Tag Archives: หนังใหม่เต็มเรื่อง

รีวิว Ant-Man

รีวิว Ant-Man

รีวิว Ant-Man

รีวิวหนังดัง สำหรับหนัง Antman ผมคิดว่าหนังนั้นจะไม่ได้สนุกอะไรมากมาย คิดว่าคงจะเหมือนหนังทั่วไปๆ แต่เอาจริงๆผมไม่ค่อยได้คาดหวังอะไรกับมันมาก เพราะหนังเรื่องนี้มีปัญหามาตลอดตั้งแต่ก่อนสร้าง ยันเรื่องที่ ผกก เลย และเขียนบทคนเก่าอย่าง Edgar Wright ออกไป การถ่ายทำ การผลืตหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีอุปสรรคเยอะมากแต่!!!! หนังกลับทำออกมาได้ที่กว่าที่ผมคาดไว้เยอะมาก ถึงแม้จะไม่ได้อลังการณ์เท่า Age of ultron แต่หนังมันกลับกลมกล่อมและลงตัวมาก หนังไทยnetflix

รีวิว Ant-Man

รีวิวหนังดัง ในภารกิจใหม่สุดเร่งด่วน เพื่อต่อกรกับวายร้ายพลังสุดเทพอย่าง โกสต์ (ฮันนาห์ จอห์น คาเมน) ที่มีพลังทะลุทุกสิ่ง กับวายร้ายเจ้าพ่อค้าอาวุธอย่าง ซอนนี่ เบิร์ช (วอลตัน ก็อกกินส์) ซึ่งอีกด้านเขากับโฮปก็ต้องตามหา เจเน็ต (มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์) แม่ของโฮปกลับมาจากมิติควอนตัมให้จงได้ สก็อตต์ต้องกลับมาสวมชุดใหม่อีกครั้ง และเรียนรู้ที่จะต่อสู้เป็นทีมไปพร้อมกับ เดอะ วอส์พ เพื่อหาคำตอบในอดีตของ เจเน็ต และ ดร. พิม ที่เป็นปริศนาสำหรับพวกเขา

จะว่าไปหนังมาร์เวลนั้น ถึงจะยืนเนื้อหาในความเป็นซูเปอร์ฮีโร่และพลังพิเศษต่าง ๆ แต่ถ้าลองจับสังเกตกันดี ๆ เราจะเห็นว่าฮีโร่แต่ละตัวต่างก็มีสูตรหรือแนวหนังที่ใช้ต่างกัน ทั้งนี้ต้องชื่นชม เควิน ไฟกี ประธานมาร์เวลและผู้ดูแลจักรวาลหนังมาร์เวลทั้งหลาย ที่ชาญฉลาดพอในการวางแพลนประสบการณ์ให้ผู้ชมได้รับรสที่หลากหลายตลอดเวลา ดูหนัง

พูดอีกอย่างคือไม่ให้ผู้ชมที่ดูหนังมาร์เวลกันปีละ 1-3 เรื่อง ไม่เกิดอาการเลี่ยนหนังฮีโร่เกินไปนั่นเอง ดังนั้นเราจึงมีหนังก้าวพ้นวัยแบบปัญญาวัยรุ่นว้าวุ่นอย่าง สไปดี้ หนังดราม่าการเมืองอย่าง ซีวิลวอร์ และ แบล็กแพนเธอร์ หรืออย่าง แก๊งพิทักษ์อวกาศ ที่กลายเป็นหนังตลกแบบนอสตัลเจีย ส่วน ธอร์ ภาคล่าสุดก็อวตารตัวเองกลายเป็นหนังตลกติ๊งต๊องไปเรียบร้อย

และแน่นอนสำหรับ Ant-Man and the Wasp ที่ใช้ชื่อไทยได้ตร๊งตรงจนสิ้นคิดอย่าง แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ ถ้าจะให้พูดว่าเป็นหนังแนวไหน นี่คือหนังสไตล์รอมคอม หรือ โรแมนติกคอเมดี้

รีวิว Ant-Man

ที่ว่าด้วยพ่อหม้ายลูกติดที่พยายามคืนดีกับแฟนสาวคนใหม่ ที่ดันมีคุณพ่อสุดเฮี้ยบซึ่งดันเกลียดขี้หน้าเขาอยู่ด้วย เป็นโครงหลัก ส่วนพลังพิเศษต่าง ๆ มาเป็นเพียงน้ำจิ้มและอุปสรรคให้ความสัมพันธ์ของพระ-นาง ตลอดจนกับลูกสาวพระเอก และกับว่าที่พ่อตา เจริญงอกงามขึ้นเท่านั้นเอง ดูหนังออนไลน์

ดังนั้นใครชอบแนวหนังรักตลก ๆ ที่เดินเรื่องแบบซิทคอม เต็มไปด้วยสถานการณ์ชวนหัวปั่นและฮา นี่คือหนังซูเปอร์ที่เป็นคำตอบของคุณเลยครับ ส่วนแฟนมาร์เวลทั่วไปนี่อาจไม่ใช่หนังที่ตอบโจทย์ความเข้มข้น ไม่ได้มีฮีโร่ดัง ๆ ที่คุ้นเคยจากแก๊งอเวนเจอร์สมาแจม (เพราะช่วงเวลาเดียวกันนี้กำลังไฝว้กับพวกธานอสอยู่) แถมไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงสำคัญอะไรส่งผลกระทบยังหนังรวมพลอย่าง Avengers 4 ที่แว่ว ๆ ว่าอาจใช้ชื่อภาคว่า End Game ด้วย

ด้วยความที่เป็นหนังสแตนด์อะโลน ไม่ต้องไปเข้าใจหนังเรื่องอื่น ๆ ในจักรวาลมาร์เวลมาก จึงสามารถเริ่มต้นดูที่ภาคนี้ได้เข้าใจเลยเช่นกัน (เหมาะกับการพาแฟนสาวที่ชอบรอมคอมมาเริ่มติดหนังมาร์เวลมาก ๆ ฮะ) นี่จึงเป็นหนังที่ดึงทักษะออกมาได้สูงสุด สำหรับผู้กำกับผู้ช่ำชองกับแนวรอมคอม อย่าง เพย์ตัน รี้ด (Bring it on, Yes Man, The Break-Up) ซึ่งรับหน้าที่ตั้งแต่ภาคแรกได้อย่างดี

ด้านดาราก็ได้ทีมเดิมที่ตอนนี้รู้สึกว่าเคมีเข้าคู่ลงตัวกันมาก ๆ แล้ว ไม่ค่อยมีจุดขัดเขินแบบภาคแรก และที่สำคัญตัวละครฝั่งพระเอกแต่ละกลุ่มดูมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันที่น่าสนใจขึ้น อย่างเช่น หลุยส์ กับ ดร. พิม ที่เห็นอาการขยาดของ ดร. พิม ได้ชัดและสร้างสถานการณ์ตลกขบขันใหม่ ๆ ขึ้นได้อีก เป็นต้น

นอกจากนี้หนังยังมีดาราสมทบที่มากฝีมือมาแจมในภาคต่อนี้มากขึ้นด้วย ทั้ง มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ ในบทของ เจเน็ต หรือ เดอะวอส์พ รุ่นแรก และ ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น ในบทของ ดร. บิลล์ ฟอสเตอร์ หรือฉายา โกไลแอธ ฮีโร่ขยายร่างรุ่นแรก ซึ่งต่างก็เป็นดาราที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ และผ่านงานแสดงในหนังฮีโร่มาก่อนแล้วทั้งสิ้น ก็ทำให้หนังภาคนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในการปั้นแต่งตัวละครด้วย

ในขณะที่ฝ่ายเขียนบทก็ได้ดารานำอย่าง พอล รัดด์ ที่เคยร่วมเขียนบทในภาคแรกมาสานต่อบทบาทอีกในภาคนี้ โดยร่วมกับทีมเขียนบทจาก Spider-Man: Homecoming ซึ่งก็เหมาะเจาะอีกเช่นกันเพราะ หนังดึงความเป็นปุถุชนฮีโร่บ้าน ๆ ที่สัมผัสได้ อย่าง สก็อตต์ แลง พระเอกที่ถูกรัฐกักบริเวณเป็นเวลา 2 ปีจากการไปช่วยกัปตันอเมริกาในซีวิลวอร์

รีวิว Ant-Man

ทำให้เขาไม่สามารถออกนอกบริเวณบ้านตัวเองได้ ทุกครั้งที่ออกไป กำไรไฮเทคที่ข้อเท้าจะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่อย่าง มิสเตอร์วู (ในคอมมิคคือเอเจ้นท์ผู้รวมทีมเหล่าฮีโร่สายลับลอบเร้นด้วย) เข้ามาตรวจสอบ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเขาต้องกลับไปเผชิญหน้ากับแฟนและพ่อของเธอที่กำลังยั้วะเขาเต็มอัตราจากการเอาพลังไปใช้โดยไม่ปรึกษา

ทำให้เขาต้องรักษาสมดุลในการเป็นนักโทษที่ดีที่ใกล้วันได้รับอิสรภาพเพื่อจะได้เป็นพ่อที่ดีให้ลูก กับการเป็นแฟนที่ดีในภารกิจช่วยเหลือแม่ของแฟนในมิติควอนตัมกลับมา ซึ่งอันหลังก็วุ่นวายน่าดูเพราะนอกจาก พ่อค้าอาวุธที่พยายามจะแย่งพลังมดมาใช้แล้ว ยังมีศัตรูลึกลับที่มีพลังทะลุทุกสิ่งได้ไล่ล่าเพื่อแย่งชิงแล็บของ ดร. พิม ด้วย

ความพิเศษของหนังแอนท์แมนคือ การเล่าปัญหาของฮีโร่อย่าง สก็อตต์ แลงก์ ที่เอาจริง ๆ เขาก็คือคนธรรมดาที่ได้พลังจากอุปกรณ์ ไม่มีพลังเหนือมนุษย์ติดตัวแบบกัปตันอเมริกา หรือไม่มีปัญญามีความร่ำรวยล้นฟ้าแบบ โทนี่ คือถ้าไม่มีอุปกรณ์เขาก็สู้ใครแทบไม่ได้ ดูหนัง

เขาเป็นแค่คนที่ตกงานติดสถานะอาชญากรที่อยากกลับไปมีชีวิตปกติให้ลูกสาวของเขาได้ภูมิใจ ปัญหาของแลงก์จึงเป็นปัญหาแบบมนุษย์ปุถุชนที่เราสัมผัสได้ง่าย เอาใจช่วยได้ง่าย ไม่ต้องไปผูกกับเหตุการณ์ระดับโลกแบบหนังมาร์เวลช่วงหลังเลย เพราะความเป็นหนังครอบครัวแบบนี้ก็ได้ใจคนดูทั่วไป และคนดูหน้าใหม่ได้ไม่ยากเย็น ยิ่งแอนท์แมนเป็นจำพวกฮีโร่ตกกระไดพลอยโจน และเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ก็ยิ่งเห็นอกเห็นใจเขาได้ง่าย

บทสรุป Ant-Man

รีวิวหนังดัง สถานการณ์ขัดแย้งกันเองเหล่านี้ จึงสร้างความขบขันได้มากมาย ซึ่งพัฒนาขึ้นมากจากภาคแรก เพราะในภาคแรกเป็นการใช้ตัวละครอย่างหลุยส์ในการเรียกเสียงฮาเสียมากกว่า แต่กับภาคนี้มันมีความตลกทั้งแบบเดิมและแบบที่คนทั่วไปอินได้ง่ายอย่างตลกสถานการณ์ เช่น การที่พระเอกต้องรีบกลับบ้านให้ทันก่อนเจ้าหน้าที่วูจะจับได้ว่าเขาแอบออกไปเป็นแอนท์แมน

จนอาจทำให้ต้องติดคุกยาวต่อไป เป็นต้น ทำให้กลายเป็นความบันเทิงที่ลงตัวมากขึ้น แม้หลาย ๆ ฉากอาจเรียกได้แค่เสียง หึหึ แต่กับบางฉากต้องบอกว่ากรามค้างจริง ๆ โดยเฉพาะฉาก แอนท์แมนแอ๊บแมน นี่ตลกมาก

และนี่คือหนังเรื่องที่ 20 ของจักรวาลหนังมาร์เวล ที่กลายเป็นหนังชุดซูเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคใหม่ไปเรียบร้อย และแม้จะเป็นหนังที่มาเข้าโรงหลังจาก Avengers: Infinity Wars (2018) ก็ตาม แต่น่าจะจัดเข้าชุดเฟส 3 เช่นเดียวกับ Captain America: Civil War (2016), Spider-Man: Homecoming (2017) และ Black Panther (2018) เสียมากกว่า

เพราะหนังเล่าช่วงเวลาระหว่างผลกระทบจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งแตกหักระหว่างกัปตันอเมริกา และไอออนแมน ยาวมาถึงก่อนช่วงการบุกโลกของธานอสในอินฟินิตี้วอร์ เป็นสำคัญ ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้สร้างผลกระทบกับหนังเรื่องอื่นไม่มากนัก แต่ช่วงท้ายหรือตอนจบของหนังก็ได้ทิ้งก้อนปริศนาสำคัญที่น่าจะส่งผลเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ต่อหนังแอนท์แมน ดูหนังออนไลน์ หรือแม้แต่จักรวาลมาร์เวลในอนาคตก็เป็นได้ ถ้าสิ่งที่ผมมโนอยู่เกิดขึ้นจริงว่าแอนท์แมนจะได้รับพลังใหม่ กลืนกับอีกตัวละครสำคัญในจักรวาลคอมมิค

ข้อดี
** ความสนุกเป็นหัวใจใหญ่เลย สนุกมากกก จนจุดอ่อนจะช่างมันเลยก็ได้
** มีแนวทางของตัวเอง แตกต่างจากฮีโร่ตัวอื่น ทำให้จดจำง่าย
** การออกแบบย่อร่างและขยายร่างที่เป็นพลังหลัก เอามาใช้ได้คุ้มมาก
** หนังมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ๆ กว่าภาคเก่า ตัวละครมีเสน่ห์มาก ลงตัวกว่าเดิมมาก
** เหมือนไม่ค่อยทิ้งปมอะไร แต่ก็แอบซ่อนสิ่งชวนคิดที่กระทบจักรวาลมาร์เวลไว้ด้วย

ข้อเสีย
** ตรรกะอ่อนบ้าง ตามสภาพหนังรอมคอมเน้นความสนุก
** ใครชอบความเข้มข้นแอ๊กชันสะบั้นหั่นแหลกทุก ๆ นาที อาจไม่ได้ขนาดนั้น หนังเน้นการเล่าเรื่องมากกว่า

 

รีวิว Captain Marvel

รีวิว Captain Marvel

รีวิว Captain Marvel

รีวิวหนังดัง หลังจากที่แอดมินได้กลับไปดูหนังมาเวลเรื่องนี้อีกครั้งนั้น ทำให้แอดรุ้สึกอยากรีวิวมาทันทีครับ ถึงแม้ว่าในตัวหนังนั้น จะดัดแปลงจากคอมิก Kree-Skrull War ปี 1971 มาเยอะ ของ รอย โธมัส แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า Captain Marvel นั้น ก็ได้เลือกที่จะเซ็ตเรื่องราวของตัวเองขึ้นใหม่ และ ที่สำคัญมันยังตอบสนองกับแนวคิดเฟมินิสต์ที่ข้นขลั่กทั้งเรื่อง ทั้งที่มาของพลังพิเศษ หรือ เรื่องราวภูมิหลังที่อย่างกับหลุดมาจากโฆษณาเพื่อนหญิงพลังหญิง ไปจนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อยอย่างการแอบใส่ฉากที่ เวียส หรือ คารอล เดนเวอร์ ปล่อยพลังทำลายสแตนดี้หนัง True Lies ของเจมส์ คาเมรอน ในร้านบล็อคบัสเตอร์ หนังไทยมาใหม่

รีวิว Captain Marvel

รีวิวหนังดัง เวียส สตาร์ฟอร์ซ นักรบสาวแห่งเผ่าครี ได้ออกปฏิบัติการสู้รบกับเผ่าสโควล์ เธอพลาดท่าถูกเผ่าสโควลล์จับตัวได้และโดนจับไปค้นหาความทรงจำ ซึ่งมันทำให้ เวียส มองเห็นภาพที่เธอเห็นอยู่บ่อยครั้งในความฝันมันคือชีวิตบนโลกที่เธอจำไม่ได้เลย เมื่อเธอได้สติและหนีรอดจากเผ่าสโควล์ได้ เวียส มุ่งหน้าไปที่ดาวโลกด้วยกระสวย เพื่อไปค้นหาความจริง ดูหนัง

และได้พบกัน นิค ฟิวรี่ เจ้าหน้าที่หน่วยซีลด์ ที่ในตอนนั้นยังไม่ปิดตาข้างหนึ่ง ยังมีเจ้าหน้าที่โคลสัน ที่ยังเป็นเด็กใหม่ขององค์กรซีลด์อีกด้วย งานนี้เวียสและนิค ได้ร่วมกันค้นหาความจริงไปด้วยกัน และรู้ต่อมาว่าชื่อจริงของเวียส คือ แครอล เดนเวอร์ ก่อนที่ความทรงจำเธอจะหายไป หลังจากนี้เธอและนิคจะต้องช่วยกันค้นหาความจริง ซึ่งเกี่ยวพันกับใครบางคนที่กุมความลับเรื่องเครื่องสร้างพลังงานมหาศาล เพื่อยุติสงครามระหว่างเผ่าสโควล์และเผ่าครี ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

หนังให้กลิ่นไอของยุค 90 ที่ใครหลายๆ คนคุ้นเคย ยังคงมีการใช้เพจเจอร์ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งในสมัยนี้คงไม่มีให้เห็นแล้ว เพลงที่ใช้ประกอบเป็นเพลงยุคนั้นด้วยเช่นกัน โดยหนังเป็นเรื่องราวภูมิหลังก่อนที่จะมีมนุษย์ต่างดาว หรือยอดมนุษย์ปรากฎบนโลก รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการอเวนเจอร์ส ซึ่งในเรื่องนี้มีฮีโร่หญิงเป็นตัวเอก ก็บอกเลยว่าเป็นหนังที่สนุกไม่แพ้ฮีโร่ชายเลย ทำให้หนังมีจุดขายที่ดี ยิ่งฉากแอคชั่น นักแสดงและทีมงานก็สร้างออกมาได้มันส์มาก กระตุ้นต่อมความตื่นเต้นออกมาแบบไม่สามารถกระพริบตาได้เลย

สำหรับการแสดงของ บรี ลาร์สัน ก็ถือว่าไม่ได้เสียยี่ห้อดาราออสการ์นะครับ เธอสามารถทำให้เราเชื่อได้ทั้งด้านที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ความดิบเถื่อน ไปจนถึงด้านที่เปราะบาง เมื่อเธอพบความจริงที่สั่นสะเทืิอน ความเชื่อของเธอไปตลอดกาล ยิ่งได้ แซมมวล แอล แจ็คสัน ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้เรื่องราว ได้เป็นอย่างดีมาคอยรับส่งมุกกับเธอก็ยิ่งทำให้หนังดูสนุก โดยแทบไม่ต้องพึ่งพาฉากแอ็คชั่นมาคอยปลุกคนดูมากนัก รวมถึงนักแสดงสมทบทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ดี จนกลายเป็นหนังมาร์เวลที่ภาพรวมทางการแสดงค่อนข้างแข๋็งแรง เรื่องหนึ่งในจักรวาลของหนังเลยทีเดียว

รีวิว Captain Marvel

สิ่งที่ดูจะถูกใจ และ แอบดักแก่ผมอยู่มิใช่น้อยคงหนีไม่พ้นการเล่นกับเซ็ตติ้งในปี 1995 ตั้งแต่ซีนบนโลกซีนแรกที่จงใจให้แครอล ตกลงมากลางร้านบล็อคบัสเตอร์แล้ว เดินผ่านเชลฟ์หนังแอ็คชั่น ดังที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งนับ ๆ ดูก็แอบมีหลายเรืื่อง ในความทรงจำอยู่นะครับ ฮ่าาาา

แต่โดยนัยยะแฝงแล้ว การที่ Captain Marvel จะเป็นหนังเรื่องแรกของตระกูล Disney ที่ไม่ได้ลงสตรีมมิงทาง Netflix ยังเป็นการเสียดสีคู่แข่งตัวเองในอนาคตอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะหากจำกันได้ Netflix นี่แหละที่เริ่มบริการเช่าดีวีดีออนไลน์จนทำให้บล็อคบัสเตอร์ อยู่ไม่ได้ ดูหนังออนไลน์

และ การที่หนังไปเซ็ตเริ่มที่บล็อคบัสเตอร์เองก็เหมือนเป็นเทียบเชิญศึกไปถึง Netflix ว่าตัวเองพร้อมลงแข่งในนามดิสนีย์พลัสไม่นานเกินรอ หรือการเล่นตลอกกับยุคสมัย ทั้งอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในยุคโมเด็มที่ทั้งอืด ทั้งไม่เสถียร หรือการปรากฎตัวของเครื่องมือสื่อสารยุคก่อนทั้งเพจเจอร์ และ โทรศัพท์หยอดเหรียญก็เรียกความทรงจำวัยหวานได้เป็นอย่างดี

แุถมยังทำให้เรารู้สึกเลยว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ มาไกลเหลือเกินจนบางครั้งเราก็หลงลืมสิ่งเหล่านี้ไม่ต่างจากนางเอกที่หลงลืมตัวเองในนามแครอล เดนเวอร์ไปหมดสิ้น นั่นทำให้การเซ็ตติ้งดังกล่าวไม่ได้ไร้ความหมายแต่กลับส่งเสริมการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี เป็นธรรมเนียมที่หนังมาร์เวลจะแยกการเมืองไม่ออก

และแน่นอนว่าศัตรูหมายเลขหนึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล โดนัลด์ ทรัมป์ นั่นเองโดยคราวนี้ ประเด็นผู้อพยพที่กลายเป็นจุดพลิกผันของหนังยังทำให้เราสืบย้อนไปมองประวัติศาสตร์อเมริกาว่าด้วย อารยะชนกับเผ่าพื้นเมือง ซึ่งหนังทำตรงนี้ออกมาได้เข้มข้นมาก มันสามารถกินความไปถึงความหมายหรือผลพวงของสงครามต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

หรือแม้แต่ตัวละครซูพรีมอินเทลลิเจนต์ที่ถอดแบบมาจากคนที่ แครอล นับถือเอง ก็ยังมีแนวคิดเหมือน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่พยายามคิดค้นอาวุธที่จะหยุดทุกสงครามก่อนจะพบว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ จนทำให้หนัง Captain Marvel กลายเป็นหนังที่อิงการเมือง และ ประวัติศาสตร์มากที่สุดในจักรวาลมาร์เวลแล้วล่ะครับ ดูหนังออนไลน์

อีกจุดที่เชื่อได้เลยว่าเหล่าทาสแมวจะต้องเสียอาการคงหนีไม่พ้นการปรากฎตัวของน้องกู๊ส ซึ่งจากตัวอย่างเราจะเห็นน้องกู๊สโผล่มาเหมือนตัวประกอบผ่าน ๆ แต่บอกเลยว่านางแอบขโมยซีน และ โปรยเสน่ห์ให้คอหนังได้หลงไหลกับความลำไยบีมของนางกันแบบไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน ก่อนที่หนังจะเฉลยว่าแท้จริงแล้วความอันตรายของนางค่ืออะไรเท่านั้นแหละ โอ้โหทั้งโหด มันส์ ฮา แบบไม่กล้าสปอยล์เลย ที่สำคัญนางยังเป็นไฮไลต์เด็ดสำหรับช่วงเอนด์เครดิตด้วยน้าาาาา

สิ่งเดียวที่ขอเตือนแฟน ๆ หนังมาร์เวลไม่มีอะไรมากแค่อย่าดื่มน้ำเยอะก็พอ เพราะตามธรรมเนียมแล้ว เราจำเป็นมากที่จะต้องดูเอนด์เครดิต 2 ตัวให้หมด ซึ่งหนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 4 นาที โดยส่วนตัวมองว่าเอนด์เครดิตคราวนี้ทำไม่ยืดเยื้อเท่าไหร่ รอไม่นานมาก ส่วนใครเป็นแฟนมาร์เวล เชื่อว่าอาจจะต้องดูเกิน 1 รอบเพราะหนังซ่อนอีสเตอร์เอ็กไว้เต็มไปหมด ส่วนใครคิดถึงคุณปู่ สแตน ลี หนัง Captain Marvel จะพิสูจน์ให้เราเห็นว่า คุณปู่ไม่ได้จากเราไปไหนจริงๆ

การแสดงของฮีโร่สาวสุดแกร่ง ต้องยอมรับเลยว่า บรี ลาร์สัน แสดงออกมาได้ดีสมบทบาท เธอทำให้เห็นว่า ความแข็งแกร่งเป็นเช่นไร แม้ว่าจะล้มมาแล้ว กี่ครั้งก็ตาม ส่วนซามูเอล ที่รับบทนิค ฟิวรี่ ก็ยังคงกวนบาทาไม่ใช่น้อยเช่นเคย ด้วยการถาม-ตอบกวน ๆ ตามสไตล์แบบที่เราคุ้นเคย แล้วที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ ขวัญใจทาสแมวทั้งหลาย คือ กูส แมวตัวสีส้มที่เมื่อมีบทเมื่อไรก็แย่งซีนไปได้ตลอด มีความอ้อนเก่ง ยิ่งกับนิค ฟิวรี่ด้วยแล้ว คือเป็นมิตรกันสุด ๆ

บทส่งท้าย Captain Marvel

รีวิวหนังดัง แอดมินเทคะแนนให้กับ Captain Marvel ที่ 8/10 ยกให้เป็นหนังสนุกที่น่าติดตาม ฉากแอคชั่นใส่มาให้เยอะพอสมควร เอฟเฟคอลังการตระการตา แสงสีเสียงเลิศ ๆ เสียงประกอบตื่นเต้นเร้าใจ ดังกระหึ่ม ซีจีเนียน ไม่ลอย เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด ไม่ดูไม่ได้แล้ว และ ตอนนี้สามารถรับชมภาพยนตร์ผ่านช่องทาง DISNEY+ Hotstar ได้แล้ว จัดหนักไปเลย 2 ชั่วโมงเต็ม ถือว่าภาคนี้เป็นการเปิดตัวของฮีโร่หญิงที่แกร่งที่สุดในจักรวาล เพื่อสานต่อภาคต่อ ๆ ไป สำหรับวันนี้แอดมินก็ต้องขอตัวจบการรีวิวหนังสนุก ๆ ไว้เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวหนังปี 2021 ที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง สวัสดีค่ะ ดูหนัง

รีวิว Captain Marvel

จุดเด่น
– เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ไม่จำเป็นต้องดูหนังมาร์เวลมาก่อนก็สนุกได้
– บรี ลาร์สัน และ แซมมวล แอล แจ็คสัน รับส่งมุกได้อย่างไหลลื่น
– งานสเปเชียลเอฟเฟกต์วางใจได้ ใช้ ILM ของจอร์จ ลูคัส ทำทั้งเรื่อง
– น้องแมวกู๊สน่ารักมาก

จุดสังเกต
– บางทีกัปตันมาร์เวลก็เก่งไปนิด จนไม่ค่อยเห็นจุดอ่อนนางให้น่าเอาใจช่วยเท่าไหร่

ประเภทภาพยนตร์ : แนวแอคชั่นซูเปอร์ฮีโร่
ผู้กำกับภาพยนตร์โดย : แอนนา โบเดน, ไรอัน เฟล็ก
ผู้เขียนบทภาพยนตร์โดย : เม็ก เลอโฟฟว์นิโคล เพิร์ลแมนเจนีวา รอเบิร์ตสัน-ดวอเร็ตลิซ ฟลาไฮฟ์คาร์ลี เมนซ์แอนนา โบเดน ไรอัน เฟล็ก
บริษัทผู้สร้างโดย : มาร์เวล สตูดิโอ
คะแนนจาก IMDB : 6.8

รีวิว Red Notice

รีวิว Red Notice

รีวิว Red Notice

รีวิวหนังดัง หนังแอ็คชั่นที่ไม่ได้มีแต่ฉากบู๊ แต่ยังคงความสนุกความฮา ครบรส และนี่คือ หนึ่งในพล็อตหนังบล็อกบัสเตอร์ที่มักได้รับความนิยมที่สุดได้แก่หนังแนวแอ็กชันจารกรรมที่ว่าด้วยเหตุการณ์ปล้นซ้อนแผน และ แม้ว่าหนังหลายเรื่องมักจะจบที่การถ่ายเอกสารบทหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้มาผสมปนกันไม่ต่างจากวลีเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่ด้วยความสนุก เสน่ห์ของตัวละคร และ ฉากแอ็กชันยิ่งใหญ่อลังการก็มักจะทำให้หนังแนว ๆ นี้ได้เงิน และ ความนิยมจนได้สร้างภาคต่ออยู่เนือง ๆ ดูหนังออนไลน์

รีวิว Red Notice

รีวิวหนังดัง ‘Red Notice’ เลือกเปิดเรื่องด้วยฉากปล้นสุดอลังการที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งอิตาลีที่พาเราไปรู้จักกับเจ้าหน้าที่จอห์น ฮาร์ตลีย์ (รับบทโดย ดเวย์น จอห์นสัน Dwayne Johnson) กับ สารวัตรเออร์วาชี แดช (รับบทโดย ริทู อาร์ยา Ritu Arya) ที่ได้ตามจับตัวโนแลน บูธ (รับบทโดย ไรอัน เรย์โนลด์ส Ryan Reynolds) ยอดโจรสมองเพชรที่ขโมยไข่คลีโอพัตราสำเร็จเป็นใบแรกจากจำนวน 3 ใบ แต่แล้วฮาร์ตลีย์ก็ถูกบิชอป (รับบทโดย กัล กาด็อต Gal Gadot) ยอดโจรสาวหลอกจัดฉากจนต้องเข้าคุกไปพร้อมกับบูธ ทั้งคู่เลยต้องจำใจร่วมมือกันแหกคุกเพื่อออกล่าไข่คลีโอพัตราตัดหน้าบิชอป และ ล้างมลทินให้กับฮาร์ตลีย์ ดูหนังออนไลน์

ดูจากพล็อตแล้ว ‘Red Notice’ แทบจะเดินตามสูตรหนังจารกรรมทุกอย่างต่างกันเพียงแค่พอหนังต้องมีดเวย์น จอห์นสัน หรือเดอะร็อกแล้วก็เหมือนการดำเนินเรื่องต่าง ๆ ดูจะเป็นไปเพื่อรองรับมุกตลก ขายเสน่ห์นักแสดง และ ฉากแอ็กชันสุดระห่ำเป็นหลัก มากกว่าให้คนดูติดตามแผนอันชาญฉลาดหรือการหักมุมหักเหลี่ยมเฉือนคมไปมาเหมือนหนังจารกรรมในตำนานอย่าง ‘The Thomas Crown Affair’ ที่ผู้กำกับนำมาเป็นแรงบันดาลใจ

ซึ่งการวิเคราะห์ของผมมีข้อมูลประกอบสำคัญ 2 ส่วนคือ อย่างแรกดเวย์น จอห์นสันมีเครดิตเป็นเอ็กเช็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ (Executive Producer) ของหนัง และ การเลือก รอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์ (Rawson Marshall Thurber) ที่เคยร่วมงานกับจอห์นสันมาทั้ง ‘Central Intelligence’ และ ‘Skyscraper’ มาเขียนบท และ กำกับหนัง ต้องยอมรับอย่างนึงว่าเธอร์เบอร์ได้ทำให้ ‘Red Notice’ เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนผสมผสาน และ ขายเสน่ห์นักแสดงดังที่กลายเป็นจุดขายสุดแข็งแรงของหนังโดยเฉพาะการรวมนักแสดงซูเปอร์ฮีโรทั้ง 2 ค่ายไว้ในหนังเรื่องเดียว หนังไทยnetflix

รีวิว Red Notice

ดังนั้นต่อให้เราดูไปแล้วรู้สึกว่าพล็อตเรื่องมันคุ้นแบบบอกไม่ถูก แถมจุดหักมุมก็ไม่ได้เกินคาดเพราะเชื่อว่าใครดูหนังแนวนี้มาเกิน 10 เรื่องก็น่าจะพอเดาออกตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้วแถมฉากโจรกรรมก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือน่าเอาใจช่วยนักดังนั้นความบันเทิงหลักของ ‘Red Notice’ เลยมาจากการได้ดูดาราซุปตาร์โปรยเสน่ห์ใส่กันมากกว่า ซึ่งหนังก็เล่นหนักถึงขึ้นให้ตัวละครโนแลน บูธของไรอัน เรย์โนลด์สมีความเป็นแพนเซ็กช่วล (Pansexual) หรือความปรารถนาแบบไม่สนเพศ คล้ายตัวละครเดดพูลที่เรย์โนลด์สสวมบทบาทจนบรรดาสาววายดูแล้วน่าจะมีกรี๊ดกร๊าดกันไม่มากก็น้อยเวลาที่เห็นเขาอยู่ร่วมจอกับจอห์นสัน

ส่วนกัล กาด็อต ไม่ต้องพูดอะไรมากอยู่แล้วเพราะไม่ว่าเธอจะปรากฎกายในชุดราตรีสีแดงสุดร้อนแรงหรือชุดผจญภัยทะมัดทะแมง ทุกพื้นที่ก็พร้อมเป็นรันเวย์ให้เธอเสมอ และ แม้บทบิชอปของเธอจะดูไม่ค่อยมีบทบาทอะไรในเรื่องเป็นชิ้นเป็นอัน แต่หากขาดกาด็อตตัวหนัง ‘Red Notice’ คงขาดเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้คนดูติดหนึบอยู่หน้าจอ และ พูดคำว่า ‘สวยมาก’ ได้สิ้นเปลืองที่สุดในชีวิตขนาดนี้ ดูหนัง

สำหรับนักแสดงอีกคนที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้น ริทู อาร์ยา นักแสดงที่มีเชื้อสายอินเดีย และ เริ่มทำให้คนดูคุ้นหน้าจาก ‘The Umbrella Academy’ ซีซัน 2 ซีรีส์จากคอมิกดังทางเน็ตฟลิกซ์ที่คราวนี้มารับบทตำรวจสายสืบที่ดูมีหน่วยก้านดีไม่น้อยเลย เสียดายเพียงแค่หนังดันไปขายเสน่ห์ของ 3 ดารานำเป็นหลัก และ หนักมือมาก ๆ เลยกลายเป็นว่าการแสดงของเธอที่ไม่ธรรมดากลายเป็นเพียงวิวข้างทางไปอย่างน่าเสียดาย

มีเนื้อเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จ ที่พอจะเดาทางได้ แต่ทำไมเวลาดูไปเรื่อย ๆ แอดมินถึงได้ร้องเฮ้ย!! ขึ้นมาบ่อยครั้ง ซึ่งมันก็มีจุดหักมุมให้เรารู้สึกพีคในพีคในพีคได้อยู่บ้าง หนังก็ออกแบบมาให้เป็นหนังที่ดูเพื่อความบันเทิง ดูสนุก ไม่เครียด ดูได้เพลิน ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นแนวทางที่เซฟสุด ๆ ทำออกมาได้มาตรฐานหนังแอคชั่นติดคอมเมดี้ของ Netflix ไปเลยเต็ม ๆ

สรุปใน Red Notice

รีวิวหนังดัง แค่นักแสดงนำก็กินขาดไปแล้ว กับดาราฮอลลีวูดตัวท็อปแห่งวงการทั้ง 3 คน อย่าง ดเวน์ จอห์นสัน , ไรอัน เรย์โนลส์ และ กัล กาด็อท ที่ทำให้หนังมีจุดยืนที่แสนเฟอร์เฟค ด้วยการแสดงที่แสนจะมีเสน่ห์แพรวพราว โปรยเสน่ห์ใส่กันไม่มีว่างเว้น ซึ่งบทบาทของแต่ละคนก็สามารถดึงเอาจุดเด่นออกมาได้ดี โดยดเวย์น ได้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอระดับสูงที่เราเองก็แสนจะคุ้นเคยกับภาพจำที่รับบทตำรวจมาตลอด ไรอัน ซึ่งรับบทเป็นหัวขโมย ซึ่งก็ใส่เต็มความมุกเยอะดูเป็นหนุ่มเสเพล ส่วนนักแสดงสาวพราวเสน่ห์อย่างกาด็อท รับบทเป็น บิชอป จอมโจรสาวที่สุดแสนจะเก่งกาจมากฝีมือ และ เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของทางการ เรียกว่าเลือกตัวนักแสดงมาได้ถูกคนมาก ๆ แม้ค่าตัวนักแสดงจะเกินตัวไปก็เถอะ หากใครได้ดูก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่แหละ

รีวิว Red Notice

ถือว่า Red Notice เป็นหนังแอคชั่นโจรกรรมที่มีเนื้อเรื่องสูตรสำเร็จ ดูได้เพลิน ๆ เพื่อความบันเทิงล้วน ๆ องค์ประกอบของหนังไม่ได้มีความแปลกใหม่ ฉากแอคชั่นมีมาให้ต่อเนื่อง แต่ไม่จัดเต็ม ไม่สมกับเป็นหนังที่มีนักแสดงระดับตำนานแบบนี้ และ ทุนสร้างก็สูงเกินโดยใช้ทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านเหรียญฯ ฉากต่าง ๆ ถือว่าออกแบบออกมาได้ดี CG ยอดเยี่ยมมีความสมจริง ฉากแอคชั่นตู้มต้าม ไล่ล่ากันแบบไม่มีใครยอมใคร นักแสดงนำสามารถดึงดูดผู้คนในการรับชมได้มากกว่าหนัง ซึ่งหากใครเป็นแฟน ๆ ของเหล่านักแสดงนำนี้ ก็บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะการแสดงที่ยอดเยี่ยม และ เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ทำให้หนังดูมีความน่าสนใจดูแล้วไม่เบื่อ ดูหนัง

แอดมินขอเทคะแนนให้กับ Red Notice ที่ 7/10 ถือเป็นหนังขายเสน่ห์ของดารานำ และ ทำออกมาได้ดี ฉากแอคชั่นเทียบชั้นหนังโรงได้ เป็นหนังโจรกรรมที่ดูเบาไปนิดหากจะกล่าวถึงในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย และ หนังโจรกรรมที่ผ่าน ๆ มาดูเจาะเข้าไปในห้องลับได้ยากกว่านี้ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ใครหลาย ๆ คนเอะใจอยู่ไม่น้อยกับความเข้าห้องไปขโมยไข่คลีโอพัตราใบที่ 2 อย่างง่ายดาย การสลับฉาก และ เล่าเรื่องคล้าย ๆ หนังเก่าปี 2000 เล่าเรื่องได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด เอาเป็นว่าหนังทำออกมาได้ดีน่าสนใจในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ก็อยากให้ทุกคนได้รับชมหนังเรื่องนี้ เพราะมันก็ไม่ได้แย่จนเกินไป สำหรับวันนี้แอดมิน ต้องขอจบการรีวิวหนังสนุก ๆ ไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวหนังเรื่องต่อไป สวัสดีค่ะ

จุดเด่น
– ขายเสน่ห์ทั้งดเวย์น จอห์นสัน กัล กาด็อต และ ไรอัน เรย์โนลด์ส ได้แพรวพราวมาก
– ฉากแอ็กชันดูดี เทียบชั้นหนังโรง

จุดสังเกต
– พลอตเรื่องคล้ายหนังจารกรรมเรื่องอื่น ๆ เดาง่ายมากว่าจะหักมุมไปทางไหน
– ภารกิจการปล้นดูง่ายไปหน่อย และ ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่ควร

ประเภทภาพยนตร์ : Action, comedy
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Rawson Marshall Thurber
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Rawson Marshall Thurber
ค่ายหนัง/สตูดิโอ : Flynn Picture CompanySeven Bucks ProductionsBad Version, Inc.
คะแนนจาก IMDb : 6.4

รีวิว Mothering Sunday

รีวิว Mothering Sunday

รีวิว Mothering Sunday

รีวิวหนังดัง วันนี้แอดมินมาแนะนำหนังรักๆของทางอังกฤษ หนังเรื่อง Mothering Sunday เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่กำลังเป็นที่พูดถึงไม่น้อย ไม่ว่าจะด้านดีหรือร้าย แอดมินก็อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปสัมผัสกันเอง เป็นภาพยนตร์ของอังกฤษที่กำกับโดย Eva Hussonจากบทภาพยนตร์โดย Alice Birchซึ่งสร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดย Graham Swift มันดาราโอเดสซาหนุ่ม , Josh โอคอนเนอร์ ,โอลิเวียโคลแมน และ โคลินเฟิร์ ธ หยิบเอามาเล่า และ รีวิวกันเบา ๆ ในวันนี้ก็คือหนังเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะลงจอให้เช่าชมกันที่ทรูไอดีในสัปดาห์นี้

นี่คือหนังโรแมนติกดราม่า จากอังกฤษที่ชื่อว่า “Mothering Sunday” อาจจะเป็นหนังที่อยู่นอกสายตาของผู้ชมไปสักหน่อย เพราะตัวหนังก็ไม่ได้มีกระแสโด่งดัง และนักแสดงที่เรียกคนดู แต่ปรากฏว่า ความละเมียดละไม และ ความสวยงามของหนังเรื่องนี้ กลายเป็นเสน่ห์ อันชวนหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่มาพร้อมกับการแสดง ที่น้อยแต่มากของทั้งทีมแคสติ้งเรื่องนี้ จะมีการฉายรอบปฐมทัศน์โลกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ดูหนังออนไลน์

รีวิว Mothering Sunday

รีวิวหนังดัง Mothering Sunday ดัดแปลงมาจากนวนิยายโรแมนซ์ขายดีของ “เกรแฮม สวิฟต์” ที่มีชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวของแม่บ้าน ประจำตระกูล ของบ้านนีเวน อย่าง เจน แฟร์ไชล์ด ที่มีชีวิตแสนเรียบร้อยในฐานะลูกจ้างในบ้านของนายท่านกับนายหญิง ในช่วงหลังสงครามโลกครั้ง 1 แต่ปรากฏว่า เบื้องลึกเบื้องหลัง ในวันหยุดงานที่แสนธรรมดานั้น เธอแอบซ่อนความลับ ในความสัมพันธ์ระหว่าง ชายคนหนึ่ง ที่มีฐานะ ที่สูงศักดิ์กว่า นั่นก็คือ พอล เชอร์ริ่งแฮม ทั้งแอบนัดกันไปมีสัมพันธ์ ลึกซึ้งสุดสวาท ในวันก่อนที่เขาจะต้องอำลาจากไป เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมายที่เป็นหญิงอีกคน

หนังเรื่องนี้ถือได้ว่า ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงามราวกับบทกวี การเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ ไล่ลำดับความสำคัญเพิ่มพูนยิ่งขึ้น ผ่านความคิดของละครต่าง ๆ ของเรื่องทำออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์พลังหญิงของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส “เอวา ฮัซซัน” กับการดัดแปลงบทของ “อลิซ เบิร์ซ” ที่กลายเป็นการลงตัวของสมการโจทย์ของหนังเรื่องนี้ที่ออกมาอย่างคมคาย และ เต็มไปด้วยอารมณ์ที่บาดซึมลึกเข้าไปเรื่อย ๆ หนังไทยnetflix

รีวิว Mothering Sunday

เสน่ห์ในหนัง Mothering Sunday ก็คือการเล่าเรื่อง ที่ใส่ความซับซ้อนเข้าไปแต่ไม่ทำให้ยุ่งเหยิง กับการเล่าเรื่องในมุมมองของตัวละครหลักที่ค่อย ๆ สอดแทรกในช่วงแต่ยุคสมัยนำมาประกอบร่างกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังได้ไดอะล็อก และ บทหนังคำพูดต่าง ๆ ที่ร้อยเรียงออกมาเป็นอย่างดี เหมือนกับบทกวี ดูหนัง ตามที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น ทำให้ภาษารักของหนังเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่งดงามไปตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่ามันจะถูกแทรกด้วย ความเจ็บปวดตลอดทางก็ตาม

แน่นอนว่า ไฮไลต์เด็ดดวงที่สุดของหนังเรื่องก็คือทีมนักแสดงแบบยกแฝง เรียกได้ว่า ทุกตัวละคร และ นักแสดงถ่ายทอดออกมาได้ดีหมด “โอเดสซา ยัง” อนุภาพ และ เสน่ห์ของเธอในหนังเรื่องนี้รุนแรงมาก เป็นหนังที่เหมือนจะไม่ได้ออกแรงมาก แต่เธอสามารถพยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัด และ ทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยท่างท่าการแสดงที่ให้มาแค่เล็กน้อยแต่ทรงพลังเหลือเกิน เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาแนวทางการแสดงไม่เบา

ขณะที่ “จอช โอคอนเนอร์” ก็เช่นเดียวกัน ที่มอบการแสดง แบบน้อยแต่มาก แสดงออกอินเนอร์ต่าง ๆ ออกมาจากท่วงท่า มากกว่าคำพูด และ เขาก็ทำได้ดี หนังยังมี 2 ตัวเป้ง “คอลิน เฟิร์ธ” กับ “โอลิเวีย โคลแมน” ร่วมสมทบด้วย และ การแสดงของนักแสดงระดับตำนานทั้ง 2 คนนี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ยืนนิ่งส่งอารมณ์ก็บาดใจผู้ชมไปถึงก้นบึ้งไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาคือองค์ประกอบสมทบที่ช่วยเติมเต็มความเฉียบคมให้กับหนังเรื่องนี้โดยแท้

รีวิว Mothering Sunday

ถึงแม้ว่า Mothering Sunday อาจจะเป็นหนังรักที่ค่อย ๆ พาคนดูสำรวจตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ด้วยจังหวะที่ไม่ได้หวือหวาอะไรสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาถึงบทสรุป ของหนังในช่วงท้ายนั้น กลับสามารถย่ำยีหัวใจคนดูไปได้เกือบแหลกเลยทีเดียว มีหลาย ๆ องค์ประกอบที่งดงาม ในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ทำให้ชอกช้ำไม่น้อย เมื่อดำเนินเรื่อง มาถึงปลายทาง มันกลายเป็นหนังที่ดำเนินไปด้วยความเจ็บปวดที่น่าประทับใจจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเนื้อหาในหนัง Mothering Sunday อาจจะไม่เหมาะกับ ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีสักเท่าไหร่ เนื่องจากมีภาพ และ ฉากที่ไม่เหมาะสม และ วาบหวิวทางการแสดงปะปนอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นส่วนประกอบ ที่เหมาะสม และ เข้ากับตัวหนังได้เป็นอย่างดี โดยไม่ได้สื่อไปในเชิง อนาจารแต่อย่างใด ดูหนังออนไลน์ เพราะสุดท้ายหนังรักเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนคลื่น ทะเลที่คอย ซัดสาดเข้าใส่ ตัวเองทีละเรื่อย ๆ มีทั้งคลื่นอ่อน ๆ ที่ยังยืนได้กับคลื่นแรง ๆ ที่พาทำให้จะล้มเซได้อยู่เช่นกัน

สรุปใน Mothering Sunday

รีวิวหนังดัง ในเดือนมิถุนายนปี 2020 ได้มีการประกาศโอเดสซาหนุ่ม , Josh โอคอนเนอร์ , โอลิเวียโคลแมน และ โคลินเฟิร์ ธได้เข้าร่วมทีมนักแสดงของภาพยนตร์เรื่องนี้กับอีว่าฮัสสันผู้กำกับจากบทภาพยนตร์โดยอลิซเบิร์ช ในเดือนกันยายน 2020 Sope Dirisuเข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ โดยLionsgateจะจัดจำหน่ายในสหราชอาณาจักร

การถ่ายภาพหลักเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน 2020 ในเดือนพฤษภาคม 2021 มีรายงานว่า เกลนดา แจ็กสันจะปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูหนัง

ปล่อย
ในเดือนกันยายน 2020 Sony Pictures Classicsได้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในสหรัฐฯ จะมีรอบปฐมทัศน์โลกที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Mothering Sunday อุบัติรักวันแม่

นักแสดง
– โอเดสซา ยัง รับบท เจน แฟร์ไชลด์
– จอช โอคอนเนอร์ รับบท พอล เชอริงแฮม
– Olivia Colman รับบท นาง Niven
– Colin Firth รับบท คุณ Niven
– โซเป ดิริสุ รับบทเป็น โดนัลด์
– Glenda Jackson

ประเภท: โรแมนติก / ดราม่า
ผู้กำกับ: เอวา ฮัซซัน
ภาพยนตร์ เจมี่ แรมเซย์
แก้ไขโดย เอมิลี ออร์ซินี
บริษัทผู้ ผลิต ภาพยนตร์หมายเลข 9 , Film4 Productions , สื่อแยบยล , สถาบันภาพยนตร์อังกฤษ
จัดจำหน่ายโดย ไลออนส์เกต
นำแสดงโดย: โอเดสซา ยัง, จอช โอคอนเนอร์, คอลิน เฟิร์ธ
ความยาว: 100 นาที
กำหนดฉายในไทย: 30 มิถุนายน 2022 ( ที่ TrueID )

รีวิว The Man from Toronto

รีวิว The Man from Toronto

รีวิว The Man from Toronto

รีวิวหนังดัง สวัสดีครับวันนี้แอดมินจะมารีวิวหนังบู๊สุดดังที่ควรจะดังมากกว่านี้แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังเกิดการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 เป็นอย่างหนักจึงทำให้หนังนี้ไม่ประสบคามสำเร็จเท่าที่ควร นึกว่าออกฉายไปหมดแล้วเสียอีก สำหรับหนังที่โดนโรคเลื่อนมาจากช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก แต่ก็ยังไม่หมดครับ ยังมีเรื่องนี้ล่ะ The Man From Toronto หนังของค่ายโซนี่ที่วางกำหนดฉายเดิมไว้ตั้งแต่พฤศจิกายน 2020 นู่นเลย แล้วก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก สุดท้ายขายให้ Netflix ไปซะดีกว่า ซึ่งก็เพิ่งสตรีมมิงไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นี่เอง หนังไทยnetflix

รีวิว The Man from Toronto

รีวิวหนังดัง The Man From Toronto เป็นฉายาของนักฆ่า และ นักทรมานเหยื่อรีดข้อมูล รับบทโดย วูดดี้ ฮาร์เรลสัน เขารับงานจากนายหน้าหญิงคนเดิมมากว่า 20 ปี รับบทโดย เอลเล็น บาร์กิน จนเกิดเรื่องผิดคาดในวันหนึ่งเมื่อ โทรอนโตรับงานรีดข้อมูลจากเหยื่อที่กระท่อมหลังหนึ่ง แต่เผอิญที่ เท็ดดี้ แจ็กสัน รับบบทโดย เควิน ฮาร์ต เดินทางมาที่บ้านหลังนี้ก่อนเพราะดูบ้านเลขที่ผิด เข้าใจว่าเป็นกระท่อมที่เขาจะมาพักฉลองวันเกิดให้ภรรยา ทำให้ผู้ว่าจ้างเข้าใจผิดว่าเท็ดดี้เป็นโทรอนโต ซ้ำร้ายไปกว่านั้น FBI บุกบ้านที่เกิดเหตุ

แต่ผู้ว่าจ้างส่งภาพของเท็ดดี้ไปให้หัวหน้าใหญ่เรียบร้อยแล้วว่าบุคคลในภาพนี้คือโทรอนโต FBI จึงบังคับให้เท็ดดี้เป็นสาย สวมรอยเป็นโทรอนโตรับงานต่อเนื่องจากผู้ว่าจ้างเดิม เพื่อทาง FBI จะตามรวบตัวหัวหน้าใหญ่ ขณะเดียวกันโทรอนโตตัวจริงก็ตามสืบจนรู้ตัวตนของเท็ดดี้ และ มั่นใจว่าผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างเท็ดดี้ต้องทำแผนการเละไม่เป็นท่าแน่ จึงตามไปในปฏิบัติการที่ 2 เพื่อต้องการเผยตัวตน และ ทวงงานคืน และ ทำให้ทราบว่าเบื้องหลังการว่าจ้างครั้งนี้คือแผนการใหญ่ระดับชาติ ถ้าทั้งคู่ปล่อยให้บอสใหญ่ทำตามแผนสำเร็จจะมีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก

จะว่าไป หนังแนวจับคู่ คนหนึ่งบู๊คนหนึ่งฮาแบบนี้ไม่เคยห่างหายไปจากฮอลลีวูดเลย เรื่องเด่น ๆ ที่พอจำกันได้ก็มี 48 Hrs (1982), Bad Boys (1995), Rush Hour (1998), Shanghai Noon (2000), Cop Out (2000),The Nice Guys (2016), Central Intelligence (2016) และ แม้กระทั่งตัวผู้กำกับ แพทริก ฮิวส์ (Patrick Hughes) เองก็เพิ่งผ่านหนังแนวคู่หูอย่าง The Hitman’s Bodyguard ที่เพิ่งมีภาค 2 ออกมาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ก็คงเป็นสาเหตุให้เขาเป็นตัวเลือกให้รับหน้าที่กำกับเรื่องนี้กระมัง

ถ้าพิจารณากันที่เนื้อหาแล้ว หนังสามารถไปได้ในแนวแอ็กชันจริงจัง เพราะว่ากันด้วยเรื่องของโลกนักฆ่า ให้โทรอนโตนักฆ่ามืออาชีพต้องมาเจอกับวายร้ายบิ๊กเบิ้มที่มีแผนการร้ายระดับโลก ทำให้เขาเปลี่ยนใจมายับยั้งแผนการ นายหน้าจึงต้องส่งนักฆ่าอีกหลายคนมาตามเก็บเขาแทน

รีวิว The Man from Toronto

แต่หนังเลือกที่จะมาทางคอมเมดี้ ด้วยการให้นักฆ่าต้องจับคู่กับยูทูบเบอร์ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง ออกมาเป็นภาพที่เราคุ้นตากันเป็นอย่างดี ฝ่ายหนึ่งพูดน้อยต่อยหนัก หน้าตาเคร่งเครียดตลอดเวลา อีกฝ่ายเป็นหนุ่มร่างเล็กเจ้าอารมณ์พูดไม่หยุด ซึ่งก็ได้ เควิน ฮาร์ต (Kevin Hart) นักแสดงผิวดำที่ถนัดมาก ๆ กับบทอย่างนี้ เรียกว่าบทเดิมเลยก็ได้ที่เขาแสดงร่วมกับ ดเวย์น จอห์นสัน ใน Central Intelligence

เมื่อหนังถูกตีกรอบให้อยู่ในเส้นทางคอมเมดี้ และ มีเรต PG-13 จำกัดอยู่ หนังก็เลยไม่มีภาพรุนแรงให้เห็น และ คำหยาบให้ได้ยิน พอมีฉากรุนแรง หนังก็จะตัดภาพหรือให้ดูแค่สีหน้าตัวละครแค่นั้นพอ แม้โทรอนโตผู้ช่ำชองในการทรมานรีดข้อมูลเหยื่อ แต่ทุกครั้งที่จะลงมือเหยื่อก็ใจเสาะคายความลับเสียก่อน ดูหนังออนไลน์

แล้วสุดท้ายบทก็พลิกบุคลิกให้โทรอนโตกลายเป็นหนุ่มจิตใจดีไปซะงั้นในครึ่งหลังของเรื่อง บรรดานักฆ่ารายอื่น ๆ ในเรื่อง ที่วางมาดวางฟอร์มมาเสียโหด แต่ก็ต้องเจอกับกฎเหล็กว่านี่คือหนังคอมเมดี้ ก็เลยกลายเป็นตัวตลกกันเสียหมด เสียท่าได้แม้กับตัวตลกเสียงดังอย่าง เท็ดดี้ แจ็กสัน โดยไม่มีเหตุผลใด ๆ ประกอบทั้งสิ้น

ผลก็คือ The Man From Toronto กลายเป็นหนังที่ให้รสชาติจืดสนิท ไปได้ไม่สุดทั้งแอ็กชัน และ คอมเมดี้ ฉากแอ็กชันก็ไม่ได้ชวนลุ้นเอาใจช่วย เพราะผู้ร้ายแต่ละคนก็ดูช่างไร้พิษสง มีดีหน่อยก็ The Man From Miami ที่ปูทางมาดูโหดมีฉากแอ็กชันยาว ๆ ให้โชว์ และ นับว่าเป็นฉากที่ดีที่สุดในหนังแล้วล่ะ

แต่บทลงเอยของไมอามี่ก็ช่างงี่เง่าสิ้นดี ฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่องดูเล่นใหญ่ใส่ระเบิดตูมตามแถมเล่นเทคนิคสุดคลาสสิกให้ตัวละครวิ่งแบบสโลว์โมชันก็ดูแบบผ่าน ๆ ไปไร้อารมณ์ร่วม หันมาดูพาร์ตคอมเมดี้ของหนัง ด้วยความยาว 1 ชั่วโมง 50 นาที หนังระดมยิงมุกถี่ ทั้งด้วยการแสดงแบบตั้งใจเอาฮาของ เควิน ฮาร์ต และ บทพูดที่ออกจากปากของเขาที่ล้วนทำได้แค่เพียงรอยยิ้มมุมปากระหว่างชมเท่านั้น ไม่มีมุกไหนเลยที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้สำเร็จ

ฉากที่น่าพอใจสุดกลับกลายเป็นฉากดราม่าแค่ส่วนเล็ก ๆ ที่แทรกอยู่ในหนัง เมื่อโทรอนโต และ เท็ดดี้ได้พูดคุยเปิดใจกัน ทำให้โทรอนโตได้เปิดเผยด้านซอฟต์ของตัวเองออกมา และ ฉากที่ได้เจอกับแอน สาวสวยที่เข้าหาโทรอนโตจนทำให้นักฆ่าอย่างเขาดูเป็นหนุ่มนิ่ม และ เขินอายได้ ดูหนังออนไลน์

ดูจบแล้วรู้สึกดีใจไปกับ เจสัน สตาแธม (Jason Statham) ที่มาทะเลาะกับผู้อำนวยการสร้างแล้วโบกมือลาโปรเจกต์ก่อนเปิดกล้องไปแค่ 6 สัปดาห์ ทีมงานจึงรีบติดต่อ วูดดี้ ฮาร์เรลสัน ให้มาเสียบบทแทน ซึ่งก็ต้องบอกว่าฮาร์เรลสันดูเหมาะดีกับบทนักฆ่าสายโหด แม้จะเข้าวัยเลข 6 แล้ว พี่แกก็ยังดูหนุ่มกว่าวัย ดูแลหุ่นดี เล่นฉากบู๊ได้ทะมัดทะแมง เพียงแต่ว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นผลงานด้านลบในเครดิตของพี่วูดดี้ซะมากกว่า ส่วน เควิน ฮาร์ต นั้นไม่มีอะไรให้พูดถึง เพราะได้บทเดิม ๆ ที่คุ้นตาผู้ชม

สรุป The Man from Toronto

รีวิวหนังดัง แนวแอคชั่น คอมเมดี้ อาชญกรรม เรื่องราวเกิดจากความเข้าใจผิดจนทำให้เท็ดดี้ต้องสวมรอยเป็นชายจากโตรอนโตนักฆ่าสุดโหด เท็ดดี้ตัวฮาของเรื่อง ชายที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่างแต่กลับประสบความสำเร็จในการรีดเค้นข้อมูลเหยื่อซะอย่างนั้น ขณะที่ชายจากโตรอนโตก็จำต้องไว้ชีวิตเท็ดดี้ และ ร่วมมือด้วยเพราะลูกค้าดันได้รูปหน้าของเท็ดดี้ และ เข้าใจผิดว่าเท็ดดี้คือชายจากโตรอนโตไปแล้ว ดูหนัง

รีวิว The Man from Toronto

แต่การร่วมมือกันของทั้งคู่กลับก็นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีซะอย่างนั้น แม้หนังจะการดำเนินเรื่องเป็นไปตามสูตรหนังตลกแต่ก็ยังคงสนุกอยู่ดี เป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ ระหว่างทานอาหารหรือก่อนเข้านอน ช่วยคลายเครียดได้เลย แม้หนังจะไม่ถึงกับฮาก๊ากสุดขีด แต่ก็ทำให้หลุดขำได้ตลอดทั้งเรื่อง และ เสียงพากย์ไทยก็ช่วยให้หนังตลกขึ้นด้วยค่ะ พากย์ไทยทำได้ดีมากจริง ๆ ดูหนัง

เอาเป็นว่า ถ้ามี The Man From Toronto อยู่ในรายชื่อหนังที่จะเลือกดู ขอให้ข้ามไปก่อนเลย เก็บเรื่องนี้ไว้ตอนที่ไม่มีอะไรจะดูแล้วจริง ๆ

จุดเด่น
– วูดดี้ ฮาร์เรลสัน ยังดูดีอยู่มากในวัย 60 ปี

จุดสังเกต
– ไม่สุดสักทาง ทั้งแอ็กชันก็ไม่ตื่นตา ชวนลุ้น คอมมีดี้ก็ไม่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้เลย
– ตัวร้ายในเรื่อง ปูมามีพิษสงดีแต่ก็กากล้วน ๆ ปราบง่ายหมด
– เควิน ฮาร์ต จำเจกับคาแรกเตอร์เดิม ๆ

– คะแนน 8.7/10

ชายจากโตรอนโต ก็เป็นหนังแอคชั่นคอมเมดี้อีกเรื่องที่เหมาะกับคนที่ชอบหนังบู๊ฮา ๆ ดูได้เพลิน ๆ คลายเครียดระหว่างวัน และ ขอแนะนำให้ดูแบบพากย์ไทยนะคะจะตลกขึ้นเยอะเลย สามารถดูเรื่องนี้ได้ทาง Netflix น้า

รีวิว The Exorcist

รีวิว The Exorcist

รีวิว The Exorcist

หนังไทยย้อนยุค สวัสดีครับวันนี้แอดมินมารีวิวหนังยุคเก่า ที่ยังได้รับความนิยมอย่างมากในเรื่องความนน่ากลัว นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่หลอนน่ากลัวมาก ๆ และแอดมินกลัวมากๆตอนดูครั้งแรก สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงในเมืองเมาท์ เรเนียร์ รัฐแมริแลนด์ เมื่อปี 1949 เมื่อมีพิธีไล่ปีศาจในร่างของ ร็อบบี มานน์ไฮม์ เด็กชายอายุ 14 ปี อันเป็นเรื่องราวโด่งดังจนทำให้ วิลเลียม ปีเตอร์ บลาตลี ต้องหยิบยกเหตุการณ์นี้มาเขียนเป็นนิยายสยองขวัญในปี 1971 และ ติดอันดับ Best Seller จนถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1973 บลาตลีได้เสนอตัวเป็นโปรดิวเซอร์ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยมีนักแสดงนำคือ เอลเลน เบอร์สติน, ลินดา แบลร์, แมกซ์ ฟอน ซีโดว์ และ เจสัน มิลเลอร์

รีวิว The Exorcist

รีวิวหนังดัง The Exorcist ว่าด้วยเรื่องของ เรแกน แม็กนีล สาวน้อยที่ถูกวิญญาณซาตานร้ายเข้าสิง คอยกัดกินจิตใจ และ ร่างกายของเธอ โดยในระหว่างนั้นก็เกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้นภายในครอบครัว โดยเฉพาะกับตัวของเรแกน จนสุดท้ายครอบครัวต้องขอความช่วยเหลือจากโบสถ์ เพื่อเชิญบาทหลวงมากประสบการณ์มาช่วยไล่ผี

โดยในฉากไล่ผีที่เกิดขึ้นนั้น แต่ละซีนเรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของหนังผีหลายๆ เรื่อง หรือจะเรียกว่าเป็นซีนระดับตำนานเลยก็ว่าได้ ทั้งครีเอทีฟของความน่ากลัว การแสดงของสาวน้อยเรแกน เอฟเฟกต์บนใบหน้าที่ดูไม่เหลือเค้าเดิม จนทำให้คนตื่นเต้น และ ลุ้นระทึกกับความน่ากลัวที่ผสมผสานกันลงตัวอย่างบอกไม่ถูก ดูหนังออนไลน์

The Exorcist ทำรายได้ทั่วโลกไป 441 ล้านเหรียญสหรัฐ และ กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 สาขา และ ได้รับรางวัลในสาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม และ บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ที่สำคัญที่สุด The Exorcist ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรก ที่หนังแนวสยองขวัญได้เข้าชิงออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

รีวิว The Exorcist

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ป๊อปคัลเจอร์ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้หนังสยองขวัญหลายต่อหลายเรื่องหลังจากนั้น และ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็ยังคงได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญตลอดกาล ไม่ว่าจะโดย Entertainment Weekly, Movies.com, Time Out ล่าสุดในปี 2016 ทาง 20th Century Fox TV ได้นำเรื่องราวของ The Exorcist ไปพัฒนาเป็นซีรีส์ชื่อเดียวกันออกฉายทาง Fox TV ในเดือนกันยายนปี 2016

เดือนธันวาคมปี 1973 เอาให้ชัดกว่านั้น คือหนึ่งวันหลังวันคริสต์มาส ภาพยนตร์เรื่อง The Exorcist เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียงไม่กี่สิบโรงในสหรัฐอเมริกา เป็นหนังเล็กๆ ที่สร้างจากหนังสือที่ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้ หลังจากหนังเข้าฉายไม่นาน เสียงบอกต่อถึงความน่าสะพรึงกลัว และ ความรุนแรงทางอารมณ์

กลายเป็นจุดขายสำคัญที่ส่งหนังของผู้กำกับวีลเลียม ฟรีดกิน ให้กลายเป็นปรากฏการณ์หนังสยองขวัญสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชื่นชมความขนพองสยองเกล้า และ การที่หนังประจันหน้าท้าทายหลักศรัทธา และความเชื่อของศาสนาคริสต์อย่างจะแจ้ง

สุดท้ายหนังขยายโรง และ ทำเงินไปเกือบ 200 ล้านดอลล่าร์ เป็นหนึ่งในหนังผีที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล และ เป็นหนังผีเรื่องแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Picture และ ยังเข้าชิงรวมทั้งหมดถึง 10 สาขา 47 กว่าปีผ่านไป The Exorcist ยังคงความสยองไม่เสื่อม และ ตอนนี้หนังผีคลาสสิกเรื่องนี้มีให้ชมใน Netflix ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

รีวิว The Exorcist

ทำไม The Exorcist ถึงเป็นอมตะนิรันดร์กาล ทนทานต่อกาลเวลา และ ยังน่ากลัวกว่าหนังผีสมัยใหม่แทบทุกเรื่อง? ตอนออกฉาย หนึ่งในคำเตือนของโรงหนังบางแห่งคือห้ามเด็ก และ คนท้องเข้าชม มีรายงานคนดูที่เป็นลม อ้วกแตก หรือดูไม่จบต้องวิ่งหนีออกมาก่อน ดูหนัง

ในอังกฤษ หนังได้เรท X และ ถุกแบนห้ามฉายในหลายๆ จังหวัด เช่นกันหนังถูกห้ามฉายในประเทศอิสลามตะวันออกกลางแทบทุกประเทศ แม้แต่เทรลเลอร์สั้นๆ ของหนังก็ถูกแบนเช่นกันในหลายพื้นที่เพราะมัน “น่ากลัวเกินไป” (แต่หนังเรื่องนี้เข้าฉายในเมืองไทย

ผู้เขียนมีญาติผู้ใหญ่ที่ทันดูในโรง และ เล่าให้ฟังว่าคนดูหวาดกลัวหนังขนาดไหน และ เมื่อไม่กี่ปีก่อน The Exorcist กลับมาฉายที่โรงสหนังกาล่าในรอบพิเศษเพียงหนึ่งรอบในวันฮัลโลวีน) การที่หนังลงช่องสตรีมมิ่งใน พ.ศ. นี้ จีงเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ชมรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดูหนังคลาสสิคสุดอื้อฉาวเรื่องนี้

สรุป The Exorcist

รีวิวหนังดัง เรื่องราวใน The Exorcist ไม่ซับซ้อนเลย หนังสร้างจากหนังสือที่อ้างอิงจากเรื่องจริง ว่าด้วยเด็กสาววัย 12 ปี หน้าตาน่ารัก ชื่อ เรแกน (แสดงโดยดาราเด็ก ลินดา แบลร์) ที่ถูกปีศาจเข้าสิง หนังแทบทั้งเรื่องเป็นเรื่องของการไล่ผีโดยบาทหลวงสองรูปสองวัย ที่ใช้เทคนิควิธีการต่างๆ ทั้งขู่ทั้งปลอบ ทั้งไม้แข็งไม้อ่อน ทั้งสวดภาวนา และ ขู่เข็ญ

แต่เพราะผีที่สิงเมแกนช่างโหดเหี้ยม และ เป็นอวตารของปีศาจจากขุมนรกอันชั่วร้าย บาทหลวงทั้งสองรูปพบว่า พลังของบทสวด พลังของศาสนจักร และ พลังแห่งศรัทธาทั้งหลายแหล่ที่พร่ำสอนกันมาว่าเอาชนะความชั่วร้ายทุกอย่างได้ กลับไม่สามารถทำปัดเป่าผีร้ายให้ออกจากร่าง ไม่แม้แต่จะทำให้มันระคายเคือง ปีศาจเล่นงานเมแกนแบบวายป่วง ทั้งทำให้หน้าตาเธอเละเหมือนศพ

ทำให้เธอพ่นเมือกเขียวใส่คนรอบข้าง บิดหัว หักคอ กระแทกเธอกับเตียง และ กระทำการลบหลู่ไม้กางเขนอย่างอุจาดตา ฉากผีสิงเรแกนที่หนังดีไซน์มาอย่างละเอียด เป็นหนึ่งในสาเหตุที่หนังโดนแบนจากหลายประเทศ ทำให้หนังอื้อฉาว และ ถึงขั้นถูกมองว่าเป็นหนังต่อต้านศาสนาและสรรเสริญพลังของผีห่าซาตาน ฉากเหล่านี้เป็นฉากที่ทารุณจิตใจคนดูขวัญอ่อนอย่างที่หนังผีสมัยใหม่ยังทำได้ไม่ดิบ และ ไม่แรงเท่า

ภาพในหนังอาจจะดูรุนแรง และ ยิ่งรุนแรงเพราะเหยื่อในที่นี้คือเด็กผู้หญิงวัย 12 ปี ที่ถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า (ผู้เขียนเชื่อว่า หนังเรื่องนี้คงสร้างในสมัยนี้ไม่ได้ ด้วยค่านิยมในสังคมอเมริกาที่เปลี่ยนไป) แต่สิ่งที่รุนแรงยิ่งกว่าภาพที่เราเห็น คือการที่หนังทำให้เห็นความล้มเหลวของศรัทธา และ ลิดรอนรากฐานของความเชื่อในศาสนาคริสต์จนเปลี้ยง่อย ดูหนัง

เมื่อบาทหลวงทั้งสองจนมุม และ ตกเป็นเบี้ยล่างให้กับพลังดึกดำบรรพ์ที่ควบคุมไม่ได้ อเมริกาในปี 1973 ที่หนังออกฉาย ยังเป็นช่วงเวลาของความสั่นคลอนทางศีลธรรม เมื่อความชั่วร้ายในรูปแบบต่างๆ ถูกแสดงออกให้เห็นตำตา ทั้งคดี Watergate ของประธานาธิบดีนิสัน

ทั้งความโหดร้ายของสงครามเวียดนาม ทั้งความวิตกต่ออาชญากรรม และ อำนาจมืดต่างๆ และ สภาพสังคมที่ยังหาแสงสว่างไม่เจอ เหล่านี้ทำให้ปีศาจใน The Exorcist เป็นทั้งปีศาจจริงๆ และ เป็นภาพแทนของความตกต่ำทางศีลธรรมที่แม้แต่นักบวช และ ศาสนาซึ่งน่าจะเป็นผู้ไถ่ถอนชำระบาป กลับไร้พลังความสามารถ ล้มเหลวแม้แต่ในความพยายามจะช่วยเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง

รับรองได้ว่า ถึงเวลาจะผ่านไป The Exorcist ยังคงความขนลุกขนพอง ความน่าเกลียดน่ากลัว และ ทำให้คนดูหนังที่ว่าจิตแข็งนักหนาต้องหวั่นไหวไปกับภาพ เสียง และ อารมณ์ถาโถม อิทธิพลของหนังยังส่งต่อมาถึงทุกวันนี้ในฉากสยองขวัญของหนังหลายๆ เรื่อง ทั้งไทย และ เทศ ทั้งฉากบิดหัว ฉาก “สะพานโค้ง” และ ฉากไล่ผีที่อึมครึม และ อึดอัด ไม่มีหนังผีเรื่องไหน ที่ไม่คารวะ หรืออยู่ใต้เงาสะพรึงของ The Exorcist

ถ้าไม่เคยดู ก็ไม่ต้องรอต่อไป ถ้าเคยดูแล้ว ปิดไฟตอนเที่ยงคืนแล้วดูซ้ำอีกรอบ ถ้ามั่นใจว่าดูจบแล้วจะนอนหลับได้ ดูหนังออนไลน์

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

หนังไทยย้อนยุค กราบสวัสดีครับญาติโยม พ่าม วันนี้แอดมินมารีวิวหนังแนวธีมหนัง 555 หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย แต่ไม่รู้ว่าจะร่ำรวยตามชื่อหรือเปล่า เหมือนจะมาผิดรุ่น มีอยู่คำถามหนึ่งที่ผมได้ยินบ่อยมากจากคอหนังในเว็บหรือจากคนรอบข้างผมที่ชอบดูหนังเหมือนๆ กัน เกี่ยวกับเรื่อง หลวงพี่เท่ง ภาค 2 นี้ว่า คุณโน้ต เชิญยิ้ม ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้เอา คุณโจอี้บอย มาเล่นแทนคุณเท่ง เทิดเทิงแล้วจะสนุกเท่าภาคแรกไหม ดูหนัง

 

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

 

รีวิวหนังดัง ในความเห็นส่วนตัวของผม คุณเท่งนั้นเป็นนักตลกอาชีพ แค่เห็นหน้าก็อดขำไม่ได้แล้ว ส่วนคุณ โจอี้ บอย นั้นแม้ว่าจะเป็นนักร้องชื่อดัง แต่เทียบจำนวนครั้งในการปรากฏหน้าอยู่ตามสื่อต่างๆ แล้ว ยังเทียบไม่เท่าคุณเท่งเลย นั่นก็น่าจะแสดงว่าจะต้องมีคนรู้จักคุณเท่งมากว่าคุณ โจอี้ บอย อย่างแน่นอน ในส่วนของคุณ โน้ต เชิญยิ้ม นั้น หลังจากที่ประสบผลสำเร็จในการกำกับเรื่อง หลวงพี่เท่ง ภาคแรกมาแล้วด้วยรายได้สวยๆ อยู่ที่ 141 ล้านบาท

แต่ผลงานในชิ้นต่อๆ มาของคุณโน้ตก็ไม่ค่อยเข้าตากรรมการสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัวตัวดำ ก็ดำหน้ามืดไปแล้ว หรือ อีส้มสมหวัง ก็ท่าทางไม่ค่อยสมหวังนัก ซึ่งก่อนหน้าหลวงพี่เท่งภาคแรกคุณโน้ตก็ทำเรื่อง คนปีมะ มาก่อน และไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน ก็คงมีเรื่องเดียวเท่านั้นที่พอจะกู้หน้าได้กับเรื่อง หลวงพี่เท่ง ภาค 2 รุ่นฮาร่ำรวย นี้

แต่เมื่อคุณโน้ตทำหลวงพี่เท่ง 2 ออกมาแล้วก็คงหนีไม่พ้นกับการที่ต้องถูกเปรียบเทียบระหว่าง ภาค 1 และ 2 ซึ่งหลังจากที่ผมได้ไปดูเรื่องหลวงพี่เท่ง ภาค 2 มาแล้ว ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า การถ่ายภาพในเรื่องนี้ถ่ายได้ดีขึ้นอย่างมาก มีภาพสวยๆ ในเรื่องนี้หลายฉากเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาพบรรยากาศที่มีแสงแห่งตะวัน ไม่ว่าจะเป็นยามเย็นหรือยามเช้า ต้องขอชมในเรื่องนี้ ในเรื่องของมุขตลกก็ยังคงถือว่า ฮาในระดับหนึ่ง ดูหนังออนไลน์

ซึ่งวัดจากจำนวนเสียงฮาในโรงภาพยนตร์ในวันที่ผมดู ( จำนวนคนเต็มโรง อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นวันแรกแห่งการฉายเรื่องนี้ ) ฮาก็ฮาอยู่หรอกนะ แต่ฮาแบบนับจำนวนครั้งได้ ส่วนความรู้สึกผมจะเหมือนว่าฮาน้อยกว่าภาคแรกนะครับ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า บางมุขเป็นมุขเก่าๆ ยังคงเอามาใช้อยู่ อย่างเช่น ตอนใส่บาตร แบบว่าจะต้องมีมาคุยกันเถียงกัน จนไม่ได้ใส่บาตรสักที มุขนี้ก็มีในหน้งหลายๆ เรื่องแล้ว เลยดูไม่ค่อยขำ แต่ก็ใช่ว่ามุขใหม่ๆ จะไม่มีไม่ขำ

ก็มีที่โดนเหมือนกันพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่ด้วยหน้าตาของ โจอี้ บอย ที่ดูไม่ขำ แม้ว่าบางฉากจะพยายามให้ขำ อย่างเช่น ตอนที่ให้พระใส่หมวกแปลกๆ ( กันก้อนหินตกใส่หัว ) ก็ไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ได้แค่ยิ้มๆ และที่ดูแล้วปัญญาอ่อนสุดๆ ก็ตรงมือปืนที่ถูกจ้างมาทั้ง 3-4 คน ที่แต่งตัวเลียนแบบหนังฝรั่ง ดูแล้วไม่ขำเลย ( ขำไม่ออกจริงๆ ) ฝืดมาก ทั้งที่นักแสดงพยายามทำให้มันตลกแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดันอารมณ์ความชอบหรือขำออกมาได้เลยซักนิด

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

มันเป็นธรรมดาของหนังที่เอาพระเอาวัดมาเล่น ย่อมถูกเพ่งเล็งเสมอว่า เอาศาสนามาล้อเล่นเอาพระมาล้อเลียนหรือเปล่า ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นเช่นกัน แต่ในตัวภาพยนตร์ก็ออกตัวไว้ก่อนแล้วว่า ไม่ได้เอาศาสนามาล้อเลียนเพื่อลบหลู่แต่ประการใด โดยการแจ้งไว้ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องของภาพยนตร์

แต่ภาพที่ออกมาจะน่าเชื่อในสายตาของคนดูหรือเปล่าว่าไม่ได้เอาศาสนามาล้อเลียนอันนี้ผมไม่รู้ อย่างฉากที่พระโจอี้นั่งรถมากับคุณโน้ต พระโจอี้มีการเอาแขนมาอิงเบาะที่นั่งทั้งสองข้างด้วยในขณะที่ใส่ผ้าเหลืองอยู่ ผมดูแล้วรู้สึกว่าไม่สำรวมจริงๆ แต่คิดๆ ไปในเรื่องพระโจอี้มาจากนักร้องแร๊พ อาจจะติดนิสัยมาก็ได้ ก็เลย.. (ผ่านไป)

ในส่วนของธรรมะที่สอดแทรกเข้ามาในเรื่องนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน ปกติแล้วหนังทุกเรื่องย่อมมีธรรมะเข้ามาสอดแทรกอยู่แล้ว อย่างเช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม, ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว อะไรประมาณนั้น แต่เรื่องนี้อาจจะมีเยอะหน่อย เพราะในตัวหนังก็เกี่ยวกับพระกับศาสนาโดยตรง ผมชอบตอนพระ 2 รูปช่วยกันเทศน์(แหล่)

เรื่องเกี่ยวกับ แม่ ให้ญาติโยมฟัง และในหมู่บ้านนั้น (หมู่บ้านโคกสะอาด) มีถึง 3 ศาสนาด้วยกัน คือ พุทธ อิสลาม และคริสต์ แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ศาสนาไหนก็อยู่ร่วมกันได้ แล้วความดีทั้ง 5 ที่สอดแทรกมาอีก ทำดี, คิดดี, พูดดี, คบคนดี, แล้วอยู่ในที่ดีๆ ก็เป็นสิ่งที่ผู้กำกับพยายามแทรกเข้ามา นักแสดงแสดงกันได้ดีทุกคน คุณโน้ตพยายามดึงพี่น้องและเพื่อนฝูงของคุณโน้ตออกมาเล่นฉากละนิดฉากละหน่อย ดูหนัง

รีวิว หลวงพี่เท่ง 2

แถมภาคนี้ยังเอาลูกสาวสุดที่รักของคุณโน้ตมาเล่นด้วย (น้องแตงกวา) เหมือนเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวจริงๆ ส่วนดำตี10 คนนี้ผมจำได้ดี (คนที่เป็นลูกศิษย์วัด ขา-แขนพิการ) เพราะวันที่คุณดำประกวด “ดันดารา” ในรายการตี 10 ผมได้ดูในช่วงที่คุณดำเข้าประกวดพอดี ไม่คิดว่าคุณโน้ตจะเอามาเล่นในเรื่องนี้ด้วย ผมว่าเขาเป็นคนตลกดีนะ

แต่ในเรื่องนี้บทเขายังไม่เด่นเท่าไหร่ แต่แปลกที่เรื่องนี้ไม่มี โก๊ะตี้ เพราะปกติแล้วหนังของพระนครฟิล์ม จะมีโก๊ะตี๋เกือบทุกเรื่อง ส่วนเรื่องเพลงประกอบ เอ๋…!!ไม่มีนะถ้าไม่นับเพลงปิดท้ายเรื่อง กับเพลง “อาตมาไม่รู้สิ ทำให้ดูเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างในการดูหนัง ไหนๆ ก็พูดถึงหนังของพระนครฟิล์มแล้ว อยากฝากไปถึงผู้บริหารสักหน่อย ผมว่าหนังของพระนครฟิล์มทุกเรื่อง บุคลากรในการทำงานในด้านต่างๆ ของพระนครฟิล์มที่เก่งๆ และดีๆ ก็มีอยู่มากนะครับ

 

บทสรุป หลวงพี่เท่ง 2

 

รีวิวหนังดัง จะเห็นว่าหนังของพระนครฟิล์มปีหนึ่งๆ มีออกมาหลายเรื่องด้วยกัน แต่ส่วนน้อยมากที่หนังจะประสบผลสำเร็จ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางค่ายพระนครฟิล์มวัดจากตรงไหนว่าหนังเรื่องนั้นๆ ประสบความสำเร็จหรือเปล่า เพราะว่าบางบริษัทอย่างหนังลงทุน 20 ล้าน ขายได้ 30 ล้าน ก็ถือว่าเป็นผลสำเร็จแล้ว

แต่สำหรับนักวิจารณ์ผมคิดว่าน่าจะวัดจากคำติและคำชมตามสื่อต่างๆ นะครับ ถ้าโดนติมากกว่าชมก็แสดงว่าหนังเรื่องนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ สำหรับค่ายพระนครฟิล์มผมคิดว่าทุกอย่างดีหมดยกเว้น บทภาพยนตร์ ครับ บทภาพยนตร์ของค่ายนี้น้อยมากครับที่ดีๆ ถ้าแก้ตรงจุดนี้ได้ ผมว่านักดูหนังไทยคงมีหนังดีๆ ดูกันอีกเยอะ ก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกันครับ ดูหนังออนไลน์

สรุปแล้วเรื่อง หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย บทยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บางช่วงบางตอนยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นหนังตลกจะเอาฮาอย่างเดียว ผู้กำกับพยายามยัดเยียดความฮาแต่กลับฮาได้ไม่เท่าไหร่ ถ้าคิดว่าจะมาดูหนังตลกสุดๆ ล่ะก็ผิดหวังแน่ๆ แต่ถ้าคิดว่ามาดูเพื่อแก้เครียดกับเหตุบ้านการเมืองแล้วแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็คงพอไหว หรือจะเครียดกว่าเดิมก็แล้วแต่มุมมอง

สำหรับผมคิดอยู่เหมือนกันว่าหนังเรื่องนี้ ฮา ไหม? ก็เลยพยายามนึกคาแร็คเตอร์เท่ง กับ โจอี้บอย ว่าถ้าสองคนนี้แต่งชุดพระมายืนอยู่ตรงหน้าผม แล้วให้ทำหน้าตลก ผมจะตลกเท่งหรือโจอี้บอยกันแน่ แล้วผมก็ได้คำตอบแล้วว่า เท่งน่าจะตลกกว่า นั่นก็แสดงว่าผมให้ หลวงพี่เท่ง ภาค 1 สนุกกว่า ภาค 2 ครับ แต่ถ้าให้คะแนนผมก็ขอให้เท่ากันก็แล้วกันคือ 7/10 ครับ

ผมแถมเกร็ดเล็กๆ น้อยให้นิดนึงนะครับ ไม่รู้ว่ารู้กันหรือยังนะครับเกี่ยวกับโลโก้ของค่ายหนัง พระนครฟิล์ม คำว่า พระนครฟิล์ม กลายเป็น พระนครฟิลม์ ในโลโก้ ตัวสะกดการันต์ จะไปอยู่ตรง ม.ม้า แทนที่จะอยู่ตรง ล.ลิง ที่ถูกต้องตามพจนานุกรม ที่เป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้สะกดผิดหรืออย่างไรนะครับ

เป็นเพราะว่าทางค่ายถือเคล็ดว่า ถ้ามีอะไรไปทับตรง ล.ลิง แล้วจะไม่ดี เพราะว่า ล.ลิง ในที่นี้ หมายถึง ล้าน (เงินล้าน) นั่นก็หมายความว่า ทางค่ายถือเคล็ดว่าหนังทุกเรื่องของค่ายต้องได้เงินล้าน (หลายล้าน) ทุกเรื่องนั้นเอง วิจารณ์หนัง โดย TCK

รีวิว The Amityville Horror

รีวิว The Amityville Horror

รีวิว The Amityville Horror

หนังไทยย้อนยุค วันนี้แอดมินมาแนะนำหนังผี หนังสยองขวัญขึ้นชื่อ ที่ทางผู้กำกับนั้นได้บอกเองว่า เรื่องราวนี้สร้างมาจากเรื่องจริง มาพบกันเป็นประจำในทุก ๆ เช้ากับการแนะนำหนังน่าดูประจำวันที่ TrueID และ TrueID+ หลากหลายอรรถรสความบันเทิงไร้ขีดจำกัดกับช่วง “Movie of the Day” เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยบรรยากาศแห่งขนหัวลุกกับตำนานบ้านผีสิงที่เลื่องชื่อไปทั่วโลกกับ “The Amityville Horror” (ผีทวงบ้าน) ดูหนังออนไลน์ หนังเขย่าขวัญเรื่องดังที่อ้างอิงมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเหตุฆาตกรรมยกครัวที่เป็นหนึ่งในคดีร้ายแรง และ ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา

 

รีวิว The Amityville Horror

 

รีวิวหนังดัง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน 1974 สถานีตำรวจซัฟโฟล์คเคาน์ตี้ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุสยองขวัญ ที่นำพวกเขาสู่บ้านเลขที่ 112 โอเชี่ยนอเวนิว ในเอมิตี้วิลล์ ลองไอซ์แลนด์ ภายในบ้านทรงดัตช์โคโลเนียล บรรดาตำรวจพบเหตุอาชญากรรมสุดสยอง ที่เขย่าขวัญชุมชนแสนสงบแห่งนี้ ครอบครัวหนึ่งถูกสังหารหมู่ บนเตียงแสนสบายของตนเอง

ไม่กี่วันถัดมา โรนัลด์ เดเฟโอ จูเนียร์ ได้รับสารภาพว่า ได้ยิงพ่อแม่ และ พี่น้องของเขาตายด้วยปืนไรเฟิล ขณะที่พวกเขานอนหลับ และ อ้างว่าเสียงในบ้าน ทำให้เขาก่อเหตุฆาตกรรมสยองดังกล่าว กลายเป็นคดีน่าพิศวงงงงวยที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์หน้าอาชญากรรมของอเมริกา

ในอีก 1 ปีต่อมา จอร์จ และ แคธี่ ลุทซ์ พร้อด้วยลูก ๆ ได้ย้ายเข้ามาในบ้านที่พวกเขาคิดว่าคือบ้านในฝัน แต่หลังจากย้ายเข้ามาไม่นาน เหตุการณ์ประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เกิดขึ้น นั่นคือ ภาพสยอง และ เสียงหลอนของบรรดาภูตผีที่ยังคงสิงสถิตย์อยู่ในบ้าน ดูหนัง

รีวิว The Amityville Horror

แคธี่ผู้เป็นแม่ พยายามทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อลูกสาว เชลซี พูดคุยกับเพื่อนที่มองไม่เห็นชื่อ โจดี้ และ จอร์จผู้เป็นห้วหน้าครอบครัวมีพฤติกรรมประหลาด เขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนอยู่ในห้องใต้ดิน ที่ซึ่งไม่นานเขาได้พบทางสู่…ห้องแดง อันลึกลับ และ น่าขนลุก ด้วยภาพหลอนอันแจ่มชัด และ เสียงของเหล่าผีที่ดังก้องอยู่ในหัวของจอร์จ บ้านทั้งหลังก็กลับกลายมีชีวิต และ ทำให้ผู้คนต้องสยองขวัญจนกลายเป็นเรื่องเล่าขานมาจนปัจจุบัน

The Amityville Horror เป็นการดัดแปลงมาจากนิยายของ “เจย์ แอนสัน” ที่อิงมาจากเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เคยเกิดขึ้นจริง หนังเป็นผลงานการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ “แอนดริว ดักลาส” ที่ผลปรากฏว่าไม่ได้เป็นที่ต้อนรับในหมู่นักวิจารณ์สักเท่าไหร่ เพราะหนังทำคะแนนเฉลี่ยบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปได้แค่เพียง 23% เท่านั้น ไม่ต่างกับหนังสยองขวัญพล็อตซ้ำ ๆ เรื่องอื่นที่เคยออกฉายมาก่อนหน้านี้

แต่กระนั้นหนังก็ยังกวาดรายได้ได้ค่อนข้างพอใจ โดยสามารถทำเงินในอเมริกาได้ดีถึง 65 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียงแค่ 19 ล้านเหรียญเท่านั้น และ ยังทำเงินรวมทั่วโลกไปได้ทะลุ 108 ล้านเหรียญ โดยหนังถือว่าเป็นผลงานเรื่องแรก ๆ ของ “ไรอัน เรย์โนลด์ส” ที่เพิ่งจะแจ้งเกิดในวงการได้เพียงไม่นาน และ กับสะสมบารมีความเป็นซุปตาร์ในตอนนั้นกับการเล่นหนังหลากหลายแนวเข้าไว้ และ ยังผลงานชิ้นแรก ๆ ของ “โคลอี เกรซ มอเรตซ์” ที่ยังเป็นนักแสดงเด็กอยู่เลย

หนังผีเป็นอะไรที่ใกล้ตัวคนเราอยู่แล้ว วิญญาณอยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่แหละ เพราะงั้นหนังผีที่ถูกสร้างจากเรื่องจริง จึงเป็นอะไรที่เข้าถึงคนดูได้ง่ายมาก ฉากอย่างเช่น เจ้าลูกชายคนเล็กปวดฉี่จะราด แต่ไม่กล้าเข้าห้องน้ำเพราะกลัวผี ก็เป็นอะไรที่ใกล้ตัว คุณอาจจะนึกถึงตัวเองตอนเด็ก ๆ ได้ หนังผีที่เราเห็นหลาย ๆ เรื่อง จะพบว่า เด็กนี่แหละที่มีความใสบริสุทธิ์ที่จะ”เข้าถึง” วิญญาณได้ เราจะเห็นเด็กในหลายเรื่องที่เห็นผี เห็นวิญญาณ หรือแม้แต่พูดคุยกับมัน!

 

สรุป The Amityville Horror

 

รีวิวหนังดัง The Amityville Horror ไม่ได้พลาดในรายละเอียดของความน่ากลัวใกล้ตัวที่คนเราจะสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน หนังผีเรื่องนี้ยังได้ผสมผสานเหตุการณ์ฆาตรกรรม ภาพการถูกทรมานน่าสยดสยอง รวมถึงความเป็นดราม่าที่แสดงออกโดยสัญชาตญาณของผู้เป็นแม่ ก็เรียกได้ว่าครบรสความเป็นหนังผีครับ ดูหนังออนไลน์ ใครที่เบื่อหนังผีที่โผล่มา…แฮ่! โผล่มา…แฮ่! หยิบเอาหนังผีเรื่องนี้มาดูได้นะ ผมว่าไม่น่าผิดหวังหรอกครับ เป็นอะไรที่ดูได้สนุกกันทั้งครอบครัว

The Amityville Horror เป็นการดัดแปลงมาจากนิยายของ “เจย์ แอนสัน” ที่อิงมาจากเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เคยเกิดขึ้นจริง หนังเป็นผลงานการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ “แอนดริว ดักลาส” ที่ผลปรากฏว่าไม่ได้เป็นที่ต้อนรับในหมู่นักวิจารณ์สักเท่าไหร่ เพราะหนังทำคะแนนเฉลี่ยบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปได้แค่เพียง 23% เท่านั้น ไม่ต่างกับหนังสยองขวัญพล็อตซ้ำ ๆ เรื่องอื่นที่เคยออกฉายมาก่อนหน้านี้ รีวิวหนังผี

The Amityville Horror สร้างมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของเจย์ แอนสัน ที่เขียนเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1976 เขียนขึ้นมาจากเหตุการณ์จริง ชื่อตัวละครทั้งหมด ในเรื่องเป็นชื่อจริง เป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งคู่สามีภรรยาครอบครัวลุทซ์ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้ ได้เพียงแค่ 28 วันเท่านั้น ทนไม่ไหว ต้องย้ายออกมา ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกนำไปเขียนเป็นนวนิยายชื่อดัง สามารถทำยอดขายได้ถึง 10 ล้านเล่ม

รีวิว The Amityville Horror

และ เมื่อถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1979 ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยทำรายได้ 86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ กลายเป็นสุดยอดภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง ที่อยู่ในใจของนักดูภาพยนตร์ทั่วโลก ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และ รางวัลลูกโลกทองคำ สาขาดนตรีประกอบ และ รายการอื่น ๆ อีกมาก และ จากความโด่งดังนี้ทำให้ผู้เขียน และ บุคคลจริงที่ถูกอ้างถึงในนวนิยายออกรายการทอล์คโชว์ในสหรัฐอเมริกาจนเป็นที่ฮือฮากล่าวขานอย่างมากในเวลานั้น

ต้องขอบอกก่อนว่าก่อนดูหนังผี The Amityville Horror ผีทวงบ้าน ผู้เขียนไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะส่วนหนึ่งเคยทำการเขียนบทความด้านประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์สุดโหดที่เกิดขึ้นจริง แต่หลังจากที่ได้รับชมหนังผี The Amityville Horror ผีทวงบ้าน แล้ว ปรากฎว่าในส่วนของภาพยนตร์ก็ทำออกมาได้ดีเกินคาดกันเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าหากให้แนะนำล่ะก็ หนังผี The Amityville Horror ผีทวงบ้าน เป็นหนังในหนังผีที่น่าดูมากเลยทีเดียว เพราะมีฉากสุดหลอนที่เรียกได้ว่าว้าว! อย่างน่าสนใจกันเลยทีเดียว ดูหนัง

แต่กระนั้นหนังก็ยังกวาดรายได้ได้ค่อนข้างพอใจ โดยสามารถทำเงินในอเมริกาได้ดีถึง 65 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียงแค่ 19 ล้านเหรียญเท่านั้น และ ยังทำเงินรวมทั่วโลกไปได้ทะลุ 108 ล้านเหรียญ โดยหนังถือว่าเป็นผลงานเรื่องแรก ๆ ของ “ไรอัน เรย์โนลด์ส” ที่เพิ่งจะแจ้งเกิดในวงการได้เพียงไม่นาน และ กับสะสมบารมีความเป็นซุปตาร์ในตอนนั้นกับการเล่นหนังหลากหลายแนวเข้าไว้ และ ยังผลงานชิ้นแรก ๆ ของ “โคลอี เกรซ มอเรตซ์” ที่ยังเป็นนักแสดงเด็กอยู่เลย

ประเภท: สยองขวัญ / ระทึกขวัญ
นำแสดงโดย: ไรอัน เรย์โนลด์ส, เมลิสสา จอร์จ, โคลอี เกรซ มอเรตซ์
กำกับโดย: แอนดริว ดักลาส
ความยาว: 89 นาที
เข้าฉายครั้งแรก: 15 เมษายน 2005

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีจ้า วันนี้มาแนะนำ มารีวิวหนังไทย ในค่ายแดง NETFILX หนังไทยหนังดี โดยได้มาถึงคิวออริจินัลหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ได้ออกไปสู่สายต่อชาวโลก “The Whole Truth” (ปริศนารูหลอน) หนังระทึกขวัญซ่อนเงื่อน ผลงานการกำกับ และ เขียนบทของ “วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง” ที่ยังคงหยิบเอาสไตล์ และ ลายเซ็นแนวทางการสร้างหนังหลอนๆ ของเขาเองงัดมาใช้ได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์หนังที่ดูน่าสนใจไม่เบา เพียงแต่ว่าภาพรวมนั้นยังห่างไกลจากคำว่ามาสเตอร์พีชอยู่ดี

เมื่อรูลึกลับบนกำแพงของบ้านตากับยายปรากฏขึ้น พิม และ พัทก็ได้พบความจริงสุดสะพรึงของครอบครัวที่ถูกเก็บซ่อนไว้มาเป็นเวลานาน เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม ดูหนัง

เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไป และ ไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และ เราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และ ชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตาม และ ลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเอง และ เขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่ง และ เข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และ แม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว

รีวิว The Whole Truth ปริศนารูหลอน

รีวิวหนังดัง The Whole Truth ปริศนารูหลอน เล่าเรื่องราวของ 2 พี่น้อง พิม กับ พัท ที่ต้องจำใจไปอยู่กับตา และ ยายของพวกเขาชั่วคราว หลังจากที่แม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และ ได้รับบาดเจ็บอาการโคม่า ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะแม่ไม่เคยเล่าเรื่องตากับยายให้พวกเขาได้รับรู้มาก่อน และ การย้ายเข้าไปพักอยู่ที่บ้านเก่าๆ ของคนชรานั้น ทำให้พวกเขาได้พบกับ “รู” ที่ปรากฏขึ้นอยู่ฝากำแพงบ้าน และ เมื่อมองส่องเข้าไปก็ได้พบกับเรื่องสุดสยอง

ก่อนอื่นต้องยอมรับเลยว่า The Whole Truth มีไอเดีย และ คอนเซ็ปต์ที่ชวนน่าติดตามมากๆ เลยทีเดียว การใช้ปริศนาของรูที่ปรากฏขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจมาเป็นส่วนเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมด เป็นกิมมิกที่ค่อนข้างทำให้ผู้ชมใคร่ที่จะสืบรู้พิสูจน์ให้ชัดว่าเบื้องหลังรูนั้นคืออะไรกันแน่ เพียงแต่ว่าตัวหนังยังคงมีปัญหาขาดแรงจูงใจในการเสริมอรรถรสได้ดีเพียงพอที่จะออกมาได้ดีในทุกองค์ประกอบ

วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ถือว่าเขียนบทหนังของ The Whole Truth ออกมาได้ไม่แย่แต่ก็ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบเสียทีเดียว บทหนังของเรื่องนี้ค่อนข้างมิติซับซ้อนที่วางเอาไว้บนพื้นฐานง่ายๆ ของอารมณ์นึกคิดของตัวละคร ดังนั้นจึงทำให้องค์ประกอบการแสดง และ การถ่ายทอดเรื่องนี้เป็นไฮไลต์เด่นที่จะพาหนังไปสู่ปลายทางที่คาดไว้ จึงไม่แปลกใจที่ได้ทำการแคสติ้งนักแสดงตัวใหญ่ๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจขนาดนี้

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

แต่ลำดับการเล่าเรื่อง และ บรรยากาศของหนังยังคงทำได้ในระดับกลางๆ ที่ยังดูไปสุดมากกว่านี้ได้อีก หนังมีการปูเรื่องราวเอาไว้หลายประเด็นที่น่าสนใจ แต่สุดท้ายก็มัวแต่ยุ่งเหยิงอยู่กับแกนเดียวที่เพียงแค่แกนนี้ก็ถือว่าเกือบจะพาหนังไปไม่รอดเสียแล้ว คอนเซ็ปต์ดีที่ของหนังถูกนำมาถ่ายทอดในแบบที่ค่อนข้างคลีเช่ทั่วไป อยากจะให้ดูระทึก และ หฤหรรษ์ตามไปด้วยแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงใจอีกอยู่ดี

The Whole Truth จึงออกมาเป็นเพียงหนังระทึกที่มีแนวเนื้อเรื่องซ้ำๆ ซากๆ พยายามที่หักเหตรงนั้นตรงนี้ แต่ยังทำได้ไม่ถึงจุดที่จะชวนให้ผู้ชมรู้สึกว้าวกับการคลี่คลายในแต่ละประเด็น เพราะโทนเรื่องที่ไม่ได้ชวนน่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น กับภูมิหลังของครอบครัวที่คนดูน่าจะเดาทางกันได้ตั้งแต่เริ่มต้นว่าตระกูลน่าจะมีความไม่ชอบมาพากล และ ความลับปกปิดเอาไว้อยู่แน่ๆ จึงทำให้การเฉลยปมต่างๆ ยังไม่ได้น่าตื่นเต้นขนาดนั้น

แต่จุดสตรองของหนังก็แน่นอนว่าต้องเป็นทีมนักแสดง “ปันปัน สุทัตตา” กับ “แม็ค ณัฐพัชร์” ถือว่าเป็นตัวยืนเรื่อง ที่บอกตามตรงว่าพวกเขาก็เกือบจะเอาหนังทั้งเรื่องไว้ไม่อยู่เช่นเดียวกัน ต้องมาได้ความเป็นมืออาชีพของรุ่นใหญ่ “ก้อย ทาริกา” กับ “หมู สมภพ” มาช่วยซัพพอร์ต จึงทำให้ทั้งหมดต่างช่วยกันประคองหนังเรื่องนี้ไปตลอดรอดฝั่งได้สำเร็จ แม้ว่าทิศทางการแสดงของพวกเขาจะไม่ได้ชวนตื่นตาอะไรก็ตาม แต่ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของพวกเขา

เอาเป็นว่า The Whole Truth ปริศนารูหลอน เป็นหนังที่พยายามจะฉีกแนวออกมาในมุมมองที่ไม่ค่อยได้เห็นในหมู่หนังไทยสักเท่าไหร่ แต่ความพยายามนี้ถือว่ายังไม่ประสบสำเร็จเปี่ยมเลี่ยม เป็นความครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่ได้แย่แต่ก็ยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร หนังที่สามารถดูได้สนุกเพลินๆ ตามการเล่าเรื่องแบบพยายามชวนให้ระทึก แต่หากว่าใครชอบหนังแนวสืบหาปมปริศนาความจริงก็น่าจะชอบเรื่องนี้พอได้อยู่

ฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก ดูหนังออนไลน์

รีวิว ปริศนารูหลอน The Whole Truth

การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญ และ การหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเค ราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และ เป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี

โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และ ทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิม และ พัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิต และ เพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์ และ การกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัวพอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสยองมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย ดูหนัง

สรุป The Whole Truth ปริศนารูหลอน

รีวิวหนังดัง ความล้มเหลวในด้านการเป็นหนังหักมุม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนังดูไม่สนุกเพราะถึงฉากสยองจะไม่น่ากลัว แต่หากปริศนาตามชื่อเรื่องมันน่าสนใจก็ยังดึงคนดูให้ดูจนจบได้ และ บางทีอาจชอบหนังอยู่ไม่น้อย ทว่าหนังกลับเล่นกับปริศนาได้น่าผิดหวังเช่นกัน

คำว่ารูหลอนที่พยายามเล่นคำกับทฤษฎีรูหนอนก็ถูกเอามาอ้างแบบขอไปทีจนรู้สึกน่าเสียดาย การให้ดูเหตุการณ์เพื่อหลอกความเข้าใจของคนดูต่อความจริงบางอย่างในครอบครัวของตัวละครก็เป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยาก ถึงขนาดว่าครึ่งเรื่องเราก็แทบรู้แล้ว และ มันน่าหงุดหงิดที่หนังตั้งใจทำให้ตัวละครดูคิดไม่ออก เหมือนว่าความลับนั้นยังดำมืดอยู่ทั้งที่ความน่าสนใจความอยากรู้ต่าง ๆ สำหรับคนดูมันเหือดหายไม่เหลือแล้ว

และ เมื่อมาถึงการเฉลยทุกอย่างจนหมดสิ้น มันก็ไม่ได้อัดหมัดหนักใส่คนดูได้อย่างที่คิด การแสดงของคนร้ายตัวจริงในช่วงหลังก็ออกแบบเสียจนกลายเป็นละครโทรทัศน์ขาดความเป็นหนังไปหมดแล้ว และ ว่ากันตามตรงเอาที่ตัวหนังอย่างเดียวไม่นับพวกระหว่างบรรทัดของหนังมันก็แทบไม่ได้เหลืออะไรทิ้งค้างคาไว้ในหัวเราเท่าไรเลย ทั้งที่จริงสาระต่าง ๆ ที่เป็นไอเดียสร้างหนังมานั้นมันดีมากทีเดียว เป็นอีกงานที่น่าเห็นใจนักแสดง และ ทีมงานสร้างที่พยายามแล้วก็คงแก้อะไรกับการเล่าเรื่องที่ไม่สนุก และ ไม่น่าเชื่อถือนี้ได้ ดูหนังออนไลน์

จุดเด่น
– การออกแบบศิลป์ และ การกำกับภาพช่วยให้หนังดูดี การแสดงทำได้น่าจดจำ ไอเดีย และ ข้อความระหว่างบรรทัดของหนังชวนคิด และ น่าตกตะลึง

จุดสังเกต
– ซีจีย่ำแย่ และ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยหลายฉาก การแต่งหน้าผีทำได้แย่ การเล่าเรื่องถือว่าผิดพลาดถ้ามองจุดประสงค์การเป้นหนังซ่อนความลับ และ ความสยองขวัญ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Whole Truth ปริศนารูหลอน

ประเภท: ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
นำแสดงโดย: สุทัตตา อุดมศิลป์, ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์, นิโคล เทริโอ, ทาริกา ธิดาทิพย์, สมภพ เบญจาทิกุล
ความยาว: 125 นาที
กำหนดฉายในไทย: 2 ธันวาคม 2021 (ที่ Netflix)

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

หนังไทยnetflix สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนังไทย เป็นหนังไทยยุคก่อน สมัยเก่า ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับ เมื่อ แพรพลอย (พิมพ์พรรณ ชลายคุปต์) เออีสาวกับ ป้องภพ (วิทยา วสุไกรไพศาล) ผู้กำกับหนังโฆษณาหนุ่มไฟแรง ได้ตัดสินใจแต่งงานกันหลังจากที่แพรตั้งท้องโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตและขยับขยายครอบครัวใหม่ด้วยการย้ายบ้านไปอาศัยอยู่กับแม่ และ น้าสาวของป้องภพแถบชานเมือง

แต่การเริ่มต้นไม่ดีเท่าที่ควรเพราะป้องภพทำแต่งานไม่มีเวลามาสนใจแพรซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ขึ้นทุกที ความกดดันต่าง ๆ จากฝ่ายชายทำให้แพรต้องหันหน้าไปปรึกษา และ หาอะไรทำเพื่อลดความเครียดด้วยการวาดภาพประกอบให้กับหนังสือที่ จีน (กุณฑีรา สัตตบงกช) เพื่อนสนิท ดูแลอยู่

คืนหนึ่่งแพรเห็นบ้านน้าเบญซึ่งปลูกอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านหลังใหญ่ของแม่ป้องภพมีไฟลุกไหม้ จึงเข้าไปดู และ พยายามหาทางช่วยน้าเบญออกมา ในขณะที่แพรเองก็เจ็บท้อง และ กำลังจะคลอดลูกพอดี

หลังจากการคลอดลูกกลับมาไม่นาน น้องปั้น (ลูก) ก็กลับส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง และ น่ากลัว หมอตั้งข้อสงสัยว่าน้องปั้นน่าจะเป็น โรคโคลิค ซึ่งเด็กที่เป็นโรคนี้จะร้องไห้อย่างรุนแรง และ ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันโดยไม่สามารถหาสาเหตุ และ วิธีรักษาได้

แต่โดยปรกติโรคนี้จะหายไปเองเมื่อเด็กอายุ 3 ถึง 6 เดือน แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปน้องปั้นก็ยังไม่หายจากโรคโคลิค ปั้นยังคงร้องไห้อย่างรุนแรงทุกวัน และ ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวและ จีนซึ่งเข้ามาช่วยดูแลน้องปั้นต่างก็พบกับเรื่องราวประหลาด ๆ มากมาย ดูหนังออนไลน์

“ทำไมโรคนี้จึงไม่หายไปจากเด็กคนนี้ ทำไมเรื่องต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่เค้าเริ่มร้องไห้ ” อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง ร่วมพิสูจน์ความจริงที่มาพร้อมความหลอนนี้ได้ใน THE COLIC .. เด็กเห็นผี

 

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

 

รีวิวหนังดัง โคลิค ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากโรคที่มีอยู่จริงของเด็กวัยแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 3-6 เดือน โรคที่รู้จัก และ ทำการศึกษากันมานมนานสำหรับพ่อแม่ และ วงการแพทย์ทั้งไทย และ ต่างประเทศ โรคโคลิค หรือที่เรียกว่าโรคร้อง 100 วัน มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของแต่ละวัน

และ จะร้องไห้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจถึง 2-3 ชั่วโมง ปัจจุบันทางการแพทย์ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคชนิดนี้ เป็นโรคที่ทำความลำบากใจให้กับผู้ที่เป็นพ่อแม่ไปทั่วโลก จนมีการก่อตั้งชมรม สมาคมเพื่อการรักษาบำบัดโรคให้กับบุตรหลานที่เป็นโรค และ สำหรับบำบัดจิตใจให้กับพ่อแม่อีกด้วย

จากประสบการณ์การเผชิญหน้ากับโรคโคลิคของผู้เขียนบท ถูกตั้งคำถาม และ ตีความออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ที่ชวนขนลุก สาเหตุที่ยังเงื่อนงำของโรค ถูกโยงใยเข้ากับครอบครัวสมัยใหม่ในปัจจุบัน ที่ขาดความพร้อมในการใช้ชีวิตคู่ ในขณะเดียวกันก็ถูกรังควานจากสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นอยู่ตลอดเวลา ผู้กำกับ ดูหนังออนไลน์

“ เหลิม ” พัชนนท์ ธรรมจิรา ผู้คลุกคลีอยู่เบื้องหลังภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องในฐานะครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ได้ถ่ายทอดรูปแบบความน่ากลัวออกมาด้วยมุมมองภาพที่น่าสนใจ การจัดเรียงจังหวะ และ ลำดับการเล่าเรื่องที่คนดูได้ร่วมลุ้นระทึก ไปกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้อยู่ตลอดเวลา

ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านภาพยนตร์ของผู้กำกับ จากการเข้าประกวดภาพยนตร์สั้น จนสามารถกวาดรางวัลจากมูลนิธิหนังไทยหลายเรื่อง เช่น รางวัลรองชนะเลิศปี 2541 รางวัลช้างเผือกเรื่อง “ วัด ” และ รางวัลชมเชยปี 2541 รางวัลช้างเผือกเรื่อง “ หมด ” ทำให้ “ เหลิม ” พัชนนท์ ธรรมจิราเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

“ ก่อนหน้ามากำกับภาพยนตร์ ผมได้มีโอกาสคลุกคลีอยู่กับการทำงานเกี่ยวกับเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ อยู่ในส่วนของการโปรโมทภาพยนตร์ไทย รับผิดชอบในการทำโปสเตอร์ ทำตัวอย่างหนัง ทำรายการพิเศษเบื้องหลังภายใต้บริษัทปั่นกัมปะนี จากการที่เราคลุกคลีเกี่ยวกับการโปรโมท ผมก็จะได้เห็นหนังหลากหลายสไตล์ของหลาย ๆ ผู้กำกับหนังไทยหลายแบบ ความคิดในตอนนั้น เวลาเราดูหนังบางเรื่องเรารู้สึกว่าหนังเรื่องนั้นยังขาดตรงนู้นตรงนี้

พอมาถึงวันนี้ได้ทำเอง … สนุกเลยครับ เข้าใจเลยว่าทำไมหนังบางเรื่องถึงทำได้แค่นั้น หนังบางเรื่องเป็นได้แค่นี้ เพราะว่าหนังเป็นอะไรที่ยาก บางทีเราไม่รู้หรอกว่าวันนี้ออกกองไปเราจะเจออะไร ปัญหาจะมีกี่อย่างกี่แบบที่จะต้องให้แก้ งานกำกับหนังเป็นอะไรที่ยาก พอมาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่า ผู้กำกับหนังทุกคนทั่วฟ้าเมืองไทย และ หนังทุกเรื่องที่ผ่านมาเป็นหนังที่ดี…ผมเชื่อว่าทุกคนเก่ง

ที่ผมเริ่มต้นจากการทำหนังแนวนี้ จริง ๆ แล้วโดยส่วนตัวของผมเองคิดว่าหนังแนวไหนก็น่าจะทำได้ มันเป็นเรื่องของโอกาสที่มันมาถึงแล้ว คือ ถ้าเกิดสมมุติว่าเรามัวแต่รอเลือกของที่ถูกใจ ผมว่ามันก็ไม่มีวันนี้ ก็เลยคิดว่าอันไหนก็ได้ที่เป็นโอกาสผมก็ฉวยไว้ให้หมด

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังแนวนี้ มันอาจจะเป็นหนังตลกเป็นหนัง ดราม่าร้องไห้กันเยอะแยะ ผมก็เลือก ผมก็ทำหมดครับ ถือว่ามันเป็นโอกาสที่ดี เพียงแต่ว่าในโอกาสที่ดี เราต้องตั้งใจทำกับมันอย่างจริงจัง ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแนวไหน ขอให้มีโอกาสก็ทำหมดครับ

ความยากของหนังเรื่องนี้มันน่าจะเป็นการกำกับคนดู เป็นเรื่องของจังหวะ ช๊อต จะเร้าอารมณ์คนดูยังไงเมื่อไหร่ จะสร้างคนดูรู้สึกกลัวหรือว่ารู้สึกตกใจในช่วงเวลาเหมาะสมที่เราต้องการ ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ยาก เพราะเราต้องดีไซด์ช๊อตแล้วก็กะไทม์มิ่งของแต่ละช๊อต

เพราะว่าเวลาเราตัดต่อมันจะได้ลงตัว มันเป็นเรื่องของการที่เราต้องทำให้คนดูรู้สึกไปตามนั้น ลักษณะการทำงานของผมก็คือ ถ้าทำหนังตลกก็อยากให้คนหัวเราะ ทำหนังดราม่าก็อยากให้คนร้องไห้ ทำหนังผีก็อยากให้คนรู้สึกกลัว รู้สึกตื่นเต้น ซึ่งมันเป็นรูปแบบของหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว เราอยากให้คนดูกลัวแล้วก็ตื่นเต้นไปกับตัวหนัง สนุกไปกับความน่ากลัวของมัน ความตื่นเต้นของมันเท่านั้นน่าจะพอครับ ” ดูหนัง

นอกจากนี้ โคลิคยังร่วมด้วยการจับมือกันโปรดิวซ์ของสองผู้กำกับใหญ่ เจ้าของหนังที่กวาดรายได้ไปมากกว่า 100 ล้านบาทอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว จากผลงานการกำกับเรื่อง องค์บาก ต้มยำกุ้งช๊อคโกแลต และ บัณฑิต ทองดี จากผลงานการกับเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม เฮี้ยน รวมทั้งโปรเจคท์หนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายเร็ว ๆ นี้ “ มนุษย์เหล็กไหล ”

 

สรุป โคลิค เด็กเห็นผี

รีวิวหนังดัง หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจมากครับ ผมสนใจมาตั้งแต่ตอนที่ได้ยินไอเดียนี้แล้วก่อนที่จะได้บทมา มันเป็นหนังที่มีความพัวพันกับอะไรที่มันมีจริง ๆ เป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ถึงแม้ว่ามันจะมีข้อสันนิฐานหรือวิธีช่วยเหลือก็ตาม คนเขียนบทเค้าก็ดัดแปลงได้น่าสนใจเอาความเชื่อกับวิทยาศาสตร์มาผูกไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ด้วยเนื้อหาของเรื่องมันมีอะไรให้น่าค้นหาอยู่แล้วบวกกับความสามารถของตัวผู้กำกับเอง เป็นคนที่มีมุมมองอะไรใหม่ ๆ จับจังหวะบทได้ดี ทำให้เรื่องดำเนินไปด้วยความตื่นเต้นตลอดเรื่อง ที่เราเลือกเหลิมมากำกับเรื่องนี้ก็เพราะว่า เราเห็นการทำงาน และ ไอเดียที่นำเสนอของเค้ามาโดยตลอด

รีวิว โคลิค เด็กเห็นผี

จนวันนึงเรารู้สึกว่าเหลิมต้องมากำกับหนังบ้างแล้วล่ะ เหลิมเค้าเป็นคนที่มุมมองด้านหนังที่ค่อนข้างจะดี เป็นคนที่จบทางด้านภาพยนตร์มาแล้วก็กำกับหนังสั้นได้รางวัลเยอะมาก แต่ไม่มีโอกาสได้ทำหนังแล้วเค้าก็บอกว่าเค้าอยากทำเค้ามั่นใจว่าเค้าทำได้

หลังจากคุยกันก็รู้ว่าเค้าเป็นคนที่มีไอเดียในเรื่องการทำหนังที่ใช้ได้ที่น่าจับตามอง พอคนเรามันมีความอยากมาก มันเหมือนมีพลังพิเศษบางอย่างถ้าเราให้เค้าทำงานนี้ มันจะเป็นความตั้งใจแบบพิเศษ ๆ แล้วเค้าเป็นคนทันสมัย พอที่จะพลิกนหนังแนวนี้ให้มีอะไรใหม่ให้มีความแตกต่างเพิ่มมากขึ้นได้อีก ” ดูหนัง

นอกจากนี้ โคลิคยังร่วมด้วยการจับมือกันโปรดิวซ์ของสองผู้กำกับใหญ่ เจ้าของหนังที่กวาดรายได้ไปมากกว่า 100 ล้านบาทอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว จากผลงานการกำกับเรื่อง องค์บาก ต้มยำกุ้งช๊อคโกแลต และ บัณฑิต ทองดี จากผลงานการกับเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม เฮี้ยน รวมทั้งโปรเจคท์หนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆ นี้ “ มนุษย์เหล็กไหล ”

กำหนดฉาย 13 กรกฎาคม 2549
แนวภาพยนตร์ หลอน ระทึกขวัญ
สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
บริษัทดำเนินงานสร้าง บาแรมยู
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัชตนประเสริฐ
ควบคุมการสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว,สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์,บัณฑิต ทองดี
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
ฟิล์มแลบส์ สยามพัฒนาฟิล์ม
ผู้กำกับศิลป์ / ออกแบบงานสร้าง ถิรนันท์ จันทคัต
ออกแบบเครื่องแต่งกาย ชาติชาย ไชยยนตร์
นำแสดงโดย “ พิม ” พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์,
“ อั๋น ” วิทยา วสุไกรไพศาล,
“ เมย์ ” กุณฑีรา สัตตบงกช