็นอาจารย์ของบรูช ลี พระเอกนักบู๊ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นเรื่องราวของยิปมันช่วงวัยกลางคน เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับภรรยา และ ลูกของเขาในบ้านหลังใหญ่ ไม่คุยโว ไม่รับลูกศิษย์ แต่ก็มียอดฝีมือมาท้าประลองบ่อย และ ชนะตลอด จนเป็นที่ล่ำลือไปทั่ว ต่อมาเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นได้เข้ามารุกราน และ กดขี่ชาวจีน

หมวดหมู่ : Action Biography Drama
สัญชาติ : Chinese
กำกับโดย : Wilson Yip
ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
นักแสดงนำ : Donnie Yen, Simon Yam, Siu-Wong Fan

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1 ภาพยนตร์ชุด ยิปมัน (Ip Man Film Series) เป็นซีรีส์ภาพยนตร์ ดูยิปมัน กำลังภายในหลายเรื่อง ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากภาพยนตร์ชีวประวัติของ ยิปมัน เรื่อง ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา ภาพยนตร์กำลังภายในของวิลสัน ยิป ที่ออกฉายเมื่อ ค.ศ. 2008 นำแสดงโดย เจิน จื่อตัน (ดอนนี่ เยน), เหริน ต๋าหัว และ ฝาน เส้าหวง

สำหรับ Ip Man ก็เป็นสุดยอดหนังกังฟูอีกเรื่อง ที่ใครชอบหนังจีนสไตล์หมัด ๆ มวย ๆ แล้วก็พลาดไม่ได้เลยจริง ๆ ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกเข้มข้น ฉากต่อสู้สุดมันส์ที่อัดกันแบบฉับไว และ ทีเด็ดการรัวหมัดสไตล์อาจารย์ยิป ก็เดือดปรอทแตกมาก ใครชอบหนังจีน ๆ หมัดมวยสไตล์ดอนนี่ เยน อย่าง Flashpoint, SPL หรือผลงานก่อน ๆ แล้ว เรื่องนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่น่าจดจำที่สุดในการแสดงของเขาเลย

ภาพยนตร์มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวประวัติของ ยิปมัน ปรมาจารย์มวยกังฟูแบบหวิงชุน ที่มีตัวตนอยู่จริง และ ผ่านชีวิตในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองมาแล้ว ซึ่งได้กลายมาเป็นอาจารย์ของบรูซ ลี ที่ต่อมากลายมาเป็นนักแสดงซูเปอร์สตาร์ชื่อดังระดับโลก

เรื่องย่อ

รีวิว ip man 1

ปรมาจารย์กังฟู ยิปมัน ที่แม้จะมีฝีมือกังฟูหย่งชุนระดับเทพ แต่ก็อยากจะใช้ชีวิตธรรมดากับภรรยา และ ลูกน้อยไม่สร้างปัญหากับใคร มีแต่ปัญหาที่เข้ามาหาเขาเองเสมอ ไม่ว่าจะไปการท้าทายจากสำนักต่าง ๆ ไปจนถึงวันหนึ่งที่เกิดสงครามกองทัพญี่ปุ่นบุกจีน

ทำให้เมืองฝอซานที่ยิปมัน และ ครอบครัวอาศัยอยู่จึงเกิดความยากลำบาก แถมนายพลมิฮุระจากญี่ปุ่นก็ยังเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก จึงทำให้มีการจัดการประลองที่ทำให้ยิปมันเองก็เลี่ยงไม่ได้ เขาจึงต้องใช้กังฟูของจีนมาเพื่อแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ว่าวรยุทธของคนจีนนั้นไม่แพ้คนญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ip man 1

จุดที่น่าชื่นชมที่สุดของหนังคงหนีไม่พ้น ยิ ป มัน ทุก ภาค การเลือกแอคชั่นสตาร์อย่าง ดอนนี่ เยน ให้มารับบท ปรมาจารย์กังฟูยิบมัน ที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่า ดอนนี่ เยน เองจะมีหนังกังฟูที่ผ่านมากมาย และ มีโอกาสโชว์ความสามารถมาไม่น้อยในบทเด่น ๆ ทั้งจาก Dragon Tiger Gate, Flashpoint, SPL (และ หนังเก่า ๆ กว่านี้อีกมากมาย) แต่เรื่องนี้ก็ต้องเรียกได้ว่าบท และ คาแรคเตอร์แบบพูดน้อยต่อยหนักนี้ก็ส่งให้พี่แกเฉิดฉายได้จริง ๆ

ทั้งในมุมผู้ชายที่ดูสงบเรียบร้อย เป็นพ่อบ้านที่แสนดี ไปจนถึงการเป็นนักสู้ที่เพิ่มความดุดัน ดุเดือดในทันทีเมื่อขึ้นเวทีต่อสู้ จนเมื่อพูดถึงยิปมันขึ้นมา คนก็มักจะนึกถึง ดอนนี่ เยน มาก่อนเสมอ แม้ว่าหนังจะออกมาในหลากหลายเวอร์ชั่นก็ตาม

ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องได้เข้าใจง่าย สบาย ๆ ไม่เครียด แต่ยังขาดเหตุผลไปอยู่หลายจุด เช่น ฉากที่ยิปมันต้มข้าวต้มให้ภรรยาซึ่งมีอาการป่วย แต่หนังไม่ได้บอกเลยว่า ภรรยาของยิปมันป่วยเพราะสาเหตุอะไร ซึ่งผมคิดว่าถ้าให้สาเหตุการป่วยของภรรยายิปมันได้ จะทำให้อารมณ์ดราม่าของหนังเรื่องนี้มากขึ้น หรือฉากที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งในฝอซานที่หนีจากบ้านไปด้วยความอับอาย แล้วไปเข้าแก๊งอันธพาล

ตัวหนังไม่ได้บอกเลยว่า ไปเ้ข้าแก๊งได้ยังไง บอกแค่ว่าโผล่มาอีกทีก็กลายเป็นอันธพาลไปแล้ว แตุ่ถ้าพูดถึงอารมณ์ดราม่า ยิปมันก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะเช่นกัน แต่เป็นดราม่าที่อยู่ในลักษณะพองาม เพราะทุกฉากที่มีอารมณ์ดราม่าจะมีสาระปะปนอยู่ด้วย

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1 ด้วยความที่หนังจีนในไทยนั้นหมด ยิ ป มัน พากย์ไทย ความรุ่งเรืองไปแล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ในตอนที่ Ip Man ออกฉายนั้น จึงไม่มีค่ายไหนชายตามอง และ เอาลิขสิทธิมาฉายในไทย มันเลยมีเพียงคนดูในช่วงเริ่มต้นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ที่เมื่อได้ดูก็พบว่า เฮ้ย นี่มันหนังแอคชั่นกังฟูระดับ A List ที่สนุกมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งเลย จากฉากแอคชั่น คิวบู๊ที่ออกแบบมาดี ลื่นไหล เตะต่อยกันชัด ๆ ซัดกันอย่างรวดเร็ว (โดยเฉพาะในฉากรัวหมัดของอาจารย์ยิป) และ การนำมวยหยุ่งชุนมาให้ได้อย่างเต็มที่

จนไม่แปลกใจนักหากใครจะยกให้ Ip Man เป็นหนังกังฟูอีกเรื่องที่มีฉากการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่มันส์ที่สุดในยุค

โดย ip man 1 เป็นหนังเก่าพี่เพิ่งเข้ามาใหม่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา Netflix ขนหนังเก่า ๆ หนังใหม่ ๆ เข้ามาเพียบเลย ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะดูอะไรดีก็เลยหยิบหนังเก่าอย่างเรื่องนี้มาดู ปรากฏว่ามันก็สนุกใช้ได้เลยทีเดียว ก็เลยอยากแนะนำเพื่อน ๆ ให้มาดูกันครับ

บทสรุป

นับเป็นหนังกังฟูอีกเรื่อง ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าตัวหนังจะมีประเด็นชาตินิยม ความรักชาติจนเฟ้อไปนิด (ตามสไตล์หนังจีนอ่าเนอะ) แต่หากพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่น ๆ

โดยเฉพาะงานด้านศิลปะการต่อสู้แล้ว นับว่ามีความเฉพาะตัว จนหาได้ยากในหนังกังฟูเรื่องอื่น ๆ เพราะหลังจากที่ภาคแรกสร้างกระแสได้แม้ว่าจะไม่ได้ฉายในโรงของไทยแล้ว ภาคอื่น ๆ ก็ทยอยตามเข้ามากันหมด แทบจะทุกเวอร์ชั่นกันเลยทีเดียว แต่ก็รับรองได้เลยว่าไม่มีเวอร์ชั่นไหนที่มีฉากแอคชั่นมันส์เดือดเท่าฉบับของดอนนี่ เยน อีกแล้ว

สรุปแล้วเป็นหนังมวยจีนที่สุดยอดเลย ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเดาง่ายไปหน่อย แต่มันก็รู้สึกสนุก และ ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้น หนัง 1 ชั่วโมงกับอีก 46 นาทีเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

สำหรับ จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก หนังไทยnetflix นับเป็นภาพยนตร์ภัยพิบัตินิยายวิทยาศาสตร์ ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ส ปอย หนัง เป็นหนังที่กำกับร่วมเขียนบทมากมาย และ อำนวยการสร้างโดยดีนเดฟลิน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ในผลงานการกำกับ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ดาราภาพยนตร์เจอราร์ดบัตเลอร์ ,จิมสเตอร์เจส ,เอ็ดแฮร์ริส ,แอ็บบี้คอร์นิช , Zazie Beetz ,ริชาร์ดชิฟฟ์ ,อเล็กซานมาเรียลาร่า ,โรเบิร์ตชีฮาน ,แดเนียลวู , Eugenio Derbezและแอนดี้การ์เซีย เนื้อเรื่องเป็นไปตามนักออกแบบดาวเทียมที่พยายามช่วยโลกจากพายุขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดดาวเทียมการควบคุมสภาพอากาศ

ชื่อภาพยนตร์: Geostorm จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Dean Devlin
แนว/ประเภท: Action, Sci-Fi, Thriller
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Dean Devlin, Paul Guyot
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Warner Bros., Electric Entertainment, Jerry Bruckheimer Films, Skydance Media
นักแสดงนำ: Abbie Cornish, Jeremy Ray Taylor, Gerard Butler, Jim Sturgess, Talitha Eliana Bateman, Ed Harris, Daniel Wu, Andy Garcia

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นวิทยาศาสตร์ จี โอ สต อ ร์ ม เมฆาถล่มโลก ไม่มี โฆษณา ที่ว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ปัจจุบันถูกควบคุมสภาพอากาศอันเลวร้ายด้วยโครงการ Dutch Boy ที่เป็นการใช้ดาวเทียมควบคุมสภาพอากาศของโลกจากนอกชั้นบรรยากาศโลก ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ดี แต่จนแล้วจนรอดก็เกิดมีการทำงานผิดปกติของ Dutch Boy ขึ้นมา มีคนเสียชีวิตไปมากมายจากการที่ดาวเทียมทำงานผิดพลาดตามจุดต่าง ๆ ทั่วมุมโลก ทางผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องตัดสินใจส่งคนที่เก่งที่สุดกลับไปจัดการเรื่องนี้ ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าจริง ๆ แล้วเครื่องไม่ได้เสียเอง แต่เป็นฝีมือของใครสักคนที่เป็นคนภายใน!

หน้าหนังมีความเป็นหนังหายนะได้ประมาณหนึ่ง ภาพที่เห็นจากตัวอย่าง มันคือ สภาพภูมิอากาศของโลกที่หนักหน่วง หนังกำกับฯ​ โดย Dean Devlin ผู้ที่เคยร่วมกำกับซีรีส์ทางทีวีอย่าง ‘The Librarians’ และ ‘Leverage’ แน่นอน คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักผลงานของเขาอย่างแน่นอน

ตามที่เห็นในตัวอย่างกัน บรรดานักแสดงที่เราคุ้นตาทั้ง เจอราด บัตเลอร์ พ่อขุนพลแห่ง 300 (2006), จิม สเตอร์เจสส์ หนุ่มหล่อชวนฝันในหนังโรแมนติกอย่าง Across the universe (2007) แอบบี้ คอร์นิช สาวออสซี่สุดเซ็กซี่จาก Somersault (2004) แม้กระทั่ง แอนดี้ การ์เซีย ที่น่าจะคุ้นตาจาก Ocean’s Eleven (2001)

ซึ่งเมื่อได้เห็นพวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันใน Geostorm ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้เห็นสัจธรรมบางอย่างเกี่ยวกับอายุขัยความดังของนักแสดงที่แจ้งเกิดหลังยุค 2000 เพราะพวกเขาแทบไม่มีใครทำให้เราจดจำได้เลยจากหนังเรื่องนี้

เพราะหนังเต็มไปด้วยฉากวินาศสันตะโรจนแทบไม่มีพื้นที่ให้ใครแสดงความสามารถด้านการแสดงนัก แต่คนดูกลับจดจำความน่ารักของ ทาลิธา เบตแมน ( Talitha Eliana Bateman) ที่เพิ่งรับบทเด็กสาวผู้กล้าหาญใน Annabelle Creation ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ที่แสดงบทดราม่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง ซาซี บีตซ์ (Zazie Beetz) ในบทเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ผู้ช่วยของแม็กซ์ ที่สามารถปล่อยมุกตลกได้อย่างถูกจังหวะ และ สามารถขโมยซีนนักแสดงดัง ๆ ได้ตลอดเวลา

เรื่องย่อ

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

เมื่อโลกกำลังเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศจนเป็นอันตรายต่ออนาคตมนุษยชาติ และโครงการดัตช์บอยที่ได้รับความร่วมมือจากชาติใหญ่ ๆ ของโลกก็ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อความอยู่รอดของเหล่ามนุษย์โลก โดยมีหัวหอกเป็น เจค (Gerard Butler) ผู้ที่สร้างมันมากับมือ

มันเป็นโครงการใหญ่มาก ใช้ดาวเทียมจากหลาย ๆ ชาติเป็นเครือข่ายเดียวกัน เชื่อมต่อกับสถานีอวกาศ คอยควบคุมสภาวะอากาศโลกจากข้างบน ทำให้มนุษย์รอดพ้นจากอากาศที่รุนแรงได้อยู่หลายปี ทว่าโครงการยักษ์นี้กำลังจะถูกเปลี่ยนมือ

และผู้ที่จะมารับหน้าที่ดูแลคือน้องชายของเขาเอง แมกซ์ (Jim Sturgess) น้องชายที่ไม่เคยจะคุยดีกับพี่ชายได้เลยสักครั้ง ต้องมารับหน้าที่คุมโปรเจกต์นี้ ทิ้งให้พี่ต้องไปหาจ็อบเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำแก้เบื่อ

แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ดูเหมือนจะเกิดความผิดปกติกับสภาพอากาศในอัฟกานิสถาน ทุกอย่างจะต้องถูกตรวจสอบและแก้ไขโดยไว และคนที่จะเข้าใจเครื่องมือและสถานีอวกาศได้ดีที่สุด ก็คือคนที่สร้างมันมา แมกซ์จึงต้องบากหน้ากลับไปเร่งเร้าให้เจคกลับมาช่วยอีกครั้ง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ทั่ว ๆ ไปเลยครับ geostorm พากย์ไทย 4k ทั่วไปมาก เน้นเล่าง่าย มีความอยากใส่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใส่ลงมาล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แล้วก็จากไปอย่างง่ายดาย หนังมีความยาวน้อยเกินไปหากเทียบกับเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนและวุ่นวายอยู่พอตัว มีความเป็นหนังสืบสวนอยู่กลาย ๆ แต่พอใช้เวลาเล่าไม่พอก็กลายเป็นว่าหนังขมวดปมเฉลยจบเอาดื้อ ๆ หนังขาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้ตัวหนังมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

อย่างแรกคือบทพูดของตัวละครทุกคนนั้นเหมือนหุ่นยนต์คุยกันมาก ขาดธรรมชาติ เหมือนเวลาคุยเรื่องวิทยาศาสตร์กันก็คุยเรื่องสูตรกันเป๊ะ ๆ เลย มันจะขาดการกลั่นกรองให้เป็นภาษาคนก่อนจะนำมาเล่าอยู่หน่อย ซึ่งความไม่ธรรมชาติของบทพูดก็ส่งผลให้การแสดงของนักแสดงค่อนข้างจะย่ำแย่เอาการเหมือนกัน ดูแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าคนบางคู่จะรักกันได้

เพราะสาเหตุหรือการใช้เวลากับความรู้สึกภายในเรื่องนั้นน้อยเกินไป หรือบางทีก็ดูแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าคนนั้นจะเป็นตัวร้ายได้ เพราะไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรให้เรานึกถึงก่อนหน้าเลย จู่ ๆ พอถึงเวลาก็เฉลยเลย แถมมาเฉลยกันด้วยการที่ตัวร้ายยอมรับสารภาพทุกอย่างอย่างเดียว บางทีมันก็ง่ายเกิ๊น พังการสืบสวนทุกอย่างทิ้งลงอย่างไร้เยื่อใยทีเดียว

แต่เอาจริง ๆ ถ้าใครไม่มีปัญหามากมายด้านเนื้อเรื่อง อยากดูหนังเพลิน ๆ ง่าย ๆ สบาย ๆ เรื่องนี้นี่ถือว่าน่าจะถูกใจท่าน ๆ เพราะความแอ็คชั่น การไล่ล่า ความอลังการของเรื่องในช่วงหนึ่งนั้นทำได้ยิ่งใหญ่ และบ้าพลังดี มีภัยธรรมชาติแทบจะทุกรูปแบบให้ได้ชม พายุ สึนามิ ฟ้าผ่า น้ำแข็งถล่ม ไฟเผาโลก บลา ๆ ๆ

ซึ่งแม้จะเทียบด้านความรู้สึกสูญเสียร่วมกับตัวละครไม่ได้เท่ากับภาพยนตร์อย่าง 2012 (ประมาณว่าในเรื่องนี้เราเห็นคนตายแล้วเราไม่ได้เศร้าไปด้วย) แต่ก็มันส์พะยะค่ะแบบนั่งไม่ติดเก้าอี้เหมือนกัน ใครชอบข้าวของพังเละเทะ ตึกใหญ่พังถล่มทลาย ดาวเทียมระเบิดกระจายเป็นโกโก้ครันช์ โหย ๆ ๆ ถูกใจพวกคุณหลายๆแน่นอน… อาจเสียหน่อยตรงที่หนังกองความชิบหายไปไว้ในแถบๆเดียวกันหมด กลางทางอาจจะชวนหลับหน่อยนะ

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก เอาจริง ๆ หลัง ๆ ผมก็ไม่ค่อยได้ดูหนังภัยพิบัติสักเท่าไหร่ จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก netflix อัตราการสร้างออกมาในช่วงหลังก็เหมือนห่าง ๆ ออกไป การที่ได้ดู ‘เมฆาถล่มโลก’ ก็เลยอาจจะเป็นสิ่งที่ดูแปลกไปจากหนังที่ได้ดูในช่วงนี้อยู่พอประมาณ

มันเป็นหนังที่หยิบเอาเหตุปัจจุบันมาปูเรื่องให้โครงการที่จัดสร้างกันในเวลาถัดมานั้นดูสมเหตุผล เป็นอีกครั้งมนุษย์เล่นบทพระเจ้าด้วยการหาญกล้าขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมสภาพภูมิอากาศโลก แม้เมื่อภูมิภาคไหนกำลังมีพายุใหญ่ ระบบนี้ก็สามารถส่งของไปกำจัดพายุจนหมดสิ้น มนุษยชาติมีของแบบนี้อยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวเกรงธรรมชาติอีกต่อไป

หนังรวบรวมเอาไว้แต่สิ่งที่คนดูส่วนใหญ่จะชื่นชอบ ทั้งฉากมหันตภัยที่ชวนน่าสะพรึง ทั้งคลื่นยักษ์ ทั้งพายุใหญ่ แผ่นดินแยก ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะคุ้นเคยมาบ้างแล้วจากหนังบางเรื่อง

สิ่งที่พอจะทำให้หนังเรื่องนี้ดูแตกต่างไปบ้าง ก็เห็นจะเป็นการที่มนุษย์สามารถสร้างเครื่องมือในการควบคุมธรรมชาติได้ ขณะที่ในอดีต ชาติพันธุ์เราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กจ้อยที่ถูกบดขยี้แทบย่อยยับ ก่อนจะมีกลุ่มคนหรือพระเอกเพียงคนเดียวมาช่วยเหลือปัดเป่าให้พ้นภัยร้ายไป

อีกสิ่งที่มองเห็นเด่นชัดในหนังคือ การใส่เรื่องราวดราม่าของพี่น้อง ครึ่งหนึ่งของหนัง อาจมองว่ามันช่างดูน่าเบื่อ เรื่องของพี่กับน้องที่ความคิดเห็นไม่ลงตัว แต่ก็ต้องมาหาหนทางแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายไปด้วยกัน

หนังมีส่วนผสมของหนังภัยพิบัติ ที่มีเรื่องราวดราม่าระหว่างพี่น้อง มีฉากไล่ล่า ฉากหนีตาย ฉากปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยโลกที่ชวนลุ้น มีฉากของสถานีอวกาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูไซไฟในระยะหลัง ๆ หากแยกมาเป็นส่วน ๆ มันคือหนังที่ดูเพื่อความบันเทิงที่ได้ครบสูตร

บทสรุป

โดยภาพรวมแล้ว Geostorm จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก สุ นันทา ภู่ วิเชียร Geostorm จี โอ สต อ ร์ ม เมฆาถล่มโลก จึงเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นวิทยาศาสตร์(บล็อกบัสเตอร์ด้วยอ่ะ) ที่ทำออกมาได้กลาง ๆ เชย ๆ มากด้านการเล่าเรื่อง บทภาพยนตร์ไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เอะอะก็จะยัดเยียดข้อมูลกันมากเกินไป นักแสดงแต่ละคนเลยเล่นเป็นหุ่นยนต์หมดเลย เรื่องเลยไม่ค่อยน่าเชื่อ

แต่ความบ้าพลัง ความระเบิดตูมตาม และงาน CG นี่ทำมาอย่างดี เก็บเนี๊ยบเกือบเต็มร้อย สุดยอด ใครกำลังหาหนังใหญ่ ๆ บทดี ๆ น่าเชื่อถือ เรื่องนี้ไม่ใช่ทางเลยนะ แต่ถ้าใครเน้นเนื้อเรื่องที่ดูง่าย ชอบความยิ่งใหญ่อลังการบ้าพลังของหนัง ชอบข้าวของตึกสูงถล่มพัง ชอบระเบิดตูม ๆ ๆ แนะนำเรื่องนี้เลย!

รีวิว game changer

รีวิว game changer

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนัง หนังไทยnetflix โกงพลิกเกม ที่เป็นหนังแนว ๆ แก๊งเพื่อนติดเกม เป็นหนึ่งในหนังที่ผมดูแล้วผมรู้สึกว่า ส ปอย หนัง อยากรีวิวให้เพื่อน ๆ สำหรับที่ยังไม่เคยได้รับชม อยากจะบอกว่าหนังดีมาก เป็นเรื่องราว ตี๋ คิด ตึก และ ซิม ซิม คิวเท ที่อยู่ดี ๆ ต้องกลายมาเป็นลูกน้องคนสนิทของ ‘บอส’ นายใหญ่ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ประจำเมืองสมมติ ที่ภายในเมืองนั้นมีกลุ่มแก๊งมากมายอาศัยอยู่ โดยแต่ละแก๊ง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ต่างก็ยึดครองและทำธุรกิจมืดแตกต่างกันไป พร้อม ๆ กับการหวังจะแย่งชิงพื้นที่หากิน โดยแก๊งวัยรุ่นทั้ง 4 ต้องออกตระเวน ‘เก็บเหรียญ’ หรือเก็บเงินค่าคุ้มครองจากทุกแก๊ง เมื่อหัวหน้าแก๊งมาเฟียเจ้าถิ่นเสียชีวิตลง ผู้ช่วยทั้งสี่จึงตัดสินใจปิดข่าวและดำเนินกิจการทุกอย่างตามปกติ แต่ในโลกของคนโกง… ถ้าคิดจะเล่นเกมลวงก็ต้องเตรียมใจให้ดี

ประเภท: แอคชั่น / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: ธิวา เมยไธสง
เข้าฉาย: 28 ตุลาคม 2021
นำแสดงโดย: โต้ง Twopee, อิศรา กิจนิตย์ชีว์, คิมเท ซิม, เน เมียว ธาน

รีวิว game changer

รีวิว game changer

รีวิว game changer โกงพลิกเกม Game Changer เป็นหนังสไตล์แอคชั่นระทึกขวัญ game changer ไทย เต็มเรื่อง ที่โฟกัสเรื่องราวของกลุ่มอันธพาลเพื่องพ้องในเมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและกลุ่มแก๊งครองอิทธิพลไปทั่วเมือง พวกเขาทั้ง 4 คนเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ทำงานให้กับบอส ที่คอยควบคุมแก๊งต่าง ๆ ในพื้นที่ให้อยู่ในความสงบ และทุกแก๊งจะต้องส่งส่วยให้เป็นประจำ แต่เกมเปลี่ยนไปเหมือนกระดานพลิก เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับบอส พวกเขาจึงได้วางแผนเล่นเกมโกงบ้า ๆ กันต่อ โดยที่นำตัวเองเข้าสู่อันตรายที่แทบจะไม่มีทางรอดตายได้เลย

นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ “ทิวา เมยไธสง” (จาก เกมปลุกผี) ที่ช่ำชองกับการถ่ายทอดงานสไตล์ดิบ ๆ เถื่อน ๆ กับประสบการณ์ที่สั่งสมในหนังหลายเรื่อง แต่สำหรับในเรื่องนี่อาจจะเปลี่ยนแนวเล็กน้อย ตรงที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องผีสางวิญญาณที่มองไม่เห็นตามฉบับในหนังหลาย ๆ เรื่องที่เขาเคยสร้าง แต่พลิกมาเล่นกับพฤติกรรมและผลการกระทำของมนุษย์แทน ที่น่าจะค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับในระดับหนึ่งเลย

เรื่องย่อ

รีวิว game changer

เมืองนี้ได้ดำเนินไปโดยมีแก๊งมากมายอยู่รวมกัน Game changer meaning ซึ่งแต่ละแก๊งค์ก็ต่างยึดครองและทำธุรกิจมืดที่ต่างกันไป พร้อมกับความหิวกระหายอำนาจที่อยากจะครอบครองเมือง ซึ่งผู้ที่ทำให้แก๊งต่าง ๆ อยู่รวมด้วยกันได้โดยไม่เกิดสงครามขึ้นก็คือ “บอส” ผู้ซึ่งเป็นนายใหญ่ คอยจัดการเก็บเงินสกปรกจากทุกแก๊งค์เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างแก๊งค์

และที่มากไปกว่านั้นบอสยังดูแลสมดุลระหว่างกฎหมายและพวกนอกกฎหมายอีกด้วย ตี๋, คิด, ตึก และซิม เด็กติดเกมส์ 4 คน ที่วันหนึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคนสนิทของบอส แต่แล้ววันหนึ่งบอสได้เสียชีวิตอย่างกระทันหันในขณะที่ ตี๋ กำลังจะแจ้งข่าวร้ายนี้กับทุกคน แต่ คิด ก็ได้หยุดเขาเอาไว้ และผุดแผนการที่จะเปลี่ยนเกมส์ชีวิตพวกเขาทั้ง 4 คนไปตลอดกาล ทั้ง 4 คนตัดสินใจเก็บเรื่องการตายของบอสไว้เป็นความลับ แสร้งทำเป็นว่าบอสยังมีชีวิตอยู่

พวกเขาดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยใช้ชื่อบอสเรียกเก็บเงินจากแก๊งค์ต่าง ๆ ต่อไป ถ้ามีใครล่วงรู้ความลับที่ว่าบอสตายแล้ว แก๊งค์ต่าง ๆ ก็คงจะมาตามเก็บพวกเขาอย่างแน่ นอน ถึงแม้จะกลัวแค่ไหนแต่พวกเขาก็ยังคงตัดสินใจลงเล่นเกมส์นี้ พวกเขาจะเล่นเกมส์นี้ต่อไปอย่างไร? แผนการยึดเมืองและทำหน้าที่แทนบอสจะลุล่วงหรือไม่?? ติดตามได้ใน Game Changer เร็ว ๆ นี้

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว game changer

หนึ่งในองค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ game changer นักแสดง ที่ต้องชื่นชมเลยก็คงจะเป็นงานการถ่ายภาพ ที่ผู้กำกับก็รับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพด้วยตัวเอง เพราะชิ้นงานที่ออกถือว่าคมคาย โดยเฉพาะการถ่ายทอดภาพและจัดแสงองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แปลกตาและน่าสนใจ สร้างสรรค์มุมมองของเมืองพัทยาในรูปแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นในหนังไทยสักเท่าไหร่ มุมกล้องกับมุมภาพต่าง ๆ จึงทำออกมาได้น่าประทับใจเลยทีเดียว

แต่นั้นก็น่าจะเป็นเพียงองค์ประกอบหลัก ๆ อย่างเดียวที่เป็นข้อดีของหนังเรื่องนี้ เพราะ โกงพลิกเกม Game Changer ยังเต็มไปด้วยข้อบกพร่องอยู่ในหนังเต็มไปหมด เริ่มต้นที่ปัญหาหลัก ๆ คือบทหนัง ที่ยังเต็มไปด้วยรูรั่วที่ไม่มีความสมเหตุสมผลอยู่มาก ไม่สามารถขับเคลื่อนตัวละครและสร้างมิติให้คาแรกเตอร์ต่าง ๆ ได้ดีเท่าที่ควร แม้ประเด็นจะค่อนข้างดี แต่ยังล้มเหลวในการนำเสนออยู่ในบางจุด

หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจก็คืองานด้านภาพครับ ทั้ง กราฟิกซีจีต่าง ๆ รวมถึงการออกแบบภาพ มุมกล้อง การวางองค์ประกอบภาพ การครีเอตภาพแนวทางใหม่ ๆ ที่บ้าพลังและทำออกมาได้ดี รวมถึงฉากลองเทกที่ดูแปลกใหม่ อาจจะเพราะว่าผู้กำกับเองก็มีเครดิตในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับงานด้านภาพของภาพยนตร์ไทยมาแล้วหลายเรื่อง หนังเรื่องนี้จึงถือว่าเป็นการปล่อยของที่หวือหวาน่าสนใจดีไม่ใช่น้อย

คงต้องบอกว่า โกงพลิกเกม Game Changer มีวัตถุดิบที่ดีมาก ๆ อยู่ในมือ สามารถปลุกปั้นสร้างให้เป็นหนังแก๊งสเตอร์ดิบ ๆ เถื่อน ๆ หักเหลี่ยมเฉือนคมสนุก ๆ แบบหนังของผู้กำกับ ‘กาย ริชชี่’ ทางฝั่งฮอลลิวูดได้เลย แต่หนังก็ยังไม่มีพลังขับเคลื่อนไปถึงระดับนั้น กลายเป็นหนังที่มาแค่เพียงโจทย์ความท้าทายแบบทื่อ ๆ ง่าย ๆ แบบสูตรสำเร็จที่ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่

เห็นได้ชัดว่าหนังพยายามสร้างมิติให้ตัวละครและคาแรกเตอร์ต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังประสบความล้มเหลวเช่นกัน โกงพลิกเกม เป็นหนังที่มีตัวละครค่อนข้างเยอะมาก พยายามครอบคลุมทุกตัวละคร แต่ด้วยเวลาที่จำกัดทำให้ไม่สามารถพาคนดูไปสำรวจทุกตัวละครได้ ส่วนตัวละครหลักทั้ง 4 ที่น่าจะเน้นโฟกัสเป็นหลัก ก็ถูกละเลยในการสร้างมิติให้กับพวกเขาไปอย่างน่าเสียดาย

รีวิว game changer

รีวิว game changer โกงพลิกเกม’ คือผลงานเรื่องใหม่กับค่ายห้าดาว game changer หนังไทย ‘ไฟว์สตาร์ โปรดักชัน’ ของผู้กำกับที่เราอาจไม่คุ้นชื่ออย่าง ‘ทิวา เมยไธสง’ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการแต่อย่างใด เพราะประสบการณ์การทำงานด้านการเป็นตากล้องภาพยนตร์ ตัดต่อ รวมทั้งยังเขาเองก็ยังเคยเป็นผู้กำกับหนังคุ้นชื่อ โดยเฉพาะแนวสยองขวัญมากมายหลายเรื่องด้วยกัน เช่น ‘ผีช่องแอร์‘ (2005) ‘เชือดก่อนชิม‘ (2009) ‘วงจรปิด‘ (มรดกผี) (2012) ‘เกมปลุกผี‘ (2014) จะมีก็เพียงแต่ ‘รักเอาอยู่‘ (2012) ที่แหวกแนวเป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ และผลงานใหม่ล่าสุดอย่าง ‘โกงพลิกเกม’ เรื่องนี้นี่แหละครับ

จนกระทั่งวันหนึ่ง บอสเกิดเสียชีวิตกะทันหัน คิด หัวสมองของแก๊งจึงได้เริ่มต้นคิดวางแผนยึดเมือง และใช้ ‘เกม’ ในการเปลี่ยนแปลงระบบที่เคยเป็นมาแต่เดิม พร้อมกับสวมรอยทำหน้าที่แทนบอสเสียเอง พร้อม ๆ กับการที่ตี๋กำลังจะมี ‘รักต้องห้าม’ ซึ่งอาจนำพาเขาและเพื่อนไปเผชิญกับอันตรายมากมาย รวมถึงการกลับมาของ ‘จอห์นนี่’ (เดย์ ไทเทเนียม) ขาใหญ่อีกคนที่ต้องการกลับมาประกาศศักดาอีกครั้งหลังจากพ้นคุก

แค่อ่านพล็อตก็พอเดาออกแล้วใช่มั้ยครับว่าจริง ๆ แล้ว นี่คือพล็อตหนังเจ้าพ่อ หรือที่เรียกว่าหนังแก๊งสเตอร์นั่นเองครับ เรียกได้ว่ามีกลิ่นอายหนังเจ้าพ่อฮ่องกงยุค 80’s อะไรแบบนั้นเลย โดยเฉพาะพอยต์หลักของหนังแก๊งสเตอร์ที่พระเอกต้องหลุดเข้าไปอยู่ในอิทธิพลมืด มีความรักต้องห้ามกับหญิงสาวที่อยู่เหนือกว่าตน และการแย่งชิงอำนาจ แย่งชิงทรัพยากรทำมาหากิน แต่จะบอกว่าหนังเรื่องนี้เอาพล็อตหนังเจ้าพ่อมาใช้เลยก็ไม่ขนาดนั้น ด้วยการปรุงแต่งบทและวิธีการนำเสนอ ทำให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นแก๊งสเตอร์ยุคใหม่ ภายใต้บทหนังเจ้าพ่อแบบดั้งเดิม

บทสรุป

โดยในภาพรวมแล้ว Game Changer Netflix โกงพลิกเกม Game Changer ก็จัดได้ว่าเป็นหนังไทยที่น่าเสียดายที่ยังถูกนำเสนอออกมาได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าที่ควรนัก แม้จะมีโครงเรื่องและประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย แต่หนังขาดความน่าสนใจในการเล่าเรื่องและนำเสนอ การร้อยเรียงเรื่องของหนังยังน่าเบื่อและสะเปะสะปะอยู่ไม่น้อย จึงทำให้คนดูยังไม่รู้สึกคล้อยตามไปกับท้องเรื่องและสถานการณ์เท่าที่ควร

แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังก็พยายามมอบประสบการณ์ความดิบเถื่อนและโหดเหี้ยมในแบบที่หนังสไตล์นี้ควรจะมี หนังได้หยิบใส่เข้ามาได้ดีอยู่ แม้ว่าจะยังใส่เพิ่มเข้ามาได้มากกว่านี้ก็ตาม ดังนั้นบทหนังจึงยังเป็นปัญหาหลักในการขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถึงแม้จะชวนให้นึกถึงหนังไทยยุค 90 แนว ๆ นี้อยู่บ้าง แต่กลายเป็นว่า โกงพลิกเกม Game Changer ก็ยังไม่ใช่หนังที่น่าจดจำสักเท่าไหร่

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

นี่คือหนังผี อีกหนึ่งเรื่อง ของไทย ที่ผม หนังไทยnetflix เคยดูมาเมื่อหลายปีก่อน เรียกได้ว่า ผ่านมานาน มาก ๆ แล้วกับภาพยนตร์ ส ปอย หนัง สำหรับเรื่องราวของเด็กมัธยม ประจำห้อง มอ 6/5 เด็กเกรียนที่ตามล่าท้าผีในโรงเรียนตัวเอง ความตกใจ ความระแวงมีในหนังตลอด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี เป็นหนังสยองขวัญ ที่ทั้งได้อรรถรส ในโรงเรียนกลิ่นอายของวัยรุ่น ที่ชอบลองของ ที่หลายคนไม่ควรพลาด และ ยังคงเป็นโมเมนต์ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ที่แฝงข้อคิดเรื่องราวในโรงเรียนได้ดีอีกเรื่อง

หนัง : มอ6/5 ปากหมา ท้าผี
ประเภทหนัง : Comedy, Thriller
ผู้กำกับ : พจน์ อานนท์
วันที่เข้าฉาย : 3 ตุลาคม 2556
นักแสดงนำ : นิก ( คุณาธิป ปิ่นประดับ ), เจมส์ ( ภูวดล เวชวงศา ), บิว ( กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย ), เทป ( วรชัย ศิริคงสุวรรณ ), ออย ( ฤทธิชัย ตะสาริกา ), ไบรอัน ( ไบรอัน การ์ตั้น ), เบ็นซ์ ( ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์ ), เน็ท ( สิรภพ มานิธิคุณ )

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว 6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี หนังเรื่องนี้ เป็นหนังผีสไตล์วัยรุ่น ม.6/5 ปาก กล้า ท้า ผี นักแสดง ที่ชอบการลองของ และ ตอบโจทย์ผู้ชมส่วนใหญ่ที่มักเรียนอยู่ในโรงเรียนซึ่งแต่ละโรงเรียนก็มีประวัติ โดยกลุ่มนักเรียนในหนังก็เปรียบเสมือน ตัวแทนของทุกคนในการอาสาเข้าไปล่าท้าผีแบบปากหมาในโรงเรียนตัวเอง จนทำให้พบกับผีนักเรียนชายที่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ออกมาแบบฮาหลายรอบ จนทำเอากรี๊ดแต่ก็สนุกลุ้นทุกครั้งที่แต่ละคนไปหลบตามห้องต่าง ๆ

พวกเขาไปตามล่าผี บันได ห้องน้ำ หรือ ห้องเรียน แต่ผีนักเรียนก็มีมิติ หากดูก็จะรู้ และ เกิดอาการไบโพลาร์ไปเลยว่าควรจะกลัว หรือ ฮาดี ซึ่งนอกจากนี้ ก็ยังมีผีครูอีก 3 คนที่จะมาทั้งดี และ ร้ายซึ่งผีเหล่านี้ เคยมีอดีตร่วมกันมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ ฆาตกรรมในอดีตที่โรงเรียน โดยรวมแล้ว มอ 6/5 ปากหมา ท้าผี เป็นหนังที่ไม่เน้นสยองขวัญ ตลกบ้าง เฮฮาบ้าง ตามสไตล์กลุ่มเด็กเกรียนกับผี สนุกบ้าง ฮาบ้าง คลายเครียด ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีภาคต่อในเวลาต่อมา

เรื่องย่อ

รีวิว 6/5 ปากหมาท้าผี

เรื่องราวของแก๊งนักเรียนประจำห้อง ม.6/5 ที่นิยมชมชอบการลองของ และ การล่าท้าผีตามบ้านร้าง เป้าหมายล่าสุดของพวกเขาคือ “ตึกแดง” ที่มีตำนานร่ำลือว่ามีเด็กนักเรียนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทำให้ตึกถูกปิดร้าง ด้วยความปากดีของพวกเขาที่ท้าทายสิ่งลี้ลับอย่างลองดี ทำให้ได้เจอเข้ากับเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาจำไม่ลืมกับการ “ปากหมา ท้าผี”

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว 6/5 ปากหมาท้าผี

สำหรับผมนั้น ม.6/5 ปากหมาท้าผีนั้น เป็นหนังอีกเรื่องที่ก็พอ ม.6/5 ปาก กล้า ท้า ผีสึนามิ 037 ดูค่าเวลา เล่นได้ครับ แต่เดี๋ยวก่อนนะ อย่าพึ่งเข้าใจผิดไป ผมไม่ได้บอกว่าหนังไม่ดี แต่หนังเองก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนังผีที่หาความสมเหตุสมผลใด ๆ ไม่ได้เลย บทมั่วมากอยากเล่าอะไรก็เล่า นึกอยากตัดฉับไปฉากอดีตก็ตัดเฉยเลยไม่สนความมีเหตุมีผล และ ความต่อเนื่องอะไรทั้งนั้น

ส่วนตอนจบสุดท้ายนั้นก็ช่างขัดอกขัดใจยิ่งนักบทจะให้ผีร้ายใจอ่อนขึ้นมาก็เล่นกันแบบง่าย ๆ จนผมสับสนไปหมดแล้วว่าที่ผ่านมาจะหลอนหลอกไปเพื่ออะไร?!กับการแสดงนั้นคงไม่มีอะไรให้พูดถึงเมื่อนักแสดงหนุ่ม ๆ ทุกคนเล่นกันแข็งได้เป็นธรรมชาติกันซะยกชุดขนาดนั้น มีดีหน่อยก็ตรงที่ขายความหล่อ และ น่ารักเท่านั้นเอง ก็ขนาดนักแสดงเก๋าเกมอย่างเมย์ และ หญิงก็ยังแสดงออกมาดูเว่อร์ ๆ เหมือนละครหลังข่าวได้เลยก็คิดดูเอาเองละกัน!!

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี เป็นภาพยนตร์ไทย 3 มิติ ม.6/5 ปาก กล้า ท้า ผีสึนามิ ดูได้ที่ไหน แนวสยองขวัญ-คอมเมดี้ สร้างโดย พระนครฟิล์ม ออกฉายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ผลงานกำกับของพชร์ อภิรุจ นำแสดงโดย คุณาธิป ปิ่นประดับ , วิทวัส ท้าวคำลือ , ภูวดล เวชวงศา , กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย , วรชัย ศิริคงสุวรรณ , ฤทธิชัย ตะสาริกา , ไบรอัน การ์ตั้น , ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์ , สิรภพ มานาธิคุณ (หนังชุดหอแต๋วแตก, ตายโหง และ ศพเด็ก 2002) มาครับ

ซึ่งกับเรื่องนี้ นั้นหนังก็มาพร้อมกับหนุ่ม ๆ หน้าตาดีเหมือนเคยคือ นิก คุณาธิป ปิ่นผระดับ, เจมส์ ภูวดล เวชวงศา, บิว กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย, เทป วรชัย ศิริคงสุวรรณ, ออย ฤทธิชัย ตะสาริกา, ไบรอัน การ์ตั้น, เบ็นซ์ ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์, เน็ท สิรภพ มานิธิคุณ, ปิติพน พรตรีสัตย์ ร่วมด้วยนักแสดงมืออาชีพอย่าง เมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล และ หญิง ฌัชฌา รุจินานนท์

บทสรุป

หนังว่าด้วยเรื่องราวของแก๊งนักเรียน ประจำห้อง ม.6/5 ที่นิยมชมชอบการลองของ ม. 6 5 1 และ การล่าท้าผีตามบ้านร้าง เป้าหมายล่าสุด ของพวกเขาคือ “ตึกแดง” ที่มีตำนานร่ำลือว่ามีเด็กนักเรียนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทำให้ตึกถูกปิดร้าง รวมไปถึงวิญญาณของครูสุดเฮี้ยน ด้วยความปากดีของพวกเขา ที่ท้าทาย สิ่งลี้ลับอย่างลองดี ทำให้ได้เจอเข้ากับเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาจำไม่ลืมกับการ “ปากหมา ท้าผี”

โดยรวมหนังทำออกมาดีมาก เพราะเป็นหนังทรีดี แต่ที่วันนี้ ไปดูไม่ได้ดูทรีดี ถ้าพลาดแล้วจะเสียดาย คือรู้สึกคุ้มนะ ถึงจะมาดูเพราะอยากดูอะไรระทึกตึกตึกโป๊ะก็เหอะ เอาเป็นว่าให้ 6/10

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก

หากพูดถึงหนังไทยเชื่อว่า สิ่งที่หลาย ๆ หนังไทยnetflix คนนึกถึงคงจะไม่พ้น ความฮา ความตลก ความเบียว อะไรก็ว่ากันไป ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็ใช่นั้นแหละครับ 555 ภาพยนตร์เรื่อง ส ปอย หนัง ‘ผ้าผีบอก’ ถือเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ของ ค่าย ‘ไอแอมฟิล์ม’ (iAM Films) ภายใต้สังกัด ‘iAM’ (Independent Artist Management) หรือบริษัทผู้ดูแลวงไอดอล ‘BNK48’ ที่ปีที่แล้วประสบความสำเร็จ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี จาก ‘Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า’ (2562) ที่คว้า 6 รางวัลสุพรรณหงส์มาได้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ รวมทั้ง ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ (2564) สารคดีแนว Candid เรื่องแรกของ ‘CGM48’ เข้า Netflix แล้วตอนนี้ เป็นหนังที่มีความยาว 1 ชั่วโมง 35 นาที เป็นหนังผีคอเมดี้จากประเทศไทย ผลงานผู้กำกับคุณชูเกียรติ ขึ้นหนึ่งใน top 10 ที่คนสูงมากจนขึ้นเป็นอันดับสองบนช่อง Netflix แล้ว

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์
ความยาว: 96 นาที
นำแสดงโดย: วีรยา จาง, มิลิน ดอกเทียน, วนรัตน์ รัศมีรัตน์
กำหนดฉายในไทย: 23 มิถุนายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก ผ้าผีบอก นับเป็นหนังไทย ผ้าผีบอก netflix แฟนเซอร์วิส ลำดับต้น ๆ ของปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะนี่คือการนำเอาสาว ๆ ไอดอล BNK48 โคจรมาเจอกับหนุ่ม ๆ คู่จิ้นสุดฮอตที่เป็นขวัญใจสาวทั้งประเทศ จึงทำให้เกิดการผนึกกำลังกันระหว่างทั้งสองด้อม ออกมาเป็น “ผ้าผีบอก” หนังที่ฉาบหน้าเอาไว้ว่าเป็นเรื่องราวของผีสาง แต่เนื้อในนั้นแท้จริงแล้วเต็มไปด้วยความโบ๊ะบ๊ะ ที่มีทั้งกินได้บ้าง..ไม่ได้บ้างปะปนกันไป

ด้วยความที่ iAM Films เริ่มรุกงานหนัง เรื่องแรกก็จัดเต็มขนเมมเบอร์ BNK48 มาทีเดียว 5 คน จัดนักแสดงชายมาเสริมทัพสร้างสีสัน มีมะเดี่ยวมาเป็นโปรดิวเซอร์ดูแลการผลิต ส่งไม้ให้ ณัฐพงษ์ อรุณเนตร รับหน้าที่กำกับ หลายคนก็อาจสงสัยว่าเขาเคยมีผลงานอะไรออกมาก่อนหน้าบ้าง ก็จะบอกว่า เขาเคยเป็นผู้กำกับร่วมในซีรีส์ ‘ทริอาช’ ก่อนหน้านั้น ก็คือเคยผลงานการแสดงในหนังอย่าง ’13 เกมสยอง’ , ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ และ ‘หลุดสี่หลุด’ หนังเรื่องนี้คงจะเป็นงานแรกๆ ที่เขาได้บินเดี่ยวอย่างจริงๆ จังๆ สักที

เรื่องย่อ

รีวิว ผ้าผีบอก

ผ้าผีบอก เป็นเรื่องราวของ อชิ หนุ่มโอตาคุผี ที่มองหาคอนเทนท์ไปทำแชนแนลยูทูบของตัวเองกับเพื่อน ๆ และนั่นก็นำพาให้เขามาพบกับ วิญญาณของอัญญานางหอมนวล ผีสาวโบราณเมื่อพันปีก่อน จากเวียงไชยเชษฐ์บุรี ที่นางได้ร้องขอให้เขาช่วยสืบหาว่าใครเป็นคนที่ลงมือฆ่านาง และการตามหาเบาะแสครั้งนี้

ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับผีสาวอีกหลายตน ไม่ว่าจะเป็น สาระปี, สะบันงา และ เก็ดถะหวา ที่พวกนางเคยชิงชัยแข่งทอผ้า เพื่อหมายจะมัดใจ เจ้าหลวงรังสิมันต์ เมื่อครั้งปางก่อน และการเข้าใกล้ความจริงของพวกเขาก็เต็มไปด้วยอุปสรรคที่ท้าทาย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ผ้าผีบอก

จริง ๆ แล้วตัวพล็อตเองมีความน่าสนใจล่ะนะครับ ผ้าผีบอกฉายวันไหน เพราะถือว่าเป็นส่วนผสมที่แปลกใหม่ดีสำหรับหนังไทยเลยแหละ โดยเฉพาะส่วนผสมของ “คอมมีดี้-สยองขวัญ-พีเรียด-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน” แถมยังจับเรื่องตำนานพื้นบ้าน ผสมกับแนวทางของละครแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่ดูโบราณ

แต่บอกไม่ได้ว่าอยู่ในยุคสมัยไหน เป็นเพียงโลเคชันสมมติที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ (เฉย ๆ ว่าเป็นล้านนา) แอบแซวนิยายพีเรียดผ้าผลงานของ ‘พงศกร’ และก็มีแนวทางของหนังสไตล์ Whodunit แถมยังบวกไซไฟนิด ๆ โรแมนติกหน่อย ๆ ด้วย

นั่นแหละครับ เริ่มได้กลิ่นแล้วใช่ไหมครับว่าตัวหนังจะออกมาเป็นอย่างไร ใช่ครับ มันออกมากาวมาก การ์ตูนโคตร ๆ แม้ตัวหนังในช่วงเริ่มแรกพยายามจะปูเรื่องให้เรารู้สึกน่ากลัว รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมของคนที่ฆ่าหอมนวล แต่หลังจากนั้นตลอดทั้งความยาวหนัง 100 นาที มันก็กลายเป็นความกาว เหมือนกำลังดูอนิเมะอะไรแบบนั้นเลยครับ คือถ้าใครที่จะดูเอาความสยอง ดูความ Whodunit อยากเป็นนักสืบปัวโรต์ ไรงี้ ขอให้ล้มเลิกความคิดนั้นซะเลยนะครับ

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก มาถึงปีนี้ นโยบายการสร้างหนังของ iAM Films ก็ยังคงน่าสนใจครับ ผ้าผีบอก hd อย่างที่เห็นว่า ค่ายเองก็พยายามจะหาส่วนผสมใหม่ ๆ ให้กับภาพยนตร์ แม้ว่าจะดูโยนหินถามทางไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นการเสิร์ฟอะไรใหม่ ๆ ให้แฟนคลับและคนดูหนังอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ส่วนผสมแบบหนังอินดี้ (Where We Belong) การใส่ความเป็นอีสานบ้านเฮาใน ‘ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้’ (2563) หรือการใส่ส่วนผสมแนวแคนดิดใน ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ (2564)

ในภาพยนตร์ล่าสุดอย่าง ‘ผ้าผีบอก’ เรื่องนี้ก็เช่นกัน คราวนี้ถือว่าเป็นส่วนผสมที่แม้จะยังไม่ได้ถึงกับกระชากฟีลจากไทบ้านมากนัก เพราะตัวหนังก็ยังหยิบเอาวัฒนธรรมภาคเหนือ-อีสานมาปรับใช้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ส่วนผสมสูตรนี้ มาจากโปรดิวเซอร์อย่าง ‘มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ และได้ ‘อั้ม-ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์’ นักแสดงจากภาพยนตร์ของพี่มะเดี่ยว ทั้ง ’13 เกมสยอง’ (2549), ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ (2551) และ ‘หลุดสี่หลุด’ (2554) และเคยผ่านงานมิวสิกวิดีโอของทั้ง BNK48 และ CGM48 มานั่งแท่นผู้กำกับครั้งแรก

ในแง่ของการแสดง ในหลาย ๆ เรื่องที่มี BNK48 เรามักจะเห็นปัญหาของการเฉลี่ยบทบาทของเมมเบอร์ที่จะหนักเฉพาะเมมเบอร์บางคน หรือการที่เมมเบอร์รับบทบาทในหนังบางเรื่องได้ไม่เข้าปากเข้าบท แต่กับหนังเรื่องนี้ ต้องชื่นชมว่าสามารถแก้เกมตรงจุดนี้ได้ค่อนข้างดีนะครับ อาจจะเพราะว่าจำนวนเมมเบอร์+หยิ่นวอร์+ทีมแก๊งรายการผีนั้นถือว่ากำลังดี ไม่เยอะเกิน สามารถเฉลี่ยแอร์ไทม์ได้ค่อนข้างดีเลย

บทสรุป

ผ้าผีบอก นี่คือหนังคัลต์ ผ้าผีบอก เรื่องย่อ หรือจะเรียกมันว่าเป็น ‘หอแต๋วแตก’ เวอร์ชัน BNK48 ก็ได้ เพราะมันอุดมไปด้วยความวาไรตี้ครบรส ที่ใช้ความเบียวขั้นสุด ความกาว ล่อฮากันแบบไม่ต้องเกรงใจใคร ในขณะเดียวกัน มันก็ยังเกาะเกี่ยวความสยองขวัญ ตำนานผี และความบันเทิงแบบจักร ๆ วงศ์ ๆ มาสับ ๆ คลุกเคล้าจนกลายเป็นหนังผีตลกที่เหมาะกับการถอดสมองระหว่างดู เหมือนกำลังนั่งกินหมกกบอยู่หน้าฮ่านอย่างไรก็อย่างนั้นเลยครับ

เอาเป็นว่าโดยสรุปแล้ว ผ้าผีบอก เป็นหนังผีตลกที่พอดูได้เพลิน ๆ ไม่ต้องถามหาสาระใด ๆ จากหนังเรื่องนี้ หนังอาจจะสร้างมาเพื่อแฟนเซอร์วิสได้ดี แต่ภาพรวมนั้นก็ยังถือว่าเป็นหนังตลกที่ยังพอดูได้ในการทำหน้าที่สร้างความบันเทิงได้ตามโจทย์

แม้หนังจะเต็มไปด้วยจุดบกพร่องมากมาย การเล่าเรื่องที่ยังไม่กลมกล่อมและน่าขัดใจไปสักหน่อย แต่กระนั้นหนังก็ได้ฉายแสงให้เห็นเพชรเม็ดงามทางการแสดงให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจ เป็นหนังที่ไม่คาดหวัง…คุณก็จะไม่ผิดหวังแต่อย่างใด

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

หลาย ๆ คนที่ได้เห็น trailer หรือ ชื่อเรื่อง ต่างก็รู้สึกเหมือนผมกันใช่มั้ย หนังไทยnetflix คือ รู้สึกว่าหนังมันต้องสนุกแน่ ๆ 55 ซึ่งจะสนุกหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส ปอย หนัง ซึ่งผมเชื่อว่าคนดูหนังไทยหลายคนอาจมีความคาดหวังในภาพยนตร์ไทย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี แนวสยองขวัญเรื่องล่าสุดอย่าง Ghost Lab: ฉีกกฎทดลองผี ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ไม่ใช่แค่เป็นผลงานจากค่าย GDH x Netflix เท่านั้น หากแต่เป็นผลงานการกำกับของ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ที่เคยประสบความสำเร็จจากการกำกับภาพยนตร์แนวเดียวกันมามากมาย

“คุณเชื่อในโลกหลังความตายไหม” หลังจากเห็น “ผี” ตัวเป็น ๆ ด้วยกันครั้งแรก กล้า และ วี แพทย์หนุ่มคู่หูตัดสินใจร่วมกันทำการทดลองเพื่อหาทางพิสูจน์ว่า “โลกหลังความตาย” มีจริง และ ในการค้นหาทฤษฎีควบคุมการปรากฏตัวของผี พวกเขาต้องออกตามล่าวิญญาณมาเป็น “ผู้ร่วมทดลอง” ด้วยความเชื่อมั่นว่า พวกเขาจะเป็นบุคคลกลุ่มแรกของโลกที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ได้ว่า “ผีมีจริง” โดยหารู้ไม่ว่าคำตอบที่ตามหานั้น มาพร้อมกับหายนะที่ไม่คาดคิด

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี (อังกฤษ: GHOST LAB) เป็นเว็บภาพยนตร์ไทย GHOST LAB แนวสยองขวัญเชิงวิทยาศาสตร์ กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา ผลิตโดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า และ จอกว้าง ฟิล์ม ภายใต้การควบคุมการผลิตโดย เน็ตฟลิกซ์ นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร พาริส อินทรโกมาลย์สุต ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ มีกำหนดเผยแพร่อย่างเป็นทางการบนเน็ตฟลิกซ์ทั่วโลก ในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่สองที่ได้ฉายบนเน็ตฟลิกซ์ในฐานะภาพยนตร์ต้นฉบับของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix Original Movies) ต่อจาก บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต: วันเทก และ ยังถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ถ่ายทำด้วยเทคโนโลยี HDR ตามมาตรฐานของเน็ตฟลิกซ์ และ ดอลบี วิชั่นตลอดทั้งเรื่อง

การดำเนินเรื่อง

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

เป็นเรื่องหมอหนุ่มสองคน วี (ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร) และ กล้า (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ที่หมกมุ่นกับการทำวิจัย และ หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ว่าผีมีจริง (ย้ำ… ตัวเอกเป็นหมอ และ พยายามหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ว่าผีมีจริง)

ซึ่งพล็อตมันทำให้เรานึกถึงหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง Flatliners (2017) ที่เล่าเรื่องกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่ทำให้หัวใจตัวเองหยุดเต้นชั่วขณะเพื่อทำการทดลอง และ หาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย แต่เราไม่ได้ดูเรื่องนั้น เลยยังพูดถึงไม่ได้มาก แปะไว้ก่อน

เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องตัวเอกเป็นหมอหรือเป็นเด็กสายวิทย์แล้วมาหมกมุ่นเรื่องผี แต่เราคิดว่า สิ่งที่ตัวเอกใน Ghost Lab ทำเพื่อการวิจัยในหนังมันยังไม่ค่อยวิทย์มากพอ ไม่แน่ใจว่าคนเขียนบทมีสายวิทย์บ้างมั้ยหรือได้ปรึกษาคนสายวิทย์มามากน้อยแค่ไหนน แต่เท่าที่ดูจากหนัง หนังมันเหมือนเอาคนสายศิลป์มาทำแล็บ เหมือนเอาเด็กศิลป์มาเขียนบทหนังให้มีความวิทย์ ๆ แล้วมันแตะได้แค่วิทย์ระดับประถม-ม.ต้น เช่น การตั้งสมมติฐาน การหาตัวแปร หรือกระทั่งพยายามจัดไฟลัมให้กับผี ฯลฯ

แล้วไอเดียส่วนใหญ่ก็ตั้งบนพื้นฐานของอารมณ์ความรู้สึกเหมือนหนังผีทั่วไป เช่น ผีโผล่มาให้เห็นเพราะผีห่วง/ผีแค้น นอกเหนือจากนั้น การทดลองก็ทำแบบทั่วไปเหมือนรายการล่าท้าผีทั่วไป เช่น พยายามตั้งกล้องจับภาพผี ตรวจวัดอุณภูมิโดยรอบ ฯลฯ สั้น ๆ ก็คือ ถ้าจะทำแค่นี้ ไม่ต้องวางตัวเอกให้เป็นหมอระดับท็อปรุ่นก็ได้

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

เอาตรง ๆ จากความรู้สึกจืดเลย ตั้งแต่เริ่มเรื่องมาเหมือนพยายามปู ฉีกกฎทดลองผี สปอย เพื่อให้ไปสู่การทดลองต่าง ๆ แต่พอมาถึงการทดลองที่ตัวไอซ์ต้องฆ่าตัวตาย ได้แต่ร้องเห้ย! แบบงง ทำไมถึงตัดสินใจไปแบบง่ายมากทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของงานวิจัยนี้ หลังจากนั้น เส้นเรื่องก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มันไม่ใช่พลิกแบบสุดยอดว่ะ แต่พลิกแบบที่พาคนดูหลงไปทางไหนก็ไม่รู้ แล้วเหมือนสุดท้ายพยายามจะตบคนดูกลับมา แต่ก็ตะเลิดไปไกลซะแล้ว

ที่รู้สึกอีกอย่าง คือรู้สึกว่าเสียดายนักแสดงหลาย ๆ คนในเรื่องนี้มากโดยเฉพาะคุณสู่ขวัญ ที่มาเล่นเป็นแม่ เพราะเอาระดับคุณสู่ขวัญมา แต่เป็นฉากแบบไม่ถึง 5 นาที และ ณิชา ที่ได้เล่นภาพยนตร์ทั้งที แต่ออกมาแบบนิด ๆ หน่อย ๆ เลยทำให้รู้สึกเสียดายมาก ๆ บทน่าจะส่งให้ไปได้ไกลกว่านี้

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี เราต่างได้ยินเรื่องเล่า หนังผี ของสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่เรียกว่า ‘ผี’ หรือ ‘วิญญาณ’ มาช้านาน แต่ใครเล่าจะบอกได้อย่างเต็มปากว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนี้มีอยู่จริง จะเต็มที่ก็มีเพียงหลักฐานชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น ภาพถ่าย ที่สุดท้ายผลพิสูจน์ก็มักออกมาในทางตรงกันข้ามเสมอจากการใช้กฎเกณฑ์ทางหลักวิทยาศาสตร์เข้าช่วย แล้วถ้าหากสมมติว่ามีคนที่ปักใจเชื่อเรื่องของการมีตัวตนอยู่ของโลกหลังความตาย และ พร้อมจะ ‘แลกทุกสิ่งทุกอย่าง’ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าพวกเขาเชื่อไม่ผิดนั้นจะเป็นอย่างไร

สิ่งที่กล่าวมาในข้างต้นคือธีมหลักของภาพยนตร์เรื่อง Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี ที่ผู้กำกับ ‘กอล์ฟ – ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ ต้องการนำเสนอออกมา ผ่านตัวละคร ‘กล้า’ – อาจอง สุญญตา (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) และ ‘วี’ – ชีวี พรหมเมธัส (ธนภพ ลีรัตนขจร) สองหมอแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ซึ่งมีความเชื่อในเรื่องของโลกหลังความตายแบบสุดขั้ว ทางหมอกล้าพยายามจะพิสูจน์ทุกวิถีทางให้คนอื่นเชื่อว่า ‘ผีมีอยู่จริง’ จากอดีตวัยเด็กที่เขาปักใจเชื่อว่าเคยพบกับวิญญาณของพ่อผู้เสียชีวิตไป ขณะที่หมอวีเชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องจินตนาการ หลักการวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายเรื่องลี้ลับนี้ได้ทั้งหมด จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่ง พวกเขาได้มองเห็นวิญญาณที่โดนไฟคลอกร่วมกัน และ จุดนี้เอง ส่งผลให้ทั้งคู่ตกลงปลงใจเริ่มแผน ‘ล่าแสงเหนือ’ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าผีมีอยู่จริง และ นำงานวิจัยที่ว่าตีพิมพ์ลงยังนิตยสาร The Experiment

บทตั้งต้นภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่เรามักจะได้เสพภาพยนตร์แนวภูตผีจากฝีมือผู้กำกับไทย ชนิดที่ว่าเป็นการเจอจากการลบหลู่ ลองของ หรือแนวสืบสวนสอบสวน แต่กลับไม่ค่อยเห็นในแนวตั้งข้อสมมติฐานเป็นแก่นหลักของเรื่องเสียเท่าไรนัก Ghost Lab จึงเปรียบเสมือนข้อเชื้อเชิญผู้ชมให้ก้าวตามมา แล้วอุดมคติในเรื่องโลกหลังความตายของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

จุดนี้ถือเป็นวัตถุดิบฟรีสไตล์อย่างมากในการทำหนังผี เพราะเชื่อเถอะว่าไม่เคยมีคนตายที่ไหนกลับมาเล่าให้เราฟังแบบตัวเป็น ๆ ได้ว่า เมื่อถึงจุดจบของชีวิตแล้ว พวกเขาเจอต้องไปพบเจออะไรบ้าง

บทสรุป

ผลงานจากค่าย GDH ของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา หนังผี gth ที่เน้นทำแนวสยองขวัญจากผลงานแจ้งเกิด บอดี้ ศพ19 (2550) และ กำกับ 4 กับ 5 แพร่งตอน “ยันต์สั่งตาย” กับ “หลาวชะโอน” ซึ่งมาคราวนี้เหมือนตั้งใจฉีกกฎหนังผีเต็มที่ด้วยการใช้แนววิทยาศาสตร์การทดลองมาร่วมด้วย ซึ่งในตอนแรกคิดว่าคล้าย FLATLINERS (ขอตายวูบเดียว) หนังสยองขวัญกึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ชื่อดังในอดีตที่พึ่งมารีเมคทำใหม่ไม่นานนี้

ด้วยพล็อตต้องการทดลองพิสูจน์หาชีวิตหลังความตายเหมือนกัน แต่โกสแล็บเน้นไปที่เรื่องราวการทดลองให้ผีปรากฎตัว ซึ่งตัวเรื่องดูตั้งใจให้มีความแปลกใหม่กับหนังผีไทย เมื่อเรื่องเริ่มจากการพิสูจน์หาผีในรูปแบบต่าง ๆ แต่ที่หนังนำมาใช้กลับไม่ได้ใหม่ซะทีเดียว เพราะหนังผีแนวพิสูจน์บ้านผีก็เคยนำวิธีพวกนี้มาใช้จนเกร่อแล้ว อย่างกล้องจับความร้อน หรือการใช้กล้องถ่ายผีโดยตรงไม่ติดตามกฎในเรื่องที่อ้างว่ายุคนี้มีกล้องมากมายทำไมไม่มีคลิปผีจะ ๆ

กลายเป็นการพิสูจน์โดยการถ่ายพวกปรากฎการณ์ โพลเตอร์ไกสท์ (Poltergeist) ก็คือปรากฎการณ์ผีหลอกจากข้าวของเคลื่อนที่ได้ ทำให้ตัวเรื่องที่ดูเหมือนจะแปลกใหม่ ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกให้เห็นเลย ซ้ำร้ายยังกลายเป็นว่าความพยายามให้เรื่องนี้ฉีกกฎต่าง ๆ ของหนังผี กลับกลายเป็นความไม่สมเหตุผลจนถึงขั้นตลก (อย่างไม่ตั้งใจ) กับบทหนังที่พยายามจริงจังสุดชีวิตไปแทน

หนังผีที่พยายามอย่างมากที่จะฉีกแนวหนังผีไทย แต่บทกลับไปไม่ถึงไหน หลายสิ่งที่นำเสนอไม่ได้ใหม่เลยกับคนดูหนังผีแนวท้าพิสูจน์แบบต่าง ๆ ที่เคยมีมาก่อนเยอะแล้ว แต่ปัญหาของเรื่องจริง ๆ คือความพยายามลากเรื่องให้น่ากลัวแบบมีเหตุผลควบคู่ไปกับทฤษฎีวิทยาศาสตร์ แต่ไม่สำเร็จเพราะเหตุผลกับการเดินเรื่องมันไปกันไม่ได้ มีความย้อนแย้งกันในตัวตลอดเวลา จนรู้สึกแอบตลกอยู่หลายฉากแบบไม่ตั้งใจไปจนจบเรื่องเลยทีเดียว

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

พร้อมแล้วครับ ที่ซุปเปอร์สตาร์ดังอย่าง มาริโอ้ จะกลับมาเฉิดฉาย หนังไทยมาใหม่ กลับมาทวงบัลลังก์ความเป็นซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 อีกครั้ง ส ปอย หนัง ซึ่งอย่างที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนต่างรู้ดีว่า ฝีไม้ลายมือการแสดงของเขานั้น ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ยอดเยี่ยมเพียงไหน ซึ่งต้องยอมรับเขาจริง ๆ ของคนไทยอีกครั้งด้วยผลงาน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ โกอินเตอร์อย่างเต็มตัว เรื่องแรกในชีวิตการเป็นนักแสดงสำหรับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง 77 Heartwarmings – 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการแสดงของพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ กับผลงานโกอินเตอร์ ระดับเอเชียแบบเต็มตัว ในภาพยนตร์ฮ่องกงครั้งแรก อย่าง “77 Heartwarmings (77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก)” ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ผลงานผู้กำกับ เฮอร์แมน เหยา โดย ไร้ท์ บิยอนด์ และ เอ็มเพอร์เรอร์ โมชั่น พิคเจอร์ส บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวผู้ต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตนั่นก็คือ “การแต่งงาน” แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้เสียทีว่า แท้ที่จริงแล้วเธอต้องการเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์จริง ๆ หรือแค่เพราะกลัวการที่จะต้องขึ้นไปโหนอยู่บน “คาน” กันแน่

ชื่อเรื่อง 77 Heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก
ประเภท โรแมนติก
นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, ชาร์ลีน ชอย, โจวป๋อหาว
กำกับโดย เฮอร์แมน เหยา
กำหนดฉาย 29 กรกฎาคม 2021 (เฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ซีนีม่า)

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก 77 Heartwarmings – 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก 77 heartwarmings พากย์ไทย ซูเปอร์สตาร์หนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ สวมบทเป็นลูกชายคนเดียวของเศรษฐีผู้ร่ำรวย ซึ่งก้าวเข้ามาทำให้หัวใจของนางเอกสาวของเรื่องที่รับบทโดยนักแสดงสาวที่คอหนังจีนรู้จักกันดีอย่าง “ชาร์ลีน ชอย” ต้องถึงคราวหวั่นไหว เพราะต้องเลือกเอาระหว่างแฟนเก่าที่คบกันแบบคบ ๆ เลิก ๆ มาตลอด หรือต้องการที่จะสานสัมพันธ์ครั้งใหม่กับลูกชายเพลย์บอยของเศรษฐีคนนี้ที่เธอแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของเขาเลยสักนิดเดียว

เรื่องย่อ

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

ถึงเวลาเลือกชุดแต่งงานแล้ว แต่ “เอวา” (ชาร์ลีน ชอย) สาวสวยผู้อยากจะก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์จนตัวสั่นกลับยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องราวของชีวิตคู่อย่างไรดี เพราะไม่เพียงไม่รู้ว่าตนเองต้องการชุดแต่งงานแบบไหนเท่านั้น แต่เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า คนที่จะมาเป็น เจ้าบ่าว จะต้องเป็นคนอย่างไรอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการที่ต้องทำงานในฐานะของทนายความผู้เชี่ยวชาญในคดีฟ้องหย่าที่ผ่านการเห็นคนเลิกรากันมา แล้วสารพัดรูปแบบ ทำให้ เอวา กลายมาเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อถือในเรื่องของ รักแท้

การกลับมาของสตาร์อันดับ 1 มาริโอ้ เมาเร่อ

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเอกหนุ่มไทย 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก เต็ม เรื่อง ที่มีแฟนคลับฝั่งเอเชียมากเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับพระเอกหนุ่มซุปเปอร์สตาร์ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ที่มักจะมีผลงานโฆษณาพรีเซนเตอร์ให้แฟนคลับต่างชาติได้ดูกัน ล่าสุดปีนี้ได้ฤกษ์ปล่อยผลงานโกอินเตอร์แบบเต็มตัวเรื่องแรกกับภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้จากจีนเรื่อง “77 Heartwarmings” หรือ “77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก” มาให้แฟนคลับชาวไทยกับแม่ ๆ จีนได้ดูกันให้หายคิดถึง

แถมเรื่องนี้ยังได้รับบทเป็น “เพลย์บอยหนุ่มรูปงาม” จัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผมแบบหล่อสุด ๆ อย่างแน่นอน เริ่มฉายวันที่ 17 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เครือ เอส เอฟ เท่านั้น งานนี้ใครคิดถึงหนุ่มมาริโอ้ห้ามพลาด ไปส่งกำลังใจกันเยอะ ๆ หนุ่มโอ้จะได้มีผลงานโกอินเตอร์ออกมาให้ติดตามกันอีก

อันเนื่องมาจากเสน่ห์ในรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ และ ฝีไม้ลายมือในการแสดงของเขาที่ฝังอยู่ในใจของผู้ชมในภาคพื้นเอเชียอาคเนย์มานานแล้ว รวมไปถึงในประเทศจีน และ ฮ่องกง ตลอดจนในไต้หวัน ล่าสุด มาริโอ้ ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง “77 Heartwarmings” หรือ “77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก”

ซึ่งเป็นภาคต่อของ “77 Heartbreaks” ร่วมกับ นักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว และ ดาราสาวผู้โด่งดัง ชาร์ลีน ชอย (หรือ อาซา) โดยในเรื่องเขาจะต้องสวมบทเป็นคู่ปรับที่แข็งแกร่งในเรื่องความรักกับนักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว เพื่อแย่งชิงความรักที่มีต่อนางเอกของเรื่องคือ ชาร์ลีน ชอย

ใน “77 Heartwarmings” มาริโอ้ รับบทเป็นมือที่ 3 ที่เข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวเอกของเรื่องคือ “โจวป๋อหาว” และ “ชาร์ลีน ชอย” ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงหัวใจของหญิงสาวที่เขากำลังหมายปองอยู่ “เขามีรูปร่างที่ฟิตสุด ๆ แถมยังมีทักษะของมวยไทยที่ดีมาก ๆ อีกด้วย” ผู้กำกับฯ เฮอร์แมน เหยา กล่าวเสริม “

นอกเหนือไปจากการที่เขาสามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครเป็นอย่างดี จึงทำให้การแสดงของเขาออกมาดูอบอบอุ่น และ เป็นธรรมชาติเหมือนกับผู้ชายที่พร้อมจะออกมาปกป้องสาวคนรัก แถมเวลาที่พักการถ่ายทำเราก็มักจะมีเรื่องสนุก ๆ มาคุยกันแทบไม่หยุด ทำให้บรรยากาศในกองถ่ายมีความเป็นกันเองมาก ๆ” นักแสดงสาว ชาร์ลีน ชอย กล่าวชื่นชมหนุ่มนักแสดงชาวไทยแบบแทบปิดไม่มิด

แต่แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือเก่งฉกาจแค่ไหน หากเมื่อ มาริโอ้ ได้เห็น ซาร์ลีน ชอย เป็นครั้งแรกก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นใจในการทำงานกับเธอ “ผมได้ยินมาว่าเธอเป็นถึงซูเปอร์สตาร์ในฮ่องกงคนหนึ่ง ผมเคยดูภาพยนตร์ของเธอมาแล้วหลายเรื่อง และ คิดว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถอย่างน่าทึ่ง

ดังนั้นตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ผมเลยจับมือทักทายเธอแบบเขิน ๆ และ พูดว่า สวัสดีครับ ผมชื่อมาริโอ เมาเร่อ รู้สึกดีใจ และ โชคดีที่ได้ร่วมงานกับคุณ คุณเป็นคนที่น่ารักมาก และ อายุของเรายังใกล้เคียงกันอีกด้วย” ในขณะที่ฝ่ายของ ชาร์ลีน ชอย เองก็กล่าวชมมาริโอ้ว่า “ตัวจริงของคุณน่ารักมาก และ ฉันได้ยินมาว่านอกเหนือจากการที่คุณเป็นนักแสดงหนุ่มชาวไทยที่เก่งสุด ๆ แล้วแล้ว คุณยังชอบซื้อพวกของเล่นต่าง ๆ ตามร้านขายของเล่นตามห้างสรรพสินค้าเหมือนฉันอีกด้วย

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก 77 Heartwarmings สานต่อความสำเร็จของ 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก ซับไทย  “77 Heartbreaks” ที่ออกฉายเมื่อปี 2560 ซึ่งทำให้เกิดเสียงสะท้อนของคนดูทั้งทางฝั่งของผู้หญิง และ ผู้ชายออกมามากมาย อาทิ ผู้ชายบางคนก็บอกว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่แฟนสาวของเขาทำนั้นมันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ส่วนฝ่ายผู้หญิงก็บอกว่า เพราะแฟนหนุ่มของเธอชอบสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้เธออยู่บ่อย ๆ ต่างหาก

ผลงานโก-อินเตอร์ในฐานะนักแสดงนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ใน “77 Heartwarmings – 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก” โดย ไร้ท์ บิยอนด์ และ เอ็มเพอร์เรอร์ โมชั่น พิคเจอร์ส ได้ตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2562 นี้เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ , เอสเอฟซีนีม่า , เมเจอร์ฮอลลีวู้ด และ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า

เลยนำมาสู่บทสิ้นสุดของความรัก และ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน  ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หลังจากแต่งงานกันแล้วชีวิตรักของพระนางจะเป็นการจบแบบมีความสุขหรือไม่  ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ เอริก้า หลี่ โดยครั้งนี้ยังคงได้ทีมงานชุดเดิมทั้งเบื้องหน้า และ เบื้องหลังของหนังภาคก่อนมาร่วมงานกัน

บทสรุป

ถึงอย่างไรคนที่กระตุ้นให้เธอก้าวเข้าสู่จุดหมาย จังหวะหัวใจปกติ ปลายทางของความรัก ก็คือผู้เป็นแม่ และ เพื่อนรักที่คอยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการแต่งงาน และ มีครอบครัว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเตือนเธอถึงเรื่องสำคัญนั่นก็คือ เธอพร้อมที่จะกลับไปหาอดีตแฟนหนุ่มอย่าง อดัม (โจว ป๋อหาว) ผู้ที่เธอเคยหักอกเขามาแล้วไหม?

หรืออยากจะแต่งงานกับ ศิลปินหนุ่ม (มาริโอ้ เมาเร่อ) ที่เธอแทบไม่รู้จักนิสัยใจคอของเขาเลย นอกจากการเป็นลูกเศรษฐีร่ำรวยที่มีทรัพย์สินมหาศาล รวมทั้งเครื่องบินส่วนตัวสุดหรู หาไม่แล้วเธอก็จำต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าจะต้องห้อยโหนอยู่บน คานทอง ไปจนตลอดชีวิต

เหนืออื่นใดสิ่งที่เอวาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยก็คือ การที่ชายหนุ่มทั้งคู่ต่างก็พยายามที่จะพิชิตใจเธอโดยอาศัยตัวช่วย คือ แอปพลิเคชั่นจีบสาวยอดนิยมที่เรียกว่า 77 Heartwarmings เพื่อที่จะละลายน้ำแข็งในหัวใจของเธอให้กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง

โดยสรุปผมขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 6/10

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ถือเป็นภาพยนตร์เปิดโลก หนังไทยnetflix ที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านเรามากนัก ซึ่งตัวหนังเองก็ยังคง concept หนังไทยอยู่ ส ปอย หนัง นั้นก็คือความฮาที่แทบจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ของหนังไทยไปซะแล้ว แต่หนังก็ยังแฝงไปด้วยข้อคิดมากมายให้เราอีกด้วย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี สำหรับภาพยนตร์ไทยแนวตลกใน พ.ศ. 2565 นำแสดงโดย ณัฏฐ์ กิจจริต และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 และ จัดจำหน่ายโดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า ภาพยนตร์ผลงานของผู้กำกับคนเก่ง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่เคยฝากผลงานไว้อย่างฮาวทูทิ้ง (2019) และ ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2015) เรื่องนี้ยังคงเป็นสไตล์ดราม่า แต่มีความโรแมนติกคอมเมดี้เข้ามาด้วย ได้นักแสดงนำแม่เหล็ก อย่างสาวสวยญาญ่า อุรัสยา ประกบคู่กับหนุ่มหล่อ ณัฎฐ์ กิจจริต ตอนนี้ออกอากาศให้รับชมทาง Netflix แล้ว

เรื่อง : Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ
ประเภท : โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
นักแสดง : ญาญ่า อุรัสยา, ณัฎฐ์ กิจจริต
ระยะเวลาการรับชม : 2 ชั่วโมง 11 นาที

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์รสชาติใหม่ของเต๋อ เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ ดู นวพลซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์เป็นหนังคำคมของเหล่าสายเฮิร์ต ผสมผสานการเปิดโลกกีฬาสแต็ก ที่วัดกันด้วยความเร็วแบบวิต่อวิ และ คราวนี้หนังของเขาก็ ’แรง’ ขึ้นกว่าเดิมมากจริง ๆ จนมีสปีดพอ ๆ กับหนังแอ็กชันเลยล่ะ

แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีความฉีกจากแนวเดิมที่นวพลเคยทำมา แต่หนังก็ยังคง DNA ความเป็นนวพลไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องราวของการเติบโตของชีวิต และ ความสัมพันธ์ที่เป็นดั่งแก้วอันเปราะบาง เพราะเมื่อไหร่ที่มันแตกสลาย ก็จะไม่มีวันกลับไปเป็นแก้วได้ดังเดิมอีก

รวมไปถึงเรื่องราวความหลังสุดบีบหัวใจ ที่นวพลได้ซ่อนการจิกกัดสังคมไทยไว้ภายใต้ความเป็น ‘หนังกวนส้นตีน’ ของเขา ซึ่งสะท้อนมุมมองให้เราต้องฉุกคิดอยู่ตลอด ที่แม้ว่าโลกของเราในยุคนี้จะเร็วเพียงใด แต่กรอบบางอย่างก็ยังคงถูกฝังรากไว้ไม่เปลี่ยนแปลง

อีกประเด็นที่หนังยังเน้นคงเน้นหนักคือ การทำให้ตัวละครอย่างเกากลายเป็นตัวละครที่ Coming of Age ในวัย 30 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของอีโก้ผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง จนวันหนึ่งอีโก้เหล่านั้นจะทำลายตัวเขาเองในที่สุด เกาจึงเป็นภาพสะท้อนของการยอมรับตัวตนว่า Coming of Age นั้นไม่ใช่เพียงแค่การเป็นผู้ใหญ่เพราะวัย แต่คือการก้าวพ้นตัวตนเก่า ยอมรับความผิดพลาด ใช้ประสบการณ์ น้ำตา และ ความเจ็บปวด บ่มเพาะให้เติบโตเป็นคนที่ดีกว่าเดิม

เรื่องย่อ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

มันเป็นเรื่องราวของ เกา และ เจ คนแรกมุ่งหวังอยากจะเป็นเลิศในการแข่งขันเรียงแก้วเร็ว หรือที่เรียกว่า Sport Stacking แม้จะไม่มีใครมองเห็น ไม่มีคนสนใจ แต่คนที่เล็งเห็น และ เป็นแรงผลักดันเรื่อยมาคือคนหลัง เกาพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเป็นคนที่เร็วที่สุดในโลก

ส่วนเจเป็นคนที่มีความฝันอันธรรมดาที่สุด แต่เธอมีความพิเศษคือ ‘ใจดี’ ส่งผลให้เจทำทุกอย่างเพื่อให้เกาได้ใช้เวลาไปกับการฝึกให้มากที่สุดแต่ดูเหมือนสิ่งที่คิดไว้จะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไม่นานพวกเขาก็เลิกรากัน ไม่เท่านั้น ยังมีเด็กใหม่จากอีกฟากโลกที่เก่งกล้าท้าลองดี ดรามาบังเกิดแล้วตอนนี้ แถมมันยังส่งผลต่อความเร็วของเขาอย่างมาก ทางออกพอมี แต่จะใช่ทางออกจริง ๆ หรือไม่

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

ชอบตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องเลยที่คุณครูถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ชอบคำตอบของนักเรียนแต่ละคนรวมทั้งนักแสดงที่มาคามีโอด้วย เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ netflix แค่เปิดเรื่องก็ฮาแล้ว เรื่องราวความฝันของเกา ที่อยากเป็นนักเรียงแก้วกับบริบทสังคมไทย ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ นำเสนอออกมาได้ดี น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน

หนังให้ข้อคิดดี ๆ หลายเรื่อง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ และ เรื่องการทำตามความฝัน ไม่ว่าจะนักกีฬาโอลิมปิกหรือ นักเรียงแก้ว หรือใครก็ตามที่อยากทำอะไรให้สำเร็จสักอย่างหนึ่ง คีย์สำคัญคือการทุ่มเทฝึกซ้อม พัฒนาฝีมืออย่างหนัก และ ในการที่จะมีเวลาฝึกซ้อมให้ได้อย่างเต็มที่ มันมีหลายคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะพ่อ แม่ เมีย และ โค้ช

หนังเล่าส่วนนี้ออกมาได้ซึ้งกินใจ บางครั้งเมื่อหมกมุ่นกับอะไรมาก ๆ เราอาจหลงลืมความจริงข้อนี้ไปได้ และ อีกด้านหนึ่งถ้ามองในมุมมองของชีวิตคู่ เมื่อความรักมันไปต่อไม่ได้ มันก็เหมือนขโมยเวลาของกัน และ กัน

ผสมผสานเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่เข้ามาได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เรื่องซื้อบ้าน ทำอาหารเช้า ยันซักผ้า ตลอดไปจนถึงขายบ้าน ผู้กำกับใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อยที่ใส่ลงไป ทำให้หนังมีความสมจริง เข้าถึงได้ไม่ยาก เป็นชีวิตคู่ที่ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายให้ตลอดเวลา ส่วนอีกฝ่ายก็รับลูกเดียว มีความดราม่าเป็นช่วง ๆ แต่ไม่หน่วง ทุกปมดูสนุก ชอบบ้านของเกากับเจ สวยน่าอยู่

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ เอาจริง ๆ ก็เหมือนหนังหยิบเอาลายเซ็นความเป็นเต๋อ นวพล มาใส่ไว้ทั้งหมด ทั้งบทพูด เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ 037 ลีลาการพูด มุกตลก ลีลาการตัดต่อ เหมือนหนังโฆษณาของแกนั่นแหละ แต่แค่มันยาว 2 ชั่วโมง 12 นาทีเท่านั้นเอง ครั้งนี้ มันเล่าเรื่องราวของความรักในอะไรที่คนส่วนใหญ่เขาเมินเฉย แต่เป็นสิ่งที่อายุไม่เกี่ยว เด็กหรือแก่เท่าไหร่ก็เล่นได้หมด ว่าแต่…มันจริงหรือ?

นอกจากหนังจะเล่าถึงเจ คนรักที่ยินดีมาอยู่ด้วยกันเพื่อให้เกาได้ทำตามฝันอย่างเต็มที่ ก็ยังมีปอ (วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ) คนที่คล้ายจะเป็นผู้จัดการส่วนตัว และ คนดูแลสถาบันสอนการเล่น Sport Stacking แม่ของเกา (กนกวรรณ บุตรชาติ) ที่ปล่อยให้เกาได้ฝึกปรือฝีมือ และ เลือกจะเอาใจช่วยในแบบของตนเอง เมทัล (อนุสรา กอสัมพันธ์) แม่บ้านที่เก่งทุกอย่างเกี่ยวกับงานบ้าน

นอกเหนือจากนั้น ก็ยังมีคนขับรถ คนสอนภาษา เด็ก ๆ ในอะคาเดมีของเกา โดยเฉพาะ ไผ่หลิว (คีตภัทร ป้องเรือ) ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญพาเขาข้ามผ่านขีดจำกัดของตนเองได้

โดยเฉพาะเจ แฟนสาวที่เห็นดีเห็นงามกับความฝันที่ใคร ๆ มองว่าไร้ค่า แต่เธอกลับทุ่มเทเพื่อเขามาเป็นสิบปี มันเป็นเวลานานเกินไปด้วยซ้ำ จนไม่น่าจะมีใครยอมทำเพื่อความฝันของคนอื่นโดยทิ้งลืมความฝันความสุขของตนเองได้ขนาดนี้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ toxic ชวนรู้สึกอึดอัดแทน แม้หนังจะหันกลับมาเล่าในมุมของเจบ้าง แต่หนังก็ยืดไปยืดมาพร้อมกับเล่นมุกหน้าตาย จนเริ่มทำลายสิ่งที่ปูมา

บทสรุป

เป็นภาพยนตร์ไทยแนว เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สนุกไหม โรแมนติกคอมเมดี้ ดราม่า ที่สนุก ขำ ดูไม่เบื่อ เพลินตลอดทั้งเรื่อง เล่าเรื่องการทำตามความฝัน และ ความสัมพันธ์ชีวิตคู่ ได้สมจริง มีดราม่าแต่ไม่หนักหน่วง ดูเพลินมาก

โดยรวมแล้ว Fast and Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ โดดเด่นในแง่ของการนำเสนอรสชาติใหม่ในหนังของเต๋อ นวพล ซึ่งค่อนข้าง ‘ย่อยง่าย’ กว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ของเขา แถมหนังยังอุดมไปด้วยกองทัพนักแสดงที่ตบเท้าเข้ามารับส่งมุกกันอย่างพร้อมเพรียง และ ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สอดแทรกการ Coming of Age ของผู้ใหญ่ได้อย่างดีมาก จนเราอยากรู้เลยว่าหนังเรื่องต่อไปของเขา จะเอาอะไรมาเล่าอีก

นับเป็นอีกหนึ่งผลงานของสาวญาญ่าที่ไม่ควรพลาด ให้คะแนน 7/10 รับชมได้ทาง Netflix