Tag Archives: รีวิวหนังผี

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับหนังที่ผมจะมาแนะนำ เป็นหนังผีไทยที่เป็นหนังไทนเก่าอีกเรื่องที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเป็นที่พูดถึง หนังที่ถูกเรียกง่าย ๆ ว่าเป็น “หนังผี” แต่จริง ๆ แล้วผมคิดว่า เป็นหนังที่ผสมผสานกันระหว่างความเป็นหนังสยองขวัญกับหนังรักดราม่า นำเค้าโครงมาจากเรื่องเล่าบนอินเตอร์เน็ต ถ้าคนเรารักจะใกล้จะแต่งงานกัน แต่วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ คนหนึ่งตาย แต่อีกคนหนึ่งอยู่ และ นำดอกไม้ไปวางไว้ ณ จุดที่เธอตาย ผมกำลังพูดถึงหนังเรื่องนี้มีชื่อที่เป็นไทยปนอังกฤษว่า ‘I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน’ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ผมติดตามหนังไทยเรื่อง I Miss You ตั้งแต่ตอนที่เป็น Teaser ซึ่งต้องขอยกขึ้นหิ้งว่าเป็น Teaser หนังไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยหวังในใจลึก ๆ ว่าตัวหนังน่าจะเป็นหนังรักที่ซาบซึ้งมากกว่าหนังผีหลอกหลอนตุ๊งแช่ตามสูตรซึ่งผลก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย เพราะ I Miss You ไม่ใช่หนังผีครับ แต่เป็นหนังรักที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง และ เข้มข้นมาก เหมาะสำหรับคนที่ศรัทธาในความรักเต็มหัวใจ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์: I Miss U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน
ผู้กำกับภาพยนตร์: มณฑล อารยางกูร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์:
นักแสดง: เจษฎาภรณ์ ผลดี, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, อภิญญา สกุลเจริญสุข, ทราย – อินทิรา เจริญปุระ

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ส่วนตัวไม่ได้ติดตามหนังของพี่อ๊อฟ(มลฑล อารยางกูล) อย่างสม่ำเสมอ หรืออีกนัยหนึ่งคือแทบจะไม่ได้ติดตามเลย หนังของพี่อ๊อฟเรื่องสุดท้ายที่ได้ดูต้องนับย้อนกลับไปโน่นเลย “ปักษาวายุ” เมื่อหลายปีมาแล้วซึ่งเป็นหนังแอ๊คชั่น/ไซไฟที่ดูได้แค่พอเพลิน ๆ หลังจากนั้นมาพี่อ๊อฟก็เปลี่ยนทางของตัวเองไปทำหนังผีอีกสองสามเรื่อง และ อย่างที่บอก ข้าพเจ้าไม่ได้ดูหนังผีสองสามเรื่องนั้น

จนกระทั่งหนังเรื่องล่าสุดนี้ซึ่งก็เป็นหนังผีอีกนั่นแหละ “ I Miss You…รักฉันอย่าคิดถึงฉัน เหตุผลก็เนื่องจากหนังตัวอย่างและเรื่องย่อที่ทำให้ต่อมอยากดูทำงานทันที และ เสริมความมั่นใจด้วยความคิดที่ว่า พี่อ๊อฟคืออีกหนึ่งผู้กำกับหนังไทยที่โชกโชนในการทำหนังผีมาค่อนข้างมาก ยังไง ๆ หนังเรื่องล่าสุดนี้จะต้องไม่ขี้ริ้วขี้เหร่หรือเอาแค่ไปวัดไปวาได้คงไม่ใช่เรื่องยากหากว่ากันตามท้องเรื่องที่ไม่ขอบอกใบ้เรื่องย่อ

แต่อยากกล่าวแค่สั้น ๆ ว่า นี่คือหนังที่เป็นส่วนผสมที่กระท่อนกระแท่น และ ขาดความลงตัวระหว่างหนังสยองขวัญกับงานโรแมนติคดราม่า มาพร้อมการเดินเรื่องแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เคล้าคลอไปกับดนตรีเบา ๆ ที่อาจจะทำให้คนอ่อนไหวรู้สึกเหงา และ อินไปกับตัวละคร หมอพันธนา(พี่ติ๊ก)ได้มากขึ้น

พี่ติ๊กทำได้ดีกับการแสดงในมาดของชายผู้ยังโหยหาในรักอมตะที่จากไป ดูเหงา และ โดดเดี่ยวในขณะเดียวกันก็เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มีปมในใจปิดซ่อนไว้ แบบที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “แข็งนอกอ่อนใน” ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ในฐานะคนรักคือหน้าที่ในฐานะหมอ

บอกตรง ๆ ว่าพี่ติ๊กสอบไม่ผ่านกับการับบทหมอทั้ง ๆ ที่คุณสมบัติทางหน้าตา และ รูปร่างล้วนเอื้อให้พี่ติ๊กรับบทหมอได้อย่างไม่มีใครสงสัย แต่เอาเข้าจริง ๆ เมื่อยู่บนจอพี่ติ๊กกลับขาดราศีของหมออย่างไม่น่าจะเป็น และ ยิ่งฉากในห้องผ่าตัดที่แม้บทหนังจะยัดศัพท์เฉพาะทางลงมามากเท่าไหร่ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อให้หนังดูมีรายละเอียด

แต่เมื่อมันไม่ได้ถูกพ่นออกจากปากหมอจริง ๆ ฉากเหล่านั้นดูเก้ ๆ กัง ๆ และ ไม่น่าเชื่อถือ กับการพยายามใช้ศัพท์สูง(ที่คนดูมากมายคงได้แต่นั่ง งง) ได้อย่างพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

“บี” แพทย์สาวน้องใหม่ หน้าตาสะสวย เข้ามาทำงานในแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาล โดยมี “หมอธนา” เป็นที่ปรึกษา ทำให้เธอได้รับรู้เรื่องราวความรัก ลึกซึ้ง สวยงาม ระหว่างอาจารย์หมอหนุ่มรูปงาม “หมอธนา” กับแพทย์สาวสุดสวย “หมอนก” ที่กลับกลายเป็นความเศร้า เพราะ..อุบัติเหตุได้คร่าชีวิตของ “หมอนก” ไปขณะที่ทั้งคู่กำลังจะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน

“หมอธนา” กลายเป็นชายหนุ่มผู้มีความสุขอยู่กับความทรงจำเก่า ๆ แต่ก็ปนไปด้วยความทุกข์ใจเพราะจมอยู่กับความรักความคิดถึงในตัวคนรักที่ตายไป

เรื่องราวความรักความคิดถึงที่สวยงามของ “หมอธนา” ที่มีต่อ “หมอนก” ทำให้ “บี” เผลอใจสงสาร คิดจะช่วยดึงเขาออกมาจากความเจ็บปวด แต่…เธอกลับพบว่า ความรัก ความเจ็บปวด และ ความยึดติดคนรักที่ตายไปของเขา กลับดึงเอาคนรักที่ตายไปของเขามาอยู่ข้างกายเสมอ…

ความกลัวที่ได้เห็นวิญญาณคนรัก ซึ่งตามติดอยู่ข้างกาย “หมอธนา” ความรู้สึกที่ก่อเกิดกับ “หมอธนา” “บี” จะทำอย่างไรต่อไป… เธอจะพัฒนาความสัมพันธ์กับ “หมอธนา” ไหม ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังเผชิญกับความยึดติดของเขา และ ที่สำคัญเธอจะยอมเผชิญกับหัวใจของตนเองที่จะยอมเป็นเงาของคนอื่นไหม รักฉันอย่า คิดถึง ฉัน พากย์ไทย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

เรื่องความสวยคงไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะหมอบีหรือหมอนก ก็สวยด้วยกันทั้งคู่ ดูแล้วเพลินดี (แม้ว่าจะหมอนกจะเป็นผีก็ตาม) ขณะที่ในส่วนของไดอะล็อกคำคม ๆ ก็นับว่ามีอยู่หลายประโยคที่ได้ฟังแล้วก็อึ้ง ๆ อยู่ แต่ฉากแรกที่หมอสองคนเจอกัน ผมว่าคำพูดมันดูขัด ๆ กันอยู่ยังไงไม่รู้อะถ้าเรื่องมุมกล้อง ก็ถือได้ว่า ทำออกมาได้ดี ถ่ายมุมมองน่าสนใจ แต่ก็พบว่าบางฉากหน้านักแสดงค่อนข้างมืดเกินไปทั้งที่ไม่ใช่ฉากที่ผีจะออกมา

สำหรับบทบาทการแสดง ถือได้ว่า นักแสดงหญิงค่อนข้างทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี โดยเฉพาะสายป่าน ขณะที่แขกรับเชิญอย่าง ทราย ก็ทำตัวเป็นสีสันได้อย่างดีทีเดียวถ้าจะพูดถึงหนังผีไทย หลัง ๆ ผมเริ่มไม่ค่อยจะอินอะไรกับผีตุ้งแช่นักแล้ว ได้แต่สนุกกับการลุ้น และ เดาว่า ผีจะมาอีกตอนไหน ตรงหรือไม่ก็เท่านั้น

เรื่องการแต่งหน้าให้ดูน่ากลัวจึงไม่มีผลอะไรนักสิ่งที่สำคัญในการดูหนังผีสำหรับผมจึงกลายเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือของตัวละคร มูลเหตุจูงใจ และ สิ่งที่ตัวละครกระทำ ถ้ามันเข้ากันไปได้ดีก็ถือว่าน่าพอใจ แต่ถ้ามันดูงง ๆ หรือแรงจูงใจมันดูไม่เข้ากันกับการกระทำ ผมก็คงไม่ประทับใจกับหนังสักเท่าไหร่ และ หนังเรื่องนี้ก็ไม่เป็นข้อยกเว้น ผมยังข้องใจในการเหตุจูงใจ และ การกระทำของผีอยู่ เพราะสิ่งที่เธอบอกว่าต้องการ กับสิ่งที่เธอกระทำนั้นดูไม่ใคร่จะไปด้วยกันนั่นเอง รักฉันอย่าคิดถึงฉัน ตอนจบ pantip

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน

รีวิว รักฉันอย่าคิดถึงฉัน อ๊อฟ-มณฑล อารยางกูร ผู้กำกับออกมาเปิดเผยว่าเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งนำมาจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น กับอุบัติเหตุบริเวณถนนเลียบทางด่วนแถวเอกมัย-รามอินทรา ที่มีรถตู้คันหนึ่งพลิกคว่ำ และ มีผู้เสียชีวิต ต่อมาก็ได้มีดอกไม้ช่อหนึ่งมาวางบริเวณที่เกิดเหตุ และ เมื่อนานวันไปดอกไม้เริ่มแห้ง ก็จะมีดอกไม้ช่อใหม่มาเปลี่ยน เป็นอย่างนี้อยู่ซักพัก

จนเป็นเรื่องเล่าในอินเทอร์เน็ตที่ดังมากเมื่อ 5 ปีก่อน อ่านเพิ่มเติมได้จากกระทู้ใน Pantip เรื่องได้นักแสดงที่ผู้คนรู้จักดีมาร่วมงานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี แสดงเป็นหมอธนา, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี แสดงเป็นหมอนก, อภิญญา สกุลเจริญสุข เป็นหมอบี แล้วยังมี ทราย อินทิรา เจริญปุระ รับเชิญมาแสดงเป็นตรีอีกด้วย

ขณะที่การดำเนินเรื่อง เหมือนจะน่าสนใจในช่วงแรก แต่กลับน่าแปลกที่ช่วงหลังเริ่มใส่เพลงเข้ามาบ่อยครั้ง และ ต่อเนื่อง จนดูคล้ายเป็น MV ประกอบหนังไป ขณะที่การสรุปเรื่องก็ค่อนข้างเยิ่นเย้อจนดูเหมือนไม่ค่อยเน้นไปกับจังหวะหนัง รักฉันอย่าคิดถึงฉัน วิเคราะห์

บทสรุป

I Miss You รักฉันอย่าคิดถึงฉัน เป็นหนังรักในบรรยากาศหลอน ที่ซึ้งกินใจ และ แทรกข้อคิดดี ๆ ให้ได้กลับไปนอนคิดที่บ้านว่า ความรักที่แท้จริงแล้ว คืออะไร ? คือการเป็นเจ้าของกัน และ กันคือการบอกว่ารักเธอทั้งหมดของหัวใจ หรือเพราะความรู้สึกผิดบาปจากอดีต หนังไทยคุณภาพเยี่ยม ขอแนะนำแรง ๆ ให้ไปดูกันครับ 8/10 เลยเรื่องนี้ รักฉันอย่าคิดถึงฉัน สปอย

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับวันนี้พาไปรับชมรีวิวหนังรักดราม่าที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคน นั้นรวมถึงผมด้วยถ้าให้พูดตามตรงผมเองก็ยังจำความรู้สึกครั้งแรกที่ดูได้เลยครับ มันสนุก ตื่นเต้น อึดอัด และหงุดหงิดสุดๆครับ ก็สามารถเรียกสั้นๆได้ว่าเป็นหนังรักสำหรับคนแอบรักที่เรียกน้ำตาคนดูไปหลายรอบ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราสามารถเป็นแฟนกับคนที่เราแอบชอบได้จริง ๆ แต่มีเวลาให้แค่ 1 วันหนังของค่าย GDH อีกเรื่องที่ให้มุมมองใหม่ ๆ ของคำว่า “ความรัก” เหมาะกับคนที่อยู่ในสถานะแอบชอบแบบเราจริง ๆ อินมาก วันนี้เราเลยอยากจะแชร์ข้อคิดดี ๆ จากหนังเรื่อง “แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว” มาให้เพื่อน ๆ ได้ตอกย้ำความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้กันครับ

ส ปอย หนัง พูดได้เต็มปาก ว่านี่คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่มีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาก ลงลึกเรื่องบุคลิกลักษณะตัวละครได้อย่างละเอียด เนื้อหาลื่นไหลชวนติดตาม ไม่มีรูรั่วให้เกิดคำถามสะดุดระหว่างดู รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หยอดไว้หยิบมาใช้ประโยชน์ได้หมด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

หนังแบ่งเป็น 3 องก์ , องก์แรกแนะนำให้เรารู้จักตัวตนของเด่น และ นุ้ย ว่าทำไม เด่น ถึงได้ไปหลงรักนุ้ย แล้วก็ปูเข้าองก์ที่ 2 ส่วนสำคัญของเรื่องคือ 1 วันที่ทั้งสองได้เป็นแฟนกัน ให้เราได้เห็นพัฒนาการค่อยเป็นค่อยไป จากที่นุ้ยความจำเสื่อมแล้วต้องอึ้งกับหนุ่มติ๋มที่ยืนอยู่ข้างหน้า ที่มาบอกว่าเขาเป็นแฟนเธอ จากท่าทีที่นุ้ยไม่ไว้ใจ แต่เด่นก็ใช้ความซื่อ และ จริงใจให้นุ้ยเชื่อจนสนิทใจได้ในที่สุด หนังใช้เวลากับองก์นี้ลากยาวไปถึงชั่วโมงกว่า ขมวดปมวิกฤตการณ์ของเรื่องไว้ขีดสุด สามารถลากความสนใจคนดูได้อยู่หมัด ให้ร่วมลุ้นกับบทลงเอยของทั้งคู่ในองก์ที่ 3 ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” หนังเรื่องแรกของทีมงานเดิมในชื่อใหม่ GDH ที่เลือกเปิดตัวด้วยหนังโรแมนติคคอมมีดี้ ผลงานของ โต้ง บรรจง ผู้กำกับมือต้น ๆ ของ GTH เดิมที่เคยมีผลงานกวาดรายได้เข้าค่ายเป็นล่ำเป็นสันมาแล้วจาก “กวน มึน โฮ” และ “พี่มาก”

รอบนี้ทางค่ายดำเนินตามสูตรสำเร็จตามอย่างที่ “กวน มึน โฮ” เคยทำไว้ ด้วยการใช้ เต๋อ ฉันทวิชช์ ประกบนางเอกใหม่ในบรรยากาศหนังรักที่ใช้ฉากหลังแสงสีสวย ๆ ในต่างประเทศ คราวนี้ย้ายมาเป็นฮอกไกโด เรื่องนี้จับเต๋อ เปลี่ยนลุคจากหนุ่มขี้เล่นกวนตีน มาเป็น “เด่น” หนุ่มไอที หัวหยิกใส่แว่น ติ๋ม ๆ ยิ้มอาย ตลอดทั้งเรื่อง เขาแอบรัก นุ้ย เซลส์คนสวยประจำบริษัท

แต่เด่น ก็อยู่ในฐานะหมามองเครื่องบิน เพราะนุ้ยเลือกที่จะอยู่ในสถานะเมียน้อยของ ท็อป เจ้าของบริษัทที่มีลูกเมียแล้ว แต่โอกาสก็มาถึง เมื่อบริษัทยกขบวนพนักงานไปเที่ยวที่ฮอกไกโด แล้วนุ้ยเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อมชั่วคราวเพียงวันเดียว เด่น เลยสวมรอยว่าเขา และ เธอเป็นแฟนกัน แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อความจำของ นุ้ย จะกลับมา เด่น จะทำอย่างไรต่อไป

Fanday ค่อนข้างให้รสชาติที่แตกต่างจากหนังรอมคอมฮิต ๆ ที่ผ่านมาของ GTH ด้วยการพูดถึงด้านร้ายของความรักพอ ๆ กับด้านที่สวยงามของมัน ทั้งความเจ็บช้ำจากการแอบรักของเด่น และ นุ้ย สาวสวยที่ยอมตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของเจ้าของบริษัท รอคำสัญญาลม ๆ แล้ง ๆ ที่เขาจะทิ้งลูกเมียมาแต่งงานกับเธอ

หนังตอกย้ำให้เห็นว่าความรักในความเป็นจริงนั้นช่างโหดร้าย แตกต่างจากความรักวันเดียวของทั้งคู่ซึ่งเด่นเชื่อว่าเกิดจากปาฎิหารย์นั้นกลับสดใสสวยงาม ด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักจริงจัง

เรื่องย่อ

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

หนังเล่าเรื่องราวของเด่นชัย (เต๋อ ฉันทวิชช์) พนักงานไอทีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่มีชีวิตแสนจะธรรมดา จืดชืด การงานปกติ หน้าตาไม่ได้ดี ทรงผม และ การแต่งตัวค่อนไปทางเห่ย แถมปากไม่ดีอีกต่างหาก ทั้งหมดที่ว่ามาทำให้ไม่มีใครสนใจเขา แทบไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนจำชื่อของเขาได้เลย

ซึ่งแม้แต่ป้าร้านกับข้าวที่เขากินทุกวัน ก็ยังไม่เคยจำหน้าหรือเมนูที่เขาสั่งได้เลย แต่มีอยู่คนหนึ่งที่จำชื่อของเขาได้ นั่นก็คือ นุ้ย (มิว นิษฐา) พนักงานสาวที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน และ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด่นชัยประทับใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก เขาแอบชอบ และ คอยตามติดชีวิตเธอมาตลอด รู้ว่าเธอชอบกินอะไร ชอบฟังเพลงแนวไหนหรือแม้กระทั่งความฝันที่เธออยากไปเที่ยวเทศกาลหิมะ เขาก็ยังรู้

ถ้านี่ไม่ใช่หนังรักโรแมนติกเราคงจะต้องเรียกเด่นชัยว่าสตอล์กเกอร์ ซึ่งมันคงจะดูโรคจิต และ น่ากลัวเกินไป พอมันเป็นหนังรักเราจึงขอเรียกเขาว่าแฟนพันธุ์แท้ของนุ้ยแทนละกันครับ เรื่องราวของสองคนเกิดขึ้นเมื่อนุ้ยเกิดอุบัติเหตุระหว่างไปทริปพาพนักงานเที่ยวญี่ปุ่นของบริษัท และ มีภาวะความจำเสื่อมชั่วคราว เด่นชัยจึงใช้โอกาสนี้รับสวมรอยอ้างว่าเป็นแฟนของเธอ หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ออนไลน์

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

ความรู้สึกหลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้จบก็อย่างผมเกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นว่าผมตกหลุมรักนางเอกของเรื่องเลยครับ มิวแสดงเรื่องนี้แล้วดูมีเสน่ห์เอามาก ๆ เลย แทบจะเป็นเหตุผลข้อแรก ๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกชอบ และ ดูหนังเรื่องนี้ซ้ำอีกสองสามรอบเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความที่ผมก็ทำงานเป็นพนักงานไอทีเหมือนกับตัวพระเอกของเรื่อง ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเข้าใจ และ อินกับบทของเด่นชัยเป็นอย่างมาก การดำเนินเรื่องดูสนุก ภาพสวย ดูได้เพลิน ๆ แต่ขอแอบกระซิบว่าตอนจบสาว ๆ คงต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ด้วย เพราะค่อนข้างเรียกน้ำตาจากคนดูได้มาก ๆ เลย ผมเองยังแอบมีน้ำตาซึมนิด ๆ

ซึ่งสำหรับตอนจบของเรื่องนอกจากจะจบแบบในหนังที่เราดูแล้วทาง GDH ยังมีการปล่อยฉากจบอีกแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนกับในหนังออกมาให้ได้ชมกันใน Youtube ด้วยเป็นฉากที่ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเราให้ลงลึกเข้าไปได้อีก

เอาเป็นว่าใครที่ชอบดูหนังแนวรักโรแมนติก น่ารัก ๆ ต้องอย่าลืมชม แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว 037

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว

รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ที่ชื่นชมอีกอย่างคือการที่หนังโปรโมทเพลง “วันหนึ่ง” ของชาติ แต่ในหนังกลับใช้ “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้ ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์มากสำหรับหนังของแกรมมี่ ที่เลือกใช้เพลงของค่ายอื่นมาเป็นเพลงหลัก และ ใช้เวอร์ชั่นต้นฉบับด้วยไม่คัฟเวอร์ ชื่นชมครับที่เอาอารมณ์ และ สารในเพลงเป็นหลักมากกว่าเหตุผลทางการค้า

ตรงนี้ผู้กำกับ โต้ง บอกว่าเขาชอบเพลงพี่แจ้ และ เป็นคนเลือกเพลงนี้เอง รอดูรอเชียร์ครับว่า “ฝันลำเอียง” ของพี่แจ้จะกลับมาดังมั้ย “ฝันลำเอียง” ในหนังยังได้ทำหน้าที่สัญลักษณ์ของหนังด้วย เนื้อหาของเพลงของพี่แจ้ช่างตรงกับเรื่องราวของหนัง รวมถึง “เทศกาลหิมะซัปโปโร”เองก็ถูกใช้ทำหน้าที่สัญลักษณ์แทนความรักของทั้งคู่ได้ลงตัว แทนภาพความสวยงามที่อยู่ได้เพียงชั่วคราวแล้วก็ถูกทำลายทิ้ง หนังแฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เต็มเรื่อง hd

สรุปหนังรักเรียกน้ำตา

หนังเรื่องนี้สอนให้เราอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ต่อให้วาดโลกแห่งความฝันไว้สวยงามแค่ไหน สุดท้ายทุกคนก็ต้องอยู่กับความเป็นจริงในโลกปัจจุบัน Fanday เป็นหนังเปิดตัว GDH ได้อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยทุกองค์ประกอบล้วนทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ได้ซึ้งน้ำตาซึม ได้ยิ้มไปกับความรักของเด่น และ นุ้ย แต่ทั้งนี้ก็เผื่อใจไว้นิดว่าหนังไม่ได้สดใสใส่มุกแน่น เหมือนอย่างเรื่องก่อน ๆ ของ GTH นะครับ อีกอย่างหนังยาวมากครับ 2 ชั่วโมง 16 นาที เรียกได้คุ้มค่ามากครับไม่เสียเวลาที่รับชมจนจบจริงๆสำหรับแฟนเดย์ แฟน เดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ภาษา อังกฤษ

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับหลายๆคนคงรู้ว่าปะเทศบ้านเรานั้นไม่ได้โดดเด่นเรื่องการทำหนังบู๊ หนังไซไฟ แฟนตาซี เหมือนหนังฮอลลีวู้ด แต่หากพูดถึงการทำอนิเมชั่นแล้ว ผมเองก็ยอมรับเลยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่ๆ เราอาจจะกล่าวได้เลยว่า ณ วินาทีนี้ ๙ ศาสตรา น่าจะเป็นแอนิเมชั่นเลือดไทยที่ “ดี” ที่สุด ณ เวลานี้ เรามักจะคิดเสมอว่าผลงานของคนไทยไม่น่าจะสู้ต่างชาติได้ แต่วันหนึ่งเราก็พิสูจน์ให้คนในประเทศเห็นแล้วว่า เมื่อเรามีเงินทุน และ มีทีมงานที่มีศักยภาพแล้ว ผลงานที่ออกมาก็เรียกได้ว่าไม่มีอะไรด้อยไปกว่าผลงานของคนประเทศอื่น ๆ เลย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี 

ส ปอย หนัง หนังแอนิเมชั่นเรื่อง 9 ศาสตรา เป็นการประกาศศักดาสนั่นวงการแอนิเมชั่นไทย และ ยกชูขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิเลยว่า นี่คือแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเรื่องแรกที่ production ดีจนโกอินเตอร์ได้แค่ปลายนิ้วจริง ๆ ครับ ถือว่าเป็นก้าวที่ดีเลยกับการปลุกแอนิเมชั่นไทย หนักพื้นฐานแน่นเรียกศรัทธามาได้โขจริง ๆ ครับ อย่างทีเคยพูดไปว่าถึงดูรอบสื่อมาแล้ว แต่ถ้าหนังจริงเข้าก็จะขอดูอีกรอบ ความรู้สึกว้าวมันชวนให้นึกถึงครั้งได้ดู องค์บาก ครั้งแรกเลยล่ะ ดูเถอะเรื่องนี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา เรารู้สึกแย่มากที่ก่อนหน้าที่เคยมองข้าม และ เพิกเฉยต่อหนัง 9 ศาสตรา แอนิเมชั่นฝีมือคนไทยเรื่องล่าสุด เพราะพอได้ดูจริง ๆ แล้ว ต้องยอมรับเลยว่า “ถ้าเราไม่ได้มาดู มันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดในรอบปี” เลยก็ได้ ใครที่ยังแอบปรามาสหนังเรื่องนี้อยู่ ขอให้เปิดใจอย่างที่เราเปิดใจ แล้วมันจะเบิกเนตรของเราจริง ๆ ว่า คนไทยสามารถทำหนัง รวมถึงแอนิเมชั้น ได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก หากตั้งใจ มีทุน และ ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่

สำหรับเรื่องนี้ คำว่า “แอนิเมชั่นที่ดีที่สุดของคนไทย” ไม่ใช่แค่คำอวยหากแต่คือเรื่องจริง หนังสนุกจริง ดีจริง งานสกอร์ และ งานภาพละเอียดสมจริงเทียบชั้นฮอลลีวูดได้สบาย (ดีกว่าของเมืองนอกหลาย ๆ เรื่องเสียอีก) ฉากแอ็คชั่นซึ่งมีเยอะแทบทั้งเรื่องก็มัน(ส์) ไม่เบื่อเลยตามประสาหนังไทย คือก็ยังติดเรื่องความเป็นไทยหรือความรักชาติอยู่บ้าง

แต่ยังดีที่ 9 ศาสตรา นำเสนอความเป็นไทยได้สากล ไม่ “ไทย” จนเลี่ยนเกินไป อีกทั้งให้บทเรียนต่าง ๆ ทั้งเรื่องคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา อย่างไม่ยัดเยียดคนดูจนเกินเหตุ ประกอบกับ มวยไทย เป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสนใจมาก เป็นที่รู้จักในวงกว้างพอที่จะส่งออกหนังเรื่องนี้ไปขายที่เมืองนอกได้ไม่ยาก

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว 9 ศาสตรา

ในโลกของ 9 ศาสตรานั้นว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันกับสิ่งมีชีวิตหลากหลายเชื้อชาติ และ เผ่าพันธุ์ โดยรามเทพนครเมืองมนุษย์ที่เคยรุ่งเรืองนั้นตกอยู่ในการปกครองของคนยักษ์ และ จับมนุษย์ไปเป็นทาส

เรื่องราวถูกเล่าผ่าน “อ๊อด” เด็กหนุ่มที่ชะตาลิขิตให้เป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้อาณาจักร รามเทพนคร แผ่นดินเกิดของเขาให้รอดพ้นอำนาจของ เทหะยักษา อ๊อด ได้ฝึกฝนเคี่ยวกรำ ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มวยไทย จากครูมวยอันดับหนึ่งของแผ่นดิน อ๊อด มีภารกิจอันยิ่งใหญ่ ในการนำสุดยอดศาสตราวุธ 9 ศาสตรา ไปมอบให้องค์ชายรัชทายาทแห่ง รามเทพนคร เพื่อใช้ในการกอบกู้อาณาจักร พร้อมกับพลพรรคเพื่อนพ้อง

เนื้อเรื่องค่อนข้างเป็นเส้นตรงเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และ เป็นแบบสำเร็จรูปทั่วไป แต่กลับมีวิธีการเล่าเรื่องในแบบเฉพาะตัวที่ทำให้คนดูสนุกไปกับมันได้ไม่ยาก และ ยังแฝงไว้ซึ่งกิมมิคต่าง ๆ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดี ๆ แล้วละก็ อาจโดนหักมุมใส่หน้าชนิดไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียวพล็อตค่อนข้างปูมาแน่นในระดับนึง

มีจังหวะการสอบรับที่โคตรพอดีกันมาก ๆ จนทำให้พล็อตของทั้งเรื่องดูสมจริงสมจัง และ เข้าถึงง่ายในเวลาเดียวกัน แต่ก็ติดอยู่ที่ฉากปล่อยของ(ของแต่ละตัวละคร)ที่มันมาง่ายเหลือเกิน พอมาทีแม่งเหมือนเติมบัตรทรูอ่ะ ผ่านด่าน/ชนะง่ายจังฟระ ทำให้อุปสรรคในเรื่องดูลดลงไปมาก คือเดาได้เลยว่าถ้ามาปูมาแบบนี้ ต้องแก้ทางด้วยสิ่งนี้แน่ ซึ่งมันก็ถูกหมดเลยตามทุกอย่างที่เดา โดยไม่ต้องใช้เซลล์สมองมากนัก 9 ศาสตรา พากย์ไทย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว 9 ศาสตรา

สิ่งที่ต้องชื่นชมนอกจากการเล่าเรื่องที่แม่นจังหวะ กับฉากแอคชั่นที่คิดมาได้ละเอียด ตัวละครนำพาคนดูไปสู่ฉากใหญ่ ๆ ได้ตื่นตาทั้งหมด ทั้งเกาะไกลโพ้นทะเล การต่อสู้กลางอากาศด้วยเรือเหาะจนผ่านหุบเหว หรือแม้แต่การสู้กับราชายักษ์ก็ปูมาได้อย่างตื่นเต้นมีหักมุมหลอกคนดูด้วยครับ

เรื่องราวในช่วงแรกดำเนินไปแบบเรื่อย ๆ ค่อนข้างน่าเบื่อเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องราวเบื้องต้นที่ต้องเล่าให้ครบถ้วน แต่หลังจากที่เข้าฉากต่อสู้แล้วก็ต้องร้อง อื้อหืออออช่วงกลางเรื่องขึ้นไป บทมีความสนุก และ น่าติดตามมากขึ้น จนไปพีคในช่วงสุดท้ายบทของเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรนัก พอคาดเดาเนื้อเรื่องทั้งหมดได้อย่างไม่ยาก

แต่ในระหว่างทางเองก็มีเรื่องราวที่เซอร์ไพรส์ผู้ชมพอสมควรเลยบทดราม่าไม่ได้ถึงกับเข้มข้นมาก แต่ก็ไม่ได้เลี่ยน ถือว่าใช้ได้ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับทุกวัย สิ่งที่ผมชอบมากในภาพยนตร์เรื่อง 9 ศาสตร์ตรา ก็คือดีไซน์เหล่าตัวละคร ทั้งภาพลักษณ์ภายนอกที่บอกเลยว่าโคตรเท่ เท่ยันตัวประกอบ มีพวกการแปลงโฉมอัปเกรดหรือแปลงร่างที่เท่มาก ๆ ของอ๊อด

สุดท้ายงานภาพแม้จะสวยงามแต่การสื่อในส่วนของอารมณ์โดยเฉพาะการใช้ดวงตานั้น เรียกว่ายังดูแข็งไปนิดนึงครับ ขาดชีวิตชีวาไปพอสมควร อยากให้เล่นกับดวงตาได้มากกว่านี้อีกนิดนึง อย่างน้อยก็ประกายตาของตัวเอกที่น่าจะช่วยให้บางฉากดูเป็นวีรบุรุษผู้มากอบกู้อโยธยาได้อีกเยอะเลย ในส่วนของการแอนิเมทช่วงต่อสู้ที่ทำได้สุดยอดนั้น ก็มีบางฉากที่การเคลื่อนไหวไวจนดูหลุดดูไม่เข้าใจ บางช่วงมีอาการเหมือนเฟรมเรตไม่สูงพอทำให้ภาพดูกระตุกครับ เเต่ไม่ใช่ปัญหามากภาพยังสวยอยู่ 9 ศาสตรา ภาค2

รีวิว 9 ศาสตรา

รีวิว 9 ศาสตรา นี่เป็นครั้งแรกที่กล้าพูดเต็มปากว่า “เราควรไปสนับสนุนหนังไทย…ฝีมือคนไทย” แต่ไม่ใช่ไปดูเพราะมันเป็นหนังไทยหรือเราเป็นคนไทย หากแต่ควรไปดูเพราะมันดีจริง ๆ น่าภูมิใจจริง ๆ และ มันควรได้ไปต่อ เป็นหน้าเป็นตาของสยามประเทศก็ส่วนหนึ่ง

แต่ส่วนใหญ่ ๆ คือ อยากสนับสนุนให้มาตรฐานหนังไทย และ บุคลากรของประเทศมันสูงขึ้นจากการดูผลงานของคนไทยเรื่องนี้โครงเรื่องอันเป็นสากลเช่นนี้ จึงสามารถเป็น “สูตร” ที่สามารถเข้าถึงคนทุกชาติได้โดยไม่จำเป็นว่า คนดูต้องเป็นคนไทย แต่การที่หนังหยิบเอามวยไทย

เล่าเรื่องในรูปแบบดินแดนแฟนตาซี “วัฒนธรรม” ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของตัวละคร จึงเหมือนเป็นดินแดนแฟนตาซี ที่ถูกใส่องค์ประกอบประเภทสถานที่ เครื่องแต่งกาย วิถีชีวิตให้คล้ายคลึงกับคนไทย ในขณะเดียวกัน สถาปัตยกรรมบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างก็มีการนำศิลปะไทยในยุคสมัยต่าง ๆ มาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบจีนในช่วงที่ตัวเอกเดินทางเข้าไปในเมือง เป็นต้น

ถึงทีมงานจะเลือกตั้งใจขาย “มวยไทย” ภายใต้บริบทของหนังแฟนตาซีก็ตาม ก็เราก็ต้องบอกเลยว่าหนังสามารถใส่ประเด็นเหล่านี้เข้ามาในเรื่องราวแบบแนบเนียน และ เป็นส่วนหนึ่งของหนังได้ดีพล็อตเรื่องของ ๙ ศาสตรา นั้นเราอาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นพล็อตประเภทสูตรสำเร็จในตระกูล “การเดินทางของฮีโร่” ที่ว่าด้วยแพทเทิร์นการเล่าเรื่องแบบ ตัวละครเอกไม่มีความสามารถพิเศษใด ๆ

แต่เขาพยายามค้นหาที่มีของตัวเอง ผ่านการเรียนรู้ฝึกฝนวิทยายุทธ์จากปรมาจารย์ในการต่อสู้ ในเวลาต่อมาเขาต้องออกเดินทางเพื่อไปทำภารกิจบางอย่างให้ลุล่วง ระหว่างเดินทางเขาได้พบกับมิตรสหายใหม่ ๆ ตัวเอกได้เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิต การต่อสู้ เข้าเติบโตขึ้นความคิดความอ่านที่ได้ร่ำเรียนมาถูกใช้ ตัวเอกต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมาย และ ในที่สุดเขาก็จะสามารถทำภารกิจลุล่วง และ กลายเป็นวีรบุรุษในที่สุด การ์ตูน 9 ศาสตรา

สรุป

อีกองค์ประกอบหนึ่งที่น่าชื่นชมมาก ๆ คืองานดนตรีประกอบของหนัง ที่เรียกได้ว่ามีความเร้าใจ และ เป็นสิ่งเกื้อหนุนที่เร้าอารมณ์ของผู้ชมในหลายฉากหลากตอน อันเป็นผลงานของ ไรอัน ชอว์ ซึ่งผ่านการทำงานด้านดนตรีประกอบให้กับแอนิเมชั่นชื่อดังมาแล้วมากมาย

ความสนุกของ ๙ ศาสตรา นั้นอยู่ที่วิธีการดำเนินเหตุการณ์ต่าง ๆ ของเรื่องที่เล่าเรื่องราวอย่างกระชับ ฉับไว จะว่าไปหลังจากที่ตัวละคร “อ๊อด” ได้ออกไปผจญภัยนอกหมู่บ้านของตัวเอง หนังก็อัดแน่นฉากตื่นเต้น สนุกสนานเข้ามาแบบไม่หยุดยั้ง ประกอบการการเนรมิตภาพเมืองต่าง ๆ ได้อย่างสวยงาม ทำให้ภาพที่ปรากฏต่อสายตาผู้ชมนั้นชวนตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น

ส่วนตัวผมได้มีโอกาสไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ สำหรับคะเเนนผมขอให้ 8.5/10 อีก0.5 ขอหักเรื่องบทนะครับ 9 ศาสตรา 4K

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017

หนังไทยnetflix สวัสดีครับหลายๆคนคงรู้จักสยามสแควร์ เพราะหากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วงนึงเคยเป็นเทรน ที่วัยรุ่นไทย ส่วนใหญ่มักสนใจและอยากไปเดินเที่ยวกัน และนี่ก็คือหนังจากค่ายสหมงคลฟิล์มที่หลัง ๆ ดูซบเซาลงพอตัวเลยแหละครับ แต่จากหน้าหนังที่ปล่อยมาทำให้เราคาดหวังได้พอสมควรว่าสหมงคลน่าจะกลับมาทวงแถวหน้าของวงการหนังไทยได้อีกครั้ง ด้วยองค์ประกอบที่ฉีกแนวไปจากหนังเรื่องอื่น ๆ ในตลาด ทั้งการผสมแนววัยรุ่นวัยเรียนกับแนวสยองขวัญ บนพื้นที่ที่ทุกคนคุ้นเคยหรือมีประสบการณ์ร่วมอย่าง สยามสแควร์ฯ ที่เป็นทั้งแหล่งช็อปปิ้งและเรียนพิเศษมาไม่ว่ายุคไหน ๆ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ดูจากตัวอย่าง อาจจะมองว่าเป็นหนังที่มีแง่มุมแค่ความรักประสาวัยรุ่น แต่เมื่อไปดูจริงๆ กลับได้พบว่ามันมีมากกว่านั้น เพราะมันได้ใส่เรื่องราวของวัยที่ยังไม่ประสากับชีวิตมากนัก บางครั้งก็ทำอะไรโดยไร้ความยั้งคิด ไร้การตริตรองจนถึงขั้นสร้างผลร้ายทิ้งไว้ให้กับใครบางคน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์: สยามสแควร์
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Homsap Chanchana, Eakarach Monwat, Petchsri Teepanun
ผู้กำกับภาพยนตร์: ไพรัช คุ้มวัน

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017 สยามสแควร์ ใช้สยามสแควร์…แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของวัยรุ่นไทย…เป็นฉากหลังของภาพยนตร์ แต่คราวนี้ต่างจาก รักแห่งสยาม ตรงที่เขาจะเล่าตำนานสยองขวัญของสยามสแควร์ เรื่องของเด็กผู้หญิงที่หายไปอย่างลึกลับจากเหตุการณ์ไฟดับเมื่อ 30 ปีก่อน

หนังไทยที่หยิบเอาช่วงเวลาของวัยรุ่นที่ผูกพันกับสถานที่อันมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของวัยรุ่นมาหลายสิบปี จนเริ่มมีคนคิดว่า “แล้วจริงๆ สยามสแควร์มันมีผีมั้ยหว่า” ถ้าจะหยิบพล็อตผีใส่สถานที่สักแห่งที่เข้าถึงกลุ่มคนดูหนังวัยรุ่นได้ ก็น่าจะเป็นที่นี่แหละ

สังเกตได้ว่า ผมไม่ได้กล่าวถึงตัวละครใดๆ เลยสักตัวในเรื่องย่อหนัง สาเหตุก็เพราะ มันมากเกินที่จะมานั่งสาธยายให้หมดจดถ้วนทั่วทุกตัวนักแสดง ชื่นชมในการแสดงของหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เบสต์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ ที่เล่นได้โดดเด่นโดยเฉพาะบทฮา อีกคนที่เด่นก็คงเป็น พลอย ศรนรินทร์ ขณะที่เรื่องความน่ารักคงหนีไม่พ้นสองคนนี้ อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ และ เหม่เหม ธัญญวีร์ ชุณหสวัสดิกุล

พร้อมกับคำถามว่าถ้าสยามที่เรารู้จักมีอีกด้านหนึ่งที่แสนลึกลับล่ะ? ด้วยภาพแบบทันสมัยกับพล็อตที่มีกลิ่นความเชื่อโบราณ ๆ กลายเป็นความขัดกันที่น่าสนใจขึ้นมามากทีเดียวและความเห็นหลังจากได้รับชมแล้ว ต้องบอกว่านี่คืองานหนังไทยที่กล้าลองสูตรใหม่ ๆ และฉลาดในการเล่ามากที่สุดเรื่องหนึ่งในขณะนี้เลยครับนี่เป็นผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ที่เคยร่วมงานกับเจ้าพ่อฮิปสเตอร์สุดเทพอย่าง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

โดยเขาเคยกำกับภาพให้หนังดี ๆ มัน ๆ อย่าง Mary is Happy,Marry is Happy นอกจากนี้ยังรวมถึงกำกับภาพใน 36 หนังเรื่องแรกของเต๋ออีกด้วยเมื่อต้องทำหน้าที่กำกับเองในเรื่องนี้ ด้านงานกำกับภาพไพรัชจึงไว้ใจให้ ภิไธย สมิตสุต ที่มีผลงานระดับอินเตอร์ทั้งเวทีประกวดและงานเบื้องหลังหนังดังฮอลลีวู้ดที่มาถ่ายทำในบ้านเรามากมายมารับผิดชอบไป

ซึ่งการที่ต้องถ่ายด้วยข้อจำกัดอย่างการห้ามตั้งขาตั้งกล้องและใช้ทีมใหญ่ตามข้อตกลงการใช้พื้นที่ ทำให้ภิไธยเลือกใช้เลนส์อนามอฟิกที่ทำให้ได้ภาพกว้างเหมาะกับการถ่ายแบบแฮนด์เฮลด์อีกด้วย

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว สยามสแควร์ 2017

​เมื่อราวๆ 30 ปีก่อน เคยเกิดเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ไปทั่วทั้งเวิ้งสยามสแควร์ พร้อมๆ กับการหายตัวไปอย่างลึกลับของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นเรื่องเล่าสยองขวัญปากต่อปากจนถึงปัจจุบันว่า วิญญาณของเด็กสาวคนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในสยาม หากใครบังเอิญเจอและโดนผูกด้ายแดงเข้าที่ข้อมือจะมีอันเป็นไป

ตำนานเล่าสยองขวัญข้างต้นนี้ ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ใน สยามสแควร์ หนังยาวเรื่องล่าสุดของ ไพรัช คุ้มวัน เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนนักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่ง ที่พาตัวเองเข้าไปพัวพันกับตำนานสยองขวัญดังกล่าวทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ จนโดนด้ายแดงผูกติดข้อมือกันถ้วนหน้า ทำให้พวกเขาต้องช่วยกันหาวิธีหนีให้พ้นจากตำนานบ้าๆ นี้ไปให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของพวกเขาจะโดนวิญญาณเด็กสาวพรากไปในท้ายที่สุด

ทว่าทางออกที่ต้องการกลับไม่ได้นำพามาแค่เส้นทางเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยความจริงของตำนานสยองขวัญที่น่าเหลือเชื่อและน่าสนใจมาก เพราะใครจะไปคิดว่าอยู่ดีๆ หนังผีพล็อตหลอนๆ ที่มีจังหวะการหลอกแบบโหดๆ แอบตลกบ้างเป็นครั้งคราวเรื่องนี้ จะพลิกพล็อตไปเล่นเรื่องการเดินทางข้ามกาลเวลา มิติคู่ขนาน และผีเทียมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยตอนกลางเรื่อง ชนิดที่ทำเอาคนดูเกือบทั้งโรงเหวอไปกับความกล้าหักมุม 360 องศาได้ขนาดนี้ สยามสแควร์ Netflix

ข้อสังเกต สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017

นอกจากเรื่องผีเทียมที่เป็นแมสเสจหลักของหนังแล้ว สยามสแควร์ ยังแทรกประเด็นทางสังคมแง่มุมอื่นๆ ลงไปอีกหลายเรื่อง ที่ชัดเจนรองลงมาหน่อยก็เห็นจะเป็น ‘ความเปลี่ยวเหงาจากสังคมก้มหน้า’

ความจริงการก้มหน้าดูจอมือถือตลอดเวลาในยุคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว เพราะความจำเป็นในการใช้งานมือถือของคนเราไม่เท่ากัน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าระหว่างการไถมือถือ ได้เงยหน้ามาสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวมากแค่ไหน เพราะก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่าแต่ละคนมีขีดความอดกลั้นต่อความน้อยใจต่างกัน อย่างตัวละคร เมย์ (อิษยา ฮอสุวรรณ)

ไม่พอในด้านบทหนัง ยังเป็นโปรเจคที่ใช้ทีมงานและเวลาฟูมฟักกันมานานกว่า 3 ปีทีเดียว จนได้ผู้กำกับไพรัชมาสรุปท้ายสอดแทรกประสบการณ์ส่วนตัวลงไป เกิดเป็นหนังอย่างที่ได้รับชมกันตอนนี้ หนังเล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อนเรียนพิเศษต่างโรงเรียน ที่มีจุดศูนย์กลางเรื่องเล่าอย่าง เมย์ (อุ้ม อิษยา) เด็กสาวหน้าสวยแต่ดันมีนิสัยมั่นดูหยิ่งไม่ค่อยน่ารักนัก ทำให้เพื่อนรอบ ๆ ตัวเธอค่อย ๆ หายไป เหลือเพียง จุ๊บเล็ก (หลิว มรกต) เพื่อนคนสนิทเท่านั้นที่อยู่เคียงข้าง

ที่ลึกๆ อาจคิดว่าเพื่อนสนิทอย่าง จุ๊บเล็ก (มรกต หลิว) ไม่เข้าใจตัวเธอ เลยหันไปคุยกับเพื่อนที่รู้จักกันทางไลน์มากกว่าเงยหน้ามาคุยกับจุ๊บเล็ก ที่มักเตือนด้วยความหวังดีแต่แอบแรงอยู่บ่อยๆ จนเกิดเป็นรอยร้าวในความสัมพันธ์คนทั้งสอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่นำไปสู่ต้นกำเนิดผีเทียมในเรื่องถึงจะบอกว่า สยามสแควร์ เป็นหนังที่มีประเด็นซ่อนเอาไว้เยอะมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดไปหมดทุกเม็ด จริงๆ

เอาแค่เข้าไปดูแบบไม่คิดอะไรเลยก็ยังได้ เพราะจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องของหนังทำได้ดีทีเดียว อาจไม่หักมุมรุนแรงเท่า Cabin in the Wood (2012) แต่มันก็เหวอมากพอให้สบถดังๆ ได้เหมือนกัน สยามสแควร์ หนังเก่า

รีวิว สยามสแควร์ 2017

รีวิว สยามสแควร์ 2017สยามสแควร์ เป็นผลงานการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ ป้อง-ไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับภาพของ Mary Is Happy, Marry Is Happy และ 36 ของผู้กำกับขวัญใจฮิปสเตอร์ พี่เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

อย่างไรก็ตาม หนังเขาก็ไม่ได้ใช้โลเกชั่นสยามสแควร์คุ้มค่ามากมายสมกับที่อุตส่าห์ตั้งชื่อหนังว่า สยามสแควร์ แต่อย่างใดหรอกนะ ประมาณเกือบ 80% ของหนัง เขาก็ถ่ายในห้องเรียนพิเศษเล็ก ๆ ในตึกกวดวิชาเก่า ๆ ก็เท่านั้นแหละ มีเดินไปเดินมาในซอยอื่นบ้าง หรือไปนั่งร้านมิลค์พลัสบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อันใดมากนัก

การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ เหมือนพยายามจะชักชวนให้ขวัญผวาอยู่บ่อยครั้ง เล่นมุกตกใจไม่ถึงกับบ่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับชวนขนหัวลุกแต่อย่างใด (ในกลุ่มเป้าหมายที่กลัวผีอยู่เป็นทุน นั่นก็คงเป็นข้อยกเว้น) แต่คนตัดต่อพยายามอย่างยิ่งที่จะเล่าเรื่องให้มีชั้นเชิงด้วยการตัดสลับบางเหตุการณ์เอาไว้นึกสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วย้อนกลับไปเล่าเรื่องก่อนหน้าเพื่อมาบรรจบกับเรื่องปัจจุบัน ส่งผลให้คนดูต้องครุ่นคิดปะติดปะต่อเรื่องราว

ตัวละครหลักมีทั้งหมด 10 คน เป็นเพื่อนที่เรียนพิเศษที่เดียวกัน ได้แก่ เมย์ (อุ้ม อิษยา), จุ๊บเล็ก (ต้นหลิว มรกต), นิด (พลอย จากอาปัติ), เติร์ก (ภีม จากฮอร์โมนส์), ม่อน (เบสท์ ณัฐสิทธิ์ จากตั้งวง, อวสานโลกสวย, MV อ้าว), หมูหวาน (ปลื้ม ปุริม จากเกรียนฟิคชั่น), นิวตัน (เอิร์ธ อติคุณ หรือสมพงษ์ ฮอร์โมนส์), ปอนด์ (บอนน์ มนภัทร), เฟิร์น (เหม่ยเหมย ธัญญวีร์), และมีน (คิ้ว อนงค์นาถ)

ตัวละครทั้งหลายข้างต้นเป็นจุดอ่อนสำคัญของหนังเรื่องนี้ เพราะตัวละครมันมีเยอะเกินไปอย่างกับทีม Avengers แล้วหนังก็พยายามจะให้แต่ละตัวมีเส้นเรื่องของตัวเอง จนเกิดเส้นเรื่องที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป เช่น รักหลายเส้าอิรุงตุงนังตามประสาวัยว้าวุ่น สยามสแควร์ เนื้อเรื่อง

บทสรุป

ถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก คือก็มีประเด็นวัยรุ่น เช่น เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องความต้องการการยอมรับ ฯลฯ คือก็พอมีอะไรใหม่ ๆ ให้ดู ถึงแม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ที่มั่ว ๆ งง ๆ เป็นต้มจับฉ่ายไปเสียหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็พอมีรสชาติอยู่บ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยที่สุดดาราเด็ก ๆ หลายคนก็เจริญหูเจริญตา และน้องเบสท์โอปป้าก็มอบความบันเทิงให้เราได้ไม่น้อย

ถึงจะบอกว่า สยามสแควร์ เป็นหนังที่มีประเด็นซ่อนเอาไว้เยอะมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดไปหมดทุกเม็ด จริงๆ เอาแค่เข้าไปดูแบบไม่คิดอะไรเลยก็ยังได้ เพราะจังหวะจะโคนในการเล่าเรื่องของหนังทำได้ดีทีเดียว อาจไม่หักมุมรุนแรงเท่า Cabin in the Wood (2012) แต่มันก็เหวอมากพอให้สบถดังๆ ได้เหมือนกัน

เป็นหนังที่เราอาจทั้งชอบมากและเกลียดมากไปเลย ซึ่งไอ้หนังแบบนี้ล่ะครับที่เขาเรียกว่ามีของ ถึงจะสร้างความรู้สึกรุนแรงกับคนดูหลังหนังจบได้แบบนี้ ไม่ว่าจะชอบจะไม่ชอบแต่สิ่งหนึ่งที่พูดได้คือหนังกล้ามาก ฉลาดมาก น่ากลัวมาก และเป็นหนังที่ตีตั๋วไปเชียร์หนังไทยได้อย่างไม่เสียดายตังค์ครับ สยามสแควร์ 2527

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

หนังไทยnetflix สวัสดีครับสำหนับหนังไทยสายบู๊ที่จริงๆจังๆนั้นคงจะหาได้ยากนะครับ แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่นำแสดงโดยนักแสดงตลกรุ่นใหญ่อย่าง หม่ำ แต่จะว่าไปแล้ว “บอดี้การ์ดหน้าหัก” เป็นหนังที่เขียนพล็อตขึ้นมาแบบหลวม ๆ สายฮาๆ หาสาระไม่ได้ เพราะอันที่จริง เนื้อหาสาระของมันพูดถึงแค่ “ยามวัยกลางคนที่หมดกะในการเฝ้าเวร ระหว่างทางเขาต้องแวะซื้อบะหมี่กลับบ้านไปให้เมีย แต่จับพลัดจับผลูเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ลอบสังหารระดับชาติ” ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง แม้จะหาเนื้อหาสาระใด ๆ ไม่ได้ อีกทั้งหนังก็เล่าเรื่องตามแพทเทิร์นหนังมือสังหารแบบไม่มีอะไรพลิกผัน ถ้าหากคนดูเป็นแฟนรายการพวก “หม่ำโชว์” หรือ “ชิงร้อยชิงล้าน” ก็อาจจะบันเทิงไปกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์ บอดี้การ์ด หน้าหัก
แนว: แอ็คชั่น | ตลก
กำกับ: พิพัฒน์ จอมเกาะ
กำหนดฉาย: 28 พฤศจิกายน 2019
นำแสดง: เพชรทาย วงค์คำเหลา, เทพ โพธิ์งาม, หรินทร์ สุธรรมจรัส, สิตางศุ์ ปุณภพ, แอ๊ค เที่ยรี่, เล็ก คาราบาว, ดิม หรินทร์ (วงแทตทูคัลเลอร์), ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ยูบิน (นางเอกสาวจากกรุงพนมเปญ)

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก หม่ำ เพชรทาย วงศ์คำเหลา นักแสดงตลกที่ขยับก็เรียกเสียงฮาได้อยู่สม่ำเสมอ เขาถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในเมืองไทยมาอย่างยาวนานก็ว่าได้ การแสดงของเขาล้วนแล้วเปรียบเหมือนคนแบกหนังเอาไว้ เป็นสิ่งที่เย้ายวนชวนใจให้ใคร ๆ หลายคนอยากมาดูกัน บอดี้การ์ดหน้าหัก เป็นอีกเรื่องที่นำ หม่ำ มาแสดง หวังที่จะให้ความสำเร็จในอดีตอย่างบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมกลับคืนมา

วิธีการดำเนินเรื่องของ “บอดี้การ์ดหน้าหัก” คือการเล่าสถานการณ์ต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ พร้อมกับการโยนมุกตลกสามช่าเข้ามาแบบไม่สนใจว่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์หรือไม่ ( และ ตัวทีมงานก็ดูไม่แคร์ด้วยซ้ำไป) ซึ่งตลอดทางของหนัง บรรดานักร้องเพลงเพื่อชีวิตไม่ว่าจะแอด คาราบาว หรือ เทียรี่ คาราบาว ลามไปถึง เอกชัย ศรีวิชัย ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อรับบทเป็นตัวเอง และ คนดูก็พอเข้าใจได้ว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในลูกน้องของป๋าเทพอะไรประมาณนั้น

ฉากเปิดเรื่องเรามีโอกาสได้ทำความเข้าใจว่า เปรม (หรินทร์ สุธรรมจรัส) กำลังคบหาดูใจกับศร (ชิน ยูบิน) ซึ่งเธอได้พยายามแนะนำเขาให้กับพ่อชุณ (ยิ่งยง ยอดบัวงาม) กำลังตกเป็นเป้าสังหารของผู้ก่อการร้าย แต่เมื่อแผนการไม่สำเร็จ

เรื่องราวจึงดำเนินต่อมาให้เราได้ทำความรู้จักกับ คำก้อน (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ยามประจำธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งสนิทสนมกับเปรมราวกับเป็นลูกหลาน

ระหว่างออกกะเพื่อเดินทางกลับบ้านคำก้อน ได้รับโทรศัพท์จากเมียตัวเองให้ซื้อบะหมี่โหน่งเจ้าอร่อยกลับบ้านไปด้วย แต่แล้วระหว่างที่กำลังจะออกจากร้านนั้นเอง เหล่าผู้ก่อการร้ายซึ่งนำทีมโดย เทพ (สุเทพ โพธิ์งาม) ได้ตามมาเจอชุณ เขมพิณ อีกครั้งโดยครั้งนี้คนดูจะได้ทราบแล้วว่า เขาเป็นถึงประธานาธิบดีประเทศเขมราษธาราที่กุมความลับบางอย่างเอาไว้อยู่จนตกเป็นเป้าสังหาร ด้วยความจำใจคำก้อนจึงต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชุณให้รอดพ้นจากการปองร้ายครั้งนี้ และ ต้องนำบะหมี่โหน่งกลับบ้านไปให้เมียอีกด้วย

เรื่องย่อ

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

“คำก้อน” พนักงานรักษาความปลอดภัยธนาคารแห่งหนึ่ง เพิ่งออกเวรกำลังกลับบ้าน แล้วเกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายกำลังตามล่า “นายชุณ เขมพิณ” ประธานาธิบดีประเทศเพื่อนบ้าน คำก้อนเข้าช่วยเหลือนายชุนด้วยความไม่ตั้งใจ จนทำให้หน่วยล่าสังหารตามล่าทั้งคู่ โดยที่ทั้งนายชุน และ ผู้ก่อการร้ายไม่รู้ว่า คำก้อน คืออดีตทหารหน่วยรบพิเศษ และ สายลับเก่า บอดี้การ์ดหน้าหัก เต็มเรื่อง 037

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

หนังไทยช่วงปลายปี 2562 มานี้จะมีข้อดีข้อแย่ต่างกันออกไป บางเรื่อง CG ทำออกมาดีแต่บทนี่เกินจะทนไหว บางเรื่องบทดีแต่ CG เหมือน 20 ปีที่แล้ว แต่เรื่องนี้สยบทุกอย่างเพราะ ฉากแอคชั่นทำออกมาได้ดี มุกตลกทำออกมาไม่แป้กจนเกินไป บทหนังที่กลั่นกรองออกมาเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกเพศทุกวัยไม่ต้องตีความแถมจบลงตัวอีกด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยในเรื่องนี้

หากใครได้ดูหนังของพี่หม่ำในยุคหลัง ๆ จะสังเกตเห็นได้เลยว่าหนังแต่ละเรื่องจะมี ศิลปินก๊อปปี้โชว์ มาปรากฎตัวตลอด ตั้งแต่คนเลียนแบบมิสเตอร์บีนใน ส่มภัคเสี่ยน มาจนถึงบอดีการ์ดหน้าหักนี้ ที่มีมุกก๊อปปี้โชว์เยอะมาก และ โดดเด่นจนช่วงแรกของหนังไม่ต่างจากช่วงโชว์ในรายการซูเปอร์หม่ำทั้ง ตูน บอดีสแลมปลอม หรือ แอ๊ด คาราบาวปลอม (แสดงโดย คาวบอย ศิลปินอินดีที่เลียนเสียงน้าแอ๊ดร้องเพลง)

แต่ยังดีที่หนังมีลูกเล่นในการสลับเพื่อเปิดตัว น้าแอ๊ด คาราบาว พี่เทียรี่ คาราบาว เข้ามาในฉาก และ ยังอุตส่าห์มี ป๋าเทพ ตัวปลอมอีกนะ ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่หม่ำแกจะทิ้งทวนมุกก๊อปปี้โชว์ หรือ ยังเพราะส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าการมานั่งดูก๊อปปี้โชว์ในโรงจะสร้างความบันเทิงตรงไหนแถมยังไม่ได้ไปกับเรื่องราวในหนังเท่าใดนักด้วย

ซึ่งเมื่อได้ดูก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยเพราะในตัวหนังนั้นสนุกไม่ใช่น้อย การยิงกัน บทหนังก็ดูจะเมคเซ้น ถึงแม้ไม่ค่อยปูเรื่องราวพื้นหลังตัวละครหลักมากสักเท่าไหร่แต่สิ่งที่หนังต้องการจะบอกกลับทำให้รู้สึกว่า นี่แหละหนังไทยต้องการบทหนังที่เข้าใจได้แบบนี้

แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดจากการที่ดูคือ บทบาทแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์มาก มากจนรู้สึกว่า เห้ยนี่แหละหนังตลกที่รอคอยหนังที่อยากเห็นแต่ละคนดัง ๆ มาดวลปืนใส่กันเอง ถ้าลองคิดดูว่าตัวละครเหล่านี้ใครจะมาแทนได้คิดไปหลายวันก็ยังนึกไม่ได้อยู่ดีว่าใครจะแทนได้ เพราะมันลงตัวจริง ๆ

ข้อเสียที่อยู่ในหนังบอดี้การ์ดหน้าหักก็คือ การ Tie in สปอนเซอร์ในหนังมากจนเกินพอดีในช่วงครึ่งแรกของหนังเหมือนกับว่าลูกค้ามานั่งดูทุกฉากทุกขั้นตอนการถ่าย Tie in สินค้าอยู่ตลอดถึงแม้เป็นฉากยิงกันอย่างยาวนานก็สามารถแทรกมาได้บวกกับการโฆษณาของหม่ำ และ เพื่อนที่บอกได้เลยว่าน่ารำคาญก็ว่าได้ อยากกินตีนไก่ ที่มีทุก ๆ 15 นาทีในหนัง ยังไม่รวมกับบะหมี่โหน่งที่ใส่เข้ามาจนทำให้รู้สึกว่าจะขายอะไรนักหนาขายไปทำไมเยอะแยะเหมือนให้คนดูจำฝังใจว่าจบหนังเรื่องนี้อย่าลืมไปฟังเพลงกับกินบะหมี่โหน่งกันนะครับยังไงอย่างงั้น บอดี้ การ์ด หน้าหัก เต็มเรื่อง hd พากย์ไทย เต็มเรื่อง

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก

รีวิว บอดี้การ์ดหน้าหัก อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่แฝงอยู่ในเรื่อง คือการที่ให้ “เป้าสังหาร” ตกเป็นของประธานาธิบดีประเทศเขมราษธารา ซึ่งชื่อประเทศสมมติมีความใกล้เคียงกับอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเคยมีประเด็นในการอยากจะแยกตัวออกมาเป็นจังหวัดใหม่ภายใต้ชื่อจังหวัดเขมราษฏร์ธานี เมื่อปี 2561 หนังก็เผยให้เราเห็นว่า เหตุการณ์ลอบสังหารนั้นเกิดขึ้น เพราะเรื่องราวของผลประโยชน์ที่ว่าด้วยการเอื้อโอนความสะดวกในการประมูลสัมปทานให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศ จนคนที่ขัดกับผลประโยชน์นั้นจะต้องถูกกำจัดให้พ้นทาง น่าจะเป็นประเด็นสากลที่สุดในหนังเรื่องนี้

นอกเหนือจากนั้นแล้ว พฤติกรรมเมียติดไพ่นกกระจอก เอาตีนถีบหน้าผัว คำผรุสวาท หยาบโลนเหมือนคำพูดปกติ หรือ แม้กระทั่งการด่าพ่อล่อแม่นั้น ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จภาคบังคับในหนังของหม่ำ จ๊กม๊กมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้อำนวยการสร้างแทบทุกเรื่องก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด แต่แค่คนดูบางกลุ่มอาจจะไม่ถูกจริตกับมุกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด บอดี้การ์ดหน้าหักเต็มเรื่อง ซับไทย

สรุป

ใครอยากหาหนังไทยบู๊ ตลก ๆ บอดีการ์ดหน้าหัก ยังคงเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณอยู่ แต่หากมองหาหนังที่มีเนื้อหาสาระ มีข้อคิดเตือนใจ หรือ หาหนังครอบครัวไม่มีพิษมีภัยให้เด็ก ๆ ได้ดู หนังยังไม่ตอบโจทย์เท่าใดนักครับ

แต่งานโพรดักชันยอมรับเลยว่าทั้งการดีไซน์คิวบู๊ หรือ งานถ่ายภาพของ ทิวา เมยไธสงทำให้ภาพรวมของฉากแอ็กชันในหนังดูดีมาก เสียแค่การเลือกใช้บีบีกันในการถ่ายทำที่ดูมือสมัครเล่นไปหน่อย แม้ฝุ่นของบอลสีที่กระทบกับเนื้อตัวจะคล้ายเลือดพุ่ง และ มีการติดเอฟเฟกต์เลือดแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดูยังไงก็ดูออกว่าเป็นปืนบีบีกัน

จนฉากบู๊ที่ดีไซน์มาอย่างดีมามีจุดด่างพร้อยไปอย่างน่าเสียดาย แต่ภาพรวมการออกแบบฉากวินาศสันตะโรต่าง ๆ ก็ทำได้ดี แม้หลายจังหวะจะดูออกว่าได้แรงบันดาลใจจากหนังบู๊แห่งยุคอย่าง john wick อย่างชัดเจน

สุดท้ยนี้ ก็ถือเป็นหนังไทยที่น่าสนับสนุนเลยทีเดียวนะครับสำหรับ บอดี้การ์ดหน้าหัก ผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดของพี่หม่ำ อย่างน้อยก็ได้ไปดูฉากแอคชั่นสุดมันส์ ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว แถมมุขตลก ก็ไม่ได้หยาบคายมากจนเกินไป เหมือนหนังตลกเรื่องอื่น ๆ โดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่เสียดายค่าตั๋วครับ อย่าลืมไปรับชมกันน้า บอดี้ การ์ด หน้าหัก เต็มเรื่อง ภาค 2

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone

หนังไทยnetflix สวัสดีครับวันนี้ผมมาแนะนำหนังไทยสุดอินเลิฟที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่จับตามองเอามากๆของวัยรุ่น ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น สารภาพตามตรงเลครับว่าเคยชอบเพื่อนคนนึงมากๆ พอมาดูเรื่องนี้ก็อินสุดๆเลยครับ เป็นหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ จากค่ายหนังอารมณ์ดี GDH ที่ได้ฉายทางโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันวาเลนไทน์ ปี 2019 จนวันนี้ผมได้มีโอกาสได้กลับมาดูหนังเรื่องนี้อีกครั้ง แม้จะเป็นการดูรอบที่ 2 ของผม แต่ตัวหนังก็ยังคงความสนุก มุกที่ดูแล้วก็ขำอยู่เหมือนเดิม ตัวของหนังเองที่แอบใส่ความดราม่าเล็ก ๆ ลงไป แม้จะยังไม่สุดพอจนทำให้เราน้ำตาไหลได้แต่ก็เป็นหนังที่ทำให้คุณยิ้มได้เมื่อดูจบ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง “Friend Zone ระวัง…สิ้นสุดทางเพื่อน” ของทางค่าย GDH ซึ่งเป็นค่ายที่สร้างภาพยนตร์ได้โดนใจวัยรุ่นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะมีหนังเรื่องใหม่ที่มาจากช่องเขาเมื่อไหร่ ใคร ๆ ก็อยากที่จะติดตาม เช่นเดียวกับเรื่อง “Friend Zone ระวัง…สิ้นสุดทางเพื่อน” ที่เราได้นำมารีวิวในวันนี้ ตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างหนังออกมาทำเอากระแสตอบรับจากคนที่คอยชมกันอยู่เยอะเลยทีเดียว เพราะค่อนข้างตรงกับชีวิตความรักของใครหลาย ๆ คนอยู่อีกด้วย นักเขียนก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ จนตอนนี้ได้ดูจนจบเรียบร้อยแล้ว จึงจะนำมารีวิวว่าเนื้อเรื่องเขาเป็นยังไง สนุกมั้ย น่าติดตามหรือเปล่า? ไม่มัวรอช้า ไปตามดูพร้อม ๆ กัน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone หนังภาพยนตร์ Friendzone ระวังสิ้น…สุดทางเพื่อน เป็นหนังโรแมนติกคอมิดีที่โดดเด่นเรื่องหนึ่งของ GDH ซึ่งเป็นค่ายที่มักปล่อยหนังแนวนี้ออกมาเรื่อย ๆ และ มักจะทำรายได้ได้ดี หนังเล่าเรื่องของปาล์ม สจ๊วตหนุ่ม ที่ติดอยู่ใน “เฟรนด์โซน” คือเป็นได้แค่เพื่อนกับ กิ๊ง ทั้งที่เขาแอบหลงรักเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม กิ๊งนั้นมีแฟนหนุ่มชื่อเท็ด ซึ่งเป็นคนทำงานในวงการดนตรี ในขณะที่เธอทำงานเป็นผู้จัดการศิลปิน

ไอเดียของการทำให้ตัวละครทั้งสองเคลื่อนไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ ผ่านการเดินทางด้วยเครื่องบิน และ ใช้โค้ดสนามบินแต่ละแห่งเป็นตัวเปิดฉากนั้นเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ และ ทำงานได้อย่างแยบยลกับชนชั้นกลางที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของหนังค่ายนี้ โดยทำให้พวกเขาเชื่อมโยงเป็นส่วนหนึ่งกับพระเอกนางเอก

ใสถานที่ที่ทั้งสองไปเยือนนั้น เป็นเพียงฉากที่ช่วยบ่มเพาะความรักความสัมพันธ์ให้สุกงอม และ ทำหน้าที่เป็นเสมือนฉากในเทพนิยายโดยแยกขาดจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน และ ความเหลื่อมล้ำที่อาจนำมาเปรียบเทียบกับไทยได้ ชีวิตซึ่งดำเนินไปโดยมีความมั่นคงในระดับหนึ่งทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เดือดร้อนกับการต้องดิ้นรนให้มีชีวิตพ้นไปทุกวันเช่นที่ชนชั้นแรงงานต้องเผชิญ และ ปัญหาที่ดูร้ายแรงที่สุดดูจะเป็นการอกหักเพียงเท่านั้น

มีฉากหนึ่งที่กิ๊งอยู่ที่มาเลเซีย และ ต้องการให้ปาล์มมาหา ปรากฏว่าปาล์มก็ขึ้นเครื่องบินมาหาเธอจากที่พม่าได้ในทันที อำนาจในการ “จ่ายได้” ของชนชั้นกลาง ดูจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้มีอภิสิทธิ์ และ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเชิงโครงสร้างหลายอย่างของประเทศ ประเทศต่าง ๆ ทั้งที่เจริญน้อยกว่า และ มากกว่าไทย

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว friend zone

Friendzone ระวังสิ้น…สุดทางเพื่อน เรื่องราวของหนังจะเล่าถึง “กิ๊ง” กับ “ปาล์ม” ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม โดยวันหนึ่งกิ๊งได้แอบสะกดรอยตามพ่อของเธอไปจึงพบว่าพ่อของเธอแอบไปมีกิ๊ก กิ๊งเสียใจมากแต่ก็มีปาล์มคอยอยู่ข้าง ๆ และ ปลอบใจตลอด จนทั้งสองเกือบที่จะได้ขยับความสัมพันธ์กันแล้ว

แม้ลึก ๆ ในใจของปาล์มอยากบอกรักกิ๊ง แต่ปาล์มกลับบอกเธอไปว่าคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น วันเวลาผ่านไปไม่ว่ากิ๊งจะคบกับผู้ชายคนไหน เวลามีปัญหาก็จะเป็นปาล์มที่อยู่ข้างกิ๊งเสมอ รวมทั้งยังต้องไปช่วยตามดูแลเธอ ในการแอบสะกดรอยตามแฟนของกิ๊ง “พี่เท็ด” ว่าพี่เท็ดได้นอกใจกิ๊งหรือไม่อีกด้วย friend zone 2 เต็มเรื่อง

เอาเป็นว่าปาล์มเป็นทุกอย่างให้กิ๊งหมดแล้วที่ไม่ได้เป็นอย่างเดียวคือแฟนนั่นเอง นี่คือเรื่องราวคร่าว ๆ ของชายหนุ่มผู้อยู่ใน Friend Zone มาอย่างยาวนานโดยเล่าผ่านการพูดคุยของแก๊งชายหนุ่มในงานแต่ง ผู้ถูก Friend Zone ด้วย เช่นเดียวกัน

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว friend zone

เหมือนว่าโจทย์ถูกบังคับให้หนังจะต้องออกมาเป็นโรแมนติก-คอมมีดี้ แม้ว่าเนื้อหาบนชะตากรรมตัวละครจะเศร้าปานใด หนังก็เลยยัดเยียดมุกลงไปให้เกิดเสียงหัวเราะได้ทุก ๆ 5 นาที หลายมุกทีเล่นกับสถานการณ์กระอักกระอ่วน เก้อเขิน ก็ได้ผลดี มุกที่มากับบทสนทนาแซวจิกกัดก็ได้เสียงหัวเราะไปเสียทุกครั้ง

แต่บางมุกก็ฝืนเกินไป เหมือนมุกในละครหัวค่ำ อย่างตอนปาล์มเอาช็อคโกแลตลาวามาทารอบปากแทนหนวดเคราเพื่อล้อเลียนพี่เท็ด มุกที่ปาล์มแต่งเนื้อร้องแซวกิ๊งใส่ทำนองเพลง “คิดมาก” ก็ไม่ได้รู้สึกขำตาม หรือมุกลิงซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ก็ดูแล้วเหมาะกับหนังตลกสไตล์โก๊ะตี๋-น้าค่อมมากกว่านะ

ถ้าไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาพยายามให้ตลก ลดระดับมุกต่าง ๆ ให้พอมีบ้าง แล้วไปขยี้เรื่องราวดราม่าของปาล์ม – กิ๊ง น่าจะพาไปถึงระดับน้ำตาแตกได้พอ ๆ กับ FANDAY เพราะตลอดเรื่องคนดูก็ได้รู้จักตัวตนของปาล์ม-กิ๊งมาพอดู ต่างก็ลุ้นให้คู่นี้ได้เปิดปากบอกความในใจกันเสียที ลุ้นให้ลงเอยกันเสียที

โดยความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ ผมรู้สึกว่าภาพยนตร์เร่องนี้มันยังลืมรายละเอียดของภาพยนตร์ไปนิดหน่อย เรื่องแรกคือปมของพ่อกิ๊งนะครับที่หลังจากรู้ว่าพ่อของตัวเองนั้น มีเมียน้อยแล้วหลังจากนั้นจะจัดการยังไงต่อมันหายไป เพราะหลังจากนั้นเสร็จปุ้ปก็มีแค่ฉากนางเอกอยู่คนเดียว และ ดำเนินเนื้อเรื่องไปกับพระเอกจนจบ สองเรื่องผู้หญิงของปาล์ม ไม่มีฉากที่เคลียร์กับผู้หญิงของตัวเองเลย เพราะตอนนั้นกิ๊งก็เหมือนจะเปิดใจแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงของปาล์มที่ทำงานเป็นแอร์ จริง ๆ อาจไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามาในฉากก็ได้แหละ แต่เราคิดว่าถ้าเอาฉากนั้นใส่เข้ามาภาพยนตร์จะดูสมบูรณ์ขึ้นกว่านี้

ส่วนเรื่องความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้เราชอบการแสดงของนักแสดงเรื่องนี้มาก เก่งทุกคน และ แสดงเป็นธรรมชาติค่ะ ชื่นชมสมกับที่ค่าย GDH เลือกมา มีการนำเพลงคิดมากของปาล์มมี่มาใช้โดยนำเอานักร้องแต่ละประเทศมาแบ่งท่อนกันร้อง ทำให้เพลงของปาล์มมี่นั้นดูดีขึ้นไปอีก มีฉากแทรกมุขตลกมาด้วยนิดหน่อย ตอนแรกคิดว่าจะโบ๊ะบ๊ะกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอยู่ค่ะ คนที่อยู่ในสถานการ์ณตกหลุมรักเพื่อนน่าจะชอบกัน แถมกระแสเรื่องนี้ก็ถือว่าวัยรุ่นให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากอีกด้วย รวม ๆ แล้วก็ชอบน้าา friend zone ย้อนหลัง

รีวิว friend zone

รีวิว friend zone หน้าหนังยังคงมาในสไตล์โรแมนติก-คอมมีดี้ แนวถนัดของ GDH แต่เมื่อได้ชมกับรู้สึกว่าชีวิตรักของตัวละครหลักทั้งปาล์ม และ กิ๊ง กลับไม่ได้ดำเนินมาบนเส้นทางที่พบกับความสุขหอมหวานเลยนะ ตรงกันข้ามกลับเต็มไปด้วยน้ำตา บทกิ๊งของใบเฟิร์น ร้องไห้แทบทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่จับได้ว่าพ่อแอบมีเมียน้อย รู้สึกเก้อ ๆ เขิน ๆ เมื่อปาล์มเผยความรู้สึกกับกิ๊งว่าเป็นแค่เพื่อนตั้งแต่ในวัยมัธยม คบกับแฟนรุ่นพี่มา 10 ปีก็ไปมีกิ๊ก

จนกระทั่งมาคบกับพี่เท็ด บทของเจสัน ยัง ก็เป็นความรักที่ดำเนิน ไปบนความหวาดระแวง วิตกกังวลตลอดเวลาว่าพี่เท็ดจะนอกใจ ต้องตามสืบอยู่ตลอดเวลา ส่วนปาล์มก็กลายเป็นสจ๊วตเจ้าเสน่ห์ มีสาว ๆ ไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่ได้มีความสุขสมหวังสักคน เพราะแม้แต่ปากจะบอกกับกิ๊งว่าเป็นเพื่อนแต่ก็แอบรักแอบหวัง อยู่เสมอ แค่กิ๊งโทรหาปาล์มก็รีบแจ้นไปหาทุกที่ทุกเวลา แม้จะอยู่ต่างประเทศ

การปูทางของเรื่องตั้งแต่ต้นมาก็แสดงให้เห็นอยู่ว่ากิ๊งนั้นผิดหวังกับปมความรักตั้งแต่รู้ว่าพ่อของเธอแอบซ่อนเมียน้อยไว้แล้ว และ แสดงให้เห็นว่ากิ๊งกับปาล์มเป็นเพื่อนสนิทกันแบบสนิทมากจริง ๆ เป็นเรื่องยากมากที่เพื่อนสนิทกันจริง ๆ จะมาหันมาชอบเพื่อนสนิทของตัวเองที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้

แต่ค่ายก็ไม่ได้ข้ามรายละเอียดในเรื่องนี้ไป เพราะเราจะเห็นว่าปาล์มนั้นชอบกิ๊งมาตั้งนานแล้วแต่เพียงอยากจะทำความรู้จักกันในแบบเพื่อนโดยให้กิ๊งเป็นเพื่อนก่อนจะได้เข้าหาได้ แต่โชคชะตาเล่นตลกดันมาเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ซะงั้น นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ภาพยนตร์สื่อว่าทำไมปาล์มถึงชอบเพื่อนสนิทมาตลอด ไม่ได้มาชอบทีหลัง แต่ชอบมาก่อนจะเป็นเพื่อนกันแล้ว friend zone ดูฟรี

บทสรุป สิ้นสุดทางเพื่อน

Friend Zone เหมือนเป็นหนังโฆษณาการบินไทยขนาดยาว 2 ชั่วโมง (โดยมีโฆษณา SCB, คริสตัล ฯลฯ แทรกมาประปราย อย่างจงใจให้ไม่แนบเนียน) ส่งผลให้บทอ่อนต่ำกว่ามาตรฐานของค่าย และ เป็นหนังที่แทบไม่มีอะไรน่าจดจำเลย นอกจากเสน่ห์ และ การแสดงของน้องนายกับน้องใบเฟิร์น ที่เป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้อย่างเดียว (อ้อ… และ ก็เพลงคิดมากเวอร์ชั่น AEC อีกอย่างหนึ่ง ที่มีบทบาทสำคัญกับหนังที่สุดแล้ว)

หนังยังสอดแทรกตัวละครอื่น ๆ เข้ามาร่วมสร้างสีสันได้อยู่ไม่น้อย ได้เห็นแขกรับเชิญที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนดู ขณะที่หนุ่ม ๆ แก๊งเฟรนด์โซนก็สามารถมัดใจคนดูได้อยู่ รวมทั้ง พี่เท็ด ตัวละครของ “เจสัน ยัง” ก็ยังถูกถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างดี หล่อเหลาเกือบเทียบเท่าพระเอกเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หนังภาพยนตร์ Friendzone ระวังสิ้น…สุดทางเพื่อน ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการทำให้ผู้ชมหลีกหนีจากความเหน็ดเหนื่อยในชีวิต และ รู้สึกชุ่มชื่นเมื่อเห็นคนหนุ่มสาวได้รักกัน ตรงตามวัตถุประสงค์ของหนังโรแมนติกคอมิดิ ในส่วนประเด็นที่เป็นดราม่านั้นหนังก็เลือกจังหวะในการใส่มาได้อย่างลงตัว และ เพลงประกอบก็มีความแปลกใหม่น่าสนใจ เป็นหนังที่ดูได้เพลินหากเราทิ้งความคิดหนัก ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางสังคมไว้เบื้องหลัง friend zone ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน facebook

 

 

 

รีวิว สุริโยไท

รีวิว สุริโยไท

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับวันนี้ผมมาแนะนำหนังไทยที่อิงมาจากเรื่องราวประวัติศาสตร์ ตำนาน สุริโยไท โดยส่วนตัวผมก็ไม่ได้ชอบหนังอะไรแนวนี้หรอกนะครับ แต่อย่างน้อยผมก็เป็นหนึ่งในคนไทยนะครับก็ขอลองหน่อยครับมันอดไม่ได้จริงๆ 555 ที่จะต้องกล่าวถึงภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของไทยซะบ้าง เพราะก่อนหน้าผู้เขียนมักจะเขียนแต่หนังต่างประเทศ โดยหนังไทยที่ผมจะมาเขียนวันนี้นับเป็นอีกหนึ่งตำนานภาพยนตร์ไทยเลยก็ได้นะเพราะหนังเองก็เก่าอยู่พอตัวแล้วสำหรับ ภาพยนตร์ “สุริโยไท” ที่ หม่อมเจ้า ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงสร้างออกฉายเมื่อ พ.ศ.2544 ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพยนตร์ไทยอย่างมากมาย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง สุริโยไทสร้างขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 69 พรรษา ด้วยพระองค์มีพระราชประสงค์ว่าทรงเป็นห่วงประวัติศาสตร์ไทย เพราะเริ่มห่างหายไปจากความรับรู้และการให้ความสำคัญของชาวไทยร่วมสมัย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์ : สุริโยไท
ความยาว : 185 นาที
ประเภท : ประวัติศาสตร์
กำกับโดย : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
เข้าฉายครั้งแรก : 17 สิงหาคม พ.ศ.2544
นำแสดงโดย : หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี , ศรัณยู วงศ์กระจ่าง , ฉัตรชัย เปล่งพานิช,พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, จอนนี่ แอนโฟเน, ใหม่ เจริญปุระ, สินจัย เปล่งพานิช , สรพงษ์ ชาตรี

รีวิว สุริโยไท

รีวิว สุริโยไท

รีวิว สุริโยไท ภาพยนตร์เรื่องนี้ เดิมทีเมื่อสร้างเสร็จได้ตัดฉากหลายฉากออกเพื่อความเหมาะสมในการฉายในโรงภาพยนตร์จนเหลือ 3 ชั่วโมง และเมื่อจัดทำเป็น VCD/DVD ออกจำหน่ายครั้งแรกก็เป็นชุดความยาว 3 ชั่วโมงเช่นเดียวกับในโรงภาพยนตร์ ต่อมา ในปี พ.ศ. 2547 ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ผู้กำกับชาวอเมริกัน ได้ตัดต่อและเพิ่มฉากใหม่เข้าไป เป็นฉบับใหม่สำหรับฉายในต่างประเทศ

ข่าวสารต่าง ๆ ที่หลั่งไหลแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจภายในประเทศถึงกระแสฟีเวอร์ และมักเลี่ยงไม่ได้ที่จะอวดว่าฝีมือของหนังฉบับนี้สามารถโกอินเตอร์ได้ ไม่ว่าจะการเล่นข่าวว่าบริษัทหนังต่างประเทศต้องการจะซื้อด้วยราคาสูง หรือการให้ข่าวว่ามีการชื่นชมจากผู้กำกับระดับโลก หรือคำสัมภาษณ์ของผู้กำกับที่กล่าวว่า

หากบางระจันเป็นหนังประวัติศาสตร์ของผู้แพ้ที่ไพร่เป็นวีรบุรุษช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 สุริโยไทก็เป็นเรื่องเล่าของผู้แพ้ฝั่งเจ้าผู้เป็นวีรสตรีช่วงก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1 เช่นกัน วิกฤตการณ์บ้านเมืองของยุคสมัยกลายเป็นเชื้อฟืนอย่างดีที่ช่วยโหมกระแสชาตินิยมหลังวิกฤตเศรษฐกิจ 2540 ในช่วงที่หนังฉาย

“เพราะสมัยนี้เราเพิ่งค้นพบว่าคนต่างชาติก็ชอบดูหนังไทยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เราดูถูกฝีมือของเราเองว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนชาติอื่นจะมารับหนังไทยได้ แต่พอค้นพบว่าเราก็สามารถทำหนังที่ชาวต่างชาติชอบได้ก็เลยโกอินเตอร์กันเป็นการใหญ่

ก่อนสุริโยไทฉายถึงกับมีคนต่อว่าผู้กำกับในอินเทอร์เน็ตด้วยซ้ำที่อาจหาญเอ่ยว่าเขาทำได้เกินฝรั่งไปเยอะ เขาสะท้อนว่า “คนไทยส่วนใหญ่นับถือฝรั่งเป็นพ่อ มันก็คงเหมือนผมไปบอกว่าพ่อเราเก่งกว่าพ่อเขา…คุณเก่งยังไง คุณถือดียังไงว่าพ่อคุณดีกว่าพ่อผม…จริง ๆ แล้วเราด่าฝรั่งบ้างก็ดี ทุกวันนี้ฝรั่งกลายเป็นพ่อเป็นแม่หมด ทั้งที่จริง ๆ แล้วเราเอาฝรั่งมาเป็นขี้ข้า”

เนื้อหา/การดำเนินเรื่อง

รีวิว สุริโยไท

เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สวรรคตในปี พ.ศ. 2072 พระอาทิตยาจึงได้ขึ้นครองราชย์ ทรงพระนาม สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร ทุกพระองค์เสด็จย้ายจากพิษณุโลกไปประทับ ณ กรุงศรีอยุธยาเมืองหลวง พระเฑียรราชา และพระสุริโยไท มีโอรสธิดาทั้งสิ้น 5 พระองค์ คือ พระราเมศวร , พระมหินทร, พระสวัสดิราช(พระวิสุทธิกษัตรีย์), พระบรมดิลก และ พระเทพกษัตรี ประทับอยู่ ณ วังชัย ดำรงอิสริยยศเป็นพระเยาวราช

เมื่อสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรสวรรคตด้วยโรคไข้ทรพิษ พระไชยราชา ผู้ซึ่งดำรงพระยศเป็นพระอุปราช ควรจะได้สืบสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ แต่สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรทรงขอให้ สมเด็จพระรัษฎาธิราชกุมาร พระโอรสวัย 5 พรรษา อันเกิดแต่พระอัครชายาวัย 17 พรรษาเป็นผู้ขึ้นครองราชย์แทน ระหว่างนั้นบ้านเมืองถูกบริหารโดยขุนนางทุจริต ติดสินบนเถลิงอำนาจ โดยเฉพาะ เจ้าพระยายมราช บิดาของพระอัครชายา

5 เดือนให้หลังสมเด็จพระไชยราชาธิราชจึงเข้ายึดราชบัลลังก์ และให้สำเร็จโทษพระรัษฏาธิราช ตามราชประเพณีโบราณ รวมถึงสั่งประหารขุนนางทุจริตทุกคน และทรงขึ้นครองราชย์แผ่บุญญาธิการเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป ทรงออกรบปราบหัวเมืองอยู่เนือง ๆ

และได้แต่งตั้งพระเฑียรราชาขึ้นเป็นพระมหาอุปราชา ว่าราชการแทนพระองค์อยู่ที่กรุงอโยธยา ส่วนพระมเหสีของพระไชยราชา คือ ท้าวศรีสุดาจันทร์ ได้ลักลอบมีความสัมพันธ์กับ ขุนชินราช ผู้ดูแลหอพระ เชื้อราชวงศ์อู่ทองด้วยกัน

และได้สมคบคิดกัน ลอบวางยาพิษปลงพระชนม์พระไชยราชา พระยอดฟ้า พระโอรสของพระไชยราชา ที่ประสูติจากท้าวศรีจุฬาลักษณ์ได้ขึ้นครองราชย์แทน ในขณะที่มีพระชนม์เพียง 10 พรรษา แต่ต่อมาไม่นานก็ถูกท้าวศรีสุดาจันทร์ปลงพระชนม์อีกองค์หนึ่ง แล้วสถาปนาขุนชินราชขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระวรวงศาธิราช

นับตั้งแต่สิ้นรัชกาลพระไชยราชา พระเฑียรราชาก็ได้ผนวชเพื่อเลี่ยงภัย ส่วนพระสุริโยไททรงเตรียมฝึกทหาร โดยมีผู้จงรักภักดี คือ ขุนพิเรนทรเทพ, ขุนอินทรเทพ, หมื่นราชเสน่หานอกราชการ และหลวงศรียศลานตากฟั เฝ้าคุ้มกันภัยให้ ได้ร่วมกันปลงพระชนม์ขุนวรวงศา และท้าวศรีสุดาจันทร์ เสียบหัวประจานไว้ที่วัดแร้ง แล้วอัญเชิญพระเฑียรราชา ให้ลาสิกขาบทขึ้นครองราชย์แทน ทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ

ระหว่างนั้นทางพม่าได้รวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น และแผ่ขยายอำนาจรุกรานไทยภายใต้พระมหากษัตริย์ พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ และได้เดินทัพมายังกรุงศรีอยุธยาใน พ.ศ. 2091 เกิดเป็นสงครามยุทธหัตถี ที่ทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งเป็นเหตุให้ พระสุริโยไทสิ้นพระชนม์บนคอช้าง สุริโยไท เต็มเรื่อง

ภาพยนตร์ไทยที่ต่างชาติยอมรับ

รีวิว สุริโยไท

ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องโดยอิงจากคำบอกเล่าของโดมิงโก ดือ ซีซัส (Domingos De Seixas) ทหารรับจ้างของชาวโปรตุเกสซึ่งเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอโยธยาช่วง พ.ศ. 2067-2092 เป็นภาพยนตร์ทุนสร้างมหาศาลกว่า 400 ล้านบาท นับว่าเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีทุนสร้างมากที่สุดในขณะที่ออกฉาย โดยใช้เวลาสร้างนานกว่า 5 ปี โดยแบ่งเป็นเวลาในการเขียนบท 2 ปี และถ่ายทำ 3 ปี

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทอดพระเนตรภาพยนตร์ “สุริโยไท” รอบปฐมทัศน์ ณ ศาลาเฉลิมกรุง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2544 อีกสามวันต่อมาได้มีการฉายรอบสื่อมวลชน ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีเนม่า เดอะมอลล์ บางกะปิ

สุริโยไทเข้าฉายจริงเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ปีเดียวกัน ซึ่งในวันแรกนั้นมีผู้มารอชมเป็นจำนวนมาก โรงภาพยนตร์บางแห่งมีการรอต่อแถวซื้อบัตรนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ภาพยนตร์ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายและเป็นที่กล่าวขานอย่างมาก โดยได้รับคำวิจารณ์ว่าสร้างได้อย่างละเอียดละไม ใส่ใจในทุกรายละเอียด

โดยเฉพาะเครื่องแต่งกาย ทรงผมและฉากประกอบ แต่ก็ได้รับคำวิจารณ์จากชาวต่างชาติว่า เนื้อหามีรายละเอียดซับซ้อนเกินไปเนื่องจากมีตัวละครมาก และดำเนินเรื่องอย่างล่าช้า อีกทั้งในตอนจบก็ไม่มีไคลแม็กซ์ ถึงแม้ว่าบทภาพยนตร์จะเข้มข้นด้วยเป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจในราชบัลลังก์เหมือนบทละครของเช็คสเปียร์ก็ตาม สุริโยไท 5 ชั่วโมง

รีวิว สุริโยไท

รีวิว สุริโยไท รู้กันโดยทั่วไปว่าสุริโยไทเป็นหนังมหากาพย์ประวัติศาสตร์ไทยที่เดินตามแนวทางประวัติศาสตร์แห่งชาติที่มีสถาบันกษัตริย์เป็นศูนย์กลาง ดังนั้นการเสริมสร้างความยิ่งใหญ่อลังการของกรุงศรีอยุธยาและตัวละครชนชั้นนำต่างๆ จึงถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างไม่เคยมีภาพยนตร์เรื่องใดทำได้มาก่อน ฉากท้องพระโรงและพระราชบัลลังก์สีทองอร่ามอันศักดิ์สิทธิ์ ฉากสงครามอันยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยกองทัพช้างและไพร่พล เครื่องประดับเครื่องแต่งกายของชนชั้นสูงที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน

นอกจากนั้นฐานสำคัญของหนังสุริโยไท ก็คือการได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ขณะนั้นคือสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ) เป็นอย่างดี มีการอ้างถึงความผูกพันของพระองค์กับสมเด็จพระศรีสุริโยทัยถึงขนาดว่า พระองค์เคยทรงพระสุบินถึงตอนต้องพระแสงของ้าวเห็นเป็นภาพพระเกศาประบ่า และมอบให้ไข่มุกด์ ชูโตวาดภาพนั้นขึ้นก่อนหนังจะสร้างราว 10 ปี ยังมีทุนจากภาคเอกชนสนับสนุนกว่า 200 ล้านบาทเพื่อสร้างหนังดังกล่าว

ไม่เพียงเท่านั้นในยุคนั้นที่วีซีดีเถื่อนปั๊มขายกันเป็นเรื่องปกติ กลับถูกควบคุมอย่างเคร่งครัดเพื่อมิให้ละเมิดต่อหนังสุริโยไท ข่าวบางแหล่งระบุว่าตำรวจขู่จะวิสามัญผู้ลักลอบผลิตหรือขายเสียด้วยซ้ำ จะจริงแค่ไหนอาจไม่สำคัญ แต่แสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของหนังเรื่องนี้

แต่จะเป็นอย่างไรหากเราจะแสวงหาว่าพื้นที่ของสามัญชนในหนังเรื่องนี้มีอยู่หรือไม่ หรือถูกนำเสนอออกมาอย่างไร จะเป็นไปได้ไหมหากเราจะมองหนังสุริโยไทด้วยมุมอื่นที่ไม่ใช่มองจากเบื้องบนยอดพีระมิด เพื่อเปิดบทสนทนาในวาระครบรอบ 2 ทศวรรษของหนังเรื่องนี้ จึงขอชวนผู้อ่านเข้าไปแกะรอยนั้นด้วย สุริโยไท 3 ชั่วโมง

บทสรุป สุริโยไท

สุริโยไท เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ เน้นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของตัวละครเอก คือ พระสุริโยไท พระมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา อันเป็นเรื่องราวความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของวีรกษัตรีย์ที่พลีชีพเพื่อรักษาอาณาจักรอยุธยา จนเป็นที่มาของสงครามยุทธหัตถี ที่ทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งเป็นเหตุให้ พระสุริโยไทสิ้นพระชนม์บนคอช้าง แต่ไม่เคยเสียดายชีวิต เพราะได้ทำเผื่อแผ่นดิน ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ในใจของใครอีกหลายคนสำหรับเรื่องนี้ สุริโยไท netflix

รีวิว โรงเรียนผี 2016

รีวิว โรงเรียนผี 2016

หนังไทยย้อนยุค ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปี แต่หนังผีไทยเรื่องนี้ ก็ยังเป็นหนังผีไทยอันดับต้นๆ ที่ผมชอบมากๆ เนื่องจากครั้งแรกที่ได้ดูนั้น เป็นช่วงสมัยวัยเรียน เพราะเรื่องเล่ามากมายต่างๆที่เรามักได้ยินเกี่ยวกับเรื่องผี ส่วนใหญ่มักกับเกิดขี้นที่โรงเรียน ซึ่งฟังทีไรแล้วรู้สึกขนลุก และเสียวสันหลังทุกที เพราะเราทุกคนต่างผูกผันกับโรงเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรงเรียนเก่าๆ มักจะมีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา ภาพยนตร์เรื่อง โรงเรียนผี (Haunted School) เล่าเรื่องราวของเรื่องเล่าสุดหลอน ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง 5 ตำนานเหล่านี้ที่คุณจะได้รับชมใน ภาพยนตร์ที่ชื่อว่า โรงเรียนผี ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง เรื่องราวของก๊วนเด็กแสบ 4 คน อันได้แก่ เอ๋ (รับบทโดย อาไท กลมกิ๊ก) เอ้อ (รับบทโดย ออสการ์ ชยณัฐ แจ่มใส) เด่น (รับบทโดย สุชาติ แคปเจอร์) และป๊อบ (รับบทโดย นีโม ปุณณดา วอสเบียน) ที่รวมหัวกันหมายจะแกล้ง ดอน (รับบทโดย ริว อิงครัต ดำรงศักดิ์กุล) โดยการหลอกมาฟังเรื่องผีให้ตกใจกลัว ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาษาไทย : โรงเรียนผี HauntedSchool
ค่าย : สหมงคลฟิล์ม
ฉาย : 3 พฤศจิกายน 2016
แนว : ระทึก สยองขวัญ ผี
ประเภท : ภาพยนตร์

รีวิว โรงเรียนผี 2016

รีวิว โรงเรียนผี 2016

รีวิว โรงเรียนผี 2016 หนังเล่าเรื่องจากการกำกับและเขียนบทของผู้กำกับหญิงอย่าง เปิ้ล – มนัสนันท์ พงษ์สุวรรณ ซึ่งก็หาไม่เจอว่าเธอเคยทำอะไรมาแต่ดูลักษณะแล้วก็น่าจะเจนอยู่ในวงการพอสมควร โดยเปิดเรื่องจากกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นแห่งโรงเรียน พูนปัญญา โดดการปฐมนิเทศเปิดเทอมใหม่มาจับกลุ่มในห้องเรียนเก่า ด้วยความคึกคะนองของหัวโจกเด็กโข่ง เอ๋ (อาไท) จึงเปิดประเด็นที่จะคุยเรื่องผีเรียกความตื่นเต้นในกลุ่มที่มี เอ้อ (ออสการ์ ชยณัฐ) และ ป๊อป (นีโม ปุณณดา) ร่วมวง โดยสั่งให้ เด่น (สุชาติ แคปเจอร์) บริวารอีกคน ออกไปตามหาเด็กนักเรียนเข้าใหม่มาเป็นเหยื่อในการหลอกเพื่อความสนุก ซึ่งก็ไปได้

ดอน (ริว อิงครัต) เด็กหนุ่มปริศนาสุดขรึมมา แล้วจากนั้นเอ๋ก็เริ่มเล่าเรื่องของผีในโรงเรียน ที่ตนเองเคยเจอในห้องสมุด ชื่อรุ่นพี่ดวงใจ จากนั้นแต่ละคนในกลุ่มก็จะผลัดกันเสริมกันเล่าเรื่องใหม่ๆหรือสิ่งที่ตนเคยได้ยิน ทั้งเรื่อง ครูแสงดาว (แม๊กกี้ อาภา) ที่ผูกคอตายในห้องเรียน ภารโรงโก๊ะ (โก๊ะตี๋) ที่เลี้ยงหมาเห็นผีชื่อด๊อง ครูใหญ่ (เท่ง เถิดเทิง) ที่อยากเห็นแฟนเก่าที่ตายไป และเรื่องปอบข้างโรงเรียนที่สองตำรวจใหญ่อย่าง โทนี่ (หม่ำ) และ จรวย (โจอี้) เข้ามาสืบ

โรงเรียนผี เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุดจากค่าย สหมงคลฟิล์ม ที่พูดตามตรงไม่ได้คาดหวังอะไรเท่าไรเลย ยิ่งเรื่องหลังสุดอย่าง อาม่า เล่าเรื่องได้เละเทะมากด้วย กับเรื่องนี้ก็คิดว่าเป็นอีกหนังตุ้งแช่ ยัดตลกคาเฟ่ตีหัวเข้าบ้านเดิมๆ ที่ใช้ฉากโรงเรียน พวกเรื่องเล่าเรื่องเฮี้ยนต่างๆมาขาย เรียกว่าไปดูด้วยความรู้สึก ไหนดูซิจะมีอะไรมากกว่าที่หวังมั้ย ซึ่งพอเอาเข้าจริงเป็นหนังไทยที่เซอร์ไพรส์มากครับ

เรื่องย่อ

รีวิว โรงเรียนผี 2016

ในวันเปิดการศึกษาใหม่ เหล่าแก็งค์นักเรียนหัวโจก 5 คน ในโรงเรียน หนีการปฐมนิเทศน์อันสุดแสนน่าเบือ พวกเขาตัดสินใจเข้าไปหลบอยู่ในอาคารตึกเก่าที่มีตำนานสุดหลอนของโรงเรียน ที่ไม่มีนักเรียนคนไหนกล้าที่จะเข้าไปในตึก พวกเขาหาวิธีแก้เบื่อโดยการผลัดกันเล่าเรื่องผี เรื่องของใครจะหลอนและน่ากลัวกว่ากัน โรงเรียน ผี 2016 เต็มเรื่อง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว โรงเรียนผี 2016

โดยส่วนตัวเป็นหนังผีที่ดีนะครับสำหรับผม โดย Haunted School โรงเรียนผี เป็นการนำเรื่องสั้นเกี่ยวกับผีที่น่ากลัวในโรงเรียนมารวมเอาไว้ในเหตุการณ์เดียว ผ่านการบอกเล่าของนักเรียน 5 คน ที่จับกลุ่มคุยเรื่องผีกันอย่างออกรสชาติ ทำให้แต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นในเรื่องราวนั้น ถึงแม้ว่าหนังผี Haunted School เกิดขึ้นในสถานที่เดียวกันนั่นก็คือโรงเรียนสถานที่หลายคนมองว่าปลอดภัย แต่เมื่อไร้ผู้คนกลับน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมากเป็นอย่างดี

ส่วนที่ชอบที่สุดของหนังคือบรรยากาศความหลอกหลอน ให้อารมณ์แบบตอนดู เปนชู้กับผี ที่ใส่ดีไซน์เมคอัพสยดสยองพองขนแบบ ลองของ ความเจ๋งคือหนังเรื่องนี้ไม่มีฉากตุ้งแช่เลย คือดีมากครับ ผมโคตรเกลียดหนังตุ้งแช่แบบไม่มีอะไรแค่อยากให้คนดูสะดุ้งมาก แบบลมพัดตุ้งแช่ แมวกระโดดตุ้งแช่ แต่บรรยากาศยังโคตรน่ากลัว การใช้กล้องและเสียงทำเอาอยากจะหลบสายตาออกจากจอจริงๆ

โดยเฉพาะการแช่ภาพผีเละๆที่เมคอัพได้โคตรน่ากลัวไว้บนจอ ไม่ต้องใส่เสียงให้สะดุ้งอะไร นี่ล่ะคือความหลอนแบบหนังผีไทยแท้ๆ คือดีงามมากครับ น่ากลัวมากด้วย ส่วนปริศนาต่างๆก็ทั้งมีฉากเฉลยตรงๆและฉากที่ต้องเชื่อมโยงเอาเอง แต่ก็สามารถตอบสิ่งที่ถามไว้ได้ครบครับ รวมถึงการปิดสรุปท้ายก็นับว่าลงตัว ทั้งหมดตรงนี้นี่ขอชื่นชมเลย

การดำเนินเรื่องมีลักษณะเป็นเรื่องเล่าซ้อนเรื่องเล่า โดยเส้นเรื่องหลักจะอยู่ที่แก๊งเด็กทั้งห้าที่ผลัดกันเล่าเรื่องผีในโรงเรียน อันได้แก่ ผีห้องสมุด, ครูแสงดาว, ภารโรงโก๊ะ, ครูใหญ่, ยายปอบข้างโรงเรียน และผีเพื่อนนักเรียน ซึ่งแต่ละเรื่องก็มีนักแสดงมารับเชิญมากมาย อาทิ หม่ำ จ๊กม๊ก, เท่ง เถิดเทิง, โก๊ะตี๋ อารามบอย, แม็กกี้ อาภา และโจอี้ เชิญยิ้ม

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้เลยนั้นก็คือโรงเรียนผีดาราส่วนใหญ่จะเป็นนักแสดงตลก แต่ถ้าหากมองในภาพรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ในระดับความสยองขวัญที่น่าสนใจ ซึ่งได้รับอานิจสงฆ์มากจากฉากของโรงเรียนเก่าในตอนกลางคืน ช่วยเพิ่มความน่ากลัวได้มากขึ้นกว่าเดิม

ส่วนที่ไม่ชอบมีเหมือนกัน คือการแสดงของเด็กกลุ่มนี้มีเคมีบางอย่างที่ยังไม่พอดีกัน บางคนเล่นเกินบางคนเล่นขาด จังหวะการตบมุกยังไม่แม่นเป๊ะเท่าไร แต่ก็ได้ความน่ารักของเด็กๆมาช่วยได้พอสมควร จะว่าไปก็ไม่ได้เป็นหนังเน้นตลกเป็นหลักอยู่แล้ว แต่ก็ให้มุกแบบยิ้มๆมาเยอะ และที่สำคัญมุกค่อนข้างสะอาดไม่หยาบโลนน่าเกลียดครับ ตรงนี้ชื่นชม โรงเรียนผี 2016 นักแสดง

รีวิว โรงเรียนผี 2016

รีวิว โรงเรียนผี 2016 การดำเนินเรื่องราวเอง หนังผี Haunted School โรงเรียนผี ก็ถือว่ารวดเร็ว ไม่ชักช้า สามารถที่จะดึงเรื่องราวเข้าสู่เรื่องผีได้ในทันทีแบบไม่ต้องพูดคุยอะไรกันมากมาย ส่วน CGI และการแต่งหน้าของผีที่ปรากฏตัวในเรื่องเองก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ มีตลกบ้างน่ากลัวบ้าง

ฟังๆเหมือนจะเอาสไตล์เล่าเรื่องผีหน้าร้อน ที่เชื่อว่าเล่าเรื่องผีครบ 100 เรื่องผีจะออกมา ผสมกับพวกตำนาน 7 เรื่องลึกลับในโรงเรียนของญี่ปุ่นมาใช้ แต่หนังก็มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์มากไปกว่านั้น โดยการเชื่อมโยงแต่ละเรื่องไว้เป็นเนื้อเดียว คือหนังมีแกนของเรื่องอยู่ที่กลุ่มเด็กที่เล่าเรื่องก็จริง

แต่ในตัวเรื่องเล่าก็ยังมีตัวครูแสงดาวและปริศนาการตายของเธอเป็นศูนย์กลางอีกด้วย จากการบอกเล่าว่ามีคนเข้ามาติดพันเธอหลายคนซึ่งเชื่อมโยงไปถึงครูใหญ่และภารโรงโก๊ะ รวมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างมากของเธอ ตรงนี้เลยทำให้แม้ตัวหนังจะถูกแบ่งเรื่องเล่าออกเป็นตอนๆ (ทั้งการเล่าเรื่อง และมีกราฟฟิกขั้นตอน) แต่ก็ยังคงความเป็นเนื้อเดียวกัน ชวนผู้ชมให้ครุ่นคิดคล้อยตามอย่างไม่เบื่อ

แม้จะมีช่วงที่หนังโดดอารมณ์ออกไปเหมือนกันในตอนเล่าเรื่องผีปอบข้างโรงเรียน ที่ไม่สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องหลักอย่างที่ว่ามา แต่ก็ไม่ร้ายแรงถึงขนาดจะทำลายตัวเรื่อง เสียดายแค่ว่าการผ่อนอารมณ์ของเรื่องนี้ไปได้ไม่สุดทางนัก แม้จะได้ทั้งหม่ำและโจอี้มาเล่นก็ตาม แต่ก็ไม่ขำหรือสร้างอารมณ์ใหม่ๆอย่างใด แค่พักเรื่องหลักไปเรื่องอื่นเท่านั้นครับ ไม่งั้นคงสมบูรณ์กว่านี้ โรงเรียน ผี ตอนที่ 1

สรุป

รวม ๆ แล้ว โรงเรียนผี เป็นหนังผีเรื่องหนึ่งของปีนี้ที่ดูเอาเพลิน ๆ ได้ (ใครที่คาดหวังจะไปดูหนังผีตลก…อาจจะผิดหวัง เราเตือนคุณแล้วนะ !) นักแสดงเด็กมีจังหวะขาด ๆ เกิน ๆ ได้ แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอให้อภัย นอกจากนั้นก็มีเรื่อง ความซ้ำซากจำเจ (คลิเช่) ของหนังเล็กน้อย เช่น ผีอยู่ในห้องสมุด ห้องนาฏศิลป์ ฯลฯ

หนังไม่ได้ฉีกออกจากขนบการเล่าเรื่องผีในโรงเรียนเท่าไร ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ ไม่ได้น่ากลัวมากมายนัก ทำให้เป็นหนังที่อยู่ในระดับปานกลาง แต่ยังพอมีฉากที่ทำให้สะดุ้ง! ตกใจได้บ้าง ดังนั้น โดยรวมแล้วหนังผี Haunted School โรงเรียนผี อาจเหมาะกับคนที่ไม่ได้อยากที่จะชมหนังผีน่าตกใจแบบ 100% แต่อยู่ในระดับที่ให้ความบันเทิงน่าสนใจ ที่สามารถรับชมพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว โรงเรียนผี netflix

 

 

 

 

 

รีวิว the impossible

รีวิว the impossible

หนังไทยย้อนยุค เป็นที่รู้ๆกันว่า สึนามิ ที่เกาะภูเก็ตนั้น เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจแล้วไม่นานก็ได้มีหนังซึ่งจะถูกสร้างเนื้อเรื่องให้ใกล้เคียงกับเรื่องจริงมากที่สุด บางเรื่องอาจนำเสนอเรื่องราวชีวิตของคนที่มีชื่อเสียงหรือบางเรื่องอาจนำเสนอเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ บางเรื่องสร้างมาจากเรื่องจริงเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะมีการเพิ่มตัวละคร หรือเพิ่มบางฉากในหนังให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากขึ้น และ เพิ่มอรรถรสในการรับชม ซึ่งวันนี้เราก็มีหนังมาแนะนำ The Impossible เป็นหนังแนวสะเทือนจิตใจ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะจำได้กับเหตุการณ์ที่คนไทยลืมกันไม่ลง สร้างจากเรื่องจริงเหตุการณ์สึนามิ จะมีความน่าสนใจแค่ไหน เราลองมาดูกัน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 ที่จังหวัดพังงา คงไม่มีใครคาดคิดแม้ว่าจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่พรากหลากชีวิต และ ทำลายทุก สิ่งไปภายในช่วงพริบตา มันเป็นเรื่องราวน่าสะเทือนใจที่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครจะกล้าหยิบจับมันบอกเล่าตรง ๆ และ ในที่สุด The Impossible ก็หยิบมันมาเล่าอย่างตรงไปตรงมา ที่สำคัญคือมันพยายามที่จะปรุงแต่ง และ เจือสีให้เจือจางน้อยที่สุด และ ผลที่ได้ก็คือภาพยนตร์ที่ทรงพลังเหลือล้นทั้งทางภาพ และ อารมณ์ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว the impossible

รีวิว the impossible

รีวิว the impossible The Impossible 2004 สึนามิ ภูเก็ต เป็นหนังอีกเรื่องที่ขนลุกตั้งแต่เห็นในหนังตัวอย่างแรก เพลงประกอบที่สร้างความอ้างว้าง และ คาดหวังพอสมควรกับหนังเรื่องนี้ หนังฉายแบบจอกว้างยาวสุด เลือกดูโรงใหญ่จะดี ได้ดูรอบซาวด์แทรค พูดอังกฤษ มีซับไตเติลภาษาไทย ส่วนฉากที่ตัวละครพูดภาษาไทยสำเนียงใต้ช่วงนี้ไม่มีซับขึ้นนะ และ มีฉากที่ตัวละครไทยพูดภาษาอังกฤษมีแปล เห็นหน้านักแสดงชาวไทยคงได้คุ้น ๆ หน้ากัน และ เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะที่จะชมในโรงภาพยนตร์

เพราะเล่นกับเสียงประกอบ บางตอนบางช่วง ราวกับจับเรากดลงทะเล อึกทึกกับความคลั่งของคลื่น หายใจแทบไม่ออก กดดัน ขอให้ลำโพงโรงหนังที่คุณเข้าชมไม่เน่า ส่วนความรุนแรงของหนัง ก็แปลกใจเหมือนกันที่ได้เรท ท.ทั่วไป มีหลาย ๆ ฉาก โหดจนต้องเบือนหน้าหลบ ส่วนเอฟเฟคของสึนามิ “น่ากลัว” จนขนลุก (ขอไม่ใช้คำว่า “สมจริง” เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่เคยประสพมากับตัวเองครับ)

เนื้อหาถูกสร้างมาจากเรื่องจริงของครอบครัวต่างชาติครอบครัวหนึ่ง ที่เดินทางมาพักผ่อนที่ทะเลไทย วันก่อนคริสต์มาส ปี2004 (ในหนังคือเขาหลัก พังงา) ถ่ายทอดทะเลไทยออกมาสวยงามเชียว ทั้งชายหาด และ ใต้น้ำ (พาแฟนไปดูระวังโดนคะยั้นคะยอว่า พาไปเที่ยวหน่อย ๆ )

แต่ก็แฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกไม่ไว้ใจ ความเงียบกระมัง ครอบครัวประกอบไปด้วยแม่ มาเรีย พยาบาล (นาโอมิ วัตตส์), พ่อ เฮนรี่ (ยวน แม็คเกอร์เกอร์) และ ลูกชายทั้งสามคน ลูคัส (พี่ชายคนโต), ไซม่อน กับ โธมัส หนังปูพื้นฐานของสมาชิกในครอบครัว ให้บางคนมีความกลัวแฝงอยู่ ในขณะที่บางคนยังไม่รู้จักความกลัวที่แท้จริง

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว the impossible

เรื่องราวสุดเหลือเชื่อของ มาเรีย และ เฮนรี่ และ ลูกชายทั้งสามคน ที่เดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทย ต้องประสบภัยพิบัติที่ไม่คาดฝัน จากความสุขได้แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้าย จากภัยพิบัติที่โลกไม่มีวันลืม The Impossible 2004 สีนามิ ภูเก็ต ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง ถ่ายทำที่สถานที่จริง จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย

มีเพียงหัวใจรักของพวกเขาเท่านั้นที่จะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ นำแสดงโดย นาโอมิ วัตต์ส รับบทเป็น มาเรีย และ ยวน แม็คเกรเกอร์ รับบทเป็น เฮนรี่ ในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสมาสต์ ครอบครัวแสนอบอุ่นของ มาเรีย (นาโอมิ วัตส์) และ เฮนรี่ (ยวน แม็คเกรเกอร์) ได้เดินทางมาพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย

ขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อนอย่างมีความสุข ที่บริเวณสระน้ำ โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง และ ไม่ทันตั้งตัว ฝันร้ายได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อคลื่นยักษ์สึนามิสูงเท่าตึก 3 ชั้น พุ่งเข้าถล่มทุกสิ่งทุกอย่างฉับพลัน ทั้งครอบครัวต้องจมอยู่ใต้คลื่นยักษ์นั้น มาเรีย สามารถมีชีวิตรอดจากคลื่นยักษ์นั้นได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บพอสมควร

สิ่งแรกที่เธอนึกถึงคือสามี และ ลูก ๆ ของเธอ จึงได้ออกตามหาลูก ๆ รวมถึงสามีของเธอ เธอต้องพยายามตั้งสติ และ เตรียมทำใจไว้ล่วงหน้า เพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้ ซึ่งภาพยนตร์ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งความตื่นเต้น ความสูญเสีย และ การช่วยเหลือ ที่ตัวละครแสดงออกมาได้อย่างอบอุ่น และ ลุ้นตามได้หลายอารมณ์ และ ความรู้สึก

ซึ่ง The Impossible 2004 สีนามิ ภูเก็ต ยังคงเป็นภาพจำที่ภาพยนตร์สร้างออกมาได้สะท้อนเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างลงตัว และ ในความสูญเสียก็ยังมีเรื่องของความสิ้นหวัง หมดหวัง เรื่องราวของมนุษย์ที่ต้องเจอกับภัยธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน สะท้อนปัญหาในเวลานั้นได้เห็นภาพ พร้อมฉากประทับใจอีกมากมายในภาพยนตร์เรื่องนี้ the impossible วงดนตรี

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว the impossible

แม้ว่าหลายคนอาจจะมองเห็นว่าเรื่องราวไม่หนักแน่นหรือไม่สนุกสนานแบบหนัง ภัยพิบัติเรื่องอื่น แต่ในอีกด้านหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังเรื่องนี้ เรื่องราวของผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราและก็ผ่านไป เรื่องราวที่เราคงไม่มีทางรู้ และแม้จะผ่านไปแล้วมันก็ยังคงติดตัวกับเราไปกับชีวิตและความทรงจำ

ต้องยอมรับว่าช่วงหลังของเรื่องนั้นอาจไม่ทรงพลังเท่าช่วงแรกที่ทำให้เรา หายใจไม่ทั่วท้อง แต่ในทางกลับกันมันก็ทำให้เราได้เห็นภาพหลายอย่างที่น่าสนใจรวมถึงฉากที่เรา กล่าวไปถึงข้างต้น แม้ว่าสถานการณ์นั้นจะดูวุ่นวายไปบ้าง เพราะมันต้องการที่จะนำพาตัวละครที่แตกกระจายเข้าไว้ด้วยกัน แต่มันก็ไม่ใช่ข้อเสียที่เลวร้ายแต่อย่างใด

ในความเห็นส่วนตัวฉากหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบคือฉากที่ตัวละครสองคนพบกัน อีกครั้งบนเตียงผู้ป่วย คำพูดประโยคแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาคงไม่มีใครคิดหรอกว่ามันจะเป็นกำลังใจให้ อีกคนได้มากมายแค่ไหน และหากไร้ซึ่งคำพูดนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง The Impossible full movie

รีวิว the impossible

รีวิว the impossible The Impossible กำกับการแสดงโดย เอ.เจ.บาโยน่า หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อนึงคือ ฮวน แอนโตนิโอ บาโยนา ผู้กำกับชาวสเปน ที่โด่งดังมาจากหนังผีเล็ก ๆ เมื่อปี 2007 อย่าง The Orphanage โดยในผลงานเรื่องใหม่ของเขาก็หยิบเอาเรื่องราว สึนามิ ในประเทศไทย มาผสมเข้ากับเรื่องจริงของครอบครัวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งทั้งตัวหนังก็ยกกองมาถ่ายที่ประเทศไทยกันตั้งแต่ประมาณปี 2010 เพื่อเนรมิตทั้งฉาก สึนามิถล่มเมือง และ ซากปรักหักพังอีกมากมาย

โดยจากการที่ได้แอบไปลองอ่านรีวิวของเมืองนอกมามากมาย ก็จะพบว่ามีแต่คนสรรเสริญเรื่อง อารมณ์ความบีบคั้น และ ฉากบีบน้ำตามากมาย จึงไม่แปลกเลยที่ผมจะค่อนข้างคาดหวังที่ ปลดปล่อยน้ำตา กับหนังเรื่องนี้ค่อนข้างมาก แต่ก็น่าเสียดายที่เมื่อถึงคราวจริง ๆ จุดไคลแมกซ์ที่บีบน้ำตา ตัวผมกลับไม่อิน

จึงไม่ได้เสียน้ำตาให้แก่หนังอย่างที่คาดหวังไว้นัก แต่กระนั้นแล้ว การที่ผมไม่ได้เสียน้ำตา และมัวนั่งจดจ่อที่จะร้องไห้กับหนังเรื่องนี้ จึงทำให้ตัวผมได้มองเห็นหลาย ๆ อย่างอีกมากมายใน The Impossible มากกว่าจุดบีบน้ำตาที่ตัวหนังอาจจะแอบมีพยายามขาย

และสิ่งนึงที่ตัวหนัง The Impossible ยังเล่าเรื่องออกมาได้สอดคล้องกับความเป็นจริงอยู่คือ การที่หนังแสดงถึงฉากมหันตภัย ที่เป็นเวลาที่มนุษย์เรามีศัตรูเป็นสิ่งเดียวกันนั้นคือ ความท้อแท้ และ ความสิ้นหวัง แต่หนังก็ยังแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้มนุษย์เราจะมีศัตรูตัวเดียวกัน แต่ก็ยังมีกลุ่มคนบางส่วนที่ยังไม่มีน้ำใจให้ความร่วมมือจะฝ่ามันไป ในขณะที่คนอีกกลุ่มก็ช่วยสุดชีวิต the impossible ครอบครัวจริง

สรุปเนื้อหา

Juan Antonio Bayona กำกับฯ The Impossible ออกมาได้สุดยอดในเรื่องการเรียกอารมณ์ร่วมของคนดู ถ้าไม่นับว่าเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ใกล้ตัวคนไทยทั้งชาติมากที่สุดเรื่องหนึ่งแล้ว หลาย ๆ ช็อตเรียกน้ำตาคนดูไปอย่างมากมาย และทำได้หลายต่อหลายครั้งในเรื่องเดียวเสียด้วย

และทุกครั้ง เขาก็พยายามขยี้ให้ถึงที่สุด ไม่รีบร้อนเร่งรัด ช่วงไหนต้องจัดก็จัดมาเต็ม แม้เรื่องราวจริง ๆ จะถึอไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากนัก แต่งานโปรดักชั่นระดับเหมือนจริงมาก การแสดงที่สุดยอด และการตัดต่อที่เข้าถึงอารมณ์คน ทำให้เรื่องนี้ ได้รับกล่าวขวัญถึงอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี่แรงกดดันอะไรคงไม่เท่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ลืมตาตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง มันเป็นความรู้สึกที่แย่ยิ่งกว่ารู้ว่าตัวเองต้องตายเพราะถ้าตายทั้งเป็นนั้นมีความรู้สึก และความรู้สึกมันแสนทรมานบาดใจยิ่งกว่าตายจริง ๆ และถึงแม้ความกลัวจะครอบงำจนยั้บยั้งไม่ได้เพราะความโดดเดี่ยวแสนลำพังแต่คราวใดที่รู้สึกว่าในอ้อมกอดยังมีลูก ๆ อยู่ ความกลัวเหล่านั้นก็จางหายไป The Impossible Netflix

 

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

หนังไทยย้อนยุค หากจะพูดถึงหนัง ผีปอบ ก็คงจะอดนึกถึงเรื่องนี้ไม่ได้กันแน่นอน ส่วนตัวผมคิดว่า น้อยคนมากที่จะไม่เคยดูเรื่องนี้ เพราะถูกนำมาฉายหลายต่อหลายครั้ง แล้วในสมัยนี้ก็หาดูได้ง่ายมาก ๆ แล้ว โดยที่ปอบนั้น จากตำนานนั้นกล่าวไว้ว่าเป็นผีที่มักจะโผล่มาหาคนที่กำลังนั่งร้องไห้แล้วเศร้าใจ พร้อมกับเอามือตบไหล่เบา ๆ พร้อมกับพูดว่า “โอ้ ๆ ไม่เป็นไรนะไม่เจ็บไม่เจ็บไม่ร้องไม่ร้อง ” เอ่ย ไม่ใช่แล้ว ปอบ นะไม่ใช่ ผีปลอบ (ฮา) หลังจากแวะเล่นมุกกันสักครู่ ก็ขอกลับมาเข้าเรื่องของเรากันก่อน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง กลับมาอีกครั้งกับตำนานภาพยนตร์สุดคลาสสิค บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น คราวนี้บริษัท โกลเด้น เอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ปรับโฉมใหม่ทันสมัย ดึงนักแสดงตลกจากวงการโฆษณาดัง ๆ ปะทะกับ ทีมนักพากษ์พันธมิตร ตลอดจนมีการเสริมในเรื่องของเทคโนโลยีทันสมัยถูกใจเอาใจวัยโจ๋กันอีกเพียบ โดยไอเดียใหม่ ๆ เหล่านี้จากฝีมือผู้กำกับฯหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง “ช้าง- โสภณ นิ่มอนงค์” (หนึ่งในผู้กำกับฯ ภ. ลูกตลกตกไม่ไกลต้น) จากการเปิดเผยผู้กำกับฯ ช้าง- โสภณ ว่า “กับ บ้านผีปอบ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น ที่ว่าผีปอบนั้นถือว่าเป็นผีตามตำนานความเชื่อพื้นบ้านที่มีมาในประเทศไทยโบราณในแถบฝั่งภาคอีสานของเรา โดยตามตำนานนั้นบอกว่าผีปอบเกิดจากคนธรรมดานี่แหละที่ไปฝึกวิชาเล่นของไสยศาสตร์มนต์ดำ แต่ไม่สามารถรักษาศีล หรือข้อห้ามที่มีการกำหนดไว้ในการฝึกวิชาต่าง ๆ ได้จนทำให้ของเข้าตัว และทำให้ตนเองกลายเป็นผีปอบ

บ้างก็ว่าผีปอบนั้นไม่มีตัวตนตามปกติแต่เหมือนเป็นจิตวิญญาณล่องลอยไปสิงสู่คน และนำร่างคนนั้นไปใช้ทำเรื่องต่าง ๆ เช่นกินตับไตไส้พุงของสัตว์เลี้ยงรวมทั้งผู้ที่มันสิงอยู่ด้วย แม้ในปัจจุบันความเจริญเติบโตของเทคโนโลยี จะมีมากไปแล้วแต่ก็ยังมีตำนานความเชื่อผีปอบ และมีเรื่องราวของหมอผีที่ออกจากผีปอบตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในภาคอีสานให้ได้ยินได้ฟังกันอยู่เสมอ

โดยในปี พ.ศ.2532 ได้มีการออกฉายภาพยนตร์เรื่องบ้านผีปอบภาคแรก ซึ่งเกิดมาจากผลงานการสร้างของบริษัทกรุ๊ฟโฟร์ บริษัทภาพยนตร์ขนาดเล็กที่มีคนในบริษัทไม่เท่าไหร่ แต่ต้องการจะสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง โดยพวกเขาตีโจทย์กันว่าภาพยนตร์ที่แฟนภาพยนตร์ชาวไทยจะต้องชอบชมกันอยู่ทุกสมัยนั้นก็คือภาพยนตร์แนวผี

เรื่องย่อ

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

ว่าด้วยเรื่องราวของ นัฐพล ได้เดินทางมากับคณะนักโบราณคดีเพื่อจะมาทำงานขุดค้นซากวัตถุโบราณ แอบไปขุดหาร่องรอยของ ปอบหยิบ ที่ตกหน้าผาและหายสาบสูญไปเมื่อ 20 ปีก่อนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อนในคณะนักโบราณคดีถูกฆ่าตาย ศพถูกขัดไว้บนต้นไม้ในสภาพถูกแหวะท้อง ควักไส้ออกไป คณะนักโบราณคดีจึงช่วยกันตามหาคนร้ายจนพบ หยิบ (ณัฐนี สิทธิสมาน) ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ และคิดว่าหยิบเป็นฆาตกร แต่เมื่อจะช่วยกันจับหยิบ กลับถูกหยิบไล่ทำร้ายจนต่างหนีเอาตัวรอดเข้ามาในหมู่บ้านใกล้ ๆ บ้านผีปอบ reformation นักแสดง

หนังผีปอบสุดคลาสิค

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

เราก็บอกเต็มปากเลยว่าไม่เบื่อเลย จะกี่ปีก็ไม่เบื่อ รู้สึกดีใจด้วยซ้ำ เพราะเราก็กลายเป็นโลโก้ปอบไปแล้ว ขนาดว่าทุกวันนี้ เด็กตัวเล็ก ๆ เห็นเรา ยังร้องไห้ วิ่งหนี เรียกปอบหยิบกันเลย แต่ที่ดีใจอีกอย่างนะ ใคร ๆ ก็บอกว่า กี่ปีพี่ก็ยังเหมือนเดิม ไปกินอะไรมา ไม่แก่ลง ซึ่งพี่ก็บอกไปว่า พี่ออกกำลังกายเสมอ โดยเฉพาะโยคะก็เล่นเป็นประจำ กินอาหารมีประโยชน์ ไม่เครียดใด ๆ ทั้งสิ้น กลับมาเล่นภาคนื้ ก็มีความเปลี่ยนแปลงเยอะขึ้น ให้แต่งหน้าอ่อน ๆ ไม่แก่ ไม่น่ากลัว ทรงผมก็เป็นบ๊อบสั้น หน้าม้าเต่อดูทันสมัยมากขึ้น มีการใช้คอมพิวเตอร์ ขับรถ ใส่สเก๊ต อะไรประมาณนี้

โดยในปีพ.ศ.2534 ซึ่งชื่อเรื่องบ้านผีปอบ 34 ซึ่งเป็นภาค 5 จากนั้นก็กลับมาใช้ชื่อบ้านผีปอบ 6 อีกครั้งซึ่งก็นำ ปอบหยิบ กลับมาเป็นผีปอบประจำเรื่องอีกครั้งเช่นเดียวกันแถมภาคหลัง ๆ มาก็เริ่มจะมีนักแสดงที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันหลายคน อาทิ ซูโม่กิ๊ก ธงชัย ประสงค์สันติ เป็นต้น ความนิยมของปอบหยิบนั้นถือว่ากลายเป็นเอกลักษณ์ของบ้านผีปอบไปแล้วเพราะในภาค

ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ 2535 ที่เล่นบทผีปอบเข้าสิงฝรั่งอย่างปอบแอนกลับไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่จนต้องมีการเขียนบทกันอีกครั้งในบ้านผีปอบ 9 และเอาปอบหยิบกลับมาคืน ทำให้แฟนภาพยนตร์ถึงกลับมาชอบใจกันอีกครั้งซึ่งคราวนี้ ผีปอบหยิบ ก็อยู่ยาว ไปจนถึงภาค 13 โดยในข้อเท็จจริงแล้วไม่มีภาค 12 โดยถือเคล็ดว่าไม่อยากให้เป็นหนังผีโหล ๆ ตามภาษาอีสานที่เลข 12 จะเรียกว่าโหล จากนั้นก็เป็นอันปิดฉากบ้านผีปอบในยุคแรกเริ่ม

เวลาต่อมาได้มีการนำบ้านผีปอบ และปอบหยิบกลับมาสร้างเป็นภาคใหม่อีก 2 ครั้งด้วยกันคือในปี พ.ศ. 2551 ที่ชื่อบ้านผีปอบ 2008 และบ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น ในปี พ.ศ 2554 ที่บอกเล่าเรื่องราวภายหลังจากปอบหยิบตกหน้าผาหายตัวไปกว่า 20 ปี พอให้แฟนหายคิดถึง แม้ปัจจุบันจะมีภาพยนตร์แนวผีของประเทศไทย ถูกสร้างออกมามากมายแค่ไหน แต่บ้านผีปอบและผีปอบหยิบจะอยู่ในใจแฟนภาพยนตร์ไทยที่รักในภาพยนตร์เรื่องนี้ตลอดไปนานเท่านั้น บ้านผี ป อบ ภาค 13

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น

รีวิว บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น เป็นภาพยนตร์ที่ไม่มีใครไม่รู้จักสำหรับวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ แม้กระทั่งวัยรุ่นบางคน เป็นหนังที่แม้ว่าจะผ่านมายี่สิบกว่าปีก็ยังคงมีความขลัง ป้าหน่อย ที่เล่นเป็นปอบหยิบ ทุกวันนี้ใครก็จำได้เป็นโลโก้ไปเลย จะให้ใครเล่นแทนแก ก็ไม่ใช่ ต้องเป็นแกเท่านั้น นี่หละมันเป็นสิ่งที่ท้าทายกับการทำงานครั้งนี้ สำหรับบ้านผีปอบ ภาคนี้ ชื่อเต็ม ๆ ว่า บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น แน่นอนว่าจะมีการปรับลุคเรื่องของบท เรื่องนักแสดง ตลอดจนโลเกชั่น ต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย ทันปัจจุบัน แต่ก็มีกลิ่นอายของความคลาสสิค และที่แน่นอนต้องมีป้าหน่อย “ปอบหยิบ” ณัฐนี สิทธิสมาน กลับมาเล่นด้วย

หลังจากเผยโฉม 2 ใบปิดแรกของหนัง “บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น” ค่ายหนังโกลเด้นเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ได้เผยภาพนิ่งหน้าตรงตัวละครที่ถือเป็นตำนานบทหนึ่งในประวัติศาสตร์หนังไทยครับ และนั่นก็คือ “ปอบหยิบ” (ณัฐนี สิทธิสมาน) ในโฉมที่จ๊าบและทันสมัยมาก (คำว่าจ๊าบนี่ยังไม่เชยใช่ไหม)

ผู้กำกับโสภณ นิ่มอนงค์ (ลูกตลกตกไม่ไกลต้น) บอกว่าการปรับโฉมใหม่ให้หนังตระกูลบ้านผีปอบไม่เพียงแต่โฉมของปอบหยิบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบท สถานที่ถ่ายทำต่าง ๆ และรวมถึงใช้นักแสดงรุ่นใหม่ เพื่อให้หนังดูทันสมัยขึ้นเพื่อเอาใจผู้ชมวัยรุ่น “แต่ก็มีกลิ่นอายของความคลาสสิค”อยู่ ลุง บิล ลี่ บ้านผีปอบ

นอกจากณัฐนี สิทธิสมานแล้ว หนังยังมีอรุชา โตสวัสดิ์ (เพื่อนกูรักมึงว่ะ) และ เบญจณัฏฐ์ อักษรนันทน์ (จาก โฆษณา ธ.กสิกร ชุดรับฝากของ) มาสมทบด้วย รวมถึได้คัดเลือกนักแสดงใหม่ ๆ ที่แจ้งเกิดจากโฆษณาดัง ๆ หลายชิ้นมาร่วมแสดงครับ

สรุป

ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วแต่สำหรับคนที่เคยดูแล้วผมก็คิดว่าก็จะยังคงติดอยู่ในความทรงจำใครหลาย ๆ คนแน่นอนครับ นอกจากนี้ก็ยังดึงทีมนักพากษ์พันธมิตรมาร่วมเล่นด้วย ซึ่งไม่มีใครเคยเห็นว่าหน้าตาแต่ละคนจะเป็นยังไง ก็จะได้เห็นกันในเรื่องนี้ครับ ซึ่งผมก็ดีใจที่อุตส่าห์เจียดเวลามาร่วมแสดง เพราะคิวแน่นมาก สำหรับมุกนั้นผมแทบไม่ต้องแตะเลย พี่ ๆ ทีมพันธมิตรเค้าเล่นกันเป็นทีม ทุกคนระดับมืออาชีพอยู่แล้ว

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น ผมเชื่อว่าเป็นหนังที่ดูได้ทุกวัย แม้ว่าจะปรับลุคให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งความคลาสสิคของเดิมไว้ ซึ่งก็ขอบคุณอาสายยนต์ ศรีสวัสดิ์ ผู้กำกับฯคนแรกเจ้าของตำนานหนังเรื่องนี้ก็ให้เกียรติมาช่วยในเรื่องของบทและงานโปรดักชั่นด้วย ก็เป็นอะไรที่พวกเราตั้งใจกันจริง ๆ อยากให้หนังไทยเรื่องนี้เป็นตำนานที่คลาสสิคชั่วลูกชั่วหลาน คาดว่ากำหนดฉาย เดือนกันยายนนี้ครับ” บ้านผี ป อบ 10