Category Archives: หนังไทยnetflix

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) – หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) - หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) – หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

พบกันอีกครั้งกับพวกเรา webdoonungdee กับเรื่องราวของหนังบู๊สายลับฟอร์มยักษ์ เรื่องใหม่ล่าสุด ปี 2023 พอดูแก้เบื่อได้เพลินๆ เรื่อง Heart of Stone: ฮาร์ท ออฟ สโตน (2023) นำแสดงโดย Gal Gadot นักแสดงสาวสวยเจ้าของบท Wonder Woman เรื่องนี้เธอจะได้รับบทเป็น Rachel Stone สายลับสาวมากฝีมือจากองค์กร The Charter องค์กรสายลับอิสระที่ไม่อยู่ภายใต้หน่วยงานใด เรื่องราวจะเข้มข้นแค่ไหนกันนะ หนังแอ็กชั่นสายลับที่ได้ Gal Gadot มารับบทนำ และหวังสร้างเป็นแฟรนไชนส์กันยาวๆ ด้วยคำโฆษณาดูดีหลายอย่างถึงความสดใหม่ใน หนังไทยnetflix แม้แต่การโฆษณาว่าถึงเวลาของสายลับผู้หญิงเป็นตัวเอก ซึ่งจริงๆ ก็มีมาแล้วหลายเรื่อง ซึ่งคำโอ้อวดเหล่านี้กลายมาเป็นปัญหาเมื่อหนังไม่สามารถทำได้ถึงจุดที่โฆษณาไว้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าหนังจะไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้สนุกและแปลกใหม่อย่างที่ควรจะเป็นเลย หากคุณเป็นคนชอบดูหนังแอ็คชั่นมันส์ ๆ แนวนี้ สามารถไปติดตาม ดูหนังใหม่ เรื่องอื่น ๆ ได้ที่นี่ doonungonline เลยครับ

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) - หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

รีวิว Heart of Stone – ผลงานผู้กำกับ Tom Harper

heart of stone (2023) รีวิว หนังได้ผู้กำกับ Tom Harper ที่ล่าสุดคือ The Aeronauts ปี 2019 ที่ฉายโรงเล็กน้อยก่อนลง Amazon Prime แล้วก็หายไปมากำกับเรื่องนี้ และร่วมเขียนบทกับทีมงานเดิมด้วยเช่นกัน (Richard Holmes,Tom Harper, Jack Thorne) ซึ่งเป็นผลงานแนวสายลับทุนสูงที่ต่างจากผลงานในอดีตที่ออกแนวดราม่า เรียกว่าเป็นของใหม่ของทีมงานเขาเลยก็ว่าได้

ทำให้องค์ประกอบเรื่องบทที่ควรจะสดใหม่ แต่กลับไปคล้ายซีรีส์ของ Prime เรื่องล่าสุด Citadel ที่สร้างโดยพี่น้องรุสโซ่ ที่พึ่งทำ The Gray Man ปี 2022 ลง Netflix ไปเช่นกัน กลายเป็นการสลับทีมงานสร้างกันเลย แล้วผลที่ได้ก็แย่ลงด้วยเมื่อมาลงใน Netflix ตัวหนังถูกวางที่ทางไว้แบบแฟรนไชส์ที่มีศักยภาพเจริญรอยตามหนังชุด ‘James Bond 007’, ‘Mission: Imposible’ หรือ ‘Bourne’

ด้วยการวางโครงเรื่องจากนักวาดมีชื่อจากทั้งฝั่งดีซีและมาร์เวลอย่าง เกร็ก รักคา (Greg Rucka) เจ้าของผลงานกราฟิกโนเวลที่เป็นต้นธารของหนังทีมคนอมตะ ‘The Old Guard’ (2020) ซึ่งรักคาก็วางพลอตที่น่าสนใจว่าด้วยสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในองค์กรสายลับอีกที มันก็พอมีมุมแปลกใหม่น่าสนใจได้ดี และนักเขียนบทสาวมือรางวัลอย่าง แอลลิสัน ชโรเดอร์ (Allison Schroeder)

จากหนัง ‘Hidden Figures’ (2016) ก็มาสานต่อโครงเรื่องจนเป็นบทหนังที่สามารถดึงพลังของตัวละครหญิงออกมาอย่างโดดเด่น โดยได้ผู้กำกับ ทอม ฮาร์เปอร์ (Tom Harper) จากซีรีส์ ‘Peaky Blinders’ ซีซันแรกมากำกับ ก็ถือว่าหนังเป็นแนวสายลับแอ็กชันที่ผู้หญิงนำในแบบซีเรียสจริงจัง โดดเด่นแตกต่างจากภาพเดิม ๆ ที่เรามักเจอแต่แนวตลกแอ็กชันเสียมาก

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) - หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

เรื่องย่อ Heart of Stone

heart of stone netflix เปิดฉากมาที่ปฏิบัติการของ MI6 ที่จะว่าล้มเหลวก็ไม่เชิงแต่มาเพื่อให้รู้ว่า Rachel Stone (Gal Gadot) คือสายลับซ้อนสายลับที่มีหน้าฉากเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีมือใหม่ไม่ชำนาญงานภาคสนามของ MI6 แต่เบื้องหลังคือเจ้าหน้าที่องค์กรลับระดับโลกที่ชื่อว่าชาร์เตอร์ที่ออกปฏิบัติภารกิจโดยการแฝงตัวอยู่ใน MI6 ด้วยทักษะสายลับระดับซือแป๋เรียกอาจารย์

และในองค์กรชาร์เตอร์ก็มีการควบคุมภารกิจโดยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลในโลกได้อย่างมากมายแล้วประมวลผลทำนายอนาคตได้ค่อนข้างแม่นยำเรียกว่าเดอะฮาร์ท ซึ่งเดอะฮาร์ทนี่เองที่สามารถเป็นเครื่องมือในการสร้างความสงบสุขและประคองสังคมโลกแต่ถ้ามองอีกมุมก็สามารถเป็นอาวุธทำลายล้างที่คนที่ได้ครอบครองจะสามารถควบคุมโลกได้

เดอะฮาร์ทจึงไปเข้าตาแฮ็กเกอร์สาวจากอินเดีย Keya Dhawan (Alia Bhatt) ที่จะเอาไปใช้เพื่อสางแค้นของตัวเองและได้ส่งทีมมาแย่งผ่านภารกิจที่สองที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมของ Rachel Stone ต้องพลีชิพ แน่นอน Rachel Stone จึงต้องตามล่า Keya Dhawan เพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายตามสูตร

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) - หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

เรื่องราวขององค์กรสายลับในเงามืด

ความเหมือนกับ Citadel จุดใหญ่เลยคือเรื่องราวของ องค์กรสายลับในเงามืดที่คอยช่วยเหลือหรือทำภารกิจใหญ่ในโลกมาตลอดกลับต้องมาเจอปัญหาในตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ที่ว่าหนังสายลับโดยปกติมักอ้างอิงหน่วยงานหลักในโลกไปหมดแล้ว ก็เลยต้องมาใช้พล็อตนี้เล่น แต่ประเด็นมันสดใหม่แค่นิดเดียว

โดยอ้างว่าองค์กรสายลับชาร์เตอร์ในเรื่องนี้มีอุปกรณ์ที่ชื่อว่า “ฮาร์ท” ที่แฮ็กทุกอย่างได้ในโลก (ใน Citadel ก็มีเหมือนกันอีก) เป็นอาวุธที่ใช้สั่งงานปฏิบัติการต่างๆ ให้สายลับทำเพื่อเป้าหมายความสำเร็จสูงสุด แต่ก็เป็นเหตุให้ตัวร้ายใช้จุดนี้หลอกและพยายามขโมยเครื่องมือนี้มาเพื่อครอบครองเอง ซึ่งฟังดูไอเดียมันก็ดีอยู่

แต่ผลลัพธ์ของเรื่องคือบทมีช่องโหว่ปัญหามากมาย ยกตัวอย่างที่มาของเครื่องมือนี้ก็แทบไม่มีปรากฎ องค์กรในเรื่องก็มองไม่เห็นว่าใช้เงินลงทุนหรือมีที่มาจากไหน ถึงขนาดทำแบบนี้ได้ฟรีๆ หัวหน้าองค์กรก็เป็นคนดีกันสุดๆ ตัวร้ายก็เก่งแบบโอเว่อร์โดยไม่รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมหลบเลี่ยงฮาร์ทมาได้โดยตลอด ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ชมต้องรู้สึกเอะใจแล้วตั้งคำถามกันตลอดเรื่องแน่นอน

รีวิว Heart of Stone (ฮาร์ท ออฟ สโตน) - หนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ ปี 2023

รีวิว Heart of Stone – จุดสังเกตของหนัง

ที่บังเอิญเหมือน Citadel อีกจุดใหญ่ heart of stone หนัง คือการใช้ตัวเอกเป็น ฮาร์ท ออฟ สโตน นักแสดง อินเดีย อาเลีย บาตต์ จากคังคุไบ ส่วน Citadel ใช้ Priyanka Chopra Jonas นางเอกจาก The White Tiger ของ Netflix คือเป็นความบังเอิญที่น่าแปลกใจ แต่พอเข้าใจได้ว่าแนวสายลับผู้หญิง ต้องการรูปร่างหน้าตาแบบนี้ และเพื่อเจาะตลาดสตรีมมิ่งอินเดียที่ใหญ่มากด้วย ซึ่ง อาเลีย บาตต์ ก็พอใช้ได้อยู่ในบทแฮ็กเกอร์สาวที่หลงผิด แต่บทของเธอพึ่งเป็นจุดเริ่มเรื่องนี้แล้วหวังไปต่อในภาคหน้า ก็เลยไม่ได้มีเยอะมาก

รีวิว Heart of Stone – พลอตและทีมเบื้องหลังของหนัง

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพลอตและทีมเบื้องหลังของหนังที่ว่ามาไม่ได้เป็นตัวชูโรงสำคัญ เท่ากับนักแสดงนำที่ได้ดาราสาว กัล กาดอต (Gal Gadot) จากแฟรนไชส์หนัง ‘Wonder Woman’ มารับบทนำ และแม้เทียบกับ ‘Red Notice’ ที่ครั้งนั้นกาดอตร่วมแสดงกับทั้ง ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) และ ไรอัน เรย์โนลส์ (Ryan Reynolds) เรื่องนี้อาจจะไม่น่าตื่นตาเท่า แต่ก็ปฏิเสธได้ยากว่าเวลามีหน้าสวย ๆ ของเธออยู่บนหนังมันสะกดผู้ชมได้เสมอ

ความรู้สึกหลังรับชม Heart of Stone

นอกจากนี้ยังมีทีมนักแสดงสมทบที่น่าสนใจอย่างดาราสาวอินเดีย อเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) จากหนัง ‘Gangubai Kathiawadi’ (2022) ที่มาชิมลางหนังตะวันตกเป็นครั้งแรกในบทแฮกเกอร์ตัวร้าย และ โซฟี โอโคเนโด (Sophie Okonedo) ดาราสาวมากฝีมือที่เคยเข้าชิงออสการ์จาก ‘Hotel Rwanda’ (2005) มารับบทโนแมด ผู้บัญชาการสาวสุดแกร่งของสโตน

ที่ทำให้หนังโชว์พลังของผู้หญิงโดดเด่นอย่างชัดเจน แต่ฝั่งชายเองก็ไม่ได้น่าเกลียดเลย ได้ เจมี ดอร์แนน (Jamie Dornan) หรือคุณเกรย์จากหนังแฟรนไชส์ ‘Fifty Shades’ มารับบทพาร์กเกอร์สายลับคู่หูของสโตน พร้อมกับ แมทเธียส ชเวกโฮเฟอร์ (Matthias Schweighöfer) หรือนักถอดรหัสตู้นิรภัยจากหนัง ‘Army of Thieves’ (2021) มาหนุนตัวนางเอกในบทอัจฉริยะเทคโนโลยีด้วย

หนังมีพลอตที่ว่ากันตามตรงก็ออกจะตามสูตรแบบเชย ๆ ไม่ได้หวือหวาไปกว่าหนังแอ็กชันสายลับที่ทำตามกันมา โดยเพิ่มปมตัวละครเอกที่เป็นสายลับสองหน้าซ้อนอยู่ในวงสายลับอีกที ก่อนที่ภารกิจและผู้คนที่เธอต้องใช้งานจะทำให้สโตนค่อย ๆ เปลือยหัวใจแข็งกร้าวของเธอให้อ่อนโยนลง จนเกิดคำถามต่อความเชื่อมั่นในแนวทางขององค์กร

ในขณะที่ภัยจากภายนอกก็พยายามจะครองอำนาจที่น่ากลัวขนาดล้างโลกได้ง่าย ๆ ตัวหนังมีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นตาตื่นใจจำนวนมาก ทั้งฉากเปิดเรื่องที่เล่นกับเวลานับถอยหลังกดดันที่เดินไปหลายสถานการณ์ให้เอาใจช่วย ไปตลอดจนฉากอลังการระดับการต่อสู้เหนือชั้นเมฆที่ระเบิดตูมตามยิ่งใหญ่ หลายฉากชวนให้นึกถึงหนังตระกูล ‘Mission: Imposible’

โดยเฉพาะในภาคหลัง ๆ อย่างช่วยไม่ได้ เพราะเป็นผลงานจาก สกายแดนซ์ บริษัทผู้ผลิตเดียวกัน ซึ่งคล้ายกันแม้แต่รูปแบบสมาชิกในทีมที่ชเวกโฮเฟอร์แทบจะมีเงาของ ไซมอน เพกก์ (Simon Pegg) ทาบทับอยู่ไม่น้อย แต่แน่นอนว่าผู้ชมทั้งหมดต้องการมาดู Gal Gadot มากกว่า ซึ่งบทของเธอก็ถือว่าเน้นแอ็กชั่นมากที่สุดที่เคยเล่นมา

เพราะนี่เป็นหนังโชว์ออฟตัวเธอล้วนๆ โดยมีคนอื่นเป็นตัวรองในตอนแรกตามบทสายลับที่แฝงเข้าทำงานใน MI6 อีกที แต่น่าเสียดายที่ฉากแอ็กชั่นต่างๆ มันไม่ว้าวเลย แม้จะทำออกมาค่อนข้างสนุก แต่มันก็ยังไม่อลังการ แปลกใหม่ มีจุดขายใดๆ เลยสักฉาก ดูแล้วสนุกแบบเฉยๆ

สามารถไปติดตาม หนังผีแนวตลกสืบสวนสอบสวนไต้หวันได้ที่นี่ รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี – หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี - หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี – หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

วันนี้เราจะมาแนะนำ หนังไทยnetflix หนังผีแนวตลกสืบสวนสอบสวนไต้หวันที่มองเผินๆ เหมือนหนังเกย์ แต่ความจริงกลับไม่ใช่ (ซะทีเดียว) วันนี้ webdoonungdee จะขอมาพูดถึงหนัง เรื่อง marry my dead body (2023) แต่งงานกับผี ไม่ได้มีแค่ความฮามาเสิร์ฟเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยดราม่าแบบเต็มเหนี่ยว ซาบซึ้ง กินใจจนใครบางคนอาจน้ำตาไหล และมีเซอร์ไพรซ์ให้คนดู “เฉิงเว่ยหาว” ผู้กำกับแฟรนไชส์หนังผีไต้หวัน The Tag-Along มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้างเรื่องนี้ ถือว่าปรับโหมดเบา ๆ สำหรับเขาเหมือนกัน แต่เขาก็หยิบเอาประสบการณ์ที่คุ้นเคยจากการสร้างหนังผีผสมผสานเล่าเรื่องในหนังเรื่องนี้ด้วย ทำให้กลายเป็นหนังตลกคลุกเคล้าความหลอนแบบกรุบกริบ ที่่ทำออกมาได้ในจังหวะที่ลงตัวแทบจะทั้งเรื่อง หากคุณเป็นคนชอบหาหอะไรใหม่ ๆ ทำ สามารถไปติดตาม ดูหนังใหม่ ได้ที่นี่เลย doonungonline

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี - หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี พล็อตเดิม ๆ แต่กลับทำออกมาได้อย่างลงตัว

marry my dead body netflix เรื่องนี้เป็นพล็อตเดิม ๆ ที่เรามักจะเห็นอยู่ในหนังและละครจนชินแล้วชินอีก เมื่อตัวเอกสองตัวต้องมาแต่งงานกันด้วยความจำยอม ไม่ชอบขี้หน้ากันตั้งแต่แรกและต้องทำภารกิจร่วมกันเพื่อจะแยกจากกันในที่สุด แต่จนแล้วจนรอดเขาก็รักกันซะงั้นน่ะ เรื่องนี้ก็เริ่มต้นด้วยพล็อตแบบนี้แหละค่ะ เพียงแต่ตัวเอกสองฝั่งไม่ใช่หญิงกับชาย ฝั่งหนึ่งเป็นตำรวจที่เกลียดเกย์เข้าไส้และกระทืบเกย์จนถูกสั่งย้ายมาแล้ว ส่วนผีหรือก็ดันเป็นผีรักโลก ผีรักสัตว์ ใจบุญสุนทานเป็นผีแสนดีไม่มีอะไรเทียบ นี่มันคาแรกเตอร์ละครรักที่เน่าสนิทเลยชัด ๆ ซึ่งเป็นพล็อตเดิม ๆ เซ็ตติ้งเดิม ๆ แต่กลับทำออกมาได้อย่างลงตัวจนเราเมินความเก่าของพล็อตไปได้เลย

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี - หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

จุดนี้ถือเป็นการหยิบพล็อตเก่าที่เราคุ้นเคยออกมาขายได้อย่างมืออาชีพ เพราะทำได้เนียนจนเราก็รู้แหละว่ามันเชยแต่ก็ยินดีที่จะเฉยและชื่นชมมัน บวกกับการปล่อยมุกต่าง ๆ ที่ถูกจังหวะจะโคนแบบไม่ต้องพยายาม เป็นมุกที่โผล่มาในแบบที่เราไม่ต้องตั้งตัว ไม่ทันคิดว่าตรงนี้ จุดนี้จะทำให้เราขำออกมาได้ แต่ก็ขำออกมาแล้วในแบบที่ลืมกลั้น เพราะสามารถขำได้เลย ขำได้ทันทีอย่างเป็นธรรมชาติและไม่คาดคิดว่าหนังจะเล่นง่ายขนาดนี้ ฝีมือจริง ๆ

นอกจากนี้หนังยังสอดแทรกเรื่องราวความรักหนุ่มสาวไว้ได้อย่างลงตัว ตั้งแต่คู่ของตำรวจตัวเอก ที่นางเอกของเรื่องนี้สวยน่ารัก แต่ความรักมันไม่ง่ายและมีเรื่องเซอร์ไพรซ์เสมอ หรือคู่ของผีเกย์เองก็ยังย้อนมาเล่าความสัมพันธ์และบอกเล่าเรื่องราวจริงๆ ของทั้งคู่ในตอนหลังได้อย่างดีงาม ซึ่งเกี่ยวพันกับความรู้สึกของคนเป็นพ่อที่ต้องเห็นลูกเป็นเกย์และรับไม่ได้มาตลอด ในขณะที่อาม่าของบ้านกลับรับและมองเห็นตัวตนที่ดีงามโดยไม่สนใจความเป็นเกย์ของหลานเลยแม้แต่น้อยนิด ซึ่งตัวหนังชงผูกเรื่องราวความรักพวกนี้เข้ากันได้เป็นอย่างดี

เรื่องย่อ Marry My Dead Body แต่งงานกับผี

Marry My Dead Body (2023) เป็นเรื่องราวของ อู๋หมิงฮั่น ตำรวจหนุ่มแมนทั้งแท่งที่โดนหมายหัวว่าเป็นคนเหยียดเพศและเขาก็กลัวผีแบบสุดขีด เขาบังเอิญหยิบจับซองแดงของงาน ขึ้นมาระหว่างกำลังรวบรวมหลักฐานในคดีที่รับผิดชอบอยู่ ไม่นานเขาก็พบว่าตัวเองได้หมั้นหมายกับ เหมาปังหยู เกย์หนุ่มน่ารักที่เสียชีวิตกะทันหันด้วยสถานการณ์ท่ามกลางปริศนา ทำให้ชายทั้งสองต้องมาร่วมไขคดีและหาความยุติธรรมให้กับดวงวิญญาณ

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี - หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

โปรดักชั่นและงานสร้างของ Marry My Dead Body แต่งงานกับผี

โปรดักชั่นและงานสร้างของ แต่งงานกับผี (marry my dead body) อาจจะไม่มีอะไรมากนัก แต่หนังก็ใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ได้ค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ท่วงท่าของผี ที่ใส่ลูกเล่นเข้ามาน่าสนใจ มุมภาพและมุมกล้องในหนังก็ถือว่าดีใช้ได้ การจัดแสงจัดโทนสีในหนังถือว่าช่วยเร้าอารมณ์และความสนุกให้กับตัวหนังได้อีกทางด้วย หนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นสุด ๆ ของ Marry My Dead Body เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับทีมนักแสดง ที่ถือว่าเป็นตัวสร้างสีสันให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดีขึ้นเป็นกอง “เกร็ก ซู” มาสวมวิญญาณบทชายแท้ ที่เพิ่มเสน่ห์และความมั่นหน้าให้กับคาแรกเตอร์ของเขาได้เป็นอย่างดี

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี - หนังตลกสยองขวัญไต้หวัน

การแสดงที่ทะเล้นเป็นธรรมชาติ เขาสามารถก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนของเหล่าชายแท้ในหมู่คนที่มีหลากหลายทางเพศได้ดี ขณะที่ “ออสติน หลิน” ปล่อยอินเนอร์และเสน่ห์ความน่ารักในบทบาทที่เขารับได้ดี เป็นหนึ่งคาแรกเตอร์ที่เอาได้อยู่หมัดทั้งเรื่อง เมื่อพวกเขาทั้งคู่มาผนึกำลังกัน กลายเป็นว่าสามารถส่งตัวหนังได้เป็นอย่างดี การแสดงและจังหวะที่ลงตัวของพวกเขาช่วยประคับประคองหนังเอาไว้ได้ดี และยังมี “กิงลี่ หวัง” ที่เข้ามาช่วยเสริม กับรุ่นใหญ่ “หวังหม่านเชียว” ที่ขโมยซีนได้สุด ๆ

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี หนังสูตรสำเร็จที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี

ก็ถือว่า Marry My Dead Body เป็นหนังสูตรสำเร็จที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี แต่งงานกับผี หนัง พวกเขารู้ดีว่าคนดูต้องการอะไร และอยากเห็นอะไร ถึงแม้ว่าพล็อตหนังจะเดิม ๆ ง่าย ๆ แต่ยังดูได้เพลินดี ทั้งตลกและยังแทรกความดราม่าให้น้ำตาไหลได้อย่างรสชาติ ไม่แปลกใจที่หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ เมื่อครั้งที่หนังออกฉายในโรง ถึงแม้ว่าพล็อตหนังจะค่อนข้างจำเจและเป็นเซ็ตติ้งเดิม ๆ ทั้งสิ้น แต่ความโดดเด่นของหนังก็ถือการเล่าเรื่องและการหยิบใส่ประเด็นที่เข้ามาในหนัง ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกนำมาใส่ในหนังเชิงพาณิชย์จากประเทศแถบนี้ ต้องใช้ความกล้าเป็นอย่างมาก แต่มันได้กลายเป็นความกล้าที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการหนังไต้หวันเบา ๆ เพราะหนังใส่ทั้งประเด็นรักษ์โลก, การฉ้อฉลในวงการเครื่องแบบ, ความหลากหลายทางเพศ และสมรสเท่าเทียม เข้ามาเป็นกิมมิกด้วย

และนี่ก็คือสูตรสำเร็จของหนังไต้หวันที่สนุกสุดป่วง หนังสไตล์ที่ค่อนข้างเว้นว่างห่างหายไปหลายปีมากแล้ว มันเป็นความสนุกแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก พล็อตเดิม ๆ แบบสัญญาจับคู่รักที่เป็นสูตรดั้งเดิมที่เราเคยดูกันมาหลายเรื่องแล้ว แต่จังหวะของหนังที่ถ่ายทอดออกมาทำออกมาได้ลงล็อกเป๊ะ ๆ ตั้งแต่นาทีแรกที่เปิดฉากมา กลายเป็นหนังที่ดึงดูดความสนใจเราได้ดีเลย ในเมื่อนี่เป็นหนังที่ใช้ตัวเอกเกย์มาดำเนินเรื่อง แต่ไม่เล่นประเด็นทางเพศเหล่านั้นแล้วจะดูอะไร

ก็ต้องบอกเลยว่านี่เป็นหนังที่รวมเรื่องราวทันสมัย ร่วมสมัย ประเด็นตื่นรู้ต่างๆ ไว้แทบจะครบครัน ตั้งแต่เรื่อง มุมมองเรื่อง LGTBQ ในครอบครัว ผู้สูงอายุ สิทธิของผู้หญิง สมรสเท่าเทียม ประเด็นโลกร้อน รักษ์โลก ลดขยะพลาสติก ซึ่งบอกไว้แบบนี้ก็คงงงว่าเรื่องพวกนี้มาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง ก็เอาเป็นว่าสปอยล์มากไม่ได้ แต่ตัวเอกผีเกย์คือ คนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ใส่ใจประเด็นพวกนี้แล้วเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตกระทัน ทำให้ตำรวจหนุ่มที่บังเอิญมาพบเจอเขาต้องช่วยทำเรื่องพวกนี้ให้เขาไปสู่สุขคติให้ได้ จากความรำคาญที่โดนป่วนตลอดนั่นเอง

รีวิวหนัง Marry My Dead Body แต่งงานกับผี ผสมผสานความเชื่อของไต้หวัน

เรื่องนี้มีการผสมผสานความเชื่อของไต้หวันแบบเดิม ๆ กับการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยของคนรุ่นเก่าได้อย่างลงตัวเลยละค่ะ ตั้งแต่การหยิบเอาความเชื่อเรื่องแต่งงานกับผีในแบบไต้หวันมาใช้ ด้วยความเชื่อที่ว่า หากมีสาวโสดเสียชีวิตทางครอบครัวก็จะนำสิ่งของต่าง ๆ เช่น เครื่องประดับ เงินสด เส้นผม รูปถ่ายและเล็บของผู้ตายมาใส่ในซองแดงและวางทิ้งเอาไว้ตามทางเดิน ครอบครัวจะเฝ้ารอจนกว่าจะมีผู้ชายเดินมาหยิบมันขึ้นมา และเมื่อผู้ชายคนไหนมาหยิบซองแดงขึ้นมาเป็นคนแรก ก็จะถูกเลือกให้เป็นเจ้าบ่าวของผู้ตาย ความเชื่อนี้ยังเชื่อกันอีกว่า หากผู้ชายคนที่หยิบซองแดงได้ยอมแต่งงานก็จะเกิดความเป็นสิริมงคลต่อทุกฝ่าย ครอบครัวจะอยู่เย็นเป็นสุข วิญญาณผู้ตายจะสงบสุข แต่ถ้าหากชายคนนั้นปฏิเสธไม่ยอมเป็นเจ้าบ่าวของผู้ตายก็จะพบกับความโชคร้าย ซวยซ้ำซวยซ้อน หาความสงบสุขในชีวิตไม่ได้ ซึ่งความเชื่อทั้งหมดนี้ก็ถูกนำไปเป็นพล็อตเริ่มต้นแบบเน้น ๆ กันเลย ผสมกับการสร้างให้อาม่าของเหมาเหมา ผีหนุ่มที่เป็นเกย์เป็นคนที่โลกกว้างและมีหัวคิดสมัยใหม่

ความรู้สึกหลังรับชม Marry My Dead Body แต่งงานกับผี

ในเวลาทั้งหมด 2 ชม. จัดว่าเป็นเวลาที่กำลังดีของหนังเรื่องหนึ่ง ที่จะทำให้เราติดตามไปได้แบบไม่รู้สึกว่ามากไปหรือน้อยไป โดยเฉพาะเรื่องนี้ที่เวลาและเนื้อหาถูกจัดวางเวลาเอาไว้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นการใส่เนื้อหามาแบบเข้มข้นโดยที่ไม่ใช่การจับยัด และเล่าเรื่องราวที่อยากใส่ อยากเสนอในแบบเบาสบาย ขำขัน แต่ถ้าใครจะคิดมากก็หน้าม้านกันได้ง่าย ๆ เพราะหนังสามารถจิกกัดเรื่องราวต่าง ๆ ระบบต่าง ๆ ในสังคมได้เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องความยุติธรรม การฉ้อฉลและแอบจิกกัดเรื่องการเลือกปฏิบัติกับความหัวงูของผู้ชายบางกลุ่มได้แบบไม่ทันตั้งตัว

ซึ่งถึงแม้ว่าพล็อตจะเป็นพล็อตที่จำเจ แต่การร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องราวกับทำได้ดีจนดูเพลิน และขำเรื่อย ๆ อย่างเบาสมอง (หากว่าไม่คิดอะไรให้ลึกไปกว่านั้น) โดยเฉพาะในส่วนของความสยองที่จัดออกมาให้ตกใจได้แบบน่ารักน่าขำจากการดูแลงานสร้างของ ‘เฉิงเว่ยห่าว’ ผู้กำกับ ‘The Tag-Along’ แฟรนไชส์หนังผีไต้หวัน ที่มาในโหมดเบา ๆ แต่ทำให้เราตกใจได้ จนกลายเป็นหนังตลกที่คลุกเคล้าความน่ากลัวเล็ก ๆ อย่างพอดิบพอดี

โดยภาพรวมแล้ว หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร แต่ก็ใส่ความบันเทิงเอาไว้ได้อย่างมีอรรถรสดี เคมีนักแสดงและลีลาการแสดงของพวกเขาค่อนข้างเข้าขากันใช้ได้ เซอร์ไพรส์ที่สุดคงจะเป็นความกล้าในการหยอดใส่ประเด็นที่คาดไม่ถึงเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ นี่คือหนังเก็บอารมณ์ได้เกือบทุกเม็ด สนุกแบบไม่ต้องอวย (แนะนำให้ดูเวอร์ชั่นพากย์ไทย) และยังเป็นหนังไต้หวันที่ทำให้เราบันเทิงได้อีกครั้งในรอบหลายปี

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ / สืบสวนสอบสวน
ผู้กำกับ: เฉิงเว่ยหาว
นำแสดงโดย: เกร็ก ซู, ออสติน หลิน, กิงลี่ หวัง, หวังหม่านเชียว
ความยาว: 129 นาที
กำหนดฉายในไทย: 10 สิงหาคม 2023

วันนี้เรามาแนะนำหนังแนวระทึกขวัญที่สร้างจากเรื่องจริง สามารถไปติดตามได้ที่นี่ รีวิว The Good Nurse

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

หนังไทยnetflix แนวดราม่า เรื่อง เวลา (Anatomy of Time) 2021 ของผู้กำกับ จักรวาล นิลธำรงค์ ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง แหม่ม เป็นภรรยาของอดีตนายทหารซึ่งปัจจุบันกลายสภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียงจนต้องมีคนมาคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา เวลาที่เดินผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทำให้แหม่มหวนนึกถึงอดีตอันหอมหวานและขื่นขมในครั้งที่ตนยังสาว ตัดสลับซ้อนทับกับภาพปัจจุบัน ที่อาจกล่าวได้ว่าเวลาไม่เคยคอยใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง หากคุณชอบหนังแนวดราม่าชีวิตแบบนี้ สามารถไปติดตามรับชมหนังเรื่องอื่น ๆ ได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time ผลงานผู้กำกับ เก่ง-จักรวาล นิลธำรงค์

Anatomy of Time (2022) เวลา หรือ เวลา คือผลงานการกำกับของ เก่ง-จักรวาล นิลธำรงค์ ที่ได้เดินทางไปเข้าฉายรอบ World Premiere ในงาน Venice International Film Festival เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี และได้รับรางวัล Bisato Award for Best Screenplay มาได้สำเร็จ รวมถึงยังได้เดินทางไปเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอีกหลายแห่งและได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

หากมองจากตัวอย่างและเรื่องย่อที่ถูกเปิดเผยออกมา Anatomy of Time อาจจะดูเป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก กระทั่งเราได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จนจบ เราค้นพบว่าแกนหลักสำคัญของภาพยนตร์คือการพาผู้ชมมาร่วมกันขบคิดและไตร่ตรองถึงความสำคัญของคำว่า ‘เวลา’ ในแง่มุมที่เราอาจจะไม่เคยตระหนักถึงมาก่อน  

 

เรื่องย่อ เวลา Anatomy of Time

anatomy of time เรื่องย่อ เริ่มจากภาพของชายเฒ่าบนเตียง และหญิงชราคู่ชีวิตที่คอยดูแล ชายเฒ่าหลับใหลไร้สติ หญิงชราคลำหารอยนูนตรงขา เธอคว้ามีดออกมา กรีดลงไปและควักเอาลูกกระสุนออกมา ปราศจาการตอบสนองราวกับว่าร่างกายนั้นคือศพที่ไร้เลือด เรือนร่างของเขามีกระสุนฝังอยู่ในต้นขา มันเกิดขึ้นจากภารกิจที่เขาซ่อนตัวไปเป็นสายลับในขบวนการของพวกคอมมิวนิสต์ ในภารกิจนั้นเขาถูกยิงที่ต้นขา และปล่อยให้หญิงชาวบ้านแม่ลูกอ่อนที่เป็นสายให้ทหารไทยต้องถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด

เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบอบการปกครองที่ดี ก็ต้องมีคนเสียสละกันบ้าง เด็กสาวเป็นลูกสาวเจ้าของร้านนาฬิกาในตลาด บ้านของเธออยู่ติดธารน้ำ บ้านที่เต็มไปด้วยนาฬิกาพ่อของเธอนอกจากขายยังเป็นช่างซ่อมเวลา หมายถึงเป็นช่างซ่อมนาฬิกา เธอรักอยู่กับคนหนุ่มพื้นเมืองคนหนึ่ง พวกเขาขี่จักรยานไปเที่ยวกัน เขาพาเธอไปดูการเก็บน้ำผึ้ง ฟังเรื่องเล่าของนางพญาผึ้งที่เลือกผึ้งงานตัวผู้มาผสมพันธ์ จากนั้นก็ฆ่าทิ้งเสีย นายทหารหนุ่มมาตามจีบเธอ ซื้อน้ำหอมมาให้

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

แต่เธอเลือกทาน้ำผึ้งจากหนุ่มคนรัก ไม่นานจากนั้นหนุ่มคนรักของเธอก็ถูกลอบทำร้ายจนปางตาย ไม่นานหลังจากนั้นเธอออกไปเที่ยวกับนายทหารคนนั้น และได้อยู่ในเหตุการณ์ระทึกขวัญร่วมกับเขา สามีนายพลของเธอนอนกำลังตายอย่างเชื่องช้า ร่างของเขาเนือยนิ่งหากในความฝันเขายังคงกล่าวสบถ จนพยาบาลที่เธอจ้างมาดูแลก็สาปแช่งเขาและหนีไป ในห้วงยามสุดท้ายของชีวิต เหรียญตราเกียรติยศกลายเป็นเพียงสิ่งที่จมในกองฝุ่น เครื่องแบบเดียวที่หลงเหลือคือผ้าอ้อมผู้ใหญ่และความทุกข์ทรมานในเรือนร่างที่เปื่อยเน่า

เวลา Anatomy of Time เสียงประกอบและดนตรี บรรยากาศฉากต่างๆ ทำออกมาอย่างประณีต

ขณะเดียวกันเรื่องราวของแหม่มทั้งในพาร์ตอดีตและปัจจุบันก็ทำหน้าที่บอกเล่า ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ผ่าน ‘กาลเวลา’ ในแง่มุมต่างๆ ของมนุษย์อย่างละเมียดละไม ทั้งมุมมองความรัก ความเยาว์วัย ความเชื่อ ความศรัทธา ชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์ ที่สามารถแปรเปลี่ยนไปได้เฉกเช่นเดียวกับสิ่งของรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเองหรือผู้คนรอบข้างก็ตาม   

รวมถึงประเด็นของ ‘ความตาย’ ที่ตัวภาพยนตร์ได้ตั้งคำถามกับเราว่าเรารู้จักคำๆ นี้มากน้อยแค่ไหน พร้อมชวนเราขบคิดต่อไปขั้นว่าเราเคยลองจินตนาการภาพของตนเองในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตไว้อย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ผู้คนรอบข้างเรา ณ เวลานั้นจะรู้สึกอย่างไร ไปจนถึงตัวตนของเรา ทั้งความคิด ความเชื่อ ความรู้สึกต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time : เวลาไม่ได้อยู่ข้างใคร วันนี้ คุณทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

จากเนื้อหาเรื่องราวแล้ว หลายๆ คนก็อาจรู้สึกเหมือนกันว่าก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่น่าตื่นเต้น แต่ผู้กำกับ จักรวาล นิลธำรงค์ กลับใช้ plot เรื่องแบนๆ บางๆ นี้เป็นเวทีในการแสดงความสามารถด้านการกำกับส่วนที่เขาถนัดจัดเจนที่สุด คือการสร้างสีสันบรรยากาศอันแตกต่างของฉากหลัง ณ สถานที่ต่างๆ โดยอาศัยเทคนิคทางภาพยนตร์ ทั้งการถ่ายภาพ การจัดองค์ประกอบศิลป์ แสง สี เสียงประกอบและดนตรี ให้ลีลาเชิงบรรยากาศสำหรับฉากต่างๆ ได้อย่างประณีต ด้วยพื้นเพของการเป็นนักทำหนังทดลองมาก่อน สายตาการจับจ้องเฝ้ามองภาพต่างๆ ของจักรวาล นิลธำรงค์ จึงมีวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถสร้าง visual ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นความเก่าเขรอะภายในบ้านผู้ป่วย ภาพธรรมชาติหินผาและรังผึ้งกระเพื่อมบนชะง่อนผนังศิลา ไปจนถึงแสงสีเจิดจ้ายามราตรีใน nightclub ซึ่งก็น่าจะเป็นจุดเด่นที่สะดุดตากรรมการคัดเลือกหนังของเทศกาลภาพยนตร์เวนิสที่ขึ้นชื่อในเรื่องการส่งเสริมศิลปะภาพยนตร์โดยเฉพาะในเชิงเทคนิคต่างๆ

ความรู้สึกหลังรับชมหนัง เวลา Anatomy of Time

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมเลยว่าเซตติ้งต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเซตติ้งปัจจุบันอย่างบ้านของแหม่มที่ดูเป็นบ้านของ “คนจริงๆ” กระจกที่ไม่ได้สะอาดเนี๊ยบ ต้นไม้ใบหญ้ารอบบ้าน ข้าวของที่มีฝุ่นจับประปราย เตียงนอนของชายชราที่ดูเป็นเตียงผู้ป่วยจริงๆ หรือแม้กระทั่งฉากคลอดลูกของน้องหมาที่งงว่าผู้กำกับไปหาน้องมาจากไหนนน รวมไปถึงเซตติ้งในอดีตที่ราวกับว่าได้พาคนดูท่องกาลเวลาไปในยุคนั้น

โดยรวมคือชอบเซตติ้งในเรื่องแทบทุกฉากเลย  ถ้าใครสายเสพย์ภาพ เสพย์งานศิลป์ แค่ได้ดูเซตติ้งเรื่องนี้ก็คุ้มแล้ว แม้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้ดูแล้วเข้าใจยากเกินไปก็ตาม รู้สึกแค่พอมึนๆ หน่อยๆ ว่าหนังต้องการจะสื่ออะไรให้กับเราให้รับรู้ ความยากของเรื่องนี้ไม่ใช่การเล่าที่ซับซ้อน แต่ส่วนที่ยากคือการจะมีสมาธิที่จะไม่รู้สึกเบื่อจากการเล่าเรื่องแบบเอื่อยๆ จนพาเราจิตหลุดไปนี่แหละคือความยาก ดูหนังออนไลน์2023

รีวิวหนัง เวลา Anatomy of Time การดำเนินเรื่อง

หนังจะเล่าถึงคุณป้าหรือย่าดี? ในช่วงเวลาปัจจุบันที่ต้องดูแลคุณปู่วัยชราภาพป่วยติดเตียง และจ้างเด็กสาวมาช่วยพยาบาลแบบให้ที่พักไปในตัว ส่วนอีกช่วงเวลาคือสมัยปู่และย่าเป็นหนุ่มสาว น่าจะเป็นช่วงเวลาซ้อนทับในยุค ‘60s ของไทย ที่ทหารหนุ่มสมัยนั้นต้องต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์ที่คืบคลานเข้ามาครอบงำหนุ่มสาวอีกกลุ่มนึงเหมือนกัน และในอดีตปู่เป็นทหารระดับ เสธ.(เสนาธิการ) ส่วนย่านั้นเป็นวัยรุ่นสาวลูกร้านนาฬิกาในเมือง

เซ็กซ์ซีนริมหาดสมัยย่าในวัยสาวกับชายหนุ่มที่หลงรัก ตอนแรกก็แอบงงว่าจะใส่มาทำไม ใส่มาแล้วก็ควรจะมีความหมายหน่อยได้มั้ย ให้คนดูรู้สึกเชื่อว่ารักกันจริงๆ หรือ แบบให้ไปสู่จุดพีคแบบใน Oldboy (2003) ก็จะเข้าใจได้ แต่พอใช้เวลามานั่งคิดทบทวนอีกสักหน่อย ก็คิดว่าหนังคงเล่าอีกช่วงเวลานึงแหงๆ ซึ่งเวลานั้นเป็นห้วงคำนึงของย่า หรือ เป็นจินตนาการของย่าหลังจากแก้แค้นสำเร็จแล้ว เพราะแมสเสจในหนังตอนที่ย่ายังสาวจะได้ยินว่า ย่านั้นอยากไปทะเล แต่ได้มาเที่ยวป่าเขาแทน แสดงให้เห็นว่า ทะเล, ชายหนุ่ม, เซ็กซ์ และ สาวอีกคนข้างๆ น่าจะเป็นความสุขที่แท้จริงของย่านั่นเอง

บทสรุป เวลา Anatomy of Time

ส่วนตัวดูแล้วคิดว่านี่คือการแก้แค้นของย่าแก้แค้นปู่  เนื่องจากตราบาปของปู่ในอดีต ที่ทำร้ายคนรักของย่า จึงต้องให้มีชีวิตอยู่ต่อนานๆ ทรมานให้ถึงที่สุดเท่าที่จะยื้อเวลาไว้ได้ เพราะส่วนตัวดูแล้วไม่ใช่ดูแลกันด้วยความรักสักเท่าไหร่ ยิ่งมาเห็นสัญญะในภาพแล้วก็คิดว่าใช่แหละ แม้บางฉากจะดูขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าแสดงได้ดีกว่าที่คาดไว้ ทั้งคุณเอิงเอย ประภามณฑล เอี่ยมจันทร์ ที่แสดงเป็นแหม่มตอนยังสาว ก็ดูสวยน่ารักตามแบบฉบับของหญิงสาวในยุคนั้น หรือคุณอุ้ม วัลลภ รุ่งกำจัด ที่แสดงเป็น “เสธ.” ได้กร้าวใจมาก ตอนใส่แว่นกันแดดแล้วยิ้มคือใจละลายจริงอะไรจริง ดูเป็นนายทหารสุดเท่ที่สาวๆ ในเรื่องต้องตามจีบเป็นขบวนแน่นอน รวมถึงคุณโสระบดี ช้างศิริ ที่แสดงเป็น เสธ. ตอนชรา ก็ดูซูบผอมแบบคนป่วยติดเตียง สมจริงมาก

ถึงที่สุดเมื่อเวลาจบสิ้นลง anatomy of time ตอนจบ แหม่มกลับไปที่บ้านเกิดที่ไม่มีพ่อแล้ว เธอไขลานนาฬิกาอีกครั้ง ให้เวลาเดินอีกครั้ง โดยลำพังเธอสัปหงกริมน้ำ  อาบน้ำจากลำธาร หนังเลื่อนไหลไปหาวัฏสงสารของต้นไม้ประหลาดบนเขา ที่นกไปพาเมล็ดของมันมาจากที่อื่น ถ่ายทิ้งไว้ และต้นไม้ค่อยๆ งอกขึ้นมาจนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ภาพร่างอีกชนิดของเวลา และไปสู่ทัศนียภาพของเรือนร่างของเธอที่เปลือยกาย นอนลงบนพื้น เวลาผ่านเรือนร่างหย่อนคล้อยฉายอยูในแสงแดด ในบ้านที่ดูเหมือนหยุดนิ่งมาหลายสิบปี โดยมีความตายปลดปล่อยเธอออกมาจากเวลาชนิดหนึ่ง ไปสู่เวลาอีกชนิดหนึ่ง

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำหนังแนวดราม่าแฟนตาซีดูเพลิน ๆ ได้ทั้งครอบครัว ไปติดตามรับชมได้แล้ววันนี้ที่ รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ – หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ - หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ – หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

หนังไทยnetflix แนวดราม่าแฟนตาซีที่สามารถ ดูได้อย่างเพลินได้ทั้งครอบครัว เรื่อง Slumberland 2022 : สลัมเบอร์แลนด์ หนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสุดคลาสสิก ที่เป็นการตีความออกมาเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นล้ำจินตนาการ จากผู้กำกับ ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ (Francis Lawrence) เรื่องราวจะสนุกขนาดไหน ไปติดตามรับชมหนังเต็มเรื่องได้ที่ทาง Netflix และ ดูหนังออนไลน์ กันเลย

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ - หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ หนังครอบครัวแฟนตาซี

สำหรับภาพยนตร์ Slumberland (2022) เรื่องนี้ถือว่าเกินความคาดหมายมาก ตอนแรกคิดว่าจะเป็นหนังเด็กที่ไม่มีอะไรมากมาย เพราะด้วยความที่เป็นหนัง Netflix เลยเผื่อใจเอาไว้แต่แรก ซึ่งถึงมันจะเป็นหนังเด็กก็จริง แต่ตัวหนังกลับมีเสน่ห์และรายละเอียดที่ดี เรียกได้ว่าเป็นหนังเด็กที่ผู้ใหญ่สามารถดูได้สนุกเพลินๆ เลย มาเริ่มกันที่ส่วนของบทก่อน บทของเรื่องนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือพิเศษอะไรมากมาย แต่ก็มีความแปลกและความน่าสนใจ นั่นคือเรื่อง โลกแห่งความฝัน หรือ สลัมเบอร์แลนด์ นั่นแหละ ตัวหนังได้อธิบายเซ็ตอัพของโลกนี้มาแบบไม่ได้ละเอียดมากนัก แต่มันก็มากเพียงพอให้เราเข้าใจและไม่ตั้งคำถาม ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก การดำเนินเรื่องก็ไปแบบรวดเร็วและน่าติดตาม มีปมปัญหาของเรื่องให้เราอยากรู้ต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นและคู่หูคู่ฮานี้จะลงเอยอย่างไร แถมตอนจบก็ทำออกมาได้ซึ่งกินใจอีกด้วย

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ - หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

‘Slumberland’ จริง ๆ ก็ถือว่าเป็นหนังครอบครัวแฟนตาซีที่อาจจะไม่ได้มีอะไรเกินความคาดหวังนะครับ แต่เป็นหนังที่รู้ตัวเองดีว่าจะทำให้ออกมาสนุกถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างไร เป็นหนังเด็กที่มีทั้งมุกฮา ๆ เรื่องราวสุดมหัศจรรย์ แลเป็นหนังผู้ใหญ่ที่ตื่นตาตื่นใจด้วยวิชวลและ Color Grading ที่สวยสดงดงาม เป็นหนังดราม่าน้ำดีที่เอาไว้ดูแก้เครียดก็พอไหว ไม่ว่าจะเครียดกับชีวิต หรือแม้แต่เครียดจากซีรีส์ ‘1899’ ก็ตาม (555) ก็ถือว่าดูเอาเพลินแบบได้น้ำได้เนื้อ หรือถ้าดูกับน้อง ๆ ก็เป็นหนังที่เอาไว้คอยสอนลูกให้เรียนรู้และรับมือกับความเป็นจริงของชีวิตได้ไม่เลวเลย

เรื่องย่อ Slumberland

slumberland เรื่องย่อ เป็นการพาเดินทางไปยังดินแดนใหม่สุดมหัศจรรย์ โลกแห่งความฝันซึ่ง นีโม่ เด็กสาวผู้ฉลาดเกินวัยและเพื่อนสุดแปลกของเธออย่าง ฟลิป ออกผจญภัยครั้งสำคัญในชีวิตด้วยกัน หลังจาก ปีเตอร์ พ่อของเธอหายสาบสูญไปในทะเลอย่างไม่มีใครคาดคิด การใช้ชีวิตอย่างสงบสุขของสาวน้อยนีโม่ในย่านแปซิฟิกนอร์ธเวสต์ก็ต้องจบลง เพราะเธอถูกส่งไปอยู่ในตัวเมืองกับคุณอาผู้หวังดีแต่มีความประดักประเดิดแบบสุด ๆ อย่าง ฟิลิป

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ - หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

ชีวิตประจำวันในโรงเรียนใหม่ตอนกลางวันนั้นช่างท้าทาย แต่ในตอนกลางคืน แผนที่ลับสู่โลกสุดมหัศจรรย์ของสลัมเบอร์แลนด์ช่วยให้นีโม่ติดต่อกับฟลิป คนนอกกฎหมายที่ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบทว่าน่ารัก เขากลายเป็นเพื่อนคู่หูและไกด์ผู้นำทางให้กับเธออย่างรวดเร็ว และในไม่ช้า นีโม่และฟลิปได้พาตัวเองเข้าสู่การผจญภัยสุดมหัศจรรย์กับการเดินทางข้ามความฝันและหนีจากฝันร้าย ซึ่งทำให้นีโม่เริ่มมีความหวังว่าเธอจะได้กลับไปพบกับพ่ออีกครั้ง

จากกาตูนคลาสสิก สู่จอภาพยนตร์ Slumberland

ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ข้างต้นว่า Slumberland สลัม เบอร์ แลนด์ Netflix สร้างมาจากการ์ตูนคลาสสิก ตั้งแต่ช่วงต้นยุคศตวรรษที่ 20 ที่ชื่อว่า Little Nemo in Slumberland ของ วินซอร์ แม็คเคย์ เป็นนิทานแนวเด็กน้อยผจญภัย โดยครั้งนี้ได้ผู้กำกับฝีมือจัดจ้าน อย่าง “ฟรานซิส ลอว์เรนซ์” มารับหน้าที่สร้างหนังแฟนตาซีที่มีเนื้อหาแนวครอบครัวจ๋า ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเขาไม่น้อยเช่นกัน

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ - หนังอเมริกันแฟนตาซีผจญภัยปี 2022

เราอาจจะคุ้นเคยกับผลงานก่อน ๆ ของเขา ไม่ว่าจะเป็นหนังชุด The Hunger Games หรือหนังสายลับ Red Sparrow แต่เพราะได้รับอานิสงส์จากการทำงานในซีรีส์ไซไฟ อย่าง See ทำให้เขาได้ลองมาหยิบจับสร้างหนังเรื่องนี้ ด้วยการกลับมาร่วมงานกับ “เจสัน โมโมอา” อีกครั้ง ในรูปแบบคาแรกเตอร์ที่ต่างกันออกไป จะบอกได้ว่าวิสัยทัศน์ของเขาค่อนข้างใช้ได้กับหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองและการเติมแต่งจินตนาการต่าง ๆ ที่ใส่เข้าไปในเรื่อง

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ ความประทับใจที่มีต่อหนัง

จริง ๆ ถ้าดูแค่ตัวอย่างก็คงสัมผัสได้นะครับว่า งานนี้ Netflix ไม่ได้มาเล่น ๆ แม้ว่าจะเป็นแฟนตาซีครอบครัวก็ตาม เพราะเรียกได้ว่าเฉพาะโปรดักชันและงาน CGI ก็ต้องเรียกได้ว่าทุ่มทุนและทำออกมาได้ตื่นตาตื่นใจใกล้เคียง หนังเรื่อง Slumberland บ็อกซ์ออฟฟิศเลยแหละ ซึ่งวิชวลก็มีการอ้างอิงมาจากคอมิกต้นฉบับหลายส่วน และแอบมีกลิ่นอายความ Weird แบบในหนังของ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ผสมความ Realistic เข้าไป และยังแอบมี CGI ที่แอบงานหยาบนิดหน่อย แต่โดยรวมก็ถือว่าออกแบบวิชวลได้สวยงามตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย

ส่วนในแง่ของบทก็น่าสนใจ แม้วิชวลของตัวหนังเองจะชวนให้นึกถึงปรากฏการณ์ฝันซ้อนฝันแบบในหนัง ‘Inception’ (2010) ตะหงิด ๆ แต่ตัวหนังเองไม่ได้ซับซ้อนหัวแตกขนาดนั้น ตรงกันข้าม ตัวหนังยังยึดความเป็นหนังครอบครัวผสมผจญภัยแฟนตาซีที่ดำเนินเรื่องด้วยพล็อตที่เน้นดูง่าย ดูสนุก มีมุกฮาแกล้ม ตรงไปตรงมาตามขนบของหนังครอบครัวผจญภัยที่เดาตอนจบได้ไม่ยากนัก แต่เสน่ห์หลัก ๆ ของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้ตัวหนังสามารถดูได้เพลิน ๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คงหนีไม่พ้นการนำเสนอแก่นสารของเรื่องครับ เพราะว่าตัวหนังเองก็เพิ่มสารที่เป็นประเด็นดราม่าลงไปผสมผสานในหนังด้วย

ทั้งเรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัว ความรู้สึกแปลกแยก ตัวตนอีกแบบของตัวเราที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก หรือแม้แต่การตีความสภาวะจิตในรูปแบบต่าง ๆ ออกมาเป็น Conflict ที่คอยคุกคามน้องนีโมทั้งในโลกความฝัน และโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งสารอันหนึ่งที่ผู้เขียนว่านำเสนอออกมาได้ดีก็คือ เรื่องของการทำใจยอมรับถึงการจากไป ซึ่งผู้เขียนว่าอันนี้ทรงพลัง และน่าจะเป็นประเด็นที่โดนใจคนที่เคยมีประสบการณ์ในทำนองนี้เหมือนกันจนอาจน้ำตาซึมไปเลยก็ได้ แม้ว่าการเล่าสลับโลกไป ๆ มา ๆ แบบนี้จะชวนให้เนื้อเรื่องแอบสับสนอยู่เล็ก ๆ ก็ตาม

รีวิว Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ บทน่าสนใจ การแสดงยอดเยี่ยม

โทนของหนัง Slumberland ก็ค่อนทางความเป็นสูตรสำเร็จแบบคุ้นเคยดีในหนังแนวผจญภัยครอบครัวสไตล์นี้ ทุกอย่างไร้ขอบเขต เมื่อหนังตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่าแฟนตาซี เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ และมันก็ล้ำจินตนาการแบบสุด ๆ งานสร้างและเทคนิคพิเศษของหนังค่อนข้างตื่นตาตื่นใจได้ดี แม้ว่าการย้อนภาพและสีของหนังจะค่อนข้างออกเหลืองจัดไปในบางช่วง แต่ก็มีเหตุผลของตัวหนังที่เลือกย้อมแสงสีออกมาเพื่อเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่องจากมุมต่าง ๆ

เพียงแต่ว่าน่าเสียดายสักเล็กน้อยที่ในส่วนของการเล่าเรื่องใน Slumberland จะยังไม่ค่อยให้ความกลมกล่อมและสปาร์กจอยทางอารมรณ์ให้กับผู้ชมได้เต็มที่สักเท่าไหร่ แม้ว่าองค์ประกอบของมันอาจจะเป็นแนว ๆ Monsters Inc. ผสมกับ Inception อะไรทำนองนั้น แต่บางทีก็พาเข้า ๆ ออก ๆ ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกแห่งความฝันสลับกันไป ก็ชวนพาให้คนดูรู้สึกอยากจะหลับใหลในบางช่วงได้อยู่เหมือนกัน

จะว่าไป ความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัด นอกเหนือจากมาร์โลวแล้วก็คือ งานซีจีที่สดสวยตระการตาเอามากๆ มากจนโดดเด่นยิ่งกว่าเรื่องราวเสียอีก แต่ยังไงก็ตาม มันดูเข้ากันดีกับโลกในความฝัน ความละเอียดละออของต้นหญ้าที่พลิ้วไหว ฉากการเต้นรำที่ระยิบระยับไปด้วยปีกผีเสื้อ หรือฉากของนครที่เต็มไปด้วยตึกแก้ว ทำให้คิดไปว่า ถ้าได้ดูในโรงหนังคงอึ้งทึ่งว้าวได้มากกว่านี้แน่

งานโปรดักชั่นดีไซน์ของหนังเรื่องนี้ถือว่าคุ้มค่ากับทุนสร้างกว่า 150 ล้านเหรียญอยู่เหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้อลังการหวือหวาถึงที่สุด แต่งานเทคนิคพิเศษและฉากสเปเชียลต่าง ๆ ของหนังก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างละเอียด และเสริมพลังแห่งจินตนาการแห่งโลกความฝันได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ พวกเหล่าสัตว์รูปทรงและขนาดที่ประหลาดก็ถือว่าเป็นสีสันและความบันเทิงชั้นดี

บทสรุป Slumberland

โดยภาพรวมแล้วนั้น Slumberland ถือว่าเป็นหนังที่เฟรนด์ลี่กับครอบครัวเป็นอย่างดี แต่โครงสร้างและความหนักแน่นเกี่ยวกับเรื่องราวของหนังยังไม่ค่อยสมูทมากนัก การเล่าเรื่องยังไม่ชวนในติดตามไปตลอดเส้นทางการผจญภัย ถึงตัวหนังจะพยายามเป็นอย่างมากที่จใส่ประเด็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง coming of age แต่กลับยังไม่คมคายพอ แม้ว่างานสร้างต่าง ๆ ทำออกมาได้ค่อนข้างดีอยู่ แต่เมื่อนำมาประกอบร่างเข้าด้วยกันแล้ว หนังยังส่งไปได้ไม่สุดทางเท่าไหร่นัก กลายเป็นสูตรสำเร็จของหนังผจญภัยแฟนตาซีแบบซ้ำ ๆ ที่พอเป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ แบบผ่าน ๆ แต่ยังหาจุดเด่นและเอกลักษณ์ไม่ค่อยได้เลย

ประเภท: ผจญภัย / ตลก / ครอบครัว
ผู้กำกับ: ฟรานซิส ลอว์เรนซ์
นำแสดงโดย: มาร์โลว บาร์กลีย์, เจสัน โมโมอา, คริส โอดาวด์
ความยาว: 117 นาที
กำหนดฉายในไทย: 18 พฤศจิกายน 2022

ติดตามซีรี่ย์น่าสนุก ๆ ได้ที่นี่ รีวิวซีรีย์ DELETE

รีวิวซีรีย์ DELETE – เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกาล

รีวิวซีรีย์ DELETE - เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกาล

รีวิวซีรีย์ DELETE – เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกา

ซีรีส์ไทยแนวแฟนตาซีสุดดาร์ก มีกลิ่นอายความลึกลับ DELETE 2023 งานกำกับของ โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ บอกเล่าเรื่องราวความรักต้องห้ามของหนุ่มสาวที่นอกใจคนรักมาลักลอบมีความสัมพันธ์กัน บทของซีรีส์ที่มีการวางปมแต่ละปมยั่วล้อไปกับสารทางการเมืองที่มันต้องการสื่อสารออกมา โดยเฉพาะคดี “อุ้มหาย” ที่ถูกแทนภาพเปรียบเปรย (Allegory) ด้วยโทรศัพท์ที่สามารถลบคนให้หายไปได้ ทำให้ปมเรื่องที่ดูเหมือนแฟนตาซีสุดกู่กลับฉายภาพและบรรยากาศคุ้นเคยในสังคมไทยผ่านเสียงข่าวในทีวีทั้งกรณีการอุ้มหายของนักเรียงร้องสิทธิพลเมืองอย่างทนาย สมชาย นีลไพจิตร และ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ชาวกะเหรี่ยงที่เรียกร้องสิทธิในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมไปถึงคดีฆาตกรรมมากมายที่หนังเอามาอ้างอิงถูกนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ “การหายไป” ถูกใช้เพื่อสร้างความสยดสยองในความรู้สึกผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามซีรี่ย์ DELETE จะสนุก และน่าติดตามแค่ไหน ไปร่วมพิสูจน์กันได้แล้วที่นี่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวซีรีย์ DELETE - เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกาล

รีวิวซีรีย์ DELETE ซีรีส์ไทยแนวดราม่า-ระทึกขวัญ

ซีรี่ย์ delete เต็มเรื่อง เป็นซีรีส์ดราม่า-ระทึกขวัญ หนังไทยnetflix ที่มีกลิ่นอายความลึกลับ และดำเนินเรื่องด้วยเส้นสืบสวนสอบสวนที่ทำให้เราอยากเข้าไปค้นหาปริศนาต่างๆ ที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ โดยเรื่องราวของซีรีส์เริ่มต้นด้วยการนำเสนอ ‘ความรักต้องห้าม’ ระหว่าง เอม (นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต) หนุ่มบรรณาธิการสื่อออนไลน์ผู้มีชื่อเสียง กับ ลิลลี่ (ฟ้า-ษริกา สารทศิลป์ศุภา) ภัณฑารักษ์สาวสวย ที่ต่างคนต่างมีความสัมพันธ์จริงจังกับคนอื่นอยู่แล้ว แต่ลับลอบเป็นชู้กัน เพราะต้องการเติมเต็มสิ่งที่คู่ของตัวเองขาดพร่องไป

รีวิวซีรีย์ DELETE - เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกาล

ซึ่งความสัมพันธ์ลับนี้ก็ถูกปกปิดอยู่ได้ไม่นาน เพราะ ทู (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) สามีไฮโซของลิลลี่ กำลังระแคะระคายเรื่องนี้ รวมไปถึง อร (ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) แฟนสาวของเอม ก็เพิ่งจับได้และยื่นคำขาดจะแฉ ทำให้เอมยอมไม่ได้ เนื่องจากอาจจะกระทบกับหน้าที่การงานของเขา อีกฟากหนึ่ง จูน (ชาร์เลท-วาศิตา แฮเมเนา) น้องสาวของทูที่ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ ก็เข้าไปพัวพันกับ โต้ง (เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน) ลูกชายของอาจารย์ที่ยังคงเจ็บปวดจากเรื่องการหายตัวไปของพี่สาว

เรื่องย่อ

การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ ลิลลี (ษริกา สารทศิลป์ศุภา) ทำให้ เอม (ณัฏฐ์ กิจจริต) นักเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คและพิธีกรรายการชื่อดัง-ชายชู้ และ ทู (ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) สามีเจ้าของฟาร์มผู้ทรงอิทธิพลของลิลลีต่างออกตามหาเธอ โดยมีเบาะแสสำคัญคือโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่ลิลลี ได้เคยใช้มันลบเด็กสาวในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างไม่ตั้งใจ โดยมี ยุทธชัย (นพชัย ชัยนาม) สายสืบที่หมกมุ่นกับคดีคนหายอย่างไร้ร่องรอยคอยตามสืบและต่อจิ๊กซอว์เหตุการณ์นี้ทีละชิ้น รีวิว delete netflix สปอย จนได้คำตอบที่เกินใครจะคาดคิด

รีวิวซีรีย์ DELETE - เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกาล

แนะนำนักแสดง

ณัฏฐ์ กิจจริต รับบท เอม นักเขียนและพิธีกรหนุ่มหล่อชื่อดัง ผู้เขียนหนังสือ Lost and Found ผลงานที่เขียนจากประสบการณ์จริงในวัยเด็ก มีความรักให้ลิลลี่ (ฟ้า ษริกา) อย่างหมดหัวใจ หนุ่มณัฏฐ์ พระเอกมากความสามารถจากภาพยนตร์ Fast & Feel Love, App War, และ 4Kings ลุคเหมาะกับบทนักเขียน แสดงดีเข้าถึงบทบาท ตอนพูดว่า เคยรักเราบ้างไหมว่ะ เป็นธรรมชาติสุดๆ

ฟ้า ษริกา รับบท ลิลลี่ ภัณฑารักษ์สาวสวย ภรรยาของเจ้าของฟาร์มชื่อดัง การได้พบกับเอมเหมือนได้ปลดล็อกเหตุการณ์ในอดีต รู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ด้วย ถ้าดูแล้วแอบรู้สึกว่าเคมีเคใจของหนุ่มณัฏฐ์กับสาวฟ้าเข้ากันลงตัว ก็น่าจะเป็นเพราะพวกเขาเป็นคู่รักตัวจริงเสียงจริงกันจ้า

ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ รับบท ทู ไฮโซบุตรชายของธีร์ วงษ์รุ่งโรจน์ ตำนานคาวบอยไทยเจ้าของฟาร์มรุ่งโรจน์ ที่รับช่วงต่อบริหารฟาร์มแทนคุณพ่อ ไอซ์ซึ หนุ่มหล่อกระชากใจสไตล์โอปป้าเกาหลี ที่หลายคนอาจแปลกใจเพราะเขาเคยรับบทเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายในภาพยนตร์ One For the Road (2021) และผลงานใหม่ล่าสุดนี้ ลุคเป็นหนุ่มไฮโซ หนุ่มไอซ์ซึก็ดูเหมาะสมเข้ากับคาแรกเตอร์สุดๆ แถมยังดูเป็นสามีที่รักภรรยาอย่างไม่มีเงื่อนไข

รีวิวซีรีย์ DELETE - เมื่อมนุษย์.. ได้รับพลังของพระเจ้าในการลบสิ่งมีชีวิตให้หายไปตลอดกาล

ออกแบบ ชุติมณฑน์ รับบท อร แฟนสาวของเอม ทำงานเป็นตากล้อง ต้องออกไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ออกแบบ นักแสดงสาวสวยมากฝีมือที่เพิ่งมีผลงานภาพยนตร์สุดปังทาง Netflix เรื่อง Hunger เรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง บทเป็นสาวเก่ง มั่นใจในตัวเอง แต่ก็รักแฟนมาก ไม่ยอมเสียแฟนไปง่ายๆ แสดงดี

เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน รับบทเป็น โต้ง ลูกชายคุณครูประจำโรงเรียนคอนแวนซ์หญิงล้วน การสูญเสียพี่สาว ตอง ทำให้แม่เขาเสียใจมาก จนทำให้โต้งรู้สึกน้อยใจ

ชาร์เลท วาศิตา รับบทเป็น จูน ลูกติดภรรยาใหม่ของธีร์ วงษ์รุ่งโรจน์ พ่อของทู เพราะภูมิหลังครอบครัวทำให้เป็นเด็กเก็บกด มีนิสัยแปลกประหลาดหลายอย่าง สาวชาร์เลท แสดงดี สายตาคือฟาดมากดูมีแววร้าย แต่ก็แอบแฝงดี อย่างที่บอกทุกตัวละครมีความเทา เดายังไงก็เดาไม่ออก

ปีเตอร์ นพชัย รับบทเป็นร้อยเอกยุทธชัย เหรียญอัมพัน สายสืบที่กำลังทำคดีคนหายโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงคดีการหายตัวที่เกี่ยวข้องกับเอมและลิลลี่ด้วย ปีเตอร์ เชฟสุดโหดจาก Hunger คนหิวเกมกระหาย ซีรี่ย์ delete netflix นักแสดง เรื่องนี้ยังคงความดิบเถื่อน

รีวิวซีรีย์ DELETE ความรู้สึกหลังรับชม

หนังผสมผสานเลิฟซีน แอ็คชั่น ดราม่า ลึกลับไซไฟ ออกมาได้อย่างลงตัวเลิฟซีนพอประมาณหวานกรุ้มกริ่ม แอ็คชั่นสนุกต่อสู้มือเปล่า วิ่งหนีวิ่งไล่ หลบในที่แคบ ขับรถหนี วิ่งในทุ่งข้าวโพด ลุ้นระทึกหายใจไม่ถนัดต่อเนื่องจนจบ สำหรับความยาวแปดตอนไม่ได้สั้นหรือยาวเกินไป เปิดเรื่องมากับฟังก์ชั่นการทำงานของโทรศัพท์ที่สามารถลบคนให้หายไป แต่ไม่ได้บอกวิธีเอาคนนั้นกลับคืนมา

จากนั้นค่อยๆ เล่าเรื่องปูความสัมพันธ์ของเอมกับลิลลี่ และความสัมพันธ์ของพวกเขากับคนรักเก่า แต่ละตอนจะเริ่มเล่าเรื่องในอดีตอาจจะหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้า หรือหนึ่งเดือนก่อนหน้า แล้วค่อยวนกลับมาจุดเดิม ค่อยๆ เพิ่มตัวละครมาทีละคนสองคน เพื่อเพิ่มความเข้มข้ม ความซับซ้อน ยิ่งน่าติดตาม

รีวิวซีรีย์ DELETE โปรดักชั่นยอดเยี่ยม นักแสดงเพอร์เฟค

ซีรี่ย์ delete รีวิว โปรดักชั่นยอดเยี่ยม ช่างสรรหาโลเคชั่น หน้าต่างทรงสามเหลี่ยมที่เอมกับลิลลี่เจอกันครั้งแรก วิวอย่างจึ้ง เสียงประกอบชวนระทึกทั้งเรื่องและดูเรื่องนี้ก็แอบได้ฟีลหนัง Horror อเมริกันอยู่นิดๆ ทั้งวิ่งหนีในทุ่งข้าวโพด บ้านแบบล็อคเคบิน ประดับบ้านด้วยเขากวาง (นี่ถ้าเขากวางล่วงหล่นลงมาเสียบร่างทำให้บาดเจ็บ นี่คงจะต้องอุทานว่ามันหนังฮอลลีวู้ดชัดๆ กันแล้ว) เสียงไม้ดังเอี๊ยดอ๊อด คอกม้า ห้องใต้ดิน เหตุเกิดในซุปเปอร์ ชวนลุ้นระทึกตามไปด้วย สนุกๆๆๆๆ

ไม่เท่านั้นบทหนังที่โอ๋ ภาคภูมิ เขียนร่วมกับ จิรัสยา วงศ์สุทิน และ ทศพร เหรียญทอง ยังละเอียดลออในการเล่นกับปมเรื่องทั้งส่วนที่เป็นโมทีฟอย่าง มือถือลบคนได้ ที่ไปสัมพันธ์กับพ็อกเก็ตบุ๊ค ‘Lost and Found’ การวางตัวละครผู้มีอิทธิพลที่ปรากฎตัวพร้อมเสียงดังปังของปืนพก หรือกระทั่งความน่ากลัวของตำรวจสอบสวนให้ภาพเดจาวูของผู้มีส่วนร่วมในการอุ้มหายได้อย่างน่าขนลุก

บทสรุปซีรี่ย์ DELETE

สรุปแล้วใครทำให้ใครหายไป หนังเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกผิด ว่าการที่เราจะลบใครสักคนออกไปจากชีวิต มันทำได้ทันทีเลยไหม เราจะรู้สึกผิดบ้างหรือเปล่า เพราะนี่คือชีวิตคนนะ เขามีพ่อมีแม่ มีคนข้างหลังที่ยังห่วงใยเขาอยู่ และบางทีคนที่เราลบไป เขาก็ยังห่วงใยและรักเรามากด้วยเช่นกัน บทดีสนุกเข้มข้นลุ้นทุกวินาที จนไม่อยากหยุดดู ต้องขอดูรวดเดียวไม่หลับไม่นอน บางเรื่องแปดตอนอาจจะขอนอนก่อนค่อยมาต่อให้จบแต่เรื่องนี้ขอดูทีเดียวให้รู้แล้วรู้รอด ตอนจบชวนลุ้นไปอีก ถ้ามีภาคสองจะดีมาก อยากดูอีก ไม่ได้ดูอะไรที่มันส์ๆ น่าจดจำอย่างนี้นานแล้ว

อีกส่วนที่โดดเด่นมาก ๆ คืองานถ่ายภาพของ สีบาน นฤพล โชคคณาพิทักษ์ ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นไปอีกขั้นทั้งการวางเฟรมในฉากไล่ล่า การเล่นกับตำแหน่งตัวละครกับสถานที่ที่สามารถเล่าเรื่องได้ในตัวของมัน หรือกระทั่งฉากง่าย ๆ อย่างคู่รักและชู้อยู่ด้วยกันก็ยังจัดแสงให้อุ่นไอและความเย็นชาที่ต่างกัน

เรื่อง : DELETE (2023)
แนว : ไซไฟ ดราม่า ลึกลับ เขย่าขวัญ
นักแสดง : ณัฏฐ์ กิจจริต, ฟ้า ษริกา, ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์, ออกแบบ ชุติมณฑน์
จำนวน : 8 ตอนๆ ละ 40-50 นาที

ติดตามหนังใหม่ได้ที่นี่ รีวิว Winnie the Pooh

หนังไทยnetflix
ดูหนังออนไลน์

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

สวัสดีครับเพื่อน ๆ เตรียมไปพบกับ เรื่องราวสุดสยอง สุดโหด ของหมีเหลืองสุดร่าเริง วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี กำกับโดย รายส์ วอเตอร์ฟิลด์ ที่ได้นักแสดงนำมากฝีมือ เคร็ก เดวิด ดอว์เซตต์ รับบท หมีพูห์ , คริส คอร์เดลล์ รับบท พิกเล็ต , แอมเบอร์ ด็อก-ธอร์น รับบท อลิซ เรื่องนี้บอกเลยว่าสยองสุด ๆ ทำให้จำภาพหมีพูห์และพิกเล็ตของคุณในการ์ตูนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรื่องราวจะสนุกและระทึกขนาดไหน อย่าลืมไปติดตามกันที่นี่ ดูหนังออนไลน์

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

รีวิว Winnie the Pooh โหด เห็น หมี ภาพยนตร์สยองทุนต่ำ

เมื่อหมีพูห์ถูกทิ้ง น้ำผึ้งจึงแปรเปลี่ยนเป็นโลหิต Blood and Honey’ หรือในชื่อไทย ‘โหด เห็น หมี’ ภาพยนตร์สยองทุนต่ำกับกรณีศึกษาการนำเอา winnie the pooh ตัว ละคร ชื่อดังที่กลายเป็น ‘Public Domain’ มาดัดแปลง กับคำถามว่าทำไม ‘ทิกเกอร์’ ไม่อยู่ในเรื่อง วันเวลาแห่งการผจญภัยและความสนุกสนานได้สิ้นสุดลง เมื่อคริสโตเฟอร์ โรบิน ชายหนุ่มทิ้งวินนี่เดอะพูห์ และพิกเล็ตให้ดูแลตัวเอง

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

เนื่องจากต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขารู้สึกโกรธที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งสองกลายเป็นสัตว์ดุร้าย หลังจากได้ลิ้มรสเลือดแล้ว สัญชาตญาณสัตว์ดุร้ายของพวกเขาก็ถูกปลุกออกมา วินนี่เดอะพูห์และพิกเล็ตจึงออกล่ามนุษย์ทุกคนที่เข้ามาในป่าร้อยเอเคอร์ การอาละวาดนองเลือดของพวกเขาจึงเริ่มขึ้น

เรื่องย่อ

ก่อนอื่นเรามาพูดกันถึงเรื่องราวเบื้องต้นของภาพยนตร์ winnie depooh เรื่องนี้กันก่อนว่ามันเกี่ยวกับอะไร เป็นเรื่องราวของ คริสโตเฟอร์ โรบิน กับเหล่าผองเพื่อนที่อยู่ใน ป่าร้อยเอเคอร์ (Hundred Acre Wood) ไม่ใช่เรื่องราวสุขสันต์เหมือนตอนที่เขายังเด็ก แต่เป็นเรื่องราวของวันที่ โรบินได้ทอดทิ้งเพื่อน ๆ ทั้งหลายของเขาเพื่อเดินหน้าต่อกับชีวิต จนสัตว์ทั้งหลายแปรเปลี่ยนจากเพื่อนซี้ ที่น่ารักเป็นนักฆ่ากระหายเลือดที่นับวันรอคิดบัญชีกับอดีตเพื่อนซี้ของเขา…

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

สิ่งที่ทำให้กาตูนผจญภัยสนุกสนานกลายมาเป็นหนังสยอง

โหดเห็นหมี winnie pooh disney ที่ไม่ใช่หมีในภาพความทรงจำแบบการ์ตูนแต่เป็นหมีแบบโหดสุด หมีแสนอัปลักษณ์นักฆ่าที่ดุร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่า เรื่องราวความสยองสุดขั้วของ พูห์ กับ พิกเล็ต ที่เกิดบ้าคลั่งขึ้นมา หลังจากที่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ทอดทิ้งพวกเขาไปเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย คริสโตเฟอร์ โรบิน ได้กลับมาเยี่ยมพวกเขาอีกครั้ง หลังจากที่ได้ไปเรียนต่อมหาลัย ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นจากความรักกลับหลายเป็นความเกลียด และเป็นจุดเริ่มต้นของการไล่ฆ่าที่น่าสยดสยองสุดๆ

รีวิว Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์: โหด เห็น หมี

เนื่องจากหมีพูห์และพิกเล็ตพวกเขารู้สึกโกรธที่ถูกทอดทิ้งเมื่อ คริสโตเฟอร์โรบิน ชายหนุ่มที่ต้องทิ้งวินนี่เดอะพูห์ และพิกเล็ตให้ดูแลตัวเองในป่าอย่างลำบากแล้วหิวโหย ทำให้หมีพูห์และพิกเล็ตทั้งสองโกรธคริสโตเฟอร์มากที่ทอดทิ้งพวกเขา หลังจากนั้นทำให้ทั้งสองต้องกลับกลายเป็นสัตว์ดุร้าย ถ้าใครคนไหนที่เข้ามาในป่านี้ก็จะต้องมีจุดจบที่โหดสุดๆ

ความรู้สึกหลังรับชม Winnie the Pooh

สำหรับในตัวเรื่องพล็อต มีความน่าสนใจมากพอสมควร รู้สึกว่าไม่ได้ว้าวมากแต่ถ้าพูดถึงในเรื่องโหดสยองก็ต้องยกนิ้วให้เลยเพราะทำออกมาเนียน ดีมากๆ ฉากการฆ่าไม่มีการเซนเซอร์ใดๆแถมเป็นการฆ่าที่น่ากลัวสยองมากๆ เน้นหัวสุดๆ

ตึงสุดไรสุดก็ต้องยกให้พี่หมีพูห์ของเราแล้วแหละ ที่ตึงคือฟันแทงไม่เข้า ตายยากตายเย็น และไม่ตาย นักแสดงคือดีบทบาทเหมาะสมแสดงดีแบบทุดคนอย่างหมีพูห์กับพิกเล็ตคือทำให้ลืมภาพจำแบบการ์ตูนไปเลยว่าเป็นยังไง เพราะอยากจะบอกว่าหน้าตาอัปลักษณ์สุดๆ ไม่ยากจะเม้าท์และคือฆ่าแบบไม่ยั้ง ไม่มีความเมตตาอะไรเลย เน้นที่หัวล้วนๆ ไม่ว่าจะทุบ รถเหยียบ แทง ตัด คือที่สุดๆ

เป็นการฆ่าที่ไม่ซ้ำกัน ใช้เวลาและยืดยาวนิดหน่อย ฆ่าโหด มัน สยอง สยิวกิ้ว มีความแอบน่าเบื่อนิดหน่อยสำหรับบางซีนด้วยความยืดยาดในการหนีของตัวละครและด้วยความเป็นหญิงก็จะหวีดว้าย ส่งเสียงแบบดังจนเขารู้ว่าอยู่ไหน

เอ่ยถึงตัวละครมาแทบทั้งหมดแล้ว ลืมอีกตัวละครสำคัญอย่างเสือที่มีชื่อว่า ทิกเกอร์ (Tigger) ไปได้อย่างไร หากใครที่ได้ชมเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็น่าจะมีคำถามเดียวกัน เพราะเสือตัวดังกล่าวไม่ได้มีการปรากฏตัวในเรื่องเลยแม้แต่ครั้งเดียว (อย่างน้อย แม้จะไม่ได้โผล่มาแบบเป็น อียอร์ก็ยังโผล่มาแบบหลุมศพ) จะช่วยคลายความสงสัยให้

จุดเปลี่ยนแปลงของ Winnie the Pooh

หนังสือเล่มแรกที่เผยแพร่ปี 1926 ตัวละครที่มีชื่อว่า ทิกเกอร์ ‘ยังไม่ปรากฏตัว’ เพราะทิกเกอร์จะมาในเล่มถัดไปที่ตีพิมพ์ในปี 1928 ที่มีชื่อว่า ‘The House at Pooh Corner’ ดังนั้นใครจะคิดว่า…เมื่อเวลาผ่านไป 95 ปี จากหมีสีเหลืองน่ากอดและสุดแสนจะเป็นมิตร แถมยังเป็น หมีที่เข้าใจชีวิตและเป็นภาพสะท้อนของแนวคิดแบบเต๋า จะเปลี่ยนของโปรดจาก ‘น้ำผึ้ง’ (Honey) เป็น ‘โลหิต’ (Blood) บางคนอาจจะสงสัยว่าผู้สร้างไปเอาลิขสิทธิ์ของพูห์มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญสุดแสนจะทุนต่ำแบบนี้ได้อย่างไร ยิ่งเป็นทุนต่ำด้วย คงเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการที่จะควักเงินทุนไปซื้อลิขสิทธิ์มาสร้าง (และถึงควักจริง ๆ เจ้าของลิขสิทธิ์ก็คงไม่น่าจะยอม)

เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า พูห์ฉบับที่อายุครบ 95 ปี และกลายเป็นสาธารณสมบัติคืองานประพันธ์หนังสือการ์ตูนเด็กของ เอ. เอ. มิลน์ (A. A. Milne) และวาดโดย อี. เอช. เชพเพิร์ด (E. H. Shepard) ที่ชื่อว่า ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1926 ซึ่งภายในนิทานเรื่องดังกล่าวก็มีตัวละครที่เราคุ้นเคยเหมือนกับที่เราคุ้นเคยเลย ตั้งแต่ พิกเล็ต (Piglet), อียอร์ (Eeyore), แร็บบิต (Rabbit) และเด็กชายผู้ดำเนินเรื่องอย่าง คริสโตเฟอร์ โรบิน (Christopher Robin)

บทสรุป

อวสานวัยเด็ก คำนี้ไม่เกินจริง… กับภาพยนตร์สยองทุนต่ำกำไรสูงที่นำเอาเพื่อนซี้วัยเด็กของใครหลายคนอย่าง ‘หมีพูห์’ มาดัดแปลงเป็นฆาตกรโรคจิตที่สามารถไปร่วมทีมกับ ไมเคิล ไมเยอร์ส ได้อย่างง่ายดาย หรือในชื่อไทยว่า ‘โหด เห็น หมี’ หนังไทยnetflix ทุนต่ำ ที่คว้าคะแนน Rotten Tomatoes จากนักวิชาการไปถึง 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องโค้งคำนับผู้สร้างว่าไอเดียไม่เลว แถมยัง ‘หัวไว’ เห็นโอกาสทองและไม่ปล่อยมันให้หลุดมือ

เพราะคงไม่บ่อยครั้งนักที่วัตถุดิบชั้นเลิศที่ผู้คนทั่วโลกหลงรักแบบนี้ จะ ‘ว่าง’ ไร้ใครเป็นเจ้าของและสามารถหยิบไปปู้ยี่ปู้ยำอย่างไรก็ได้จนกลายเกิดเป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำที่มีตัวชูโรงเป็น ‘วินนี-เดอะ-พูห์’ แต่ถึงกระนั้นการหยิบพูห์มาใช้ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้องศึกษาให้ดี ไม่อย่างนั้นผู้สร้างอาจจะซวยได้

ประเภท : สยองขวัญ
นำแสดงโดย : เคร็ก เดวิด ดอว์เซตต์, คริส คอร์เดลล์, แอมเบอร์ ด็อก-ธอร์น
กำกับโดย : รายส์ วอเตอร์ฟิลด์
กำหนดฉาย : 23 กุมภาพันธ์ 2023
ความยาว : 100 นาที

สามารถไปติดตามหนังรักสุดล้ำได้ที่ รีวิว AI Love You

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ฮือฮามากก 2 พระนางโคจรมากลับเจอกันในรอบ 10 ปี ในหนังที่เป็นแนวรัก โรแมนติกคอมเมดี้-ไซไฟ AI Love You (2022) เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด นั่นคือ “มาริโอ้ เมาเร่อ และใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” การกลับมาครั้งนี้ใน หนังหุ่นยนต์ netflix ที่เล่าเรื่องในอนาคตอันใกล้ AI ที่ตกหลุมรักพนักงานสาวในโฆษณา ที่ฉายเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ทาง Netflix เรื่องราวจะสนุกแค่ไหนกันนะ ไปติดตามรับชมหนังเต็มเรื่องได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

รีวิว AI Love You มิติใหม่แห่งภาพยนตร์ไทย

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ หนังไทยnetflix เรื่องนี้คือความพยายามนำเสนอโลกอนาคตของประเทศไทย ที่ใช้ระบบเอไอเข้ามาในชีวิตประจำวันของผู้คน งานเทคนิคพิเศษไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์บนยอดตึก หรือการแทรกสอดการทำหน้าที่ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ จัดได้ว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจ แต่งานเทคนิคพิเศษก็ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องราวความรัก ระหว่างสิ่งที่เป็นนามธรรม (เอไอ) กับสิ่งมีชีวิตที่เป็นรูปธรรมอย่างมนุษย์ (ลาน่า) เพราะนั่นคือแกนหลักสำคัญของเรื่อง

สำหรับพล็อตเรื่องนี้ มองว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในโลกอนาคตเข้ามาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน เป็นความรักของเอไอและมนุษย์ แต่ดีเทลต่างๆ ในเรื่องทำออกมาได้ค่อนข้างจะผิดหวังไปหน่อย แต่ก็เอาใจช่วยค่ะ

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือ “การยึดร่าง” ของเอไอ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจมาก ถ้าหากหนังจะเลือกไปสำรวจแนวคิดว่า หากไอเอจะมีความรักกับมนุษย์สักคนและเลือกที่จะยึดร่างมนุษย์เพื่อให้ตัวเองมีตัวตนขึ้นมาและสามารถมีความรู้สึก แต่หนังก็ไม่ได้เจาะลึกถึงประเด็นอะไรเหล่านี้มากนัก จนเราไม่อาจจะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมตามในฉากสารภาพความจริงของตัวเอในตอนท้าย

รีวิว AI Love You การดำเนินเรื่อง

เริ่มต้นจาก พนักงานสาว ลาน่า (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ) ผู้ที่ประกอบอาชีพเอเจนซีโฆษณา มีชีวิตประจำวันดั่งสาวออฟฟิศ และแน่นอนว่า เธอยัง โสดดดด ในการทำงานนั้นอยู่ในโลกอนาคตที่ต้องมี เอไอ เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อคอยอำนวยความสะดวก ให้กับเหล่ามนุษย์ ไม่ว่าจะไฟฟ้า คิดวิเคราะห์ หรือแม้กระทั่งเป็นเพื่อนคล้ายเหงา และด๊อบเอไอประจำสำนักงานที่นิสัยดี ช่างพูดช่างจา ช่างสังเกต เขานั้นได้ตกหลุมรักลาน่า คอยช่วยเหลือลาน่าเสมอมา แต่ลาน่าคงไม่อาจรับรักเอไอได้ เพียงเพราะเธอเชื่อว่าระบบปฏิบัติการอัจฉริยะนั้น ไม่มีสิ่งที่มนุษย์มีนั้นคือ “หัวใจ”

ด้วยที่ ด๊อบ เป็นเอไอที่มีโค้ดที่ซับซ้อนมาก สามารถรับรู้ความรู้สึก มีความรักแบบมนุษย์ได้เลยก็ว่าได้ เลยทำให้ ด๊อบ นั้นอยากเป็นแฟนกับ ลาน่า ในแบบที่มนุษย์เขาเป็นกัน ด๊อบ จึงทำให้ระบบของตัวเองขัดสนไปหมด จนทำให้ บ๊อบ พระเอกของเรื่องเข้ามาจัดการ ดูแลระบบ แก้ไข และรีเซ็ตใหม่

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

บ๊อบ (มาริโอ เมาเร่อ ) เป็นหนุ่มหล่อประจำออฟฟิศเลย แต่สันดานปากหมาและไร้มารยาท เขาคาดหวัง ที่จะได้สานสัมพันธ์กับ ลาน่า แต่อยากสานสัมพันธ์เพียงแค่เป็นคู่นอนเท่านั้น ทำให้ทั้งคู่ จบแบบไม่สวย และ บ๊อบ ผู้ที่มีอาชีพเป็น เจ้าหน้าที่ในการตรวจระบบเอไอ ค้นพบว่า โค้ดปฏิบัติการของ ด๊อบ มีความผิดปกติ เขาจึงพยายามแก้ไข แต่ ด๊อบ กลับพยายามขัดขืน ป้องกันไม่ให้ บ๊อบ แก้ไขได้ ด๊อบจึงฉวยโอกาสจูนระบบความคิดเข้าไปในร่างกายของ บ๊อบ เพื่อหวังจะหาทางเอาชนะใจ ลาน่า ให้ได้ จึงกลายเป็นเรื่องราวระหว่าง ลาน่า และด๊อบ ในร่างของ บ๊อบ เกิดขึ้น

พล็อตเรื่องที่แอบชวนให้งง

พล็อตที่พระเอกในเรื่องถูกเอไอเข้าไปในร่าง ทำให้มีการตั้งคำถามว่า ตัวตนไหนคือตัวตนที่แท้จริงกันแน่ และทำให้เกิดการถกเถียงขึ้นต่อไปได้อย่างน่าสนใจว่า หนัง คนรักกับai กำลังนำเสนออะไรที่ลึกซึ้งได้มากกว่าที่เห็นหรือไม่ ทำไมเอไอที่มีความรู้มากมากพอมาอยู่ในร่างมนุษย์ถึงกลายเป็นดูไม่ประสีประสาอะไรเลย หรือนี่คือบทจำลองว่าด้วยจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ (พระเจ้า) ที่พอจุติย่อยมาอยู่ในกายเนื้อมนุษย์ก็กลับสู่บาปและอารมณ์อันขุ่นมัวเหมือนเด็กไร้เดียงสา รอวันที่จะบรรลุกลับไปรวมกับจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง สำหรับในเรื่องนี้คือการค้นพบความรักและคำตอบว่าเขามีชีวิตจริงหรือไม่

รีวิว AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด : ความรักล้ำ ๆ ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญญาประดิษฐ์

เมื่อ ด๊อบ ยึดร่างกายของมนุษย์ได้แล้ว ก็วนเวียนอยู่กับการทำยังไงให้ผู้หญิงมารัก การแสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้และการเติบโตของตัวละครนั้นมีน้อยมาก ส่วนบทลาน่า ที่ตอนแรกดูว่ามีท่าทีแข็งกร้าว แต่พอบทจะเปลี่ยนใจมันก็ง่ายจนเกินไป ดูแล้วความรักของสองตัวละครนี้ไม่มีอะไรให้เราลุ้นติดตามเลย

เพื่อนนางเอกที่เป็นคนจริง ๆ ที่ชื่อ คาร่า ไม่เคยปรากฏตัวในชีวิตจริงของนางเอกเลย ปฏิสัมพันธ์กันผ่านทางหน้าจอเท่านั้น เมื่อมองแบบนี้สิ่งมีชีวิตปลอม ๆ อย่างเอไอพระเอกที่ก้าวเข้ามาอยู่ในชีวิตจริง ๆ ของนางเอกจะถือว่ามีตัวตนอยู่จริงมากกว่าคาร่าได้หรือเปล่า

หนังทำออกมาได้น่าสนใจ แต่ยังนำเสนอออกมาได้ไม่ดีพอ

หนังยังนำเสนอ ว่าเอไอที่รู้พฤติกรรมของนางเอกทั้งหมด ย่อมทำสูตรสำเร็จให้นางเอกมารักได้ (ถ้าดูตามหนังปกติช่วงนี้จะอิหยังวะมากว่ารักกันง่ายจัง) เช่นเดียวกับ เรื่องการตลาดแบบวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่หาสูตรสำเร็จสร้างความต้องการของลูกค้าจนได้ ใจมนุษย์มันถูกควบคุมง่ายถึงขนาดนั้นเลยหรือไม่ และเมื่อนางเอกรู้ความจริง ถึงตัวตนใต้ใบหน้าของแฟนหนุ่ม เธอจึงได้โกรธมาก ไม่ต่างจากเราที่รู้ว่าฟีดที่ถูกใจทั้งหลายมาจากการถูกแอบฟังและแอบติดตามพฤติกรรมการใช้งานแอปทั้งหลาย ไม่รู้ผู้สร้างคิดไปขนาดนั้นไหมแต่ก็ชวนให้คิดได้เช่นกัน ตัวละครก็มีความแปลกการรับรู้ความรู้สึกของนางเอก เมื่อเทียบกับหนังไทยทั่วไป ทำให้ไม่ค่อยอินในพฤติกรรมสักเท่าไหร่

ทำให้เกิดการถกเถียงขึ้นต่อไปได้อย่างน่าสนใจว่า หนังกำลังนำเสนออะไรที่ลึกซึ้งได้มากกว่าที่เห็นหรือไม่ ทำไมเอไอที่มีความรู้มากมาก พอมาอยู่ในร่างมนุษย์ ถึงกลายเป็นดูไม่ประสีประสาอะไรเลย หรือนี่คือบทจำลองว่าด้วยจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ (พระเจ้า) ที่พอจุติย่อยมาอยู่ในกายเนื้อมนุษย์ก็กลับสู่บาปและอารมณ์อันขุ่นมัวเหมือนเด็กไร้เดียงสา รอวันที่จะบรรลุกลับไปรวมกับจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง สำหรับในเรื่องนี้คือ การค้นพบความรักและคำตอบว่าเขามีชีวิตจริงหรือไม่

รีวิว AI Love You งานภาพ CG ฉบับไทย ๆ ที่ดูแล้วแอบขัดตานิดนึง

การออกแบบตึก อาคารสถานที่ ดูแล้วก็ขัดตาไปหน่อย แม้จะเล่าเรื่องราวในโลกอนาคต เล่าเรื่องราวของตึกหรืออาคารไฮเทค ที่มีความสามารถขั้นอัจฉริยะ มีความคิดเกือบเทียบเท่ามนุษย์ แต่ก็ไม่จำเป็นที่ต้องออกแบบให้มีความเหมือนมนุษย์ก็ได้ แต่นี่ทำให้ตึกมี หัว มีตา มีปาก แถมยังมีแขนอีกต่างหาก ดูไปดูมาก็เหมือนเด็กต่อของเล่นให้กลายเป็นตึก มันไม่ได้ทำให้ดูไฮเทคอะไรเลย การออกแบบบริบทที่เกี่ยวข้องกับบรรยากาศแวดล้อมทั่วไปก็ดูขัดใจ

เขาต้องการทำให้เห็นว่าทุกอย่างนั้น เป็นระบบไฮเทค แต่ก็ไม่สามารถทำให้ แนบเนียน ได้ จึงใส่สีเข้ามา โดยเน้นสีชมพูอมสีม่วงเป็นต้น หรือแม้แต่ฉากที่รถวิ่งไปมาบนท้องถนนนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่เราเห็นในทุกวันนี้ ดังนั้นการ set up ฉากในโลกอนาคตจึงถือว่าสอบตก มีหลายจุดที่ทำให้เห็นว่า AI โง่มาก ๆ ยิ่งท้าย ๆ เรารู้สึกว่า ai love you เต็มเรื่อง พากย์ไทย ที่เป็นหุ่นยนต์โง่มากกว่าเครื่องกวาดบ้านอัตโนมัตด้วยซ้ำ

ความรู้สึกหลังรับชม

ปัญหาของ หนัง AI Netflix เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่อง โลกฉากหลังอันแห้งแล้ง เหมือนเราเดินเข้าไปอยู่ใน เกมเดอะซิม ที่มีแต่ NPC มากกว่าโลกอนาคตที่มีคนอยู่จริง ๆ ตัวบทไม่ได้ชักนำให้รู้สึกถึงมิติความซับซ้อนของตัวละคร และเรื่องราว หรือแม้แต่สาระที่ต้องการถ่ายทอดก็ออกมาไม่ค่อยชัด รวมกับการกำกับการแสดงที่ประดักประเดิดไม่ค่อยลงตัว เข้าใจว่าผู้กำกับอย่าง สเตฟาน สโลเตซคู และ เดวิด อัศวนนท์ อาจมีปัญหาในการคุมโทนของหนังไม่น้อย

จึงมีฉากประหลาดแบบ หัวนมซีนและเรอซีน เข้ามา และทำให้นักแสดงต้องอาศัยความเข้าใจภาพรวมของเรื่องที่ก็ไม่ค่อยซับซ้อน แล้วแบกการแสดงในแต่ละฉากไปกันเอง ทำให้จะดูเป็นหนังบันเทิงก็เลยไม่ค่อยสนุก ครั้นจะดูเป็นหนังคอนเซ็ปต์ก็ทำได้ไม่ชัดไปอีก และเหตุผลที่ว่ามาทำให้ไม่แปลกที่คนจำนวนมากรู้สึกไม่โอเคกับหนังเรื่องนี้

ภาพยนตร์ไซไฟ ,ไทย ,ตลกของไทย ,ภาพยนตร์ไทย ,ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ,ภาพยนตร์ตลก ,ภาพยนตร์โรแมนติก
สร้างและเขียนโดยสเตฟาน ซโลเตสคู
กำกับโดย นักแสดงชาวไทยชื่อดัง เดวิด อัศวนนท์ และสเตฟาน ซโลเตสคู
นักแสดง : มาริโอ้ เมาเร่อ ,พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ,เดวิด อัศวนนท์ ,สหจักร บุญธนกิจ ,ไมเคิล นิว ,ศุภัคญาฎาร์ กัลยาณมิตร ,ภูมิพัฒน์ ชาติสุริยเกียรติ และเจมส์ เลเวอร์
เวลาของหนัง 1 ชั่วโมง 35 นาที เรท 13+

ติดตามรับชมหนังใหม่ ๆ ได้ที่นี่ รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

netflix

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท มาพบดูหนังออนไลน์กับหนังไทยแนวระทึกขวัญอย่าง ปริศนารูหลอน เรื่องราวของ พิม และ พัท 2 พี่น้องที่จำเป็นต้องมาอาศัยอยู่กับ คุณตา และ คุณยาย เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก คุณแม่ ของพวกเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนมีอาการสาหัสโคม่านอนไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่พวกเขาก็ไม่เคยรู้จักกับทั้ง คุณตา และ คุณยาย มาก่อนเลย เมื่อพวกเขาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านของคุณตาคุณยาย พวกเขาก็ค่อยๆ ได้สัมผัสกับเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับรูปริศนาบนกำแพง ที่อยู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นมา และดูเหมือนจะมีแต่เพียงเฉพาะพวกเขาแค่สองคนเท่านั้นที่มองเห็นรูนั้น และเมื่อพวกเขาได้ลองส่องเข้าไปดูในรูปริศนานั้น พวกเขาก็ได้พบเห็นเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับความลับอันดำมืดที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละนิด เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามชมหนังไทยnetflix กันได้เลย

 

ความเป็นมา ปริศนารูหลอน หนังไทยแนะนำ ใน netflix

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไปและไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

 

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี หนังสือ’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว

 

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

 

‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’ เป็นภาพยนตร์ netflix original movies แนวดราม่า-ระทึกขวัญผลงานล่าสุดของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ พิม (รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และ พัท (รับบทโดย แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับตา (รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล) และยาย (รับบทโดย ทาริกา ธิดาทิตย์) ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เพราะแม่ (รับบทโดย นิโคล เทริโอ) ประสบอุบัติเหตุนอนโคม่า แต่เมื่อย้ายเข้าไปในบ้านทั้งสองก็ได้พบกับรูหลอนปริศนา ที่เรียกพวกเขาไปพบกับความจริงบางอย่างที่ซ่อนไว้

 

เนื้อเรื่อง

The Whole Truth เปิดเรื่องด้วยชีวิตประจำวันธรรมดาของเด็กนักเรียนสองคนและแม่ของเขา เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ แวะจอดข้างทาง และพาคนดูหักเลี้ยวไปเรื่องที่ร้อยเรียงไปตามลำดับเมื่อความจริงหลังรูเล็กดำมืดค่อย ๆ เปิดเผยปริศนา ความลับดำมืดให้เห็น ดูแล้วอาจจะเหมือนภาพยนตร์ netflixดราม่าทริลเลอร์หักมุมทั่วไปหนึ่งเรื่อง แต่เมื่อเรามองให้ดีประเด็นสำคัญของการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่ามันสนุกแค่ไหน แต่อยู่ที่มันกำลังสื่อสารอะไรกับเราผ่านสัญลักษณ์ในเรื่อง และเมื่อเราได้ดู ภาพที่เราเห็นในจอจึงไม่ใช่แค่ตัวละคร บ้านหนึ่งหลัง และรูหนึ่งรู แต่ขยายใหญ่กว่านั้นขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะตีความเห็นเป็นอะไร

 

ความจริงบางครั้งก็เหมือนรู้สีดำเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในความมืด มันอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา เพียงแต่เรามองไม่เห็น แต่ทันทีที่แสงสว่างสาดส่องไปถึง มันจะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน จนเราตกใจว่ามันอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

ประโยคนี้ที่ดังขึ้นในเรื่องถึงสองครั้งตอนเปิดเรื่องและตอนเฉยปมเป็นเหมือนการเปิดลายแทงที่ทำให้เราค้นเจอชิ้นส่วนต่าง ๆ และปะติดปะต่อต่อสิ่งที่เห็นในจอจนเป็นภาพของประเทศไทยซ้อนทับอยู่ในบ้าน ตัวละครเป็นตัวแทนของคนแต่ละยุค รู นาฬิกา นมที่พัทดื่ม หรือแม้แต่ชั้นวางของในเรื่อง ต่างก็มีความหมายในตัวของมันเอง

 

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

 

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

ตา ตัวแทนของ ไซเลนท์เจนเนอเรชั่น (Silent Generation) ที่ถูกเรื่องนำเสนอให้มีคาแรกเตอร์ที่ให้ความสำคัญของการมีระเบียบแบบแผน มีความสัมพันธ์ที่พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวและผู้กุมอำนาจสูงสุดในบ้าน ทุกคนในบ้านต้องเห็นคล้อยตามผู้นำ เหมือนที่คุณตาจะมีอารมณ์ทุกครั้งหากหลานมีความเห็นที่ต่างออกไป และการบังคับให้คุณยายกินยาเพื่อลืม แม้จริงนั้นจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ติดอยู่กับตำแหน่งใช้ตำแหน่งและอำนาจในมือให้เป็นประโยชน์แก่ตน เน้นความเป็นพวกพ้องรุ่นพี่รุ่นน้องแสดงผ่านการใช้เส้นสายส่วนตัวในวงการตำรวจ ยึดความถูกต้องในแบบที่ตัวเองเข้าใจเป็นหลัก

 

ยาย ตัวแทนของ ผู้หญิงยุคเบบี้บูมเมอร์ส (Baby Boomers) ที่ภาพยนตร์ออนไลน์นำเสนอให้มีหน้าที่เป็นผู้ตามในครอบครัว ยึดถือหลักการคล้ายกับคุณตา ยังคงให้ความสำคัญกับแบบแผนและตำราเช่นการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ ความเข้มงวดในเรื่องต่าง ๆ และหากมีสิ่งไหนที่แตกแถวไปจากความสมบูรณ์แบบตามความเข้าใจของพวกเขาจะต้องถูกกำจัดไป เชื่อในการอดทนต่อปัญหามากกว่าแก้มัน

 

แม่ ตัวแทนของเจ็นเอ็กซ์ (Gen-X) ที่ผู้หญิงพึ่งพาตัวเองมากขึ้นและความเป็นผู้นำครอบครัวไม่ติดกับเรื่องเพศอีกต่อไป ให้อิสระกับลูกมากกว่า แก้ปัญหาอย่างประนีประนอม หลับตาข้างเดียวได้

 

ส่วนลูกสองคนคือตัวแทนของกลุ่ม เจ็นแซด (Gen-Z) ที่ตั้งคำถาม ใคร่รู้ และมองตรงไปยังปัญหา แต่พิมอาจจะเป็นตัวแทนของกลุ่ม privileged หรือ ผู้มีสิทธิพิเศษ ด้วยความ ‘สมบูรณ์แบบ’ ของเธอ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่ได้ตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลายครั้งเลือกที่จะไม่มองเข้าไปใน ‘รู’ ทั้งที่มันส่งเสียงเรียกหาอยู่ข้างหน้า ในขณะที่พัทอาจจะเป็นตัวแทนของคนกลุ่มชายขอบสะท้อนผ่านความพิการของขา ที่ส่งให้เขาอยากไขปริศนาและไม่กลัวที่จะมองเข้าไปแม้สิ่งที่เขาจะมองอยู่มันน่าสยองแค่ไหนก็ตาม

 

พินยา ตัวแทนของปัญหา ความจริงที่บิดเบี้ยวน่ากลัวซึ่งถูกซ่อนไว้ แต่ไม่เคยหายไปไหน เหมือนกับร่างของพินยาที่ถูกซ่อนไว้ในตู้ใต้บันได แต่ยังคงออกมาเรื่อย ๆ หรืออาจจะเป็นคนที่เห็นต่างมีความคิดไม่สมบูรณ์ตามแบบแผนในสายตาของคนบางกลุ่มที่ต้องถูกกำจัดไปเหมือนที่คุณยายต้องการกำจัดพินยาที่มีใบหน้าย้อยออกมาเป็นเหลี่ยมอยู่ครึ่งหนึ่ง

 

รู เป็นตัวแทนของความจริงและปัญหาที่โดนมองข้ามและถูกซ่อนไว้ในอดีตและภาพในรูที่พิมและพัทเห็นชัดขึ้นทุกทีก็อาจจะเป็นตัวแทนของเวลาคนเรามองตรงไปยังความจริงที่ซ่อนไว้และยิ่งให้เวลาพิจารณาค้นหามากเท่าไหร่ ความจริงก็จะยิ่งปรากฏชัดให้เห็นกับตา

 

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

 

นม ตัวแทนของแนวคิดของคนรุ่นก่อนที่คนรุ่นใหม่ถูกขืนให้ฝืนกิน สะท้อนผ่านการที่ยายบังคับให้พัทดื่มนมด้วยเหตุผลของความหวังดี โดยมองว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะรักษาความแตกต่าง เหมือนกับที่ยายบอกว่านมจะช่วยให้กระดูกขาที่บกพร่องของพัทแข็งแรง แต่ยาพิษที่ถูกผสมอยู่ข้างในนั้นกำลังจะฆ่าพัทให้ตาย

 

นาฬิกา อาจจะสื่อถึงอดีตที่เคยเรืองรองที่คนบางกลุ่มเคยสัมผัสและยังคงเห็นมันอยู่ แต่สำหรับคนอีกรุ่นที่มองเห็นแค่เพียงราง ๆ เหมือนร่องรอยบางเบาในกำแพงตรงที่นาฬิกาเคยอยู่

 

ชั้นวางของที่มีทั้งถ้วย โล่รางวัลที่เก่าจนสีหม่น และสิ่งละอันพันน้อยจากยุคต่าง ๆ ทั้งเครื่องลายครามจากจีน ตุ๊กตากระเบื้องของฝรั่ง เปรียบได้กับเกียรติยศและความภูมิใจในอดีตและวัฒนธรรมที่หยิบยืมและหลอมรวมจากหลายชาติไว้ในชั้นสูงใหญ่ที่ถูกนำมาปิดบังรูเจ้าปัญหานั่นไว้ แต่ก็ปิดไม่ได้และทุกอย่างก็ล้มลงมา แตกกระจายเป็นเสี่ยง

 

ความรู้สึกหลังจากได้ดูจบแล้ว

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท ฟังดูหนัง ปริศนารูหลอน มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก การที่หนังมีทรงของหนังสย่องขวัญ netflixที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก

 

ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และเป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิมและพัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิตและเพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์และการกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

 

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัว พอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสย่องขวัญพากย์ไทยมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย

 

 

ความล้มเหลวในด้านการเป็นหนังหักมุม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนังดูไม่สนุกเพราะถึงฉากสยองจะไม่น่ากลัว แต่หากปริศนาตามชื่อเรื่องมันน่าสนใจก็ยังดึงคนดูให้ดูจนจบได้และบางทีอาจชอบหนังอยู่ไม่น้อย ทว่าหนังกลับเล่นกับปริศนาได้น่าผิดหวังเช่นกัน คำว่ารูหลอนที่พยายามเล่นคำกับทฤษฎีรูหนอนก็ถูกเอามาอ้างแบบขอไปทีจนรู้สึกน่าเสียดาย การให้ดูเหตุการณ์เพื่อหลอกความเข้าใจของคนดูต่อความจริงบางอย่างในครอบครัวของตัวละครก็เป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยาก ถึงขนาดว่าครึ่งเรื่องเราก็แทบรู้แล้ว และมันน่าหงุดหงิดที่หนังตั้งใจทำให้ตัวละครดูคิดไม่ออก เหมือนว่าความลับนั้นยังดำมืดอยู่ทั้งที่ความน่าสนใจความอยากรู้ต่าง ๆ สำหรับคนดูมันเหือดหายไม่เหลือแล้ว

 

และเมื่อมาถึงการเฉลยทุกอย่างจนหมดสิ้น มันก็ไม่ได้อัดหมัดหนักใส่คนดูได้อย่างที่คิด การแสดงของคนร้ายตัวจริงในช่วงหลังก็ออกแบบเสียจนกลายเป็นละครโทรทัศน์ขาดความเป็นหนังไปหมดแล้ว และว่ากันตามตรงเอาที่ตัวหนังอย่างเดียวไม่นับพวกระหว่างบรรทัดของหนังมันก็แทบไม่ได้เหลืออะไรทิ้งค้างคาไว้ในหัวเราเท่าไรเลย ทั้งที่จริงสาระต่าง ๆ ที่เป็นไอเดียสร้างหนังมานั้นมันดีมากทีเดียว เป็นอีกงานที่น่าเห็นใจนักแสดงและทีมงานสร้างที่พยายามแล้วก็คงแก้อะไรกับการเล่าเรื่องที่ไม่สนุกและไม่น่าเชื่อถือนี้ได้

 

จุดเด่นจุดสังเกตของเรื่องนี้

การออกแบบศิลป์และการกำกับภาพช่วยให้หนังดูดี การแสดงทำได้น่าจดจำ ไอเดียและข้อความระหว่างบรรทัดของหนังชวนคิดและน่าตกตะลึง ซีจีย่ำแย่และไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยหลายฉาก การแต่งหน้าผีทำได้แย่ การเล่าเรื่องถือว่าผิดพลาดถ้ามองจุดประสงค์การเป้นหนังซ่อนความลับและความสยองขวัญ

 

 

สรุปการรีวิว ปริศนารูหลอน

the whole truth พากย์ไทย ปริศนารูหลอน จึงไม่ใช่ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่พูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากราวกับอยู่ในบ้านของเรา และการสื่อเรื่องผ่านสัญญลักษณ์ทำให้การดูเหมือนกับการเติมคำในช่องว่างว่าผู้ชมจะเลือกแทนค่าตัวละครในเรื่องเป็นใคร เป็นอะไร และเพลงปิดเรื่องที่พิมฮัมซึ่งมีเนื้อร้องว่า ‘เสียแรงหลงกู่ ยู้หู ยู้หู ยู้หู ยู้หู หลงอยู่ทุกคืนทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน ละเมอ…หาเธอ หาเธอจนสิ้นลมหายใจ’ ‘เธอ’ ที่ว่านั้น หมายถึงใครกัน

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต หนังผีไทย ที่น่ากลัวที่สุด

ถ้าหากว่ามีใครสักคน มาพูดกับคุณว่า โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต เป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุด ผมจะไม่เถียงเลย แล้วผมเองก็คิดว่าจะไม่มีใครเถียงเลยด้วย ซึ่งหากบอกว่าหนังสนุก ก็ไม่เถียงเพราะโดยรวมแล้ว นี่เป็นตัวอย่าง หนังผีไทย ที่ดีอันดับต้น ๆ เลย ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นได้บ่อยนักของหนังไทย นับถือผู้กำกับจริงๆ ที่สร้าง หนังไทยnetflix เรื่องนี้มาได้อย่างหลอน ซึ่งหากใครที่เป็นคนขี้กลัว แอดมินก็ไม่ค่อยแนะนำให้ดูคนเดียว หรือดูตอนกลางคืน คุณอาจจะหลอนไปได้เลย ซึ่งถ้าหากจะ ดูหนังออนไลน์ หนังผีเรื่องนี้ก็ถือว่าควรค่าแก่การดูอย่างยิ่ง

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต ภาพยนตร์ไทย แนวสยองขวัญ

หนังผีเรื่อง โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต นับว่าเป็น หนึ่งในภาพยนตร์ไทย สุดแสนจะน่ากลัว แนวสยองขวัญ อีกหนึ่งเรื่อง ที่ใครต่อใครหลาย ๆ คน ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกัน และ ยกให้เป็นหนังผีไทยที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่เคยมีมาเลย โดยครั้งแรกที่หนังได้ออกอากาศสู่สายตาคนไทยครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2551

และยังได้ผู้กำกับมือดีอย่าง โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ผลิตโดยจอย ลัค คลับ และ จัดจำหน่ายโดยจีทีเอช นำแสดงโดย วรกาญจน์ โรจนวัชร,ฉันทวิชช์ ธนะเสวี,สฤญรัตน์ โทมัส,ธนาธร อุตสาหกุล แนวคิดหลัก ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การดูภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง และ ผีที่อยู่ในตัว ภาพยนตร์ได้ออกมาหลอกหลอนคนดู

เนื่องจากผู้สร้าง(ตัวละคร)ได้นำเอาเรื่องจริงมาทำเป็นภาพยนตร์ ผู้เขียนบทเรื่องนี้คิดเรื่อง ผี เป็นตัวตั้งต้นของเรื่อง ว่า อะไรคือสิ่งที่คนกลัวที่สุดเวลาดูหนังผี มีเพลงประกอบคือ “เกลียดคำขอโทษ” ร้องโดย วรกาญจน์ โรจนวัชร feat. นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ภาพยนตร์ทำรายได้รวม 50 ล้านบาท นอกจากประเทศไทยยังออกฉายในฮ่องกง อิตาลี มาเลเซีย เม็กซิโก เปรู สิงคโปร์ ไต้หวัน ตุรกี ทำรายได้รวมในต่างประเทศ 3,716,394 เหรียญสหรัฐ

อภินันท์ บุญเรืองพะเนา จากผู้จัดการออนไลน์วิจารณ์หนังเรื่องนี้ว่า “โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต อาจดูด้อยกว่า ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ และ แฝด ในบางด้าน…แต่ตอบโจทย์ของตัวเองสำเร็จในการเป็นหนังผี นั่นก็คือ สามารถทำให้คนดู “ตกใจ” ได้เป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง” สนุก.คอม กล่าวถึงเนื้อเรื่องว่า “เนื้อเรื่องทั้งเรื่องชวนให้ติดตาม”

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

เรื่องย่อ โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต เรื่องย่อ โดยเริ่มเรื่องมาหนังจะเริ่มโดยการแนะนำตัวละครเอก อย่าง เชน เขาเป็น พนักงานฉายโรงภาพยนตร์ และ อีกคนคือ ยอด พนักงานฉายหนังอีกหนึ่งคน เขาคือรุ่นพี่ของเชน ที่กำลังร่วมวางแผนกันแอบฉายหนัง

โดยที่ทางทีมงานอยากเอามาลองฉายเพื่อเช็คคุณภาพของผลงาน และ อัดคลิปวิดีโอเพื่อที่จะทำมาเป็นหนังซูมขาย ไปขายแผ่นเถื่อน แต่ทว่าในระหว่างที่ทำการอัดนั้นเชนได้ผล็อตหลับไป พอตื่นขึ้นมาพี่ยอดก็หายตัวไปเหลือเพียงกล้องวิดีโอที่อัดหนังเอาไว้

เมื่อโทรเรียกกลับได้ยินเสียงดังจากหนังที่เปิดฉายปรากฏว่ายอดนั้นโดนฆ่าโดยผีชบาในเรื่อง และ ติดไปในหนังเรื่องนี้ เชนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ฉากที่ผีชบาโดนฆ่านั้นเป็นฉากอาถรรพ์ที่ใครได้ดูก็ต้องตายตกทุกคน

ไม่นานเรื่องราวร้าย ๆ ก็เกิดขึ้นกับเขาและ เป็นที่มาให้ “ส้ม” ได้เข้ามาถามถึงสาเหตุแต่เมื่อเธอฟังเรื่องที่เชนบอกก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่สุดท้ายส้ม และ เชนก็พยายามตามหาต้นตอของคำสาปนี้ จนไปรู้ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องอะไรกันแน่

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

ความรู้สึกหลังรับชม โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

สำหรับความรู้สึกหลังดูนั่น ต้องยอมรับเลยว่า ดูครั้งเดียวพอ ไม่ดูอีก 5555 แต่ก็ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ไช่ว่าหนังแย่หรืออะไรนะครับ แต่เพราะว่ามันหลอน มันน่ากลัวเกินนี่แหละครับ ซึ่งผมเชื่อว่าคงไม่ได้มีแค่ผมแน่ ๆ ที่ไม่กล้าดูรอบสอง 555 เราจะมาบอกความดีงามของเรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้หากมองทางด้านเนื้อเรื่อง บทบาท การแสดงต่าง ๆ ของแต่ละคน

และการลำดับภาพแล้ว..ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมจริง ๆ ทุกคนที่เข้าไปดูจนจบ จะไม่รู้สึกสงสัยในตัวละคร หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ เพราะทุกอย่างได้ตอบโจทย์ เป็นเหตุเป็นผลกัน..จะไม่มีอารมณ์ที่ว่า “ฉากนี้เวอร์จัง..” แต่จะมีอารมณ์หลอนมาแทนที่ เพราะเหตุการณ์ในเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นจริงได้กับทุกคนการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้

ยังคงมาตรฐานเดิมของหนังผีไทยยุคไฮเทค คือเน้นเสียงกระตุ้นอารมณ์ หรือการลุ้นว่าผีจะออกมาตรงไหน จากไหน ซึ่งหากใครนึกภาพ นึกอารมณ์ไม่ออก ให้ลองนึกถึงภาพยนตร์เรื่องสี่แพร่งในเรื่องที่ 1 ตอน “เหงา” และ เรื่องที่ 4 ตอน “Last Fright”

ซึ่งลักษณะอารมณ์ และ อาการกดดันของคนดูเป็นลักษณะนั้น.. พูดถึงภาพยนตร์สี่แพร่งแล้ว ก็ขอต่ออีกซักหน่อย เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีมุก และ การนำเสนอเร้าอารมณ์คนดู คล้าย ๆ กับเรื่องสี่แพร่งมาก ๆ เท่าที่จำได้มีถึง 3 จุดด้วยกันคือ ฉากดับไฟ หรือฉากควักลูกตา และ ฉากเฉลยอาถรรพ์ของชบา แต่โดยรวมแล้ว..ก็ไม่ทำให้เหมือนจะจนน่าขัดใจ..

ด้านนักแสดงคงต้องยกนิ้วให้ เต๋อ ที่เรื่องนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกอย่างเต็มตัว..สาว ๆ หลายคนนอกจากจะสงสาร และ ลุ้นในชะตากรรมที่เขาจะต้องเจอก็ยังแอบหลงใหลในความหล่อของพระเอกคนนี้อีกด้วย..ตัวละครที่เต๋อเล่น

ถือเป็นตัวละครหลักที่นำพาเรื่องลี้ลับเหล่านี้มาสู่คนรอบตัว การส่งมองอารมณ์ให้คนดูถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งก็ถือว่าสอบผ่าน..ด้านนางเอกสาว พั้นช์ ที่ถือว่าเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก

แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง..สวมบทบาทมาดพนักงานเดินตั๋วได้เนียนตลอดเรื่อง..อีกทั้งยังส่งอารมณ์คู่รักได้ดีทีเดียว..โดยเฉพาะฉากวิ่งหนีความมืด ที่ส่งอารมณ์ให้คนดูเกือบทั้งโรงต้องร่วมวิ่งไปกับตัวละครด้วย..

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

รีวิวหนังไทยnetflix โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต กำกับโดย โสภณ ศักดาพิศิษฏ์

ส่วนตัวแล้ว หนังเรื่องนี้ โปรแกรมหน้า ก็เป็นหนังไทยอีกเรื่อง ที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่าง ให้หนังผีไทยจริง ๆ สำหรับ คนสร้างหนัง หนังเรื่องนี้ถือเป็นรุ่นพี่ ถือเป็นครู ให้หนังเรื่องใหม่ ๆ ได้เลย เผื่อว่าสักวันจะมีหนังผีไทยดี ๆ แบบนี้อีก

ถ้าใครซักคนคิดเริ่มต้นทำหนังผี ความผิดพลาดจะมีอยู่ตรงงานออกแบบ หรือ จะบทอ่อน จะนักแสดงแข็ง ก็ช่าง ขอแค่อย่างน้อยทำให้คนดู กลัว ตกใจ ไปกับหนังได้จนจบ เพียงเท่านี้ ก็ทำให้ คอหนังผี รักหนังไปกว่าครึ่งแล้ว

เพราะหน้าที่ของหนังผี คือ สร้างความกลัว กรี๊ด วี๊ดว๊าย ขวัญผวา ปิดตา ฯลฯ ให้แก่คนดู ไอ้ครั้นจะใส่ปมประเด็นทางจิตวิทยาให้ลึกซึ้งเก๋ไก๋เหมือน บอดี้ ศพ 19 หรือ มีการแสดงชั้นดีแบบที่มาช่า มอบให้กับ แฝด นั่นก็เป็นเหมือน โบนัส ที่คนดูจะได้รับอีกต่อ

แต่หนังผีหลายเรื่องเหมือนจะไม่เข้าใจตรงจุดนี้ จึงทุ่มทุน บรรจงออกแบบงานสร้างให้เนี้ยบ หรือ ใส่แง่มุมทางจิตวิทยาสามชั้นซ้อน หรือ มีความเป็นดราม่าระดับตุ๊กตาทอง แต่ หนัง ไม่น่ากลัว ซึ่งนั่น ผมถือว่าล้มเหลว

บทสรุป โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต

ถ้าหากจะให้คะแนนหนังเรื่องนี้ ก็ขอบอกตามตรง จากที่ได้ดูมาเลยสด ๆ เป็นหนังผีไทย ที่ผมดูจบแล้วไม่กล้านอนคนเดียวเลย สารภาพว่าครั้งแรกที่ดูจบ ถึงกับต้องไปนอนบ้านเพื่อนเลยครับจากภาพยนตร์เรื่องนี้…พี่ลาเต้ ขอควักคะแนนแบบไม่เสียดายให้ไปเต็ม ๆ 100 คะแนน

เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวผี แต่ก็ไม่ทำให้คนที่ไม่กลัวผีได้ผิดหวัง..หลายเรื่องที่ผ่านมาที่เป็นหนังผี ส่วนใหญ่ทำอกมาได้หลอน แต่เรื่องนี้คนดูจะได้ทั้งหลอน และ น่ากลัว ในอารมณ์เดียวกัน..จนคนดูหลายคนต่างพูดกันว่า “โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต” แต่ “โปรแกรมนี้ คนดูอาฆาต” แทน..เพราะทำได้สุด….จริง ๆ

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน ดูหนัง หนังไทยเก่ายอดนิยม ล่าสุด

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนังไทยเรื่องเก่าแก่ ที่เป็นตำนานไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็น หนังไทยnetflix ที่คนอายุรุ่น 25+ ขึ้นไป คงจะเคยดูกันมาหลายต่อหลายคนแล้ว ส่วนตัวแอดมินเกิดไม่ทันดู แต่ได้มีโอกาสกลับ ไปดูใน netflix ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า เป็นประสบการณ์ในการ ดูหนังออนไลน์ ที่ดีจริง ๆ ไม่ผิดหวังเลยครับ ผมจึงอยากแนะนำ ให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ดูจริง ๆ ครับ

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน หนังสไตล์แอ็คชั่น คอมเมดี้

ในที่สุด ผมก็ได้มารีวิวหนังเรื่องนี้ สำหรับ 7 ประจัญบาน 1 ที่ส่วนตัวแล้ว เป็นหนังที่ทุกคน ดูได้กับกลุ่มคนทุกอายุ ทุกเพศ และ ทุกวัย ซึ่งผมคิดว่าคงจะไม่มีใคร ที่เขาไม่รู้จักหนังเรื่องนี้ และ ตัวหนังเอง ก็ดำเนินเรื่องมาในสไตล์แอ็คชั่นที่ผสมผสานกับความคอมเมดี้ มุกตลก

สไตล์หนังไทยที่มาแบบเฮฮาขำกร๊าก ที่พวกเราๆคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกันอยู๋แล้ว แล้วค่อย ๆ ปล่อยฉากแอ็คชั่นคิวบู๊ ต่อสู้ มันๆ ที่เรียกได้ว่าห้ามกระพริบตาเลย เจาะลึกตัวละครแต่ละคน เมื่อดูแล้วหน้าหนังมีความสนุกสนานกลมกล่อมจนต้องดูซ้ำ ๆ เนื้อหาแต่ละซีนมีโมเมนท์ที่ต้องพูดกันต่อ เอาเป็นว่ามันเป็นหนัง Classic ที่ต้องดูแล้วดูอีก

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน

เรื่องย่อ 7 ประจัญบาน

7 ประจัญบาน เรื่องย่อ เหตุการณ์ของหนังเรื่องนี้ มันเริ่มจากหลังจากร่วมต่อสู้ และ ร่วมฟันฝ่า และ พวกเขาเอง ก็ได้ผ่านอุปสรรค มากมาย อันแสนสาหัส และ ทรหดมากจากสงครามที่พวกเขาต้องพบเจอ อย่าง สงครามของเวียดนามแม้ว่าพวกเขามีทั้งหมดหลายคน

แต่เหล่าผองเพื่อนทั้ง 7 หรือที่รู้จักกันดีในนามของ 7 ประจัญบาน คือ จ่าดับ จำเปาะ, หมัด เชิงมวย, ตังกวย แซ่ลี้, อัคคี เมฆยันตุ์ , ดั่น มหิทธา , กล้า ตะลุมพุก และ จุก เบี้ยวสกุล ก็ต่างแยกย้ายกันไปตามแดนดินถิ่นมาตุภูมิเพื่อใช้ชีวิตกับครอบครัว และ คนรัก

แต่แล้วเมื่อมีงานจาก เสี่ยถนอม เข้ามา ในการปล้นของจากทหารจีไอ ที่พวกเขาเข้าใจผิดว่าเป็นทอง ทำให้ 7 สหาย รับงานนี้ โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พวกเขาปล้น เป็นสารพิษ ทหารอเมริกันเลยจับชาวบ้านที่นิวแลนด์เป็นตัวประกอบเพื่อให้ 7 ประจัญบานนำสารพิษมาคืน

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน

ความรู้หลังดูหนัง 7 ประจัญบาน

เอาหละมาพูดกันถึงความรู้สึกของผมส่วนตัวเลยนะครับ จากการที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จบไปแล้ว ซึ่งผมเองก็คิดว่าหลาย ๆ คนเองก็ต้องรู้สึกอย่างนี้แน่ ๆ โดยเราจะเห็นได้จากในหนังว่า สิงห์ทั้งเจ็ดคนต่างก็แตกต่างกัน แต่พวกเขาก็เป็นมิตรที่ดีต่อกันได้เมื่อมีเป้าหมายเดียวกัน…

ดังนั้น ความแตกต่างอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ คนเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกันไปทั้งหมดอยู่แล้ว บางครั้งเรามีแค่บางอย่างหรืออย่างเดียวที่เหมือนกัน เราก็เป็นเพื่อนกันได้ สิ่งนั้นอาจจะเป็นภาษา หรือบางครั้งสิ่งนั้นอาจจะเป็น “ความดี” หรือ “ความเป็นมนุษย์” ที่เราพึงมีเหมือนกัน

อีกอย่างหนึ่งที่เราชอบ ณ ขณะที่ดู The Magnificent Seven นอกเหนือจากฉากบู๊ และ ความกวนตีนของตัวละครคือ เราได้ระลึกประวัติศาสตร์อเมริกา เช่น คนขาวเข้ามาล่าอาณานิคม และ ชิงแผ่นดินอเมริกาจากพวกชนเผ่าอินเดียนซึ่งเป็นเนทีฟไป

มิหนำซ้ำยังมีการล่าค่าหัวพวกอินเดียแดงอีกต่างหากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวตะวันตกในยุคนั้นนั่นก็ด้วย เราก็จะได้เห็นจากหนังเรื่องนี้ด้วย ในหมู่บ้านคาวบอยนั้นมีโบสถ์เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน เวลามีปัญหาทุกข์ร้อน ชาวบ้านก็จะมาโบสถ์ มาสวดขอกับพระเจ้า รอบ ๆ โบสถ์เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย

ประเภทละร้านสองร้าน เช่น ร้านขายของชำ ธนาคาร ร้านซักรีด ร้านอาหาร โรงแรม และ ซ่อง ร้านขายปืนกับกระสุน ร้านต่อโลงศพ ฯลฯ มันทำให้เรานึกพ่วงไปถึงประเด็นธุรกิจ และ “ทุนนิยม”

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน

รีวิวหนังไทยnetflix 7 ประจัญบาน หนังไทยอมตะ ตลอดกาล 20 ปี

ถ้าหากว่าพวกเรา มองย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว และ หากมองมาถึง ณ เวลานี้ ผมเชื่อว่า หลาย ๆ คน คงจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของหนังไทย ที่ก้าวกระโดด ก้าวไกล แบบสุด ๆ แบบว่า อัพเกรดแบบ สปีดเต็มที่เลย

จนมาถึง ในวันที่วงการหนังไทยยังไม่มีหนังแอ็คชั่นคอมเมดี้ดีสักเรื่อง นี่คือหนังเรื่องแรก ๆ ที่โผล่ขึ้นจอมาพร้อมกับการหยิบนักแสดงคุณภาพมาแท็กทีมเป็นฮีโร่วีรบุรุษปกป้องชาวบ้าน 7 สหายทักษะต่างสกิล แต่ช่ำชองชำนาญกันละคนทาง

หนังเปิดตัวได้น่าสนใจ พูดถึงทหารในสงครามเวียดนามรับใช้ชาติ แล้วก็ค่อย ๆ พูดถึงตัวละครแต่ละคนที่เผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรคแต่ละคนที่ไม่คุ้นเคยเวลาไม่ได้เป็นทหาร เมื่อกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง 7 ประจัญบาน เพื่อรับงานปล้นทหารอเมริกัน

มันเลยเป็นความสนุก จากฮีโร่กลายเป็นโจรปล้นของ แต่พวกเขาดันไม่รู้ว่าสิ่งที่ปล้นมานั้นเป็นของผิดกฏหมายที่ทหารอเมริกันหวังจะใช้ทำลายเวียด การรวมตัวของนักแสดงแม้ว่าจะมีเยอะ แต่ก็ผสมผสานเนื้อหาให้แต่ละครถ่ายทอดคาแรกเตอร์ออกมาได้ดี

เสน่ห์ไม่ซ้ำซากจำเจ พี่อ็อฟ พงษ์พัฒน์ กับกางเกงแดงสวย ๆ ที่ลูกน้องลูกทีมชอบแซว กลายเป็นบทบาทที่น่าจดจำ หัวหน้าทีมรักลูกน้องที่ไม่ค่อยถูกจริตกับลูกสาวตัวเอง, พี่เท่ง เถิดเทิง หลาย ๆ คนอาจจดจำเขาจากบทบาทอื่น

แต่บอกได้เลยว่า มุกตลกที่มากับตัวละครหมัดกับดูแล ยิ่งมาเข้าฉากกับตัวละครอื่นเขาทำให้ความฮาไปได้สุดอีก น้าค่อม ชวนชื่น นี่คือผลงานหนังที่เขามาทั้งตลก และ คิวบู๊ที่บ้าคลั่งหลับตาแล้วนึกถึงคาแรกเตอร์จุก และ ไดอาล็อคน้าได้เป็นอย่างดี พี่อ่ำ อัมรินทร์

ไม่มีใครเหมาะกับบทชายขี้โกงเท่าเขาอีกแล้ว จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการปล้นที่เปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นฮีโร่วีรบุรุษ, คุณต้น พิศาล กับบทดั๋น ที่เข้าขากับนักแสดงทุกคนได้แนบเนียน

แช่ม แช่มรัมย์ ที่มาพร้อมกับหมัดที่หนักหน่วง นึกทีไรแล้วจดจำเขาได้มากกว่าการเป็นนักร้องซะอีก หรือคุณทศพล ศิริวิวัฒน์ ที่เข้าฉากกับ 7 ประจัญบานคนอื่น ๆ ก็มาพร้อมกับเสียงฮา มันเป็นการเลือกคนได้เหมาะกับบทบาทที่ได้รับมาก หนังเลยไหลลื่นไปได้ยาว ๆ

หนังผสมผสานความเป็นหนังคอมเมดี้กับหนังแอ็คชั่น เปิดพื้นที่ให้นักแสดงได้เล่นมุกตลก ฉากฮาฉากขำ ๆ ที่แฟน ๆ หลับตาก็นึกตามได้ ยอมรับอย่างหนึ่งว่า การวางไดอาล็อคเรื่องราวแต่ละตัวละคร

การลำดับเหตุการณ์ในเรื่องหนังทำได้ดี ไม่ได้งง ทุกตัวละคร เกลี่ยหน้าที่รับส่งบทพูดกันสนุกปาก ไม่ว่าจะเป็น จ่าดับ กางเกงแดง ยิงปืนแม่น, หมัด ทักษะเรื่องหมัดมวยกินขาด กล้า มีหมัดที่หนักหน่วงรุนแรง อัคคี

แม่งก็เจ้าเล่ห์ขี้โกงติดการพนัน, ดั่น นักรักผู้ผิดหวัง, จุก ที่บ้าบิ่นสุดขีด, ตังกวย คนจีนที่ชอบล็อคคอ เมื่อมารวมตัวจะปล้น รำลึกความหวัง หรือช่วยเหลือชาวบ้านกลายเป็นหนังที่ดูสนุกได้หลากหลายรสชาติ ไม่แพ้หนังฮีโร่จากต่างประเทศเลย

บทสรุปเรื่องราวของหนัง 7 ประจัญบาน

โดยสรุปแล้ว 7 ประจัญบาน เองก็เป็นหนังไทยดี ๆ อีกหนึ่งเรื่องเลย พล็อตเรื่องของหนังก็ชวนให้ติดตามแทบจะทุกตอน ยังไม่รวมถึงอารมนักแสดง และ บทต่าง ๆ ก็ชวนให้ติดตาม โดยเฉพาะเรื่องราวของ กลุ่มทหารทั้ง 7 ของ กองพลทหารอาสาสมัคร เสร็จสิ้นภารกิจเสี่ยงตาย

สุดท้ายใน สงครามเวียดนาม พวกเขาเกษียณจากกองทัพ และ กลับมาใช้ชีวิตต่อตามปกติร่วมกับครอบครัวของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ความทรงจำอันแสนเลวร้ายยังคงหลอกหลอนพวกเขา ซึ่งเรื่องราวอันแสนเข้มข้นนี้จะจบลงอย่างไรนั่น อยากให้เพื่อน ๆ ไปรับชมกันครับ รับรองว่าสนุกมากแน่ ๆ เลยแหละครับ