Category Archives: หนังไทยมาใหม่

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับนี่คือการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของหนังดังจากเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา คราวนี้มันกลับมาอีกแล้วในภาคต่อภาคที่ 2 ที่เป็นอีกหนึ่งหนังแฟรนไชส์หนังที่โด่งดังจากเกาหลี นี่คือ “The Witch: Part 2 – The Other One แม่มดสังหาร 2” ที่มาสานต่อเรื่องราวจากหนังภาคแรกเมื่อหลายปีก่อน ที่บางคนอาจจะลืมไปแล้ว นี่คือหนังที่ใส่ความเขย่าขวัญเข้ามากับฉากแอคชั่นชวนสยอง เป็นหนังที่เต็มไปด้วยรูปแบบของสูตรสำเร็จ แม้ว่าภาคนี้จะแอบรู้สึกได้ชัดเจนว่า…เสน่ห์ดั้งเดิมนั้นได้จางหายไป ที่มีผู้ชมมากมายตั้งความคาดหวังกับภาคสองไว้เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภาคแรกสร้างความพึงพอใจไว้มาก คงยากที่จะเขียนรีวิวเรื่องนี้โดยไม่พาดพิงเนื้อหาจากภาคแรก เพราะนอกจากเนื้อหาที่อุปมาดั่งเกิดจากไข่ฟองเดียวกันแล้ว การแตกตัวก็มีรูปแบบบางอย่างที่เหมือน บางอย่างที่ต่าง ซึ่งเชื่อว่าได้ถูกผู้กำกับคิดมาอย่างดีแล้วว่า จะทำอย่างให้ต่างไปอย่างมีจุดสนใจชดเชยความสดใหม่ของพล็อตหลักที่ถูกเฉลยไปแล้ว ทำอย่างไรจึงจะอุดจุดอ่อนเดิมที่เคยมี ซึ่งแน่นอนว่าสนุกหรือไม่สนุกก็เป็นเรื่องของนานาจิตตัง ความชอบของแต่ละคน ดูหนัง

ผู้เขียนจะขอรีวิวแบบเห็นทั้งสองด้าน จึงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าผู้อ่านได้ผ่านภาคแรกมากันหมดแล้วว่าโดยผิวเผินจากพล็อต ภาคนี้อาจเหมือนเวอร์ชันรีเมคก็ว่าได้นะ จริง ๆ แล้วโดยชื่อเรื่องก็ชี้ชัดอยู่ว่าเป็น The Other One ปฏิบัติการล่าแม่มดอีกคนหนึ่ง/อีกครั้งหนึ่ง แต่ผู้กำกับก็ยังสามารถหาสิ่งที่แอดวานซ์หรือแตกต่างมาเสริมองค์ประกอบใหม่ของเรื่องราวที่น่าชมน่าติดตามได้ ดูหนัง เป็นต้นว่า…

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2 มนุษย์สายพันธุ์ใหม่จากแล็ปทดลองที่ถูกเรียกเป็น ‘แม่มดน้อย’ หรือ กูจายุน (รับบทโดย คิมดามี) ในภาคแรก ถูกตามล่าโดยองค์กรหลังหลบหนีมาเติบโตอยู่ภายนอกนานถึง 10 ปี เป็นการล่าแบบ 1 ต่อ 1 แต่มาภาคนี้ แม่มดสาวน้อย (รับบทโดย ชินชีอา) ที่หลุดรอดชีวิตอย่างคาดไม่ถึงเพียงหนึ่งเดียว หลังจากแล็ปถูกถล่มราบคาบจากกองกำลังปริศนา ระหกระเหินออกมาสู่โลกภายนอกอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ เธอต้องเผชิญกับฝ่ายวายร้ายแบบ 1 ต่อ 3 เลย ดูหนังออนไลน์

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2

มีทั้งหน่วยทหารขององค์กรที่ต้องตามกำจัด ‘ผลผลิต’ ล้ำเลิศของ ดร.แบ็ค (รับบทโดย โจมินซู) เพราะรู้ในพลังอันร้ายกาจเกินควบคุม ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ และ กลุ่ม ‘โตอู’ ทีมจากแล็ปที่จีน ซึ่งมีจุดประสงค์ปริศนา ทั้งสองทีมนี้ ต่างก็เป็นผลผลิตจากแล็ปทดลองมนุษย์เช่นกัน แม้จะไม่ใช่คลาสเลิศ แต่พลังซูเปอร์มนุษย์ที่เก่งล้ำ แกร่งทนทายาดนั้นก็ใช่ย่อย รวมถึงทีมที่สาม คือนักเลงท้องถิ่นที่นำโดย ยงดู (รับบทโดย จินกู)

อาที่ตามข่มขู่บีบหลานสาว คยองฮี (รับบทโดย พัคอึนบิน) ให้ขายฟาร์มที่ดินมรดกให้เขาเอาไปลงทุนทำอสังหาฯ พัฒนา แต่แม่มดสาวน้อยที่มาอาศัยบ้านคยองฮีอยู่เพราะได้รับความช่วยเหลือทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ได้ออกตัวช่วยสั่งสอนไล่แก๊งของยงดูไปอย่างกระเจิดกระเจิง จนสร้างความคับแค้นใจยิ่ง ดังนั้น ความเร้าใจของฉากแอ็คชันจึงเกิดหลายช็อตตลอดเรื่อง แตกต่างจากภาคแรกที่ใช้เวลาปูที่มาที่ไปก่อนรอพีคแอ็คชั่นที่ท้ายเรื่อง ดูหนังออนไลน์

เรื่องย่อ แม่มดมือสังหาร 2

The Witch: Part 2 – The Other One เป็นเรื่องราวของเด็กสาวได้ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องทดลองขนาดใหญ่ เธอได้พยายามหลบหนีออกมาจากที่นั่น ทำให้ได้มาพบกับ คยองฮี ที่พยายามปกป้องเธอจากแก๊งอาชญากร แต่เมื่อเด็กสาวต้องเผชิญหน้ากับพวกมันด้วยตัวเองนั่น เธอสามารถเอาชนะได้ด้วยพละกำลังที่มหาศาลอย่างน่าทึ่ง ในขณะเดียวกันก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งตามไล่ล่าเด็กคนนี้อยู่เช่นกัน เธอผู้นี้เป็นใคร? แล้วทำไมถึงมีใครอยากได้ตัวเด็กสาวผู้นี้กันมากนัก?

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2

เรียกได้ว่ากลับมาสานต่ออีกครั้ง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเป็นความพยายามที่จะยกระดับและปลุกปั้นสร้างเป็นแฟรนไชส์หนัง The Witch ขึ้นมาประดับวงการหนังเกาหลี หลังจากที่ภาคแรกออกฉายไปเมื่อปี 2018 และถือว่าทำกระแสตอบรับออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจดี กลับมาในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเล่าเรื่องในอีกส่วนที่ขยายออกไป และดำเนินเรื่องต่อเนื่องจากภาคก่อนที่ปูเอาไว้ แม้ว่าผลลัพธ์ของความพยายามนั้นจะยังออกมาได้ยังไม่สุดทางสักเท่าไหร่ก็ตาม the witch part 2 พากย์ ไทย

ผู้กำกับ “พัคฮุนจอง” จากภาคแรกยังคงกลับมาสานต่อเรื่องราวในพาร์ทนี้อีกครั้ง แน่นอนว่าเขารู้จักทิศทางและองค์ประกอบหลักของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทำให้หนังยังสามารถคงคอนเซ็ปต์ดิบเถื่อนและโหดแบบไซไฟเอาไว้ได้ดีเช่นเดิม องค์ประกอบและดีไซน์งานสร้างต่าง ๆ ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างดีตามมาตรฐานเดิมที่เขาเคยสร้างเอาไว้ ถึงจะต้องพูดตรง ๆ เลยว่ายังมีสิ่งที่ขาดหายไปในหนังภาคนี้ก็คือ เสน่ห์ของหนัง ที่ค่อนข้างขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย the witch part 2 เต็มเรื่อง

แม่มดมือสังหาร 2 ปมเรื่องที่มากับบทเซอร์ไพรซ์หักมุม

ภาคแรกอาจทำได้น่าสนใจกว่า เพราะมีปมปริศนาของพล็อตหลักผนวกกับแผนพลิกความคาดหมายของ ‘กูจายุน’ สำหรับภาคสอง กิมมิคหักมุมนี้มีหยอดเบา ๆ ไว้ที่ต้นเรื่องและท้ายเรื่อง ต้องจับตากันดี ๆ การโยงภาคสองกับภาคแรกไว้ที่จุดนี้ และ Hint การส่งสปริงบอร์ดไปสู่ภาคสาม (ถ้าจะมีการทำต่อ) ได้อย่างน่าสนใจ (ผนวกกับปมเดิมจากภาคแรกที่มิได้กล่าวถึงในภาคนี้ ซึ่งผู้เขียนเองเดาว่าจะมีบทบาทถ้ามีภาคสาม คือการขจัดจุดอ่อนคร่าชีวิตของอาการข้างเคียงไมเกรนเลือดออกด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกจากแม่แท้ ๆ ที่ให้กำเนิด รวมถึงความหวังว่าจะได้เห็นทั้งคิมดามีและชินชีอาด้วยกันอีกครั้ง) ส่วนเนื้อหาอื่น ๆ ระหว่างทางของเรื่องนี้อาจดำเนินไปแบบตรงไปตรงมาค่อนข้างย่อยง่าย

รวมถึงองค์ประกอบที่เพิ่มเข้ามาให้มีมิติรสชาติมากขึ้น มีทั้งฉากโรมานซ์ และ ฉากอมยิ้มขำ ๆ ภาคนี้มี แดกิล (รับบทโดย ซองยูบิน) เป็นน้องชายของคยองฮี ที่สานสัมพันธ์สร้างเคมีน่ารักน่าเอ็นดูกับแม่มดสาวน้อย นอกจากนี้ก็ยังเสริมเคมีแปลกจากคู่หูคู่โหดทีมทหารคือ บอสโจฮยอน (รับบทโดย ซออึนซู) และ ลูกน้องฝรั่งคนสนิทผู้ซื่อสัตย์และภักดี

ถึงจะขยันบ่นความปากร้ายด่าแหลกของบอส แต่เอาจริงก็เสพย์ติดคำด่าเกาหลีไปซะแล้ว กลายเป็นตัวละครขโมยซีนฮาของเรื่องไปเยอะอยู่ และสำหรับซออึนซู เรื่องนี้เธอฉีกบทมาก โหดหน้าสวยน่าดูดีค่ะ อันที่จริง นอกเหนือจากความฟินฮาแล้ว ก็ยังครบสูตรสำเร็จเกาหลีที่ต้องตามมาด้วยความบีบหัวใจ ที่ผู้เขียนขอละไว้ให้ชมกันเอง แม่มด มือ สังหาร ภาค 2

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2 บทสรุป

รีวิว แม่มดมือสังหาร 2 The Witch: Part 2 – The Other One ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องอีกด้านที่เป็นส่วนต่อขยายจากภาคแรก มีจุดที่เชื่อมโยงต่าง ๆ เอาไว้พอประมาณ นับว่าการดำเนินเรื่องของภาคนี้เป็นไปตามสูตรสำเร็จแบบเดิม เหมือนหนังสำเร็จรูปทั่วไป ตลอด 2 ชั่วโมงของหนังไม่ค่อยบอกเล่ารายละเอียดเชิงลึกออกมามากเท่าไหร่นัก แต่ได้หยอดปมปริศนาทีละน้อยออกมาแบบไม่ตรงไปตรงมาเท่าไหร่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับจะกั๊กเอาไว้ หากว่าจะทำหนังออกมาในภาคต่อไปในทำนองนั้น

โทนของหนัง แม่มดสังหาร 2 ภาคนี้นั้นเหมือนกับนั่งดูหนัง X-Men พวกมนุษย์กลายพันธุ์ของทางฝั่งฮอลลิวูด แต่ใส่ความหลอนฉบับเอเชียเข้าไปแทน บอกตรง ๆ หนังเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกับ The New Mutants (มิวแทนท์รุ่นใหม่) หนังมนุษย์กลายพันธุ์ที่เพิ่งจะออกฉายไปเมื่อไปนานนี้ (แต่ทำผลลัพธ์ได้น่าผิดหวัง) เพราะหนังมาในโทนนั้น เพียงแต่จังหวะค่อนข้างเงียบกว่า และค่อนข้างนิ่งเฉยมากไปสักหน่อย โดยรวมแอดให้ 7/10 แม่มด มือ สังหาร 2 ซับ ไทย

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง แม่มดมือสังหาร 2

ชื่อภาพยนตร์ แม่มดมือสังหาร
กำกับ Park Hoon Jung/พัคฮุนจอง
แสดงนำ Shin Shi A, Park Eun Bin, Seo Eun Su, Jin Goo, Sung Yoo Bin, Kim Da Mi, Lee Jong Suk, Jo Min Soo
แนว/ประเภท Mystery
เรท ไทย/น15+
ความยาว 97 นาที
ปี 2022

รีวิว พี่นาค 3

รีวิว พี่นาค 3

หนังไทยมาใหม่ ในที่สุดหนังผีไทย เรื่องพี่นาคนั้น ก็ได้มีภาคใหม่ออกมาแล้วครับ ภาค 3 ห้ามบวช ห้ามศึก และห้ามตาย!! แล้วหละครับ หลังจากที่ภาคก่อนหน้านี้ได้รับความนิยมไปอย่างมากมาย และ สำหรับ พี่นาค 3 ภาพยนตร์คอเมดี้สยองขวัญจากผู้กำกับ ไมค์-ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ หลังจากที่ภาพยนตร์สองภาคแรกได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมอย่างล้นหลามจนสามารถกวาดรายได้รวมทั้งสองภาคไปได้กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งการกลับมาครั้งนี้จะยกระดับสเกลของเรื่องราว และ ความโหดของผีพี่นาคที่ดุยิ่งกว่าเดิม ดูหนังออนไลน์

สองคู่หูเพื่อนซี้ ร่วมกับ บอลลูน และ เฟิร์ส สองพส.สุดแสบผู้จัดการวงไอดอลเกาหลี คุณโท ไอดอลเกาหลียอดนิยมสายบุญ และ แปมแปม ยูทูปเบอร์ชาวเกาหลีจอมซ่า ดูหนังออนไลน์ ที่มาทำรายการท่องเที่ยวเมืองไทยต้องร่วมมือกันเพื่อตามหาตำนาน และ วิธีล้างคำสาปของกำไลโบราณคู่นี้ก่อนที่อ๊อดจะตายเพราะคำสาป หรือโดนผีพี่นาคฆ่าตายเสียก่อน ดูหนัง

รีวิว พี่นาค 3

รีวิว พี่นาค 3

รีวิว พี่นาค 3 เมื่อ อ๊อด สัปเหร่อหนุ่มจอมแสบแห่งวัดธรรมนาคานิมิตร ขุดเจอกำไลข้อเท้าทองคำโบราณ ในหลุมฝังศพสมัยสงครามโลก และ หยิบติดมือมา ทำให้อ๊อดโดนคำสาปประหลาดจากกำไลที่ทำให้เขามีเกล็ดคล้ายงูขึ้นบนร่างกาย และ เริ่มลามเป็นแนวยาวไปรอบลำตัว ยิ่งเกล็ดลามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการป่วยไข้หนักมากขึ้น พร้อมกับปลุก ผีพี่นาค เจ้าของกำไลคู่นี้ที่มีเกล็ดตามตัวเหมือนที่อ๊อดกำลังเป็น ออกตามมาล่าอาละวาดทวงกำไลต้องคำสาป ดูหนัง

เนื้อเรื่อง พี่นาค 3

รีวิว พี่นาค 3

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ อ๊อด (ปอนด์-คุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ) สัปเหร่อหนุ่มแห่งวัดธรรมนาคานิมิตร บังเอิญไปเจอกำไลข้อเท้าทองคำโบราณในหลุมฝังศพสมัยสงครามโลก และ หยิบติดมือมาด้วย ทำให้อ๊อดโดนคำสาปประหลาดจากกำไลที่ทำให้เขามีเกล็ดคล้ายงูขึ้นบนร่างกาย อีกทั้งเขายังถูก ผีนาคคำ (แชมป์-ชนาธิป โพธิ์ทองคำ) เจ้าของกำไลออกตามล่าเพื่อทวงกำไลคืนเณรน็อต (ต้า-อธิวัตน์ แสงเทียน) จึงต้องร่วมมือกับ บอลลูน (เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี), เฟิร์ส (เจมส์-ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์), คุณโท (มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร), คิดดี (ตูน-อติรุจ แสงเทียน), เณรน้ำเหนือ (เทมโป-กัณฐพัทธ์ กิติชัยวรางค์กูร) และ แปมแปม (คิมเท ซิม) เพื่อหาวิธีล้างคำสาปให้กับอ๊อด ก่อนที่จะถูกผีนาคคำฆ่าตาย พี่นาค 3 เต็มเรื่อง

จุดสังเกตุ พี่นาค 3

ความโดดเด่นของ พี่นาค 3 ที่ยังนำเสนอออกมาได้ดีไม่แพ้สองภาคแรก คืองานโปรดักชันที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี ทั้งงานเมกอัพเอฟเฟกต์ของผีนาคคำที่น่าเกรงขาม และ ดุดันมากขึ้นกว่าเดิม ไปจนถึงงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่สร้างสรรค์พญานาคขึ้นมาได้อย่างอลังการงานสร้าง

จุดเด่นข้อต่อมาที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือมุกตลกขบขันภายในเรื่องที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับเราได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะสองเพื่อนซี้อย่าง บอลลูน และ เฟิร์ส ซึ่งรับบทโดย เอม-วิทวัส รัตนบุญบารมี และ เจมส์-ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับเรื่องราวได้ดีเช่นเดิม จนเรียกได้ว่าบทบาทของพวกเขาแทบจะโดดเด่นกว่าตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องก็ว่าได้ พี่นาค 3 เต็มเรื่องเถื่อน

รีวิว พี่นาค 3

ขณะเดียวกัน ท่ามกลางงานโปรดักชันสุดอลังการ และ มุกตลกขบขันที่สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชม พี่นาค 3 กลับมีจุดด้อยสำคัญในแง่ของเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะการกระจายบทบาทให้กับตัวละครต่าง ๆ

เนื่องจากในภาคนี้กลุ่มตัวละครหลักที่ผู้ชมต้องติดตามมีจำนวนมากถึง 8 คนด้วยกัน แต่ภาพยนตร์กลับไม่สามารถกระจายบทบาทให้กับแต่ละคนได้อย่างทั่วถึง เช่น คุณโท ไอดอลเกาหลีสุดเท่ที่อาสามาช่วยเหลืออ๊อดออกตามหาวิธีแก้คำสาป แต่ในระหว่างการเดินทางคุณโทกลับไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลืออ๊อดหรือมีการกระทำที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหลักเท่าไรนัก มันจึงส่งผลให้จำนวนของกลุ่มตัวละครหลักที่ผู้ชมต้องติดตามค่อนข้างจะล้นเกินไปจนไม่น่าจดจำ

รีวิว พี่นาค 3 จุดด้อย

รีวิว พี่นาค 3 อีกหนึ่งจุดด้อยสำคัญคือ ภาพยนตร์พยายามจะเล่าเรื่องราวในรูปแบบของการผจญภัย ที่ตัวละครต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ และ เผชิญหน้ากับปมปัญหาระหว่างทาง แต่วิธีการคลายปมปัญหาของเรื่องกลับดูจะเป็นความบังเอิญมากกว่าที่ตัวละครจะต้องพยายามแก้ไขปมปัญหาเหล่านั้น ภาพยนตร์จึงไม่สามารถชักชวนให้เรารู้สึกลุ้นหรืออยากจะเอาใจช่วยให้กลุ่มตัวละครหลักข้ามผ่านปมปัญหาต่าง ๆ อย่างที่ควรจะเป็น

ในภาพรวมแล้ว พี่นาค 3 ยังคงมีความตลกขบขัน และ งานโปรดักชันที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้สองภาคแรก โดยเฉพาะการออกแบบผีพี่นาคที่ดุดัน และ มีเสน่ห์ แต่ขณะเดียวกันภาพยนตร์กลับมีจุดด้อยในแง่ของเนื้อเรื่องที่ไม่สามารถทำให้เราอยากเอาใจช่วย และยังไม่สามารถกระจายบทบาทให้กับกลุ่มตัวละครหลักได้อย่างทั่วถึง พี่นาค 3 เต็มเรื่อง facebook

สรุป พี่นาค 3

พร้อมทั้ง ปมหลักของเรื่อง ผมชอบปมหลัก ของเรื่องนี้ ที่มันค่อยๆ เกี่ยวพัน สร้างความสมเหตุ สมผล ของเรื่องราวทั้งสองภาค ได้อย่างลงตัว ทำให้ อะไรก็ตาม ที่ขัดใจ คาใจในภาคแรก กลายเป็นคำตอบ ที่ชัดเจนภาคนี้ แล้วดำเนินต่อไป ในเส้นเรื่องที่แข็งแรง สำหรับการสรุป โดยรวมของภาพยนตร์ เรื่องนี้ ผมขอเรียกมัน ว่าการกลับมาเพื่อเพิ่มความสนุก และ ทำลายข้อสงสัย ของภาคเก่า จนหมดสิ้น และ ปิดสตอรี่นั้นๆ ได้อย่างเสร็จ สรรพสมบูรณ์ครับ งานพล็อตดี งานภาพดี งานตลกก็ดี เป็นเรื่องที่ผมแนะนำให้ทุกๆ คนได้ดูเลยละครับ ส่วนตัว :: เมื่อรีวิวถึงจุดนี้ ผมกลับรู้สึกอยากขอโทษต่อคำปรามาสที่ใส่ไปในช่วงต้น เพราะอะไรน่ะหรือ ?

นั่นเพราะว่าผมได้สัมผัสแล้ว ว่าตัวหนังทั้งสองภาคสอนอะไรกับเรา เรื่องราวที่เกี่ยวกับพระธรรมคำสอนใดๆ ก็ตามนั้นสอนให้เราเป็นคนดี รู้จักปล่อยวาง และ เติบโตขึ้นในหนทางที่ถูกที่ควร แน่นอนว่าวันนี้ ตัวละครอย่างบอลลูน และ เฟิร์สนั้น ก็ค่อยๆ โตขึ้นเช่นกัน บางทีบุคลิก ตัวละครอาจจะไม่ได้โดนปรับแก้ เพราะถูกคอมเม้นต์ ว่าโหวกเหวกโวยวายก็ได้ แต่มันควรจะเป็นแบบนั้น อยู่แล้วเนื่องจากตัวละครของเราโตขึ้น และ มีเหตุผล ในการดำเนินชีวิตมากขึ้น นั่นเอง รีวิวมา ทั้งหมดแล้ว หากจะไม่กล่าวถึง พี่นาคคนที่ 2 ก็กะไรอยู่ ผมติดตามหนังเรื่องนี้ มาตั้งแต่ตัวอย่างในเว็บ และ เห็นว่ามีคอมเม้นต์มากมาย “ไม่ชอบ” เมคอัพของผีตนนี้ เพราะดูน่ารังเกียจ ทุเรศ เหมือนผิวหนัง คางคกบ้างละ เหมือนอีสุกอีใสบ้างละ…ผมอยากจะบอกว่า เตรียมตัวลบคำปรามาสเหล่านั้น เพราะเรื่องราว จะพาคุณไปยังเหตุผล ทั้งหมดเอง…

ปฐมบท ความอาฆาตกับตำนาน ที่เล่าขานไม่รู้จบ ทุกบทสรุปของความฮา ที่มาพร้อมกับความอาฆาต จากภาคที่แล้ว จะกลับมาทำให้ พี่นาค 3 น่ากลัวกว่าเดิม อาฆาตกว่าเดิม ดุกว่าเดิม และ ฮากว่าเดิม ไปกับเรื่องราว ที่เข้มข้นในภาคนี้ ต้นกำเนิด ตำนาน และ ความอาฆาตที่เกิดขึ้นกับเหล่าแก๊งวัดธรรมนาคานิมิต ที่ต้องตามล่าหาความจริง และ ช่วยชีวิตแก๊งเพื่อนให้ทัน พี่นาค3 netflix

ชื่อเรื่อง พี่นาค 3

ประเภท ตลก / สยองขวัญ

นำแสดงโดย วิทวัส รัตนบุญบารมี, คุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ, ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์

กำกับโดย ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ

กำหนดฉาย 17 มีนาคม 2022

ความยาว 111 นาที

พี่นาค 3 มีกำหนดเข้าฉาย 17 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

รีวิว Thor: Love and Thunder

รีวิว Thor: Love and Thunder

รีวิว Thor: Love and Thunder

รีวิวหนังดัง เชื่อว่าในบ้านเราคงไม่มีใครไม่ชอบหนังซุปเปอร์ฮีโร่กัน วันนี้แอดมินมาแนะนำหนังใหม่ เรื่องที่ทุกคนก็ต้องรู้จักกันแน่นอน แอดมั่นใจ หรือถ้าหากให้คำนิยามสั้น ๆ สำหรับหนังเรื่องที่แอดจะแนะนำนั้นหรือ Thor: Love and Thunder ธอร์: ด้วยรักและอัสนี (ที่ไม่มีวสันต์) คงต้องเป็น สนุก ดูง่าย ขำได้แทบทุกฉาก เพราะเป็นภาพยนตร์ที่อัดมุกมาแน่นราวกับกลัวคนดูไม่ขำ เก็บครบไม่ว่าจะห้าบาท สิบบาท หรือ เหรียญสตางค์  กับเรื่องราวของ ธอร์ (รับบทโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ) ผู้กำลังตามหาความสงบจากภายในหลังจากเผชิญความสูญเสียมาหลายครั้ง ดูหนังออนไลน์

เขากลับมาดูแลตัวเองให้หุ่นดีและออกทำภารกิจช่วยเหลือตามแต่คนจะร้องขอ และคราวนี้เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับภารกิจใหญ่ เมื่อมีกอร์ นักเชือดเทพเจ้า (รับบทโดย คริสเตียน เบล) ออกล่าชีวิตเทพเจ้าไปทุกที่ ทำให้เขาต้องหาทางเอาชนะกอร์ให้ได้ และในขณะเดียวกันหัวใจของธอร์ก็ต้องสั่นไหวเหมือนโดนสายฟ้าฟาด เมื่อเจน (รับบทโดย นาตาลี พอร์ทแมน) แฟนเก่าที่หายไปจากชีวิตเขาถึง แปดปี เจ็ดเดือน กับหกวัน กลับเข้ามาในชีวิตในฐานะไมตี้ธอร์ พร้อมกับควงโยเนียร์ค้อนเก่าของเขากลับมาด้วย คราวนี้ถ่านไฟเก่าจะร้อนรอวันรื้อฟื้นหรือไม่ต้องมาดูกัน หนังไทยมาใหม่

รีวิว Thor: Love and Thunder

รีวิวหนังดัง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่านี่เป็นภาพยนตร์ดูง่าย ไม่เครียด ความเศร้าอยู่ไม่นานก็สลายตัวไปอย่างเร็ว ภาพสวย รวยฉากแอ็คชั่นที่ทำได้ดีเสมอตามมาตราฐานมาร์เวล ทำให้ Thor: Love and Thunder ธอร์: ด้วยรักและอัสนี สนุกตลอดเรื่องแบบไม่มีหยุดพัก โดยมีสไตล์ที่ต่อเนื่องกับภาคก่อน Thor Ragnarok แต่ถ้าหากภาคก่อนล้างความเป็นธอร์ในแบบสองภาคแรกไปจดหมดเหมือน ในภาคนี้ความเป็นธอร์ก็ถูกหลอมรวมขึ้นมาใหม่และสมบูรณ์ในที่สุด ซึ่งคล้ายกับจะสื่อผ่านการที่โยเนียร์แตกเป็นเสี่ยง และรวมขึ้นมาใหม่ในภาคนี้

หากมองอีกมุมหนึ่งความเป็นธอร์ที่เปลี่ยนไปจากสองภาคแรกก็คล้ายจะสะท้อนความเป็นชายที่สมบูรณ์แบบซึ่งเปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากที่เคยเป็นเทพที่สมบูรณ์แบบทั้งรูปกายภายนอก พละกำลัง ความเก่งกาจ กล้าหาญ เป็นที่สุดของ sterotype ความเป็นชาย เขาได้กลายเป็นคนที่สูญสิ้นสิ่งนั้นไปทั้งหมดใน Thor Ragnarok ค่อย ๆ กู้มันกลับมาในท้ายเรื่อง

ก่อนจะกลับมาสู่ความเป็นชายที่สูมบูรณ์แบบในบริบทของปัจจุบันในภาคนี้โดยมีจิตใจที่ดี ไม่เห็นแก่ตัว เอาสวัสดิภาพของคนรักมาก่อน ไม่เกรงกลัวหรือหวั่นไหวเมื่อมีผู้หญิงเก่งมายืนข้าง ๆ หรือนำหน้าในบางครั้ง ไม่แบ่งแยกเพศหรือชาติพันธุ์ แบ่งปันพลังของตนเองให้คนอื่นได้ การเป็นผู้ชายที่เจ็บได้ร้องไห้เป็น ก้าวข้ามผ่านความรู้สึกของการสูญเสียได้ แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นธอร์ในแบบดั้งเดิมคือการใช้ตัวละครและการเชื่อมโยงกับศาสนาและตำนานกรีก อย่างการปรากฏตัวของเทพต่าง ๆ รวมไปถึงซูส การนำละครเวทีซึ่งเป็นหนึ่งในอารยธรรมกรีกเข้ามาร่วมด้วย

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจใน Thor: Love and Thunder คือตัวละครกอร์ ผู้มีความแค้นกับเทพเจ้าที่เพิกเฉยต่อคำร้องขอ และเยาะหยันสาวกของเขาจนเกิดเป็นภารกิจการสังหารเทพเจ้าครั้งใหญ่ ก็ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในสหรัฐที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

รีวิว Thor: Love and Thunder

การที่กอร์นั้นไม่ได้เป็นบ้า แต่ทำทุกอย่างเพราะความปราถนาที่จะแก้แค้นของเขาซึ่งทำให้เขาเป็นผู้ที่ถูกดาบเนโครซอร์เลือก และได้รับพลังจากมัน ก็ชวนให้นึกถึงการที่นักวิชาการหลายคนได้ออกมาพูดถึงการที่การสังหารหมู่นั้นไม่ได้เกิดจากการที่ฆาตกรนั้นวิกลจริต แต่พวกเขามีสติสัมปชัญญะ และการวางแผนอย่างรอบคอบ

แต่แน่นอนว่าสถานการณ์ที่อยู่รอบตัวเขานั้นเป็นหนึ่งในสาเหตุทีทำให้เกิดความคิดทำจะทำแบบนั้นได้ บทความจาก ABC เผยว่าหลังการระบาดของโควิด-19 ความถี่ของเหตุการณ์กราดยิงนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะสถานการณ์เพิ่มความกดดันทางจิตใจ และการเงิน ผ่านความกลัวความตาย ความโดดเดี่ยวทางสังคม ความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอน

ซึ่งอาจจะนำมีสู่การเพิ่มความถี่ของการก่อเหตุกราดยิงได้ ซึ่งก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ที่กอร์เผชิญ ทั้งความยากแค้น ความตายที่มารออยู่ตรงหน้า และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จากการเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเชื่อมโยงให้เห็นว่าต้นเหตุของโศกนาฏกรรมนั้นอาจจะมาจากการบริหารงานที่ย่ำแย่ และความเพิกเฉยของผู้นำ ซึ่งเทียบได้กับเทพเจ้าที่บันดาลความเป็นไปของประชาชน ซึ่งทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้นั่นเอง ดูหนัง

สิ่งที่น่าเสียดายคือส่วนที่เป็นดราม่าของเรื่อง ทั้งบทบาทกอร์ที่มีอยู่ไม่มากนักในเรื่อง และปมอาการป่วยของเจนที่เป็น ‘เนื้อ’ ของเรื่อง เป็นเหตุเป็นผลที่ทำให้เรื่องมีน้ำหนักนั้นมีอยู่น้อยไปนิด เมื่อเทียบน้ำซึ่งก็คือมุข และความบันเทิงต่าง ๆ ที่ไม่ได้เดินเรื่องมากเท่าไหร่

แต่ก็ยังดีที่ได้นักแสดงอย่าง นาตาลี พอร์ตแมน ที่อาศัยความเก๋าเอาเรื่องจนอยู่หมัด และคริสเตียน เบล ที่เล่นน้อยแต่สื่อความหมายได้อย่างชัดเจนจนผู้ชมสามารถเข้าใจตัวละครอย่างทะลุปรุโปร่งได้เพียงแค่สบตาเขาในจอ บวกกับการแสดงที่อยู่ตัวของนักแสดงคนอื่น ๆ

ทำให้เนื้อที่มีอยู่น้อยอร่อยทุกคำ และลีลาการปรุงรสของ ไทก้า ไวทีที ที่มีเพลงประกอบเด็ด ๆ และจังหวะตลกที่โบ๊ะบ๊ะโดนใจผู้ชมเป็นผงชูรส ส่ง Thor: Love and Thunder ธอร์: ด้วยรัก และอัสนี ถ้าเปรียบเป็นอาหารก็คงจะเป็นก๋วยเตี๋ยวอีกหนึ่งชามที่คุ้นลิ้นผู้ชม อร่อย กินได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ จนหมด และได้แต่รอชิมชามถัดไปว่าคราวหน้าจะมีอะไรแปลกใหม่ให้ลองหรือไม่ Thor: Love and Thunder ธอร์: ด้วยรัก และอัสนี เข้าฉายแล้ว ในโรงภาพยนตร์ ดูหนังออนไลน์

ความรู้สึกหลังได้ดู Thor: Love and Thunder

รีวิวหนังดัง สิ้นสุดการรอคอยถึง 5 ปีเต็ม กับภาคย่อยภาค 4 ของ ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า ที่งานนี้ยังคงได้ผู้กำกับคนเดิม ไทก้า ไวตีติ มากุมบังเหียนต่อ ทำให้ภาพยนตร์ภาคนี้ยังคงออกมาตามสไตล์ ที่เคยทำไว้ในภาค Thor : Raknarok สนุก ตลก ครั้งนี้ได้นักแสดงฝึมือฉกาจ ระดับออสก้าร์มาปะทะฝีมือกัน อย่าง คริสเตียน เบล (พ่อหนุ่มค้างคาว เวอร์ชั่นก่อน จาก DC ) และ นาตาลี พอร์ตแมน ร่วมด้วย รัสเซลล์ โคลว์ และ แมตต์ เดมอน

– สนุก ตลก เสพง่าย ขำได้ทั้งเรื่อง
ส่วนตัว ถ้าถามโอ๋ โอ๋ชอบนะ มันเหมือนกับภาคที่แล้ว ไม่เครียด ตัวหนังเหมือนถูกขับเคลื่อนด้วยความตลก แทรกมุกโบ๊ะ บ๊ะ ตลอดเรื่องจนเมื่อยกราม ตามสไตล์ ไทกา ไวทิทิ ใครชอบภาค Raknarok ชอบภาคนี้แน่ แต่เนื้อหาไม่ซับซ้อน ค่อนข้างเบากว่า ตัวละครตัวอื่นมาก และไม่ค่อยเกี่ยวกับจักรวาล MCU เท่าไหร่ ดูหนัง
(แต่ตอนจบ END credit 2 ตัว เกี่ยวนะ )

รีวิว Thor: Love and Thunder

– เรื่องราวทรงพลัง เพราะฝีมือของเหล่านักแสดง
อย่างที่บอกว่า เนื้อหาในตัวของ ธอร์ เสพง่าย ไม่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับ MCU ภาคแยกอื่น ๆ แต่ที่ทำให้ภาพยนตร์ดูมีพลัง ไม่กลวง ก็ต้องขอชื่นชมการแสดงของ คริสเตียน เบล สลัดคราบพระเอกไอ่ค้างคาวทิ้งเสียสนิท เล่นแบบไม่ห่วงหล่อ ถ่ายทอดความเจ็บปวด และความคับแค้นใจ ได้ทรงพลังทะลุเมกอัพหนังเหี่ยวย่น ออกมาเลย บวกกับการเล่นซีนอารมณ์ เรื่องราวดราม่าของ นาตาลี พอร์ตแมน ถึงมาไม่มาก แต่มาแต่ละครั้ง ก็ปัง! ทำให้เราเชื่อและอินกับตัวละคร ส่งผลให้ภาพยนตร์ธอร์ภาคนี้ ไม่เบาจนเกินไปนัก
ในวัย 40 ปีกับบท ไมตี้ ธอร์ เท่ สวยบาดใจ ชอบมาก

เอาไปเลย 9.8 เต็ม 10
โบ๊ะ บ๊ะ ดูสนุก สอดแทรกมุกให้ขำกรามค้าง
ปะทะฝีมือการแสดงอันทรงพลังของ คริสเตียน เบล
และ นาตาลี พอร์ตแมน เป็นยังไง เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง

รีวิว Terminator : Dark fate

รีวิว Terminator : Dark fate

รีวิว Terminator : Dark fate

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับวันนี้แอดมินมารีวิวหนัง ที่เป็นหนังบู๊สุดมันเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ได้เดินมาทาง มาถึงภาคที่ 6แล้ว นั้นก็คือเรื่อง คนเหล็ก นั้นเองครับ เมื่อหนังกลับมาอยู่ในมือเจมส์ คาเมรอน ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ Terminator อีกครั้ง หลังลิขสิทธิ์อยู่ในมือของ Fox มากว่า 20 ปี เจมส์ ตัดสินใจเพิกเฉยให้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาค 3-4-5 ให้คิดเสียว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนละไทม์ไลน์ก็แล้วกัน

สวัสดีครับเพื่อนๆแฟนๆหนัง คนเหล็ก นี่คือภาคสุดยิ่งใหญ่อลังการ เป็นการกลับมาแท็กทีมกันของ ลินดา แฮมิลตัน และอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ในบท ซาราห์ คอนเนอร์ และหุ่นเหล็ก T-800 ภาพที่คนดูคิดถึงตั้งแต่ 27 ปีที่แล้ว นับว่าป็นจุดขายของหนัง Terminator : Dark fate ที่น่าจะเรียกแฟนเก่าให้กลับมาตัวละครที่รักบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะเข้าสู่วัยร่วงโรยกันไปมากแล้ว วันนี้ ลินดา อายุ 62 ปี ส่วนอาร์โนลด์ อายุ 72 ปีแล้ว

ส่วน Terminator : Dark fate นั้น เป็นเรื่องราวที่สานต่อจาก T2 ที่เขากำกับไว้ แต่ภาคนี้เจมส์ ยังติดพันกับโพรเจกต์ใหญ่กว่า นั่นก็คือ Avatar 2 ก็เลยรับหน้าที่อำนวยการสร้างและร่วมเขียนบทภาพยนตร์ แต่ยกหน้าที่กำกับให้ ทิม มิลเลอร์ ผู้กำกับจาก Deadpool มารับหน้าที่แทน หนังไทยมาใหม่

รีวิว Terminator : Dark fate

รีวิวหนังดังเหมือนกับสอนให้อดีตผู้กำกับในภาค 3-4-5 ได้ดูกันว่า Terminator มันต้องจัดหนักจัดเต็มกันแบบนี้ ว่าแล้วหนังก็ไม่รีรอ แต่เปิดฉากแอ็กชันดุเดือดตั้งแต่ 10 นาทีกันเลย เป็นฉากที่เราเห็นในตัวอย่างหนังนั่นแหละ ที่ซาราห์ คอนเนอร์ เปิดตัวด้วยมาดเท่

อัดกระสุนใส่หุ่น Rev-9 แบบไม่ยั้งมือ และนับตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป หนังก็แทบไม่เว้นว่างให้คนดูพักกันนาน ระดมอัดฉากแอ็กชันต่อเนื่องตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 8 นาทีของหนัง จัดมาให้แบบแฟนเก่าแฟนใหม่ได้หายคิดถึงบรรยากาศหนังคนเหล็กสู้กันไปเลย

เห็นได้ชัดว่าทีมงานเขียนบท ทำการบ้านกันมาอย่างดีมาก เพราะการกลับมาครั้งนี้เป็นโจทย์ที่ยากพอดู คนดูได้ดูคนเหล็กกันมาแล้ว 5 ภาค กับอีก 1 ทีวีซีรีส์ จะทำอย่างไรให้มีความแปลกใหม่ แล้วสามารถดึงคนดูกลับมาซื้อตั๋วดูคนเหล็กครั้งที่ 6 นี้ได้ ดูหนัง

ลำพังหุ่นเหล็กเก่า ๆ แก่ ๆ กับป้าซาราห์ คงยังไม่น่าสนใจพอ แล้วหุ่นแก่ ๆ ก็ไม่น่าจะมีพิษสงหรือบู๊ได้สะใจคนดูนัก ก็เลยต้องเพิ่มหุ่นเหล็กฝ่ายดีเข้าไปอีกตัว นั่นก็คือ “เกรซ” หุ่นเหล็กสาวที่ถูกส่งมาจากโลกอนาคต ส่วนหุ่นฝ่ายร้ายก็เป็นโจทย์ยากอีกเช่นกัน

มาตรฐานที่เจมส์ คาเมรอน สร้างไว้เองเมื่อ 27 ปีที่แล้ว กับหุ่น T-1000 ที่หลอมร่างตัวเองเป็นของเหลวได้ ปลอมแปลงร่างได้ก็เป็นเทคโนโลยีสุดยอดมากแล้ว จะสร้างหุ่นรุ่นใหม่อย่างไรให้มันตื่นตาตื่นใจได้มากกว่า T-1000 อีกล่ะ ผลลัพธ์ก็เลยออกมาเป็นหุ่นรุ่น Rev-9 ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการแยกเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มโครงเหล็กออกมาเป็นร่างหนึ่งได้ แต่ยังคงความสามารถในการปลอมแปลงร่าง และกลายเป็นของเหลวได้เช่นเดิม รอบนี้มาตัวเดียว ก็เหมือนมา 2 ตัวเลย

รีวิว Terminator : Dark fate

ว่ากันที่สีสันของภาคนี้ ตัวที่เป็นหัวใจหลักเลยก็คือ ซาราห์ คอนเนอร์ การที่ป้าหายไปจากจอถึง 27 ปีแล้วกลับมาในมาดคุณป้าสายดุนี่เป็นการกลับมาอย่างทรงคุณค่าตัวจริง ลินดา แฮมิลตัน ตอกย้ำให้เห็นกันชัด ๆ ว่าเธอคือ ซาราห์ คอนเนอร์ ตัวต้นแบบต้นฉบับที่ไม่มีใครแทนที่ได้เหมาะสมไปกว่าเธออีกแล้ว ดูหนังออนไลน์

ส่วนเวอร์ชันขุ่นแม่มังกร นี่อยากจะลบไปจากความทรงจำเป็นที่สุด อยากปรบมือเป่าปากปรี๊ดป้าลินดา เป็นซาราห์ที่เท่สุด ลินดาสามารถถ่ายทอดตัวตนของซาราห์ คอนนเนอร์ ให้สัมผัสได้ว่านี่คือคุณยายวัย 62 ที่แจ๋วจริง ดุจริง

แม้ว่าแวบแรกจะสะดุดไปหน่อยกับริ้วร้อยที่ยับย่นตามวัย 62 ของป้าลินดา แต่พอได้ดูหนังแล้ว ความเหี่ยวย่นบนหน้าป้าไม่ได้ทำให้ความเท่ของป้าลดน้อยลงไปแม้แต่นิดเลย

แม็กเคนซี เดวิส คนเหล็กสาว สมาชิกใหม่ในภาคนี้ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมจริง เธอเป็นสาวที่มีมีเอกลัษณ์ด้วยหุ่นสูงโปร่งถึง 178 ซม. ทำให้เธอมีพื้นเพมาจากการเป็นนางแบบอยู่แล้ว แม็กเคนซี อยู่ในวงการมายาวนานมาก แต่ก็ยังไม่มีบทที่ส่งให้เธอไปสู่ตำแหน่งนักแสดงแถวหน้าเลย

แต่ก็มั่นใจได้ว่าบท “เกรซ” คือบทสำคัญที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอแล้ว และจะทำให้ผู้ชมจดจำเธอได้มากขึ้น ด้วยลุคสาวผมสั้นนี้ เป็นลุคที่เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เธอได้บทเป็นสาวแว่นผู้เชี่ยวชาญภาคพื้นดินใน The Martian และหุ่นยนต์สาวใน Bladerunner 2049 ก็ยังดูไม่เข้าตาเท่ากับลุคนี้

เห็นได้ชัดว่าแม็กเคนซี เตรียมพร้อมกับบทเกรซมาอย่างดีมาก หุ่นเธอสวยแล้วดูแข็งแรงมาก ฉากประทับใจที่สุดคือฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง ที่เธอได้โซ่เส้นใหญ่มาเป็นอาวุธคู่มือ ฉากควงโซ่ด้วยความเร็วสูง นี่ดูเท่และทรงพลังมาก ฟันร่าง rev-9 เป็นชิ้น ๆ ดุเดือดจริง ๆ

ส่วนแกเบรียล ลูนา ขอพูดถึงแบบผ่าน ๆ แล้วกันนะ ด้วยลีลาการแสดงการใช้สีหน้าแววตา ดูจะเดินตามรอย โรเบิร์ต แพททริก ในบท T-1000 มากเกินไป แล้วก็ล้มเหลวในการสร้างรังสีอำมหิตอย่างที่ตัวร้ายควรมี การปรากฏตัวของ Rev-9 จึงยังไม่ดูน่ากลัวเท่าที่ควร ดูหนังออนไลน์

บทสรุปใน Terminator : Dark fate

รีวิวหนังดัง ทั้งหมดทั้งหลายที่กล่าวชื่นชมมานี่คือฉากแอ็กชันล้วน ๆ คนดูอยากดูฉากแอ็กชัน หนังมีให้จนเกินพอใจ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้กลับเกิดบนเนื้อเรื่องที่ดูไปแล้วก็ร้อง “เฮ้ออออออออออออ” อย่างมาก หนังถูกกำหนดโจทย์ยากมาก ๆ มาให้ตั้งแต่ก่อนเขียนบทภาพยนตร์แล้วว่าภาคนี้ จะมี อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ กลับมาในบท T-800 แม้ว่าหนังจะสานต่อจากภาค T2 แต่ตอนจบของภาค 2 เราก็เห็น T-800 ทำลายตัวเองไปในบ่อหลอมเหล็กแล้ว

ทีมเขียนบททั้ง 6 คน ต้องระดมไอเดียหาแนวทางว่าจะเอา T-800 กลับมาอย่างไรดีในภาคนี้ แล้วไอเดียสุดท้ายที่ถูกเลือกมาใช้ถ่ายทำจริงก็แบบว่า…………………. โคตรที่จะไร้เหตุผลอย่างที่สุด มันเป็นดาบสองคมที่ต้องแลก การที่ต้องเอา T800 ยัดใส่กลับมาในเรื่องราวเพื่อใช้ชื่ออาร์โนลด์ มาเป็นจุดขายเรียกคนดู แต่ก็ต้องยอมแลกกับตรรกะที่ไร้เหตุผลแบบนี้แหละ

รีวิว Terminator : Dark fate

ก็เลยกลายเป็นการดูหนังที่สนุกเพลิดเพลินไปได้กับฉากแอ็กชันเบื้องหน้า แต่มีเรื่องราวการปรากฏตัวของ T800 ที่ชวนคาใจค้างคาอยู่แบบนั้น มันน่าผิดหวังว่านี่คือ Terminator ที่กลับมาอยู่ในมือผู้ให้กำเนิด เราเคยยี้ให้กับภาค 3-4-5 แต่กลายเป็นว่าบทที่มาจากเจมส์ คาเมรอน เองก็ไม่ได้มีเหตุและผลที่ดูเข้าที่เข้าทางไปมากกว่าภาคก่อน ๆ เลย บางทีการเลือกเดินหน้าโดยที่ไม่ต้องพะวงกับการยัดเยียด T800 เข้ามาในเรื่อง หนังน่าจะมุ่งไปในทิศทางที่ดีกว่านี้นะ

ส่วนคำถามคาใจ ที่ผมตั้งใจไปฟังคำตอบในหนังว่า เจมส์ คาเมรอน จะเลือกอธิบายการชราภาพของ T800 อย่างไร เพราะใน Terminator Genisys (2015) ได้อธิบายเหตุผลกลไกในประเด็นนี้ไว้ว่า เนื้อเยื่อรุ่นใหม่ของ T800 ผ่านการสังเคราะห์พิเศษให้เหมือนเนื้อเยื่อมนุษย์มากที่สุด มีการเสื่อมสภาพตามวัยได้เช่นเดียวกัน แต่ใน Terminator : Dark fate เจมส์ ก็ฉลาดที่จะ “ไม่พูดถึง” ประเด็นนี้

สรุป Terminator : Dark fate เป็นคนเหล็กที่โคตรมันส์ สะใจ คุ้มทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ ได้ดูทั้งฉากใหญ่วินาศสันตะโร ได้ดูทั้งฉากคนเหล็กตะลุมบอนกันแบบดุเดือด 2 ชั่วโมง 8 นาที ไม่มีช่องให้ลุกไปห้องน้ำได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถือว่าไปเสพความบันเทิง พยายามสลัดตรรกะและเหตุผลแบบดันทุรังของบทหนังทิ้งไปให้ได้ แล้วจะดูหนังได้สนุกมากขึ้น ดูหนัง

รีวิว John Wick 3

รีวิว John Wick 3

รีวิว John Wick 3

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับวันนี้แอดมินมารีวิวหนัง John Wick 3: Parabellum ในภาคใหม่นี้ John Wick พระเอกของเรานั้นจะต้องเจอกับศึกหนักที่สุดเลยก็ว่าได้ เมื่อเขาต้องถูกคนทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัว $14 ล้านเหรียญ เนื่องจากเขาได้แหกกฎกลาง โดยการฆ่าคนในพื้นที่โรงแรมของ Continental และ ยิ่งคนที่เขาฆ่าคือสมาชิกระดับสูง เขาจึงต้องสู้ และ ฆ่ากับศัตรูรอบด้านเพื่อหาทางหลบหนีออกจากเมืองนิวยอร์ก

เมื่อปี 2014 John Wick งานกำกับครั้งแรกของผกก. David Leitch และ Chad Stahelski (อดีตสตั๊นท์แมนจากThe Matrix) ได้กลายเป็นหนังที่ฮิตเกินคาดด้วยแอ็คชั่นมันส์ ๆ และ การสร้างโลกนักฆ่าที่แปลกใหม่ ว่าด้วยเรื่องของอดีตมือปืนที่ออกตามล่าพวกมาเฟียที่งัดเข้าบ้าน และ ฆ่าหมาที่เป็นของต่างหน้าภรรยาของเขา หนังไทยมาใหม่

ก่อนที่หนังจะขยายสเกลไปเป็นยุทธภพมือปืนในภาค2 (Stahelskiกำกับคนเดียว โดยLeitchไปกำกับDeadpool 2 และ Atomic Blonde) และ สานต่อความเดือดมาจนถึงภาค3เมื่อจอห์น วิค ถูกนักฆ่าทั้งโลกไล่ตามหลังจากที่เขาได้ฆ่าคนในอาณาเขตของโรงแรมคอนทิเนนทัลที่เป็นสถานที่ห้ามฆ่าคน ดูหนัง

รีวิว John Wick 3

รีวิวหนังดัง สำหรับภาค 3 นี้ ได้รับชื่อภาคว่า Parabellum ซึ่งจริง ๆ มาจากประโยคลาตินสุดโด่งดังที่มีคำเต็ม ๆ ว่า Si vis pacem, para bellum หรือที่มีคนแปลไทยไว้อย่างเพราะพริ้งนานมาแล้วว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ โดยว่ากันว่ามันเป็นประโยคที่สืบเนื่องย้อนไปได้ยันสมัยโรมันนั่นเลยแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ความมีชื่อเสียงของมันนั้นก็ยังสืบทอดมาสู่ภาพลักษณ์ของกระสุนปืนที่แพร่หลายที่สุดในโลกตระกูลหนึ่ง หรือก็คือ กระสุน 9 มม. ที่มีฉายาเรียกท้ายว่า พาราเบลลั่ม เช่นเดียวกับชื่อภาค 3 ของหนังนั่นเอง

นี่คือการกลับมาของหนังแอคชั่นที่สาวกหนังบู๊ทั่วโลกรอคอย และ สำหรับใครที่ลืม ๆ (ซึ่งจริง ๆ ลืมหนังตระกูลนี้ยากนะ ภาพจำมันเยอะเลย) ลองชมคลิปสรุปภาค 1-2 แบบรวบรัดมาก ๆ จากค่ายสหมงคลนี้ดูก่อนเลย เดี๋ยวจะได้เหลากันยาว ๆ ต่อ

ภาคนี้ยังคงรักษาจุดเด่นของJohn Wick ไว้ครบเหมือนเดิม คือฉากแอ็คชั่นที่เท่ ดุเดือด และ มีอารมณ์ขันแบบตลกร้ายอยู่ในที แถมยังเพิ่มความหลากหลายในฉากแอ็คชั่นให้มากขึ้นด้วย จากสองภาคก่อนที่ยังแค่ยิงกันเฉย ๆ ภาคนี้มีทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ไปจนถึงขี่ม้าไล่ฆ่ากัน หรือแม้กระทั่งใช้หมาช่วยต่อสู้ด้วย ดูหนังออนไลน์

ส่วนความโหดเดือดก็ทวีคูณมากขึ้นเพราะศัตรูคราวนี้ของจอห์น วิคนั้นไม่ได้แค่มาเยอะ แถมยังขนความโหดมาเต็มที่ (ส่วนคีอานู รีฟส์ ยังคงโชว์ความสามารถในฉากแอ็คชั่นได้อย่างน่าทึ่งเช่นเดิม) ทำให้ฉากแอ็คชั่นที่โหดอยู่แล้วยิ่งฮาร์ดคอร์ขึ้นไปอีก ทำเอาสะดุ้งไปกับความโหด และ เว่อร์ไปเหมือนกันในบางช่วง

รีวิว John Wick 3

หนังเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่อง เมื่อ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ทำผิดกฎของวงการนักฆ่าที่ห้ามทำภารกิจใด ๆ (ห้ามฆ่าแกงกันนั่นล่ะ) ในเขตธรณีของพื้นที่เป็นกลาง โดยในเรื่องนั้นคือโรงแรมคอนติเนนทัลของสภาสูงเหล่านักฆ่านั่นเอง ซึ่งการแหกกฎของวิคเพื่อล้างแค้นครั้งนี้ ทำให้สหายเก่าผู้ดูแลโรงแรมอย่าง วินสตัน (ไอแอน แมคเชน) ต้องกลั้นใจส่งคำร้องให้อัปเปหิจอห์น วิค ออกจากวงการ พร้อมตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ

ผลคือนอกจากจอห์นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากคนทั้งโลกนักฆ่าแล้ว เขายังถูกทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ทิ้งค่าหัวอันดับสองบนตารางกระจุย หนังเล่าเรื่องแบบไร้รอยต่อมาที่ภาคนี้ เมื่อจอห์นมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนคำสั่งอัปเปหิจะถูกประกาศ

เขาจึงดิ้นรนสุดชีวิตในการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อที่จะยังมีคนได้จดจำเรื่องราวของคนรักของเขาต่อไป (โรแมนติกไปแล้วเฮีย) ซึ่งการดิ้นรนของจอห์นนี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ คือหนทางแห่งสันติที่เขาจะไม่ต้องฆ่าทุกคนที่จะมาฆ่าเขา นั่นคือการก่อสงครามเพื่อกรุยทางไปเจรจากับผู้ครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกนักฆ่าให้ยกเลิกคำสั่งอัปเปหิเขานั่นเอง

และ บอกได้เลยว่าเส้นทางที่จอห์น วิค เลือกนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้แต่เป็นกองกะโหลกพะเนินเทินทึก ทั้งยังขยายจักรวาลนักฆ่าในเรื่องออกไปกว้างไกลมาก ทั้งพิธีในขนบนักฆ่าที่แปลกประหลาดที่มีมากกว่าตราโลหิตซึ่งถูกใช้ตั้งแต่ภาคที่ 2 เรื่อยมาถึงภาคนี้

ทั้งภูมิหลังที่ไม่คิดว่าจะได้รู้ของจอห์น วิค ซึ่งน่าแปลกใจทีเดียว กระบวนการยุติธรรมสุดแสนเลือดเย็น และ เที่ยงธรรมของโลกนักฆ่าผ่านตัวละครใหม่อย่าง ตุลาการ (อาเชีย เคท ดิลเลี่ยน – นักแสดงสาวจาก Orange Is the New Black) ที่ทำเอาผู้ทรงอำนาจอย่างวินสตันกับ หัวหน้าแก๊งบาวเวรี่ (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) แทบปางตายได้

รวมถึงทีมนักฆ่าขั้นพระกาฬที่เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับจอห์น วิค แบบพลาดนิดเดียวก็เสียวตายได้จริง ๆ ซะที ยังรวมไปถึงโลกภายนอกนิวยอร์กที่เป็นฉากหลักของเรื่องมาตลอด 2 ภาค เราได้ไปไกลถึงแดนทะเลทราย และ โรงแรมนักฆ่าที่นอกเหนือจากคอนติเนนทัลด้วย คือหนังขยายไปได้ไกลมาก และ อาจเผยลาสต์บอสของแฟรนไชส์นี้ไว้ด้วย ต้องติดตามเลย

รีวิว John Wick 3

หลายครั้งทีมงานหนังแฟรนไชส์นี้ได้ใช้คำเรียกแนวศิลปะการต่อสู้ที่ผสมหลากหลายแนวเข้ากับการใช้อาวุธไม่ว่าจะมีดหรือปืน (หรือแม้แต่ ดินสอ หนังสือ) ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังจอห์น วิคนี้ว่า Gun Fu ซึ่งเป็นการเล่นคำ Gun ผสมกับ Kung Fu

ซึ่งแม้จะไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแต่ก็ทำให้เห็นภาพแนวทางการออกแบบการต่อสู้อันโดดเด่นแพรวพราวของหนังได้อย่างดี (เหมือนตอนที่ทีมสตั๊นท์ไทยเคยผสมมวยไทยเข้ากับยิมนาสติก จนกลายเป็นงานเอกลักษณ์ระบือโลกในองก์บากมาแล้ว – งานแบบนี้ล่ะที่น่าจดจำ)

มันจึงเป็นหนังที่เราต้องทำการศึกษาทั้งการออกแบบการเคลื่อนตัว แม่ไม้ท่าทางต่าง ๆ การออกแบบซีนให้ไหลลื่นต่อเนื่อง ตลอดจนการเคลื่อนกล้อง การสอดผสานของตัวละครหลักกับทีมสตั๊นท์แมน ( และ ภาคนี้มีเหล่าน้องสัตว์มาร่วมแจมด้วยทั้ง ม้า ทั้งสุนัข โคตรโหดบอกเลย) มันเลยทำให้จอห์น วิค กลายเป็นงานหนังบู๊อ้างอิง เป็นต้นแบบเป็นครูให้หนังแอคชั่นรุ่นหลังได้ต่อยอดต่อไปแน่ ๆ ดูหนัง

บทสรุป John Wick 3

รีวิวหนังดัง โลกยุทธภพมือปืนที่ถูกขยายสเกลขึ้นในภาคสอง ก็ถูกขยายให้กว้างขึ้นไปอีกในภาคนี้ ด้านอื่น ๆ ขององค์กรนักฆ่าจะถูกเปิดเผยมากขึ้นในภาคนี้ ทั้งบุคลากรชั้นยศอื่นที่มาปรากฎตัว อย่างผู้พิพากษา หรือ “ผู้อาวุโส” ขององค์กร มันทำให้โลกนักฆ่าของจอห์น วิค ดูมีสีสัน และ น่าค้นหามากขึ้น ราวกับสภาเจไดในสตาร์วอร์สยังไงยังงั้น แต่จุดที่น่าสนใจคือเราจะได้รู้ที่มาของจอห์น วิคด้วย ว่าเขามาจากไหน รวมไปถึงรู้จุดหมายในการต่อสู้ ว่าเขาทำไปขนาดนี้เพื่ออะไรกัน และ นั่นก็ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยจอห์น วิคขึ้นไปอีก ดูหนังออนไลน์

John Wick 3 : Parabellum เป็นหนังแอ็คชั่นเท่ ๆ อุดมความมันส์ ที่อาจจะมันส์ที่สุดในครึ่งปีแรกนี้ด้วยซ้ำ และ มันทำให้เราอยากเห็นว่าหนังภาคต่อไปของมันจะเป็นยังไงต่อ เพราะมันทิ้งปมตอนท้ายได้น่าติดตามเหลือเกิน

จุดเด่น
** สไตล์เอกลักษณ์ที่สร้างแฟรนไชส์ จอห์น วิค ได้แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ชมกันยาว ๆ ไปอีกกี่ภาคก็ไม่เบื่อ
** ความจัดเจนในการออกแบบดีไซน์ แสง ฉาก ซีนการต่อสู้ สุดยอด
** ผูกเรื่อง และ ขยายรายละเอียดของโลกสมมติได้โคตรน่าติดตามต่อ
** ดาราทั้งหลักทั้งรับเชิญมาเยอะมาก คาแรกเตอร์น่าจดจำทุกตัว
** ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคอหนังบันเทิง สนุก ตลก ดราม่า เท่ ครบรส

จุดสังเกต
** ความโหด บางฉากนี่ “ติดตา” เลย
** แอคชั่นเยอะจนรู้สึกเรื่องเดินน้อยไปนิด
** ความพยายามสร้างเรื่องราวต่อยอดที่ทำให้ภาคนี้จบไม่อิ่มนัก

คะแนน 8/10

รีวิว John Wick 2

รีวิว John Wick 2

รีวิว John Wick 2

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับ วันนี้แอดมินมารีวีว จอนห์ วิค 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้แอดมินได้รีวิว จอนห์ วิค ภาคแรกไป ก็ได้มีกระแสฮือฮามากมาย ทำให้แอดมิน ต้องออกมารีวิว ภาค 2 ต่อให้เพื่อนๆกัน แม้เราอาจบอกหนังอย่าง La La Land หรืออย่าง Manchester by the Sea ได้อย่างไม่เกรงว่าใครจะค่อนขอดว่า 10/10 แต่กับหนังแอคชั่นสไตล์คอมมิคจ๋า ๆ แถมเป็นหนังภาคต่อที่มักจะห่วยมากกว่าดี อย่าง John Wick: Chapter 2 เนี่ยนะ ที่ซัดคะแนนจากเว็บวิจารณ์หนังได้สะบั้นหั่นแหลก ระดับ 90% จาก Rottentomatoes.com และ 8.5/10 จาก imdb.com เรียกว่าบูทอัพจากภาคแรกที่มันอยู่แล้วขึ้นมาอีกเยออออะมากกกก หนังไทยnetflix

John Wick: Chapter 2 เป็นการกลับมาอีกครั้งของบุรุษนักฆ่าอย่ายุ่งกับหมาตู ซึ่งภาคแรกเมื่อปี 2014 หนังประสบความสำเร็จดีทั้งคำวิจารณ์และรายได้ จนสตูไฟเขียวให้ผู้กำกับ แชด สตาเฮลสกี้ ที่มีผลงานด้านสตันท์และฉากต่อสู้บู๊ล้างนรกมาแล้วมากมาย อย่าง หนัง The Matrix ไตรภาค (1999-2003), 300 (2006), The Expendables (2010) และ Iron man 2 (2010) เป็นอาทิ ได้กลับมาสานต่อเรื่องราวที่เขากับ ดีเร็ก โคลสแตด มือเขียนบทภาคแรกได้เริ่มไว้

แถมยังวางเป็นหนังไตรภาคอีกด้วย!!

รีวิว John Wick 2

รีวิวหนังดัง คือถ้าใครจำได้ภาคเดิมเนี่ย มันแนะนำตัวละคร จอห์น วิค เป็นหลักล่ะ เขาคือชายที่อาศัยอยู่กับหมาชื่อ เดซี่ วันดีคืนดีก็โดนลูกชายแก๊งมาเฟียมาหาเรื่องขโมยรถ แล้วก็พลั้งมือฆ่าหมาที่ถือเป็นของดูต่างหน้าของภรรยาที่เสียไปของเขา

เขาก็เลยต้องกลับมาสวมวิญญาณนักฆ่าที่วางมือไป เพื่อล้างแค้นทวงรถคืน ระหว่างทางเราก็จะได้เห็นโลกของ จอห์น วิค ว่ามีความแฟนตาซีแบบคอมมิคจำพวก Sin City หรือ Kick-ass อยู่เหมือนกัน ทั้งโรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่เป็นเหมือนศูนย์กลางการจ้างงานและเขตปลอดอาวุธของโลกอาชญากร และร้านค้าบริการต่าง ๆ ที่สนับสนุนการจ้างวานฆ่าต่าง ๆ แต่ก็มาแบบบาง ๆ ไม่ได้เน้นหรือขยายความมันนัก หนังเลยเป็นสไตล์ลุงนักฆ่าล้างบางวัยรุ่นห้าวเป้งแอนด์เดอะแก๊งมาเฟียของบิดาเท่านั้นเอง

แต่มาภาคนี้ ผู้กำกับคงได้ขยายวงเงินเพราะเครดิตภาคแรกดี เลยจัดเต็มโลกทัศน์ในเรื่องทั้ง กฎนักฆ่า วงการนักฆ่าที่แฝงตัวทุกหัวระแหง รูปแบบการปกครองที่มีสภาสูง 12 ที่นั่ง โรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่เป็นกลุ่มผู้รักษาระบบระเบียบ

คือ จัดเต็มจักรวาลนักฆ่ามาก แล้วหนังก็ไม่ได้เล่าแบบยัดนู่นนี่มาให้น่าเบื่อเลย เพราะเส้นเรื่องหลักจากตัวละครที่แข็งแรงแล้วอย่างจอห์น วิคนั้นผูกผมเข้าไปขยายจักรวาลได้ลื่นไหลและมันมาก ๆ

หนังเล่าเรื่อง จอห์น วิค ที่หลังจากภาคแรกแล้วก็เปิดเรื่องมาทวงรถคืนต่อจากมาเฟียเลย ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องเคยดูภาคแรกมาลุยภาคนี้เลยก็รู้เรื่องนะแค่ดูเทรลเลอร์ภาคเก่ามาหน่อยก็พอ เพราะหนังเล่าย้อนภาคก่อนได้ฉลาดมาก ๆ แค่บทสนทนาของมาเฟียกับลูกน้องก็เล่าจบ เห็นบรรยากาศที่คนในวงการหวาดเกรงจอห์นได้ดี

รีวิว John Wick 2

และเพราะเรื่องส่วนตัวนี่เองที่ทำให้วงการก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้วางมือจริง ส่งผลให้ ซานติโน่ (ริคาร์โด สคามาริโอ) เจ้าหนี้ผู้ถือตราเลือดของจอห์น มาทวงสัญญาให้ตอบแทนบุญคุณ ซึ่งในวงการถือเป็นกฎที่ห้ามปฏิเสธแต่จอห์นก็ปฏิเสธเพราะอยากใช้ชีวิตธรรมดาที่เขาได้รับจากภรรยาคนรัก ดูหนัง

ซานติโน่เลยจัดหนักถล่มบ้านจอห์นทิ้งทำลายสิ่งยึดติดในโลกธรรมดาของจอห์นไม่เหลือชิ้นดี จอห์นจึงเลือกไม่ได้ที่จะต้องกลับมาสู่วงการเพื่อล้างหนี้เดิมให้ตัวเองเป็นอิสระ และจะได้มีสิทธิ์ฆ่าซานติโน่ล้างแค้นคืน แต่ก็นั่นล่ะนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันเกมอำนาจของโลกมืดจนไม่อาจถอนตัว และคนดูก็ได้มันกันยาว ๆ เลย

ซานติโน มาทวงสัญญาตราเลือด นักแสดงนำ คีอานู รีฟส์ ยังกลับมาเล่นบทเดิมอีกครั้ง สำหรับ รีฟส์ เขาถือเป็นนักแสดงคู่บุญที่มีสายสัมพันธ์กับแชดดีตั้งแต่ครั้งที่เล่นเรื่อง Point Break (1991) ซึ่งเป็นหนังที่แชดเริ่มอาชีพสตันท์แบบไม่ได้เครดิต โดยได้แสดงแทนรีฟส์ในฉากเสี่ยงตายด้วย

ซึ่งหลังจากเรื่องนี้แชดยังได้เป็นสตันท์ตัวแทนให้รีฟส์อีกหลายเรื่องเลย ทั้ง The Matrix 1-2, The Replacements (2000) และ Constantine (2005) ทั้งยังไปช่วยออกแบบศิลปะการต่อสู้ในหนังฝีมือการกำกับเรื่องแรกของรีฟส์อย่าง Man of Tai Chi (2013) อีกด้วย เรียกว่าระหว่างสองคนนี้คงเป็นโชคชะตาพิเศษบางอย่าง ไม่แปลกใจเลยที่หนังเรื่องแรกของแชด เขาจะเลือกเพื่อนคนสำคัญมาแสดงนำอย่างนี้ แล้วก็ดันลงตัวโคตร ๆ เลยด้วย

รีวิว John Wick 2

ซึ่งครั้งนี้คีอานู รีฟส์ได้เตรียมตัวกับการกลับมารับบทด้วยการทุ่มเทไปเข้าค่ายฝึกการยิงปืนทุกชนิด รวมไปถึงฝึกยุทธวิธีการดวลปืน และการเคลียร์พื้นที่จากศัตรูมากมาย กับอดีตนายทหารหน่วยรบพิเศษนานกว่า 40 ชั่วโมง ทั้งเพิ่มทักษะการต่อสู้หลากหลายแขนง อาทิ กังฟู, จินจิทสุ และยูโด เพื่อพร้อมแสดงฉากสตันท์-แอคชั่นด้วยตนเองแบบสุดฝีมือ ดูหนัง

และนี่คืออีกเหตุผลนอกจากเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและระอุขึ้น คือการแสดงฉากต่อสู้ของรีฟส์นั้นดูเข้มแข็งขึ้น คมขึ้น ไม่เงอะงะเหมือนตอนภาคแรก คือบางช่วงนี้อย่างกับได้ดู จา พนม ในต้มยำกุ้งที่ลุยเดี่ยวกับสมุนตัวร้ายเป็นสิบ ๆ

แต่จอห์น วิค นั้นได้สร้างเอกลักษณ์การต่อสู้ที่ต่างจากหนังอื่นคือ การใช้ปืนสู้ระยะประชิดที่ทำออกมาได้เจ๋งมาก ๆ คือทั้งลุ้นแบบศิลปะการต่อสู้และรุนแรงแบบทีเดียวตายได้ เมื่อรวมกับสไตล์ภาพที่จัดจ้านทางศิลป์ไม่ว่าทั้งการวางเฟรมและจัดแสงสีตัด รวมถึงความแม่นในการตัดฉากต่อสู้ และการสร้างสรรค์ฉากสู้ที่หลากหลายมีสไตล์โคตร ๆ ทั้งการสู้ด้วยรถในอู่

การยิงระยะประชิดเดี่ยวกับหลายสิบในพิพิธภัณฑ์ การสู้ด้วยมีดพกในรถไฟฟ้า การเดินยิงสู้กันด้วยปืนเก็บเสียงระหว่างฝูงชน และนักฆ่าหลายสไตล์ที่ถามโถมมาหาจอห์น ทั้งนักฆ่าสาวมือไวโอลิน นักฆ่าซูโม่ร่างยักษ์ และเหล่านักฆ่าที่แฝงตัวเป็นคนปกติ คือ โอ่ย เจ๋งมากมันมากครับ สมแล้วที่ผู้กำกับอยู่ในวงการแอคชั่นมานาน

บทสรุป John Wick 2

รีวิวหนังดัง หนังยังได้ ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น กลับมาเล่นร่วมกับ คีอานู รีฟส์ อีกครั้งนับตั้งแต่ The Matrix Revolutions (2003) ด้วย ในบทราชันย์คนจรจัด, รูบี้ โรส ที่เพิ่งวาดลวดลายใน xXx: Return of Xander Cage (2017) ก็มารับบท เอเรส นักฆ่าใบ้ที่ใช้ภาษามือได้กวนตีนมาก, คอมมอน แร๊พเปอร์และนักแสดงชื่อดังที่มารับบทนักฆ่าคู่แค้น คาสเชี่ยน, ปีเตอร์ สตอร์แมร์ นักแสดงมากฝีมือในบท อับบราม อาของตัวร้ายในภาคก่อน

และเพราะภาคนี้เนื้อเรื่องมีภารกิจสำคัญที่ข้ามฟากไปยังประเทศอิตาลีจึงได้ ริคาร์โด สคามาริโอ นักแสดงสุดเก๋าชาวอิตาเลี่ยนมารับบท ซานติโน ตัวร้ายประจำภาคที่น่าหมั่นไส้ขั้นสุดในความเลวด้วย ส่วนหมาจากเจ้าเดซีภาคก่อน ก็มาสู่เจ้าพิตบูลน้อยที่ไม่มีชื่อเพราะจอห์นไม่อยากผูกพันมาก ซึ่งแม้หน้าตาน้องหมาจะน่ากลัวแต่นิสัยน่ารักมาก ๆ เสียดายบทน้อยไปนิด ดูหนังออนไลน์

ส่วนพวกตัวละครเก่า ๆ ที่ยังไม่ตายก็ยังจัดกลับมาครบทั้ง วินสตัน (เอียน แมคเชน) ผู้จัดการโรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่เป็นที่พักของพวกทำงานโลกเบื้องหลังและเป็นเพื่อนที่จริงใจคนหนึ่งของจอห์น, ชารอน (แลนซ์ เรดดิค) พนักงานต้อนรับแห่งโรงแรมเดอะคอนติเนนทัลที่ภาคนี้ได้เห็นอะไรมากขึ้น และ อูรีลิโอ (จอห์น ลีกุยเซโม) เจ้าของอู่ดัดแปลงรถเถื่อนก็ยังวนเวียนห่าง ๆ เหล่านี้ก็รอการขยายและน่าจะมีบทบาทสำคัญ ๆ ในภาคสุดท้ายด้วยครับ

คือภาคก่อนเหมือนยอดมนุษย์สู้กับพวกกี้ ๆ ก็ว่ามันแล้ว แต่ภาคนี้ยอดมนุษย์เจอเหล่าสัตว์ประหลาดมันเลยโคตรมันเข้าไปอีก ต้องดู ไม่ดูคือพลาด บอกเลยจ้า ดูหนังออนไลน์

สรุป

** ให้ 8.5/10 คะแนน เพราะฉากบู๊ออกแบบมาได้ดี แต่เนื้อหาบางตอนยังรู้สึกไม่ค่อยเคลียร์
** พล็อตเรื่องเป็นแนวไล่ฆ่า พระเอกอึด แกร่งและทักษะการต่อสู้ดีมาก
** ไม่มีเซ็นเซอร์ฉากต่อสู้ที่เลือดสาด เรียกว่ายิงกันหูดับตับไหม้แทงกันเลือดสาด
** มีมุขตลกสอดแทรกชวนขำด้วยนะ
** ตอนจบทำคนดูอึ้งและชวนติดตามดูต่อภาคต่อไป

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับหนังเรื่องนี้เป็นหนังจีนเรื่องดัง หนังเก่ายอดนิยมที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหน ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในด้านแอ็คชั่น ที่มาแรงแซงหนังไทยที่กำลังเข้าฉายในตอนนั้น ซึ่งกำลังจะเข้าฉาย ก็มีหนังจีนเรื่องหนึ่ง ตัวเอกใส่หน้ากากดำ แถมตั้งชื่อหนังว่า หน้ากากฮีโร่ ฮัดช่า!! จะมาท้าชนกับอินทรีแดงไทยหรือไร แต่คงไม่ เพราะวันฉายก็ห่างกันไกลอยู่ เหมือนกับเข็นออกมาทักทาย ให้คนได้รู้ว่า มีทั้งหน้ากากดำ-หน้ากากแดงนะจ๊ะ

แต่พอเหลือบไปดูโปสเตอร์อีกที ดอนนี่ เยน ขวัญใจของกระผมเอง โผล่มาเล่นเรื่องนี้อีกด้วย แถมด้วยผู้กำกับ แอนดรู เลา ที่ไว้ใจในเครดิตหนังเก่า 2คน2คม อินเฟอร์นอลอัฟแฟร์ ก็มั่นใจได้ว่า หนังนี่คงไม่ป๊อกแป๊กอะไรนัก แอนดรู เลา หยิบตำนานของนักสู้ชาวจีนท่านี้ออกมาเล่าใหม่ ในมุมมองที่ทันสมัย ทำให้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่เลย เฉินเจิ้น เฉินเจิน เรียกอะไรดี ดูหนังออนไลน์

ก่อนไปดู ก็ทำใจไว้อย่างหนึ่งก่อนเลยว่า ไม่รู้จักเฉินเจิน ไม่เคยดูหนังบรู๊ซ ลี หรือหนังในสมัยที่เจ๊ทลี เคยเล่นเอาไว้ เอ่อ แล้วจะดูรู้เรื่องไหมเนี่ย แต่ก็อย่างว่า มีดอนนี่ เยน และเป็นหนังแอ๊คชั่น ก็น่าจะคุ้มเวลาที่ได้รับชม อย่างอื่นค่อยไปว่าทีหลัง หนังไทยมาใหม่

รีวิว The Legend of Chen Zhen

รีวิวหนังดัง หนังฉายแบบจอกว้าง 2.35:1 ครับ กว้างเปิดสุด แนะนำชมในโรงใหญ่ ที่พูดถึงจอกว้างอยู่บ่อยๆ เพราะผมว่า เป็นไซส์ภาพที่เหมาะกับโรงภาพยนตร์ จอ LCD ที่บ้าน ก็ให้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ จอใหญ่ และยาว และเวลาคุณเข้าโรงหนัง โรงใหญ่ โรงเล็ก ตังค์ก็เสียเท่ากันนะ ผมเลยมักจะเช็คดูว่า โรงใหญ่ของสาขานี้ฉายเรื่องอะไร แล้วก็เป็นอีกเหตุผลในการตัดสินใจเข้าไปชมภาพยนตร์ในโรงหนัง

เปิดฉากในยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่สงครามยุโรป ประเทศฝรั่งเศส ชาวจีนก็ได้เข้าไปช่วยสู้รบด้วย เฉินเจิน(ดอนนี่ เยน) ก็เป็นหนึ่ง ที่ไปร่วมสู้รบ ก็มีแต่ปืนกับมือนี่แหละ เหตุการณ์เปิดโอกาสให้เฉินเจิน ได้โชว์ฝีมือ สู้กันแบบเว่อร์ๆ มือเปล่ากับปืนนี่แหละ แต่ทันทีที่รัวหมัด โอ๊ววว ยิปมันอีกแล้ว แต่ถึงจะเก่งขนาดไหน ก็เก่งคนเดียว เพื่อนชาวจีนที่ไปร่วมรบกันก็เสียชีวิตไปมากมาย สงครามก็เป็นซะอย่างนี้

ตัดมาที่มหานครเซี่ยงไฮ้ ยุค 1920 จีน ซึ่งถูกญี่ปุ่นยึดครองอยู่ เฉินเจิน ปลอมตัวมาเป็นนักธุรกิจ เพื่อแทรกซึมไปสู่สังคมชั้นสูง และเพื่อเข้าไปสืบข้อมูลเตรียมวางแผนโค่นล้มกองทัพญี่ปุ่น ก็สิงอยู่ไนต์คลับดังของเซี่ยงไฮ้ นาม คาซาบลังก้า ที่เอาไว้ให้คนชั้นสูงหย่อนใจจากภัยสงคราม?

ระหว่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพวกใครบ้าง ใครเป็นไส้ศึก ใครเป็นพวกเดียวกัน เฉินเจินไปหลงนักร้องสาวดาวประจำคลับอย่างกีกี้ (ซูฉี) โดยไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้นี่แหละ ว่าหล่อนมีอะไรซ่อนอยู่ พอตกกลางคืน เฉินเจินก็สวมหน้ากากดำ กระโดดโหยงเหยง คอยปกป้องพี่น้องชาวจีนที่โดนญี่ปุ่นข่มเหง ก็ได้โชว์สเต็ปมวยจีน และผู้กำกับก็ได้โชว์สไตล์ภาพที่หวือหวา อย่าพลาดฉากเปิดตัวหน้ากากดำท่ามกลางสายฝน และก็ตามมาด้วยฉากแอ็คชั่นอีกพอสมควร แต่ฉากนิ่งๆ สืบนั่นนี่ เยอะกว่า

รีวิว The Legend of Chen Zhen

ซีนที่ชอบคือ การดวลกับนักยูโดร้อยกว่าคน และมีเฉินเจินคนเดียว นึกภาพที่นีโอ โดนเอเจนท์สมิธเป็นร้อยรุมนั่นแหละครับ จะเก่งเทพไปไหน (ฉากแบบนี้ มีมาตั้งแต่สมัยหนังบรู๊ซ ลี แล้ว) เออแฮะ ฉากนี้เค้าทำบูชาหนังภาคก่อนรึเปล่า มันดูคล้ายๆกัน รวมไปถึงไคล์แมกซ์การดวลกับลูกของ อาจารย์ยูโด ที่ฝังแค้นเนื่องจากพ่อโดนเฉินเจินปราบ ไปในภาคก่อนนู้น วิญญาณบรู๊ซ ลี ก็เข้าสิง เสียงดัง จ๊ากๆๆๆ โหดและหนักแน่นด้วย

เป็นอีกครั้ง ที่ดูหนังแล้วเห็นถึงความน่ากลัว และเกรงขามอย่างประเทศญี่ปุ่น ประเทศเล็กๆ บนเกาะกลางทะเล แต่มีพลังอำนาจในการรุกรานประเทศอื่นได้ ยิ่งมารุกรานจีนแบบนี้ โอ้โห เก่งแฮะ ยิปมันนั่นก็ทีนึงแล้วนะ ดอนนี่ เยน นี่มีคู่ต่อสู้เป็นญี่ปุ่นอีกแล้ว ดูหนังออนไลน์

ผมเองเกิดไม่ทันเห็นความน่ากลัวของญี่ปุ่นครับ แล้วเวลาฟังคนอื่นๆเล่า ก็นึกภาพไม่ออกอยู่ดี ญี่ปุ่นเคยร้ายขนาดนี้เลยเหรอ โกโบริก็ออกจะใจดี แต่ภาพจากหนัง เวลาบ้านเมืองที่อยู่ในภาวะสงครามนี่ น่าหดหู่และหวาดกลัวชะมัด เดี๋ยวก็ระเบิดที่นั่น ที่นี่ อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัย คนมีอำนาจรังแกประชาชน เล่นกันถึงตาย ผู้พิทักษ์บ้านเมืองก็ช่วยอะไรไม่ได้ และมีเฉินเจิ้นเพียงคนเดียว ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้อยู่ดี สิ่งสำคัญคือคนในชาติต้องรวมพลัง

รอบที่ได้ชม เป็นเสียงจีน และซับไตเติ้ลไทยแบบตอก (แบบที่ได้ดูตามโรงลิโด้นะ) ซึ่งจะตัวเล็กๆ บางๆ บางทีก็ขาวไปกับจอหนัง แล้วเรื่องนี้พูดกันเยอะซะด้วย ฉากที่แนะนำตัวละคร ฉากที่มีตัวหนังสือบรรยายภาพเหตุการณ์บนจอ ทำเอาอ่านซะแทบไม่ทัน ใครเป้นใคร มันมาแล้วมันก็หายไป และก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าขำนัก แต่หากได้ดูแบบพากย์ไทย ทีมพากย์คงเล่นซะขำกว่านี้ โรงฉายทั่วไปเป็นเสียงไทย มีแต่โรงเอมโพเรี่ยม เป็นเสียงจีนจ้า

เรื่องราวของ The Legend of Chen Zhen

รีวิวหนังดัง นอกจากนั้น Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen ยังมีน้ำเสียงชาตินิยมแบบค่อนข้างรุนแรงชนิดไม่ค่อยเห็นในหนัง (ที่ฟอร์มใหญ่ ๆ หน่อย) ในยุคนี้สักเท่าไหร่นัก ผู้กำกับยัดบทตัวร้ายอันแทบไม่มีความดีปรากฎให้กับประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็ม ๆ แตกต่างกับหนังที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันในยุคนี้ (ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ Fearless) ที่มักจะมีน้ำเสียงประเภทสมานฉันท์ปรองดอง (ที่บางคนเรียกว่า แทงกั๊ก ตีกิน) เป็นหลัก

อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับว่าผมเห็นด้วยหรือคล้อยตามกับแนวคิดแบบใดนะครับ แต่ชอบอารมณ์อันไม่ประนีประนอมของ Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen (ที่เข้าใจว่า คงหวังกับตลาดจีนแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก) ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของสงครามยุคโบราณ และยังทำให้หนังมีอารมณ์ใกล้เคียงกับหนังกังฟูยุคเก่าดี ดูหนัง

สำหรับสาว ๆ ในเรื่อง (ที่ไม่ค่อยบทบาทเด่นอะไรสักเท่าไหร่) ซูฉี แสดงดีและสวยเหมือนเดิม แต่สำหรับผมเธอโดนขโมยซีนด้วยนักแสดงสาวรุ่นใหม่อย่าง ฮั่วซื่อเหยียน (รับบทแฟนสาวของ นายพลเจิ่น ที่รับเชิญโดยหยูเหวินเล่อ) ที่ออกมาแค่ 2 ฉากแต่ก็ยังเปร่งประกายสุด ๆ

รีวิว The Legend of Chen Zhen

หนังมีฉากแฟชลแบ็คถึงเหตุการณ์ใน Fist of Fury ภาคแรก (ยาสุอากิ คุโรตะ รับเชิญ) ถ่ายออกมาได้อารมณ์หนังยุคเก่าดี ฉากที่เฉินเจินรำลึกถึงอาจารย์ฮั่วหยวนเจี๋ย และสำนักเดิมของเขา ก็ยังทำออกมาได้น่าประทับใจทุกตอน โดยเฉพาะในการเสนออารมณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่ใจของตัวเอง เมื่อเขาตัดสินใจลงสู่สงครามต่อต้านพวกต่างชาติ ที่เจ้าตัวรู้ว่าไม่มีทางชนะ

โดยรวมแล้วถ้านำกันในเรื่องความลงตัวกลมกลื่น Legend of the Fist: The Return of Chen Zhen ถือว่าด้อยกว่างานอย่าง Ip Man และ Fearless อยู่หนึ่งขั้น ผมเองดูไปสักประมาณครึ่งเรื่องแล้วก็ยังรู้สึกผิดหวังนิด ๆ แต่ในครึ่งหลังของหนังถือว่าทำคะแนนตีตี้นมาได้พอสมควร

เกร็ดเล็กน้อยสำหรับตอนจบของหนัง ตัวละครหญิงที่สวมชุดทหารญี่ปุ่นที่ปรากฎตัวในตอนใกล้จบ ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็น คาวาชิม่า โยชิโกะ หญิงสาวเชื้อสายจีนญี่ปุ่นผู้มีบทบาทอยู่สูงต่อความขัดแย้ง และความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นและจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (เข้าใจว่าตัวละครของซูฉี ก็ได้รับอิทธิพลบางประการมาจากหญิงผู้มีตัวตนในประวัติศาสตร์คนนี้ด้วย) ดูหนังเกี่ยวกับ คาวาชิม่า โยชิโกะ เรื่องอื่น ๆ ได้ที่นี่ครับ

สรุปสั้นๆว่า ถ้าเป็นแฟนหนังของ ดอนนี่ เยน ยังไงก็ต้องไปดูกันต่อ แต่ถ้าไม่ใช่แฟน คุณอาจต้องใช้พลังในการรอคอยซักหน่อย กว่าจะไปถึงฉากแอ๊คชั่นแต่ละซีนได้ แต่รับรองว่าแต่ละซีนนี่ เท่ห์ไม่หยอก แล้วจะหลงพี่แก ดูหนัง

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil

รีวิวหนังดัง นี่คือการกลับมาของ Maleficent หลังจากที่ห่างหายกันไปนานถึง 5 ปี ในที่สุด ปี 2019 ก็ได้ปลดปล่อยภาคต่อสุดอลังการมาแล้วครับ เป็นหนังสร้างปรากฏการณ์ของดิสนีย์ ที่หยิบนิทานคลาสสิก Sleeping Beauty (เจ้าหญิงนิทรา) มาตีความใหม่ แล้วประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด กวาดรายได้ไปแบบถล่มทลายถึง 758 ล้าน จากทุนสร้าง 180 ล้าน แล้วแองเจลินา โจลี่ ก็ได้บทบาทที่เป็นไอคอนจดจำของฮอลลีวู้ดไปอีกยาวนาน แต่กระนั้นดิสนีย์ก็ยังเว้นช่วงไปถึง 5 ปี กว่าจะได้ฤกษ์คลอดภาค 2 ออกมาในปีนี้ เป็นปีที่หนังจากค่ายดิสนีย์อัดแน่นกันถึง 10 เรื่อง

เนื้อหาในภาคนี้ก็เขียนให้เรื่องราวห่างกับภาคแรกไว้ 5 ปีเช่นกัน ออโรร่าเติบโตขึ้นเป็นสาววัย 21 ปี เธอก้าวจากเด็กสาวมาเป็นราชินีผู้ปกครองดินแดนมัวร์เต็มตัว หลังจากหมั้นหมายกับเจ้าชายฟิลิปส์ในภาคแรก พอมาถึงภาคนี้เจ้าชายฟิลลิปส์ก็ขอเจ้าหญิงออโรร่าแต่งงานอย่างเป็นทางการ หนังไทยมาใหม่

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil

รีวิวหนังดัง ตามเนื้อหาที่เราเห็นในตัวอย่างมาเลฟิเซนต์ไม่เห็นชอบด้วย แต่ด้วยความรักที่เธอมีต่อออโรร่าจึงยินยอมออกงานพิธีเป็นครั้งแรก ด้วยการทำหน้าที่พระมารดาของออโรร่าไปเป็นแขกรับเชิญของพระราชา และ พระราชินีแห่งเมืองอัลสตีด ระหว่างการพูดคุยบนโต๊ะอาหาร ก็เกิดเหตุให้ขัดข้องใจทำให้มาเลฟิเซนต์บันดาลโทสะ แปลงร่างเข้าสู่โหมดร้าย ทำลายข้าวของ บริวาร แล้วบินออกไป ดูหนัง

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวแค่ในช่วง 15 นาทีแรกของหนัง ที่นำมาเสนอในตัวอย่างหนัง ทำให้ดูเหมือนว่ามาเลฟิเซนต์จากนางพญาปิศาจที่เริ่มมีจิตใจอ่อนโยนมากขึ้นแล้วในภาคแรก จะกลับมาร้ายอีกครั้งแล้วทำศึกกับอัลสตีด และ ลูกสาวตัวเอง แต่หนังก็ยังวางบทบาทของราชินีอิงกริต บทบาทของ มิเชล ไฟเฟอร์ ให้ดูเคลือบแคลงเหมือนมีแผนการร้ายซ่อนอยู่ ซึ่งในหนังจริงก็ไม่ได้เก็บงำข้อสงสัยนี้ไว้เป็นไม้เด็ดแต่อย่างไร แต่เล่ากันแบบง่าย ๆ ตรง ๆ เผยตัวตนคนร้ายตั้งแต่ต้นเรื่องกันไปเลย

ลินดา วูลเวอร์ตัน มือเขียนบทจากภาคแรกกลับมาสานต่อหน้าที่เดิม แถมด้วยคู่หูนักเขียนบท โนอาห์ ฮาร์ปสเตอร์ และ มิคา ฟิตเซอร์แมน-บลู มาร่วมเขียนด้วย แนวทางของภาค 2 พาบรรยากาศหนังออกห่างไกลจากภาคแรกมาก ประเด็นแรกที่หนังเลือกเน้นในเรื่องสงครามระหว่างเมืองอัลสตีด และ “ดาร์กเฟย์” ชื่อเรียกเผ่าพันธุ์ของเทพมีปีก พี่น้องของมาเลฟิเซนต์ ที่สืบเชื้อสายมาจากนกฟินิกซ์

ก็ต้องยอมรับว่าเส้นเรื่องในภาคนี้เดินหน้าไปแบบเข้มข้นดุเดือด ไม่ต้องอิงเทพนิยาย “เจ้าหญิงนิทรา” แบบภาคแรกอีกต่อไป แล้วไม่ต้องเสียเวลาแนะนำบรรดาตัวละครอีกแล้วด้วย แต่เมื่อว่าด้วย “สงคราม” ในหนังดิสนีย์ ก็ย่อมเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ และ สังหาร ที่นับว่าสุ่มเสี่ยงพอควรกับการหยิบประเด็นนี้มาเล่นในหนังที่พะยี่ห้อ “ดิสนีย์” ซึ่งหนังก็พยายามเลี่ยงภาพที่โหดร้าย

เมื่อเหล่าดาร์กเฟย์ถูกกระสุนเหล็กยิง ก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ส่วนบรรดาสัตว์เทพในป่ามัวร์ ก็โดนจับมาทำร้ายเช่นกัน หลาย ๆ ตัวพอตายก็กลายคืนสภาพกลาายเป็นดอกไม้ใบหญ้า ด้วยภาพน่ะไม่มีความรุนแรง แต่นี่คือหนังดิสนีย์ที่ได้เรต G แปลว่าไม่จำกัดอายุ ลูกเล็กเด็กแดงอาจจะรู้สึกสะเทือนใจกับภาพ ภูติน้อยดิ้นกระแด่ว ๆ โดนสังหารต่อหน้าต่อตา

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil

อีกประเด็นหนึ่งที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหนังดูผิดแผกจากหนังเทพนิยายดิสนีย์ที่คุ้นเคย ด้วยการเลือกเล่าถึงเผ่าพันธุ์ “ดาร์กเฟย์” ซึ่งหนังเลือกให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนนี้อย่างมาก ถึงกับพาทัวร์อาณาจักรดาร์กเฟย์กันอย่างยาวนาน และ ละเอียด ดูหนัง

เล่าถึงประวัติที่มาความเป็นอยู่ พาชมสภาพความเป็นอยู่ การเลือกที่จะลงลึกถึงตัวตน การแบ่งแยกดินแดน การทำสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ เรามักจะคุ้นกับเรื่องราวเหล่านี้ในหนัง Lord of The Rings หรือ Game of Thrones มากกว่า ไม่คาดคิดที่จะได้เห็นหนังดิสนีย์มาเล่าหนังในบรรยากาศแบบนี้ และ เช่นเคย มีตัวละครที่ตายจากการทำสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์

กลายเป็นว่าจุดเด่นสำหรับภาคนี้ไม่ใช่เนื้อหา เรื่องราวของหนังที่ดูจะพาออกทะเลไปไกล แต่จุดที่น่าชื่นชมคืองานออกแบบฉาก และ ซีจีที่น่าตื่นตาตื่นใจ แทบทุก ๆ ฉากดูสวยงามอลังการนับตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องเลย ถ้ามีโอกาสเลือกดูบนจอ IMAX 3 มิติได้ขอแนะนำอย่างแรง แค่ฉากเปิดเรื่อง 5 นาที บอกเลยว่าคุ้มเงินแล้ว

มุมกล้องจากท้องฟ้าพาเราท่องเข้าไปในดินแดนมัวร์วิ่งผ่านหน้าบรรดาสัตว์ประหลาด ลงไปวิ่งเลี่ยผิวน้ำ ผ่านดอกไม้นานาพรรณ เป็นประสบการณ์ที่รื่นเริงบันเทิงใจมากเหมือนนั่งเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกเลยครับ ฉากที่ประทับใจมากคือการออกแบบสวน “มาลีสุสาน” เป็นดอกไม้สีส้มสว่างท่ามกลางความมืดขึ้นอยู่เต็มผืนดิน ชวนให้คิดถึง”เห็ดกระสือ” ใน “แสงกระสือ” นั่นแหละ แต่โปรดักชันทุนหนาของฮอลลีวู้ดเขาทำได้ตื่นตากว่าก็ไม่แปลกหรอก

อีกฉากที่ต้องซู้ดปากชื่นชมไอเดียในการออกแบบคือรังของ “ดาร์กเฟย์” ที่หยิบไอเดียเรื่องการเอากิ่งไม้มาสานทอขึ้นเป็นรังแบบนก แต่นี่เป็นรังใหญ่มีทางเดินเชื่อมกันเป็นทางยาว เป็นการผสมผสานงานตกแต่งกับธรรมชาติได้กลมกลืนกันดีจริง ฉากมุมกว้างของพระราชวังอัลสตีดก็ดูอลังการเต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ดูมีความยิ่งใหญ่สมกับเป็นอาณาจักรใหญ่แต่ก็ยังให้ความรู้สึกแบบปราสาทราชวังในเทพนิยายอยู่ ฉากพิธีอภิเษกสมรสที่ตกแต่งพระราชวังด้วยไม้เลื้อยก็สวยงามมาก เอาเป็นว่าน่าชื่นชมมันหมดทุกฉากในเรื่องเลย ทีมงานออกแบบโคตรเก่ง

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil

จุดสำคัญที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือตัวหลักของเรื่อง มาเลฟิเซ็นต์ ต่อให้หนังภาคนี้จะมีบาดแผลมากเพียงใด เสน่ห์ของแม่ก็สามารถเรียกคนมาดูได้อย่างแน่นอน แม่สามารถพยุงหนังทั้งเรื่องได้อยู่จริง ว่ากันตั้งแต่ฉากเปิดตัวเลย แองเจลินา โจลี่ สามารถถ่ายทอดความรู้สึกให้ตัวละครมาเลฟิเซนต์ดูยิ่งใหญน่าเกรงขามเสมอ ดูหนังออนไลน์

ยิ่งทำให้ชวนคิดอยู่บ่อยครั้งว่าถ้าไม่ใช่แองเจลินา แล้วจะมีใครเหมาะสมไปกว่านี้ บางอารมณ์ที่แม่อยากจะน่ารัก เอาแค่ฉากที่พยายามยิ้มยิงฟันเอาใจลูกสาว ก็ดูน่ารักชวนขันได้จริง ในฉากรบอีรุงตุงนังเมื่อเหล่าดาร์กเฟย์กำลังตกอยู่ในสภาวะคับขัน แล้วแม่ปรากฏตัวออกมานี่ถ้าตบมือได้ต้องร้อง เย่! ไปเลย มันได้อารมณ์แบบ “แม่มาแล้ว”

จริง ๆ ถ้าเคยผิดหวังอยากเห็นการปรากฏตัวแบบอัศวินขี่ม้าขาวของ Captain Marvel ใน End Game แต่เธอไม่ได้โชว์เท่อย่างที่เรารอคอย มาเชียร์ขุ่นแม่มาเลฟิเซนต์ในภาคนี้แทน แม่มาแบบเท่ และ ไม่ผิดหวังจริง ๆ แม้กระทั่งท่าลงจอดแตะพื้น ที่ย่อเข่าแบบเบา ๆ ก็ยังดูดีเลย

Maleficent Mistress of Evil มาเลฟิเซนต์ นางพญาปีศาจ เป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ของดิสนีย์ ที่คุ้มค่าต่อการรอคอย การกลับมาอีกครั้งของตัวละครหลักนั้นทำให้คิดถึงหนังภาคแรกที่ออกฉาย รวมไปถึงเวอร์ชั่นการ์ตูนที่เคยดูสมัยเด็ก ถึงแม้ว่าพล๊อตเรื่องอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก

สรุป Maleficent: Mistress of Evil

รีวิวหนังดัง แต่ด้วยเทคนิคการถ่ายทำ สเปเชียลเอฟเฟคสุดอลังการ และ คอสตูมแต่ละชุดที่จัดหนักจัดเต็มกันถึงเบอร์นี้ ก็เป็นส่วนผสมที่ทำให้ Maleficent Mistress of Evil มาเลฟิเซนต์ นางพญาปีศาจ นั้นเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่น่าไปดูประจำเดือนตุลาคมนี้ ดูหนังออนไลน์

สรุปว่าหนังยังสนุกอยู่ บนมาตรฐานหนังแบบเทพนิยายคาดเดาได้ง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน งานภาพสวยงาม อลังการ ขุ่นแม่ทำให้เรายิ้มได้บ่อย ๆ แต่เนื้อเรื่องออกทะเลไปไกล ดาร์กเกินขีดหนังดิสนีย์ที่เราคุ้นเคยไปพอควร มีตัวละครตาย ไม่สมควรได้เรต G อย่างที่ได้มา ผู้ปกครองถ้าพาเด็กเล็กไปดู ต้องทำหน้าที่อธิบายน้อง ๆ กันเยอะเลยล่ะครับ

คะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 สาระของเนื้อหา หรือบทหนัง ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ แต่ก็ให้อภัย และ ทดแทนได้ด้วยบทบาทของมาลิฟิเซนต์ ที่ยังคงสมบทบาท และ ทำให้เราอินไปกับบทมมาเลฟิเซนต์ได้เหมือนภาคแรก แถมยังมีมุกตลกหน้าตายมาให้ขำเป็นช่วง ๆ

คะแนนเอฟเฟคต์ 10/10 คงไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะเลยครับ เพราะว่าดิสนีย์ เค้าอลังการในเรื่องของCG และ วิชวลเอฟเฟคต์เด็ดดวงอยู่แล้ว แค่ 5 นาทีแรกก็คุ้มค่าราคาตั๋วหนังแล้วละครับ ไม่ว่าจะฉากพวกปิศาจในป่ามัวร์ หรือฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง รับรองว่าอลังการถึงใจแน่นอน

ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้

1. แม่ก็คือแม่ ประโยคนี้ได้ยินกันหนาหูมาก ๆ หลังจบภาคนี้ เพราะถึงแม้ว่ามาเลฟิเซนต์จะไม่เต็มใจนักกับการให้ออโรร่าแต่งงานกับฟิลลิป แต่ก็เพื่อความสุขของลูก แม้จะเป็นลูกเลี้ยง แม่ทูนหัวอย่างคุณแม่มาลีก็ยังเอาใจใส่ พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองในบางอย่างเพื่อไปพบ และ เจรจาให้ลูกสาวได้แต่งงานตามใจต้องการ

2. ราชินีอิงกริตที่จิตใจมีแต่ความโหดร้าย ใช้ลูกและสามีเป็นครื่องมือ และ ใส่ร้ายมาเลฟิเซนต์ว่าทำร้ายสวามีของตน เมื่อความจริงปรากฏ นางก็ไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งลูกและสามี เหมือนกรรมตามทันในความอำมหิตของนาง

หลังจากดูภาคนี้จบ ผมภาวนาให้มีหนังเรื่องดาร์กเฟย์ทำออกมาครับ เพราะไหน ๆ หนังก็ให้ความสำคัญกับเผ่าพันธุ์นี้แล้ว ก็อยากให้ทำหนังภาคแยกออกมาเลย เพราะเรื่องราวของพวกเค้าเหล่านั้นก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิวหนังดัง ในภาพยนตร์ เป็นหนังใหม่ที่ มาแรงแสงทางโค้งสมชื่อจริงๆ หนังเรื่องนี้นั้น เป็นหนังไทยที่ฉีกจากหนังไทยหลายๆเรื่องที่ผ่านๆ มาเลย บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ เกา คนที่หมกมุ่นอยู่กับอาชีพ กับ กีฬา จนลืมสิ่งรอบข้างไปเสียหมด เรื่องนี้เป็น ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ของผู้กำกับ ที่มีสไตล์เอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในวงการภาพยนตร์ไทย อย่าง เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ หนังไทยnetflix

โดย หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ได้นักแสดงระดับ A-List อย่าง ญาญ่า อุรัสยา มาประกบกับ นัท ณัฏฐ์ กิจจริต พระเอกที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองในฝีมือการแสดงซึ่ง ฉายแสงความเฉียบมาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว อาทิ ในหนัง ดูหนัง อาชีวะยุค 90s ในเรื่อง 4Kings

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิวหนังดัง เรื่องย่อ หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ นั้น ถือเป็นหนังเรื่องเล่าที่เฉพาะกลุ่มมากๆ ผู้คนเล็กๆ อย่างชีวิตของตัวละคร เกา (แสดงโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต ) ซึ่งรับบทในเรื่อง เป็น แชมป์ Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือแชมป์กีฬาเรียงแก้ว ซึ่งมันไม่ได้ Mass เลยในสังคมไทย

แต่หนังก็ชี้ประเด็นว่า กีฬาเฉพาะกลุ่มแบบนี้ มันมีความหมาย มันมีคุณค่าในตัวของมันเองเสมอๆ มันไม่สนเพศ มันไม่สนวัย แต่มันสนแค่ “สถิติ สถิติ และสถิติ” แค่นั้น ซึ่งหากมองให้ชัด ทุกการกระทำเล็กๆ ของทุกอย่างในสังคม

แม้ว่ามันจะไม่มีผลกระทบในวงกว้าง แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีความหมายกับคนบางกลุ่ม และมันได้รับความนิยมจากคนบางกลุ่ม อย่างเช่นกีฬา Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือ กีฬาเรียงแก้ว นั่นเอง …ทุกอย่างย่อมมีคุณค่าในตัวเอง

ตัวรสชาติของภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ เต็มไปด้วย การยั่วล้อ ตลกร้าย เสียดสีหนังดังต่างๆ แต่อีกนัยหนึ่ง มันก็เหมือนกับการ “คาราวะ” หนังเหล่านั้นที่ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เอามาล้อเลียนด้วย ทั้งหนังตระกูล Fast & Furious ,The Dark Knight รวมถึงการ ตัดต่อย้ำๆ ซ้ำๆ ขยี้ แบบย้อนไทม์ไลน์แบบหนัง Doctor Strange ในฉากเช็ดม่านมูลี่ ดูหนังออนไลน์

การที่ ตัวละคร เกา (แสดงโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต ) มุ่งมั่นทำสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างเล่นกีฬาเรียงแก้ว บางทีมันอาจไม่เหมาะกับค่านิยมสังคมไทยเลย ที่กรอบสังคมเอาแต่มุ่งมั่นให้แทบทุกคนเดินไปตามแป้นพิมพ์ เบ้าหลอมสังคมไทย ที่ต้องมีอาชีพที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่า การได้ทำสิ่งที่รัก พร้อมๆทั้งเป็นอาชีพได้อีกล่ะ…

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

ในระหว่างที่ ตัวละคร เกา มุ่งมั่นเพื่อจะเป็นแชมป์โลกกีฬาเรียงแก้วนั้น ต้องบอกว่า เขาโชคดีที่มี แฟน(ภรรยา) อย่าง เจ (รับบทโดย ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์) ที่คอยสนับสนุนทุกอย่างในชีวิต , คอยทำงานบ้านให้ , คอยใช้ สกิลต่างๆในการจัดการชีวิตประจำวัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซ่อมปั้มน้ำ เป็นต้น

โดยที่ เกา ไม่ต้องจัดการเรื่องต่างๆในชีวิตเลย ขอแค่โฟกัสแค่การเล่น Sport Stacking (กีฬาสแต็ค) หรือ กีฬาเรียงแก้ว เท่านั้นก็พอ

แต่ในขณะเดียวกัน ตัวละคร เจ ก็มีความฝันกับเขาเหมือนกัน นั่นคือ การเป็นแม่คน การมีลูก ซึ่งมันอาจจะดูเหมือนไม่ใช่ความฝันยิ่งใหญ่อะไร แต่เราทุกคนก็ไม่ควรไปปรามาส ความฝันของใครก็ตาม (จริงไหม?) …แต่ดูเหมือนว่า เกา จะตอบสนองความฝันของเจ ไม่ได้เลย

เรื่องราวความรัก และ การไล่ล่าความฝันของคนเนิร์ดๆ แบบตัวละคร เกา และคนธรรมดาๆ แบบตัวละคร เจ ซึ่งคอยจะสนับสนุนคู่รักทุกอย่าง ต้องเดินมาถึงจุดทางแยก ที่เป็นปมสำคัญของเรื่อง และมันสามารถนำพาผู้ชม ให้เห็นภาพของ ตัวละคร เกา ชีวิตคนเนิร์ดๆ ที่จะค่อยๆเติบโตเป็น “ผู้ใหญ่” ที่ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ดูหนัง

เมื่อ หนัง Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ดำเนินเรื่องเดินทางมาถึงจุดทางแยกของเรื่อง มันช่างเป็นการตั้งประเด็นคำถามว่า ความสำเร็จของใครสักคนนั้น มันอาจจะต้องมาพร้อมกับปัจจัยและสิ่งแวดล้อมที่จะสนับสนุนให้บุคลากรสักคนสามารถพัฒนาตัวเองและเดินไปถึงเส้นชัยที่วางเอาไว้ ใช่หรือไม่ ?

ความสำเร็จของคนเรา บางทีมันอาจจะต้อง “แลก” ด้วยอะไรบางอย่าง อย่างเช่นในเรื่องนี้ มันอาจจะต้องแลกตัว “เวลา”ในชีวิตของคนดูแลเกาอย่างเจ ใช่ไหม ?

สรุปหนัง FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

รีวิวหนังดัง นอกจากนี้ ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ยังพูดถึงการอัพเลเวล การเติบโตเป็น “ผู้ใหญ่” แบบเร็วที่สุด และไวที่สุดด้วย นั่นคือ การจะเติบโตได้ มันอาจจะต้องผ่านการเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด และ มันอาจจะต้องเสียอะไรบางอย่างไป

ส่วนเรื่อง ความรัก แม้มันจะมีกลิ่นและรสแบบโรแมนติกเล็กๆ แต่ มันก็สะท้อนความจริง ที่เกิดขึ้นกับทุกคน ว่าแท้จริงแล้ว บางทีคู่รักกัน มันอาจไม่หอมหวาน ไม่ได้เป็นความรักไร้เงื่อนไข ใดๆ อย่างที่ใครๆฝันหา …

แต่ระหว่างตัวละคร เกา กับ เจ มันไม่ใช่รักแบบไร้เหตุผล แต่มันคือรัก ที่เป็นรูปแบบความรักแบบผู้ใหญ่จริงๆ ที่มี “เงื่อนไข” ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง – ความรักที่แท้จริงในชีวิตคนจริงๆ มันคือการ ดีลบางอย่างของคนสองคนที่สมประโยชน์ต่อกัน…ใช่ไหม ?

รีวิว FAST & FEEL LOVE เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ

และที่สำคัญที่สุด ที่หนัง ภาพยนตร์ Fast & Feel Love เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ ถ่ายทอดประเด็นคำถามได้ดี นั่นคือ ชีวิตคนเราจะฝันธรรมดาไม่ได้เลยหรือ ? การเป็นแบบคนธรรมดาๆ แบบเจ ไม่ได้เลยหรือ…ซึ่งในความเป็นจริง ชีวิตใครก็ชีวิตมัน ใครฝันอะไรก็ทำได้ตามใจอยู่แล้ว อย่าไปกังวลกับกรอบของสังคมที่คอยขีด คอยเป็นแส้โบยตีว่า ถึงอายุเท่านั้น เท่านี้ ต้องมีนู้น มีนี้… ดูหนังออนไลน์
.
ตัวหนัง เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ พาคนดูให้ไป ทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆในชีวิตมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ความฝันที่เราเคยมีและทุ่มเทเวลาให้กับมันอย่างเต็มเปี่ยม …แต่ในทางกลับกัน ในเวลาเดียวกัน บางครั้ง เราอาจจะต้องเจียดเวลาที่เคยมี ไปให้กับสิ่งอื่นๆบ้าง…เพื่อให้ชีวิตมัน สมดุล…

 

รีวิว Black Widow

รีวิว Black Widow

รีวิว Black Widow

รีวิวหนังดัง นี่คืออีกหนังเรื่องนึงที่นักแสดงนำเป็นผู้หญิง สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สำหรับแฟนหนังในจักรวาลมาร์เวลนั้น ต้องไม่มีใครไม่รู้จักนาตาชา อย่างแน่นอน แฟนมาเวลนั้น ย่อมต้องติดตามหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายนี้ มาหลายต่อหลายเรื่อง ครับ และ พวกเขาย่อมต้องรู้จักคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่หญิงแกร่งนาม นาตาชา โรมานอฟฟ์ เป็นอย่างดี ชื่อในวงการของเธอคือ Black Widow ที่ผู้คนจดจำ และ เฝ้าหวังให้เธอได้มีหนังภาคแยกเป็นของตนเอง และ วันนี้ ความหวังนั้นกลายเป็นความจริงแล้ว หนังไทยมาใหม่

รีวิว Black Widow

รีวิวหนังดัง นาตาชา โรมานอฟ หรือ แบล็ค วิโดว์ กับภารกิจลับที่หายไประหว่างช่วงเวลาของหนัง ‘Civil War’ และ ‘Infinity War’ เพื่อสะสางปมอดีตที่บูดาเปส และ การฝึกในเรดรูมก่อนที่จะเข้าร่วมทีมอเวนเจอร์ส พร้อมกับต้องเผชิญหน้าเพื่อน และ ครอบครัวเก่า ๆ ตั้งแต่สมัยฝึก KGB เพื่อการเป็นสายลับ และ นักฆ่า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถูกเล่าถึงเป็นครั้งแรกในจักรวาลหนังมาร์เวลด้วย

ตามจริงแล้วตัวหนังนับว่ามีข้อจำกัดที่น่าเห็นใจอยู่แล้ว ซึ่งอันนี้เห็นได้ตั้งแต่ก่อนชม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตัวละคร แบล็กวิโดว์ นั้นได้มีบทสรุปสุดท้ายไปแล้วจริง ๆ ใน ‘Avengers: Endgame’ (2019) ซึ่งทำให้การหาเรื่องมาสร้างหนังเดี่ยวของตนเองที่ฉายภายหลังนั้นทำได้อย่างยากลำบากขึ้นทั้งยังมีเงื่อนไขมากมาย ดูหนังออนไลน์

ทั้งในแง่ต้องเป็นการอำลาที่ทรงเกียรติน่าจดจำสำหรับแฟน ๆ และ สำหรับตัว สการ์เลตต์ โจแฮนสัน (Scarlett Johansson) ที่มีสัญญาแสดงหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย โดยที่มีความผูกพันกับตัวละครนี้ และ ร่วมสร้างความสำเร็จให้หนังจักรวาลมาร์เวลมาร่วม 10 ปี ด้วย นับจากที่เธอปรากฏตัวครั้งแรกใน ‘Iron Man 2’ (2010) และ อีกแง่คือด้านธุรกิจที่หนังต้องสานต่อบางอย่างเป็นมรดกการตลาดให้มาร์เวลสร้างรายได้ต่อไป ซึ่งถ้าหากสมดุลไม่ดีก็จะพังทั้ง 2 จุดประสงค์ที่คนทำหนังต้องการ

โดยส่วนตัวมองว่าหนังพยายามกับฟังก์ชันส่งมอบไม้ต่อเสริมธุรกิจจนทำลายความสำคัญของการส่งท้ายตัวละครมากไปนิดหนึ่ง คือถ้าใครมีแบล็กวิโดว์เป็นโอชิหรือเป็นเมน คงต้องแอบน้อยใจนิดหนึ่งจริง ๆ นี่ก็แอบน้อยใจนิด ๆ ในฐานะที่รอคอยให้แบล็กวิโดว์มีหนังเดี่ยวอย่างเรื่องนี้มานาน

รีวิว Black Widow

หนังเลือกไปเล่าเรื่องในช่วงเวลาที่เป็นช่องว่าง คือหลังทีมอเวนเจอร์สแตกจากหนัง ‘Captain America: Civil War’ (2016) และ ก่อนการบุกของธานอสใน ‘Avengers: Infinity War’ (2018) ซึ่งโรมานอฟได้รับการติดต่อจากครอบครัวสายลับโซเวียตในอดีตที่เธอแทบจะลืมเลือนไปแล้วให้กลับไปช่วยเหลืออีกครั้ง ซึ่งด้วยความที่หนังเว้นช่วงฉายมานานจนการขายหน้าหนังเผยรายละเอียดออกมาเยอะมาก ประกอบกับหนังก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากนัก เราแทบจะเดาเรื่องได้เกือบครึ่งหนึ่งแล้ว

ทั้งเรื่องผู้รับสืบต่อบทบาทของสายลับแม่หม้ายดำคนใหม่อย่าง เยเลนา เบโลวา ที่แสดงโดยดาราสาวน่าจับตามองอย่าง ฟลอเรนซ์ พิวจ์ (Florence Pugh) ที่คงจะมีบทบาทต่อไปในทางใดทางหนึ่ง ด้วยอายุนักแสดงที่ยังอยู่ในช่วงที่ไต่ระดับความดัง และ เดวิด ฮาร์เบอร์ (David Harbour) จะมารับบท เรดการ์เดียน ที่เป็นซูเปอร์โซลเยอร์เหมือน สตีฟ โรเจอร์ แต่เป็นของฟากฝั่งโซเวียตแทน เรายังจะได้เห็นความเก๋าของดาราตัวแม่อย่าง ราเชล ไวซ์ (Rachel Weisz) ในฐานะครอบครัวปลอม ๆ ของโรมานอฟในวัยเด็กด้วย เราได้เห็นบางส่วนของฉากการปะทะขนาดใหญ่ และ เปิดตัวร้ายอย่าง ทาสก์มาสเตอร์ ซึ่งคุ้นเคยดีสำหรับแฟนเกม และ แฟนคอมิกของมาร์เวล ดูหนัง

คือเห็นมามากพอสมควร เมื่อไปชมหนังจริง มันเลยเหลือที่ว้าวน้อยลงกว่าที่ควร แต่ก็ใช่ว่าหนังจะไม่สามารถเซอร์ไพรส์เราได้เลย เพราะมันยังซ่อนเนื้อหาหลาย ๆ อย่างที่ทำเอาอึ้งเหมือนกัน แต่ก็สมเหตุสมผลตามเนื้อเรื่องในหนังที่ได้วางมา มันจึงยังคุ้มค่าการซื้อตั๋วไปรับชมในโรงอย่างมาก อย่างน้อยฉากแอ็กชั่นขนาดใหญ่ที่ควรได้ความอลังของโรงหนังเข้าปรนเปรอประสบการณ์รับชมของเรานั้น มันก็ถือว่าคุ้มอยู่ไม่น้อย

ถ้านับเฉพาะฉากแอ็กชั่นใหญ่ที่หนังประเคนมาให้ นับแบบคร่าว ๆ 2 ฉากใหญ่ และ ฉากสู้ย่อยๆ ที่มันไม่แพ้กันอย่างการปะทะกันครั้งแรกของแบล็กวิโดว์กับทาสก์มาสเตอร์ หรือการสู้กันแบบเน้นสไตล์บู๊อลเวงของแบล็กวิโดว์กับเบโลวา ก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีบทส่งท้ายของแบล็กวิโดว์อยู่นะ

รีวิว Black Widow

และ การถ่ายทอดมุมมองของตัวละครหลักที่เป็นสาว ๆ กันค่อนเรื่องนั้น ก็ได้ผู้กำกับหญิงรุ่นใหญ่ที่เข้าใจเรื่องนี้ดีอย่าง เคต ชอร์ตแลนด์ (Cate Shortland) ซึ่งเคยมีผลงานอินดี้ว่าด้วยเรื่องผู้หญิงที่คุ้นตาคอหนังบ้านเราดีอย่าง ‘Somersault’ (2004) มาแล้ว ซึ่งเธอก็เอากลิ่นอายทั้งมู้ด และ การถ่ายภาพจากผลงานเก่า ๆ มาใช้ใน ‘Black Widow’ ได้เข้ากันดี โดยไม่ขัดกับความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ขายแอ็กชั่นแต่อย่างใด ดูหนังออนไลน์

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่ผิดหวังเลย อย่างแรกคือในเส้นเรื่องหลักมันธรรมดา หักแบบไม่หัก เดาได้เยอะมาก เซอร์ไพรส์ใหญ่ๆ แทบจะเรียกได้ว่ามีไม่ได้อย่างที่หนังมาร์เวลอื่น ๆ เคยหยิบยื่นให้เรา แถมฉากหลังเอนเครดิตยังจำเป็นต้องผ่านตาซีรีส์ทางดิสนีย์พลัสอย่าง ‘The Falcon and the Winter Soldier’ (2021) มาก่อนเสียอีก ไม่งั้นมี เอ๊ะ มึน ๆ ออกจากโรงแน่นอน

และ แม้แต่ขนาดปมใหญ่ของเรื่องมันก็หยิบมาจากแค่ บทพูดหนึ่งที่โลกิเคยพูดกับแบล็กวิโดว์ใน ‘Avengers’ ภาคแรก ที่ว่า ‘ลูกสาวของเดรคอฟ, เซาเปาโล, ไฟไหม้โรงพยาบาล’ ที่ว่ากันตามตรงใครจำได้บ้าง มันเลยเหมือนอยู่ดี ๆ ตัวร้ายระดับโลกอย่างเดรคอฟก็มาปรากฏตัวไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยในเรื่องนี้เสียเฉย ๆ คือถ้ามันยิ่งใหญขนาดท้ายเรื่อง อย่างน้อยก็น่าจะมีการปูความสำคัญของเขามากกว่านี้ให้สมบทตัวร้ายประจำตัวของแบล็กวิโดว์เสียหน่อย

หนังยังโชคร้ายซ้ำซ้อนนอกจากในแง่ความคิดสร้างสรรค์ นั่นคือในแง่การตลาดเพราะดันมีกำหนดเข้าฉายในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกจนโรงหนังต้องหยุดให้บริการกันหมด และ พอตัดสินใจลงสตรีมมิ่งก็กลายเป็นดาบสองคมเข้าอีกเพราะต้องเผชิญปัญหาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ตามมา ซ้ำหนักเข้าไปอีกในเรื่องปัญหาวุ่นวายในการคิดค่าตอบแทนที่เหมาะสมจนเป็นดราม่าระหว่างโจแฮนสันกับทางดิสนีย์ เรียกว่าบรรยากาศรอบตัวหนังไม่ได้ชวนให้รู้สึกดีในการรับชมเลย ดูหนัง

สรุป Black Widow

รีวิวหนังดัง แต่ก็อย่างที่บอก ในฐานะแฟนมันคือสิ่งที่ต้องทำในการไปร่วมอำลาตัวละครนี้ในโรงภาพยนตร์อยู่ดีนะ หรือใครจะรอชมบนดิสนีย์พลัสกลางเดือนนี้ก็คงไม่ว่ากัน แต่ใครอยากอิ่มเต็มอรรถรสทั้งภาพ และ เสียง ลองให้หนังมาร์เวลเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกที่คุณได้ฉลองการที่โรงหนังกลับมาให้บริการ ก็เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องไม่น้อยล่ะนะ

หนังพาผู้ชมไปเจอกับทัศนียภาพของหลากหลายที่ทั่วยุโรป พวกเขาจะได้เห็นนาตาชา โรมานอฟฟ์ ในลุคที่แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา แม้หนังจะค่อนข้างไร้มุกตลก แต่อย่างน้อยก็ยังมีหนึ่งมุกที่ชวนให้ขำได้ นั่นคือ มุกท่าทางที่เธอมักทำประจำตอนกระโดดลงพื้น

อย่างไรก็ดี แบล็ค วิโดว์ ภาคแยกภาคเดียวภาคนี้ก็ถือเป็นเรื่องดี ที่ทำให้แฟนมาร์เวลได้เห็นตัวละครโปรดของตนได้กลับมาโลดแล่น และ เล่าเรื่องที่เขายังไม่เคยเห็นอีกครั้ง ภารกิจที่อยู่นอกเหนือจากการเป็นอเวนเจอร์ส เห็นชีวิตในวัยเด็ก เห็นความสัมพันธ์กับคนที่เธอเรียกว่าครอบครัว

บทอำลาของอเวนเจอร์สสาวสุดแกร่งที่หลายคนชื่นชอบ หนังที่เล่าเรื่องในวัยเด็ก กับครอบครัวที่ได้อยู่ด้วยกัน พลัดพรากจากกัน ก่อนจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พร้อมกับภารกิจสะสางชำระแค้น เป็นภาคแยกที่มาช้าไปนิด ทำให้เล่าเรื่องอะไรได้ไม่มากนัก สุดท้ายจึงได้อะไรที่วนอยู่ทางเดินเก่าๆ แต่ก็พอจะเป็นบทอำลาที่งดงามให้กับเธอได้

ชื่อภาพยนตร์ Black Widow / แบล็ค วิโดว์
ผู้กำกับ Cate Shortland
ผู้เขียนบท Eric Pearson
นักแสดง Scarlett Johansson, Florence Pugh, David Harbour, Rachel Weisz, Ray Winstone, O-T Fagbenle, William Hurt, Olga Kurylenko
แนว/ประเภท Action, Adventure, Sci-Fi
เรท PG-13
ความยาว 134 นาที
ปี 2021
เข้าฉายในไทย 1 ตุลาคม 2021 [ในโรง], 6 ตุลาคม 2021 [ใน Disney+ Hotstar] ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย Marvel Studios, Truenorth Productions