Category Archives: หนังไทยnetflix

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

หนังไทยย้อนยุค กราบสวัสดีครับญาติโยม พ่าม วันนี้แอดมินมารีวิวหนังแนวธีมหนัง 555 หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย แต่ไม่รู้ว่าจะร่ำรวยตามชื่อหรือเปล่า เหมือนจะมาผิดรุ่น มีอยู่คำถามหนึ่งที่ผมได้ยินบ่อยมากจากคอหนังในเว็บหรือจากคนรอบข้างผมที่ชอบดูหนังเหมือนๆ กัน เกี่ยวกับเรื่อง หลวงพี่เท่ง ภาค 2 นี้ว่า คุณโน้ต เชิญยิ้ม ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้เอา คุณโจอี้บอย มาเล่นแทนคุณเท่ง เทิดเทิงแล้วจะสนุกเท่าภาคแรกไหม ดูหนัง

 

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

 

รีวิวหนังดัง ในความเห็นส่วนตัวของผม คุณเท่งนั้นเป็นนักตลกอาชีพ แค่เห็นหน้าก็อดขำไม่ได้แล้ว ส่วนคุณ โจอี้ บอย นั้นแม้ว่าจะเป็นนักร้องชื่อดัง แต่เทียบจำนวนครั้งในการปรากฏหน้าอยู่ตามสื่อต่างๆ แล้ว ยังเทียบไม่เท่าคุณเท่งเลย นั่นก็น่าจะแสดงว่าจะต้องมีคนรู้จักคุณเท่งมากว่าคุณ โจอี้ บอย อย่างแน่นอน ในส่วนของคุณ โน้ต เชิญยิ้ม นั้น หลังจากที่ประสบผลสำเร็จในการกำกับเรื่อง หลวงพี่เท่ง ภาคแรกมาแล้วด้วยรายได้สวยๆ อยู่ที่ 141 ล้านบาท

แต่ผลงานในชิ้นต่อๆ มาของคุณโน้ตก็ไม่ค่อยเข้าตากรรมการสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวตัวดำ ก็ดำหน้ามืดไปแล้ว หรือ อีส้มสมหวัง ก็ท่าทางไม่ค่อยสมหวังนัก ซึ่งก่อนหน้าหลวงพี่เท่งภาคแรกคุณโน้ตก็ทำเรื่อง คนปีมะ มาก่อน และไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน ก็คงมีเรื่องเดียวเท่านั้นที่พอจะกู้หน้าได้กับเรื่อง หลวงพี่เท่ง ภาค 2 รุ่นฮาร่ำรวย นี้

แต่เมื่อคุณโน้ตทำหลวงพี่เท่ง 2 ออกมาแล้วก็คงหนีไม่พ้นกับการที่ต้องถูกเปรียบเทียบระหว่าง ภาค 1 และ 2 ซึ่งหลังจากที่ผมได้ไปดูเรื่องหลวงพี่เท่ง ภาค 2 มาแล้ว ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า การถ่ายภาพในเรื่องนี้ถ่ายได้ดีขึ้นอย่างมาก มีภาพสวยๆ ในเรื่องนี้หลายฉากเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาพบรรยากาศที่มีแสงแห่งตะวัน ไม่ว่าจะเป็นยามเย็นหรือยามเช้า ต้องขอชมในเรื่องนี้ ในเรื่องของมุขตลกก็ยังคงถือว่า ฮาในระดับหนึ่ง ดูหนังออนไลน์

ซึ่งวัดจากจำนวนเสียงฮาในโรงภาพยนตร์ในวันที่ผมดู ( จำนวนคนเต็มโรง อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นวันแรกแห่งการฉายเรื่องนี้ ) ฮาก็ฮาอยู่หรอกนะ แต่ฮาแบบนับจำนวนครั้งได้ ส่วนความรู้สึกผมจะเหมือนว่าฮาน้อยกว่าภาคแรกนะครับ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า บางมุขเป็นมุขเก่าๆ ยังคงเอามาใช้อยู่ อย่างเช่น ตอนใส่บาตร แบบว่าจะต้องมีมาคุยกันเถียงกัน จนไม่ได้ใส่บาตรสักที มุขนี้ก็มีในหน้งหลายๆ เรื่องแล้ว เลยดูไม่ค่อยขำ แต่ก็ใช่ว่ามุขใหม่ๆ จะไม่มีไม่ขำ

ก็มีที่โดนเหมือนกันพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่ด้วยหน้าตาของ โจอี้ บอย ที่ดูไม่ขำ แม้ว่าบางฉากจะพยายามให้ขำ อย่างเช่น ตอนที่ให้พระใส่หมวกแปลกๆ ( กันก้อนหินตกใส่หัว ) ก็ไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ได้แค่ยิ้มๆ และที่ดูแล้วปัญญาอ่อนสุดๆ ก็ตรงมือปืนที่ถูกจ้างมาทั้ง 3-4 คน ที่แต่งตัวเลียนแบบหนังฝรั่ง ดูแล้วไม่ขำเลย ( ขำไม่ออกจริงๆ ) ฝืดมาก ทั้งที่นักแสดงพยายามทำให้มันตลกแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดันอารมณ์ความชอบหรือขำออกมาได้เลยซักนิด

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

มันเป็นธรรมดาของหนังที่เอาพระเอาวัดมาเล่น ย่อมถูกเพ่งเล็งเสมอว่า เอาศาสนามาล้อเล่นเอาพระมาล้อเลียนหรือเปล่า ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นเช่นกัน แต่ในตัวภาพยนตร์ก็ออกตัวไว้ก่อนแล้วว่า ไม่ได้เอาศาสนามาล้อเลียนเพื่อลบหลู่แต่ประการใด โดยการแจ้งไว้ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องของภาพยนตร์

แต่ภาพที่ออกมาจะน่าเชื่อในสายตาของคนดูหรือเปล่าว่าไม่ได้เอาศาสนามาล้อเลียนอันนี้ผมไม่รู้ อย่างฉากที่พระโจอี้นั่งรถมากับคุณโน้ต พระโจอี้มีการเอาแขนมาอิงเบาะที่นั่งทั้งสองข้างด้วยในขณะที่ใส่ผ้าเหลืองอยู่ ผมดูแล้วรู้สึกว่าไม่สำรวมจริงๆ แต่คิดๆ ไปในเรื่องพระโจอี้มาจากนักร้องแร๊พ อาจจะติดนิสัยมาก็ได้ ก็เลย.. (ผ่านไป)

ในส่วนของธรรมะที่สอดแทรกเข้ามาในเรื่องนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน ปกติแล้วหนังทุกเรื่องย่อมมีธรรมะเข้ามาสอดแทรกอยู่แล้ว อย่างเช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม, ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว อะไรประมาณนั้น แต่เรื่องนี้อาจจะมีเยอะหน่อย เพราะในตัวหนังก็เกี่ยวกับพระกับศาสนาโดยตรง ผมชอบตอนพระ 2 รูปช่วยกันเทศน์(แหล่)

เรื่องเกี่ยวกับ แม่ ให้ญาติโยมฟัง และในหมู่บ้านนั้น (หมู่บ้านโคกสะอาด) มีถึง 3 ศาสนาด้วยกัน คือ พุทธ อิสลาม และคริสต์ แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ศาสนาไหนก็อยู่ร่วมกันได้ แล้วความดีทั้ง 5 ที่สอดแทรกมาอีก ทำดี, คิดดี, พูดดี, คบคนดี, แล้วอยู่ในที่ดีๆ ก็เป็นสิ่งที่ผู้กำกับพยายามแทรกเข้ามา นักแสดงแสดงกันได้ดีทุกคน คุณโน้ตพยายามดึงพี่น้องและเพื่อนฝูงของคุณโน้ตออกมาเล่นฉากละนิดฉากละหน่อย ดูหนัง

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

แถมภาคนี้ยังเอาลูกสาวสุดที่รักของคุณโน้ตมาเล่นด้วย (น้องแตงกวา) เหมือนเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวจริงๆ ส่วนดำตี10 คนนี้ผมจำได้ดี (คนที่เป็นลูกศิษย์วัด ขา-แขนพิการ) เพราะวันที่คุณดำประกวด “ดันดารา” ในรายการตี 10 ผมได้ดูในช่วงที่คุณดำเข้าประกวดพอดี ไม่คิดว่าคุณโน้ตจะเอามาเล่นในเรื่องนี้ด้วย ผมว่าเขาเป็นคนตลกดีนะ

แต่ในเรื่องนี้บทเขายังไม่เด่นเท่าไหร่ แต่แปลกที่เรื่องนี้ไม่มี โก๊ะตี้ เพราะปกติแล้วหนังของพระนครฟิล์ม จะมีโก๊ะตี๋เกือบทุกเรื่อง ส่วนเรื่องเพลงประกอบ เอ๋…!!ไม่มีนะถ้าไม่นับเพลงปิดท้ายเรื่อง กับเพลง “อาตมาไม่รู้สิ ทำให้ดูเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างในการดูหนัง ไหนๆ ก็พูดถึงหนังของพระนครฟิล์มแล้ว อยากฝากไปถึงผู้บริหารสักหน่อย ผมว่าหนังของพระนครฟิล์มทุกเรื่อง บุคลากรในการทำงานในด้านต่างๆ ของพระนครฟิล์มที่เก่งๆ และดีๆ ก็มีอยู่มากนะครับ

 

บทสรุป หลวงพี่เท่ง 2

 

รีวิวหนังดัง จะเห็นว่าหนังของพระนครฟิล์มปีหนึ่งๆ มีออกมาหลายเรื่องด้วยกัน แต่ส่วนน้อยมากที่หนังจะประสบผลสำเร็จ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางค่ายพระนครฟิล์มวัดจากตรงไหนว่าหนังเรื่องนั้นๆ ประสบความสำเร็จหรือเปล่า เพราะว่าบางบริษัทอย่างหนังลงทุน 20 ล้าน ขายได้ 30 ล้าน ก็ถือว่าเป็นผลสำเร็จแล้ว

แต่สำหรับนักวิจารณ์ผมคิดว่าน่าจะวัดจากคำติและคำชมตามสื่อต่างๆ นะครับ ถ้าโดนติมากกว่าชมก็แสดงว่าหนังเรื่องนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ สำหรับค่ายพระนครฟิล์มผมคิดว่าทุกอย่างดีหมดยกเว้น บทภาพยนตร์ ครับ บทภาพยนตร์ของค่ายนี้น้อยมากครับที่ดีๆ ถ้าแก้ตรงจุดนี้ได้ ผมว่านักดูหนังไทยคงมีหนังดีๆ ดูกันอีกเยอะ ก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกันครับ ดูหนังออนไลน์

สรุปแล้วเรื่อง หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย บทยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บางช่วงบางตอนยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นหนังตลกจะเอาฮาอย่างเดียว ผู้กำกับพยายามยัดเยียดความฮาแต่กลับฮาได้ไม่เท่าไหร่ ถ้าคิดว่าจะมาดูหนังตลกสุดๆ ล่ะก็ผิดหวังแน่ๆ แต่ถ้าคิดว่ามาดูเพื่อแก้เครียดกับเหตุบ้านการเมืองแล้วแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็คงพอไหว หรือจะเครียดกว่าเดิมก็แล้วแต่มุมมอง

สำหรับผมคิดอยู่เหมือนกันว่าหนังเรื่องนี้ ฮา ไหม? ก็เลยพยายามนึกคาแร็คเตอร์เท่ง กับ โจอี้บอย ว่าถ้าสองคนนี้แต่งชุดพระมายืนอยู่ตรงหน้าผม แล้วให้ทำหน้าตลก ผมจะตลกเท่งหรือโจอี้บอยกันแน่ แล้วผมก็ได้คำตอบแล้วว่า เท่งน่าจะตลกกว่า นั่นก็แสดงว่าผมให้ หลวงพี่เท่ง ภาค 1 สนุกกว่า ภาค 2 ครับ แต่ถ้าให้คะแนนผมก็ขอให้เท่ากันก็แล้วกันคือ 7/10 ครับ

ผมแถมเกร็ดเล็กๆ น้อยให้นิดนึงนะครับ ไม่รู้ว่ารู้กันหรือยังนะครับเกี่ยวกับโลโก้ของค่ายหนัง พระนครฟิล์ม คำว่า พระนครฟิล์ม กลายเป็น พระนครฟิลม์ ในโลโก้ ตัวสะกดการันต์ จะไปอยู่ตรง ม.ม้า แทนที่จะอยู่ตรง ล.ลิง ที่ถูกต้องตามพจนานุกรม ที่เป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้สะกดผิดหรืออย่างไรนะครับ

เป็นเพราะว่าทางค่ายถือเคล็ดว่า ถ้ามีอะไรไปทับตรง ล.ลิง แล้วจะไม่ดี เพราะว่า ล.ลิง ในที่นี้ หมายถึง ล้าน (เงินล้าน) นั่นก็หมายความว่า ทางค่ายถือเคล็ดว่าหนังทุกเรื่องของค่ายต้องได้เงินล้าน (หลายล้าน) ทุกเรื่องนั้นเอง วิจารณ์หนัง โดย TCK

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีจ้า วันนี้มาแนะนำ มารีวิวหนังไทย ในค่ายแดง NETFILX หนังไทยหนังดี โดยได้มาถึงคิวออริจินัลหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ได้ออกไปสู่สายต่อชาวโลก “The Whole Truth” (ปริศนารูหลอน) หนังระทึกขวัญซ่อนเงื่อน ผลงานการกำกับ และ เขียนบทของ “วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง” ที่ยังคงหยิบเอาสไตล์ และ ลายเซ็นแนวทางการสร้างหนังหลอนๆ ของเขาเองงัดมาใช้ได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์หนังที่ดูน่าสนใจไม่เบา เพียงแต่ว่าภาพรวมนั้นยังห่างไกลจากคำว่ามาสเตอร์พีชอยู่ดี

เมื่อรูลึกลับบนกำแพงของบ้านตากับยายปรากฏขึ้น พิม และ พัทก็ได้พบความจริงสุดสะพรึงของครอบครัวที่ถูกเก็บซ่อนไว้มาเป็นเวลานาน เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม ดูหนัง

เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไป และ ไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และ เราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และ ชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตาม และ ลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเอง และ เขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่ง และ เข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และ แม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว

รีวิว The Whole Truth ปริศนารูหลอน

รีวิวหนังดัง The Whole Truth ปริศนารูหลอน เล่าเรื่องราวของ 2 พี่น้อง พิม กับ พัท ที่ต้องจำใจไปอยู่กับตา และ ยายของพวกเขาชั่วคราว หลังจากที่แม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และ ได้รับบาดเจ็บอาการโคม่า ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะแม่ไม่เคยเล่าเรื่องตากับยายให้พวกเขาได้รับรู้มาก่อน และ การย้ายเข้าไปพักอยู่ที่บ้านเก่าๆ ของคนชรานั้น ทำให้พวกเขาได้พบกับ “รู” ที่ปรากฏขึ้นอยู่ฝากำแพงบ้าน และ เมื่อมองส่องเข้าไปก็ได้พบกับเรื่องสุดสยอง

ก่อนอื่นต้องยอมรับเลยว่า The Whole Truth มีไอเดีย และ คอนเซ็ปต์ที่ชวนน่าติดตามมากๆ เลยทีเดียว การใช้ปริศนาของรูที่ปรากฏขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจมาเป็นส่วนเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมด เป็นกิมมิกที่ค่อนข้างทำให้ผู้ชมใคร่ที่จะสืบรู้พิสูจน์ให้ชัดว่าเบื้องหลังรูนั้นคืออะไรกันแน่ เพียงแต่ว่าตัวหนังยังคงมีปัญหาขาดแรงจูงใจในการเสริมอรรถรสได้ดีเพียงพอที่จะออกมาได้ดีในทุกองค์ประกอบ

วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ถือว่าเขียนบทหนังของ The Whole Truth ออกมาได้ไม่แย่แต่ก็ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบเสียทีเดียว บทหนังของเรื่องนี้ค่อนข้างมิติซับซ้อนที่วางเอาไว้บนพื้นฐานง่ายๆ ของอารมณ์นึกคิดของตัวละคร ดังนั้นจึงทำให้องค์ประกอบการแสดง และ การถ่ายทอดเรื่องนี้เป็นไฮไลต์เด่นที่จะพาหนังไปสู่ปลายทางที่คาดไว้ จึงไม่แปลกใจที่ได้ทำการแคสติ้งนักแสดงตัวใหญ่ๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจขนาดนี้

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

แต่ลำดับการเล่าเรื่อง และ บรรยากาศของหนังยังคงทำได้ในระดับกลางๆ ที่ยังดูไปสุดมากกว่านี้ได้อีก หนังมีการปูเรื่องราวเอาไว้หลายประเด็นที่น่าสนใจ แต่สุดท้ายก็มัวแต่ยุ่งเหยิงอยู่กับแกนเดียวที่เพียงแค่แกนนี้ก็ถือว่าเกือบจะพาหนังไปไม่รอดเสียแล้ว คอนเซ็ปต์ดีที่ของหนังถูกนำมาถ่ายทอดในแบบที่ค่อนข้างคลีเช่ทั่วไป อยากจะให้ดูระทึก และ หฤหรรษ์ตามไปด้วยแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงใจอีกอยู่ดี

The Whole Truth จึงออกมาเป็นเพียงหนังระทึกที่มีแนวเนื้อเรื่องซ้ำๆ ซากๆ พยายามที่หักเหตรงนั้นตรงนี้ แต่ยังทำได้ไม่ถึงจุดที่จะชวนให้ผู้ชมรู้สึกว้าวกับการคลี่คลายในแต่ละประเด็น เพราะโทนเรื่องที่ไม่ได้ชวนน่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น กับภูมิหลังของครอบครัวที่คนดูน่าจะเดาทางกันได้ตั้งแต่เริ่มต้นว่าตระกูลน่าจะมีความไม่ชอบมาพากล และ ความลับปกปิดเอาไว้อยู่แน่ๆ จึงทำให้การเฉลยปมต่างๆ ยังไม่ได้น่าตื่นเต้นขนาดนั้น

แต่จุดสตรองของหนังก็แน่นอนว่าต้องเป็นทีมนักแสดง “ปันปัน สุทัตตา” กับ “แม็ค ณัฐพัชร์” ถือว่าเป็นตัวยืนเรื่อง ที่บอกตามตรงว่าพวกเขาก็เกือบจะเอาหนังทั้งเรื่องไว้ไม่อยู่เช่นเดียวกัน ต้องมาได้ความเป็นมืออาชีพของรุ่นใหญ่ “ก้อย ทาริกา” กับ “หมู สมภพ” มาช่วยซัพพอร์ต จึงทำให้ทั้งหมดต่างช่วยกันประคองหนังเรื่องนี้ไปตลอดรอดฝั่งได้สำเร็จ แม้ว่าทิศทางการแสดงของพวกเขาจะไม่ได้ชวนตื่นตาอะไรก็ตาม แต่ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของพวกเขา

เอาเป็นว่า The Whole Truth ปริศนารูหลอน เป็นหนังที่พยายามจะฉีกแนวออกมาในมุมมองที่ไม่ค่อยได้เห็นในหมู่หนังไทยสักเท่าไหร่ แต่ความพยายามนี้ถือว่ายังไม่ประสบสำเร็จเปี่ยมเลี่ยม เป็นความครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่ได้แย่แต่ก็ยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร หนังที่สามารถดูได้สนุกเพลินๆ ตามการเล่าเรื่องแบบพยายามชวนให้ระทึก แต่หากว่าใครชอบหนังแนวสืบหาปมปริศนาความจริงก็น่าจะชอบเรื่องนี้พอได้อยู่

ฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก ดูหนังออนไลน์

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญ และ การหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเค ราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และ เป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี

โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และ ทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิม และ พัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิต และ เพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์ และ การกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัวพอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสยองมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย ดูหนัง

สรุป The Whole Truth ปริศนารูหลอน

รีวิวหนังดัง ความล้มเหลวในด้านการเป็นหนังหักมุม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนังดูไม่สนุกเพราะถึงฉากสยองจะไม่น่ากลัว แต่หากปริศนาตามชื่อเรื่องมันน่าสนใจก็ยังดึงคนดูให้ดูจนจบได้ และ บางทีอาจชอบหนังอยู่ไม่น้อย ทว่าหนังกลับเล่นกับปริศนาได้น่าผิดหวังเช่นกัน

คำว่ารูหลอนที่พยายามเล่นคำกับทฤษฎีรูหนอนก็ถูกเอามาอ้างแบบขอไปทีจนรู้สึกน่าเสียดาย การให้ดูเหตุการณ์เพื่อหลอกความเข้าใจของคนดูต่อความจริงบางอย่างในครอบครัวของตัวละครก็เป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยาก ถึงขนาดว่าครึ่งเรื่องเราก็แทบรู้แล้ว และ มันน่าหงุดหงิดที่หนังตั้งใจทำให้ตัวละครดูคิดไม่ออก เหมือนว่าความลับนั้นยังดำมืดอยู่ทั้งที่ความน่าสนใจความอยากรู้ต่าง ๆ สำหรับคนดูมันเหือดหายไม่เหลือแล้ว

และ เมื่อมาถึงการเฉลยทุกอย่างจนหมดสิ้น มันก็ไม่ได้อัดหมัดหนักใส่คนดูได้อย่างที่คิด การแสดงของคนร้ายตัวจริงในช่วงหลังก็ออกแบบเสียจนกลายเป็นละครโทรทัศน์ขาดความเป็นหนังไปหมดแล้ว และ ว่ากันตามตรงเอาที่ตัวหนังอย่างเดียวไม่นับพวกระหว่างบรรทัดของหนังมันก็แทบไม่ได้เหลืออะไรทิ้งค้างคาไว้ในหัวเราเท่าไรเลย ทั้งที่จริงสาระต่าง ๆ ที่เป็นไอเดียสร้างหนังมานั้นมันดีมากทีเดียว เป็นอีกงานที่น่าเห็นใจนักแสดง และ ทีมงานสร้างที่พยายามแล้วก็คงแก้อะไรกับการเล่าเรื่องที่ไม่สนุก และ ไม่น่าเชื่อถือนี้ได้ ดูหนังออนไลน์

จุดเด่น
– การออกแบบศิลป์ และ การกำกับภาพช่วยให้หนังดูดี การแสดงทำได้น่าจดจำ ไอเดีย และ ข้อความระหว่างบรรทัดของหนังชวนคิด และ น่าตกตะลึง

จุดสังเกต
– ซีจีย่ำแย่ และ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยหลายฉาก การแต่งหน้าผีทำได้แย่ การเล่าเรื่องถือว่าผิดพลาดถ้ามองจุดประสงค์การเป้นหนังซ่อนความลับ และ ความสยองขวัญ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Whole Truth ปริศนารูหลอน

ประเภท: ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
นำแสดงโดย: สุทัตตา อุดมศิลป์, ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์, นิโคล เทริโอ, ทาริกา ธิดาทิพย์, สมภพ เบญจาทิกุล
ความยาว: 125 นาที
กำหนดฉายในไทย: 2 ธันวาคม 2021 (ที่ Netflix)

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

หนังไทยnetflix สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนังไทย เป็นหนังไทยยุคก่อน สมัยเก่า ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับ เมื่อ แพรพลอย (พิมพ์พรรณ ชลายคุปต์) เออีสาวกับ ป้องภพ (วิทยา วสุไกรไพศาล) ผู้กำกับหนังโฆษณาหนุ่มไฟแรง ได้ตัดสินใจแต่งงานกันหลังจากที่แพรตั้งท้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตและขยับขยายครอบครัวใหม่ด้วยการย้ายบ้านไปอาศัยอยู่กับแม่ และ น้าสาวของป้องภพแถบชานเมือง

แต่การเริ่มต้นไม่ดีเท่าที่ควรเพราะป้องภพทำแต่งานไม่มีเวลามาสนใจแพรซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ขึ้นทุกที ความกดดันต่าง ๆ จากฝ่ายชายทำให้แพรต้องหันหน้าไปปรึกษา และ หาอะไรทำเพื่อลดความเครียดด้วยการวาดภาพประกอบให้กับหนังสือที่ จีน (กุณฑีรา สัตตบงกช) เพื่อนสนิท ดูแลอยู่

คืนหนึ่่งแพรเห็นบ้านน้าเบญซึ่งปลูกอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านหลังใหญ่ของแม่ป้องภพมีไฟลุกไหม้ จึงเข้าไปดู และ พยายามหาทางช่วยน้าเบญออกมา ในขณะที่แพรเองก็เจ็บท้อง และ กำลังจะคลอดลูกพอดี

หลังจากการคลอดลูกกลับมาไม่นาน น้องปั้น (ลูก) ก็กลับส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง และ น่ากลัว หมอตั้งข้อสงสัยว่าน้องปั้นน่าจะเป็น โรคโคลิค ซึ่งเด็กที่เป็นโรคนี้จะร้องไห้อย่างรุนแรง และ ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันโดยไม่สามารถหาสาเหตุ และ วิธีรักษาได้

แต่โดยปรกติโรคนี้จะหายไปเองเมื่อเด็กอายุ 3 ถึง 6 เดือน แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปน้องปั้นก็ยังไม่หายจากโรคโคลิค ปั้นยังคงร้องไห้อย่างรุนแรงทุกวัน และ ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวและ จีนซึ่งเข้ามาช่วยดูแลน้องปั้นต่างก็พบกับเรื่องราวประหลาด ๆ มากมาย ดูหนังออนไลน์

“ทำไมโรคนี้จึงไม่หายไปจากเด็กคนนี้ ทำไมเรื่องต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่เค้าเริ่มร้องไห้ ” อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง ร่วมพิสูจน์ความจริงที่มาพร้อมความหลอนนี้ได้ใน THE COLIC .. เด็กเห็นผี

 

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

 

รีวิวหนังดัง โคลิค ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากโรคที่มีอยู่จริงของเด็กวัยแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 3-6 เดือน โรคที่รู้จัก และ ทำการศึกษากันมานมนานสำหรับพ่อแม่ และ วงการแพทย์ทั้งไทย และ ต่างประเทศ โรคโคลิค หรือที่เรียกว่าโรคร้อง 100 วัน มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของแต่ละวัน

และ จะร้องไห้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจถึง 2-3 ชั่วโมง ปัจจุบันทางการแพทย์ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคชนิดนี้ เป็นโรคที่ทำความลำบากใจให้กับผู้ที่เป็นพ่อแม่ไปทั่วโลก จนมีการก่อตั้งชมรม สมาคมเพื่อการรักษาบำบัดโรคให้กับบุตรหลานที่เป็นโรค และ สำหรับบำบัดจิตใจให้กับพ่อแม่อีกด้วย

จากประสบการณ์การเผชิญหน้ากับโรคโคลิคของผู้เขียนบท ถูกตั้งคำถาม และ ตีความออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ที่ชวนขนลุก สาเหตุที่ยังเงื่อนงำของโรค ถูกโยงใยเข้ากับครอบครัวสมัยใหม่ในปัจจุบัน ที่ขาดความพร้อมในการใช้ชีวิตคู่ ในขณะเดียวกันก็ถูกรังควานจากสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นอยู่ตลอดเวลา ผู้กำกับ ดูหนังออนไลน์

“ เหลิม ” พัชนนท์ ธรรมจิรา ผู้คลุกคลีอยู่เบื้องหลังภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องในฐานะครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ได้ถ่ายทอดรูปแบบความน่ากลัวออกมาด้วยมุมมองภาพที่น่าสนใจ การจัดเรียงจังหวะ และ ลำดับการเล่าเรื่องที่คนดูได้ร่วมลุ้นระทึก ไปกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้อยู่ตลอดเวลา

ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านภาพยนตร์ของผู้กำกับ จากการเข้าประกวดภาพยนตร์สั้น จนสามารถกวาดรางวัลจากมูลนิธิหนังไทยหลายเรื่อง เช่น รางวัลรองชนะเลิศปี 2541 รางวัลช้างเผือกเรื่อง “ วัด ” และ รางวัลชมเชยปี 2541 รางวัลช้างเผือกเรื่อง “ หมด ” ทำให้ “ เหลิม ” พัชนนท์ ธรรมจิราเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

“ ก่อนหน้ามากำกับภาพยนตร์ ผมได้มีโอกาสคลุกคลีอยู่กับการทำงานเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ อยู่ในส่วนของการโปรโมทภาพยนตร์ไทย รับผิดชอบในการทำโปสเตอร์ ทำตัวอย่างหนัง ทำรายการพิเศษเบื้องหลังภายใต้บริษัทปั่นกัมปะนี จากการที่เราคลุกคลีเกี่ยวกับการโปรโมท ผมก็จะได้เห็นหนังหลากหลายสไตล์ของหลาย ๆ ผู้กำกับหนังไทยหลายแบบ ความคิดในตอนนั้น เวลาเราดูหนังบางเรื่องเรารู้สึกว่าหนังเรื่องนั้นยังขาดตรงนู้นตรงนี้

พอมาถึงวันนี้ได้ทำเอง … สนุกเลยครับ เข้าใจเลยว่าทำไมหนังบางเรื่องถึงทำได้แค่นั้น หนังบางเรื่องเป็นได้แค่นี้ เพราะว่าหนังเป็นอะไรที่ยาก บางทีเราไม่รู้หรอกว่าวันนี้ออกกองไปเราจะเจออะไร ปัญหาจะมีกี่อย่างกี่แบบที่จะต้องให้แก้ งานกำกับหนังเป็นอะไรที่ยาก พอมาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่า ผู้กำกับหนังทุกคนทั่วฟ้าเมืองไทย และ หนังทุกเรื่องที่ผ่านมาเป็นหนังที่ดี…ผมเชื่อว่าทุกคนเก่ง

ที่ผมเริ่มต้นจากการทำหนังแนวนี้ จริง ๆ แล้วโดยส่วนตัวของผมเองคิดว่าหนังแนวไหนก็น่าจะทำได้ มันเป็นเรื่องของโอกาสที่มันมาถึงแล้ว คือ ถ้าเกิดสมมุติว่าเรามัวแต่รอเลือกของที่ถูกใจ ผมว่ามันก็ไม่มีวันนี้ ก็เลยคิดว่าอันไหนก็ได้ที่เป็นโอกาสผมก็ฉวยไว้ให้หมด

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังแนวนี้ มันอาจจะเป็นหนังตลกเป็นหนัง ดราม่าร้องไห้กันเยอะแยะ ผมก็เลือก ผมก็ทำหมดครับ ถือว่ามันเป็นโอกาสที่ดี เพียงแต่ว่าในโอกาสที่ดี เราต้องตั้งใจทำกับมันอย่างจริงจัง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแนวไหน ขอให้มีโอกาสก็ทำหมดครับ

ความยากของหนังเรื่องนี้มันน่าจะเป็นการกำกับคนดู เป็นเรื่องของจังหวะ ช๊อต จะเร้าอารมณ์คนดูยังไงเมื่อไหร่ จะสร้างคนดูรู้สึกกลัวหรือว่ารู้สึกตกใจในช่วงเวลาเหมาะสมที่เราต้องการ ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ยาก เพราะเราต้องดีไซด์ช๊อตแล้วก็กะไทม์มิ่งของแต่ละช๊อต

เพราะว่าเวลาเราตัดต่อมันจะได้ลงตัว มันเป็นเรื่องของการที่เราต้องทำให้คนดูรู้สึกไปตามนั้น ลักษณะการทำงานของผมก็คือ ถ้าทำหนังตลกก็อยากให้คนหัวเราะ ทำหนังดราม่าก็อยากให้คนร้องไห้ ทำหนังผีก็อยากให้คนรู้สึกกลัว รู้สึกตื่นเต้น ซึ่งมันเป็นรูปแบบของหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว เราอยากให้คนดูกลัวแล้วก็ตื่นเต้นไปกับตัวหนัง สนุกไปกับความน่ากลัวของมัน ความตื่นเต้นของมันเท่านั้นน่าจะพอครับ ” ดูหนัง

นอกจากนี้ โคลิคยังร่วมด้วยการจับมือกันโปรดิวซ์ของสองผู้กำกับใหญ่ เจ้าของหนังที่กวาดรายได้ไปมากกว่า 100 ล้านบาทอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว จากผลงานการกำกับเรื่อง องค์บาก ต้มยำกุ้งช๊อคโกแลต และ บัณฑิต ทองดี จากผลงานการกับเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม เฮี้ยน รวมทั้งโปรเจคท์หนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายเร็ว ๆ นี้ “ มนุษย์เหล็กไหล ”

 

สรุป โคลิค เด็กเห็นผี

รีวิวหนังดัง หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจมากครับ ผมสนใจมาตั้งแต่ตอนที่ได้ยินไอเดียนี้แล้วก่อนที่จะได้บทมา มันเป็นหนังที่มีความพัวพันกับอะไรที่มันมีจริง ๆ เป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถึงแม้ว่ามันจะมีข้อสันนิฐานหรือวิธีช่วยเหลือก็ตาม คนเขียนบทเค้าก็ดัดแปลงได้น่าสนใจเอาความเชื่อกับวิทยาศาสตร์มาผูกไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ด้วยเนื้อหาของเรื่องมันมีอะไรให้น่าค้นหาอยู่แล้วบวกกับความสามารถของตัวผู้กำกับเอง เป็นคนที่มีมุมมองอะไรใหม่ ๆ จับจังหวะบทได้ดี ทำให้เรื่องดำเนินไปด้วยความตื่นเต้นตลอดเรื่อง ที่เราเลือกเหลิมมากำกับเรื่องนี้ก็เพราะว่า เราเห็นการทำงาน และ ไอเดียที่นำเสนอของเค้ามาโดยตลอด

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

จนวันนึงเรารู้สึกว่าเหลิมต้องมากำกับหนังบ้างแล้วล่ะ เหลิมเค้าเป็นคนที่มุมมองด้านหนังที่ค่อนข้างจะดี เป็นคนที่จบทางด้านภาพยนตร์มาแล้วก็กำกับหนังสั้นได้รางวัลเยอะมาก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำหนังแล้วเค้าก็บอกว่าเค้าอยากทำเค้ามั่นใจว่าเค้าทำได้

หลังจากคุยกันก็รู้ว่าเค้าเป็นคนที่มีไอเดียในเรื่องการทำหนังที่ใช้ได้ที่น่าจับตามอง พอคนเรามันมีความอยากมาก มันเหมือนมีพลังพิเศษบางอย่างถ้าเราให้เค้าทำงานนี้ มันจะเป็นความตั้งใจแบบพิเศษ ๆ แล้วเค้าเป็นคนทันสมัย พอที่จะพลิกนหนังแนวนี้ให้มีอะไรใหม่ให้มีความแตกต่างเพิ่มมากขึ้นได้อีก ” ดูหนัง

นอกจากนี้ โคลิคยังร่วมด้วยการจับมือกันโปรดิวซ์ของสองผู้กำกับใหญ่ เจ้าของหนังที่กวาดรายได้ไปมากกว่า 100 ล้านบาทอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว จากผลงานการกำกับเรื่อง องค์บาก ต้มยำกุ้งช๊อคโกแลต และ บัณฑิต ทองดี จากผลงานการกับเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม เฮี้ยน รวมทั้งโปรเจคท์หนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆ นี้ “ มนุษย์เหล็กไหล ”

กำหนดฉาย 13 กรกฎาคม 2549
แนวภาพยนตร์ หลอน ระทึกขวัญ
สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัทดำเนินงานสร้าง บาแรมยู
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัชตนประเสริฐ
ควบคุมการสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว,สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์,บัณฑิต ทองดี
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
ฟิล์มแลบส์ สยามพัฒนาฟิล์ม
ผู้กำกับศิลป์ / ออกแบบงานสร้าง ถิรนันท์ จันทคัต
ออกแบบเครื่องแต่งกาย ชาติชาย ไชยยนตร์
นำแสดงโดย “ พิม ” พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์,
“ อั๋น ” วิทยา วสุไกรไพศาล,
“ เมย์ ” กุณฑีรา สัตตบงกช

รีวิว Stranger Things Season 4

รีวิว Stranger Things Season 4

รีวิว Stranger Things Season 4

หนังไทยnetflix สวัสดีครับนี่คือซีรีย์ที่มาแรงที่นสุดแห่งปีเลยก็ว่าได้ หนังสร้างชื่อให้กับ NETFLIX เลยหละครับ ถ้าเราได้ย้อนกลับไปดูซีซั่นก่อน ๆ นับไปนับมา ‘Stranger Things’ อยู่กับแฟน ๆ ซีรีส์ไซไฟสยองขวัญมาถึง 6 ปีแล้ว ซึ่งจากทั้งเทรลเลอร์ของซีรีส์ที่ปล่อยออกมาไปจนถึงโฉมหน้านักแสดง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ในซีซันแรกต่างก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมด และ ไม่ใช่แค่อายุนักแสดงหรือตัวละครเท่านั้น การกลับมาในซีซัน 4 นี้ยังท้าทายเหล่าผู้สร้างเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังเล่าเรื่องของชาวฮอว์กินส์ และ โลกกลับด้านต่อไปอย่างไร ดูหนังออนไลน์

รีวิว Stranger Things Season 4

รีวิวหนังดัง หลังเหตุการณ์เลือดสาดที่ห้างสตาร์คอร์ตในตอนท้ายของซีซัน 3 เหล่าแก๊งเด็กแสบแห่งฮอว์กินส์ต่างก็แยกย้ายไปมีเส้นทางของตัวเอง โดยแอล (มิลลี บอบบี บราวน์ Millie Bobby Brown) ไปอยู่กับบ้านบายเออร์สของจอยซ์ (วิโนนา ไรเดอร์ Winona Ryder) ที่มี วิล (โนอาห์ ชแนป Noah Schanapp) และ โจนาธาน (ชาร์ลี ฮีตัน Charlie Heaton) แต่ที่แคลิฟอร์เนียก็ไม่เหมือนฮอว์กินส์ และ แอลต้องปรับตัวกับสังคมไฮสคูลที่โหดร้ายในภาวะที่เธอไร้พลังใด ๆ จนกระทั่งแอลถูกจับหลังก่อเรื่อง ไมค์ (ฟินน์ วูลฟ์ฮาร์ด Finn Wolfhard) และ พวก จำต้องตามหาแอลก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

ในขณะเดียวกัน ดัสติน (กาเทน มาทาร์ราซโซ Gaten Matarazzo) สตีฟ (โจ คีรี Joe Keery) แนนซี (นาตาลี ไดเออร์ Natalie Dyer) ลูคัส (เคเล็บ แมคลาฟลิน Caleb McLaughlin) และ แม็กซ์ (เซดี ซิงค์ Sadie Sink) จำต้องไขคดีปริศนาของฮอว์กินส์ที่มีคนตายอย่างต่อเนื่อง หลังการมาถึงของ เวคน่า อสูรร้ายตนใหม่ที่อาจเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ฆาตกรรมในอดีตของฮอว์กินส์ และ ท้ายสุด จิม ฮอปเปอร์ (เดวิด ฮาร์เบอร์ David Harbour) จำต้องฝากความหวังที่จะแหกคุกโหดจัดรัสเซียไว้กับ จอยซ์ และ เมอร์เรย์ โบว์แมน (เบรท เจลแมน Brett Gelman) เนิร์ดสุดเพี้ยนที่ดันพูดรัสเซียได้

รีวิว Stranger Things Season 4

สำหรับ ‘Stranger Things’ กับการกลับมาในซีซันที่ 4 นี้ แม้ว่าจะแต่งแบ่งออกมาเป็น 2 พาร์ตแต่ก็ยังหาใช่จุดจบของเรื่องราว กระนั้นเจตนาที่ของพี่น้องดัฟเฟอร์ (The Duffer Brothers) ผู้สร้างซีรีส์ชุดนี้จริง ๆ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการล้างไพ่ และเริ่มต้นเรื่องราวบทใหม่อย่างแท้จริง จนเหมือนว่า 3 ซีซันที่ผ่านมาเป็นเหมือนปฐมบทที่ต้องการปูพื้นเรื่องราวของตัวละคร และ วิกฤติการณ์หลักอย่างการรั่วไหลของอีกมิติที่มีแต่เมืองฮอว์กินส์ ก่อนจะมาเร่ิมต้นสืบสาวราวเรื่อง และ ถักทอมันไปสู่บทสรุปอันน่าตื่นตาในซีซันที่ 5 ดูหนัง

สาเหตุหลัก ๆ ที่ผมมองว่าซีซัน 4 คือการเริ่มต้นเรื่องราวที่แท้จริงเพราะอะไรน่ะเหรอครับ ประการแรกเลยหากสังเกตในด้านการเล่าเรื่อง ซีซัน 1-3 เหมือนเรื่องจะวนอยู่ที่มิตรภาพของตัวละครเป็นหลัก ในขณะที่ิวิกฤตการณ์ปีศาจจากโลกกลับหัวหลุดมาที่ฮอว์กินส์เป็นเหมือนตัวพิสูจน์มิตรภาพของพวกเขา

ในขณะที่เรื่องในพาร์ตแรกของซีซัน 4 ที่แต่ละตอนกินความยาวตอนละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงเหมือนมันค่อย ๆ พาเราย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นจริง ๆ ของมันเสียที ซึ่งทำให้ปริมาณความเข้มข้นของเหตุการณ์ในแต่ละตอนแทบไม่มีตอนไหนจืดจางไปกว่ากันเลย

รีวิว Stranger Things Season 4

เริ่มตั้งแต่ตัวละครอีเลฟเว่น หรือแอลเองที่คราวนี้เริ่มจากการเป็นมนุษย์ ไร้พลังอย่างที่เธอใฝ่ฝัน และ หวังจะได้ครองรักกับวิล แต่ยิ่งเธออยู่ท่ามกลางผู้คนปกติเธอยิ่งรู้สึกแปลกแยกซึ่งมันนำมาสู่คำถามว่าหรือที่ผ่านมาเธอจะเป็นเพียงแค่ปีศาจ เพราะหลังจากเกิดเรื่อง และ เธอถูกจับ ซีรีส์ก็เริ่มพาเราไปสำรวจที่มาที่ไป ภาพย้อนอดีตอันแสนโหดร้ายทารุณ ที่ทิ้งปริศนาให้คนดูต้องตามต่อว่า หรือแอลจะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดจริง ๆ

หรือจะเป็นในส่วนของตัวละครวัยรุ่น อย่างแนนซี่ที่เคยเป็นเพียงไม้ประดับ และ ไม่ได้มีบทบาทในโลกกลับหัวมากไปกว่าแค่สถานะพี่สาวของไมค์ มาในซีซัน 4 เธอก็ได้แท็กทีมกับดัสติน และ คนรักเก่าอย่างสตีฟในการออกตามหาความจริงเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรม ที่มีความเกี่ยวพันกับเวคน่า อีกหนึ่งจอมอสูร ที่ซีรีส์ได้แง้มมาแล้วว่ามันยังไม่ใข่ตัวบอส แต่จากข้อมูลเบื้องหลังพบว่า ผู้ที่มาสวมบทเวคน่าสุดน่ากลัวครั้งนี้ไม่ใช่ใครแต่เป็น โรเบิร์ต อิงลันด์ (Robert Englund) เจ้าของบท เฟรดดี ครูเกอร์ จาก ‘ Nightmare on Elm Street ’ ที่เหมือนเป็นพิมพ์เขียว ให้ความโหดในซีซันนี้นั่นเอง ดูหนังออนไลน์

สรุป Stranger Things Season 4

รีวิวหนังดัง เห็นบอกว่าซีซีนนี้จะโหดจัดรัสเซีย แต่ก็ใช่ว่าซีรีส์จะขาดอารมณ์ขันเสียทีเดียวนะครับ เพราะมันก็ยังเซอร์วิสแฟน ๆ ด้วยเสียงหัวเราะอยู่นอกจากความฮา และ น่ารักของดัสตินที่ กาเทน มาทาราซโซ่ ยังคงขโมยซีนได้เหมือนเดิมแล้ว เรายังจะได้เห็นตัวละครสาวสายป่วนอย่าง โรบิน ที่ได้ มายา ฮอว์ค (Maya Hawk) มาโปรยเสน่ห์พร้อมเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี

เสริมทัพด้วยตัวละครใหม่ทั้งอาไกล์เพื่อนสายเขียวของ โจนาธาน บายเออร์ส ที่ได้ เอดัวร์โด ฟรังโก (Eduardo Franco) มาปล่อยมุกเมาๆ มึน ๆ สร้างเสียงหัวเราะตลอดซีซันรวมถึง เอ็ดดี มันสัน ที่ได้ โจเซฟ ควินน์ (Joseph Quinn) มาสวมบทเด็กโข่งแห่งเฮลล์ไฟร์คลับที่กลายเป็นแพะรับบาปในคดีฆาตกรรมก็สร้างความบันเทิงให้คนดูได้ไม่แพ้ตัวละครเก่า ๆ เลย

กล่าวอย่างง่าย ๆ หากจะนิยามซีซัน 4 ในพาร์ตแรกของ ‘Stranger Things’ ก็คือการปล่อยของที่อั้นไว้ใน 2 ซีซันหลังที่เราต้องยอมรับว่านอกจากลุ้นเด็ก ๆ เอาชนะเดโมกอร์กอนแล้วซีรีส์ก็ดูแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด จะโหดก็ยังไม่โหดสุด จะสยองก็ยังเหมือนอั้น ๆ ดูหนัง

จนกระทั่งซีรีส์ก็ได้อานิสงส์จากโกรวธ์ฮอร์โมนของเด็ก ๆ ที่เพิ่มอายุ และ การเติบโตได้ทันใช้พอดี จนกระทั่งซีซัน 4 นี่แหละที่ถือเป็นการเปิดศักราชการเป็นซีรีส์ไซไฟสยองขวัญที่ไม่กั๊กความโหดแบบสากะใจสายสยองขวัญสไตล์หนังยุค 80s เลยล่ะ

จุดเด่น

– ซีซันนี้ปล่อยของรัว ๆ แทบทุกตอน
– แม้ความยาวตอนละ 1 ชั่วโมง แต่เข้มข้นน่าติดตามตลอด
– ตัวละครใหม่มีเสน่ห์ไม่แพ้ตัวละครเก่า ๆ
– กล้านำเสนอภาพความสยองโหดจัดกว่าซีซันก่อน

จุดสังเกต

– ภาพสยดสยองน่ากลัวขึ้น อาจไม่เหมาะกับผู้ชมอายุน้อย ๆ

RELEASE DATE 27/05/2022
EPISODES 7 Episodes
CREATOR The Duffer Brothers
CAST Millie Bobby Brown Gaten Matarazzo David Harbour Winona Ryder
STREAMING SERVICE Netflix
OUR SCORE 9

รีวิว Nakee 2 นาคี 2

รีวิว Nakee 2 นาคี 2

รีวิว Nakee 2 นาคี 2

หนังไทยnetflix สวัสดีจ้าเพื่อนๆทุกคน วันนี้แอดมินมาแนะนำหนังไทยภาคต่ออย่าง นาคี ภาค 2 ที่พัฒนาจากละคร มาเป็นภาพยนต์ไทย เรื่องราวของ “สร้อย” ( อุรัสยา เสปอร์บันด์ ) สาวดอนไม้ป่า ผู้เติบโตมาพร้อมกับความเชื่อ และ ศรัทธาต่อเจ้าแม่นาคี เธอช่วยยายขายดอกไม้ถวายเจ้าแม่ และ คอยดูแลเทวาลัยแห่งนี้ สร้อยจึงมีความผูกพันกับเจ้าแม่นาคีเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ “ร.ต.อ.ป้องปราบ” ( ณเดชน์ คูกิมิยะ ) ถูกย้ายมาประจำที่ สภ.ดอนไม้ป่า ก็เกิดคดีสะเทือนขวัญขึ้นอย่างมากมาย

โดยหลายคดีเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และ มีเงื่อนงำที่คลี่คลายไม่ได้ โดยชาวบ้านต่างปักใจว่าเป็นฝีมือของ เจ้าแม่นาคี ที่กำลังออกอาละวาดอีกครั้ง และ เหตุการณ์ยิ่งพาให้ชาวบ้านต่างแน่ใจว่า สร้อย เป็นร่างประทับของเจ้าแม่นาคี

แม้แต่ตัวสารวัตรป้องปราบเองซึ่งไม่เคยเชื่อในเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติ ยังลังเลต่อคำกล่าวหาที่สร้อยได้รับ จนทำให้เขาต้องค้นหาความจริงเบื้องหลังคดีลึกลับในดอนไม้ป่าแห่งนี้ เตรียมเผชิญหน้ากับสิ่งที่ศรัทธา สิ่งที่ไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่จริง ‘นาคี ๒’ ดูหนังออนไลน์

รีวิว Nakee 2 นาคี 2

ผลงานการกำกับหนังใหญ่อีกครั้ง ของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง หลังจากเว้นมือนับจาก ชิงหมาเถิด (2553) หนังเสียดสีสังคม และ การเมืองไทย แล้วไปทำละครป้อนคนดูทางโทรทัศน์อยู่นาน ซึ่งเราคงได้ข่าวกันว่าเพิ่งล้มป่วยกะทันหันจากการทำงานแต่ตัวหนัง นาคี 2 นั้นโชคดีที่ได้กำกับ จนจบก่อนแล้ว

หนังเรื่องนี้เป็นการสานต่อกระแสของละครฮิตเรื่อง นาคี ซึ่งป๋าอ๊อฟได้กำกับจนเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์เมื่อ 2 ปีก่อน ( เช่นเดียวกับเพลงประกอบ คู่คอง ของ ก้อง ห้วยไร่ ที่ดังระเบิดไม่แพ้กัน )

โดยตอนเป็นละครนั้นได้ แต้ว ณฐพร และ เคน ภูภูมิ ประกบฉากกัน จากบทประพันธ์ของ ตรี อภิรุม นักเขียนนิยายที่มีชื่อเสียงทางสยองขวัญ ผลงานขึ้นชื่อก็มีคุ้นหูอย่าง แก้วขนเหล็ก นั่นเอง ซึ่งในภาค 2 นี้ก็ยังใช้บทประพันธ์ของ ตรี อภิรุม มา คิดโครงเรื่องสานต่อ

รีวิว Nakee 2 นาคี 2

รีวิวหนังดัง เป็นเรื่องราวอีกราว 20 ปีต่อมาจากละคร โดยพงษ์พัฒน์คิดเรื่อง แล้วได้ทีมเขียนบทที่นำโดย โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับ และ มือเขียนบทแนวธริลเลอร์มือต้น ๆ ของไทยมาเขียน ซึ่งทำให้พล็อตที่ดูเชยมาก ๆ อย่างตำรวจหนุ่มชาวกรุงเข้ามาช่วยเหลือสาวสวยบ้านป่า จากคดีเหนือธรรมชาติ ที่ชาวบ้านต่างใส่ร้ายว่าเธอคือต้นเหตุ

แต่เพราะวิธีการเล่าแบบหนังสืบสวน ปนสยองขวัญ ก็ทำให้เรื่องดูสนุกน่าสนใจขึ้นมากทีเดียว ไม่ค่อยได้เห็นในหนังไทย บ่อยนัก ส่วนจุดพร่องของการเล่าเรื่องก็มีบ้างคือการตัดตอนรวบรัดแบบกะว่าคนดูละครไทยจะเข้าใจได้อยู่แล้ว เช่น ไม่มีฉากที่ทำให้คู่พระนางรักกัน แต่ตอนจบทั้งคู่ก็จะรักกันได้ เพราะเป็นละครไทย การอนุมานใช้ความเคยชิน ของคนดูละครไทยอะไรแบบนั้น ก็อาจมองเป็นจุดด้อยหนึ่งของหนังได้เช่นกัน เพราะหนังในเวลาที่เท่ากันอาจเลือกวางเรื่อง และ อารมณ์ให้ชัดกว่านี้ ดูหนัง

รีวิว Nakee 2 นาคี 2

ทีมงานหนัง ยังได้มือรางวัล อีกหลายรายมาร่วมงาน ทั้ง สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพฝีมือโกอินเตอร์ที่ล่าสุดเพิ่งทำหนังชิงออสการ์อย่าง Call Me By Your Name มารับหน้าที่กำกับภาพด้วย ซึ่งงานภาพของเรื่องนี้หลายซีนดูโดดเด่น ทั้งการใช้แสงลงในฉาก และ การใช้สีตัดได้อย่างน่าสนใจ ดีเกินหน้าหนังทั่วไปอยู่หลายฉากเลย และ ด้านการตัดต่อก็ยังได้ ลี ชาตะเมธีกุล มือต้น ๆ ของไทยที่นาน ๆ จะรับงานตัดต่อหนังใหญ่มาตัดต่ออีกด้วย

ฝ่ายศิลป์ของหนังเอง ก็นับว่าเนี้ยบมาก ฉากโรงพักโดนถล่มนี่คือมาสเตอร์พีซเลย ต้องบอกว่าเป็นการรวมทีมผู้สร้างที่ไม่ธรรมดา จนได้งานที่ยกระดับโปรดักชั่นจากละครขึ้นมาสมศักดิ์ศรีภาพยนตร์จอเงิน ใครดูตัวอย่างจากทีวีจากจอคอมแล้วร้องอี๋ บอกเลยว่าของจริงในโรงดูดีไม่น้อยหน้าหนังสัตว์ประหลาดของเมืองนอกเลยล่ะ ถ้านับแค่ว่ามันเป็นหนังสืบสวนสยองขวัญ สัตว์ประหลาดยักษ์ นี่น่าจะเป็นหนังไทยเบอร์ต้นในแนวทางนี้เลย ยังนึกเรื่องอื่นที่ดีเทียบเท่าไม่ค่อยออก

และ ในครั้งนี้ก็ได้นำคู่ขวัญละครไทยอย่าง ญาญ่า อุรัสยา และ ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่ต่างก็ลองผ่านงานจอเงินมาแล้วทั้งคู่ อย่าง ญาญ่า ก็เพิ่งมี น้อง.พี่.ที่รัก ส่วนณเดชน์ ก็ยังจำฝีไม้ลายมือจาก คู่กรรม ได้ดี และ ในเรื่องนี้ยังมารับบทนำร่วมกันประกบกับคู่ขวัญเดิมอย่างแต้ว และ เคนอีก อย่างที่บอกว่าบทรักของหนังไม่ค่อยเด่นนัก แต่ด้วยความหวานนอกจอของญาญ่า-ฌเดชน์ ก็มากพอให้เรารู้สึกว่าตัวละครมันรักกันได้ล่ะ ก็นักแสดงเขารักกันนี่นา 55 ดูหนังออนไลน์

สรุป Nakee 2 นาคี 2

รีวิวหนังดัง หนังยังใช้เสน่ห์กลิ่นอายแบบอีสานทั้งฉากหลัง หมู่บ้าน ความเชื่อ ภาษาถิ่น ได้อย่างดี และ มีเอกลักษณ์ คนอีสานน่าจะชอบอกชอบใจ ส่วนคนภาคอื่นก็ฟังเพลินสำเนียงสวย และ ก็รู้เรื่องเพราะหนังมีซับแปลให้อ่านเรียบร้อย สบายใจ ส่วนตัวคือชอบนะครับ ภาษาทางอีสาน มันมีความสวยของมันอยู่ แล้วยังทำให้บริบทหนังมันดูสมจริงสมบูรณ์ขึ้นด้วย ที่สำคัญยังทำให้การเล่นบทตลกของ อี๊ด โปงลางฯ กับ ปอยฝ้าย มาลัยพร ในบทคู่หูตำรวจเสียงอีสานดูตลกขึ้นจมด้วย ทำให้ช่วงต้นของหนังดูสนุกขึ้นด้วย

จุดอ่อนของหนังไทยอย่างเรื่องของซีจีต่าง ๆ ต้องยอมใจผู้สร้าง ที่แม้ทุนมากขึ้น โดยมีให้กับการทำซีจีนับ 20 ล้านบาท และ มีตัวเลือกจะใช้บริษัทต่างชาติ ที่ผ่านงานระดับโลกมาทำก็ตาม แต่ป๋าอ๊อฟแกหัวชนฝาให้เป็นหนังเมดอินไทยแลนด์ จึงใช้บริการ Fatcat บริษัทที่ทำกราฟฟิก ให้ในละคร นาคี มาสานต่องานเดิม ด้วยความละเอียด และ ทุนที่มากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ เหมือนกันเพราะ หนังทำออกมาได้ใกล้เคียงงานสากลแบบไม่อายเลย มีที่หลุด ๆ อยู่บ้างก็เรียกว่าน้อยจนให้อภัยได้

นอกจากดนตรีประกอบที่ผสมความทันสมัยกับสำเนียงเพลงอีสานหวนไห้ได้อย่างน่าสนใจแล้ว เพลงประกอบหนังอย่าง สายแนนหัวใจ ของ ก้อง ห้วยไร่ เจ้าเก่าเองก็น่าจะติดหู และ เป็นที่นิยมได้ไม่ยากเช่นกัน นี่พอหนังจบไม่อยากลุกเลย ฟังเพลงไปอินดีมาก

อย่างที่ได้เล่าไปแล้วในตอนต้น ด้วยความที่เนื้อหาหนังเน้นเรื่องของความเชื่อ และ ประเพณีเป็นหลัก บวกกับการเล่าเรื่องแบบเรื่อยๆ และ คลายปมอย่างรวดเร็วในตอนท้าย ทำให้ “นาคี ๒” อาจเป็นหนังที่ไม่ได้ตรงใจคนที่ไม่อินเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือผีสางมากนัก แต่สำหรับแฟนละครที่เคยอินกับภาคแรกมาแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ และ ความอลังการบนจอยักษ์ของหนังเรื่องนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่คุณรอคอย โดยนาคี ๒ จะเข้าฉายในวันที่ 18 ต.ค. ทุกโรงภาพยนตร์ ดูหนัง

จุดเด่น
– ทีมงานคุณภาพ งานโปรดักชั่นชั้นยอดของไทย
– แนวหนังสืบสวนบรรยากาศสยองขวัญตำนานความเชื่อ และ สัตว์ประหลาดที่เด็ดดวง
– นักแสดงนำจนตัวประกอบเล่นได้สมจริง
– เล่นกับเสน่ห์ความเป็นอีสานได้ดี รวมถึงมุกตลกด้วย

จุดสังเกต
– การเล่าที่รวบรัด ข้ามการเชื่อมโยงหลายส่วน
– ฉากศพโหดมาก เด็กอาจไม่เหมาะ
– พร่องฉากเกี่ยวกับความรัก
– ฉากจบที่ WTF จนอึ้ง

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

 

หนังไทยมาใหม่ ในที่สุดหนังไทยที่แอดมินรอคอยมาเนิ่นนานก็มาถึงแล้ว หลังจากที่แอดเฝ้ารอหนังไทย แนว ๆ นี้มาแสนนาน หากจะพูดถึงหนังไทยในยุคนี้นั้น ก็เดินทางไปไกลแล้ว โดยหนังเรื่องนี้บอกเล่า ในยุคสมัยแห่งการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ อโยธยาตกอยู่ในความวุ่นวาย และการเข้ามาของต่างชาติ ยังมีตำนานความรักที่ไม่เคยถูกบอกเล่าที่ไหน ‘เรียวสึ’ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ชายหนุ่มผู้ออกตามหาชาติกำเนิดอันคลุมเครือ โดยมีคมดาบและคาถาเป็นศาสตราคู่กาย ระหว่างทางเขาได้พบรักกับ ‘ออสายสร้อย’ (เมลดา สุศรี) ดูหนังออนไลน์

หญิงงามที่กำลังจะตกไปเป็นคู่ครองของ ชายสูงศักดิ์ผู้เป็นหน่อเชื้อชนชั้นสูงในราชสำนัก ผู้เพียบพร้อมทั้งอำนาจ บริวาร ศิลปะการต่อสู้และมนตร์อาคมระดับพระกาฬ ทำให้เรียวสึต้องต่อสู้ด้วยทั้งชีวิตและศักดิ์ศรี เพื่อให้ได้มาซึ่งรักแท้หนึ่งเดียว และคำตอบว่า เขาคือใคร

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิวหนังดัง ‘อโยธยา มหาละลวย’ ผลงานการกำกับของ ‘ภวัต พนังคศิริ’ ที่แจ้งเกิดจากการกำกับละครพีเรียด ‘บุพเพสันนิวาส’ และ ‘เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ’ (2563) ตัวเรื่องเล่าเรื่องในช่วงรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ปลายราชวงศ์ปราสาททอง) ที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติมากมายที่เข้ามาอาศัยและทำงานถวายบนแผ่นดินอโยธยา

‘ออกญาคชบาล’ (ศรุต วิจิตรานนท์) ได้กระทำตามสัจจะที่ให้ไว้แก่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (ต้นราชวงศ์ปราสาททอง) ว่าจะออกกวาดล้างตระกูลชาวญี่ปุ่น ‘ยามาดะ’ ที่ถวายความจงรักภักดีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (ราชวงศ์สุโขทัย) เพื่อหวังไม่ให้ก่อการกบฏ ดูหนังออนไลน์

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

เหลือแต่เพียงเด็กน้อย ‘เรียวสึ’ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ที่รอดชีวิตมาได้ และได้รับการชุบเลี้ยง สอนวิชาคาถาอาคมให้ เมื่อโตเป็นหนุ่ม เขาและ ‘ทอง’ (สพล อัศวมั่นคง) วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงตามอบให้ จึงต้องออกตามหาแม่ที่แท้จริง พร้อมกับตามหา ‘ออสายสร้อย’ (เมลดา สุศรี) อี้จี (คณิกาชั้นสูง) ผู้งดงามประจำโรงชำเรา ที่กำลังถูก ‘ขวัญ’ (ธนบดี ใจเย็น) บุตรของออกญาคชบาลชิงตัวไป โดยมีชาวอินเดียอย่าง ‘อาซิม’ (พงศกร วงศ์เพียร) และ ‘จีนล้ง’ (วิศรุต หิมรัตน์) เพื่อนชาวจีนคอยตามติดไปช่วยเหลือเรียวสึด้วย

จริง ๆ แล้วจะเห็นว่าตัวหนังมีจุดเด่นสำคัญคือเรื่องของการหยิบเอาเกร็ดประวัติศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีบันทึกอยู่จริงมาต่อยอดได้อย่างน่าสนใจครับ อย่างเช่นเรื่องของชาวต่างชาติที่ติดต่ออาศัยมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ในแผ่นดินพระนารายณ์ รวมทั้งตัวละครที่สร้างขึ้นจากบุคคลจริง เช่น ‘ออกญาคชบาล’ ที่จะครองราชย์เป็น ‘สมเด็จพระเพทราชา’ (ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง) (พระเพทราชาในละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ก็แสดงโดย ศรุต วิจิตรานนท์ ด้วยเช่นกัน) ส่วน ‘ขวัญ’ (ธนบดี ใจเย็น) บุตรชาย ก็หยิบเอาคาแรกเตอร์มาจาก ‘เดื่อ’ ที่จะขึ้นครองราชย์เป็น ‘สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8’ หรือ ‘พระเจ้าเสือ’ ที่ครองราชย์ต่อจากผู้เป็นพ่อนั่นเอง ดูหนัง

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

โดยที่ผู้กำกับ (ภวัต พนังคศิริ) เองได้หยิบเอาเกร็ดเบี้ยบ้ายรายทางจากในละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ที่เคยกำกับเอาไว้ และที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์มารวมกัน พร้อมกับแต่งเรื่องขึ้นใหม่ ซึ่งเกร็ดประวัติศาสตร์นี่แหละที่ผู้เขียนมองว่าเป็นจุดเด่นที่ทำได้ค่อนข้างดีเลยครับ เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ น่าค้นหาเรื่องอ่านต่อเลยแหละ โดยเฉพาะเกร็ดเกี่ยวกับชาวต่างชาติในอโยธยา หรือการเรียก ‘ออสายสร้อย’ ว่าเป็น ‘อี้จี’ ที่เป็นคณิกาชั้นสูงที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์จีนมาผสมผสานใหม่ รวมทั้งการผสมผสานเรื่องของคาถาอาคม คาถา รอยสัก ของขลัง อย่างที่หน้าหนัง จั่วหัวเอาไว้ว่าหนังเรื่องนี้เป็น ‘ภาพยนตร์รักสายมู’ (มูเตลู) ซึ่งมันก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

เพราะเรามักจะคุ้นเคยกับหนังไทยที่มักจะเล่าเรื่องไสยศาสตร์ คาถาอาคม เล่ห์กลมนตร์ขลังในโทนและเรื่องราวด้านมืดทั้งนั้น น้อยมากที่จะเห็นใครเอาไสยศาสตร์แบบไทย ๆ มาเล่าในมุมมองของความเป็นแอ็กชันโรแมนติกคอเมดี เป็นแนวมูเตลูสายขาวว่างั้นเถอะ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ตัวธีมมูเตลูนั้นกลับไม่ได้ถูกพูดถึงหรือให้ความสำคัญใน 2 องก์แรกของหนังเสียอย่างนั้น ต้องรอจนถึงตอนไคลแมกซ์จริง ๆ ถึงจะรู้ว่าสายมูในหนังมันสำคัญอย่างไรต่อเนื้อเรื่องบ้าง ซึ่งผู้เขียนมองว่า ค่อนข้างน่าเสียดายที่น่าจะเอาธีม ‘หนังรักสายมู’ มาใช้ให้ได้มากกว่านี้

สรุป อโยธยา มหาละลวย

รีวิวหนังดัง การดีไซน์การนำเสนอมูเตลูอีกอย่างที่ผู้เขียนมองว่าแปลก ๆ ดีนั่นก็คือ การให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นหนุ่มหล่อที่ชื่อว่า ‘ทอง’ ที่ไม่ใช่แค่ห้อยคอ แต่ออกมาเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่มีตัวตน เป็นเพื่อนคุย และบางครั้งก็คอยเตือนคอยห้ามเรียวสึไม่ให้ทำอะไรห่าม ๆ ได้ ซึ่งผู้เขียนยอมรับว่าแอบคิดถึง ‘โดเรมอน’ นิดหน่อยเหมือนกันนะครับ (555)

โดยเฉพาะที่ทองที่คอยเตือน และแอบมาช่วยเหลือเรียวสึในยามขับขัน นี่มันโดเรมอนกับโนบิตะ แบตแมนกับโรบินชัด ๆ (555) ผู้เขียนคิดว่าทองเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจครับ แต่เสียดายที่ตัวบททำให้ทองมีบทบาทในหนังน้อยไปหน่อย และก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธีมสายมูของหนังถูกลดบทบาทลงใน 2 องก์แรกไปด้วย

ส่วนในแง่ตัวละคร จริง ๆ ผู้เขียนเองแอบเทความประทับใจให้กับตัวละครรองมากกว่าตัวละครหลักครับ โดยเฉพาะ ‘อาซิม’ และ ‘จีนล้ง’ ที่สร้างสีสันได้ดี ส่วนตัวละครหลักอย่าง ‘โบว์ เมลดา’ และ ‘เจมส์ จิรายุ’ นั้นถือว่าเคมีเข้ากันได้ค่อนข้างโอเคครับ แม้ว่าจะมีเกร็ง ๆ บ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนเองมองว่า น้องโบว์นี่ขึ้นกล้องดีแฮะ ส่วนเรื่องแอ็กชัน ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน

แต่สิ่งที่ผู้เขียนเองรู้สึกว่าไม่ค่อยเวิร์กก็คือ การแสดงโดยใช้บทพูดแนวพีเรียด ที่ดันใช้คำอ่านมาแทนคำพูด แถมยังใช้ในหนังแบบไม่สม่ำเสมออีกต่างหาก ผลก็คือมันทำให้การแสดงโดยรวมดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก ซ้ำร้าย ยิ่งพาให้ตัวละครบางตัวที่คาแรกเตอร์จัด ๆ เช่นเป็นคนจีนพูดไทย

หรือนักแสดงสมทบที่ฝีมือการแสดงยังไม่แน่นพอนี่ถึงกับกลายเป็น “เล่นแข็ง” โดยไม่เจตนาซะงั้น ลำพังเล่นแข็งอยู่แล้ว เจอภาษาโบราณเข้าไปนี่คือเหมือนอ่านพงศาวดารให้ฟังเลย รวมทั้งบทบาทในหลาย ๆ ฉากที่ไม่เมกเซนส์ และฉากที่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าไม่ต้องมีก็ได้คือ ฉากมิวสิคัลต่อเพลงฉ่อยในโรงชำเรา คือเนื้อเพลงกับการร้องมันดูแปร่งจริง ๆ นะครับ

แต่สิ่งที่ทำให้มนตร์คาถาของหนังเรื่องนี้จะดูไม่ค่อยขลังเท่าไหร่ก็คือบท พล็อต และการตัดต่อครับ แม้ว่าตัวหนังเองจะมีธีมที่น่าสนใจ แต่ด้วยตัวบทเองกลับมีปัญหา นอกจากเรื่องธีมที่ยังนำเสนอได้ไม่ค่อยสุดแล้ว ก็ยังมีปัญหาเรื่องพล็อตที่จริง ๆ แล้วมีอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ตัวบทกลับจับจุดหนังได้ไม่ดีพอ ทำให้ตัวหนังเกิดอาการมนตร์คาถาเสื่อมจนไม่รู้ว่าจะโฟกัสว่าจะเล่าเรื่องรัก ๆ ดี จะเล่าเรื่องการตามหาแม่ดี หรือจะเล่าเรื่องการแก้แค้นระหว่างเรียวสึกับออกญาคชบาลกันแน่

รวมถึงตัวบทที่เล่าอย่างเนิบช้าและไม่ได้ให้ส่งให้คนดูเห็นว่าตัวละครแต่ละตัวเป็นอย่างไร ก็ยิ่งทำให้ตัวละครขับเคลื่อนไปแบบแห้งและเนิบช้า และยิ่งกระหน่ำซ้ำด้วยการตัดต่อที่ทำให้การเล่าเรื่องไม่ลื่นไหลเลย ทำให้ตัวหนังเล่าเรื่องแบบตัดปะ ถ้าดูเจาะเป็นซีน ๆ ก็โอเค แต่มันทำให้การเดินเรื่องในภาพรวมติดขัดมาก ๆ ทั้งหมดนี้ก็เลยทำให้ตัวหนังยังมีรอยโหว่ และทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมเกิดอาการขาดห้วงและเล่าเรื่องได้ไม่กลมเท่าไหร่ ดูหนัง

โดยรวมแล้ว สำหรับแฟน ๆ ของ ‘เจมส์ จิรายุ’ และ ‘โบว์ เมลดา’ ก็น่าจะชื่นชอบการแสดงของทั้งคู่นะครับ เพราะโดยรวม ๆ ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูเอาเพลิน ๆ หรือดูแล้วก็อาจจะเกิดความอยากไปศึกษาด้านประวัติศาสตร์อยุธยาต่อ อะไรแบบนี้ แต่ด้วยบทและการตัดต่อที่มีปัญหา ธีมสายมูที่ดูจะยังไม่ค่อยจริงจังลงลึกเท่าที่ควร รวมทั้งไดอะล็อกและการแสดงที่ยังขาด ๆ เกิน ๆ ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังมูเตลู ที่ยังไม่ทันท่องมนต์จบ ก็ดันเป่าเสกคาถาโอมเพี้ยงเสียก่อนแล้ว

จุดเด่น

– ตัวธีมหนังแปลกใหม่ เป็นหนังมูเตลูสายสว่าง
– หยิบเอาเกร็ดประวัติศาสตร์มาต่อยอดได้น่าสนใจ
– แอ็กชันถือว่าโอเค ตัวละครรองมีสีสันดี ส่วนเจมส์จิ-โบว์ เคมีถือว่าโอเค

จุดสังเกต

– พล็อตเรื่องธรรมดาไม่ได้หวือหวา
– การเล่าเรื่องค่อนข้างช้า พล็อต บท และการตัดต่อยังมีรอยโหว่ เนื้อเรื่องโดยรวมห้วนไม่ค่อยกลม
– เสียดายธีมความเป็นสายมู ที่น่าจะสอดแทรกได้มากและน่าสนใจกว่านี้
– ฉากต่อเพลงฉ่อยดูแปร่ง ๆ ไม่ต้องมีก็ได้

รีวิว ส้ม ปลา น้อย

รีวิว ส้ม ปลา น้อย

รีวิว ส้ม ปลา น้อย

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับ นี่เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทย สายฮา สุดเกรียน ที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ส่งท้ายปี แล้ว ก็มีหลายๆ เรื่องเลยที่ขนขบวนมาเสิร์ฟเสียงฮาความตลกมาให้กับทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้บ่าไทบ้านอีสานจ้วด ส้มป่อย ซึ่งทั้งหมดคือหนังภาษาถิ่นที่ทำออกมาได้อย่างน่ารักละมุนละไม ส้ม ปลา น้อย ก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต่อแถวมาเสิร์ฟความตลกขบขันให้กับทุก ๆ คน

ด้วยฝีมือการกำกับ และ การแสดงของคุณหม่ำพร้อมครอบครัว จากโปรดักชั่นของบั้งไฟฟิล์ม ซึ่งหลายๆ คนคงทราบดีว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายหนังที่มักนำเสียงหัวเราะมามอบให้เราในช่วงวิกฤตแบบนี้ แม้ว่าจะแผ่วบ้างปังบ้าง แต่อย่างน้อยก็ทำให้คนดูมีรอยยิ้มได้อย่างต่อเนื่องครับ ดูหนัง

สำหรับ ส้ม ปลา น้อย เป็นอีกหนึ่งหนังตลกคลายเครียด ที่อยู่ร่วมกันในจักรวาลของส้ม สืบเนื่องต่อเรื่องราวกันมาจาก ส่ม ภัค เสี้ยน ที่ทำรายได้ค่อนข้างดีเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้น ได้คุณเอ็ม ลูกสาวคุณหม่ำมาขึ้นแท่นผู้กับกับ และ ยังได้รับกระแสการตอบรับ ที่ค่อนข้างจะดีอีกด้วย

จนถูกยกให้เป็นหนังคอมเมดี้แห่งปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งนี้ กลับมาสานต่อเรื่องราวอีกครั้ง โดยผู้กำกับเปลี่ยนเป็นพี่หม่ำแทน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอบมีกระแสที่ติดลบไปพอสมควร เพราะว่าบางเรื่องที่ผ่านมาทำกระแสได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เช่น คุณชายใหญ่ รวมทั้งขุนบันลือ ที่รายได้อาจจะไม่สูงเท่าที่ควร

รีวิว ส้ม ปลา น้อย

รีวิวหนังดัง โดยเรื่องย่อของ ส้ม ปลา น้อย นั้นเป็นเรื่องราวของ ส้ม แม่ค้าส้มตำหน้าตาดี ที่จู่ๆ ก็เกิดรักสามแต่ยังไม่เศร้าขึ้น เพราะความสวยของเธอดันไปสะดุดตากับชายหนุ่มรูปงามที่หน้าตาดีไม่แพ้กันถึงสองคน นั่นคือ น้อย ชายหนุ่มหน้าตาดีผู้เป็นเพื่อนบ้าน นอกจากจะหน้าตาดี แล้วยังเป็นคนที่เอาการเอางาน ขยันขันแข็ง และ รักส้มมากแบบถวายชีวิต นำแสดงโดย โตโน่ ภาคิน หนุ่มเดอะสตาร์ที่หันมารุ่งเรืองด้านการแสดง

ส่วนพระเอกอีกคนที่เข้ามาทำคะแนนให้สาวส้มหน้ามนคนสวยเราได้หวั่นไหวก็คือ ปลา นำแสดงโดยครูเต้ย อภิวัฒน์ ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งด้วยฐานะ นิสัยดีอบอุ่น แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อทั้งสองคนก็ต่างคืบคลานมาปรากฏตัวอยู่ในหัวใจของส้ม แถมพ่อแม่ของเธอ ก็ต่างคนต่างชอบผู้ชายคนละคนอีก ดูหนังออนไลน์

งานนี้เรื่องราวความรักต้องวุ่นวายเพราะเธอไม่รู้ใจตัวเองจนต้องเข้าวัดเข้าวาไปปรึกษามหาชัย พระประจำวัดที่รับบทโดยผู้กำกับของเราเอง งานนี้ถ้ายังเคลียร์ไม่จบ ส้มอาจจะต้องเศร้าเพราะควบสองไม่ได้แน่ๆ ติดตามหนังตลกไทยที่ยกสารพัดมุกมาเสิร์ฟ และ ให้กำลังใจทั้งส้ม ปลา น้อย ได้เลย

รีวิว ส้ม ปลา น้อย

นักแสดงหลักในเรื่อง ส้ม ปลา น้อย
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ส้ม ปลา น้อย นักแสดงก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาในแวดวงบันเทิงของเรานี่เอง แถมยังเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในดาวค้างฟ้าของวงการบันเทิงทางภาคอีสาน และ ระดับประเทศอีกด้วย ยิ่งนำมารวมกันแล้วยิ่งทำให้เรื่องราวมันถูกดึงดูดด้วยตัวของนักแสดงเองส่วนหนึ่งก็ว่าได้ครับ

น้อย (โตโน่ ภาคิน)

บักน้อย ชายหนุ่มหน้ามนคนซื่อ ที่มีหน้าตาอันหล่อเหลา และ คารมคมคายที่เรียกได้ว่าจัดจ้าน รักน้องส้มสุดหัวใจแบบพร้อมจะพลีทุกๆ อย่าง เป็นชายหนุ่มที่จริงจัง ตั้งมั่น เอาการเอางาน และ แน่นอนว่านอกจากจะเอาหัวใจส้มไปแล้วครึ่งหนึ่ง ยังสามารถเอาชนะใจว่าที่พ่อตาได้แล้วอีกด้วย

ส้ม (อุ้ม อิษยา)

สาวน้อยหน้าสวยผู้ทำอาชีพเป็นแม้ค้าขายส้มตำมหาเสน่ห์ เธอสวยขนาดที่ว่ามีผู้ชายเข้ามาชอบพร้อมๆ กับทั้งสองคน เมื่อคนหนึ่งเปรียบเสมือนเทวดา อีกคนก็ไม่ต่างจากเทพบุตร งานนี้ความรักที่ไม่สามารถแยกร่างได้ และ ไม่สามารถควบสองได้จึงต้องร้อนไปถึงหูพระมหาชัย

ปลา (ครูเต้ย อภิวัฒน์)

ครูเต้ย อาจารย์หน้าหล่อที่แจ้งเกิดจากคลิปไวรัลจนกลายมาเป็นนักร้องสุดฮิตที่สาวๆ ต่างกรี๊ดกร๊าดกันไปครึ่งค่อนประเทศ วันนี้เขากลับมาในมาดของหนุ่มหน้าตาดีแถมยังนิสัยรวยอีกด้วย ท่าทีสุภาพอ่อนน้อม แต่ว่าไม่ได้เลยทีเดียว เมื่อสบโอกาสเมื่อไหร่ ปลาก็พร้อมที่จะหยอดมุกจีบสาวส้มอย่างไม่ต้องตั้งตัว ก็หล่อขนาดนี้ ทำไมจะไม่หลง ถูกไหม ?

ผมต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนที่จะมาดูเรื่อง ส้ม ปลา น้อย เรื่องล่าสุดที่ผมดูของพี่หม่ำก็คือ คุณชายใหญ่ ก่อนหน้านั้นก็เป็นขุนบันลือ และ แน่นอนว่าผมเองค่อนข้างจะผิดหวังพอสมควรเลยก็ว่าได้ ด้วยความเป็นมุกคลาสสิคที่ตลกแต่ฝืดไปบ้าง ทำให้ผมแอบกังวลกับการรีวิว ส้ม ปลา น้อย มากพอสมควร ทว่าในเมื่อผมเป็นคนชอบอุดหนุนหนังไทยอยู่แล้ว จึงต้องเข้าไปดูให้รู้แล้วรู้รอด อย่างหนึ่งที่ต้องบอกคือผมอุดหนุนอุตสาหกรรมหนังไทยอยู่แล้ว การรีวิวของผมจึงอาจจะดูบ้านๆ ไปบ้าง แต่ก็ตามสไตล์ครับ เน้นเล่าสู่กันฟังเหมือนเดิม

ผมต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนที่จะมาดูเรื่อง ส้ม ปลา น้อย เรื่องล่าสุดที่ผมดูของพี่หม่ำก็คือ คุณชายใหญ่ ก่อนหน้านั้นก็เป็นขุนบันลือ และ แน่นอนว่าผมเองค่อนข้างจะผิดหวังพอสมควรเลยก็ว่าได้ ด้วยความเป็นมุกคลาสสิคที่ตลกแต่ฝืดไปบ้าง ทำให้ผมแอบกังวลกับการรีวิว ส้ม ปลา น้อย มากพอสมควร ทว่าในเมื่อผมเป็นคนชอบอุดหนุนหนังไทยอยู่แล้ว จึงต้องเข้าไปดูให้รู้แล้วรู้รอด อย่างหนึ่งที่ต้องบอกคือผมอุดหนุนอุตสาหกรรมหนังไทยอยู่แล้ว การรีวิวของผมจึงอาจจะดูบ้านๆ ไปบ้าง แต่ก็ตามสไตล์ครับ เน้นเล่าสู่กันฟังเหมือนเดิม ดูหนัง

สรุป ส้ม ปลา น้อย

รีวิวหนังดัง ส้ม ปลา น้อย ทำได้ดีเกินคาดครับ แม้ว่าจะเข้าไปดูด้วยความที่ไม่คาดหวังอะไรมากก็ตาม แต่กลับสามารถนำเสนอความรักวุ่นๆ ออกมาได้อย่างสนุกสนาน และ มีสีสันมาก ถึงจะมีมุกตลกสุดคลาสสิกเข้ามาร่วมด้วย หรือบทสนทนาที่อาจจะฟังดูแล้วจงใจให้ตลกแต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้นปะปนเข้ามา

แต่มวลรวมก็ยังเรียกได้ว่าประทับใจกว่าสองเรื่องก่อนที่ได้ดูมาครับ ไม่มีจุดที่ต้องร้องอู้ว หรือตั้งคำถามว่าอิหยังวะในเรื่องนี้เลย นักแสดงแต่ละคนเต็มที่กับเรื่องมากๆ บทแต่ละส่ง ส่งนักแสดง นักแสดงส่งอารมณ์มาถึงคนดู ผสมผสานทั้งความตลก ความรัก และ ความซึ้งได้ลงตัวขึ้นจริงๆ

สำหรับใครที่ยังไม่ได้ ดูหนังเรื่องส้มปลาน้อยเต็มเรื่อง หรือยังไม่ได้ ไปให้กำลังใจ เหล่านักแสดงอารมณ์ดีเหล่านี้ น่าจะต้องหาเวลา จูงมือคนสำคัญ ไปขยับเหงือกขยับกราม กับหนังดีอีกเรื่อง ของคนไทย ใครที่ต้องการจะ Feel Good ชั่วโมงนี้ต้องยกให้เค้าเลยค่ะ แต่หากบางท่าน ยังเป็นกังวลเรื่องการแพร่ระบาด สำหรับการไปชม ในโรงภาพยนตร์ ก็คงต้องรอ ส้ม ปลา น้อย เต็ม เรื่อง ออนไลน์ ตามเว็บหรือแอพดูหนัง ที่คุณถนัดหรือ เป็นสมาชิกอยู่ได้เลยนะคะ

รีวิว ส้ม ปลา น้อย

รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ สำหรับหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็น choice ที่ไม่เลวที่จะเลือกชม ลองดูว่าหนังเรื่องนี้ ใช่ทางของคุณหรือไม่ เค้าเริ่มเข้าฉายกันมาตั้งแต่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา แล้วนะคะ และ กำลังฉาย อยู่ในขณะนี้ ตามโรงภาพยนตร์ชั้นนำ ในเครือ Major Cineplex เรียกว่าเป็นหนังไทย ที่ดูแล้วผ่อนคลาย หัวเราะทั้งเรื่อง แค่เห็นชื่อนักแสดง และ ผู้กำกับก็รู้เลยว่า หนังเรื่องนี้จะฮามากแค่ไหน ใครที่ยังไม่ได้ไปดู ต้องหาเวลา พาครอบครัวไปดูนะ เพราะเป็นภาพยนตร์ ที่ดูสนุกทั้งครอบครัวจริงๆ

สรุปความประทับใจส้ม ปลา น้อย
ผมไม่ได้ว้าวอีกแล้วครับ กับเรื่องนี้ อาจเพราะว่าเรามีหนังที่ทำให้เราหัวเราะได้มากกว่านี้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วผมเลยไม่ได้ยกให้นี่คือหนังที่ตลกที่สุดแห่งปี แต่ส้ม ปลา น้อย เป็นหนังที่สามารถดูเพื่อความเพลิดเพลินได้อย่างดีเลยครับ เรียกเสียงหัวเราะได้พอประมาณ ถึงเรื่องพล็อตมันจะมีขาดบ้างเกินบ้างก็มีส่วนดีมากๆ เข้ามาทำให้มองข้ามไปได้บ้าง ถือว่าน่าไปลองสักครั้งครับ เป็นหนังตลก2021 ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง เคาะคะแนนไปที่ 7/10 ครับ ดูหนังออนไลน์

รีวิว LEIO โคตรแย้ยักษ์

รีวิว LEIO โคตรแย้ยักษ์

รีวิว LEIO โคตรแย้ยักษ์

 

หนังไทยมาใหม่ หนังภาพยนตร์แอคชั่น แฟนตาซี เรื่องนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของวงการหนังไทยเลยกะว่าได้ เนื่องจากกราฟฟิกสุดอลังกาลที่ใช้ CG ขั้นสูงมาใช้อย่างที่ไม่เคยมีหรือน้อยมากๆ ในวงการหนังไทย หนังมอนสเตอร์ไทย กำกับโดย ชาลิต ไกรเลิศมงคล และ ชิตพล เรืองกัลป์ นักแสดงนำ กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล, ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์, จีน่า-ณัฐชา เดอซูซ่า และ ปาล์ม – ศุภชัย สุวรรณอ่อน ดูหนังออนไลน์ โคตรแย้ยักษ์

สัตว์ประหลาดแย้ยักษ์สัญชาติไทย ที่ถ่ายทำ โดยเทคนิค CG ขั้นสูง ฝีมือคนไทยกับการเปิด สำหรับเทศกาล หนังนูชาเทล แฟนตาสติก นานาชาติ ได้จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2000 โดยมีเป้าหมายหลักคือนำเสนอภาพยนตร์แนวฌอง (Gnere) จากทั่วโลกให้ประชาชนชาวสวิสเซอร์แลนด์ และ ทั่วยุโรปได้ชม ตลอดระยะ 22 ปีที่ผ่านมา ดูหนังออนไลน์

รีวิว LEIO โคตรแย้ยักษ์

มีภาพยนตร์ดัง ๆ ที่เคยถูกเลือกฉายในเทศกาล ไม่ว่าจะเป็น “Valhalla Rising” ของผู้กำกับ นิโคลัส ไวน์ดิง เรฟน, “Under the Shadow” ของผู้กำกับ บาบัค อันวารี, “Enter the Void” ของ กัสปาร์ โน หรือ หนังไทย “ฉลาดเกมส์โกง” ของ ณัฐวุฒิ พูนพิริยะ เป็นต้น

ทั้งนี้ Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ เป็นตัวแทนหนังไทยเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้ร่วมเทศกาลหนังดังกล่าวในปีนี้ โดยมีคิวฉายรอบปฐมทัศน์โลกในวันที่ 5 กรกฎาคม และ ยังมีฉายอีกรอบในเทศกาลในวันที่ 8 กรกฎาคม ตามลำดับ โดยนับว่าเป็นการเปิดตัวฉายอย่างเฉิดฉายในต่างแดน ก่อนกลับมาลงโรงในแฟนหนังชาวไทยได้ดูกันอย่างเต็มตาในวันที่ 28 กรกฏาคมนี้

รีวิว LEIO โคตรแย้ยักษ์

รีวิวหนังดัง ที่เกิดขึ้นในดินแดนอีสานที่แห้งแล้ง ณ จังหวัดเลย ที่ประสบปัญหากับภัยแล้งเป็นประจำทุกปี จึงเกิดกลุ่มคนที่แย่งชิงการขุดเจาะหาแหล่งน้ำบาดาลเกิดขึ้น กลุ่มคนที่แสวงหาผลประโยชน์จากการขุดเจาะน้ำบาดาลที่จะสร้างรายได้ให้พวกเขาอย่างมหาศาล เพียงเพราะต้องการหาแหล่งน้ำบาดาลพวกเขาจึงต้องตระเวน เจาะ ขุด หาแหล่งน้ำให้ลึกลงไปถึงชั้นใต้ดิน

แต่ใครจะรู้เลยว่าการขุดเจาะ ในครั้งนี้จะเปลี่ยนจากดินแดนสวรรค์ ให้กลับกลายเป็นนรก ในทันที เมื่อสัตว์ประหลาดร้ายสายพันธุ์ดึกดำบรรพ์ ตื่นจากการจำศีลเพราะการถูกปลุก จากพวกเขา โดยเนื้อหาของ Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ ที่เปิดเผยออกมาในตอนนี้ จะว่าด้วยเรื่องราวของ เก้า (กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล) แรปเปอร์หนุ่มที่กำลังเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมาย ดูหนัง

รีวิว LEIO โคตรแย้ยักษ์

เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อพักผ่อนจิตใจ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเก้าต้องมาเผชิญหน้ากับแย้ยักษ์ที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และ เข้าทำร้ายชาวบ้าน ภาพยนตร์จะได้ ชาลิต ไกรเลิศมงคล และ ชิตพล เรืองกัลป์ มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมด้วย กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล

จากซีรีส์ The Graduates บัณฑิตเจ็บใหม่ (2563), ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ ดูหนังฟรี จากซีรีส์ Me Always You รักวุ่นวาย ยัยตัวป่วน (2564), จีน่า-ณัฐชา เดอซูซ่า จากซีรีส์ Bangkok รัก Stories ตอน Please (2560) และ ปาล์ม-ศุภชัย สุวรรณอ่อน จากละคร ไปให้ถึงดวงดาว (2564) มารับบทนำ

สรุป LEIO โคตรแย้ยักษ์

รีวิวหนังดัง สำหรับ Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ เป็นหนังแอคชั่นไซไฟ ระทึกขวัญที่ว่าด้วยการค้นพบเจ้าแย้ตัวใหญ่ยักษ์ออกมาอาละวาด โดยเป็นผลงานการกำกับ หนังใหญ่ครั้งแรกของ “ชาลิต ไกรเลิศมงคล” และ “ชิตพล เรืองกัลป์” ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเทคนิคพิเศษ และมิวสิควิดีโอ

ซึ่งจะได้ Fatcats Studio ผู้สร้างงานเทคนิคพิเศษอันดับต้น ๆ ของไทยมาสร้างสรรค์ผลงานร่วมด้วย พร้อมกับมี “กอล์ฟ พิชญะ” และ “ฟาง ธนันต์ธรญ์” แสดงนำ โดยในงาน “I am monster Line up 2022” ที่เพิ่งจัดขึ้นเพื่อเปิดตัวจักรวาลหนังสัตว์ประหลาด 3 เรื่อง ได้แก่ Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์, แสงกระสือ 2, The One Hundred นั้น ทาง เนรมิตรหนัง ฟิล์ม ได้ปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ ให้ดูกันเป็นครั้งแรก

ผลปรากฎว่าได้รับความสนใจมากถึงขนาดมีผู้เข้ามาคลิกชมทีเซอร์ตัวอย่างภาพยนตร์วันแรก “1วัน 1ล้านวิว” ไปเป็นที่เรียบร้อย “Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนสุดแห้งแล้งแถบภาคอีสานในจังหวัดเลยที่ประสบปัญหากับภัยแล้งเป็นประจำทุกปี จึงเกิดกลุ่มคนที่แสวงหาผลประโยชน์จากการขุดเจาะน้ำบาดาลที่จะสร้างรายได้ให้พวกเขาอย่างมหาศาลเกิดขึ้น

พวกเขาตระเวน เจาะ ขุด หาแหล่งน้ำให้ลึกลงไปถึงชั้นใต้ดิน แต่ใครจะรู้เลยว่าการขุดเจาะในครั้งนี้จะเปลี่ยนดินแดนสวรรค์ให้กลับกลายเป็นนรกในทันที เมื่อสัตว์ประหลาดร้ายสายพันธุ์ดึกดำบรรพ์ตื่นจากการจำศีลเพราะการถูกพวกเขาปลุกนั่นเอง สัตว์นักล่าสายพันธุ์ใหม่ขนาดมหึมาที่ล่าใครแล้วโอกาสรอดยาก พวกเขาต้องหาทางรับมือกับมันอย่างไม่มีทางเลือก ทางเดียวที่จะรอดคือต้องสู้! ดูหนังออนไลน์

“Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์” นำแสดงโดย กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล ประกบ ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ โดย กอล์ฟ-พิชญะ รับบท เก้า ศิลปินหนุ่มตกอับ ผู้ที่กลับมาบ้านเกิดเพื่อหวังจะล่าเงินล้านจากการขุดหาน้ำบาดาล, ฟาง-ธนันต์ธรญ์ รับบท ฝน อินฟลูเอ็นเซอร์สาว เจ้าของโปรเจกต์ล่าเงินล้าน

“Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์” เป็นการจับมือกับ Fatcat Studios บริษัทสตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ชั้นนำของเมืองไทย ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานคอมพิวเตอร์กราฟิก (CG) สุดยิ่งใหญ่มากมาย อย่าง นาคี 1- 2 และ ขุนแผน ฟ้าฟื้น ผนึกกำลังสร้างภาพยนตร์สัตว์ประหลาดสัญชาติไทย แนวแอ็คชั่น-ผจญภัย ใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบคอมพิวเตอร์กราฟิก ฉีกกรอบจากแนวหนังเดิม ๆ เพิ่มความแปลกใหม่ และ รสชาติใหม่ ๆ ให้กับคนดู พร้อมผลักดันวงการซีจีภาพยนตร์ไทยสู่สากล ดูหนัง

รายละเอียดหนัง
ฉายวันที่ : 28 กรกฎาคม 2022
ผู้กำกับ : ชาลิต ไกรเลิศมงคล, ชิตพล เรืองกัลป์
นำแสดงโดย : กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล, ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์, จีน่า-ณัฐชา เดอซูซ่า, ปาล์ม – ศุภชัย สุวรรณอ่อน
ชื่อหนัง : LEIO (2022)
IMDB : N/A

รีวิว The Wrath of God

รีวิว The Wrath of God

รีวิว The Wrath of God

รีวิวหนังดัง ในที่สุด Netflix ก็ได้เอาจริงสักที โดยได้สร้างหนังสยองขวัญที่แอดรับรองเลยว่าหลังจากได้ดูแล้ว หลอนไปหลานวันเลยครับ ฮ่า ๆ สร้างภาพยนตร์เช่น พระพิโรธของพระเจ้า ความมั่นใจในตนเอง ที่ชั่วร้าย อาจมีหนังระทึกขวัญทั่วไป ที่เขียนอย่างรีบร้อน ในบางครั้งที่น่าสยดสยอง เช่นนี้สำหรับทุกภาษาในตลาดต่างประเทศของสตรีมเมอร์ แสดงผลใช้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถพุ่งขึ้นสู่ระดับภาพยนตร์ 10 อันดับแรก เป็นเวลาหนึ่งหรือสามวัน แล้วค่อยจางหายไป

หลุมน้ำมันดินที่ลึกขึ้นของเมนูบนหน้าจอ ซึ่งสามารถครึ่งชีวิต ในการสลายตัวได้ เรื่องนี้เป็นภาษาอาร์เจนติน่า สร้างจากนวนิยายของกิเยร์โม มาร์ติเนซ และ ในขณะที่คุณกำลังจะค้นพบ แทบจะไม่ต้องสร้างความแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน เว็บดูหนัง

รีวิว The Wrath of God

รีวิวหนังดัง เริ่มต้นด้วยเสียงปรบมือของคลอสเตอร์ (ดีเอโก เปเรตตี) นักเขียนนวนิยายอาชญากรรมผู้มั่งคั่ง และ มีชื่อเสียง ซึ่งเพิ่งอ่านหนังสือเล่มใหม่ของเขาเพื่อผู้ชมที่ชื่นชอบ พวกเขาทั้งหมดต้องการรูปถ่ายหรือลายเซ็นที่บันทึกไว้สำหรับ Esteban Rey (Juan Minujin) ซึ่งชี้ไปที่ระเบียง Luciana (Macarena Achaga) อยู่บนนั้น เธอดูสิ้นหวังเหมือนไม่ได้นอนมาหลายสัปดาห์แล้ว

ถ้าเธอไม่ไปพบคลอสเตอร์ เธอจะก่อเหตุ เขาขึ้นไปที่นั่น ตัดไปที่ Rey และ นอกจอ บางสิ่งบางอย่างทำให้กระหน่ำอย่างน่าสะอิดสะเอียน ก่อนที่เราจะไปไกลกว่านี้ ดูเหมือนว่าสำคัญที่จะแจ้งให้คุณทราบว่านี่เป็นหนึ่งในข้อตกลงประเภทการเล่าเรื่องแบบบุ๊คเอนด์ ซึ่งภาพยนตร์จะแยกไปยังอีกฉากหนึ่งที่มีดนตรีที่มีความดราม่าสูง และ คำบรรยายที่อ่านได้บางอย่างเช่น 12 YEARS EARLIER และ จากที่นั่น หนังก็กลับมาสู่ฉากตั้งแต่เปิดฉาก คุณรู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร – ทำไมต้องเปิดใจกับ สิ่งที่น่าเบื่อ และ ทำงานให้กับ สิ่งที่น่าตื่นเต้นในเมื่อคุณสามารถตัดสิ่งที่น่าตื่นเต้น ลงครึ่งหนึ่ง แล้ววางชิ้นหนึ่งไว้ข้างหน้า และ อีกอันในตอนท้าย

ดังนั้น: เมื่อ 12 ปีก่อน นี่คือตอนที่ Luciana เป็นผู้ช่วยของ Kloster โดยเขียนตามคำบอกในนิยายเรื่องหนึ่งของเขา เขาเดินไปที่ห้อง และ พูดในขณะที่เธอพิมพ์ คนเขียนแบบนี้? ฉันคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับเหงื่ออันน่าสังเวชของนักเขียนที่ซึมเข้าไปในแป้นพิมพ์มากกว่า อย่างไรก็ตาม Luciana รักลูกสาวตัวน้อยของ Kloster และ พวกเขาก็เล่นตุ๊กตาด้วยกัน

และ ภรรยาของ Kloster ก็ดูไม่ค่อยสบายนัก อาจเป็นเพราะอาการบาดเจ็บที่เป็นเวรเป็นกรรมทำลายอาชีพนักบัลเล่ต์ของเธอ ตัดไปที่: ปัจจุบัน แต่นี่เป็นเรื่องโกหก! ไอ้เวรนั่นมันโกหก! เพราะถ้าเป็นยุคปัจจุบัน ฉากเปิดที่มีการอ่านหนังสือ และ อิ๊กกี้ thump จะเป็นฉากจาก (คิว แธมมิน มิวสิค) THE FUTURE อันที่จริง เรายังต้องพยายามจนถึงฉากกระหน่ำ จากฉากนี้ ซึ่งเรย์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาที่หนังสือพิมพ์ ซึ่งก็ชัดเจนก่อนถึงวันปัจจุบัน 1 หรือ 10 วัน

รีวิว The Wrath of God

แต่! เราไม่ได้อยู่กับ ปัจจุบันนานนักก่อนที่มันจะย้อนไปเมื่อ 12 ปีก่อน เมื่อลูเซียน่า อีกด้วย ทำงานเป็นผู้ช่วยของ Rey เพราะในขณะนั้นเขาเองก็เขียนนวนิยายของเขาแทนการทรมานตัวเองอย่างโดดเดี่ยวบนแล็ปท็อป จากนั้นย้อนกลับไปในวันก่อน PRESENT DAY เมื่อ Luciana ถาม Rey ซึ่งปัจจุบันเป็นนักข่าวที่เป็นโรคลมชักที่เกี่ยวข้อง กับการดื่มสุราอย่างถาวร เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะเธอมั่นใจว่า Kloster ได้ฆ่าครอบครัวของเธอทีละคนในช่วงสุดท้าย (คุณเดาได้) มัน) 12 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน (หมายเหตุ: คำบรรยายเหล่านี้ไม่ปรากฏขึ้นทุกครั้ง ฉันรู้สึกขอบคุณที่จดบันทึก) เมื่อคลอสเตอร์ตีความท่าทางไร้เดียงสาของ Luciana ผิด ๆ และ จูบปากของเธออย่างอ้วนท้วน เธอเดินออกไป ยื่นฟ้องในคดีล่วงละเมิดทางเพศ นั่งลงเพื่อไกล่เกลี่ย กับทนาย และ คลอสเตอร์ก็เดินเข้าไปในสภาพเหมือนถนนแย่ ๆ

ไม่กี่ไมล์ ตัดเช็คให้เธอ แล้วเดินออกไป ฮะ. นี่คือตอนที่ Luciana รู้ว่าภรรยา และ ลูกสาวของ Kloster ตายแล้ว และ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ฉันอดไม่ได้ที่จะสปอยล์ เวลาผ่านไปแต่ไม่มากนักที่เราตามทัน PRESENT DAY อาจจะมากกว่าหนึ่งเดือนหรือสามหรือหนึ่งปี และ Luciana และ ครอบครัวของเธอ – แม่, พ่อ, พี่ชายสองคน, น้องสาวหนึ่งคน – กำลังพักผ่อนที่ ชายหาด และ พี่ชายของเธอ ทหารรักษาพระองค์จมน้ำ และ ใครที่ยืนอยู่ตรงนั้น ยกเว้นคลอสเตอร์ เนื้อเรื่องเข้มข้น!

หนังเรื่องไหนที่จะทำให้คุณนึกถึง: ไม่ อากีร์เร หรือ ข่าน — ไม่เลยสักนิด ขอบคุณ เลือกภาพยนตร์แก้แค้นหรือฆาตกรต่อเนื่องทั่วไป ภาพยนตร์แก้แค้นทั่วไปหรือภาพยนตร์ฆาตกรต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ออกอากาศครั้งแรกบนสายเคเบิลพื้นฐาน ฉันต้องค้นหาภาพยนตร์ที่ฉันลืมไปเพื่อให้จำได้ว่ามีอยู่: นายบรู๊คส์ อาจจะหรือ คฤหาสน์โคลด์ครีก,ขยะอย่างนั้น. เว็บหนัง

ประสิทธิภาพที่ควรค่าแก่การชม: Peretti และ Minujin ดูเหมือนจะมีการแข่งขันกันเพื่อดูว่าใครสามารถแสดงอารมณ์ของ Gabriel Byrne ที่เข้มข้นที่สุดได้ โทรยาก แต่ฉันจะไป กับเปเร็ตตี

บทสนทนาที่น่าจดจำ: Kloster รู้สึกเบิกบาน-y: “เป็นเวลาหลายปีที่ฉันพยายามจินตนาการว่าทำไมเธอถึงสร้างเรื่องราวเหล่านี้กับฉัน… หนึ่งในสามเหตุผล – ความบ้าคลั่ง ความโหดร้าย หรือความรู้สึกผิด”

เพศ และ ผิวหนัง: ไม่มาก – ภาพ POV ที่น่าขนลุกของ Kloster มองลงมาที่เสื้อของ Luciana

สรุป The Wrath of God

รีวิวหนังดัง เป็นภาพยนตร์ที่เทียบเท่ากับนวนิยายระทึกขวัญที่คุณจะไปรับที่สนามบิน อ่านในสองชั่วโมง ทิ้งไว้ในกระเป๋าที่นั่ง และ ลืมไปทั้งหมดก่อนที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะกล่าวลา แต่มีคนรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ปรารถนาให้เป็นมากกว่านั้น มีการอ้างอิงถึงการกะพริบตา ต่อตาในพระคัมภีร์ไบเบิลบ่อย ๆ และ ชื่อเรื่องนั้น

ซึ่งอาจสมเหตุสมผลหากคุณยืดขอบเอวยางยืด ของคู่การตีความวรรณกรรม ของกางเกงชั้นในจนแตก และ ทิ้งรอยแดงไว้ที่ตูดของคุณ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้คลอสเตอร์แสดงลักษณะเป็นอัจฉริยะด้านวรรณกรรมที่มักจะโบยบินด้วยน้ำเสียงที่อวดอ้างเกินพอเกี่ยวกับธีมงานอันยิ่งใหญ่ของเขา แต่สิ่งที่เขาบอกกับลูเซียนานั้นฟังดูเหมือนเป็นภาพจำลองที่เยือกเย็นอย่างเยือกเย็น – เป็นคำอุปมาที่ไม่คาดคิดสำหรับตัวหนังเอง

รีวิว The Wrath of God

ภาพยนตร์เรื่องนี้ขอให้เราอยู่บนเรือเพื่อดูว่าข้อกล่าวหาของ Luciana เป็นความจริงหรือว่าเธอเป็นบ้า Kloster อยู่เบื้องหลังการลดจำนวนประชากรที่น่าสยดสยองของครอบครัวของเธอหรือไม่? หรือสถานการณ์นี้เป็นเพียงอุบัติเหตุรถ 40 คันที่บ้าคลั่ง?

เราถูกล่อลวงให้เชื่อลูกสาวที่บริสุทธิ์ของศิษยาภิบาลมากกว่าคืบคลานแก่ที่น่ากลัว และ น่ากลัวที่ถูกครอบครัวของเขาตามหลอกหลอน ทำไม อื่น เขาจะล้อเลียนเรื่องศีลธรรมในพระคัมภีร์เดิมที่น่าสงสัยอยู่เสมอหรือไม่?

แต่มันยากที่จะรู้สึกว่าลงทุนในไดนามิกที่ล้นเกินนี้เมื่อตัวละครบางแบบเวเฟอร์ น้ำเสียงทำให้เราหายใจไม่ออกด้วยความซีเรียสในตัวเอง ไทม์ไลน์ถูกแฮ็กสำหรับบาร์บีคิว ( KINGDOM ของฉันสำหรับการเล่าเรื่องแบบ LINEAR!) และบทสรุปก็ไม่น่าแปลกใจ หรือยั่วยุหรือน่าพอใจเป็นพิเศษแม้ในระดับผิวเผิน นี่คือสิ่งที่สีโดยตัวเลขส่งผ่านตัวเองออกเป็นแรมแบรนดท์ โอเค อาจจะแค่ ส่วนน้อย แรมแบรนดท์. แต่ความคิดยังคงน่าหัวเราะ ดูหนัง

รีวิว The Invisible Guest

รีวิว The Invisible Guest

รีวิว The Invisible Guest

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับ วันนี้แอดมินเค จะมาแนะนำหนังแนวสืบสวน แนวคดี หนังจากสเปนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับ หลายคนอาจจะรู้จักวงการภาพยนตร์ประเทศสเปน จากชื่อเสียงในเวทีรางวัลผ่านผลงานสไตล์เมโลดราม่าอันฉูดฉาดของ เปรโด อัลโมโดวาร์ มาก่อน แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีหนังตลาดยอดนิยมทำเงินในประเทศ และ สร้างชื่อระดับนานาชาติเช่นกันด้วยหนังแนวสยองขวัญ-สืบสวนหักมุม ซึ่งนับเป็นตระกูลหนังแนวถนัดของคนทำหนังสเปนยุคใหม่ รวมไปถึง The Invisible Guest หรือ Contratiempo ผลงานกำกับของ โอริโอล เปาโลเรื่องนี้ รีวิว The Invisible Guest (2016) : แขกไม่ได้รับเชิญ หนังดราม่าสืบสวนสอบสวนสัญชาติสเปน ที่จะปั่นหัวคุณ แล้วทำคุณอึ้งในตอนจบ

เปาโลมีผลงานแจ้งเกิดในฐานะคนเขียนบท Julia’s Eyes(2010) หนังระทึกขวัญที่ประสบความสำเร็จทั้งเงิน และ กล่อง ก่อนจะ ได้ทำหน้าที่กำกับ และ เขียนบทหนังเรื่องแรกใน The Body เมื่อปี 2012 ซึ่งถูกนำไปรีเมคถึงสามครั้งด้วยกัน กับหนังปี 2016 เรื่องนี้แม้จะ ไม่ได้ประสบความสำเร็จในบ้านเกิดมากนัก แต่กลับทำเงินในประเทศจีนถึง 25.9 ล้านเหรียญฯ และ ก็ถูกนำไปรีเมคเป็นหนังอิตาลีในชื่อ Il testimone invisibile เมื่อปี 2018 และ หนังอินเดียถึงสองเวอร์ชั่น คือภาษาฮินดูในชื่อ Badla และ ภาษาเตลูกู ในชื่อ Evaru เข้าฉายในปี 2019 ช่วงไล่เลี่ยกัน (คลิกดูได้ผ่าน Netflix ชื่อไทย “แค้น”) ซึ่งสะท้อนให้เห็นเช่นกันถึงความสนุกแพรวพราวของบทที่ไร้พรมแดนทางวัฒนธรรม สามารถดัดแปลงให้กับคนดูชาติอื่นได้ง่าย จนผู้สร้างจากหลายประเทศเล็งเห็นซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใหม่ เว็บดูหนัง

รีวิว The Invisible Guest

รีวิวหนังดัง The Invisible Guest เป็นเรื่องราวของ Adrián Doria นักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด แต่กลับเป็นผู้ต้องหาในการก่อคดีฆาตกรรมแฟนสาวลับ ๆ ของเขาเองคือ Laura Vidal ซึ่งทางตำรวจก็ได้สรุปคดีว่าไม่มีทางที่จะ เป็นคนอื่นไปได้เพราะเหตุเกิดขึ้นในโรงแรม ที่ถูกล๊อคทุกอย่างภายในห้อง แต่ตัวเขาเอารู้ว่าเขาไม่ได้ทำ เขาถูกจัดฉาก ดังนั้นเขาจึงให้ Félix Leiva ทนายของบริษัทช่วยแก้ต่างในคดี แต่เนื่องจากคดีมีความซับซ้อนจนเกินไป Félix จึงไหว้วานให้ทนายมือดีที่สุดคนหนึ่งที่ไม่เคยแพ้ก็ดีเลยคือ Virginia Goodman มาช่วย ดังนั้น Adrián Doria จึงจำเป็น จะต้องเล่าทุกอย่างให้ Virginia Goodman ฟัง โดยไม่ทิ้งช่องโหว่อะไรเอาไว้เลย เรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร มีความสลับซับซ้อนมากแค่ไหน คงไม่สามารถเล่าได้ต้องไปชมกันใน Netflix เอาเองครับ

เนื่องจาก The Invisible Guest เป็นหนังสืบสวนสอบสวน ลึกลับ ความลับ ดังนั้นจึงไม่พ้นกลวิธีในการเล่าเรื่องแบบค่อย ๆ เปิดเผยไปที่ละขึ้นตอน เราจะรู้เรื่องราวทีละจุด ผ่านการสนทนาระหว่างทนายความ กับลูกความ ลูกความจะค่อย ๆ เล่าความจริง ให้ทนายความฟัง วิธีการเหล่านั้นจะ ทำให้เราย้อนกลับไปในอดีต ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตัดสลับไปมาระหว่างภาพ “ความจริง” ที่เกิดขึ้นกับการสนทนาของตัวละคร ทุกครั้งที่ภาพตัดกับไปในอดีตเราก็จะค่อย ๆ รู้เรื่องเราเหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ ไปทีละชิ้นจนเกิดภาพใหญ่ ซึ่งเราจะต้องตามตัวละครเอก 2 ตัวนี้ไปให้ถึงจนจบ แล้วเราก็ จะสามารถประติดประต่อเรื่องราวของเรื่องได้นั่นแหละ

รีวิว The Invisible Guest

โดยส่วนตัวผมมองว่าผู้กำกับ และ คนเขียนบทเขาวางทุกอย่าง เอาไว้ค่อนข้างดี ทำให้เราเชื่อว่า “กับดัก” ที่เขาต้องการวางไว้ในจุดที่เหมาะสม และ เมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญเมื่อเราเดินเช้าไปในกับดักนั้น “กับดัก” ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างถูกที่ถูกเวลาแลัค่อนมีประสิทธิภาพ สิ่งละอันพัน ละน้อยก็ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นแหละสามารถช่วยทำให้เนื้อเรื่องไม่มีช่องโหว่ไหลราบรื่น เรียกได้ว่าล่อลวงคนดูได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสืบสวนสอบสวน หรือแฟนพันธุ์แท้นิยายสืบสวนสอบสวน สำหรับผมมองว่าเรื่องนี้ดำเนิน ล่อลวง และ เฉลยไปได้ ตามขนบที่ควรจะเป็น เว็บหนัง

หนังใช้นักแสดงน้อย แต่นักแสดงทุกคนล้วนแต่มีบทที่สำคัญ เหมือนกับเป็นชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่ไม่สามารถขาดได้เลย โดยเฉพาะการสนทนาระหว่างทนายกับลูกความ หนังได้ใช้สองคนนี้ หลอกล่อคนดูไปมาอย่างอยู่หมัด เป็นการหลอกล่อที่สร้างความสับสนมึนงงงแต่ดีงามตามขนบหนังสืบสวนสอบสวน

สรุป The Invisible Guest

รีวิวหนังดัง หนังยังโดดเด่นด้วยการออกแบบอาคาร ซึ่งพ้องกับอาชีพของเอเดรียน ห้องพักของเขาโปร่งใสด้วยสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่สามารถเห็นภายในห้องได้ชัดเจน แต่ตัวเขากลับปกปิดความเลวร้ายของตนเอาไว้มากมายกว่าที่คาดคิด และ มั่นใจอย่างยิ่งแม้จะเห็นผู้ต้องสงสัยผ่านอาคารฝั่งตรงข้าม เพราะเชื่อในความเหนือกว่าของตน แต่มันก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ย้อนมาหาตนเอง

นี่ยังป็นตัวอย่างช้นดีของหนังเขย่าขวัญหักมุมที่ไม่ต้องเร้าอารมณ์จนเกินไป พร้อมกันนั้นก็เป็นกลวิธีการหักมุมซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งหากพลาดขึ้นมาวิธีเช่นนี้อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้จับผิดได้ แต่ด้วยบทที่ผ่านการเขียนอย่างรัดกุม การหักมุมที่มากมายจึงไม่ล้น และ รู้สึกถึงความจงใจแบบซีรี่ส์อเมริกาหลายเรื่องที่มักหักมุมทุกช่วงเบรกโฆษณา

แต่หากถามว่า เรื่องราวทั้งหมดดำเนินมาจนถึงจุดเฉลยแล้วสร้างความประหลาดใจให้กับผมมากน้อยเพียงใด มันจะทำให้ The Invisible Guest กลายเป็นสุดยอดภาพยนต์หักมุมระดับตำนานตามที่ผมยกตัวอย่างในตอนต้นได้หรือไม่นั้น ผมคงตอบได้ว่ามันไม่สามารถไปถึงการเป็นภาพยนตร์หักมุมระดับยกมือขึ้นปิดปากทาบอกได้แน่นอน มันยัง “เบา” เกินไป แต่ผมเชื่อว่าหาใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ภาพยนตร์สืบสวนสอบสวน หรือแฟนพันธุ์แท้นิยายสืบสวนสอบสวน มันจะมีบางจุดที่ทำให้คุณพอจะคาดเดาบางสิ่งบางอย่างได้บ้าง แต่นั่นก็เกือบท้ายเรื่องแล้วนะ

หนังได้แสดงถึงการเอาตัวรอดของมนุษย์ การทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ตัวเองรอด แล้วเมื่อสถานการณ์บีบบังคับไปจนถึงจุดสูงสุด สถานการณ์การบีบรัดจนตัวมากที่สุด มนุษย์เราก็จะขาดสติ สร้างช่องโหว่ให้กับตัวเองได้อย่างมากมาย ประเด็นนี้แหละที่หนังสามารถเอามาเล่นได้ค่อนข้างดีงาม

รีวิว The Invisible Guest

ความแตกต่างอย่างหนึ่งซึ่งผมถือว่าเป็นความดีของเรื่องคือ เรารู้ว่าใครเป็นคนผิด แต่เรากลับเอาใจช่วย “คนผิด” มากกว่า “คนถูก” นั้นได้เฉยเลย

เนื่องจากเป็นหนังสืบสวนสอบสวนที่เน้นเรื่องการสนทนาระหว่างตัวละคร ดังนั้นเวลาที่คุณดูจะต้องมีความตั้งใจ และ เนื่องจากเป็นหนังภาษาสเปน คุณจะต้องอ่าน subtitle ให้ละเอียดพอสมควร ไม่อย่างนั้นคุณจะพลาดบางสิ่งบางอย่างไปได้ และ บางสิ่งบางอย่างนั้นอาจใจเป็นจุดสำคัญที่สุดของเรื่องเลยทีเดียว ดังนั้นคุณจะต้องมีสมาธิ และ ไม่ทำสิ่งอื่นระหว่างชม

แต่เนื่องจากเป็นหนังที่เน้นเรื่องการสนทนาระหว่างตัวละคร มันจึงมีบางจุดที่อาจทำให้คุณรู้สึกว่าช้า อาจมีบางจุดที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อได้บ้าง แต่หนังก็ยังฉลาดพอที่รู้จักจะใส่ Sound ประกอบ ให้เราได้รู้สึกได้ลุ้นบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้บ้าง

“ความรู้สึกส่วนตัวและอารมณ์ของภาพยนตร์ที่เรารู้สึกนึกถึง”

หนังเรื่องนี้ มีการใช้ทฤษฎี การเล่าเรื่องตามหา ความจริงแบบหนังชั้นครูอย่าง “Rashomon” คือคุณจะได้เห็นทุกมิติ ของคดีว่าสามารถออกได้ทางไหนบ้าง แต่เรื่องนี้เขามีสรุปให้ ไม่ได้เปิดให้เราไปคิดเองว่าความจริงเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าผมสนุกมากเพราะ เออ มันออกได้ทุกมิติจริง ๆ คำให้การของผู้ร้ายนี่เชื่อไม่ได้เลย ทนายก็เก่งเกินไล่ตอนจนเจอ 555 ดูหนัง
ในขณะที่รับชม The Invisible guest อยู่นั้น ผมก็นึกถึงการหักเหลี่ยม เฉือนคม ไล่ต้อนฆาตกรแบบนี้ ที่ไหนมาก่อนและก็นึกออกว่าอารมณ์ความเข้มข้น ของหนังเรื่องนี้มันคล้าย ๆ กับ ภาพยนตร์เรื่อง Sleuth (2007) ที่ Jude law และ Michael Caine แสดงไว้แต่เรื่องนั้น เขาเล่นกันสองคนเพรียว ๆ เลย แต่อารมณ์การฟาดฟันกันด้วยมันสมองคล้าย ๆ กับ The invisible guest ครับ

ข้อมูลภาพยนตร์

The invisible guest เข้าฉายครั้งแรกที่ประเทศสเปน 6 มกราคม 2017
ความยาว 1 ชั่วโมง 46 นาที
ชื่อต้นฉบับ Contratiempo
สามารถรับชมได้ทาง Netflix