Category Archives: รวมรีวิว

รีวิว love battle

รีวิว love battle

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับวันนี้มาแนะนำหนังไทยอีกเรื่องที่ชวนให้น่าติดตามไม่น้อย สำหรับ ในเรื่อง ของ ความรัก คุณเชื่อในข้อมูลหรือหัวใจหรือเปล่าละ เป็นธีมสำคัญของหนังไทยเรื่องล่าสุดที่มีชื่อว่า “Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” หนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ จากค่าย CJ Major Entertainment ที่แม้หน้าตาของหนังจะดูสูตรสำเร็จ แต่หนังก็ถ่ายทอดมุมมองความรักที่มีเรื่องของ “สถิติ” และ “ระยะเวลา” เข้ามาเกี่ยวข้อง ออกมาได้น่าสนใจทีเดียว รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน

เล่าเรื่องราวของ กรมธรรม์สุดแปลก “2 ปี ทวีทรัพย์” เงื่อนไขคือ หากคู่รักคบกันเกิน 2 ปี จะได้เงินคืนบวกกำไร 30% นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้คน 2 คน โคจรมาพบกัน ระหว่าง “แทน” นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ที่ไม่เชื่อในความรัก แต่เชื่อในตัวเลขสถิติ ผู้ออกแบบกรมธรรม์สุดแปลกนี้ และ “จี๊ด” สาว Matching คู่รัก ที่ศรัทธาในรักแท้

ส ปอย หนัง เรามักจะได้ยินประโยคที่ว่า “เพราะชีวิต คือความไม่แน่นอน” อยู่บ่อยครั้ง เราอาจจะพบว่าคนรู้จักรอบตัวเรา ป่วย ไม่สบาย หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตไปโดยที่ ไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ ไม่ทันได้ตั้งตัว ความไม่นอนดังกล่าวทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทประกัน ที่ออกกรมธรรม์ต่าง ๆ เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของชีวิตเหล่านั้น เพียงเพราะผู้ซื้อประกันจะได้รับเงินชดเชย หรือกระทั่งการดูแลในยามที่เราประสบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว love battle

รีวิว love battle

รีวิว love battle เดิมทีบทหนังเขียนโดย คิม มินยอง กับ ชเว จินวอน นักเขียนบทชาวเกาหลี ซึ่งทางโปรดิวเซอร์อย่าง โยนู ชเว ก็เลือกมาพัฒนาบทกับทางซีเจ เมเจอร์ และ เวิร์คพอยต์ โดยให้ทาง วิรัตน์ เฮงคงดี ผู้กำกับยอดมนุษย์เงินเดือนและ รายการดังของเวิร์คพอยต์มากำกับ

ซึ่งจุดเด่นที่สุดของไอเดียเรื่องคงหนีไม่พ้นทัศนคติแบบแอนตี้โรแมนติกของตัวละคร แทน ที่คำนวนทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ความรัก ซึ่งหากทำได้ถึงเชื่อว่านี่น่าจะเป็นหนังโรแมนติกพลอตก้าวหน้าสไตล์เกาหลีเทียบเคียง My Sassy Girl (2001) ได้เลย

แต่น่าเสียดายว่าพอเดินทางมาเป็นหนังไทย ตัวหนังกลับกลายร่างเป็นเพียงหนังโรแมนติกเล่าเรื่องธรรมดาผสมกราฟิกให้พอตื่นตาสไตล์หนังอย่าง Stranger Than Fiction (2006) เท่านั้นเอง โดยหนังดันไม่ลงลึกหรือเล่นกับรายละเอียดประกันมากพอว่ารูปแบบการชำระเบี้ยหรือผลประโยชน์ที่บริษัทจะให้เป็นแบบไหนถ้าเลิกกันก่อน2ปี รู้แค่ว่ารักให้ถึง 2 ปีประกันจะคืนผลตอบแทนให้ 30% และ พอรายละเอียดไม่มากพอความน่าเชื่อถือก็ลดลง ทีนี้การนำมาเชื่อมโยงกับปมปัญหาที่ว่าความรักคนเรามีอายุแค่ 2 ปีจริงเหรอ? เลยไม่ทำงานกับคนดูอย่างที่มันควรจะเป็นนัก

ส่วนในครึ่งหลังที่หนังเริ่มมาเล่าความสัมพันธ์ของ แทน กับ จี๊ด ก็ดันมาแบบงง ๆ โดยสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างประทับใจกัน คนดูได้แต่สงสัยว่า เฮ้ย! แกมองกันไม่ออกตั้งแต่แรกเหรอ แถมการวางปมอุปสรรคช่วงท้ายยังเหมือนดูยัดเยียดให้หนังหักมุมสไตล์หนังเกาหลีที่ต้องการให้คนดูสัมผัสรสเศร้าก่อนจะปลอบประโลมภายหลัง

ด้วยความที่หนังเล่าด้วยจังหวะที่ไม่คงเส้นคงวาทั้งเรื่อง แถมผู้กำกับยังไม่แม่นยำในแนวหนังที่ตัวเองกำลังทำ เลยยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่หนังวางไว้นัก แถมช่วงท้ายที่พยายามเอาคอนเทนต์ RAP IS NOW หรือ แรปอิสนาว ของเวิร์คพอยต์เองมาเป็นจุดพลิกผันของเรื่องยังทำให้เห็นความไม่พร้อมของนักแสดงในการเพิ่มทักษะที่หวังให้เป็นเสน่ห์ตัวละครจนพระเอกดูเอ๋อไปเลย

เรื่องย่อ

รีวิว love battle

เป็นเรื่องราวสงครามความรักของ แทน พระเอกหนุ่มผู้มองความรัก เป็นเพียงตัวเลข สถิติ และ การคำนวณ ด้วยการเอาความรักมาออกกรมธรรม์ ประกันความรัก กับ รัก 2 ปี ทวีทรัพย์ และ ไม่เชื่อว่ามีรักแท้ และ อีกฝ่ายหนึ่ง จี๊ด นางเอกสาวผู้ศรัทธาในความรักอย่างสุดซึ้ง เห็นความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

และไม่สามารถคิดคำนวณได้จึงเกิดสงครามการพิสูจน์ สถิติรัก กับ รักแท้เป็นหนังไทยที่ทำได้แปลกใหม่จากที่เราเคยได้ดู ซึ่งเป็นหนังที่ดูแล้วสนุก และ มีมุขตลก เบาสมอง แต่แฝงด้วยข้อคิดเป็นหนังที่มีเนื้อหาที่เข้มข้น น่าติดตาม มีความหลากหลายของอารมณ์ ทั้งเศร้า ดราม่า และ ตลก จัดว่าเป็นหนังดีมีคุณภาพเลยทีเดียว

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว love battle

ความน่าสนใจของ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน (Love Battle)” อยู่ตรงประเด็นที่ว่า ระหว่างทางของเรื่องที่หนังทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครอย่างแทน และ จี๊ด ในมุมมองของความรักที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาได้เจอกับเคสต่าง ๆ ของลูกค้าประกันรักสองปีทวีทรัพย์ ที่มีทั้งรัก ทั้งผิดหวัง สับสนในความสัมพันธ์ ทั้งสองก็เริ่มกลับมาสำรวจแง่มุมความรักของตัวเอง และ ตกผลึกทีละเล็กทีละน้อย เริ่มทำความเข้าใจในมุมมองของอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น

ตัวหนังเองค่อนข้างประสบความสำเร็จในการทำให้เราเชื่อไปกับโลกของตัวละครในเรื่อง ที่ไม่ว่าจะดู “เสมือนจริง” แค่ไหนก็ตาม แต่ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” ก็ยังอยู่ในหมวดหมู่หนังรักแฟนตาซี ที่มีหลากหลายรสชาติของความรัก แต่ท้ายที่สุดแล้ว

หนังก็ทำให้คนดูฉุกคิดได้เหมือนกันว่า ในทุกการตัดสินใจกับความสัมพันธ์ระหว่างคนเรานั้น จำเป็นแค่ไหนกันที่จะหยิบเอาข้อมูล “สถิติ” ของคนอื่น มาตัดสินความสัมพันธ์ของเราเอง ในเมื่อความรักนั้นเป็นเรื่องของคนแค่สองคน หาใช่คนทั้งประเทศหรือคนทั้งโลก

รีวิว love battle

รีวิว love battle โดยบาดแผลสำคัญคงหนีไม่พ้นการที่หนังดันไปเน้นที่ มิชชั่นในการตามเคสประกันมากกว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแทนกับจี๊ดที่กว่าหนังจะคิดได้ก็ปาไปครึ่งเรื่องแล้ว แถมเคสแต่ละเคสก็ยังเป็นเคสเดาง่าย ๆ แม้จะพลิกบ้างเช่น แม่สามีกับลูกสะใภ้เน็ตไอดอล คุณหมอเจ้าของร้านกาแฟกับกัปตันที่ฝ่ายหญิงดันมีอดีตกับแทน (แต่ดูแถให้เกี่ยวข้องกันมากเลย) หรือจะเป็นเจ๊เจ้าของร้านเครื่องสำอางกับเทรนเนอร์ฟิตเนส เพื่อพิสูจน์ว่า ทัศนคติของสังคม, อดีตของคนรัก หรือแม้แต่วัย จะชนะอุปสรรคของความรักได้หรือไม่

แน่นอนละว่าหนังโลกสวยพอจะให้ทุกเรื่องราวจบลงอย่างแฮปปีเอนดิงอยู่แล้วแต่กลับไม่ได้ทำให้คนดูเชื่อหมดใจเหมือนหนังโรแมนติกดี ๆ สักเรื่อง ซ้ำร้ายเรายังรู้สึกว่าบทหนังมักง่ายที่ไม่ได้เจาะลึกหรือให้มิติกับปัญหาความรักในปัจจุบันนัก

ทั้งที่คอนเซปต์ของเรื่องสามารถเดินไปสู่การวิพากษ์ปมปัญหาความรักในยุคดิจิทัลที่ยังคงมีเรื่องความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยมไปอย่างน่าเสียดาย พูดถึงนักแสดง ปั้นจั่น ปรมะ ไม่ได้แสดงแย่อะไร แต่เหมือนบทไม่ค่อยส่งเขาแต่แรก ดันให้มาโชว์เท่ตอนท้ายองก์ 2 ซึ่งถือว่าช้าเกินไป

แถมบุคลิกร้าย ๆ ของเขาในตอนแรกยังไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่าที่ควร ส่วน เอสเธอร์ ต้องบอกว่ารูปทรัพย์ช่วยเธอไว้ได้เยอะ เมื่อบทดันไม่ค่อยให้โอกาสเธอได้เล่นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแต่แรก แต่ครึ่งหลังนี่หลายซีนทำเอาหนุ่ม ๆ ละลายได้เหมือนกัน

ตรงข้ามกับนักแสดงสมทบอย่าง อุล ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา ที่เวิร์คพอยต์ปั้นมาอย่างดี และ เขาก็ขโมยซีนชาวบ้านซะเยอะ แถมให้มุกฮา ๆ กับเรื่องเยอะเลย นอกนั้นการปรากฎตัวของ เป้กกี้ ศรีธัญญา หรือ แรปเอก ก็ทำให้หนังมีสีสันไม่แห้งแล้งเกินไปได้ดี แต่ยังเทียบไม่ได้กับ ป้าแจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล อดีตนักแสดงสังกัดแดสเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มาในมาดคุณหญิงแม่ไม่ปลื้มลูกสะใภ้เน็ตไอดอลได้มีสีสัน และ ให้การแสดงสุดคมคาย รัก2ปียินดีคืนเงิน เต็มเรื่อง พากย์ไทย

สรุป

ถือว่าเป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่ง ดูแล้วสนุก และ ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ และ สุดท้ายยังได้ฝากข้อคิดในเรื่องของความรัก ที่แสดงให้เห็นว่า “ความรัก” นั้นเป็นเรื่องของสมอง และ หัวใจ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว และไม่สามารถที่จะคิดคำนวณออกมาเป็นตัวเลขได้

โดยรวมนี่เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ชอบมากครับ เป็นหนังที่ทำให้หัวเราะได้อย่างเต็มอิ่มมาก ๆ คอหนังรอมคอม ที่มีซีนจิกกัดเสียดสี แต่ภาพรวม Feel Good น่าจะชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากเลยครับ ยินดีคืนเงิน ภาษาอังกฤษ

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ

หนังไทยย้อนยุค คุณเชื่อเรื่องผีมั้ย คุณเคยถ่ายภาพติดวิญญาณมั้ย สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนังไทยในตำนานอีกเรื่อง ที่ถ้าหากใครเป็นแฟนหนังผี เชื่อว่าคงจะเคยได้ยินชื่อของ “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” ผ่านหูกันมาก่อนอย่างแน่นอน แต่หลายคนอาจจะยังไม่มีโอกาสได้รับชมหนังเรื่องนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่มั่นใจว่าสนุกหรือเปล่า!? ถ้าหากใครกำลังลังเลใจว่าควรจะลองเปิดหนังผีเก่า ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณดูกันหรือเปล่า!? รับรองว่าการอ่านรีวิวจากบทความชิ้นนี้จะช่วยไขความกระจ่างได้เป็นอย่างดี อย่างแน่นอน…

ส ปอย หนัง คุณเคยสังเกตภาพถ่ายที่คุณมีอยู่หรือไม่ บางทีอาจมีบางสิ่งซ่อนอยู่โดยที่คุณไม่รู้ตัว เป็นเรื่องราวของ ธรรม์ ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ กับ เจน แฟนสาวของเขา เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง แล้วตัดสินใจขับหนีไป ไม่นานทั้งคู่ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

เมื่อภาพถ่ายของ ธรรม์ นั้น ถ่ายติดแสงเงาประหลาดมาด้วย แรกเริ่มเขาก็คิดเพียงว่ามันเป็นแค่รูปเสีย แต่แล้วเขาก็พบว่ามันมีอะไรบางอย่างมากกว่านั้น คือมีเงาคล้ายกับใบหน้าของผู้หญิงติดมาในรูปด้วย ทั้งคู่เริ่มค้นพบว่าเงาที่ปรากฏในภาพทั้งหลายนั้นมีบางอย่างที่เชื่อมโยงถึงกัน ทั้งสองจึงเริ่มออกค้นหาว่าหญิงสาวในภาพคือใคร และ ต้องการสื่อสารอะไรกันแน่…

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ สำหรับ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ นั้น นับเป็นหนังผีสุดคลาสสิคอีกเรื่องของไทย ที่ในตอนฉายก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทะลุ 100 ล้านบาทไปแบบเต็ม ๆ อีกทั้งด้วยความสำเร็จบ้านตัวเอง ก็เลยได้รับความสนใจจากต่างประเทศทั้งจากฮอลลีวู้ด และ อินเดีย ที่ขอซื้อเอาลิขสิทธิไปสร้างต่ออีก ซึ่งหากใครที่ชอบหนังผี หนังสยองขวัญอยู่แล้ว Shutter ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องเก็บไว้ใน List ต้องดูอีกเรื่องอยู่เหมือนกัน ใครที่ชอบหนังสยองไทยพล็อตดี ๆ จากค่ายนี้อย่าง แฝด หรือ ลัดดาแลนด์ แล้ว ก็ควรเก็บเรื่องนี้เอาไว้อีกสักเรื่อง

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (อังกฤษ: Shutter) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญในปี 2547 ร่วมเขียนบท และ กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และ อชิตะ สิกขมานา สามารถทำรายได้ในประเทศไทย 107.1 ล้านบาท ยังขายลิขสิทธิ์ได้ใน 30 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้ ฉายในสิงคโปร์ได้ 33 ล้าน ที่เกาหลีติดอันดับ 5 หนังทำเงิน ฉายที่บราซิล 4 สัปดาห์แรก ทำรายได้สูงถึง 100 ล้านบาท

ชัตเตอร์ยังได้รับรางวัล Best Asian Film จากเทศกาล Fantasia Film Festival 2005 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และ รางวัลหนังแฟนตาซีที่ดีที่สุดในงาน Fantastic’s Arts Festival of Gerardmer ประเทศฝรั่งเศสภาพยนตร์ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2550 กำกับโดย Masayuki Ochiai ผู้กำกับชาวญี่ปุ่น นำแสดงโดย ราเชล เทย์เลอร์ นักแสดงชาวออสเตรเลีย ซึ่งมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Transformer มีกำหนดออกฉายในปี พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ยังมีผู้สร้างภาพยนตร์บอลลีวูด นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ภาษาทมิฬ ออกฉายในปี พ.ศ. 2550 ชื่อเรื่อง Sivi กำกับโดย K. R. Senthil Nathan ผู้กำกับชาวอินเดีย

เรื่องย่อ

รีวิว กดติดวิญญาณ

ธรรม์ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ช่างภาพหนุ่มกับ เจน (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) แฟนสาวของเขา ทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง แล้วตัดสินใจขับหนีไป ต่อมาทั้งคู่พบเหตุการณ์ประหลาด เมื่อภาพที่ธรรม์ถ่ายติดแสงเงาประหลาด และ บางภาพมีเงาคล้ายกับใบหน้าของผู้หญิงติดมาในรูปด้วย และ เป็นที่มาของการสืบเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ part 2

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว กดติดวิญญาณ

ส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ มีความน่าสนใจมากขึ้น อาจเป็นเพราะในช่วงเวลานั้น หนังผีในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงซบเซาเป็นอย่างมาก การเข้ามาของหนังผีที่มีเรื่องราว และ ภาษาหนังที่ถ่ายทอดความรู้สึกในการเป็นหนังผี ในฉากที่ไม่น่าจะมีอะไรก็ทำให้น่ากลัวได้ รวมไปถึงตอนจบที่ทำให้หลายคนคาดไม่ถึง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ กลายมาเป็นหนังที่น่ากลัว แม้จะไม่ได้ดีที่สุดแต่ก็เป็นแบบ “ลงตัว” เมื่อรวมเข้ากับการแสดงที่ดี ทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ กลายมาเป็นหนังที่น่าดูมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว

ในด้านความสยดสยองของภาพยนตร์ความน่ากลัวของผี ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญที่สุดในชัตเตอร์กดติดวิญญาณ และ ขึ้นชื่อลือชาจนกลายเป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดในใจของใครหลายคน มีฉากจำอยู่หลายฉากเช่น ฉากผีหลอกในสตูดิโอถ่ายภาพ ฉากผีหลอกในห้องเรียนวิชาถ่ายภาพ ฉากผีหลอกในห้องล้างฟิล์ม ฉากผีหลอกขณะขับรถตอนกลางคืน ผีหลอกในโรงแรมค่ำคืนวันฝนตก ผีหลอกในห้องแล๊ปชีววิทยาของมหาวิทยาลัย

และ ฉากเด็ดที่สุดที่อยู่ตอนท้ายเรื่องที่ทั่งหักมุม ทั้งตกใจ ทั้งอึ้ง ซึ่งทำให้หลายคนต้องตกตะลึงกับการเฉลยแบบนั้น การออกแบบผีนั้นมีความน่ากลัวสไตน์ญี่ปุ่น ซึ่งสไตล์การหลอกหลอนแบบญี่ปุ่นนั้น ได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้นอย่างเช่นผีใน Juon หรือผีใน the Ring คือการใช้สาวผีผมยาว และ ผีมักคลานเข้าหาตัวละคร หลอนทุกที่ ทุกเวลาไม่เว้นกลางวันกลางคืน ในเรื่องของจังหวะจะโคนจังหวะตกใจ เขาทำได้ดีมาก สรุป ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ได้รับการยอมรับจากคนดูทั่วไป และ นักวิจารณ์ภาพยนตร์อย่างมากว่า เป็น “หนังผีที่น่ากลัวที่สุด” และ ชื่อเสียงดังกล่าว ก็ยังคงทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ขึ้นแท่นหนังผีน่าชมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ณ ปัจจุบัน แถมยังเป็นหนังผีที่ได้รับรางวัลมากมาย นอกจากนี้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ยังถูกซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นของฮอลลี่วูด และ บอลลีวูดของอินเดียอีกด้วย

เรียกได้ว่าหนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของความน่ากลัว และ พล็อตของเรื่องราว ที่ถูกใจชาวโลกเป็นอย่างมากเลยทีเดียว จากความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง และ วิธีการเล่าเรื่องรวมถึงวิธีการหักมุมที่ชาญฉลาดนั้น ทำให้ชัตเตอร์กดติดวิญญาณเป็นหนังผีขึ้นทำเนียบความน่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งของไทย และ เข้าไปอยู่ในทำเนียบหนังผีที่น่ากลัวที่สุดในดวงใจใครหลายคน ทำรายได้ในการฉายไปประมาณ 107 ล้านบาท ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ส ปอย

บทสรุป

สำหรับผู้เขียนแล้วหนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เป็นหนึ่งในหนังผีในดวงใจตลอดกาลเรื่องหนึ่ง เพราะหนังผีเรื่องนี้ไม่ได้ขายเฉพาะ “ผีตุ้งแช่!” (ผีที่โผล่ออกมาหลอกให้ตกใจแบบไม่ทันตั้งตัว) แต่ในส่วนของเนื้อเรื่อง และปริศนายังมีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ part 1

จนทำให้ต้องคอยลุ้นแบบตัวโก่งไปจนกระทั่งจบเรื่องพร้อมกับความสงสัยว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไรกันแน่!? ดังนั้น ถ้าหากใครยังลังเลใจอยู่ว่าหนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณน่าดูหรือเปล่า!? อยากบอกเลยว่าไม่ต้องคิดแล้ว แนะนำให้หามาดูรับความหลอนกันเลย รับรองไม่มีผิดหวังกันอย่างแน่นอน…

ชื่อภาพยนตร์ : กดติดวิญญาณ
ประเภท : ผี / สยองขวัญ
ปีที่ฉาย : 2004
IMDb: 7.1/10

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด

หนังไทยมาใหม่ หากพูดถงึหนังไทย คงร้อยละ 60 % หละมั้งครับ ที่เป็นธีม อีสาน 5555 สำหรับผมนั้นไม่ได้ว้าวอะไรกับหนังเรื่องนี้ เนื่องจากเห็นออกมาเรื่อยๆเลยช่วงนี้ ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เข้าฉายในเดือนพฤษภาคมต้อนรับวันแรงงาน สำหรับ ออนซอนเด ผลงานการกำกับล่าสุดของ ธีรเดช สพันอยู่ ที่นักร้องร้อยล้านวิว เบิ้ล ปทุมราช ขอพ่วงตำแหน่งนักแสดงนำ และ ผู้อำนวยการสร้างด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ยังได้พี่น้องนักร้องเลือดอีสานมาร่วมสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟน ๆ มากมาย อาทิ ก้อง ห้วยไร่, แซ็ค ชุมแพ, ธัญญ่า อาร์สยาม และ ยังได้ แน็ก ชาลี โดดมาสมทบอีกด้วย

ส ปอย หนัง ผลงานเรื่องที่ 2 ของ 3 ศิลปินลูกทุ่งสายอีสาน เบิ้ล ปทุมราช , ก้อง ห้วยไร่ และ แซค ชุมแพ ต่อเนื่องจาก “ฮักแพง” ที่ออกฉายไปเมื่อปีที่แล้ว และ ประสบความสำเร็จไปพอควร เบิ้ล ก็เลยสานต่อโปรเจ็กต์นี้ และ ได้เพื่อนเก่าทั้ง ก้อง ห้วยไร่ และ แซค ชุมแพ กลับมาร่วมงานกันเหมือนเดิม พร้อมทั้งผู้กำกับคนเดิม พร้อมผู้กำกับ ธีรเดช สพันอยู่ ที่รู้มือรู้ใจกันมาก่อนจากเรื่องที่แล้ว มารอบนี้ เบิ้ล ปทุมราช มั่นใจถึงขนาดควักกระเป๋าออกทุนสร้างเองในนาม บริษัท แลนด์ ออฟ สไมล์ ฟิล์ม ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด ถ้าถามถึงพล็อตเรื่องของ “ออนซอนเด” นั้น จัดได้ว่าเบาบางยิ่งกว่ากองฟางข้างทุ่งนาเสียอีก เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้โฟกัสอยู่แค่ “การจีบหญิง” ของ ต่ง (เบิ้ล ประทุมราช) รวย (ก้อง ห่วยไร่) และ หนุ่มน้อยอย่างเดียว (เรียว เชฟแดนปลาแดก) โดยหนังเลือกจะเปิดเรื่องมาที่งานคอนเสิร์ตหมอลำ ซึ่งมีนักร้องอีสานชื่อดังอย่าง “บัวผัน” มาเปิดการแสดง

ด้วยความม่วนของเหล่าแฟนเพลง ต่งที่บังเอิญเหลือบไปเห็นแพตตี้ (ธนาพร มณีพันธ์) สาวสวยที่จากบ้านเกิดแดนอีสานไปนาน เพราะมัวแต่ไปหลงแสงสีในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ต่งจึงไม่รอช้าที่จะตรงปรี่ไปขายขนมจีบขณะที่ต่งกำลังจีบแพตตี้ อ๊อดแอด (แซ็ค ชุมแพ) ขาใหญ่ประจำหมู่บ้านก็ตรงปรี่มา ร่วมวงขอหลีแพตตี้อีกราย

ส่งผลให้สองหนุ่มต้องเข้าปะทะจนเกิดมวยกันกลางงานหมอลำ ร้อนให้เพื่อนสนิทอย่างรวยต้องมาช่วยเพื่อนฝ่าดงตีน ก่อนที่รวยจะได้รับบาดเจ็บระหว่างพาต่งหลบหนีการตามไล่กระทืบจากกลุ่มเพื่อนของอ๊อดแอดระหว่างที่รวยเดินทางไปยังอนามัยของหมู่บ้าน เขาก็ได้พบกับมะลิ (เสาวลักษณ์ สารกาล) คุณหมอคนสวย จมูกคมเป็นสัน หน้ารูปไข่ เขาตกหลุมรักทันที ระหว่างนั้นเองภารกิจตามจีบสาว ๆ ของหนุ่มก็เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความสรวลเสเฮฮาที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

เรื่องย่อ

รีวิว ออนซอนเด

ออนซอนเด ว่าด้วยเรื่องราวของ ต่ง, รวย, อ๊อดแอ๊ด สามหนุ่มอีสานบ้านทุ่งวัยแตกพันธุ์ที่กำลังมองหาแม่พันธุ์ทีดีสำหรับชีวิตคู่ ต่งนั้นต้องการแม่พันธุ์ที่เพรียบพร้อมเลิศเลอเพอร์เฟกต์ จึงมองข้าม ดอกหญ้า สาวไทบ้านเดียวกันที่มอบหัวใจให้ต่งไปทั้งดวง แต่พอมี ยุทธ หนุ่มเมืองกรุงมาดเซอร์ นักอนุรักษ์ท้องถิ่นเข้ามาชอบดอกหญ้า ทำให้ต่งเริ่มไม่พอใจ ส่วนรวยก็ต้องการ มะลิ มาเป็นคู่ชีวิตที่จะดูแลกัน และ กันตลอดไปแต่กำแพงเงินตราที่ต่างชั้นเป็นขวางหนามกั้นกลาง ออนซอนเด เต็มเรื่อง hd

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ออนซอนเด

สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือบรรดานักแสดงนำที่ล้วนเป็นนักร้อง แต่เมื่อมาสวมบทนักแสดง ก็ต้องชื่นชมว่าทุกคนทำได้ดี เล่นกันได้ลื่นไหลเหมือนกับนักแสดงมืออาชีพ มีที่ไม่ผ่านคนเดียวคือ ซาร่า เสาวลักษณ์ นางเอกใหม่หน้าลูกครึ่งที่มาจากเวทีประกวดนางงามหลายเวทีมารับบทเป็น “มะลิ” คุณหมอที่เป็นที่หมายปองของรวย , อาจจะด้วยความสำเร็จของ “ฮักแพง” เรื่องก่อนหน้า และ ตัวเบิ้ล ปทุมราช ที่น่าจะเป็นที่รักใคร่ของพี่น้องร่วมวงการ

ทำให้ “ออนซอนเด” กลายเป็นหนังรวมดาวทั้งวงการตลก และ วงการเพลงลูกทุ่ง ที่มีนักแสดงรับเชิญเยอะมาก นับว่าเป็นสีสันที่ดีของหนัง ที่มีบรรดานักแสดงออกมาแจมคนละนิดคนละหน่อยเยอะมาก น้าค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน มารับบทเป็นหลวงตา และ ลูกศิษย์วัดตัวแสบ ที่สร้างเสียงหัวเราะได้อย่างดีเหมือนเคย โน้ต เชิญยิ้ม และ เขาทราย แกแล็กซี่ ก็โผล่มาแจมเล็กน้อย

ด้านนักร้องลูกทุ่งก็มรุ่นลายครามมาร่วมแสดงทั้ง ศิรินทรา นิยากร และ สุนารี ราชสีมา และ บัวผัน ทังโส เป็นรายเดียวในเรื่องที่ได้มาโชว์เพลงอีกจุดที่อยากชื่นชมก็คืองานถ่ายภาพ แสดงให้เห็นเจตนาดีของทีมงานผู้สร้างที่แฝงมาในหนัง กับการถ่ายทอดทัศนียภาพความงามของภาคอีสาน

หนังใช้กล้องโดรนในหลาย ๆ ฉาก ให้เห็นความงามของทุ่งนา ชะง่อนผา พระธาตุฯอะไรก็ไม่ทราบชื่อ แต่ทุกฉากที่เน้นภาพมุมกว้างก็ได้ความประทับใจถึงทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา และ สิ่งที่ตามมาก็น่าจะสร้างความใคร่รู้จากผู้ชมว่าหนังไปเสาะหาโลเคชั่นจากที่ไหนมาถ่าย ส่งผลต่อเนื่องถึงการท่องเที่ยวภาคอีสานตามรอย “ออนซอนเด” ก็นับว่าเป็นเจตนาอันดีงามของผู้สร้างที่แฝงมาโดยไม่ได้พยามอวดอ้างเอาความดีความชอบแต่อย่างใด ออนซอนเด เต็มเรื่อง hd พากย์ไทย

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด ดูเหมือนว่าจากกระแสหนังอีสานที่กำลังมาแรง และ ทำเงินได้ดีในสองสามปีหลัง ๆ มานี้ส่งผลให้หลายค่ายทยอยผลิตผลงานแนวนี้ออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะค่าย เอ็ม พิคเจอร์ส ที่ดูเหมือนว่าจะมาเอาดีสนับสนุนหนังไทยมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่รู้ว่า ออนซอนเด จะทำรายได้มากอย่างที่คาดหวังไว้หรือไม่ เพราะจากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาก็คล้ายกับว่าไม่ค่อยมีมุกให้เล่นมากนัก ออกจะซ้ำซาก และ จำเจไปไม่น้อย

แต่จะว่าไปอาจจะเป็นม้ามืดทำรายได้หลายสิบล้านก็เป็นได้พล็อตเรื่องของ “ออนซอนเด” มีอยู่แค่นี้จริง ๆ หนังเรื่องนี้แทบไม่ต่างอะไรจากละคร “ซิทคอม” ที่ฉายทางฟรีทีวี ที่เน้นขายมุกตลกสถานการณ์ นำพาฉากหนึ่งไปสู่อีกฉากหนึ่งเท่านั้น มุกตลกส่วนมากในหนังเรื่องนี้มักจะเป็นมุกแบบ “ตลกเจ็บตัว” อันเกิดจากความซุ่มซ่ามของตัวละคร

โดยเฉพาะรวย ซึ่งรับบทโดยก้อง ห้วยไร่ ซึ่งลงทุนเล่นฉากเหล่านี้ด้วยการแสดงแบบทุ่มสุดตัว ไม่ว่าจะต้องดูดง่ามเท้าของเบิ้ล ปทุมราช ถูกเตะผ่าหมากเข้ากลางง่ามขา กระโดดคร่อมจักรยานที่ไม่มีอาน ตกหลุมโคลนหน้าคะมำ หรืออีกหลายสถานการณ์ที่จังหวะจะโคนในความซวยนั้น สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูอย่างสัมฤทธิ์ผลถึงจะเป็นหนังประเภทขายเสียงฮาโดยไม่สนใจเส้นเรื่อง

ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังเลือกจะใส่ซับพล็อตรองที่ว่าด้วยการพัฒนาสินค้าอย่าง “ปลาร้าบรรจุขวด” ของครอบครัวต่ง ซึ่งมีสาวดอกหญ้า (ธัญญ่า อาร์สยาม) เป็นสาวที่คอยพัฒนาสินค้า เลือกใช้ช่องทางอย่างโซเชียลมีเดียในการต่อยอดช่องทางการขายให้ได้รับความนิยมของตลาด ก็ถือว่าเป็นโมเมนต์ที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ( และ มีดราม่าเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีกันทางการค้าอีกด้วย)

แต่อย่างที่บอก เมื่อมันไม่ใช่อะไรที่หนังต้องการนำเสนอ ประเด็นเหล่านี้จึงใส่เข้ามาแบบลวก ๆ นำเสนอแบบผ่าน ๆ เสียมากกว่าการขนเอาบรรดานักร้องสายลูกทุ่งยุคใหม่อาทิ ก้อง ห้วยไร่,เบิ้ล ปทุมราช, แซ็ค ชุมแพ, ธัญญ่า อาร์สยาม มาเป็นตัวเรียกแขกนั้น ก็เรียกได้ว่า ทีมผู้สร้างอย่าง แลนด์ อ๊อฟ สไมล์ ฟิล์ม รู้ดีว่าทำหนังเรื่องนี้เพื่อเจาะผู้ชมที่เป็นแฟนเพลงของเหล่านักร้องกลุ่มนี้นั่นเอง ออนซอน เด เต็มเรื่อง 1080p

บทสรุป

ต้องบอกกันตามตรงว่าด้วยเรื่องราวของ ออนซอนเด นั้นไม่ได้มีความแตกต่างหรือแหวกแนวไปจากหนังอีสานเรื่องอื่น ๆ ที่พยายามนำเสนอความเป็นไทบ้านออกมาให้แฟน ๆ ได้ชม ทั้งเรื่องราวการใช้ชีวิต การปรับตัวให้เข้ายุคสมัย จนไปถึงเรื่องราวความรักสามเศร้า รักต่างชนชั้น ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องที่ธรรมดาจนไม่ค่อยน่าสนใจ บางจุดก็ยืดเยื้อไปมาก บวกกับการแสดงของหลาย ๆ ตัวละครที่แข็งทื่อ ทั้งยังต้องพบกับบทบาทเดิม ๆ ของนักแสดงนำ

หนังจึงไม่ได้สร้างความประทับใจเท่าที่ควรแต่ก็ใช่ว่าหนังจะไม่สนุกเลย เพราะก็มีหลาย ๆ ฉาก หลาย ๆ ตอนที่สร้างเสียงหัวเราะ และ รอยยิ้มให้ผู้ชมได้เหมือนกัน ที่สำคัญหนังสร้างเรื่องราวความโรแมนติกคอมเมดี้หวังตีตลาดคนอีสานโดยเฉพาะ โดยเฉพาะความตลกกับการสนทนาแบบอีสาน หากเป็นคนภาคอื่นอาจจะต้องใช้เวลาในการเข้าใจการรับส่งมุกตลกเหมือนกัน อย่างไรก็ตามด้วยภาษาของหนังก็คงไม่ยากเกินกว่าจะเข้าใจแน่นอน ออนซอนเด เต็มเรื่อง 037

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

หนังไทยมาใหม่ เชื่อว่าคนไทยหลาย ๆ คน คงจะรู้จักและคุ้นเคยกับ มนต์รักลูกทุ่ง กันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวอร์ชั่นละครทีวีที่ได้ออกฉายครั้งแรกไปใน ปี 2538 ที่ได้ตัวนักแสดงอย่าง ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง มารับบทเป็น “พี่คล้าว” และ น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ เป็น “ทองกวาว”ในปี 2558 นี้ ผู้กำกับอารมณ์ดี ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หรือ โต๊ะ พันธมิตร หัวหน้าทีมพากย์พันธมิตร ก็นำเรื่องราวความรักอมตะมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง เป็นหนังตลกทันสมัยกับชื่อใหม่ไฉไลว่า “มนต์เลิฟสิบหมื่น” ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง “มนต์เลิฟสิบหมื่น” คือผลงานการกำกับของ “โต๊ะ พันธมิตร” ผู้กำกับอารมณ์ดี บรรจงสร้างสรรค์ออกมาอย่างสมจริงสุดอลังการกับฉาก งานวัด ฉากพากย์หนังกลางแปลง ที่ถือเป็นฉากใหญ่สำคัญที่นอกจากจะสร้างสีสันความสนุกเฮฮาแล้ว ยังสะท้อนภาพประเพณีวัฒนธรรมไทย รวมถึงเป็นการจำลองภาพจริงที่หาดูได้ยากในสมัยนี้ให้มาโลดแล่นอยู่บนจอหนังกันเลยทีเดียว กลมกล่อมและสนุกสนานไม่เบา ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ประเภท : โรแมนติก คอมมาดี้
ความยาว : 97 นาที
เข้าฉายครั้งแรก : 23 กรกฎาคม 2558
กำกับโดย : ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ (โต๊ะ พันธมิตร)
นำแสดงโดย : นิว ชัยพล,แพรว เฌอมาวีร์, แจ๊ส ชวนชื่น

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น “มนต์เลิฟสิบหมื่น” ภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดีสุดฮา ผลงานการกำกับของ ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ (โต๊ะ พันธมิตร) กูรูการพากษ์เสียงภาพยนตร์ระดับต้น ๆ ของเมืองไทย กับผลงานการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิต ซึ่งรับประกันความฮาไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน นำแสดงโดย ชัยพล พูพาร์ต นักแสดงหนุ่มที่มีผลงานการันตีความสามารถไม่ว่าจะเป็นผลงานละครโทรทัศน์หรือผลงานภาพยนตร์

โดยมีรางวัลพระราชทานสุรัสวดี ครั้งที่ 29 ในปี 2555 สาขานักแสดงดาวรุ่งชายดีเด่นจากภาพยนตร์เรื่องจันดาราปฐมบท มาการันตีฝีมือการแสดงด้วย ร่วมด้วย เฌอมาวีร์ สุวรรณภานุโชค นักแสดงสาวสวยที่มีผลงานการแสดงภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง อาทิ กองพันครึกครื้น ท.ทหารคึกคัก หลวงพี่เท่ง 3 และ แจ๊ส ชวนชื่น นักแสดงตลกชื่อดังที่มาร่วมสร้างเสียงฮาในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

ไอ้คล้าว หนุ่มบ้านนายาจก (นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) กับทองกวาว ลูกสาวเศรษฐีใหญ่ประจำตำบล (แพรว-เฌอมาวีร์ สุวรรณภานุโชค) เป็นคู่รักที่รักกันหวานฉ่ำปานจะกลืนกิน แต่ติดตรงที่มี ไอ้เจิด (ปูไข่-พงศ์สิรี บรรลือวงศ์) เป็นเสี้ยนหนามหัวใจ คอยจ้องแต่จะแย่งทองกวาวไปจากไอ้คล้าว และชอบดูถูกไอ้คล้าวว่ายากจน

ที่สำคัญยังมี นายทองก้อน (ปั๋ง-ประกาศิต โบสุวรรณ) พ่อบังเกิดเกล้าของทองกวาว รังเกียจรังงอนความจนของไอ้คล้าว พยายามกีดกันขัดขวางความรักของทั้งสอง ไม่ยอมยกลูกสาวให้เว้นแต่ไอ้คล้าวจะหาสินสอดมาให้ได้ “สิบหมื่น!”ไอ้คล้าวต้องพยายามหาเงินสิบหมื่นไปสู่ขอทองกวาวยอดรัก โดยมีเพื่อนรักอย่าง ไอ้แว่น (แจ๊ส ชวนชื่น), บุปผา (บูม-ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต), ไก่ชนขี้เรื้อนคู่ใจ และเพื่อนร่วมแก๊งร่วมก๊วนคอยรวมหัวกันช่วยเหลือให้ทั้งสองได้ครองคู่กันสมปรารถนา มนต์เลิฟสิบหมื่น เต็มเรื่อง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

ตอนดูเทรลเลอร์หนังเรื่องนี้นี่บอกตามตรงเลยว่าไม่อยากดูเลย เพราะเบื่อกับตำนานรักสิบหมื่นที่รู้เรื่องดีอยู่แล้ว และรู้สึกว่ามุกตลกในเทรลเลอร์มันทะแม่ง ๆ ล้น ๆ เกิน ๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่เอาเข้าจริง ๆ หนังมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเลยนะ แต่แค่มันไม่มีสาระอะไรเลยบทของ ไอ้แว่น ตามบทแล้วต้องเป็นพระรอง หรือเพื่อนพระเอกคนหนึ่ง แต่คุณ แจ๊ส ชวนชื่น ขโมยซีนพระเอกตัวจริงไปแทบทั้งเรื่อง เราไม่เคยดูผลงานใดใดของคุณ แจ๊ส ชวนชื่น มาก่อนเลย

แต่สำหรับบทไอ้แว่น เราว่าเขาทำได้ดี ไม่ได้เยอะหรือล้นจนเกินไปอย่างที่ตอนแรกคิด เขาถือเป็นสีสันของเรื่องที่นำพาเรื่องไปจนถึงตอนจบได้โดยไม่น่าเบื่อ มุกส่วนใหญ่ของเขามันเวิร์คนะ บางมุกอาจจะไม่ได้ขำอะไรมากมาย แต่การแสดงทางท่าทาง สีหน้า และน้ำเสียงของเขามันมีพลังและอินเนอร์แรงจริง จนทำให้เราอดขำไม่ได้มนต์เลิฟสิบหมื่น

เรียกว่าเป็นหนังตลกที่ไม่มีสาระอะไรเลยอย่างแท้จริง แต่กลับตอบโจทย์เรื่องความบันเทิงได้เป็นอย่างดี มีมุกให้ฮาตลอดเรื่องชนิดที่แทบไม่ได้หยุดพักหายใจ มีทั้งมุกที่แป้กบ้างไม่แป้กบ้าง เก๊ตบ้างไม่เก๊ตบ้าง ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง (ขึ้นอยู่กับคนดูแต่ละคน) แต่โดยรวมเราว่าฮาใช่หยอก เหมือนกำลังนั่งดูตลกคาเฟ่ มุกแต่ละมุกคือคารมภาษาจัดจ้านกวนตีนสุด ๆ

สมแล้วที่เป็นหนังที่กำกับโดยพี่หัวหน้าทีมพากย์พันธมิตรสิ่งที่น่าสนใจคือผู้กำกับ โต๊ะ พันธมิตร พยายามใส่ความเป็นตัวเขาเองลงไปในหนังด้วย กล่าวคือตัวละคร ไอ้แว่น เป็นนักพากย์หนังเหมือนกับเขาเลย นอกจากนี้ ในหนังพระเอกกับพระรองของเรายังได้พากย์หนังเรื่อง อินทรีแดง ฉบับ มิตร ชัยบัญชา อีกด้วย (FYI:มิตร ชัยบัญชา เคยแสดงเป็นไอ้คล้าวเมื่อปี 2513)

และนอกจากฉากตลกโปกฮาที่ทำถึงแล้ว ยังมีฉากบู๊มัน ๆ เท่ ๆ (ปนฮา) อีกหลายช็อตที่ทำได้สนุกสุด ๆ ฉากบู๊ส่วนใหญ่สนุกสมจริง ยกเว้น CG ไก่ที่ยังไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ขัดหูขัดตาอะไร คุณภาพก็สมเหตุสมผลตามท้องเรื่องกันไป – สรุปคือมันก็ดีหมดทุกอย่างนะ เสียอย่างเดียวคือแค่ไม่มีสาระ… มนต์เลิฟสิบหมื่น เต็มเรื่อง facebook

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น

รีวิว มนต์เลิฟสิบหมื่น หนังหยิบ “มนต์รักลูกทุ่ง” มาใช้เป็นพล็อตหลักเท่านั้น คงเส้นเรื่องและตัวละครไว้ แล้วก็ยำใหญ่ใส่สารพัดมุกลงไป โดยใช้แจ๊ส ชวนชื่น เป็นตัวชงมุกหลัก เรียกว่าจ้างมานี่ใช้คุ้มเลย หนังยิงมุกเรี่ยราดมาก จัดว่าเป็นหนังที่อัดมุกมากที่สุดเรื่องหนึ่งในบรรดาหนังไทยเลย

ยิงมุกกันแบบทิ้งขว้างทุก10วิ 20วิ ฮาไม่ฮาไม่สน ขอเล่นไว้ก่อน บางมุกก็ได้ยินไม่ถนัด พูดว่าไรหว่า มุกต่อไปมาแล้ว ก็มีครับทั้งมุกแป้ก มุกฮา ได้ยินเสียงหัวเราะเบาบ้าง ฮาดังบ้างตลอดทั้งเรื่อง คนเส้นตื้นนี่คงได้น้ำหูน้ำตาไหล ตัวละครได้ยิงมุกกันทุกคน แค่นั้นยังไม่พอ อุตส่าห์ทำไก่ชนซีจีมาเล่นเป็นมุกเด็ดมาใช้ในไคลแมกซ์หนังอีกด้วย

สำหรับผมถือว่ามุกฮาอยู่ในระดับกลาง ๆ นะ ได้ยิ้มได้หัวเราะไปกับหนัง แต่ยังไม่เจอมุกแรง ๆ ฮาติดหัวจนคนดูหยิบมาเล่นต่อกันในโลกโซเชี่ยล แบบที่แก๊งเพื่อนพี่มากเคยทำได้สำเร็จ ดังกันยกแก๊งแบบนั้นด้านโปรดัคชั่นถือว่าตั้งใจครับ หนังพยายามคงเรื่องราวย้อนยุคไว้ หาโลเคชั่นบ้านเก่าโบราณ รถราเก่า ๆ เสื้อผ้า มาสร้างบรรยากาศแวดล้อมได้ดี คงรักษาธีมของความเป็นมิวสิคัลดั้งเดิมไว้ ด้วยการสอดแทรกเพลงหลักของ มนต์รักลูกทุ่งไว้ แต่มาทำดนตรีใหม่ให้ทันสมัยขึ้น

มีฉากร้องเพลงถึง5เพลงทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่า ไม่ปู้ยี่ปู้ยำ ตัวละครหลักอย่าง ไอ้คล้าว ,ทองกวาว,ทองก้อน ให้กลายเป็นตัวตลกปัญญาอ่อนเกินไป เพียงแต่เพิ่มตัวละครบรรดาเพื่อน ๆ ของไอ้คล้าวมาเป็นตัวสีสันชงมุก และด้วยความที่เป็นหนังจากคนทำอาชีพพากย์ ก็ไม่ลืมที่จะใส่การพากย์หนังลงไปในเรื่องด้วย ด้วยการให้ ไอ้แว่น บทของแจ๊ส ชวนชื่น ทำอาชีพฉายหนังการแปลง เอาหนังเรื่อง “อินทรีทอง” มาฉายและเอาการพากย์สดมาเล่นเป็นมุกได้อีกยาว ๆ มนต์รักสิบหมื่น เต็มเรื่อง พากย์ไทย

บทสรุป

โดยสรุป มนต์เลิฟสิบหมื่น เป็นหนังตลกอารมณ์ดี ฟีลกู๊ดไปอีกแบบ แปลกใหม่ทันสมัย คารมจัดจ้าน ดูเพลิน ๆ ภาพสวย โปรดักชั่นดี คอสตูมเก๋ ๆ พระนางหล่อสวย เพลงเพราะติดหู มุกตลกสาดตลอดเรื่องไม่น่าเบื่อ แต่หนังไม่มีเนื้อหาสาระแต่ใด ๆ เน้นเบาสมอง ค่อนไปทางปัญญาอ่อนแบบตลกคาเฟ่ ดังนั้นอย่าคิดอะไรมากขณะดู แล้วคุณจะดูได้อย่างสนุกแน่นอนครับ มนต์ เลิ ฟ สิบหมื่น เต็มเรื่อง 037

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับหนังที่ผมจะมาแนะนำ เป็นหนังผีไทยที่เป็นหนังไทนเก่าอีกเรื่องที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเป็นที่พูดถึง หนังที่ถูกเรียกง่าย ๆ ว่าเป็น “หนังผี” แต่จริง ๆ แล้วผมคิดว่า เป็นหนังที่ผสมผสานกันระหว่างความเป็นหนังสยองขวัญกับหนังรักดราม่า นำเค้าโครงมาจากเรื่องเล่าบนอินเตอร์เน็ต ถ้าคนเรารักจะใกล้จะแต่งงานกัน แต่วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ คนหนึ่งตาย แต่อีกคนหนึ่งอยู่ และ นำดอกไม้ไปวางไว้ ณ จุดที่เธอตาย ผมกำลังพูดถึงหนังเรื่องนี้มีชื่อที่เป็นไทยปนอังกฤษว่า ‘I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน’ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ผมติดตามหนังไทยเรื่อง I Miss You ตั้งแต่ตอนที่เป็น Teaser ซึ่งต้องขอยกขึ้นหิ้งว่าเป็น Teaser หนังไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยหวังในใจลึก ๆ ว่าตัวหนังน่าจะเป็นหนังรักที่ซาบซึ้งมากกว่าหนังผีหลอกหลอนตุ๊งแช่ตามสูตรซึ่งผลก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย เพราะ I Miss You ไม่ใช่หนังผีครับ แต่เป็นหนังรักที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง และ เข้มข้นมาก เหมาะสำหรับคนที่ศรัทธาในความรักเต็มหัวใจ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์: I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน
ผู้กำกับภาพยนตร์: มณฑล อารยางกูร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์:
นักแสดง: เจษฎาภรณ์ ผลดี, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, อภิญญา สกุลเจริญสุข, ทราย – อินทิรา เจริญปุระ

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ส่วนตัวไม่ได้ติดตามหนังของพี่อ๊อฟ(มลฑล อารยางกูล) อย่างสม่ำเสมอ หรืออีกนัยหนึ่งคือแทบจะไม่ได้ติดตามเลย หนังของพี่อ๊อฟเรื่องสุดท้ายที่ได้ดูต้องนับย้อนกลับไปโน่นเลย “ปักษาวายุ” เมื่อหลายปีมาแล้วซึ่งเป็นหนังแอ๊คชั่น/ไซไฟที่ดูได้แค่พอเพลิน ๆ หลังจากนั้นมาพี่อ๊อฟก็เปลี่ยนทางของตัวเองไปทำหนังผีอีกสองสามเรื่อง และ อย่างที่บอก ข้าพเจ้าไม่ได้ดูหนังผีสองสามเรื่องนั้น

จนกระทั่งหนังเรื่องล่าสุดนี้ซึ่งก็เป็นหนังผีอีกนั่นแหละ “ I Miss You…รักฉันอย่าคิดถึงฉัน เหตุผลก็เนื่องจากหนังตัวอย่างและเรื่องย่อที่ทำให้ต่อมอยากดูทำงานทันที และ เสริมความมั่นใจด้วยความคิดที่ว่า พี่อ๊อฟคืออีกหนึ่งผู้กำกับหนังไทยที่โชกโชนในการทำหนังผีมาค่อนข้างมาก ยังไง ๆ หนังเรื่องล่าสุดนี้จะต้องไม่ขี้ริ้วขี้เหร่หรือเอาแค่ไปวัดไปวาได้คงไม่ใช่เรื่องยากหากว่ากันตามท้องเรื่องที่ไม่ขอบอกใบ้เรื่องย่อ

แต่อยากกล่าวแค่สั้น ๆ ว่า นี่คือหนังที่เป็นส่วนผสมที่กระท่อนกระแท่น และ ขาดความลงตัวระหว่างหนังสยองขวัญกับงานโรแมนติคดราม่า มาพร้อมการเดินเรื่องแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เคล้าคลอไปกับดนตรีเบา ๆ ที่อาจจะทำให้คนอ่อนไหวรู้สึกเหงา และ อินไปกับตัวละคร หมอพันธนา(พี่ติ๊ก)ได้มากขึ้น

พี่ติ๊กทำได้ดีกับการแสดงในมาดของชายผู้ยังโหยหาในรักอมตะที่จากไป ดูเหงา และ โดดเดี่ยวในขณะเดียวกันก็เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มีปมในใจปิดซ่อนไว้ แบบที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “แข็งนอกอ่อนใน” ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ในฐานะคนรักคือหน้าที่ในฐานะหมอ

บอกตรง ๆ ว่าพี่ติ๊กสอบไม่ผ่านกับการับบทหมอทั้ง ๆ ที่คุณสมบัติทางหน้าตา และ รูปร่างล้วนเอื้อให้พี่ติ๊กรับบทหมอได้อย่างไม่มีใครสงสัย แต่เอาเข้าจริง ๆ เมื่อยู่บนจอพี่ติ๊กกลับขาดราศีของหมออย่างไม่น่าจะเป็น และ ยิ่งฉากในห้องผ่าตัดที่แม้บทหนังจะยัดศัพท์เฉพาะทางลงมามากเท่าไหร่ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อให้หนังดูมีรายละเอียด

แต่เมื่อมันไม่ได้ถูกพ่นออกจากปากหมอจริง ๆ ฉากเหล่านั้นดูเก้ ๆ กัง ๆ และ ไม่น่าเชื่อถือ กับการพยายามใช้ศัพท์สูง(ที่คนดูมากมายคงได้แต่นั่ง งง) ได้อย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

“บี” แพทย์สาวน้องใหม่ หน้าตาสะสวย เข้ามาทำงานในแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาล โดยมี “หมอธนา” เป็นที่ปรึกษา ทำให้เธอได้รับรู้เรื่องราวความรัก ลึกซึ้ง สวยงาม ระหว่างอาจารย์หมอหนุ่มรูปงาม “หมอธนา” กับแพทย์สาวสุดสวย “หมอนก” ที่กลับกลายเป็นความเศร้า เพราะ..อุบัติเหตุได้คร่าชีวิตของ “หมอนก” ไปขณะที่ทั้งคู่กำลังจะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน

“หมอธนา” กลายเป็นชายหนุ่มผู้มีความสุขอยู่กับความทรงจำเก่า ๆ แต่ก็ปนไปด้วยความทุกข์ใจเพราะจมอยู่กับความรักความคิดถึงในตัวคนรักที่ตายไป

เรื่องราวความรักความคิดถึงที่สวยงามของ “หมอธนา” ที่มีต่อ “หมอนก” ทำให้ “บี” เผลอใจสงสาร คิดจะช่วยดึงเขาออกมาจากความเจ็บปวด แต่…เธอกลับพบว่า ความรัก ความเจ็บปวด และ ความยึดติดคนรักที่ตายไปของเขา กลับดึงเอาคนรักที่ตายไปของเขามาอยู่ข้างกายเสมอ…

ความกลัวที่ได้เห็นวิญญาณคนรัก ซึ่งตามติดอยู่ข้างกาย “หมอธนา” ความรู้สึกที่ก่อเกิดกับ “หมอธนา” “บี” จะทำอย่างไรต่อไป… เธอจะพัฒนาความสัมพันธ์กับ “หมอธนา” ไหม ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังเผชิญกับความยึดติดของเขา และ ที่สำคัญเธอจะยอมเผชิญกับหัวใจของตนเองที่จะยอมเป็นเงาของคนอื่นไหม รักฉันอย่า คิดถึง ฉัน พากย์ไทย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

เรื่องความสวยคงไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะหมอบีหรือหมอนก ก็สวยด้วยกันทั้งคู่ ดูแล้วเพลินดี (แม้ว่าจะหมอนกจะเป็นผีก็ตาม) ขณะที่ในส่วนของไดอะล็อกคำคม ๆ ก็นับว่ามีอยู่หลายประโยคที่ได้ฟังแล้วก็อึ้ง ๆ อยู่ แต่ฉากแรกที่หมอสองคนเจอกัน ผมว่าคำพูดมันดูขัด ๆ กันอยู่ยังไงไม่รู้อะถ้าเรื่องมุมกล้อง ก็ถือได้ว่า ทำออกมาได้ดี ถ่ายมุมมองน่าสนใจ แต่ก็พบว่าบางฉากหน้านักแสดงค่อนข้างมืดเกินไปทั้งที่ไม่ใช่ฉากที่ผีจะออกมา

สำหรับบทบาทการแสดง ถือได้ว่า นักแสดงหญิงค่อนข้างทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี โดยเฉพาะสายป่าน ขณะที่แขกรับเชิญอย่าง ทราย ก็ทำตัวเป็นสีสันได้อย่างดีทีเดียวถ้าจะพูดถึงหนังผีไทย หลัง ๆ ผมเริ่มไม่ค่อยจะอินอะไรกับผีตุ้งแช่นักแล้ว ได้แต่สนุกกับการลุ้น และ เดาว่า ผีจะมาอีกตอนไหน ตรงหรือไม่ก็เท่านั้น

เรื่องการแต่งหน้าให้ดูน่ากลัวจึงไม่มีผลอะไรนักสิ่งที่สำคัญในการดูหนังผีสำหรับผมจึงกลายเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือของตัวละคร มูลเหตุจูงใจ และ สิ่งที่ตัวละครกระทำ ถ้ามันเข้ากันไปได้ดีก็ถือว่าน่าพอใจ แต่ถ้ามันดูงง ๆ หรือแรงจูงใจมันดูไม่เข้ากันกับการกระทำ ผมก็คงไม่ประทับใจกับหนังสักเท่าไหร่ และ หนังเรื่องนี้ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น ผมยังข้องใจในการเหตุจูงใจ และ การกระทำของผีอยู่ เพราะสิ่งที่เธอบอกว่าต้องการ กับสิ่งที่เธอกระทำนั้นดูไม่ใคร่จะไปด้วยกันนั่นเอง รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ตอนจบ pantip

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน อ๊อฟ-มณฑล อารยางกูร ผู้กำกับออกมาเปิดเผยว่าเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งนำมาจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น กับอุบัติเหตุบริเวณถนนเลียบทางด่วนแถวเอกมัย-รามอินทรา ที่มีรถตู้คันหนึ่งพลิกคว่ำ และ มีผู้เสียชีวิต ต่อมาก็ได้มีดอกไม้ช่อหนึ่งมาวางบริเวณที่เกิดเหตุ และ เมื่อนานวันไปดอกไม้เริ่มแห้ง ก็จะมีดอกไม้ช่อใหม่มาเปลี่ยน เป็นอย่างนี้อยู่ซักพัก

จนเป็นเรื่องเล่าในอินเทอร์เน็ตที่ดังมากเมื่อ 5 ปีก่อน อ่านเพิ่มเติมได้จากกระทู้ใน Pantip เรื่องได้นักแสดงที่ผู้คนรู้จักดีมาร่วมงานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี แสดงเป็นหมอธนา, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี แสดงเป็นหมอนก, อภิญญา สกุลเจริญสุข เป็นหมอบี แล้วยังมี ทราย อินทิรา เจริญปุระ รับเชิญมาแสดงเป็นตรีอีกด้วย

ขณะที่การดำเนินเรื่อง เหมือนจะน่าสนใจในช่วงแรก แต่กลับน่าแปลกที่ช่วงหลังเริ่มใส่เพลงเข้ามาบ่อยครั้ง และ ต่อเนื่อง จนดูคล้ายเป็น MV ประกอบหนังไป ขณะที่การสรุปเรื่องก็ค่อนข้างเยิ่นเย้อจนดูเหมือนไม่ค่อยเน้นไปกับจังหวะหนัง รักฉันอย่าคิดถึงฉัน วิเคราะห์

บทสรุป

I Miss You รักฉันอย่าคิดถึงฉัน เป็นหนังรักในบรรยากาศหลอน ที่ซึ้งกินใจ และ แทรกข้อคิดดี ๆ ให้ได้กลับไปนอนคิดที่บ้านว่า ความรักที่แท้จริงแล้ว คืออะไร ? คือการเป็นเจ้าของกัน และ กันคือการบอกว่ารักเธอทั้งหมดของหัวใจ หรือเพราะความรู้สึกผิดบาปจากอดีต หนังไทยคุณภาพเยี่ยม ขอแนะนำแรง ๆ ให้ไปดูกันครับ 8/10 เลยเรื่องนี้ รักฉันอย่าคิดถึงฉัน สปอย

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับวันนี้พาไปรับชมรีวิวหนังรักดราม่าที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคน นั้นรวมถึงผมด้วยถ้าให้พูดตามตรงผมเองก็ยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่ดูได้เลยครับ มันสนุก ตื่นเต้น อึดอัด และหงุดหงิดสุดๆครับ ก็สามารถเรียกสั้นๆได้ว่าเป็นหนังรักสำหรับคนแอบรักที่เรียกน้ำตาคนดูไปหลายรอบ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราสามารถเป็นแฟนกับคนที่เราแอบชอบได้จริง ๆ แต่มีเวลาให้แค่ 1 วันหนังของค่าย GDH อีกเรื่องที่ให้มุมมองใหม่ ๆ ของคำว่า “ความรัก” เหมาะกับคนที่อยู่ในสถานะแอบชอบแบบเราจริง ๆ อินมาก วันนี้เราเลยอยากจะแชร์ข้อคิดดี ๆ จากหนังเรื่อง “แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว” มาให้เพื่อน ๆ ได้ตอกย้ำความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้กันครับ

ส ปอย หนัง พูดได้เต็มปาก ว่านี่คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่มีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาก ลงลึกเรื่องบุคลิกลักษณะตัวละครได้อย่างละเอียด เนื้อหาลื่นไหลชวนติดตาม ไม่มีรูรั่วให้เกิดคำถามสะดุดระหว่างดู รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หยอดไว้หยิบมาใช้ประโยชน์ได้หมด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

หนังแบ่งเป็น 3 องก์ , องก์แรกแนะนำให้เรารู้จักตัวตนของเด่น และ นุ้ย ว่าทำไม เด่น ถึงได้ไปหลงรักนุ้ย แล้วก็ปูเข้าองก์ที่ 2 ส่วนสำคัญของเรื่องคือ 1 วันที่ทั้งสองได้เป็นแฟนกัน ให้เราได้เห็นพัฒนาการค่อยเป็นค่อยไป จากที่นุ้ยความจำเสื่อมแล้วต้องอึ้งกับหนุ่มติ๋มที่ยืนอยู่ข้างหน้า ที่มาบอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ จากท่าทีที่นุ้ยไม่ไว้ใจ แต่เด่นก็ใช้ความซื่อ และ จริงใจให้นุ้ยเชื่อจนสนิทใจได้ในที่สุด หนังใช้เวลากับองก์นี้ลากยาวไปถึงชั่วโมงกว่า ขมวดปมวิกฤตการณ์ของเรื่องไว้ขีดสุด สามารถลากความสนใจคนดูได้อยู่หมัด ให้ร่วมลุ้นกับบทลงเอยของทั้งคู่ในองก์ที่ 3 ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” หนังเรื่องแรกของทีมงานเดิมในชื่อใหม่ GDH ที่เลือกเปิดตัวด้วยหนังโรแมนติคคอมมีดี้ ผลงานของ โต้ง บรรจง ผู้กำกับมือต้น ๆ ของ GTH เดิมที่เคยมีผลงานกวาดรายได้เข้าค่ายเป็นล่ำเป็นสันมาแล้วจาก “กวน มึน โฮ” และ “พี่มาก”

รอบนี้ทางค่ายดำเนินตามสูตรสำเร็จตามอย่างที่ “กวน มึน โฮ” เคยทำไว้ ด้วยการใช้ เต๋อ ฉันทวิชช์ ประกบนางเอกใหม่ในบรรยากาศหนังรักที่ใช้ฉากหลังแสงสีสวย ๆ ในต่างประเทศ คราวนี้ย้ายมาเป็นฮอกไกโด เรื่องนี้จับเต๋อ เปลี่ยนลุคจากหนุ่มขี้เล่นกวนตีน มาเป็น “เด่น” หนุ่มไอที หัวหยิกใส่แว่น ติ๋ม ๆ ยิ้มอาย ตลอดทั้งเรื่อง เขาแอบรัก นุ้ย เซลส์คนสวยประจำบริษัท

แต่เด่น ก็อยู่ในฐานะหมามองเครื่องบิน เพราะนุ้ยเลือกที่จะอยู่ในสถานะเมียน้อยของ ท็อป เจ้าของบริษัทที่มีลูกเมียแล้ว แต่โอกาสก็มาถึง เมื่อบริษัทยกขบวนพนักงานไปเที่ยวที่ฮอกไกโด แล้วนุ้ยเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อมชั่วคราวเพียงวันเดียว เด่น เลยสวมรอยว่าเขา และ เธอเป็นแฟนกัน แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อความจำของ นุ้ย จะกลับมา เด่น จะทำอย่างไรต่อไป

Fanday ค่อนข้างให้รสชาติที่แตกต่างจากหนังรอมคอมฮิต ๆ ที่ผ่านมาของ GTH ด้วยการพูดถึงด้านร้ายของความรักพอ ๆ กับด้านที่สวยงามของมัน ทั้งความเจ็บช้ำจากการแอบรักของเด่น และ นุ้ย สาวสวยที่ยอมตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของเจ้าของบริษัท รอคำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ที่เขาจะทิ้งลูกเมียมาแต่งงานกับเธอ

หนังตอกย้ำให้เห็นว่าความรักในความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย แตกต่างจากความรักวันเดียวของทั้งคู่ซึ่งเด่นเชื่อว่าเกิดจากปาฎิหารย์นั้นกลับสดใสสวยงาม ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักจริงจัง

เรื่องย่อ

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

หนังเล่าเรื่องราวของเด่นชัย (เต๋อ ฉันทวิชช์) พนักงานไอทีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่มีชีวิตแสนจะธรรมดา จืดชืด การงานปกติ หน้าตาไม่ได้ดี ทรงผม และ การแต่งตัวค่อนไปทางเห่ย แถมปากไม่ดีอีกต่างหาก ทั้งหมดที่ว่ามาทำให้ไม่มีใครสนใจเขา แทบไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนจำชื่อของเขาได้เลย

ซึ่งแม้แต่ป้าร้านกับข้าวที่เขากินทุกวัน ก็ยังไม่เคยจำหน้าหรือเมนูที่เขาสั่งได้เลย แต่มีอยู่คนหนึ่งที่จำชื่อของเขาได้ นั่นก็คือ นุ้ย (มิว นิษฐา) พนักงานสาวที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน และ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด่นชัยประทับใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก เขาแอบชอบ และ คอยตามติดชีวิตเธอมาตลอด รู้ว่าเธอชอบกินอะไร ชอบฟังเพลงแนวไหนหรือแม้กระทั่งความฝันที่เธออยากไปเที่ยวเทศกาลหิมะ เขาก็ยังรู้

ถ้านี่ไม่ใช่หนังรักโรแมนติกเราคงจะต้องเรียกเด่นชัยว่าสตอล์กเกอร์ ซึ่งมันคงจะดูโรคจิต และ น่ากลัวเกินไป พอมันเป็นหนังรักเราจึงขอเรียกเขาว่าแฟนพันธุ์แท้ของนุ้ยแทนละกันครับ เรื่องราวของสองคนเกิดขึ้นเมื่อนุ้ยเกิดอุบัติเหตุระหว่างไปทริปพาพนักงานเที่ยวญี่ปุ่นของบริษัท และ มีภาวะความจำเสื่อมชั่วคราว เด่นชัยจึงใช้โอกาสนี้รับสวมรอยอ้างว่าเป็นแฟนของเธอ หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ออนไลน์

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

ความรู้สึกหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้จบก็อย่างผมเกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นว่าผมตกหลุมรักนางเอกของเรื่องเลยครับ มิวแสดงเรื่องนี้แล้วดูมีเสน่ห์เอามาก ๆ เลย แทบจะเป็นเหตุผลข้อแรก ๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกชอบ และ ดูหนังเรื่องนี้ซ้ำอีกสองสามรอบเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความที่ผมก็ทำงานเป็นพนักงานไอทีเหมือนกับตัวพระเอกของเรื่อง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเข้าใจ และ อินกับบทของเด่นชัยเป็นอย่างมาก การดำเนินเรื่องดูสนุก ภาพสวย ดูได้เพลิน ๆ แต่ขอแอบกระซิบว่าตอนจบสาว ๆ คงต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ด้วย เพราะค่อนข้างเรียกน้ำตาจากคนดูได้มาก ๆ เลย ผมเองยังแอบมีน้ำตาซึมนิด ๆ

ซึ่งสำหรับตอนจบของเรื่องนอกจากจะจบแบบในหนังที่เราดูแล้วทาง GDH ยังมีการปล่อยฉากจบอีกแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนกับในหนังออกมาให้ได้ชมกันใน Youtube ด้วยเป็นฉากที่ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเราให้ลงลึกเข้าไปได้อีก

เอาเป็นว่าใครที่ชอบดูหนังแนวรักโรแมนติก น่ารัก ๆ ต้องอย่าลืมชม แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว 037

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ที่ชื่นชมอีกอย่างคือการที่หนังโปรโมทเพลง “วันหนึ่ง” ของชาติ แต่ในหนังกลับใช้ “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้ ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์มากสำหรับหนังของแกรมมี่ ที่เลือกใช้เพลงของค่ายอื่นมาเป็นเพลงหลัก และ ใช้เวอร์ชั่นต้นฉบับด้วยไม่คัฟเวอร์ ชื่นชมครับที่เอาอารมณ์ และ สารในเพลงเป็นหลักมากกว่าเหตุผลทางการค้า

ตรงนี้ผู้กำกับ โต้ง บอกว่าเขาชอบเพลงพี่แจ้ และ เป็นคนเลือกเพลงนี้เอง รอดูรอเชียร์ครับว่า “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้จะกลับมาดังมั้ย “ฝันลำเอียง” ในหนังยังได้ทำหน้าที่สัญลักษณ์ของหนังด้วย เนื้อหาของเพลงของพี่แจ้ช่างตรงกับเรื่องราวของหนัง รวมถึง “เทศกาลหิมะซัปโปโร”เองก็ถูกใช้ทำหน้าที่สัญลักษณ์แทนความรักของทั้งคู่ได้ลงตัว แทนภาพความสวยงามที่อยู่ได้เพียงชั่วคราวแล้วก็ถูกทำลายทิ้ง หนังแฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เต็มเรื่อง hd

สรุปหนังรักเรียกน้ำตา

หนังเรื่องนี้สอนให้เราอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้วาดโลกแห่งความฝันไว้สวยงามแค่ไหน สุดท้ายทุกคนก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงในโลกปัจจุบัน Fanday เป็นหนังเปิดตัว GDH ได้อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยทุกองค์ประกอบล้วนทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ได้ซึ้งน้ำตาซึม ได้ยิ้มไปกับความรักของเด่น และ นุ้ย แต่ทั้งนี้ก็เผื่อใจไว้นิดว่าหนังไม่ได้สดใสใส่มุกแน่น เหมือนอย่างเรื่องก่อน ๆ ของ GTH นะครับ อีกอย่างหนังยาวมากครับ 2 ชั่วโมง 16 นาที เรียกได้คุ้มค่ามากครับไม่เสียเวลาที่รับชมจนจบจริงๆสำหรับแฟนเดย์ แฟน เดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ภาษา อังกฤษ

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับหลายๆคนคงรู้ว่าปะเทศบ้านเรานั้นไม่ได้โดดเด่นเรื่องการทำหนังบู๊ หนังไซไฟ แฟนตาซี เหมือนหนังฮอลลีวู้ด แต่หากพูดถึงการทำอนิเมชั่นแล้ว ผมเองก็ยอมรับเลยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่ๆ เราอาจจะกล่าวได้เลยว่า ณ วินาทีนี้ ๙ ศาสตรา น่าจะเป็นแอนิเมชั่นเลือดไทยที่ “ดี” ที่สุด ณ เวลานี้ เรามักจะคิดเสมอว่าผลงานของคนไทยไม่น่าจะสู้ต่างชาติได้ แต่วันหนึ่งเราก็พิสูจน์ให้คนในประเทศเห็นแล้วว่า เมื่อเรามีเงินทุน และ มีทีมงานที่มีศักยภาพแล้ว ผลงานที่ออกมาก็เรียกได้ว่าไม่มีอะไรด้อยไปกว่าผลงานของคนประเทศอื่น ๆ เลย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี 

ส ปอย หนัง หนังแอนิเมชั่นเรื่อง 9 ศาสตรา เป็นการประกาศศักดาสนั่นวงการแอนิเมชั่นไทย และ ยกชูขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิเลยว่า นี่คือแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเรื่องแรกที่ production ดีจนโกอินเตอร์ได้แค่ปลายนิ้วจริง ๆ ครับ ถือว่าเป็นก้าวที่ดีเลยกับการปลุกแอนิเมชั่นไทย หนักพื้นฐานแน่นเรียกศรัทธามาได้โขจริง ๆ ครับ อย่างทีเคยพูดไปว่าถึงดูรอบสื่อมาแล้ว แต่ถ้าหนังจริงเข้าก็จะขอดูอีกรอบ ความรู้สึกว้าวมันชวนให้นึกถึงครั้งได้ดู องค์บาก ครั้งแรกเลยล่ะ ดูเถอะเรื่องนี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา เรารู้สึกแย่มากที่ก่อนหน้าที่เคยมองข้าม และ เพิกเฉยต่อหนัง 9 ศาสตรา แอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเรื่องล่าสุด เพราะพอได้ดูจริง ๆ แล้ว ต้องยอมรับเลยว่า “ถ้าเราไม่ได้มาดู มันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดในรอบปี” เลยก็ได้ ใครที่ยังแอบปรามาสหนังเรื่องนี้อยู่ ขอให้เปิดใจอย่างที่เราเปิดใจ แล้วมันจะเบิกเนตรของเราจริง ๆ ว่า คนไทยสามารถทำหนัง รวมถึงแอนิเมชั้น ได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก หากตั้งใจ มีทุน และ ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่

สำหรับเรื่องนี้ คำว่า “แอนิเมชั่นที่ดีที่สุดของคนไทย” ไม่ใช่แค่คำอวยหากแต่คือเรื่องจริง หนังสนุกจริง ดีจริง งานสกอร์ และ งานภาพละเอียดสมจริงเทียบชั้นฮอลลีวูดได้สบาย (ดีกว่าของเมืองนอกหลาย ๆ เรื่องเสียอีก) ฉากแอ็คชั่นซึ่งมีเยอะแทบทั้งเรื่องก็มัน(ส์) ไม่เบื่อเลยตามประสาหนังไทย คือก็ยังติดเรื่องความเป็นไทยหรือความรักชาติอยู่บ้าง

แต่ยังดีที่ 9 ศาสตรา นำเสนอความเป็นไทยได้สากล ไม่ “ไทย” จนเลี่ยนเกินไป อีกทั้งให้บทเรียนต่าง ๆ ทั้งเรื่องคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา อย่างไม่ยัดเยียดคนดูจนเกินเหตุ ประกอบกับ มวยไทย เป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสนใจมาก เป็นที่รู้จักในวงกว้างพอที่จะส่งออกหนังเรื่องนี้ไปขายที่เมืองนอกได้ไม่ยาก

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว 9 ศาสตรา

ในโลกของ 9 ศาสตรานั้นว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันกับสิ่งมีชีวิตหลากหลายเชื้อชาติ และ เผ่าพันธุ์ โดยรามเทพนครเมืองมนุษย์ที่เคยรุ่งเรืองนั้นตกอยู่ในการปกครองของคนยักษ์ และ จับมนุษย์ไปเป็นทาส

เรื่องราวถูกเล่าผ่าน “อ๊อด” เด็กหนุ่มที่ชะตาลิขิตให้เป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้อาณาจักร รามเทพนคร แผ่นดินเกิดของเขาให้รอดพ้นอำนาจของ เทหะยักษา อ๊อด ได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำ ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทย จากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน อ๊อด มีภารกิจอันยิ่งใหญ่ ในการนำสุดยอดศาสตราวุธ 9 ศาสตรา ไปมอบให้องค์ชายรัชทายาทแห่ง รามเทพนคร เพื่อใช้ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง

เนื้อเรื่องค่อนข้างเป็นเส้นตรงเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และ เป็นแบบสำเร็จรูปทั่วไป แต่กลับมีวิธีการเล่าเรื่องในแบบเฉพาะตัวที่ทำให้คนดูสนุกไปกับมันได้ไม่ยาก และ ยังแฝงไว้ซึ่งกิมมิคต่าง ๆ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดี ๆ แล้วละก็ อาจโดนหักมุมใส่หน้าชนิดไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียวพล็อตค่อนข้างปูมาแน่นในระดับนึง

มีจังหวะการสอบรับที่โคตรพอดีกันมาก ๆ จนทำให้พล็อตของทั้งเรื่องดูสมจริงสมจัง และ เข้าถึงง่ายในเวลาเดียวกัน แต่ก็ติดอยู่ที่ฉากปล่อยของ(ของแต่ละตัวละคร)ที่มันมาง่ายเหลือเกิน พอมาทีแม่งเหมือนเติมบัตรทรูอ่ะ ผ่านด่าน/ชนะง่ายจังฟระ ทำให้อุปสรรคในเรื่องดูลดลงไปมาก คือเดาได้เลยว่าถ้ามาปูมาแบบนี้ ต้องแก้ทางด้วยสิ่งนี้แน่ ซึ่งมันก็ถูกหมดเลยตามทุกอย่างที่เดา โดยไม่ต้องใช้เซลล์สมองมากนัก 9 ศาสตรา พากย์ไทย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว 9 ศาสตรา

สิ่งที่ต้องชื่นชมนอกจากการเล่าเรื่องที่แม่นจังหวะ กับฉากแอคชั่นที่คิดมาได้ละเอียด ตัวละครนำพาคนดูไปสู่ฉากใหญ่ ๆ ได้ตื่นตาทั้งหมด ทั้งเกาะไกลโพ้นทะเล การต่อสู้กลางอากาศด้วยเรือเหาะจนผ่านหุบเหว หรือแม้แต่การสู้กับราชายักษ์ก็ปูมาได้อย่างตื่นเต้นมีหักมุมหลอกคนดูด้วยครับ

เรื่องราวในช่วงแรกดำเนินไปแบบเรื่อย ๆ ค่อนข้างน่าเบื่อเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องราวเบื้องต้นที่ต้องเล่าให้ครบถ้วน แต่หลังจากที่เข้าฉากต่อสู้แล้วก็ต้องร้อง อื้อหืออออช่วงกลางเรื่องขึ้นไป บทมีความสนุก และ น่าติดตามมากขึ้น จนไปพีคในช่วงสุดท้ายบทของเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรนัก พอคาดเดาเนื้อเรื่องทั้งหมดได้อย่างไม่ยาก

แต่ในระหว่างทางเองก็มีเรื่องราวที่เซอร์ไพรส์ผู้ชมพอสมควรเลยบทดราม่าไม่ได้ถึงกับเข้มข้นมาก แต่ก็ไม่ได้เลี่ยน ถือว่าใช้ได้ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับทุกวัย สิ่งที่ผมชอบมากในภาพยนตร์เรื่อง 9 ศาสตร์ตรา ก็คือดีไซน์เหล่าตัวละคร ทั้งภาพลักษณ์ภายนอกที่บอกเลยว่าโคตรเท่ เท่ยันตัวประกอบ มีพวกการแปลงโฉมอัปเกรดหรือแปลงร่างที่เท่มาก ๆ ของอ๊อด

สุดท้ายงานภาพแม้จะสวยงามแต่การสื่อในส่วนของอารมณ์โดยเฉพาะการใช้ดวงตานั้น เรียกว่ายังดูแข็งไปนิดนึงครับ ขาดชีวิตชีวาไปพอสมควร อยากให้เล่นกับดวงตาได้มากกว่านี้อีกนิดนึง อย่างน้อยก็ประกายตาของตัวเอกที่น่าจะช่วยให้บางฉากดูเป็นวีรบุรุษผู้มากอบกู้อโยธยาได้อีกเยอะเลย ในส่วนของการแอนิเมทช่วงต่อสู้ที่ทำได้สุดยอดนั้น ก็มีบางฉากที่การเคลื่อนไหวไวจนดูหลุดดูไม่เข้าใจ บางช่วงมีอาการเหมือนเฟรมเรตไม่สูงพอทำให้ภาพดูกระตุกครับ เเต่ไม่ใช่ปัญหามากภาพยังสวยอยู่ 9 ศาสตรา ภาค2

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา นี่เป็นครั้งแรกที่กล้าพูดเต็มปากว่า “เราควรไปสนับสนุนหนังไทย…ฝีมือคนไทย” แต่ไม่ใช่ไปดูเพราะมันเป็นหนังไทยหรือเราเป็นคนไทย หากแต่ควรไปดูเพราะมันดีจริง ๆ น่าภูมิใจจริง ๆ และ มันควรได้ไปต่อ เป็นหน้าเป็นตาของสยามประเทศก็ส่วนหนึ่ง

แต่ส่วนใหญ่ ๆ คือ อยากสนับสนุนให้มาตรฐานหนังไทย และ บุคลากรของประเทศมันสูงขึ้นจากการดูผลงานของคนไทยเรื่องนี้โครงเรื่องอันเป็นสากลเช่นนี้ จึงสามารถเป็น “สูตร” ที่สามารถเข้าถึงคนทุกชาติได้โดยไม่จำเป็นว่า คนดูต้องเป็นคนไทย แต่การที่หนังหยิบเอามวยไทย

เล่าเรื่องในรูปแบบดินแดนแฟนตาซี “วัฒนธรรม” ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของตัวละคร จึงเหมือนเป็นดินแดนแฟนตาซี ที่ถูกใส่องค์ประกอบประเภทสถานที่ เครื่องแต่งกาย วิถีชีวิตให้คล้ายคลึงกับคนไทย ในขณะเดียวกัน สถาปัตยกรรมบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างก็มีการนำศิลปะไทยในยุคสมัยต่าง ๆ มาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบจีนในช่วงที่ตัวเอกเดินทางเข้าไปในเมือง เป็นต้น

ถึงทีมงานจะเลือกตั้งใจขาย “มวยไทย” ภายใต้บริบทของหนังแฟนตาซีก็ตาม ก็เราก็ต้องบอกเลยว่าหนังสามารถใส่ประเด็นเหล่านี้เข้ามาในเรื่องราวแบบแนบเนียน และ เป็นส่วนหนึ่งของหนังได้ดีพล็อตเรื่องของ ๙ ศาสตรา นั้นเราอาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นพล็อตประเภทสูตรสำเร็จในตระกูล “การเดินทางของฮีโร่” ที่ว่าด้วยแพทเทิร์นการเล่าเรื่องแบบ ตัวละครเอกไม่มีความสามารถพิเศษใด ๆ

แต่เขาพยายามค้นหาที่มีของตัวเอง ผ่านการเรียนรู้ฝึกฝนวิทยายุทธ์จากปรมาจารย์ในการต่อสู้ ในเวลาต่อมาเขาต้องออกเดินทางเพื่อไปทำภารกิจบางอย่างให้ลุล่วง ระหว่างเดินทางเขาได้พบกับมิตรสหายใหม่ ๆ ตัวเอกได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต การต่อสู้ เข้าเติบโตขึ้นความคิดความอ่านที่ได้ร่ำเรียนมาถูกใช้ ตัวเอกต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมาย และ ในที่สุดเขาก็จะสามารถทำภารกิจลุล่วง และ กลายเป็นวีรบุรุษในที่สุด การ์ตูน 9 ศาสตรา

สรุป

อีกองค์ประกอบหนึ่งที่น่าชื่นชมมาก ๆ คืองานดนตรีประกอบของหนัง ที่เรียกได้ว่ามีความเร้าใจ และ เป็นสิ่งเกื้อหนุนที่เร้าอารมณ์ของผู้ชมในหลายฉากหลากตอน อันเป็นผลงานของ ไรอัน ชอว์ ซึ่งผ่านการทำงานด้านดนตรีประกอบให้กับแอนิเมชั่นชื่อดังมาแล้วมากมาย

ความสนุกของ ๙ ศาสตรา นั้นอยู่ที่วิธีการดำเนินเหตุการณ์ต่าง ๆ ของเรื่องที่เล่าเรื่องราวอย่างกระชับ ฉับไว จะว่าไปหลังจากที่ตัวละคร “อ๊อด” ได้ออกไปผจญภัยนอกหมู่บ้านของตัวเอง หนังก็อัดแน่นฉากตื่นเต้น สนุกสนานเข้ามาแบบไม่หยุดยั้ง ประกอบการการเนรมิตภาพเมืองต่าง ๆ ได้อย่างสวยงาม ทำให้ภาพที่ปรากฏต่อสายตาผู้ชมนั้นชวนตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น

ส่วนตัวผมได้มีโอกาสไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ สำหรับคะเเนนผมขอให้ 8.5/10 อีก0.5 ขอหักเรื่องบทนะครับ 9 ศาสตรา 4K

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017

หนังไทยnetflix สวัสดีครับหลายๆคนคงรู้จักสยามสแควร์ เพราะหากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วงนึงเคยเป็นเทรน ที่วัยรุ่นไทย ส่วนใหญ่มักสนใจและอยากไปเดินเที่ยวกัน และนี่ก็คือหนังจากค่ายสหมงคลฟิล์มที่หลัง ๆ ดูซบเซาลงพอตัวเลยแหละครับ แต่จากหน้าหนังที่ปล่อยมาทำให้เราคาดหวังได้พอสมควรว่าสหมงคลน่าจะกลับมาทวงแถวหน้าของวงการหนังไทยได้อีกครั้ง ด้วยองค์ประกอบที่ฉีกแนวไปจากหนังเรื่องอื่น ๆ ในตลาด ทั้งการผสมแนววัยรุ่นวัยเรียนกับแนวสยองขวัญ บนพื้นที่ที่ทุกคนคุ้นเคยหรือมีประสบการณ์ร่วมอย่าง สยามสแควร์ฯ ที่เป็นทั้งแหล่งช็อปปิ้งและเรียนพิเศษมาไม่ว่ายุคไหน ๆ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ดูจากตัวอย่าง อาจจะมองว่าเป็นหนังที่มีแง่มุมแค่ความรักประสาวัยรุ่น แต่เมื่อไปดูจริงๆ กลับได้พบว่ามันมีมากกว่านั้น เพราะมันได้ใส่เรื่องราวของวัยที่ยังไม่ประสากับชีวิตมากนัก บางครั้งก็ทำอะไรโดยไร้ความยั้งคิด ไร้การตริตรองจนถึงขั้นสร้างผลร้ายทิ้งไว้ให้กับใครบางคน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์: สยามสแควร์
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Homsap Chanchana, Eakarach Monwat, Petchsri Teepanun
ผู้กำกับภาพยนตร์: ไพรัช คุ้มวัน

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017 สยามสแควร์ ใช้สยามสแควร์…แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของวัยรุ่นไทย…เป็นฉากหลังของภาพยนตร์ แต่คราวนี้ต่างจาก รักแห่งสยาม ตรงที่เขาจะเล่าตำนานสยองขวัญของสยามสแควร์ เรื่องของเด็กผู้หญิงที่หายไปอย่างลึกลับจากเหตุการณ์ไฟดับเมื่อ 30 ปีก่อน

หนังไทยที่หยิบเอาช่วงเวลาของวัยรุ่นที่ผูกพันกับสถานที่อันมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของวัยรุ่นมาหลายสิบปี จนเริ่มมีคนคิดว่า “แล้วจริงๆ สยามสแควร์มันมีผีมั้ยหว่า” ถ้าจะหยิบพล็อตผีใส่สถานที่สักแห่งที่เข้าถึงกลุ่มคนดูหนังวัยรุ่นได้ ก็น่าจะเป็นที่นี่แหละ

สังเกตได้ว่า ผมไม่ได้กล่าวถึงตัวละครใดๆ เลยสักตัวในเรื่องย่อหนัง สาเหตุก็เพราะ มันมากเกินที่จะมานั่งสาธยายให้หมดจดถ้วนทั่วทุกตัวนักแสดง ชื่นชมในการแสดงของหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เบสต์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ ที่เล่นได้โดดเด่นโดยเฉพาะบทฮา อีกคนที่เด่นก็คงเป็น พลอย ศรนรินทร์ ขณะที่เรื่องความน่ารักคงหนีไม่พ้นสองคนนี้ อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ และ เหม่เหม ธัญญวีร์ ชุณหสวัสดิกุล

พร้อมกับคำถามว่าถ้าสยามที่เรารู้จักมีอีกด้านหนึ่งที่แสนลึกลับล่ะ? ด้วยภาพแบบทันสมัยกับพล็อตที่มีกลิ่นความเชื่อโบราณ ๆ กลายเป็นความขัดกันที่น่าสนใจขึ้นมามากทีเดียวและความเห็นหลังจากได้รับชมแล้ว ต้องบอกว่านี่คืองานหนังไทยที่กล้าลองสูตรใหม่ ๆ และฉลาดในการเล่ามากที่สุดเรื่องหนึ่งในขณะนี้เลยครับนี่เป็นผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ที่เคยร่วมงานกับเจ้าพ่อฮิปสเตอร์สุดเทพอย่าง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

โดยเขาเคยกำกับภาพให้หนังดี ๆ มัน ๆ อย่าง Mary is Happy,Marry is Happy นอกจากนี้ยังรวมถึงกำกับภาพใน 36 หนังเรื่องแรกของเต๋ออีกด้วยเมื่อต้องทำหน้าที่กำกับเองในเรื่องนี้ ด้านงานกำกับภาพไพรัชจึงไว้ใจให้ ภิไธย สมิตสุต ที่มีผลงานระดับอินเตอร์ทั้งเวทีประกวดและงานเบื้องหลังหนังดังฮอลลีวู้ดที่มาถ่ายทำในบ้านเรามากมายมารับผิดชอบไป

ซึ่งการที่ต้องถ่ายด้วยข้อจำกัดอย่างการห้ามตั้งขาตั้งกล้องและใช้ทีมใหญ่ตามข้อตกลงการใช้พื้นที่ ทำให้ภิไธยเลือกใช้เลนส์อนามอฟิกที่ทำให้ได้ภาพกว้างเหมาะกับการถ่ายแบบแฮนด์เฮลด์อีกด้วย

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว สยามสแควร์ 2017

​เมื่อราวๆ 30 ปีก่อน เคยเกิดเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ไปทั่วทั้งเวิ้งสยามสแควร์ พร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างลึกลับของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นเรื่องเล่าสยองขวัญปากต่อปากจนถึงปัจจุบันว่า วิญญาณของเด็กสาวคนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในสยาม หากใครบังเอิญเจอและโดนผูกด้ายแดงเข้าที่ข้อมือจะมีอันเป็นไป

ตำนานเล่าสยองขวัญข้างต้นนี้ ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ใน สยามสแควร์ หนังยาวเรื่องล่าสุดของ ไพรัช คุ้มวัน เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนนักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง ที่พาตัวเองเข้าไปพัวพันกับตำนานสยองขวัญดังกล่าวทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ จนโดนด้ายแดงผูกติดข้อมือกันถ้วนหน้า ทำให้พวกเขาต้องช่วยกันหาวิธีหนีให้พ้นจากตำนานบ้าๆ นี้ไปให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของพวกเขาจะโดนวิญญาณเด็กสาวพรากไปในท้ายที่สุด

ทว่าทางออกที่ต้องการกลับไม่ได้นำพามาแค่เส้นทางเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยความจริงของตำนานสยองขวัญที่น่าเหลือเชื่อและน่าสนใจมาก เพราะใครจะไปคิดว่าอยู่ดีๆ หนังผีพล็อตหลอนๆ ที่มีจังหวะการหลอกแบบโหดๆ แอบตลกบ้างเป็นครั้งคราวเรื่องนี้ จะพลิกพล็อตไปเล่นเรื่องการเดินทางข้ามกาลเวลา มิติคู่ขนาน และผีเทียมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยตอนกลางเรื่อง ชนิดที่ทำเอาคนดูเกือบทั้งโรงเหวอไปกับความกล้าหักมุม 360 องศาได้ขนาดนี้ สยามสแควร์ Netflix

ข้อสังเกต สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017

นอกจากเรื่องผีเทียมที่เป็นแมสเสจหลักของหนังแล้ว สยามสแควร์ ยังแทรกประเด็นทางสังคมแง่มุมอื่นๆ ลงไปอีกหลายเรื่อง ที่ชัดเจนรองลงมาหน่อยก็เห็นจะเป็น ‘ความเปลี่ยวเหงาจากสังคมก้มหน้า’

ความจริงการก้มหน้าดูจอมือถือตลอดเวลาในยุคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว เพราะความจำเป็นในการใช้งานมือถือของคนเราไม่เท่ากัน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าระหว่างการไถมือถือ ได้เงยหน้ามาสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวมากแค่ไหน เพราะก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่าแต่ละคนมีขีดความอดกลั้นต่อความน้อยใจต่างกัน อย่างตัวละคร เมย์ (อิษยา ฮอสุวรรณ)

ไม่พอในด้านบทหนัง ยังเป็นโปรเจคที่ใช้ทีมงานและเวลาฟูมฟักกันมานานกว่า 3 ปีทีเดียว จนได้ผู้กำกับไพรัชมาสรุปท้ายสอดแทรกประสบการณ์ส่วนตัวลงไป เกิดเป็นหนังอย่างที่ได้รับชมกันตอนนี้ หนังเล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อนเรียนพิเศษต่างโรงเรียน ที่มีจุดศูนย์กลางเรื่องเล่าอย่าง เมย์ (อุ้ม อิษยา) เด็กสาวหน้าสวยแต่ดันมีนิสัยมั่นดูหยิ่งไม่ค่อยน่ารักนัก ทำให้เพื่อนรอบ ๆ ตัวเธอค่อย ๆ หายไป เหลือเพียง จุ๊บเล็ก (หลิว มรกต) เพื่อนคนสนิทเท่านั้นที่อยู่เคียงข้าง

ที่ลึกๆ อาจคิดว่าเพื่อนสนิทอย่าง จุ๊บเล็ก (มรกต หลิว) ไม่เข้าใจตัวเธอ เลยหันไปคุยกับเพื่อนที่รู้จักกันทางไลน์มากกว่าเงยหน้ามาคุยกับจุ๊บเล็ก ที่มักเตือนด้วยความหวังดีแต่แอบแรงอยู่บ่อยๆ จนเกิดเป็นรอยร้าวในความสัมพันธ์คนทั้งสอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่นำไปสู่ต้นกำเนิดผีเทียมในเรื่องถึงจะบอกว่า สยามสแควร์ เป็นหนังที่มีประเด็นซ่อนเอาไว้เยอะมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดไปหมดทุกเม็ด จริงๆ

เอาแค่เข้าไปดูแบบไม่คิดอะไรเลยก็ยังได้ เพราะจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องของหนังทำได้ดีทีเดียว อาจไม่หักมุมรุนแรงเท่า Cabin in the Wood (2012) แต่มันก็เหวอมากพอให้สบถดังๆ ได้เหมือนกัน สยามสแควร์ หนังเก่า

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017สยามสแควร์ เป็นผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับภาพของ Mary Is Happy, Marry Is Happy และ 36 ของผู้กำกับขวัญใจฮิปสเตอร์ พี่เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

อย่างไรก็ตาม หนังเขาก็ไม่ได้ใช้โลเกชั่นสยามสแควร์คุ้มค่ามากมายสมกับที่อุตส่าห์ตั้งชื่อหนังว่า สยามสแควร์ แต่อย่างใดหรอกนะ ประมาณเกือบ 80% ของหนัง เขาก็ถ่ายในห้องเรียนพิเศษเล็ก ๆ ในตึกกวดวิชาเก่า ๆ ก็เท่านั้นแหละ มีเดินไปเดินมาในซอยอื่นบ้าง หรือไปนั่งร้านมิลค์พลัสบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อันใดมากนัก

การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ เหมือนพยายามจะชักชวนให้ขวัญผวาอยู่บ่อยครั้ง เล่นมุกตกใจไม่ถึงกับบ่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับชวนขนหัวลุกแต่อย่างใด (ในกลุ่มเป้าหมายที่กลัวผีอยู่เป็นทุน นั่นก็คงเป็นข้อยกเว้น) แต่คนตัดต่อพยายามอย่างยิ่งที่จะเล่าเรื่องให้มีชั้นเชิงด้วยการตัดสลับบางเหตุการณ์เอาไว้นึกสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วย้อนกลับไปเล่าเรื่องก่อนหน้าเพื่อมาบรรจบกับเรื่องปัจจุบัน ส่งผลให้คนดูต้องครุ่นคิดปะติดปะต่อเรื่องราว

ตัวละครหลักมีทั้งหมด 10 คน เป็นเพื่อนที่เรียนพิเศษที่เดียวกัน ได้แก่ เมย์ (อุ้ม อิษยา), จุ๊บเล็ก (ต้นหลิว มรกต), นิด (พลอย จากอาปัติ), เติร์ก (ภีม จากฮอร์โมนส์), ม่อน (เบสท์ ณัฐสิทธิ์ จากตั้งวง, อวสานโลกสวย, MV อ้าว), หมูหวาน (ปลื้ม ปุริม จากเกรียนฟิคชั่น), นิวตัน (เอิร์ธ อติคุณ หรือสมพงษ์ ฮอร์โมนส์), ปอนด์ (บอนน์ มนภัทร), เฟิร์น (เหม่ยเหมย ธัญญวีร์), และมีน (คิ้ว อนงค์นาถ)

ตัวละครทั้งหลายข้างต้นเป็นจุดอ่อนสำคัญของหนังเรื่องนี้ เพราะตัวละครมันมีเยอะเกินไปอย่างกับทีม Avengers แล้วหนังก็พยายามจะให้แต่ละตัวมีเส้นเรื่องของตัวเอง จนเกิดเส้นเรื่องที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป เช่น รักหลายเส้าอิรุงตุงนังตามประสาวัยว้าวุ่น สยามสแควร์ เนื้อเรื่อง

บทสรุป

ถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก คือก็มีประเด็นวัยรุ่น เช่น เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องความต้องการการยอมรับ ฯลฯ คือก็พอมีอะไรใหม่ ๆ ให้ดู ถึงแม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ที่มั่ว ๆ งง ๆ เป็นต้มจับฉ่ายไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็พอมีรสชาติอยู่บ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยที่สุดดาราเด็ก ๆ หลายคนก็เจริญหูเจริญตา และน้องเบสท์โอปป้าก็มอบความบันเทิงให้เราได้ไม่น้อย

ถึงจะบอกว่า สยามสแควร์ เป็นหนังที่มีประเด็นซ่อนเอาไว้เยอะมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดไปหมดทุกเม็ด จริงๆ เอาแค่เข้าไปดูแบบไม่คิดอะไรเลยก็ยังได้ เพราะจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องของหนังทำได้ดีทีเดียว อาจไม่หักมุมรุนแรงเท่า Cabin in the Wood (2012) แต่มันก็เหวอมากพอให้สบถดังๆ ได้เหมือนกัน

เป็นหนังที่เราอาจทั้งชอบมากและเกลียดมากไปเลย ซึ่งไอ้หนังแบบนี้ล่ะครับที่เขาเรียกว่ามีของ ถึงจะสร้างความรู้สึกรุนแรงกับคนดูหลังหนังจบได้แบบนี้ ไม่ว่าจะชอบจะไม่ชอบแต่สิ่งหนึ่งที่พูดได้คือหนังกล้ามาก ฉลาดมาก น่ากลัวมาก และเป็นหนังที่ตีตั๋วไปเชียร์หนังไทยได้อย่างไม่เสียดายตังค์ครับ สยามสแควร์ 2527

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

หนังไทยnetflix สวัสดีครับสำหนับหนังไทยสายบู๊ที่จริงๆจังๆนั้นคงจะหาได้ยากนะครับ แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่นำแสดงโดยนักแสดงตลกรุ่นใหญ่อย่าง หม่ำ แต่จะว่าไปแล้ว “บอดี้การ์ดหน้าหัก” เป็นหนังที่เขียนพล็อตขึ้นมาแบบหลวม ๆ สายฮาๆ หาสาระไม่ได้ เพราะอันที่จริง เนื้อหาสาระของมันพูดถึงแค่ “ยามวัยกลางคนที่หมดกะในการเฝ้าเวร ระหว่างทางเขาต้องแวะซื้อบะหมี่กลับบ้านไปให้เมีย แต่จับพลัดจับผลูเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ลอบสังหารระดับชาติ” ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง แม้จะหาเนื้อหาสาระใด ๆ ไม่ได้ อีกทั้งหนังก็เล่าเรื่องตามแพทเทิร์นหนังมือสังหารแบบไม่มีอะไรพลิกผัน ถ้าหากคนดูเป็นแฟนรายการพวก “หม่ำโชว์” หรือ “ชิงร้อยชิงล้าน” ก็อาจจะบันเทิงไปกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์ บอดี้การ์ด หน้าหัก
แนว: แอ็คชั่น | ตลก
กำกับ: พิพัฒน์ จอมเกาะ
กำหนดฉาย: 28 พฤศจิกายน 2019
นำแสดง: เพชรทาย วงค์คำเหลา, เทพ โพธิ์งาม, หรินทร์ สุธรรมจรัส, สิตางศุ์ ปุณภพ, แอ๊ค เที่ยรี่, เล็ก คาราบาว, ดิม หรินทร์ (วงแทตทูคัลเลอร์), ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ยูบิน (นางเอกสาวจากกรุงพนมเปญ)

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก หม่ำ เพชรทาย วงศ์คำเหลา นักแสดงตลกที่ขยับก็เรียกเสียงฮาได้อยู่สม่ำเสมอ เขาถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในเมืองไทยมาอย่างยาวนานก็ว่าได้ การแสดงของเขาล้วนแล้วเปรียบเหมือนคนแบกหนังเอาไว้ เป็นสิ่งที่เย้ายวนชวนใจให้ใคร ๆ หลายคนอยากมาดูกัน บอดี้การ์ดหน้าหัก เป็นอีกเรื่องที่นำ หม่ำ มาแสดง หวังที่จะให้ความสำเร็จในอดีตอย่างบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมกลับคืนมา

วิธีการดำเนินเรื่องของ “บอดี้การ์ดหน้าหัก” คือการเล่าสถานการณ์ต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ พร้อมกับการโยนมุกตลกสามช่าเข้ามาแบบไม่สนใจว่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์หรือไม่ ( และ ตัวทีมงานก็ดูไม่แคร์ด้วยซ้ำไป) ซึ่งตลอดทางของหนัง บรรดานักร้องเพลงเพื่อชีวิตไม่ว่าจะแอด คาราบาว หรือ เทียรี่ คาราบาว ลามไปถึง เอกชัย ศรีวิชัย ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อรับบทเป็นตัวเอง และ คนดูก็พอเข้าใจได้ว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในลูกน้องของป๋าเทพอะไรประมาณนั้น

ฉากเปิดเรื่องเรามีโอกาสได้ทำความเข้าใจว่า เปรม (หรินทร์ สุธรรมจรัส) กำลังคบหาดูใจกับศร (ชิน ยูบิน) ซึ่งเธอได้พยายามแนะนำเขาให้กับพ่อชุณ (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) กำลังตกเป็นเป้าสังหารของผู้ก่อการร้าย แต่เมื่อแผนการไม่สำเร็จ

เรื่องราวจึงดำเนินต่อมาให้เราได้ทำความรู้จักกับ คำก้อน (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ยามประจำธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งสนิทสนมกับเปรมราวกับเป็นลูกหลาน

ระหว่างออกกะเพื่อเดินทางกลับบ้านคำก้อน ได้รับโทรศัพท์จากเมียตัวเองให้ซื้อบะหมี่โหน่งเจ้าอร่อยกลับบ้านไปด้วย แต่แล้วระหว่างที่กำลังจะออกจากร้านนั้นเอง เหล่าผู้ก่อการร้ายซึ่งนำทีมโดย เทพ (สุเทพ โพธิ์งาม) ได้ตามมาเจอชุณ เขมพิณ อีกครั้งโดยครั้งนี้คนดูจะได้ทราบแล้วว่า เขาเป็นถึงประธานาธิบดีประเทศเขมราษธาราที่กุมความลับบางอย่างเอาไว้อยู่จนตกเป็นเป้าสังหาร ด้วยความจำใจคำก้อนจึงต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชุณให้รอดพ้นจากการปองร้ายครั้งนี้ และ ต้องนำบะหมี่โหน่งกลับบ้านไปให้เมียอีกด้วย

เรื่องย่อ

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

“คำก้อน” พนักงานรักษาความปลอดภัยธนาคารแห่งหนึ่ง เพิ่งออกเวรกำลังกลับบ้าน แล้วเกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายกำลังตามล่า “นายชุณ เขมพิณ” ประธานาธิบดีประเทศเพื่อนบ้าน คำก้อนเข้าช่วยเหลือนายชุนด้วยความไม่ตั้งใจ จนทำให้หน่วยล่าสังหารตามล่าทั้งคู่ โดยที่ทั้งนายชุน และ ผู้ก่อการร้ายไม่รู้ว่า คำก้อน คืออดีตทหารหน่วยรบพิเศษ และ สายลับเก่า บอดี้การ์ดหน้าหัก เต็มเรื่อง 037

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

หนังไทยช่วงปลายปี 2562 มานี้จะมีข้อดีข้อแย่ต่างกันออกไป บางเรื่อง CG ทำออกมาดีแต่บทนี่เกินจะทนไหว บางเรื่องบทดีแต่ CG เหมือน 20 ปีที่แล้ว แต่เรื่องนี้สยบทุกอย่างเพราะ ฉากแอคชั่นทำออกมาได้ดี มุกตลกทำออกมาไม่แป้กจนเกินไป บทหนังที่กลั่นกรองออกมาเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกเพศทุกวัยไม่ต้องตีความแถมจบลงตัวอีกด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยในเรื่องนี้

หากใครได้ดูหนังของพี่หม่ำในยุคหลัง ๆ จะสังเกตเห็นได้เลยว่าหนังแต่ละเรื่องจะมี ศิลปินก๊อปปี้โชว์ มาปรากฎตัวตลอด ตั้งแต่คนเลียนแบบมิสเตอร์บีนใน ส่มภัคเสี่ยน มาจนถึงบอดีการ์ดหน้าหักนี้ ที่มีมุกก๊อปปี้โชว์เยอะมาก และ โดดเด่นจนช่วงแรกของหนังไม่ต่างจากช่วงโชว์ในรายการซูเปอร์หม่ำทั้ง ตูน บอดีสแลมปลอม หรือ แอ๊ด คาราบาวปลอม (แสดงโดย คาวบอย ศิลปินอินดีที่เลียนเสียงน้าแอ๊ดร้องเพลง)

แต่ยังดีที่หนังมีลูกเล่นในการสลับเพื่อเปิดตัว น้าแอ๊ด คาราบาว พี่เทียรี่ คาราบาว เข้ามาในฉาก และ ยังอุตส่าห์มี ป๋าเทพ ตัวปลอมอีกนะ ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่หม่ำแกจะทิ้งทวนมุกก๊อปปี้โชว์ หรือ ยังเพราะส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าการมานั่งดูก๊อปปี้โชว์ในโรงจะสร้างความบันเทิงตรงไหนแถมยังไม่ได้ไปกับเรื่องราวในหนังเท่าใดนักด้วย

ซึ่งเมื่อได้ดูก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยเพราะในตัวหนังนั้นสนุกไม่ใช่น้อย การยิงกัน บทหนังก็ดูจะเมคเซ้น ถึงแม้ไม่ค่อยปูเรื่องราวพื้นหลังตัวละครหลักมากสักเท่าไหร่แต่สิ่งที่หนังต้องการจะบอกกลับทำให้รู้สึกว่า นี่แหละหนังไทยต้องการบทหนังที่เข้าใจได้แบบนี้

แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดจากการที่ดูคือ บทบาทแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์มาก มากจนรู้สึกว่า เห้ยนี่แหละหนังตลกที่รอคอยหนังที่อยากเห็นแต่ละคนดัง ๆ มาดวลปืนใส่กันเอง ถ้าลองคิดดูว่าตัวละครเหล่านี้ใครจะมาแทนได้คิดไปหลายวันก็ยังนึกไม่ได้อยู่ดีว่าใครจะแทนได้ เพราะมันลงตัวจริง ๆ

ข้อเสียที่อยู่ในหนังบอดี้การ์ดหน้าหักก็คือ การ Tie in สปอนเซอร์ในหนังมากจนเกินพอดีในช่วงครึ่งแรกของหนังเหมือนกับว่าลูกค้ามานั่งดูทุกฉากทุกขั้นตอนการถ่าย Tie in สินค้าอยู่ตลอดถึงแม้เป็นฉากยิงกันอย่างยาวนานก็สามารถแทรกมาได้บวกกับการโฆษณาของหม่ำ และ เพื่อนที่บอกได้เลยว่าน่ารำคาญก็ว่าได้ อยากกินตีนไก่ ที่มีทุก ๆ 15 นาทีในหนัง ยังไม่รวมกับบะหมี่โหน่งที่ใส่เข้ามาจนทำให้รู้สึกว่าจะขายอะไรนักหนาขายไปทำไมเยอะแยะเหมือนให้คนดูจำฝังใจว่าจบหนังเรื่องนี้อย่าลืมไปฟังเพลงกับกินบะหมี่โหน่งกันนะครับยังไงอย่างงั้น บอดี้ การ์ด หน้าหัก เต็มเรื่อง hd พากย์ไทย เต็มเรื่อง

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่แฝงอยู่ในเรื่อง คือการที่ให้ “เป้าสังหาร” ตกเป็นของประธานาธิบดีประเทศเขมราษธารา ซึ่งชื่อประเทศสมมติมีความใกล้เคียงกับอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเคยมีประเด็นในการอยากจะแยกตัวออกมาเป็นจังหวัดใหม่ภายใต้ชื่อจังหวัดเขมราษฏร์ธานี เมื่อปี 2561 หนังก็เผยให้เราเห็นว่า เหตุการณ์ลอบสังหารนั้นเกิดขึ้น เพราะเรื่องราวของผลประโยชน์ที่ว่าด้วยการเอื้อโอนความสะดวกในการประมูลสัมปทานให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศ จนคนที่ขัดกับผลประโยชน์นั้นจะต้องถูกกำจัดให้พ้นทาง น่าจะเป็นประเด็นสากลที่สุดในหนังเรื่องนี้

นอกเหนือจากนั้นแล้ว พฤติกรรมเมียติดไพ่นกกระจอก เอาตีนถีบหน้าผัว คำผรุสวาท หยาบโลนเหมือนคำพูดปกติ หรือ แม้กระทั่งการด่าพ่อล่อแม่นั้น ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จภาคบังคับในหนังของหม่ำ จ๊กม๊กมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้อำนวยการสร้างแทบทุกเรื่องก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่แค่คนดูบางกลุ่มอาจจะไม่ถูกจริตกับมุกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด บอดี้การ์ดหน้าหักเต็มเรื่อง ซับไทย

สรุป

ใครอยากหาหนังไทยบู๊ ตลก ๆ บอดีการ์ดหน้าหัก ยังคงเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณอยู่ แต่หากมองหาหนังที่มีเนื้อหาสาระ มีข้อคิดเตือนใจ หรือ หาหนังครอบครัวไม่มีพิษมีภัยให้เด็ก ๆ ได้ดู หนังยังไม่ตอบโจทย์เท่าใดนักครับ

แต่งานโพรดักชันยอมรับเลยว่าทั้งการดีไซน์คิวบู๊ หรือ งานถ่ายภาพของ ทิวา เมยไธสงทำให้ภาพรวมของฉากแอ็กชันในหนังดูดีมาก เสียแค่การเลือกใช้บีบีกันในการถ่ายทำที่ดูมือสมัครเล่นไปหน่อย แม้ฝุ่นของบอลสีที่กระทบกับเนื้อตัวจะคล้ายเลือดพุ่ง และ มีการติดเอฟเฟกต์เลือดแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดูยังไงก็ดูออกว่าเป็นปืนบีบีกัน

จนฉากบู๊ที่ดีไซน์มาอย่างดีมามีจุดด่างพร้อยไปอย่างน่าเสียดาย แต่ภาพรวมการออกแบบฉากวินาศสันตะโรต่าง ๆ ก็ทำได้ดี แม้หลายจังหวะจะดูออกว่าได้แรงบันดาลใจจากหนังบู๊แห่งยุคอย่าง john wick อย่างชัดเจน

สุดท้ยนี้ ก็ถือเป็นหนังไทยที่น่าสนับสนุนเลยทีเดียวนะครับสำหรับ บอดี้การ์ดหน้าหัก ผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดของพี่หม่ำ อย่างน้อยก็ได้ไปดูฉากแอคชั่นสุดมันส์ ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว แถมมุขตลก ก็ไม่ได้หยาบคายมากจนเกินไป เหมือนหนังตลกเรื่องอื่น ๆ โดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่เสียดายค่าตั๋วครับ อย่าลืมไปรับชมกันน้า บอดี้ การ์ด หน้าหัก เต็มเรื่อง ภาค 2

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone

หนังไทยnetflix สวัสดีครับวันนี้ผมมาแนะนำหนังไทยสุดอินเลิฟที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่จับตามองเอามากๆของวัยรุ่น ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น สารภาพตามตรงเลครับว่าเคยชอบเพื่อนคนนึงมากๆ พอมาดูเรื่องนี้ก็อินสุดๆเลยครับ เป็นหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ จากค่ายหนังอารมณ์ดี GDH ที่ได้ฉายทางโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันวาเลนไทน์ ปี 2019 จนวันนี้ผมได้มีโอกาสได้กลับมาดูหนังเรื่องนี้อีกครั้ง แม้จะเป็นการดูรอบที่ 2 ของผม แต่ตัวหนังก็ยังคงความสนุก มุกที่ดูแล้วก็ขำอยู่เหมือนเดิม ตัวของหนังเองที่แอบใส่ความดราม่าเล็ก ๆ ลงไป แม้จะยังไม่สุดพอจนทำให้เราน้ำตาไหลได้แต่ก็เป็นหนังที่ทำให้คุณยิ้มได้เมื่อดูจบ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง “Friend Zone ระวัง…สิ้นสุดทางเพื่อน” ของทางค่าย GDH ซึ่งเป็นค่ายที่สร้างภาพยนตร์ได้โดนใจวัยรุ่นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะมีหนังเรื่องใหม่ที่มาจากช่องเขาเมื่อไหร่ ใคร ๆ ก็อยากที่จะติดตาม เช่นเดียวกับเรื่อง “Friend Zone ระวัง…สิ้นสุดทางเพื่อน” ที่เราได้นำมารีวิวในวันนี้ ตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างหนังออกมาทำเอากระแสตอบรับจากคนที่คอยชมกันอยู่เยอะเลยทีเดียว เพราะค่อนข้างตรงกับชีวิตความรักของใครหลาย ๆ คนอยู่อีกด้วย นักเขียนก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ จนตอนนี้ได้ดูจนจบเรียบร้อยแล้ว จึงจะนำมารีวิวว่าเนื้อเรื่องเขาเป็นยังไง สนุกมั้ย น่าติดตามหรือเปล่า? ไม่มัวรอช้า ไปตามดูพร้อม ๆ กัน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone หนังภาพยนตร์ Friendzone ระวังสิ้น…สุดทางเพื่อน เป็นหนังโรแมนติกคอมิดีที่โดดเด่นเรื่องหนึ่งของ GDH ซึ่งเป็นค่ายที่มักปล่อยหนังแนวนี้ออกมาเรื่อย ๆ และ มักจะทำรายได้ได้ดี หนังเล่าเรื่องของปาล์ม สจ๊วตหนุ่ม ที่ติดอยู่ใน “เฟรนด์โซน” คือเป็นได้แค่เพื่อนกับ กิ๊ง ทั้งที่เขาแอบหลงรักเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม กิ๊งนั้นมีแฟนหนุ่มชื่อเท็ด ซึ่งเป็นคนทำงานในวงการดนตรี ในขณะที่เธอทำงานเป็นผู้จัดการศิลปิน

ไอเดียของการทำให้ตัวละครทั้งสองเคลื่อนไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ ผ่านการเดินทางด้วยเครื่องบิน และ ใช้โค้ดสนามบินแต่ละแห่งเป็นตัวเปิดฉากนั้นเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ และ ทำงานได้อย่างแยบยลกับชนชั้นกลางที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของหนังค่ายนี้ โดยทำให้พวกเขาเชื่อมโยงเป็นส่วนหนึ่งกับพระเอกนางเอก

ใสถานที่ที่ทั้งสองไปเยือนนั้น เป็นเพียงฉากที่ช่วยบ่มเพาะความรักความสัมพันธ์ให้สุกงอม และ ทำหน้าที่เป็นเสมือนฉากในเทพนิยายโดยแยกขาดจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน และ ความเหลื่อมล้ำที่อาจนำมาเปรียบเทียบกับไทยได้ ชีวิตซึ่งดำเนินไปโดยมีความมั่นคงในระดับหนึ่งทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เดือดร้อนกับการต้องดิ้นรนให้มีชีวิตพ้นไปทุกวันเช่นที่ชนชั้นแรงงานต้องเผชิญ และ ปัญหาที่ดูร้ายแรงที่สุดดูจะเป็นการอกหักเพียงเท่านั้น

มีฉากหนึ่งที่กิ๊งอยู่ที่มาเลเซีย และ ต้องการให้ปาล์มมาหา ปรากฏว่าปาล์มก็ขึ้นเครื่องบินมาหาเธอจากที่พม่าได้ในทันที อำนาจในการ “จ่ายได้” ของชนชั้นกลาง ดูจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้มีอภิสิทธิ์ และ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเชิงโครงสร้างหลายอย่างของประเทศ ประเทศต่าง ๆ ทั้งที่เจริญน้อยกว่า และ มากกว่าไทย

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว friend zone

Friendzone ระวังสิ้น…สุดทางเพื่อน เรื่องราวของหนังจะเล่าถึง “กิ๊ง” กับ “ปาล์ม” ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม โดยวันหนึ่งกิ๊งได้แอบสะกดรอยตามพ่อของเธอไปจึงพบว่าพ่อของเธอแอบไปมีกิ๊ก กิ๊งเสียใจมากแต่ก็มีปาล์มคอยอยู่ข้าง ๆ และ ปลอบใจตลอด จนทั้งสองเกือบที่จะได้ขยับความสัมพันธ์กันแล้ว

แม้ลึก ๆ ในใจของปาล์มอยากบอกรักกิ๊ง แต่ปาล์มกลับบอกเธอไปว่าคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น วันเวลาผ่านไปไม่ว่ากิ๊งจะคบกับผู้ชายคนไหน เวลามีปัญหาก็จะเป็นปาล์มที่อยู่ข้างกิ๊งเสมอ รวมทั้งยังต้องไปช่วยตามดูแลเธอ ในการแอบสะกดรอยตามแฟนของกิ๊ง “พี่เท็ด” ว่าพี่เท็ดได้นอกใจกิ๊งหรือไม่อีกด้วย friend zone 2 เต็มเรื่อง

เอาเป็นว่าปาล์มเป็นทุกอย่างให้กิ๊งหมดแล้วที่ไม่ได้เป็นอย่างเดียวคือแฟนนั่นเอง นี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของชายหนุ่มผู้อยู่ใน Friend Zone มาอย่างยาวนานโดยเล่าผ่านการพูดคุยของแก๊งชายหนุ่มในงานแต่ง ผู้ถูก Friend Zone ด้วย เช่นเดียวกัน

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว friend zone

เหมือนว่าโจทย์ถูกบังคับให้หนังจะต้องออกมาเป็นโรแมนติก-คอมมีดี้ แม้ว่าเนื้อหาบนชะตากรรมตัวละครจะเศร้าปานใด หนังก็เลยยัดเยียดมุกลงไปให้เกิดเสียงหัวเราะได้ทุก ๆ 5 นาที หลายมุกทีเล่นกับสถานการณ์กระอักกระอ่วน เก้อเขิน ก็ได้ผลดี มุกที่มากับบทสนทนาแซวจิกกัดก็ได้เสียงหัวเราะไปเสียทุกครั้ง

แต่บางมุกก็ฝืนเกินไป เหมือนมุกในละครหัวค่ำ อย่างตอนปาล์มเอาช็อคโกแลตลาวามาทารอบปากแทนหนวดเคราเพื่อล้อเลียนพี่เท็ด มุกที่ปาล์มแต่งเนื้อร้องแซวกิ๊งใส่ทำนองเพลง “คิดมาก” ก็ไม่ได้รู้สึกขำตาม หรือมุกลิงซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ก็ดูแล้วเหมาะกับหนังตลกสไตล์โก๊ะตี๋-น้าค่อมมากกว่านะ

ถ้าไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาพยายามให้ตลก ลดระดับมุกต่าง ๆ ให้พอมีบ้าง แล้วไปขยี้เรื่องราวดราม่าของปาล์ม – กิ๊ง น่าจะพาไปถึงระดับน้ำตาแตกได้พอ ๆ กับ FANDAY เพราะตลอดเรื่องคนดูก็ได้รู้จักตัวตนของปาล์ม-กิ๊งมาพอดู ต่างก็ลุ้นให้คู่นี้ได้เปิดปากบอกความในใจกันเสียที ลุ้นให้ลงเอยกันเสียที

โดยความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ ผมรู้สึกว่าภาพยนตร์เร่องนี้มันยังลืมรายละเอียดของภาพยนตร์ไปนิดหน่อย เรื่องแรกคือปมของพ่อกิ๊งนะครับที่หลังจากรู้ว่าพ่อของตัวเองนั้น มีเมียน้อยแล้วหลังจากนั้นจะจัดการยังไงต่อมันหายไป เพราะหลังจากนั้นเสร็จปุ้ปก็มีแค่ฉากนางเอกอยู่คนเดียว และ ดำเนินเนื้อเรื่องไปกับพระเอกจนจบ สองเรื่องผู้หญิงของปาล์ม ไม่มีฉากที่เคลียร์กับผู้หญิงของตัวเองเลย เพราะตอนนั้นกิ๊งก็เหมือนจะเปิดใจแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงของปาล์มที่ทำงานเป็นแอร์ จริง ๆ อาจไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามาในฉากก็ได้แหละ แต่เราคิดว่าถ้าเอาฉากนั้นใส่เข้ามาภาพยนตร์จะดูสมบูรณ์ขึ้นกว่านี้

ส่วนเรื่องความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้เราชอบการแสดงของนักแสดงเรื่องนี้มาก เก่งทุกคน และ แสดงเป็นธรรมชาติค่ะ ชื่นชมสมกับที่ค่าย GDH เลือกมา มีการนำเพลงคิดมากของปาล์มมี่มาใช้โดยนำเอานักร้องแต่ละประเทศมาแบ่งท่อนกันร้อง ทำให้เพลงของปาล์มมี่นั้นดูดีขึ้นไปอีก มีฉากแทรกมุขตลกมาด้วยนิดหน่อย ตอนแรกคิดว่าจะโบ๊ะบ๊ะกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอยู่ค่ะ คนที่อยู่ในสถานการ์ณตกหลุมรักเพื่อนน่าจะชอบกัน แถมกระแสเรื่องนี้ก็ถือว่าวัยรุ่นให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากอีกด้วย รวม ๆ แล้วก็ชอบน้าา friend zone ย้อนหลัง

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone หน้าหนังยังคงมาในสไตล์โรแมนติก-คอมมีดี้ แนวถนัดของ GDH แต่เมื่อได้ชมกับรู้สึกว่าชีวิตรักของตัวละครหลักทั้งปาล์ม และ กิ๊ง กลับไม่ได้ดำเนินมาบนเส้นทางที่พบกับความสุขหอมหวานเลยนะ ตรงกันข้ามกลับเต็มไปด้วยน้ำตา บทกิ๊งของใบเฟิร์น ร้องไห้แทบทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่จับได้ว่าพ่อแอบมีเมียน้อย รู้สึกเก้อ ๆ เขิน ๆ เมื่อปาล์มเผยความรู้สึกกับกิ๊งว่าเป็นแค่เพื่อนตั้งแต่ในวัยมัธยม คบกับแฟนรุ่นพี่มา 10 ปีก็ไปมีกิ๊ก

จนกระทั่งมาคบกับพี่เท็ด บทของเจสัน ยัง ก็เป็นความรักที่ดำเนิน ไปบนความหวาดระแวง วิตกกังวลตลอดเวลาว่าพี่เท็ดจะนอกใจ ต้องตามสืบอยู่ตลอดเวลา ส่วนปาล์มก็กลายเป็นสจ๊วตเจ้าเสน่ห์ มีสาว ๆ ไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่ได้มีความสุขสมหวังสักคน เพราะแม้แต่ปากจะบอกกับกิ๊งว่าเป็นเพื่อนแต่ก็แอบรักแอบหวัง อยู่เสมอ แค่กิ๊งโทรหาปาล์มก็รีบแจ้นไปหาทุกที่ทุกเวลา แม้จะอยู่ต่างประเทศ

การปูทางของเรื่องตั้งแต่ต้นมาก็แสดงให้เห็นอยู่ว่ากิ๊งนั้นผิดหวังกับปมความรักตั้งแต่รู้ว่าพ่อของเธอแอบซ่อนเมียน้อยไว้แล้ว และ แสดงให้เห็นว่ากิ๊งกับปาล์มเป็นเพื่อนสนิทกันแบบสนิทมากจริง ๆ เป็นเรื่องยากมากที่เพื่อนสนิทกันจริง ๆ จะมาหันมาชอบเพื่อนสนิทของตัวเองที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้

แต่ค่ายก็ไม่ได้ข้ามรายละเอียดในเรื่องนี้ไป เพราะเราจะเห็นว่าปาล์มนั้นชอบกิ๊งมาตั้งนานแล้วแต่เพียงอยากจะทำความรู้จักกันในแบบเพื่อนโดยให้กิ๊งเป็นเพื่อนก่อนจะได้เข้าหาได้ แต่โชคชะตาเล่นตลกดันมาเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ซะงั้น นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ภาพยนตร์สื่อว่าทำไมปาล์มถึงชอบเพื่อนสนิทมาตลอด ไม่ได้มาชอบทีหลัง แต่ชอบมาก่อนจะเป็นเพื่อนกันแล้ว friend zone ดูฟรี

บทสรุป สิ้นสุดทางเพื่อน

Friend Zone เหมือนเป็นหนังโฆษณาการบินไทยขนาดยาว 2 ชั่วโมง (โดยมีโฆษณา SCB, คริสตัล ฯลฯ แทรกมาประปราย อย่างจงใจให้ไม่แนบเนียน) ส่งผลให้บทอ่อนต่ำกว่ามาตรฐานของค่าย และ เป็นหนังที่แทบไม่มีอะไรน่าจดจำเลย นอกจากเสน่ห์ และ การแสดงของน้องนายกับน้องใบเฟิร์น ที่เป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้อย่างเดียว (อ้อ… และ ก็เพลงคิดมากเวอร์ชั่น AEC อีกอย่างหนึ่ง ที่มีบทบาทสำคัญกับหนังที่สุดแล้ว)

หนังยังสอดแทรกตัวละครอื่น ๆ เข้ามาร่วมสร้างสีสันได้อยู่ไม่น้อย ได้เห็นแขกรับเชิญที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนดู ขณะที่หนุ่ม ๆ แก๊งเฟรนด์โซนก็สามารถมัดใจคนดูได้อยู่ รวมทั้ง พี่เท็ด ตัวละครของ “เจสัน ยัง” ก็ยังถูกถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างดี หล่อเหลาเกือบเทียบเท่าพระเอกเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หนังภาพยนตร์ Friendzone ระวังสิ้น…สุดทางเพื่อน ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการทำให้ผู้ชมหลีกหนีจากความเหน็ดเหนื่อยในชีวิต และ รู้สึกชุ่มชื่นเมื่อเห็นคนหนุ่มสาวได้รักกัน ตรงตามวัตถุประสงค์ของหนังโรแมนติกคอมิดิ ในส่วนประเด็นที่เป็นดราม่านั้นหนังก็เลือกจังหวะในการใส่มาได้อย่างลงตัว และ เพลงประกอบก็มีความแปลกใหม่น่าสนใจ เป็นหนังที่ดูได้เพลินหากเราทิ้งความคิดหนัก ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางสังคมไว้เบื้องหลัง friend zone ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน facebook