Category Archives: หนังไทยย้อนยุค

รีวิว Iron Man 1

รีวิว Iron Man 1

รีวิว Iron Man 1

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับ อย่างที่รู้ๆกันดีว่า ไอร่อนแมน นั้น เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ MARVEL สุดคลาสสิก ไอร่อนแมนภาคนี้ที่แอดจะมารีวิวคือภาค 1 หนังซูเปอร์ฮีโร่ อย่างเรื่องไอหุ่นเหล็ก ไอร่อนแมน สุดมันส์ของค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Marvel ที่มีชื่อว่า Iron Man นั้น (มหาประลัยคนเกราะเหล็ก) โดยกำกับการแสดงโดย จอน แฟฟโรว์ เป็นหนังแนวแอคชั่นซูเปอร์ฮีโร ที่กวาดรายได้ถล่มทลายไปถึง 585.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

นำแสดงโดย โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบท (โทนี่ สตาร์ค),กวินเน็ธ พัล โทรว์ รับบท (เปปเปอร์ พอต),เจฟฟ์ บริดเจ็ดส์ รับบท โอบาไดห์ สเตน (ลุงของโทนี่ สตาร์ค) เทอร์เรนส์ โฮวาร์ด รับบท นาวาอากาศโท เจมส์ โรดส์ (เพื่อนสนิทของโทนี่ สตาร์ค) จอน ฟาฟาโร รับบท แฮปปี้ โฮแกน (บริการ์ดผู็ซื่อสัตย์ของโทนี่ สตาร์ค) และ ดาราสมทบอีกมากมายที่จะมาสร้างความสนุกให้กับคุณในหนังแอคชั่นสุดมันส์เรื่องนี้ เว็บหนัง

รีวิว Iron Man 1

รีวิวหนังดัง โทนี่ สตาร์ค เป็นนักประดิษฐ์ และ นักอุตสาหกรรม มหาเศรษฐีพันล้าน ที่ถูกลักพาตัวไป ขณะอยู่ต่างบ้าน ต่างเมือง แล้ว ก็ถูกบีบบังคับ ให้คิดค้นอาวุธ ที่มีประสิทธิภาพ การทำลายล้างสูงแทน ที่เขาจะใช้สติปัญญา อันปราดเปรื่อง และแนว คิดอัจฉริยะ ประดิษฐ์ตามคำสั่ง แต่ว่าโทนี่กลับสร้างชุดเกราะไฮเทค และ หนีรอด การถูกจอง จำมาได้ พอกลับมา ยังอเมริกาโทนี่ ก็ต้องเผชิญหน้า กับอดีต และ ล่วงรู้แผนการชั่วร้าย ที่มุ่งทำลาย ล้างโลก เขาจึงต้องสวมชุดเกราะ ทรงพลัง และ ปฏิญาณว่า จะพิทักษ์โลกใบนี้ ในนาม ไอรอน แมน

เมื่ออัจฉริยะ ผู้ผลิตอาวุธฆ่าคน กลับใจขอเป็นฮีโร่ ช่วยเพื่อนมนุษย์… นั่นคือ ที่มาของฮีโร่คนใหม่ สำหรับผมครับ ยอมรับว่า ไม่เคยรู้จักฮีโร่นามนี้มาก่อนเลยในชีวิต จนมาได้ยิน และ เห็นภาพจากตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งในเว็บในโรง และ ในจอ ‘Iron Man – ไอรอนแมน’

รีวิว Iron Man 1

หลังจากซื้อ Voucher ดู 2 ฟรี 1 ของ Paragon Cineplex ไป วันนี้ ต้องขอใช้สิทธิ์เสียหน่อย จองตั๋วรอบ 17.55 น. โรงภาวาลัย แต่ถูกจำกัดว่า สลากที่จับมานี้ เขาให้ดูได้เฉพาะที่นั่งปกติราคา 140 บาท ก็เลยจำใจต้องเลือกแถวหลังสุดของราคานี้ ไม่พอ ยังต้องจ่าย VAT อีก 40 บาทอีก จะให้ฟรีก็ยังมีโน่นมีนี่เนอะ

หน้าบูดเดินกลับออกมาจากบูธขายตั๋วนิดหน่อย เอาก็เอาว่ะ ถือซะว่า ได้ดูหนังในราคาคนละ 20 บาท แม้จะไม่ฟรีอย่างที่มันบอกก็เถอะ เข้าไปในโรง อืมม ตำแหน่งแถว N นี่ก็โอนะ ไม่ถึงกับคอตั้งบ่าเกินไป นอนเอียงคอดูได้อย่างเต็มที่ นี่ถ้าหนังไม่สนุกล่ะก็ หลับในท่านั้นได้เลยนะ จะบอกให้

‘ไอรอนแมน’ คือ ฮีโร่ตัวใหม่สำหรับผม ในสังกัดของ Marvel Comics หรือ Marvel Studios สำหรับเวอร์ชั่นหนัง นำแสดงโดย Robert Downey Jr. ผู้มีหนวดมีเคราเร้าใจสาว แถมยังมีลูกน้องสาวคู่ใจอย่าง Gwyneth Paltrow อีก ไม่เบาทีเดียว มีดารานำเป็นแม่เหล็กทั้งฝั่งหญิงฝั่งชายเลยเชียว

รีวิว Iron Man 1

ดูท่าทาง โทนี่ สตาร์ค พระเอกของเราจะเป็นพวกทะลึ่งตึงตังไม่ใช่เล่น จีบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เนื้อหอมซะมากมาย แต่กลายเป็นอัจฉริยะไปซะงั้น บริษัทของเขาร่ำรวยมหาศาล ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ ๆ ให้กับกองทัพสหรัฐฯ และ คิดว่า อาวุธพวกนั้นจะช่วยคุ้มครองปกป้องทหารของพวกเขา

แต่เมื่อวันหนึ่ง เขาต้องตกไปอยู่ในวงล้อมของกลุ่มติดอาวุธนาม Ten Rings ในอัฟกานิสถาน เขาจึงได้รู้ว่า เมื่ออาวุธของเขาไปอยู่ในหมู่ศัตรู มันได้ทำร้ายผู้คนมากมาย โดยเฉพาะคนของชาติตัวเอง ถึงเวลาที่เขาต้องทำอะไรสักอย่าง อย่างที่อัจฉริยะของโลกคนหนึ่งจะกระทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลก นั่นคือ เขาได้ผลิตชุดเกราะขึ้นมา กันกระสุนได้ในระดับหนึ่ง แต่ว่า มีอาวุธครบครัน และ เหาะได้ ดูหนัง

สรุป Iron Man 1

รีวิวหนังดัง ไม่บอกก็รู้ว่า นี่จะเป็นหนังฮีโร่ซีรี่ส์เรื่องถัดไป ใช่แล้ว มันไม่ได้มาแค่ภาคเดียว แล้ว ก็ไปอย่างแน่นอน นี่เป็นเพียงภาคเริ่มต้นของมนุษย์เหล็กไหล(พันธุ์ตะวันตก)เท่านั้น ภาคเปิดตัวนี้ เล่าที่มาที่ไปของฮีโร่พันธุ์นี้อย่างสนุก และ ขี้เล่น ฮีโร่เรา เจ้าชู้ และ รวยอารมณ์ขันเสียนี่กระไร แจกมุกฮา ๆ ให้ได้หัวเราะร่วนกันรายทาง เรียกได้ว่า เป็นหนังฮีโร่พันธุ์อารมณ์ดีก็ว่าได้

เราได้เห็นชุดเกราะเวอร์ชั่นแรกสุดที่ยังดิบ ๆ กันอยู่เลย จนมาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่เติมสีแดงสีทองเข้ามา และ มีวิธีประกอบร่างอันซับซ้อนไม่ใช่เล่น มนุษย์ฮีโร่พันธุ์นี้ไม่ได้เป็นไซบอร์ก ไม่ได้เป็นมนุษย์ดัดแปลง แต่มีหัวใจที่ไม่สมบูรณ์ ต้องใช้พลังงานพิเศษเข้ามาช่วยเหลือ

รีวิว Iron Man 1

พลังงานตรงนั้น อยู่แถว ๆ หัวใจ ที่เห็นเป็นดวงไฟสว่าง ๆ นั่นแหละ แว้บ ๆ ไปดูคลิปการ์ตูน เห็นที่มันมีฮัลค์มาเจอกับไอรอนแมน ตัวพระเอกที่เป็นไอรอนแมนก็ไม่ได้มีอะไรแบบนี้นี่นา หรือว่าเขาเติมแคแรคเตอร์เข้าไป เพื่อสร้างจุดอ่อนให้กับพระเอกในเวอร์ชั่นหนังหว่า

ข้อดีของหนังเรื่อง IRONMAN
มหาประลัยคนเกราะเหล็กก็คือ ในด้านซีจี และ สเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เช่นในฉากตอนสวมชุดเกาะ และ การบินไปในอากาศ และ ฉากการต่อสู้ในแต่ละฉาก ซึ่งทำได้ยอดเยี่ยมจับผิดไม่ได้เลย รวมไปถึงการดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ก็มีความชัดเจน

ดูแล้ว เข้าใจง่าย และ ด้านดนตรีประกอบฉากก็ทำออกได้สนุกมันส์เร้าใจ รวมทั้งการสอดแทรกมุขตลกของหนังที่มีให้ดูอยู่บ่อย ๆ ทำให้ดู แล้ว ไม่เครียด เช่น ฉากที่โทนี่ทะเลาะกับพวกหุ่นยนต์ตอนสร้างชุดเกาะดู แล้ว ตลกมาก

ข้อเสียของหนัง
ก็คือ ไม่ชอบการให้บทกับโทนี่ สตาร์คต้องมีเตาปฏิกรอาร์คอยู่ในหน้าอก มันทำให้ดู แล้ว หดหู่ และ น่าสงสารมาก ๆ จริง ๆ แล้วไม่ต้องมีก็ได้ และ ข้อเสียอีกข้อก็คือ พระเอกน่าจะเก่งกว่านี้เพราะเท่าที่ดูกว่าจะชนะได้เกือบตาย

สรุปภาพรวมของหนังเรื่อง IRONMAN มหาประลัยคนเกราะเหล็ก เป็นหนังแอคชั่นที่มันส์และ สนุกมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการดำเนินเนื้อเรื่องที่ชวนให้ติดตาม บวกกับซีจี และ สเปเชียลเอฟเฟกต์ถือว่าทำออกมาได้ดีสุดยอดมาก ๆ สม แล้ว ที่สร้างรายได้จำนวนมาก ใครคนที่ชอบดูหนังซูปเปอร์ฮีโร่ของค่ายMarvel จึงไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้เด็ดขาด เว็บดูหนัง

รีวิว Shazam

รีวิว Shazam

รีวิว Shazam

หนังไทยย้อนยุค ถ้าให้พูดถึงหนัง Marvel กับ Dc ผมคงเลือกหนังค่าย Marvel แต่เรื่องนี้ เป็นหนัง ค่าย DC ที่ทำให้หนัง DC กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่อง SHAZAM เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่สายเกรียนของค่าย DC Comics โดยตัวหนัง SHAZAM เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ฉายความสว่างให้กับค่าย DC ต่อจากหนังเรื่อง Aquaman ซึ่งก่อนหน้านี้ทางค่ายหนัง Warner Bros. Pictures ก็ได้ทำแต่หนังโทนมืด ๆ มาโดยตลอดตัวอย่างเช่น Batman v Superman ซึ่งทางค่ายหนังก็ไม่ประสบความสำเร็จในหนังชุดนี้แล้วยังจะต่อด้วยหนังรวมทีมฮีโร่ Justice League

ที่ยังคงมาในโทนมืดเช่นเดียวกันและก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย จนทางค่ายต้องวางแผนเปลี่ยนแนวทางการทำงานกันอย่างชุดใหญ่ ไม่เอาแล้วรวมทีมซุปเปอร์ฮีโร่แยกเป็นหนังเดี่ยวของใครของมันดีกว่า เดินไปในทางเดียวกับ Aquaman และ Wonder Woman ที่ได้ทั้งเสียงคำชมและรายได้ภาพยนตร์อย่างถล่มทลาย หลังจากที่ตัวผู้เขียนได้ชมภาพยนตร์เรื่อง SHAZAM จบก็ต้องบอกเลยว่าหนังจักรวาล DC กำลังเดินมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้วจริง ๆ

รีวิว Shazam

มาเริ่มกันที่นักแสดงกันก่อนครับ นักแสดงเด็ก ๆ เล่นได้ดีมาก ดูสนุก อมยิ้มตามได้ตลอด น้องแต่ละคนมีบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน หนังจะโฟกัสที่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและครอบครัวให้รักกันดูแลกันช่วยเหลือกัน ซึ่งตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องจะเป็นเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ จึงอาจทำให้แฟนหนังรู้สึกแปลก ๆ ซะหน่อย

เพราะปกติหนังฮีโร่จะเป็นแต่ผู้ใหญ่ซะมากกว่า แต่ต้องขอชมเลยว่าแม้นักแสดงเด็กจะเยอะแต่ตัวหนังก็จัดว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เพราะตัวหนังจะให้เราเห็นถึงการพัฒนาการของเด็กที่ค่อย ๆ โตขึ้นทางความคิด และ แซ็คคารี่ เลวี่(รับบทชาแซม) เล่นได้ดีมาก คือออกมากี่ฉากก็มองว่าผู้ชายคนนี้เล่นยังไงก็ดูเด็กอะ ความคิด นิสัยคือเด็กจริง ๆ ดูแล้วเนียน ไม่ขัดหูขัดตาดี ผมชอบมากเลย เว็บดูหนัง

ต่อมาเป็นในเรื่องของปมตัวละครเอก บิลลี่ (ชาแซม) และเพื่อนซี้ของบิลลี่ นั่นก็คือ เฟรดดี้ ทั้งสองคนเล่นเข้าขากันได้อย่างดี ทำให้เราอินกับตัวละคร มีฉากเรียกเสียงหัวเราะ อมยิ้ม อยู่ตลอดไม่ขาด และยังมีการล้อหนังของทางค่าย DC เองอยู่เรื่อย ๆ หนังเรื่องนี้สามารถดูกันเป็นครอบครัวหรือจะดูสนุกกับเพื่อน ๆ ก็ยิ่งมันส์ฮา เพราะคนส่วนมากจะไม่รู้เลยว่า ชาแซม นั้นมีพลังอะไรบ้างนอกจากปล่อยสายฟ้า ตัวหนังจะเดินเรื่องไปเรื่อย ๆ แล้วให้คนดูอย่างเราชมและลุ้นไปกับตัวหนังเอง

รีวิว Shazam

รีวิวหนังดัง บิลลี แบตสัน (แอชเชอร์ แองเจิล) หนุ่มน้อยวัย15 หวังจะตามหาแม่ที่แท้จริง จนได้ลงเอยกับครอบครัวมิลานที่อุปการะเด็กหลากเชื้อชาติไว้มากมาย แต่หลังจากเขาช่วยเหลือ เฟรดดี้ (แจ๊ค ดีแลน เกรเซอร์)เพื่อนร่วมชายคา เขาก็ได้รับพลังวิเศษจากพ่อมดชาแซม (ดไจมอน ฮอนซู) จนกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ร่างผู้ใหญ่ (แซคคารี เลวี) แต่ในขณะที่เขากำลังค้นหาพลังวิเศษตัวเอง แธเดียส (มาร์ค สตรอง) กลับกำลังตามหาบิลลีเพื่อหวังจะครอบครองพลังยิ่งใหญ่ของเขา งานนี้ บิลลี่ จะค้นพบพลังอันยิ่งใหญ่ของตัวเองได้ทันการณ์หรือไม่ ต้องติดตาม…

เรื่องที่เหลือเชื่อมากอย่างหนึ่งคือชื่อเดิมของ Shazam! ฉบับคอมิกคือ Captain Marvel ก่อนที่สำนักพิมพ์เดิมจะปิดตัวและกว่าดีซีจะไปซื้อลิขสิทธิ์มาได้ก็ถูกปู่สแตน ลี ชิงตัดหน้าทำคอมิก Captain Marvel ไปก่อนจนต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Shazam! อย่างที่เห็น ซึ่งฉบับภาพยนตร์ก็ดันฉายไล่เลี่ยกันเสียด้วยจนเหมือนนัดกันมาแข่งอีกรอบแหนะ ฮ่าาาา

และเซอร์ไพรส์อีกต่อที่ ดีซี ไปยืมตัวเดวิด เอฟ แซนด์เบิร์ก ผู้กำกับหนังสยองทั้ง Light Out และ Annabelle Creation มากำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่สายฮาเรื่องนี้ ซึ่งเขาก็พิสูจน์ฝีมือได้ยิ่งกว่าสอบผ่าน เพราะสามารถเอาหนังฮีโร่โทนเบาสมองที่มีปมครอบครัวเป็นแกนกลางได้อย่างลงตัว ทั้งสนุก ฮาเป็นบ้าเป็นหลัง

ที่สำคัญคือปมดราม่ากันครอบครัวทำได้หนักแน่นจนเราอดอมยิ้มไปกับเรื่องราวและปมความสัมพันธ์ในครอบครัวอุปถัมภ์ได้เอ็นจอยไม่แพ้ความมันส์ของศึกพลังเวทย์ในเรื่องเลย ซึ่งก็คงต้องชมทีมเขียนบททั้ง เฮนรี เกย์เดน และ แดเรน แลมเก้ ที่สามารถผสมผสานดราม่าครอบครัวกับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่เบาสมองได้อย่างกลมกล่อม

รีวิว Shazam

โดยหนังพูดถึงปมครอบครัวได้อย่างน่าสนใจ โดยฉากเปิดหนังนำเสนอเหตุการณ์ที่บอกถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวหนึ่งคือ ครอบครัวของแธด หรือ แธเดียสที่ไม่เคยมีใครในครอบครัวเห็นหัวและยิ่งถูกปฏิเสธการถ่ายทอดพลังชาแซมก็ยิ่งเป็นเชื้อไฟแค้นชั้นดีที่ทำให้เขาดำเนินแผนชั่วในเวลาต่อมาเพื่อหวังเอาพลังอำนาจมาถมช่องว่างในใจตนเอง ส่วนบิลลี แบตสัน

หนังให้เรารู้จักเขาจากพฤติกรรมสุดแสบแต่พอเราได้เห็นเรื่องราวเบื้องหลังความขบถ ความดื้อดึงต่าง ๆ มาจากปมที่ตนพลัดหลงกับแม่ในวัยเด็ก จนต้องออกตามหาแม่ เพื่อที่ว่าตนจะได้มีครอบครัวจริง ๆ โดยไม่รู้เลยว่าเขาได้มีโอกาสเจอบ้านและครอบครัวที่แท้จริงแล้ว

ซึ่งการมาอยู่บ้านของครอบครัวมิลานก็ยิ่งทำให้ความหมายของครอบครัวดูใหญ่โตและมีความเป็นมหภาคมากขึ้นเพราะเด็กที่อุปการะมีตั้งแต่เด็กละติน เด็กเอเซีย เด็กสาวผิวสี ไปจนเด็กพิการอย่างเฟรดดี้ แถมพ่อแม่บุญธรรมก็ยังเป็นคนละเชื้อสายกันอีก เรียกได้ว่าคำว่าครอบครัวสำหรับบ้านนี้อาจหมายถึงสหรัฐอเมริกาโดยนัยยะก็มิปาน

ฉากต่อสู้บอกเลยว่ามันส์มากแอคชั่นจัดเต็ม ถ้าตีเวลาทั้งเรื่องน่าจะต่อสู้กันราว ๆ 20 นาทีได้ ฉากต่อสู้ที่แบบว้าว จัดเต็มจะมี 2 ฉากใหญ่ แต่ก็กินเวลานานเช่นกันให้คนดูอย่างเราได้สนุกดูกันเพลินเลยกับฉากสู้ไปกวนโอ้ยไปของพระเอก5555 ในส่วนของตัวร้าย ดร.ซิวานา ทำปมของตัวละครออกมาได้น่าสนใจ

คือไม่ใช่ตัวร้ายแบบจะยึดครองโลกอะไรแบบนี้แต่มันมีปมที่ฝังใจเขาอยู่ ที่ทำให้ต้องการอยากได้พลังต้องการจะกำจัดชาแซม ถึงแม้เขาจะเป็นตัวร้ายแต่บางช่วงแกก็มีมุมฮา ๆ เหมือนกันนะเหมาะสมกับการที่ต้องสู้กับฮีโร่สมองเด็กอย่างชาแซมจริง ๆ ดูหนัง

สรุป Shazam

รีวิวหนังดัง โดยตัวหนังมีจุดที่น่าสนใจสำหรับคอหนังแบบไม่ต้องเป็นแฟนดีซีก็พอเข้าใจ คือหนังพยายามยกฮีโร่ดังของค่ายอย่าง แบทแมน และ ซูเปอร์แมน มาพูดถึงแทบทั้งเรื่อง มองเผินเราอาจเห็นแค่การเกาะกระแสฮีโร่เซเลปของค่าย แต่คิดดูดี ๆ เฮ้ย จุดร่วมของทั้งแบทแมน ซูเปอร์แมน และ ชาแซม คือเริ่มจากการเป็นพวกหนีครอบครัว หรือ มีปมครอบครัวอันปวดร้าว

จนกระทั่งได้เจอครอบครัวใหม่ที่ตนเองอาจกังขาจนพยายามหนีอยู่ตลอด แต่เอาเข้าจริงเมื่อขึ้นชื่อว่าครอบครัวแล้ว มันก็ต้องอยู่สู้กันไปจนถึงที่สุด โดยหนังใส่ฉากเอามือประสานกันบนโต๊ะอาหารที่ดูผ่าน ๆ แทบคิดไม่ถึงเลยว่าต่อมามันจะมีความสำคัญกับเรื่องอย่างไร จนกระทั่งหนังเฉลยนี่แหละแทบกรี๊ดเลย และโดยปริยายมันก็ทำให้ Shazam! หลุดพ้นการเป็นเพียงหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เราได้แต่ดูพระเอกโชว์ความเก่งปราบปรามผู้ร้าย ทีละน้อยเรากลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวเรื่องครอบครัวของบิลลี่และมันยังทำให้ความหมายของพลังที่แท้จริงของหนังทั้งลึกซึ้ง อบอุ่นหัวใจ และแน่นอนเจ๋งเป็นบ้าเลย

รีวิว Shazam

ดเวย์น จอห์นสัน เผยภาพแอนตีฮีโร ‘Black Adam’ เต็มตัว และคนที่ทำให้ชาแซมมีชีวิตได้ก็คงหนีไม่พ้น แซคคารี เลวี ดาราหนุ่มจาก CHUCK ซีรีส์ตลกสุดดัง ซึ่งเลวี ก็รับบทเด็กในร่างผู้ใหญ่ได้อย่างมีเสน่ห์ทั้งตลกทั้งเท่จนน่าจะแจ้งเกิดในฐานะดาราหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้ไม่ยาก ส่วนนักแสดงเด็ก ๆ ในเรื่องก็ชวนให้หลงรักจริง ๆ สาว ๆ

อาจหลงหน้าหล่อ ๆ ของ แอชเชอร์ แองเจิล หรือ อยากกอด แจ๊ค ดีแลน เกรเซอร์ ซึ่งรับส่งบทกันอย่างลงตัว ส่วนบรรดาน้อง ๆ หนู ๆ ในบ้านอุปถัมภ์ก็น่ารักเหลือเกิน และยังมีเซอร์ไพรส์ที่เราบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ คอซีรีส์เน็ตฟลิกซ์สาว ๆ มีกรี๊ดแน่นอนตอนไคลแมกซ์ของเรื่อง ฮ่าาาาา.

สรุป
ข้อดี ชมได้ทุกเพศทุกวัย คุณไม่จำเป็นต้องดูหนัง DC เรื่องอื่นมาก่อนก็สามารถดูเข้าใจได้ เพราะหนังปูเนื้อเรื่องตั้งแต่ปมตัวละคร ได้พลังมายังไง จนใช้พลังได้และเป็นฮีโร่ในที่สุด

ข้อเสีย เนื่องจากต้องสร้างปมให้ตัวละครเอกอย่างชาแซม ตัวร้าย และรวมถึงเพื่อนของบิลลี่ ตัวหนังช่วงต้นเลยค่อนข้างจะกินเวลานานพอสมควร ในการทำให้ผู้ชมรับรู้เรื่องราวของตัวละครหลาย ๆ ตัว ฉากต่อสู้ที่ไม่ได้อลังการอะไรมากมาย ไม่มีลีลาท่าทางการต่อสู้สวย ๆ แบบนักสู้ฮีโร่คนอื่น ๆ เพราะบิลลี่เป็นแค่เด็กอายุ 15 มีพื้นฐานแค่ชกต่อยตีธรรมดาเหมือนเด็กทั่วไป เมื่อได้รับพลังก็เพียงแค่เพิ่มพละกำลังเข้าไปเท่านั้น แต่สติปัญญา และทักษะก็ยังเป็นเด็กแบบเดิม แต่ดีที่ตัวหนังยังเอาลูกเล่นทางเวทมนตร์ สปีดความเร็ว ยิงสายฟ้า ออกมาช่วยเสริมสกิลการต่อสู้ให้ตัวละคร ทำให้ดูแล้วเพลินสนุกมากขึ้น เว็บหนัง

สำหรับใครที่ไปคิดจะไปดู ชาแซม ขอเตือนเลยว่าหนังมีเซอร์ไพรส์เยอะมาก ที่สำคัญมี ฉากกลางเครดิต และ ท้ายเครดิตจ้า แถมดีงามทั้งสองตัวเลย ดังนั้นอย่าดื่มน้ำเยอะนะจ๊ะ เตือนแล้ว!

รีวิว Minamata

รีวิว Minamata

รีวิว Minamata

หากใครชอบนักแสดง หนังไทยย้อนยุค รุ่นใหญ่อย่าง Johnny Depp หรือชื่อไทยก็คือ จอนนี่ เดป ผมขอแนะนำภายนต์เรื่องรางของช่างภาพ ที่อยู่ในยุค สงครามโลก โดยได้นักแสดงสุดนิยม เป็นนักแสดงหนุ่มใหญ่ที่ได้รับความนิยม และ มีชื่อเสียงโด่งดัง นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักแสดงมากความสามารถที่สามารถพลิกบทบาทไปมาได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าเขานั้นจะโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่องไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน ในฐานะของนักแสดงนำ แต่ภาพกัปตันเรือ ในภาพยนตร์เรื่องนั้นกลับไม่ได้ติดตัวเขามาเหมือนกับที่นักแสดงภาพยนตร์แนวฮีโร่ส่วนใหญ่มักจะต้องเผชิญกับปัญหานี้

น่าเสียดายที่ ใน 2-3 ปีให้หลังนี้นักแสดงหนุ่มใหญ่คนดังกล่าวต้องเผชิญกับคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามา ในชีวิตจากการที่อดีตภรรยาอย่างแอมเบอร์ เฮิร์ดแจ้งความดำเนินคดีกับเขาเรื่องการทำร้ายร่างกาย และ การใช้ความรุนแรงในครอบครัว ในช่วงแรกเขาต้องเผชิญกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ และ ถูกประณามอย่างไม่เป็นธรรม จนกระทั่งความจริงเปิดเผยออกมาว่าแท้ที่จริงแล้วดูเหมือนว่านักแสดงผู้นี้จะเป็นเหยื่อมากกว่าเป็นผู้ถูกกระทำ

แต่ข่าวฉาวนี้กลับทำลายอาชีพของเขาไปอย่างสิ้นเชิง เขาถูกให้ถอนตัวจากภาพยนตร์ชื่อดังมากมายไม่เว้นแม้แต่ Fantastic beasts ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกับการที่ผู้สร้างภาพยนตร์นั้นออกมาถอนตัวนักแสดงหนุ่มใหญ่ผู้นี้ ในขณะที่อดีตภรรยานั้นยังคงได้รับบทเด่น ในภาพยนตร์ฝั่ง DC

อย่างไรก็ตามคนที่มีความสามารถไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันสิ้นไร้ไม้ตอก Johnny Depp สามารถกลับมาสร้างผลงานที่เป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ และ เป็นการพิสูจน์ว่าเขานั้นเป็นนักแสดงคุณภาพมืออาชีพที่มีฝีมือหาตัวจับยากในภาพยนตร์อ้างอิงประวัติศาสตร์อย่าง Minamata ภาพยนตร์ที่ทำให้เขานั้นต้องรับบทบาทที่แตกต่างไปจากชีวิตจริงไม่ว่าจะการดำเนินชีวิตหรือแม้แต่รูปร่างหน้าตาภายนอก เว็บดูหนัง

รีวิว Minamata

รีวิวหนังดัง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวนอกกระแสที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะบอกเล่าถึงเรื่องราวของช่างภาพที่อยู่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด ที่เข้ามาถ่ายภาพ ในสถานที่ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมมากที่สุดอย่างเมืองมินามาตะ ทำให้งานของเขานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การถ่ายภาพทั่วไปแต่ยังเป็นหนึ่ง ในสื่อที่ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านอีกด้วย

เรื่องราว ในภาพยนตร์เรื่อง Minamata
Minamata เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราว ในช่วงทศวรรษที่ 19 เป็นช่วงที่โลกนั้นต้องเผชิญกับการต่อสู้อย่างยาวนาน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 สงครามทำให้มนุษยชาตินั้นต้องสูญเสียทรัพยากรไปมากมาย ธรรมชาติเต็มไปด้วยสารเจือปนที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนต่อมา ในระยะยาวนับ 10 ปี หรือในบางสถานที่นั้นก็อาจจะส่งผลกระทบยาวนานนับพันปีจากผลของนิวเคลียร์

รีวิว Minamata

หลังจากสงครามโลกจบลงก็ต่อด้วยสงครามเย็นเข้าไปอีกที่ทำให้ ในแต่ละประเทศนั้นต่างต้องพยายามพัฒนาเทคโนโลยี และ อุตสาหกรรมของตนเองให้มีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศอื่น มนุษย์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสารต่าง ๆ มากมายทั้งสารเคมีที่ให้ประโยชน์ และ ให้โทษ แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าการใช้สารเคมีนั้นหากไม่ระมัดระวังก็อาจจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และ ผู้คนได้อย่างมหาศาล

เมืองมินามาตะ เป็นเมือง ในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล พวกเขานั้นต้องพบเจอการรับมือกับสารพิษที่เต็มไปด้วยความอันตรายอย่างปรอทที่ทำลายสุขภาพพวกเขาไปทีละเล็กทีละน้อยจนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยมากมาย และกลายเป็นชื่อเรียกของโรคมินามาตะไปเลย

รีวิว Minamata

สาเหตุที่สารพิษอย่างสารปรอทนั้นเจือปน ในน้ำก็เกิดจากความประมาทของอุตสาหกรรมผลิตสารเคมีที่มีชื่อว่าบริษัท ชิสโซะ การปนเปื้อนของสารปรอท ในครั้งนี้สร้างความสนใจให้กับผู้คนไปทั่วทั้งโลกทำให้ช่างภาพที่ได้รับการยกย่องและ มีชื่อเสียง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่าง Smith ถูกส่งมายังเมืองดังกล่าวเพื่อเก็บภาพไปรายงานข่าว และ เป็นข้อมูลสำหรับการรายงานให้กับสื่อ

Smith นั้นใช้ชีวิตกับผู้คน ในเมืองอย่างใกล้ชิดทำให้เขานั้นได้รับรู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังมากมาย และ เขาเองก็มีความคิดว่าความประมาทเลินเล่อของบริษัทนั้นส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัย และ สุขภาพของผู้คนเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ ในเมืองดังกล่าวนี้จึงควรได้รับความเป็นธรรม จากช่างภาพธรรมดาเขาจึงได้กลายเป็นผู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ป่วยโรคมินามาตะ ในที่สุด

เขาใช้ภาพของเขาให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสารปรอท และ ไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม ให้ทั่วโลกได้เห็นว่ายังคงมีความเดือดร้อนของผู้คนกลุ่มเล็ก ๆ จากความประมาทเลินเล่อของนายทุนที่ถูกรังแกอีกครั้งโดยรัฐบาลที่ไม่ได้ใส่ใจหรือใหการเยียวยา

รีวิว Minamata

ทำความรู้จักโรคมินามาตะ โรคจากความประมาท ในภาพยนตร์เรื่อง Minamata
Minamata เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในเมืองมินามาตะที่ถูกสารปรอทที่ปนเปื้อน ในธรรมชาติทำลายสุขภาพจนกลายเป็นโรคที่มีชื่อเรียกขึ้นมาว่าโรคมินามาตะ เป็นโรคที่เกิดจากความประมาทของโรงงานผลิตปุ๋ยที่ไม่ได้แก้ไขปัญหา และ เยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลยังไม่ให้ความใส่ใจอีกด้วย

สารปรอททำให้เกิดโรคมินามาตะซึ่งมีอาการหลากหลาย ส่วนใหญ่แล้วจะมีความผิดปกติกับร่างกายอย่างเห็นได้ชัดอย่างเช่นตาพร่า กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการชักกระตุกเกร็ง พูดลำบาก นั่งไม่ได้ รับประทานอาหารก็ไม่ได้ บางคนนั้นต้องพบจุดจบกับการเสียชีวิตส่วนบางคนนั้นก็ต้องพิการไปตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน ดูหนัง

นั่นก็เป็นเพราะว่าสารปรอทนั้นเข้าไปแทรกแซงระบบประสาทส่วนกลางจนทำให้สมองมีการบวม และ อักเสบจากการถูกทำลาย ใช้เวลานานกว่า 3 ปีกว่าที่ทุกฝ่ายจะทราบว่าอาการเหล่านี้เกิดจากสารปรอทที่ปนเปื้อนกับน้ำเสียที่มาจากโรงงาน และ ปล่อยสู่อ่าวโดยที่ไม่ได้รับการบำบัด

สรุปเรื่องราว Minamata

รีวิวหนังดัง สำหรับใครที่คิดถึงผลงานใหม่ของป๋า Johnny Depp ที่ห่างหาย (ไปสู้คดีกับเมียเก่า Amber Heard) สักพักใหญ่ และ ผลงานเรื่องก่อนหน้านี้อย่าง Waiting for the Barbarians (2019) ก็ไม่ได้เข้าฉายในบ้านเรา ผลงานเรื่องใหม่อย่าง Minamata ก็ได้รับคำยืนยันจากค่าย M Pictures ว่าจะซื้อเข้ามาฉายในไทยช่วงปีหน้าอย่างแน่นอน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นช่วงไหน ผลงานเรื่องนี้แฟน ๆ ของ Depp จะได้เห็นเขาเล่นเป็นคนปกติ ไม่แฟนตาซีจ๋าเหมือนตัวละครอื่น ๆ ซึ่ง Depp เล่นหนังประเภทนั้นไว้เยอะกว่า ถึงอย่างนั้นในเรื่องนี้เขาก็ยังอยู่ในรูปลักษณ์ที่ต้องแต่งหน้าไว้หนวดแตกต่างไปจากรูปลักษณ์ปกติอยู่ดี

Minamata ดัดแปลงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1900s เกี่ยวกับเรื่องราวของ W. Eugene Smith ช่างภาพที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาถูกส่งไปยังเมืองมินามาตะ ชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่ถูกสารพิษอย่างสารปรอททำลายสุขภาพ อันเนื่องมาจากความประมาทเลินเล่อของอุตสาหกรรมสารเคมีของบริษัท ชิสโซะ เมื่อ Smith เข้าไปสัมผัสกับผู้คนที่นั่น เขาจึงหมกมุ่นอยู่กับการเรียกร้องความเป็นธรรมเกี่ยวกับโรคมินามาตะต่อบริษัท ชิสโซะ และ รัฐบาลญี่ปุ่น จนภาพถ่ายของเขาที่ได้ถ่ายทอดหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษ โด่งดังในโลกตะวันตก และ กลายเป็นภาพสะท้อนความเดือดร้อนแสนสาหัสของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ถูกรังแกโดยรัฐบาล และ กลุ่มทุน

สมทบด้วย Bill Nighy จาก About Time (2013) และ เคยประกบ Depp มาแล้วใน Pirates of the Caribbean ภาค 2 และ 3 (2006-2007) และ ยังมีนักแสดงญี่ปุ่นชื่อดังแห่งยุคทั้งสองคนอย่าง Hiroyuki Sanada จาก The Last Samurai (2003) และ Tadanobu Asano จาก Battleship (2012) และ หนังไทย Last Life in the Universe (2003) ร่วมแสดงด้วย เว็บหนัง

หนังจะกำกับ และ เขียนบทโดย Andrew Levitas จาก Lullaby (2014) โดยยังมีผู้เขียนบทอีกถึง 3 คน ได้แก่ David Kessler, Jason Forman และ Stephen Deuters สองคนหลังเป็นทีมงานสร้างหนังของ Depp ในหลายเรื่องช่วงหลังเป็นต้นว่า Waiting for the Barbarians (2019), Fantastic Beasts 2 (2018) และ Pirates of the Caribbean ภาค 5 (2017) หนังได้ไปฉายเปิดตัวที่เทศกาลหนังเบอร์ลินเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และ ได้รับคำชื่นชมในหมู่นักวิจารณ์ รอติดตามชมกันในปีหน้า และ เผลอ ๆ Depp อาจจะมีบทบาทบนเวทีรางวัลปลายปีนี้ด้วย

ชื่อเรื่อง Below Zero Netflix
เรตติ้ง 6.2
นักแสดง Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo
จำนวนตอน 1.46 ชั่วโมง