Tag Archives: รีวิวหนังระทึกขวัญ

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1

หากใครที่ชอบหนังแนวแอ็คชั่น ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ศิลปะการต่อสู้ และ ไม่อยากพลาดหนังดี ๆ ที่ในสมัยนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ผมก็อยากจะส่งต่อหนังคุณภาพอีกเรื่อง ที่เผื่อใครจะยังไม่เคยรับชมได้ไปหารับชมกันนะครับ ส ปอย หนัง บอกตรง ๆ ว่า คนที่รักคนที่ชอบใน ศิลปะการต่อสู้ ห้ามพลาด ทุกประการ! สำหรับ Ip Man เป็นหนังแนวชีวประวัติ กึ่ง แอ็คชั่น ดราม่า ที่ตัวหนังจะกล่าวถึง “ยิปมัน”(ดอนนี่ เยน) ปรมาจารย์หมัดหย่งชุนที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา และ บุตรชายในเมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา กำกับโดย วิลสัน ยิป เขียนบทโดย เอ็ดมอนด์ หว่อง โดยเนื้อเรื่องดัดแปลงจากชีวประวัติของ ยิปมัน เจ้าสำนักศิลปะการต่อสู้ของจีน หมัดหย่งชุน ซึ่งต่อมายิปมันได้เป็นอาจารย์ของบรูช ลี พระเอกนักบู๊ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นเรื่องราวของยิปมันช่วงวัยกลางคน เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับภรรยา และ ลูกของเขาในบ้านหลังใหญ่ ไม่คุยโว ไม่รับลูกศิษย์ แต่ก็มียอดฝีมือมาท้าประลองบ่อย และ ชนะตลอด จนเป็นที่ล่ำลือไปทั่ว ต่อมาเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นได้เข้ามารุกราน และ กดขี่ชาวจีน

หมวดหมู่ : Action Biography Drama
สัญชาติ : Chinese
กำกับโดย : Wilson Yip
ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
นักแสดงนำ : Donnie Yen, Simon Yam, Siu-Wong Fan

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1 ภาพยนตร์ชุด ยิปมัน (Ip Man Film Series) เป็นซีรีส์ภาพยนตร์ ดูยิปมัน กำลังภายในหลายเรื่อง ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากภาพยนตร์ชีวประวัติของ ยิปมัน เรื่อง ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา ภาพยนตร์กำลังภายในของวิลสัน ยิป ที่ออกฉายเมื่อ ค.ศ. 2008 นำแสดงโดย เจิน จื่อตัน (ดอนนี่ เยน), เหริน ต๋าหัว และ ฝาน เส้าหวง

สำหรับ Ip Man ก็เป็นสุดยอดหนังกังฟูอีกเรื่อง ที่ใครชอบหนังจีนสไตล์หมัด ๆ มวย ๆ แล้วก็พลาดไม่ได้เลยจริง ๆ ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกเข้มข้น ฉากต่อสู้สุดมันส์ที่อัดกันแบบฉับไว และ ทีเด็ดการรัวหมัดสไตล์อาจารย์ยิป ก็เดือดปรอทแตกมาก ใครชอบหนังจีน ๆ หมัดมวยสไตล์ดอนนี่ เยน อย่าง Flashpoint, SPL หรือผลงานก่อน ๆ แล้ว เรื่องนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่น่าจดจำที่สุดในการแสดงของเขาเลย

ภาพยนตร์มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวประวัติของ ยิปมัน ปรมาจารย์มวยกังฟูแบบหวิงชุน ที่มีตัวตนอยู่จริง และ ผ่านชีวิตในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองมาแล้ว ซึ่งได้กลายมาเป็นอาจารย์ของบรูซ ลี ที่ต่อมากลายมาเป็นนักแสดงซูเปอร์สตาร์ชื่อดังระดับโลก

เรื่องย่อ

รีวิว ip man 1

ปรมาจารย์กังฟู ยิปมัน ที่แม้จะมีฝีมือกังฟูหย่งชุนระดับเทพ แต่ก็อยากจะใช้ชีวิตธรรมดากับภรรยา และ ลูกน้อยไม่สร้างปัญหากับใคร มีแต่ปัญหาที่เข้ามาหาเขาเองเสมอ ไม่ว่าจะไปการท้าทายจากสำนักต่าง ๆ ไปจนถึงวันหนึ่งที่เกิดสงครามกองทัพญี่ปุ่นบุกจีน

ทำให้เมืองฝอซานที่ยิปมัน และ ครอบครัวอาศัยอยู่จึงเกิดความยากลำบาก แถมนายพลมิฮุระจากญี่ปุ่นก็ยังเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก จึงทำให้มีการจัดการประลองที่ทำให้ยิปมันเองก็เลี่ยงไม่ได้ เขาจึงต้องใช้กังฟูของจีนมาเพื่อแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ว่าวรยุทธของคนจีนนั้นไม่แพ้คนญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ip man 1

จุดที่น่าชื่นชมที่สุดของหนังคงหนีไม่พ้น ยิ ป มัน ทุก ภาค การเลือกแอคชั่นสตาร์อย่าง ดอนนี่ เยน ให้มารับบท ปรมาจารย์กังฟูยิบมัน ที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่า ดอนนี่ เยน เองจะมีหนังกังฟูที่ผ่านมากมาย และ มีโอกาสโชว์ความสามารถมาไม่น้อยในบทเด่น ๆ ทั้งจาก Dragon Tiger Gate, Flashpoint, SPL (และ หนังเก่า ๆ กว่านี้อีกมากมาย) แต่เรื่องนี้ก็ต้องเรียกได้ว่าบท และ คาแรคเตอร์แบบพูดน้อยต่อยหนักนี้ก็ส่งให้พี่แกเฉิดฉายได้จริง ๆ

ทั้งในมุมผู้ชายที่ดูสงบเรียบร้อย เป็นพ่อบ้านที่แสนดี ไปจนถึงการเป็นนักสู้ที่เพิ่มความดุดัน ดุเดือดในทันทีเมื่อขึ้นเวทีต่อสู้ จนเมื่อพูดถึงยิปมันขึ้นมา คนก็มักจะนึกถึง ดอนนี่ เยน มาก่อนเสมอ แม้ว่าหนังจะออกมาในหลากหลายเวอร์ชั่นก็ตาม

ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องได้เข้าใจง่าย สบาย ๆ ไม่เครียด แต่ยังขาดเหตุผลไปอยู่หลายจุด เช่น ฉากที่ยิปมันต้มข้าวต้มให้ภรรยาซึ่งมีอาการป่วย แต่หนังไม่ได้บอกเลยว่า ภรรยาของยิปมันป่วยเพราะสาเหตุอะไร ซึ่งผมคิดว่าถ้าให้สาเหตุการป่วยของภรรยายิปมันได้ จะทำให้อารมณ์ดราม่าของหนังเรื่องนี้มากขึ้น หรือฉากที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งในฝอซานที่หนีจากบ้านไปด้วยความอับอาย แล้วไปเข้าแก๊งอันธพาล

ตัวหนังไม่ได้บอกเลยว่า ไปเ้ข้าแก๊งได้ยังไง บอกแค่ว่าโผล่มาอีกทีก็กลายเป็นอันธพาลไปแล้ว แตุ่ถ้าพูดถึงอารมณ์ดราม่า ยิปมันก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะเช่นกัน แต่เป็นดราม่าที่อยู่ในลักษณะพองาม เพราะทุกฉากที่มีอารมณ์ดราม่าจะมีสาระปะปนอยู่ด้วย

รีวิว ip man 1

รีวิว ip man 1 ด้วยความที่หนังจีนในไทยนั้นหมด ยิ ป มัน พากย์ไทย ความรุ่งเรืองไปแล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ในตอนที่ Ip Man ออกฉายนั้น จึงไม่มีค่ายไหนชายตามอง และ เอาลิขสิทธิมาฉายในไทย มันเลยมีเพียงคนดูในช่วงเริ่มต้นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ที่เมื่อได้ดูก็พบว่า เฮ้ย นี่มันหนังแอคชั่นกังฟูระดับ A List ที่สนุกมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งเลย จากฉากแอคชั่น คิวบู๊ที่ออกแบบมาดี ลื่นไหล เตะต่อยกันชัด ๆ ซัดกันอย่างรวดเร็ว (โดยเฉพาะในฉากรัวหมัดของอาจารย์ยิป) และ การนำมวยหยุ่งชุนมาให้ได้อย่างเต็มที่

จนไม่แปลกใจนักหากใครจะยกให้ Ip Man เป็นหนังกังฟูอีกเรื่องที่มีฉากการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่มันส์ที่สุดในยุค

โดย ip man 1 เป็นหนังเก่าพี่เพิ่งเข้ามาใหม่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา Netflix ขนหนังเก่า ๆ หนังใหม่ ๆ เข้ามาเพียบเลย ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะดูอะไรดีก็เลยหยิบหนังเก่าอย่างเรื่องนี้มาดู ปรากฏว่ามันก็สนุกใช้ได้เลยทีเดียว ก็เลยอยากแนะนำเพื่อน ๆ ให้มาดูกันครับ

บทสรุป

นับเป็นหนังกังฟูอีกเรื่อง ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าตัวหนังจะมีประเด็นชาตินิยม ความรักชาติจนเฟ้อไปนิด (ตามสไตล์หนังจีนอ่าเนอะ) แต่หากพิจารณาถึงองค์ประกอบอื่น ๆ

โดยเฉพาะงานด้านศิลปะการต่อสู้แล้ว นับว่ามีความเฉพาะตัว จนหาได้ยากในหนังกังฟูเรื่องอื่น ๆ เพราะหลังจากที่ภาคแรกสร้างกระแสได้แม้ว่าจะไม่ได้ฉายในโรงของไทยแล้ว ภาคอื่น ๆ ก็ทยอยตามเข้ามากันหมด แทบจะทุกเวอร์ชั่นกันเลยทีเดียว แต่ก็รับรองได้เลยว่าไม่มีเวอร์ชั่นไหนที่มีฉากแอคชั่นมันส์เดือดเท่าฉบับของดอนนี่ เยน อีกแล้ว

สรุปแล้วเป็นหนังมวยจีนที่สุดยอดเลย ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเดาง่ายไปหน่อย แต่มันก็รู้สึกสนุก และ ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้น หนัง 1 ชั่วโมงกับอีก 46 นาทีเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

สำหรับ จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก หนังไทยnetflix นับเป็นภาพยนตร์ภัยพิบัตินิยายวิทยาศาสตร์ ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ส ปอย หนัง เป็นหนังที่กำกับร่วมเขียนบทมากมาย และ อำนวยการสร้างโดยดีนเดฟลิน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ในผลงานการกำกับ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ดาราภาพยนตร์เจอราร์ดบัตเลอร์ ,จิมสเตอร์เจส ,เอ็ดแฮร์ริส ,แอ็บบี้คอร์นิช , Zazie Beetz ,ริชาร์ดชิฟฟ์ ,อเล็กซานมาเรียลาร่า ,โรเบิร์ตชีฮาน ,แดเนียลวู , Eugenio Derbezและแอนดี้การ์เซีย เนื้อเรื่องเป็นไปตามนักออกแบบดาวเทียมที่พยายามช่วยโลกจากพายุขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดดาวเทียมการควบคุมสภาพอากาศ

ชื่อภาพยนตร์: Geostorm จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Dean Devlin
แนว/ประเภท: Action, Sci-Fi, Thriller
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Dean Devlin, Paul Guyot
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Warner Bros., Electric Entertainment, Jerry Bruckheimer Films, Skydance Media
นักแสดงนำ: Abbie Cornish, Jeremy Ray Taylor, Gerard Butler, Jim Sturgess, Talitha Eliana Bateman, Ed Harris, Daniel Wu, Andy Garcia

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นวิทยาศาสตร์ จี โอ สต อ ร์ ม เมฆาถล่มโลก ไม่มี โฆษณา ที่ว่าด้วยเรื่องราวของโลกที่ปัจจุบันถูกควบคุมสภาพอากาศอันเลวร้ายด้วยโครงการ Dutch Boy ที่เป็นการใช้ดาวเทียมควบคุมสภาพอากาศของโลกจากนอกชั้นบรรยากาศโลก ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ดี แต่จนแล้วจนรอดก็เกิดมีการทำงานผิดปกติของ Dutch Boy ขึ้นมา มีคนเสียชีวิตไปมากมายจากการที่ดาวเทียมทำงานผิดพลาดตามจุดต่าง ๆ ทั่วมุมโลก ทางผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องตัดสินใจส่งคนที่เก่งที่สุดกลับไปจัดการเรื่องนี้ ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าจริง ๆ แล้วเครื่องไม่ได้เสียเอง แต่เป็นฝีมือของใครสักคนที่เป็นคนภายใน!

หน้าหนังมีความเป็นหนังหายนะได้ประมาณหนึ่ง ภาพที่เห็นจากตัวอย่าง มันคือ สภาพภูมิอากาศของโลกที่หนักหน่วง หนังกำกับฯ​ โดย Dean Devlin ผู้ที่เคยร่วมกำกับซีรีส์ทางทีวีอย่าง ‘The Librarians’ และ ‘Leverage’ แน่นอน คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักผลงานของเขาอย่างแน่นอน

ตามที่เห็นในตัวอย่างกัน บรรดานักแสดงที่เราคุ้นตาทั้ง เจอราด บัตเลอร์ พ่อขุนพลแห่ง 300 (2006), จิม สเตอร์เจสส์ หนุ่มหล่อชวนฝันในหนังโรแมนติกอย่าง Across the universe (2007) แอบบี้ คอร์นิช สาวออสซี่สุดเซ็กซี่จาก Somersault (2004) แม้กระทั่ง แอนดี้ การ์เซีย ที่น่าจะคุ้นตาจาก Ocean’s Eleven (2001)

ซึ่งเมื่อได้เห็นพวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันใน Geostorm ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้เห็นสัจธรรมบางอย่างเกี่ยวกับอายุขัยความดังของนักแสดงที่แจ้งเกิดหลังยุค 2000 เพราะพวกเขาแทบไม่มีใครทำให้เราจดจำได้เลยจากหนังเรื่องนี้

เพราะหนังเต็มไปด้วยฉากวินาศสันตะโรจนแทบไม่มีพื้นที่ให้ใครแสดงความสามารถด้านการแสดงนัก แต่คนดูกลับจดจำความน่ารักของ ทาลิธา เบตแมน ( Talitha Eliana Bateman) ที่เพิ่งรับบทเด็กสาวผู้กล้าหาญใน Annabelle Creation ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ที่แสดงบทดราม่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง ซาซี บีตซ์ (Zazie Beetz) ในบทเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ผู้ช่วยของแม็กซ์ ที่สามารถปล่อยมุกตลกได้อย่างถูกจังหวะ และ สามารถขโมยซีนนักแสดงดัง ๆ ได้ตลอดเวลา

เรื่องย่อ

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

เมื่อโลกกำลังเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศจนเป็นอันตรายต่ออนาคตมนุษยชาติ และโครงการดัตช์บอยที่ได้รับความร่วมมือจากชาติใหญ่ ๆ ของโลกก็ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อความอยู่รอดของเหล่ามนุษย์โลก โดยมีหัวหอกเป็น เจค (Gerard Butler) ผู้ที่สร้างมันมากับมือ

มันเป็นโครงการใหญ่มาก ใช้ดาวเทียมจากหลาย ๆ ชาติเป็นเครือข่ายเดียวกัน เชื่อมต่อกับสถานีอวกาศ คอยควบคุมสภาวะอากาศโลกจากข้างบน ทำให้มนุษย์รอดพ้นจากอากาศที่รุนแรงได้อยู่หลายปี ทว่าโครงการยักษ์นี้กำลังจะถูกเปลี่ยนมือ

และผู้ที่จะมารับหน้าที่ดูแลคือน้องชายของเขาเอง แมกซ์ (Jim Sturgess) น้องชายที่ไม่เคยจะคุยดีกับพี่ชายได้เลยสักครั้ง ต้องมารับหน้าที่คุมโปรเจกต์นี้ ทิ้งให้พี่ต้องไปหาจ็อบเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำแก้เบื่อ

แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ดูเหมือนจะเกิดความผิดปกติกับสภาพอากาศในอัฟกานิสถาน ทุกอย่างจะต้องถูกตรวจสอบและแก้ไขโดยไว และคนที่จะเข้าใจเครื่องมือและสถานีอวกาศได้ดีที่สุด ก็คือคนที่สร้างมันมา แมกซ์จึงต้องบากหน้ากลับไปเร่งเร้าให้เจคกลับมาช่วยอีกครั้ง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ทั่ว ๆ ไปเลยครับ geostorm พากย์ไทย 4k ทั่วไปมาก เน้นเล่าง่าย มีความอยากใส่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใส่ลงมาล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย แล้วก็จากไปอย่างง่ายดาย หนังมีความยาวน้อยเกินไปหากเทียบกับเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนและวุ่นวายอยู่พอตัว มีความเป็นหนังสืบสวนอยู่กลาย ๆ แต่พอใช้เวลาเล่าไม่พอก็กลายเป็นว่าหนังขมวดปมเฉลยจบเอาดื้อ ๆ หนังขาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้ตัวหนังมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

อย่างแรกคือบทพูดของตัวละครทุกคนนั้นเหมือนหุ่นยนต์คุยกันมาก ขาดธรรมชาติ เหมือนเวลาคุยเรื่องวิทยาศาสตร์กันก็คุยเรื่องสูตรกันเป๊ะ ๆ เลย มันจะขาดการกลั่นกรองให้เป็นภาษาคนก่อนจะนำมาเล่าอยู่หน่อย ซึ่งความไม่ธรรมชาติของบทพูดก็ส่งผลให้การแสดงของนักแสดงค่อนข้างจะย่ำแย่เอาการเหมือนกัน ดูแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าคนบางคู่จะรักกันได้

เพราะสาเหตุหรือการใช้เวลากับความรู้สึกภายในเรื่องนั้นน้อยเกินไป หรือบางทีก็ดูแล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าคนนั้นจะเป็นตัวร้ายได้ เพราะไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรให้เรานึกถึงก่อนหน้าเลย จู่ ๆ พอถึงเวลาก็เฉลยเลย แถมมาเฉลยกันด้วยการที่ตัวร้ายยอมรับสารภาพทุกอย่างอย่างเดียว บางทีมันก็ง่ายเกิ๊น พังการสืบสวนทุกอย่างทิ้งลงอย่างไร้เยื่อใยทีเดียว

แต่เอาจริง ๆ ถ้าใครไม่มีปัญหามากมายด้านเนื้อเรื่อง อยากดูหนังเพลิน ๆ ง่าย ๆ สบาย ๆ เรื่องนี้นี่ถือว่าน่าจะถูกใจท่าน ๆ เพราะความแอ็คชั่น การไล่ล่า ความอลังการของเรื่องในช่วงหนึ่งนั้นทำได้ยิ่งใหญ่ และบ้าพลังดี มีภัยธรรมชาติแทบจะทุกรูปแบบให้ได้ชม พายุ สึนามิ ฟ้าผ่า น้ำแข็งถล่ม ไฟเผาโลก บลา ๆ ๆ

ซึ่งแม้จะเทียบด้านความรู้สึกสูญเสียร่วมกับตัวละครไม่ได้เท่ากับภาพยนตร์อย่าง 2012 (ประมาณว่าในเรื่องนี้เราเห็นคนตายแล้วเราไม่ได้เศร้าไปด้วย) แต่ก็มันส์พะยะค่ะแบบนั่งไม่ติดเก้าอี้เหมือนกัน ใครชอบข้าวของพังเละเทะ ตึกใหญ่พังถล่มทลาย ดาวเทียมระเบิดกระจายเป็นโกโก้ครันช์ โหย ๆ ๆ ถูกใจพวกคุณหลายๆแน่นอน… อาจเสียหน่อยตรงที่หนังกองความชิบหายไปไว้ในแถบๆเดียวกันหมด กลางทางอาจจะชวนหลับหน่อยนะ

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก

รีวิว จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก เอาจริง ๆ หลัง ๆ ผมก็ไม่ค่อยได้ดูหนังภัยพิบัติสักเท่าไหร่ จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก netflix อัตราการสร้างออกมาในช่วงหลังก็เหมือนห่าง ๆ ออกไป การที่ได้ดู ‘เมฆาถล่มโลก’ ก็เลยอาจจะเป็นสิ่งที่ดูแปลกไปจากหนังที่ได้ดูในช่วงนี้อยู่พอประมาณ

มันเป็นหนังที่หยิบเอาเหตุปัจจุบันมาปูเรื่องให้โครงการที่จัดสร้างกันในเวลาถัดมานั้นดูสมเหตุผล เป็นอีกครั้งมนุษย์เล่นบทพระเจ้าด้วยการหาญกล้าขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมสภาพภูมิอากาศโลก แม้เมื่อภูมิภาคไหนกำลังมีพายุใหญ่ ระบบนี้ก็สามารถส่งของไปกำจัดพายุจนหมดสิ้น มนุษยชาติมีของแบบนี้อยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวเกรงธรรมชาติอีกต่อไป

หนังรวบรวมเอาไว้แต่สิ่งที่คนดูส่วนใหญ่จะชื่นชอบ ทั้งฉากมหันตภัยที่ชวนน่าสะพรึง ทั้งคลื่นยักษ์ ทั้งพายุใหญ่ แผ่นดินแยก ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะคุ้นเคยมาบ้างแล้วจากหนังบางเรื่อง

สิ่งที่พอจะทำให้หนังเรื่องนี้ดูแตกต่างไปบ้าง ก็เห็นจะเป็นการที่มนุษย์สามารถสร้างเครื่องมือในการควบคุมธรรมชาติได้ ขณะที่ในอดีต ชาติพันธุ์เราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กจ้อยที่ถูกบดขยี้แทบย่อยยับ ก่อนจะมีกลุ่มคนหรือพระเอกเพียงคนเดียวมาช่วยเหลือปัดเป่าให้พ้นภัยร้ายไป

อีกสิ่งที่มองเห็นเด่นชัดในหนังคือ การใส่เรื่องราวดราม่าของพี่น้อง ครึ่งหนึ่งของหนัง อาจมองว่ามันช่างดูน่าเบื่อ เรื่องของพี่กับน้องที่ความคิดเห็นไม่ลงตัว แต่ก็ต้องมาหาหนทางแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายไปด้วยกัน

หนังมีส่วนผสมของหนังภัยพิบัติ ที่มีเรื่องราวดราม่าระหว่างพี่น้อง มีฉากไล่ล่า ฉากหนีตาย ฉากปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยโลกที่ชวนลุ้น มีฉากของสถานีอวกาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูไซไฟในระยะหลัง ๆ หากแยกมาเป็นส่วน ๆ มันคือหนังที่ดูเพื่อความบันเทิงที่ได้ครบสูตร

บทสรุป

โดยภาพรวมแล้ว Geostorm จีโอสตอร์ม เมฆาถล่มโลก สุ นันทา ภู่ วิเชียร Geostorm จี โอ สต อ ร์ ม เมฆาถล่มโลก จึงเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นวิทยาศาสตร์(บล็อกบัสเตอร์ด้วยอ่ะ) ที่ทำออกมาได้กลาง ๆ เชย ๆ มากด้านการเล่าเรื่อง บทภาพยนตร์ไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เอะอะก็จะยัดเยียดข้อมูลกันมากเกินไป นักแสดงแต่ละคนเลยเล่นเป็นหุ่นยนต์หมดเลย เรื่องเลยไม่ค่อยน่าเชื่อ

แต่ความบ้าพลัง ความระเบิดตูมตาม และงาน CG นี่ทำมาอย่างดี เก็บเนี๊ยบเกือบเต็มร้อย สุดยอด ใครกำลังหาหนังใหญ่ ๆ บทดี ๆ น่าเชื่อถือ เรื่องนี้ไม่ใช่ทางเลยนะ แต่ถ้าใครเน้นเนื้อเรื่องที่ดูง่าย ชอบความยิ่งใหญ่อลังการบ้าพลังของหนัง ชอบข้าวของตึกสูงถล่มพัง ชอบระเบิดตูม ๆ ๆ แนะนำเรื่องนี้เลย!

รีวิว game changer

รีวิว game changer

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนัง หนังไทยnetflix โกงพลิกเกม ที่เป็นหนังแนว ๆ แก๊งเพื่อนติดเกม เป็นหนึ่งในหนังที่ผมดูแล้วผมรู้สึกว่า ส ปอย หนัง อยากรีวิวให้เพื่อน ๆ สำหรับที่ยังไม่เคยได้รับชม อยากจะบอกว่าหนังดีมาก เป็นเรื่องราว ตี๋ คิด ตึก และ ซิม ซิม คิวเท ที่อยู่ดี ๆ ต้องกลายมาเป็นลูกน้องคนสนิทของ ‘บอส’ นายใหญ่ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ประจำเมืองสมมติ ที่ภายในเมืองนั้นมีกลุ่มแก๊งมากมายอาศัยอยู่ โดยแต่ละแก๊ง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ต่างก็ยึดครองและทำธุรกิจมืดแตกต่างกันไป พร้อม ๆ กับการหวังจะแย่งชิงพื้นที่หากิน โดยแก๊งวัยรุ่นทั้ง 4 ต้องออกตระเวน ‘เก็บเหรียญ’ หรือเก็บเงินค่าคุ้มครองจากทุกแก๊ง เมื่อหัวหน้าแก๊งมาเฟียเจ้าถิ่นเสียชีวิตลง ผู้ช่วยทั้งสี่จึงตัดสินใจปิดข่าวและดำเนินกิจการทุกอย่างตามปกติ แต่ในโลกของคนโกง… ถ้าคิดจะเล่นเกมลวงก็ต้องเตรียมใจให้ดี

ประเภท: แอคชั่น / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ: ธิวา เมยไธสง
เข้าฉาย: 28 ตุลาคม 2021
นำแสดงโดย: โต้ง Twopee, อิศรา กิจนิตย์ชีว์, คิมเท ซิม, เน เมียว ธาน

รีวิว game changer

รีวิว game changer

รีวิว game changer โกงพลิกเกม Game Changer เป็นหนังสไตล์แอคชั่นระทึกขวัญ game changer ไทย เต็มเรื่อง ที่โฟกัสเรื่องราวของกลุ่มอันธพาลเพื่องพ้องในเมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและกลุ่มแก๊งครองอิทธิพลไปทั่วเมือง พวกเขาทั้ง 4 คนเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ทำงานให้กับบอส ที่คอยควบคุมแก๊งต่าง ๆ ในพื้นที่ให้อยู่ในความสงบ และทุกแก๊งจะต้องส่งส่วยให้เป็นประจำ แต่เกมเปลี่ยนไปเหมือนกระดานพลิก เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับบอส พวกเขาจึงได้วางแผนเล่นเกมโกงบ้า ๆ กันต่อ โดยที่นำตัวเองเข้าสู่อันตรายที่แทบจะไม่มีทางรอดตายได้เลย

นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ “ทิวา เมยไธสง” (จาก เกมปลุกผี) ที่ช่ำชองกับการถ่ายทอดงานสไตล์ดิบ ๆ เถื่อน ๆ กับประสบการณ์ที่สั่งสมในหนังหลายเรื่อง แต่สำหรับในเรื่องนี่อาจจะเปลี่ยนแนวเล็กน้อย ตรงที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องผีสางวิญญาณที่มองไม่เห็นตามฉบับในหนังหลาย ๆ เรื่องที่เขาเคยสร้าง แต่พลิกมาเล่นกับพฤติกรรมและผลการกระทำของมนุษย์แทน ที่น่าจะค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับในระดับหนึ่งเลย

เรื่องย่อ

รีวิว game changer

เมืองนี้ได้ดำเนินไปโดยมีแก๊งมากมายอยู่รวมกัน Game changer meaning ซึ่งแต่ละแก๊งค์ก็ต่างยึดครองและทำธุรกิจมืดที่ต่างกันไป พร้อมกับความหิวกระหายอำนาจที่อยากจะครอบครองเมือง ซึ่งผู้ที่ทำให้แก๊งต่าง ๆ อยู่รวมด้วยกันได้โดยไม่เกิดสงครามขึ้นก็คือ “บอส” ผู้ซึ่งเป็นนายใหญ่ คอยจัดการเก็บเงินสกปรกจากทุกแก๊งค์เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างแก๊งค์

และที่มากไปกว่านั้นบอสยังดูแลสมดุลระหว่างกฎหมายและพวกนอกกฎหมายอีกด้วย ตี๋, คิด, ตึก และซิม เด็กติดเกมส์ 4 คน ที่วันหนึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคนสนิทของบอส แต่แล้ววันหนึ่งบอสได้เสียชีวิตอย่างกระทันหันในขณะที่ ตี๋ กำลังจะแจ้งข่าวร้ายนี้กับทุกคน แต่ คิด ก็ได้หยุดเขาเอาไว้ และผุดแผนการที่จะเปลี่ยนเกมส์ชีวิตพวกเขาทั้ง 4 คนไปตลอดกาล ทั้ง 4 คนตัดสินใจเก็บเรื่องการตายของบอสไว้เป็นความลับ แสร้งทำเป็นว่าบอสยังมีชีวิตอยู่

พวกเขาดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยใช้ชื่อบอสเรียกเก็บเงินจากแก๊งค์ต่าง ๆ ต่อไป ถ้ามีใครล่วงรู้ความลับที่ว่าบอสตายแล้ว แก๊งค์ต่าง ๆ ก็คงจะมาตามเก็บพวกเขาอย่างแน่ นอน ถึงแม้จะกลัวแค่ไหนแต่พวกเขาก็ยังคงตัดสินใจลงเล่นเกมส์นี้ พวกเขาจะเล่นเกมส์นี้ต่อไปอย่างไร? แผนการยึดเมืองและทำหน้าที่แทนบอสจะลุล่วงหรือไม่?? ติดตามได้ใน Game Changer เร็ว ๆ นี้

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว game changer

หนึ่งในองค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ game changer นักแสดง ที่ต้องชื่นชมเลยก็คงจะเป็นงานการถ่ายภาพ ที่ผู้กำกับก็รับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพด้วยตัวเอง เพราะชิ้นงานที่ออกถือว่าคมคาย โดยเฉพาะการถ่ายทอดภาพและจัดแสงองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แปลกตาและน่าสนใจ สร้างสรรค์มุมมองของเมืองพัทยาในรูปแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นในหนังไทยสักเท่าไหร่ มุมกล้องกับมุมภาพต่าง ๆ จึงทำออกมาได้น่าประทับใจเลยทีเดียว

แต่นั้นก็น่าจะเป็นเพียงองค์ประกอบหลัก ๆ อย่างเดียวที่เป็นข้อดีของหนังเรื่องนี้ เพราะ โกงพลิกเกม Game Changer ยังเต็มไปด้วยข้อบกพร่องอยู่ในหนังเต็มไปหมด เริ่มต้นที่ปัญหาหลัก ๆ คือบทหนัง ที่ยังเต็มไปด้วยรูรั่วที่ไม่มีความสมเหตุสมผลอยู่มาก ไม่สามารถขับเคลื่อนตัวละครและสร้างมิติให้คาแรกเตอร์ต่าง ๆ ได้ดีเท่าที่ควร แม้ประเด็นจะค่อนข้างดี แต่ยังล้มเหลวในการนำเสนออยู่ในบางจุด

หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจก็คืองานด้านภาพครับ ทั้ง กราฟิกซีจีต่าง ๆ รวมถึงการออกแบบภาพ มุมกล้อง การวางองค์ประกอบภาพ การครีเอตภาพแนวทางใหม่ ๆ ที่บ้าพลังและทำออกมาได้ดี รวมถึงฉากลองเทกที่ดูแปลกใหม่ อาจจะเพราะว่าผู้กำกับเองก็มีเครดิตในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับงานด้านภาพของภาพยนตร์ไทยมาแล้วหลายเรื่อง หนังเรื่องนี้จึงถือว่าเป็นการปล่อยของที่หวือหวาน่าสนใจดีไม่ใช่น้อย

คงต้องบอกว่า โกงพลิกเกม Game Changer มีวัตถุดิบที่ดีมาก ๆ อยู่ในมือ สามารถปลุกปั้นสร้างให้เป็นหนังแก๊งสเตอร์ดิบ ๆ เถื่อน ๆ หักเหลี่ยมเฉือนคมสนุก ๆ แบบหนังของผู้กำกับ ‘กาย ริชชี่’ ทางฝั่งฮอลลิวูดได้เลย แต่หนังก็ยังไม่มีพลังขับเคลื่อนไปถึงระดับนั้น กลายเป็นหนังที่มาแค่เพียงโจทย์ความท้าทายแบบทื่อ ๆ ง่าย ๆ แบบสูตรสำเร็จที่ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่

เห็นได้ชัดว่าหนังพยายามสร้างมิติให้ตัวละครและคาแรกเตอร์ต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังประสบความล้มเหลวเช่นกัน โกงพลิกเกม เป็นหนังที่มีตัวละครค่อนข้างเยอะมาก พยายามครอบคลุมทุกตัวละคร แต่ด้วยเวลาที่จำกัดทำให้ไม่สามารถพาคนดูไปสำรวจทุกตัวละครได้ ส่วนตัวละครหลักทั้ง 4 ที่น่าจะเน้นโฟกัสเป็นหลัก ก็ถูกละเลยในการสร้างมิติให้กับพวกเขาไปอย่างน่าเสียดาย

รีวิว game changer

รีวิว game changer โกงพลิกเกม’ คือผลงานเรื่องใหม่กับค่ายห้าดาว game changer หนังไทย ‘ไฟว์สตาร์ โปรดักชัน’ ของผู้กำกับที่เราอาจไม่คุ้นชื่ออย่าง ‘ทิวา เมยไธสง’ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการแต่อย่างใด เพราะประสบการณ์การทำงานด้านการเป็นตากล้องภาพยนตร์ ตัดต่อ รวมทั้งยังเขาเองก็ยังเคยเป็นผู้กำกับหนังคุ้นชื่อ โดยเฉพาะแนวสยองขวัญมากมายหลายเรื่องด้วยกัน เช่น ‘ผีช่องแอร์‘ (2005) ‘เชือดก่อนชิม‘ (2009) ‘วงจรปิด‘ (มรดกผี) (2012) ‘เกมปลุกผี‘ (2014) จะมีก็เพียงแต่ ‘รักเอาอยู่‘ (2012) ที่แหวกแนวเป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ และผลงานใหม่ล่าสุดอย่าง ‘โกงพลิกเกม’ เรื่องนี้นี่แหละครับ

จนกระทั่งวันหนึ่ง บอสเกิดเสียชีวิตกะทันหัน คิด หัวสมองของแก๊งจึงได้เริ่มต้นคิดวางแผนยึดเมือง และใช้ ‘เกม’ ในการเปลี่ยนแปลงระบบที่เคยเป็นมาแต่เดิม พร้อมกับสวมรอยทำหน้าที่แทนบอสเสียเอง พร้อม ๆ กับการที่ตี๋กำลังจะมี ‘รักต้องห้าม’ ซึ่งอาจนำพาเขาและเพื่อนไปเผชิญกับอันตรายมากมาย รวมถึงการกลับมาของ ‘จอห์นนี่’ (เดย์ ไทเทเนียม) ขาใหญ่อีกคนที่ต้องการกลับมาประกาศศักดาอีกครั้งหลังจากพ้นคุก

แค่อ่านพล็อตก็พอเดาออกแล้วใช่มั้ยครับว่าจริง ๆ แล้ว นี่คือพล็อตหนังเจ้าพ่อ หรือที่เรียกว่าหนังแก๊งสเตอร์นั่นเองครับ เรียกได้ว่ามีกลิ่นอายหนังเจ้าพ่อฮ่องกงยุค 80’s อะไรแบบนั้นเลย โดยเฉพาะพอยต์หลักของหนังแก๊งสเตอร์ที่พระเอกต้องหลุดเข้าไปอยู่ในอิทธิพลมืด มีความรักต้องห้ามกับหญิงสาวที่อยู่เหนือกว่าตน และการแย่งชิงอำนาจ แย่งชิงทรัพยากรทำมาหากิน แต่จะบอกว่าหนังเรื่องนี้เอาพล็อตหนังเจ้าพ่อมาใช้เลยก็ไม่ขนาดนั้น ด้วยการปรุงแต่งบทและวิธีการนำเสนอ ทำให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นแก๊งสเตอร์ยุคใหม่ ภายใต้บทหนังเจ้าพ่อแบบดั้งเดิม

บทสรุป

โดยในภาพรวมแล้ว Game Changer Netflix โกงพลิกเกม Game Changer ก็จัดได้ว่าเป็นหนังไทยที่น่าเสียดายที่ยังถูกนำเสนอออกมาได้ไม่ค่อยเต็มที่เท่าที่ควรนัก แม้จะมีโครงเรื่องและประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย แต่หนังขาดความน่าสนใจในการเล่าเรื่องและนำเสนอ การร้อยเรียงเรื่องของหนังยังน่าเบื่อและสะเปะสะปะอยู่ไม่น้อย จึงทำให้คนดูยังไม่รู้สึกคล้อยตามไปกับท้องเรื่องและสถานการณ์เท่าที่ควร

แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังก็พยายามมอบประสบการณ์ความดิบเถื่อนและโหดเหี้ยมในแบบที่หนังสไตล์นี้ควรจะมี หนังได้หยิบใส่เข้ามาได้ดีอยู่ แม้ว่าจะยังใส่เพิ่มเข้ามาได้มากกว่านี้ก็ตาม ดังนั้นบทหนังจึงยังเป็นปัญหาหลักในการขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถึงแม้จะชวนให้นึกถึงหนังไทยยุค 90 แนว ๆ นี้อยู่บ้าง แต่กลายเป็นว่า โกงพลิกเกม Game Changer ก็ยังไม่ใช่หนังที่น่าจดจำสักเท่าไหร่

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

นี่คือหนังผี อีกหนึ่งเรื่อง ของไทย ที่ผม หนังไทยnetflix เคยดูมาเมื่อหลายปีก่อน เรียกได้ว่า ผ่านมานาน มาก ๆ แล้วกับภาพยนตร์ ส ปอย หนัง สำหรับเรื่องราวของเด็กมัธยม ประจำห้อง มอ 6/5 เด็กเกรียนที่ตามล่าท้าผีในโรงเรียนตัวเอง ความตกใจ ความระแวงมีในหนังตลอด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี เป็นหนังสยองขวัญ ที่ทั้งได้อรรถรส ในโรงเรียนกลิ่นอายของวัยรุ่น ที่ชอบลองของ ที่หลายคนไม่ควรพลาด และ ยังคงเป็นโมเมนต์ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ที่แฝงข้อคิดเรื่องราวในโรงเรียนได้ดีอีกเรื่อง

หนัง : มอ6/5 ปากหมา ท้าผี
ประเภทหนัง : Comedy, Thriller
ผู้กำกับ : พจน์ อานนท์
วันที่เข้าฉาย : 3 ตุลาคม 2556
นักแสดงนำ : นิก ( คุณาธิป ปิ่นประดับ ), เจมส์ ( ภูวดล เวชวงศา ), บิว ( กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย ), เทป ( วรชัย ศิริคงสุวรรณ ), ออย ( ฤทธิชัย ตะสาริกา ), ไบรอัน ( ไบรอัน การ์ตั้น ), เบ็นซ์ ( ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์ ), เน็ท ( สิรภพ มานิธิคุณ )

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว 6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี หนังเรื่องนี้ เป็นหนังผีสไตล์วัยรุ่น ม.6/5 ปาก กล้า ท้า ผี นักแสดง ที่ชอบการลองของ และ ตอบโจทย์ผู้ชมส่วนใหญ่ที่มักเรียนอยู่ในโรงเรียนซึ่งแต่ละโรงเรียนก็มีประวัติ โดยกลุ่มนักเรียนในหนังก็เปรียบเสมือน ตัวแทนของทุกคนในการอาสาเข้าไปล่าท้าผีแบบปากหมาในโรงเรียนตัวเอง จนทำให้พบกับผีนักเรียนชายที่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ออกมาแบบฮาหลายรอบ จนทำเอากรี๊ดแต่ก็สนุกลุ้นทุกครั้งที่แต่ละคนไปหลบตามห้องต่าง ๆ

พวกเขาไปตามล่าผี บันได ห้องน้ำ หรือ ห้องเรียน แต่ผีนักเรียนก็มีมิติ หากดูก็จะรู้ และ เกิดอาการไบโพลาร์ไปเลยว่าควรจะกลัว หรือ ฮาดี ซึ่งนอกจากนี้ ก็ยังมีผีครูอีก 3 คนที่จะมาทั้งดี และ ร้ายซึ่งผีเหล่านี้ เคยมีอดีตร่วมกันมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ ฆาตกรรมในอดีตที่โรงเรียน โดยรวมแล้ว มอ 6/5 ปากหมา ท้าผี เป็นหนังที่ไม่เน้นสยองขวัญ ตลกบ้าง เฮฮาบ้าง ตามสไตล์กลุ่มเด็กเกรียนกับผี สนุกบ้าง ฮาบ้าง คลายเครียด ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีภาคต่อในเวลาต่อมา

เรื่องย่อ

รีวิว 6/5 ปากหมาท้าผี

เรื่องราวของแก๊งนักเรียนประจำห้อง ม.6/5 ที่นิยมชมชอบการลองของ และ การล่าท้าผีตามบ้านร้าง เป้าหมายล่าสุดของพวกเขาคือ “ตึกแดง” ที่มีตำนานร่ำลือว่ามีเด็กนักเรียนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทำให้ตึกถูกปิดร้าง ด้วยความปากดีของพวกเขาที่ท้าทายสิ่งลี้ลับอย่างลองดี ทำให้ได้เจอเข้ากับเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาจำไม่ลืมกับการ “ปากหมา ท้าผี”

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว 6/5 ปากหมาท้าผี

สำหรับผมนั้น ม.6/5 ปากหมาท้าผีนั้น เป็นหนังอีกเรื่องที่ก็พอ ม.6/5 ปาก กล้า ท้า ผีสึนามิ 037 ดูค่าเวลา เล่นได้ครับ แต่เดี๋ยวก่อนนะ อย่าพึ่งเข้าใจผิดไป ผมไม่ได้บอกว่าหนังไม่ดี แต่หนังเองก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนังผีที่หาความสมเหตุสมผลใด ๆ ไม่ได้เลย บทมั่วมากอยากเล่าอะไรก็เล่า นึกอยากตัดฉับไปฉากอดีตก็ตัดเฉยเลยไม่สนความมีเหตุมีผล และ ความต่อเนื่องอะไรทั้งนั้น

ส่วนตอนจบสุดท้ายนั้นก็ช่างขัดอกขัดใจยิ่งนักบทจะให้ผีร้ายใจอ่อนขึ้นมาก็เล่นกันแบบง่าย ๆ จนผมสับสนไปหมดแล้วว่าที่ผ่านมาจะหลอนหลอกไปเพื่ออะไร?!กับการแสดงนั้นคงไม่มีอะไรให้พูดถึงเมื่อนักแสดงหนุ่ม ๆ ทุกคนเล่นกันแข็งได้เป็นธรรมชาติกันซะยกชุดขนาดนั้น มีดีหน่อยก็ตรงที่ขายความหล่อ และ น่ารักเท่านั้นเอง ก็ขนาดนักแสดงเก๋าเกมอย่างเมย์ และ หญิงก็ยังแสดงออกมาดูเว่อร์ ๆ เหมือนละครหลังข่าวได้เลยก็คิดดูเอาเองละกัน!!

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี

รีวิว มอ6/5 ปากหมาท้าผี เป็นภาพยนตร์ไทย 3 มิติ ม.6/5 ปาก กล้า ท้า ผีสึนามิ ดูได้ที่ไหน แนวสยองขวัญ-คอมเมดี้ สร้างโดย พระนครฟิล์ม ออกฉายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ผลงานกำกับของพชร์ อภิรุจ นำแสดงโดย คุณาธิป ปิ่นประดับ , วิทวัส ท้าวคำลือ , ภูวดล เวชวงศา , กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย , วรชัย ศิริคงสุวรรณ , ฤทธิชัย ตะสาริกา , ไบรอัน การ์ตั้น , ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์ , สิรภพ มานาธิคุณ (หนังชุดหอแต๋วแตก, ตายโหง และ ศพเด็ก 2002) มาครับ

ซึ่งกับเรื่องนี้ นั้นหนังก็มาพร้อมกับหนุ่ม ๆ หน้าตาดีเหมือนเคยคือ นิก คุณาธิป ปิ่นผระดับ, เจมส์ ภูวดล เวชวงศา, บิว กิตติพัฒน์ สมานตระกูลชัย, เทป วรชัย ศิริคงสุวรรณ, ออย ฤทธิชัย ตะสาริกา, ไบรอัน การ์ตั้น, เบ็นซ์ ศุภกิจ อมรฐิติพงศ์, เน็ท สิรภพ มานิธิคุณ, ปิติพน พรตรีสัตย์ ร่วมด้วยนักแสดงมืออาชีพอย่าง เมย์ ภัทรวรินทร์ ทิมกุล และ หญิง ฌัชฌา รุจินานนท์

บทสรุป

หนังว่าด้วยเรื่องราวของแก๊งนักเรียน ประจำห้อง ม.6/5 ที่นิยมชมชอบการลองของ ม. 6 5 1 และ การล่าท้าผีตามบ้านร้าง เป้าหมายล่าสุด ของพวกเขาคือ “ตึกแดง” ที่มีตำนานร่ำลือว่ามีเด็กนักเรียนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ทำให้ตึกถูกปิดร้าง รวมไปถึงวิญญาณของครูสุดเฮี้ยน ด้วยความปากดีของพวกเขา ที่ท้าทาย สิ่งลี้ลับอย่างลองดี ทำให้ได้เจอเข้ากับเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาจำไม่ลืมกับการ “ปากหมา ท้าผี”

โดยรวมหนังทำออกมาดีมาก เพราะเป็นหนังทรีดี แต่ที่วันนี้ ไปดูไม่ได้ดูทรีดี ถ้าพลาดแล้วจะเสียดาย คือรู้สึกคุ้มนะ ถึงจะมาดูเพราะอยากดูอะไรระทึกตึกตึกโป๊ะก็เหอะ เอาเป็นว่าให้ 6/10

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก

หากพูดถึงหนังไทยเชื่อว่า สิ่งที่หลาย ๆ หนังไทยnetflix คนนึกถึงคงจะไม่พ้น ความฮา ความตลก ความเบียว อะไรก็ว่ากันไป ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็ใช่นั้นแหละครับ 555 ภาพยนตร์เรื่อง ส ปอย หนัง ‘ผ้าผีบอก’ ถือเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ของ ค่าย ‘ไอแอมฟิล์ม’ (iAM Films) ภายใต้สังกัด ‘iAM’ (Independent Artist Management) หรือบริษัทผู้ดูแลวงไอดอล ‘BNK48’ ที่ปีที่แล้วประสบความสำเร็จ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี จาก ‘Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า’ (2562) ที่คว้า 6 รางวัลสุพรรณหงส์มาได้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ รวมทั้ง ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ (2564) สารคดีแนว Candid เรื่องแรกของ ‘CGM48’ เข้า Netflix แล้วตอนนี้ เป็นหนังที่มีความยาว 1 ชั่วโมง 35 นาที เป็นหนังผีคอเมดี้จากประเทศไทย ผลงานผู้กำกับคุณชูเกียรติ ขึ้นหนึ่งใน top 10 ที่คนสูงมากจนขึ้นเป็นอันดับสองบนช่อง Netflix แล้ว

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์
ความยาว: 96 นาที
นำแสดงโดย: วีรยา จาง, มิลิน ดอกเทียน, วนรัตน์ รัศมีรัตน์
กำหนดฉายในไทย: 23 มิถุนายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก ผ้าผีบอก นับเป็นหนังไทย ผ้าผีบอก netflix แฟนเซอร์วิส ลำดับต้น ๆ ของปีนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะนี่คือการนำเอาสาว ๆ ไอดอล BNK48 โคจรมาเจอกับหนุ่ม ๆ คู่จิ้นสุดฮอตที่เป็นขวัญใจสาวทั้งประเทศ จึงทำให้เกิดการผนึกกำลังกันระหว่างทั้งสองด้อม ออกมาเป็น “ผ้าผีบอก” หนังที่ฉาบหน้าเอาไว้ว่าเป็นเรื่องราวของผีสาง แต่เนื้อในนั้นแท้จริงแล้วเต็มไปด้วยความโบ๊ะบ๊ะ ที่มีทั้งกินได้บ้าง..ไม่ได้บ้างปะปนกันไป

ด้วยความที่ iAM Films เริ่มรุกงานหนัง เรื่องแรกก็จัดเต็มขนเมมเบอร์ BNK48 มาทีเดียว 5 คน จัดนักแสดงชายมาเสริมทัพสร้างสีสัน มีมะเดี่ยวมาเป็นโปรดิวเซอร์ดูแลการผลิต ส่งไม้ให้ ณัฐพงษ์ อรุณเนตร รับหน้าที่กำกับ หลายคนก็อาจสงสัยว่าเขาเคยมีผลงานอะไรออกมาก่อนหน้าบ้าง ก็จะบอกว่า เขาเคยเป็นผู้กำกับร่วมในซีรีส์ ‘ทริอาช’ ก่อนหน้านั้น ก็คือเคยผลงานการแสดงในหนังอย่าง ’13 เกมสยอง’ , ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ และ ‘หลุดสี่หลุด’ หนังเรื่องนี้คงจะเป็นงานแรกๆ ที่เขาได้บินเดี่ยวอย่างจริงๆ จังๆ สักที

เรื่องย่อ

รีวิว ผ้าผีบอก

ผ้าผีบอก เป็นเรื่องราวของ อชิ หนุ่มโอตาคุผี ที่มองหาคอนเทนท์ไปทำแชนแนลยูทูบของตัวเองกับเพื่อน ๆ และนั่นก็นำพาให้เขามาพบกับ วิญญาณของอัญญานางหอมนวล ผีสาวโบราณเมื่อพันปีก่อน จากเวียงไชยเชษฐ์บุรี ที่นางได้ร้องขอให้เขาช่วยสืบหาว่าใครเป็นคนที่ลงมือฆ่านาง และการตามหาเบาะแสครั้งนี้

ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับผีสาวอีกหลายตน ไม่ว่าจะเป็น สาระปี, สะบันงา และ เก็ดถะหวา ที่พวกนางเคยชิงชัยแข่งทอผ้า เพื่อหมายจะมัดใจ เจ้าหลวงรังสิมันต์ เมื่อครั้งปางก่อน และการเข้าใกล้ความจริงของพวกเขาก็เต็มไปด้วยอุปสรรคที่ท้าทาย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ผ้าผีบอก

จริง ๆ แล้วตัวพล็อตเองมีความน่าสนใจล่ะนะครับ ผ้าผีบอกฉายวันไหน เพราะถือว่าเป็นส่วนผสมที่แปลกใหม่ดีสำหรับหนังไทยเลยแหละ โดยเฉพาะส่วนผสมของ “คอมมีดี้-สยองขวัญ-พีเรียด-ภาคเหนือ-ภาคอีสาน” แถมยังจับเรื่องตำนานพื้นบ้าน ผสมกับแนวทางของละครแนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่ดูโบราณ

แต่บอกไม่ได้ว่าอยู่ในยุคสมัยไหน เป็นเพียงโลเคชันสมมติที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ (เฉย ๆ ว่าเป็นล้านนา) แอบแซวนิยายพีเรียดผ้าผลงานของ ‘พงศกร’ และก็มีแนวทางของหนังสไตล์ Whodunit แถมยังบวกไซไฟนิด ๆ โรแมนติกหน่อย ๆ ด้วย

นั่นแหละครับ เริ่มได้กลิ่นแล้วใช่ไหมครับว่าตัวหนังจะออกมาเป็นอย่างไร ใช่ครับ มันออกมากาวมาก การ์ตูนโคตร ๆ แม้ตัวหนังในช่วงเริ่มแรกพยายามจะปูเรื่องให้เรารู้สึกน่ากลัว รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมของคนที่ฆ่าหอมนวล แต่หลังจากนั้นตลอดทั้งความยาวหนัง 100 นาที มันก็กลายเป็นความกาว เหมือนกำลังดูอนิเมะอะไรแบบนั้นเลยครับ คือถ้าใครที่จะดูเอาความสยอง ดูความ Whodunit อยากเป็นนักสืบปัวโรต์ ไรงี้ ขอให้ล้มเลิกความคิดนั้นซะเลยนะครับ

รีวิว ผ้าผีบอก

รีวิว ผ้าผีบอก มาถึงปีนี้ นโยบายการสร้างหนังของ iAM Films ก็ยังคงน่าสนใจครับ ผ้าผีบอก hd อย่างที่เห็นว่า ค่ายเองก็พยายามจะหาส่วนผสมใหม่ ๆ ให้กับภาพยนตร์ แม้ว่าจะดูโยนหินถามทางไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นการเสิร์ฟอะไรใหม่ ๆ ให้แฟนคลับและคนดูหนังอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ส่วนผสมแบบหนังอินดี้ (Where We Belong) การใส่ความเป็นอีสานบ้านเฮาใน ‘ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้’ (2563) หรือการใส่ส่วนผสมแนวแคนดิดใน ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ (2564)

ในภาพยนตร์ล่าสุดอย่าง ‘ผ้าผีบอก’ เรื่องนี้ก็เช่นกัน คราวนี้ถือว่าเป็นส่วนผสมที่แม้จะยังไม่ได้ถึงกับกระชากฟีลจากไทบ้านมากนัก เพราะตัวหนังก็ยังหยิบเอาวัฒนธรรมภาคเหนือ-อีสานมาปรับใช้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ส่วนผสมสูตรนี้ มาจากโปรดิวเซอร์อย่าง ‘มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ และได้ ‘อั้ม-ณัฐพงษ์ อรุณเนตร์’ นักแสดงจากภาพยนตร์ของพี่มะเดี่ยว ทั้ง ’13 เกมสยอง’ (2549), ‘ฝัน หวาน อาย จูบ’ (2551) และ ‘หลุดสี่หลุด’ (2554) และเคยผ่านงานมิวสิกวิดีโอของทั้ง BNK48 และ CGM48 มานั่งแท่นผู้กำกับครั้งแรก

ในแง่ของการแสดง ในหลาย ๆ เรื่องที่มี BNK48 เรามักจะเห็นปัญหาของการเฉลี่ยบทบาทของเมมเบอร์ที่จะหนักเฉพาะเมมเบอร์บางคน หรือการที่เมมเบอร์รับบทบาทในหนังบางเรื่องได้ไม่เข้าปากเข้าบท แต่กับหนังเรื่องนี้ ต้องชื่นชมว่าสามารถแก้เกมตรงจุดนี้ได้ค่อนข้างดีนะครับ อาจจะเพราะว่าจำนวนเมมเบอร์+หยิ่นวอร์+ทีมแก๊งรายการผีนั้นถือว่ากำลังดี ไม่เยอะเกิน สามารถเฉลี่ยแอร์ไทม์ได้ค่อนข้างดีเลย

บทสรุป

ผ้าผีบอก นี่คือหนังคัลต์ ผ้าผีบอก เรื่องย่อ หรือจะเรียกมันว่าเป็น ‘หอแต๋วแตก’ เวอร์ชัน BNK48 ก็ได้ เพราะมันอุดมไปด้วยความวาไรตี้ครบรส ที่ใช้ความเบียวขั้นสุด ความกาว ล่อฮากันแบบไม่ต้องเกรงใจใคร ในขณะเดียวกัน มันก็ยังเกาะเกี่ยวความสยองขวัญ ตำนานผี และความบันเทิงแบบจักร ๆ วงศ์ ๆ มาสับ ๆ คลุกเคล้าจนกลายเป็นหนังผีตลกที่เหมาะกับการถอดสมองระหว่างดู เหมือนกำลังนั่งกินหมกกบอยู่หน้าฮ่านอย่างไรก็อย่างนั้นเลยครับ

เอาเป็นว่าโดยสรุปแล้ว ผ้าผีบอก เป็นหนังผีตลกที่พอดูได้เพลิน ๆ ไม่ต้องถามหาสาระใด ๆ จากหนังเรื่องนี้ หนังอาจจะสร้างมาเพื่อแฟนเซอร์วิสได้ดี แต่ภาพรวมนั้นก็ยังถือว่าเป็นหนังตลกที่ยังพอดูได้ในการทำหน้าที่สร้างความบันเทิงได้ตามโจทย์

แม้หนังจะเต็มไปด้วยจุดบกพร่องมากมาย การเล่าเรื่องที่ยังไม่กลมกล่อมและน่าขัดใจไปสักหน่อย แต่กระนั้นหนังก็ได้ฉายแสงให้เห็นเพชรเม็ดงามทางการแสดงให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจ เป็นหนังที่ไม่คาดหวัง…คุณก็จะไม่ผิดหวังแต่อย่างใด

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

หลาย ๆ คนที่ได้เห็น trailer หรือ ชื่อเรื่อง ต่างก็รู้สึกเหมือนผมกันใช่มั้ย หนังไทยnetflix คือ รู้สึกว่าหนังมันต้องสนุกแน่ ๆ 55 ซึ่งจะสนุกหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส ปอย หนัง ซึ่งผมเชื่อว่าคนดูหนังไทยหลายคนอาจมีความคาดหวังในภาพยนตร์ไทย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี แนวสยองขวัญเรื่องล่าสุดอย่าง Ghost Lab: ฉีกกฎทดลองผี ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ไม่ใช่แค่เป็นผลงานจากค่าย GDH x Netflix เท่านั้น หากแต่เป็นผลงานการกำกับของ กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ที่เคยประสบความสำเร็จจากการกำกับภาพยนตร์แนวเดียวกันมามากมาย

“คุณเชื่อในโลกหลังความตายไหม” หลังจากเห็น “ผี” ตัวเป็น ๆ ด้วยกันครั้งแรก กล้า และ วี แพทย์หนุ่มคู่หูตัดสินใจร่วมกันทำการทดลองเพื่อหาทางพิสูจน์ว่า “โลกหลังความตาย” มีจริง และ ในการค้นหาทฤษฎีควบคุมการปรากฏตัวของผี พวกเขาต้องออกตามล่าวิญญาณมาเป็น “ผู้ร่วมทดลอง” ด้วยความเชื่อมั่นว่า พวกเขาจะเป็นบุคคลกลุ่มแรกของโลกที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ได้ว่า “ผีมีจริง” โดยหารู้ไม่ว่าคำตอบที่ตามหานั้น มาพร้อมกับหายนะที่ไม่คาดคิด

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี โกสต์แล็บ..ฉีกกฎทดลองผี (อังกฤษ: GHOST LAB) เป็นเว็บภาพยนตร์ไทย GHOST LAB แนวสยองขวัญเชิงวิทยาศาสตร์ กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา ผลิตโดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า และ จอกว้าง ฟิล์ม ภายใต้การควบคุมการผลิตโดย เน็ตฟลิกซ์ นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร พาริส อินทรโกมาลย์สุต ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ มีกำหนดเผยแพร่อย่างเป็นทางการบนเน็ตฟลิกซ์ทั่วโลก ในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่สองที่ได้ฉายบนเน็ตฟลิกซ์ในฐานะภาพยนตร์ต้นฉบับของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix Original Movies) ต่อจาก บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต: วันเทก และ ยังถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ถ่ายทำด้วยเทคโนโลยี HDR ตามมาตรฐานของเน็ตฟลิกซ์ และ ดอลบี วิชั่นตลอดทั้งเรื่อง

การดำเนินเรื่อง

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

เป็นเรื่องหมอหนุ่มสองคน วี (ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร) และ กล้า (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ที่หมกมุ่นกับการทำวิจัย และ หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ว่าผีมีจริง (ย้ำ… ตัวเอกเป็นหมอ และ พยายามหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ว่าผีมีจริง)

ซึ่งพล็อตมันทำให้เรานึกถึงหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง Flatliners (2017) ที่เล่าเรื่องกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่ทำให้หัวใจตัวเองหยุดเต้นชั่วขณะเพื่อทำการทดลอง และ หาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย แต่เราไม่ได้ดูเรื่องนั้น เลยยังพูดถึงไม่ได้มาก แปะไว้ก่อน

เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องตัวเอกเป็นหมอหรือเป็นเด็กสายวิทย์แล้วมาหมกมุ่นเรื่องผี แต่เราคิดว่า สิ่งที่ตัวเอกใน Ghost Lab ทำเพื่อการวิจัยในหนังมันยังไม่ค่อยวิทย์มากพอ ไม่แน่ใจว่าคนเขียนบทมีสายวิทย์บ้างมั้ยหรือได้ปรึกษาคนสายวิทย์มามากน้อยแค่ไหนน แต่เท่าที่ดูจากหนัง หนังมันเหมือนเอาคนสายศิลป์มาทำแล็บ เหมือนเอาเด็กศิลป์มาเขียนบทหนังให้มีความวิทย์ ๆ แล้วมันแตะได้แค่วิทย์ระดับประถม-ม.ต้น เช่น การตั้งสมมติฐาน การหาตัวแปร หรือกระทั่งพยายามจัดไฟลัมให้กับผี ฯลฯ

แล้วไอเดียส่วนใหญ่ก็ตั้งบนพื้นฐานของอารมณ์ความรู้สึกเหมือนหนังผีทั่วไป เช่น ผีโผล่มาให้เห็นเพราะผีห่วง/ผีแค้น นอกเหนือจากนั้น การทดลองก็ทำแบบทั่วไปเหมือนรายการล่าท้าผีทั่วไป เช่น พยายามตั้งกล้องจับภาพผี ตรวจวัดอุณภูมิโดยรอบ ฯลฯ สั้น ๆ ก็คือ ถ้าจะทำแค่นี้ ไม่ต้องวางตัวเอกให้เป็นหมอระดับท็อปรุ่นก็ได้

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

เอาตรง ๆ จากความรู้สึกจืดเลย ตั้งแต่เริ่มเรื่องมาเหมือนพยายามปู ฉีกกฎทดลองผี สปอย เพื่อให้ไปสู่การทดลองต่าง ๆ แต่พอมาถึงการทดลองที่ตัวไอซ์ต้องฆ่าตัวตาย ได้แต่ร้องเห้ย! แบบงง ทำไมถึงตัดสินใจไปแบบง่ายมากทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของงานวิจัยนี้ หลังจากนั้น เส้นเรื่องก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ มันไม่ใช่พลิกแบบสุดยอดว่ะ แต่พลิกแบบที่พาคนดูหลงไปทางไหนก็ไม่รู้ แล้วเหมือนสุดท้ายพยายามจะตบคนดูกลับมา แต่ก็ตะเลิดไปไกลซะแล้ว

ที่รู้สึกอีกอย่าง คือรู้สึกว่าเสียดายนักแสดงหลาย ๆ คนในเรื่องนี้มากโดยเฉพาะคุณสู่ขวัญ ที่มาเล่นเป็นแม่ เพราะเอาระดับคุณสู่ขวัญมา แต่เป็นฉากแบบไม่ถึง 5 นาที และ ณิชา ที่ได้เล่นภาพยนตร์ทั้งที แต่ออกมาแบบนิด ๆ หน่อย ๆ เลยทำให้รู้สึกเสียดายมาก ๆ บทน่าจะส่งให้ไปได้ไกลกว่านี้

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว ghost lab ฉีกกฎทดลองผี เราต่างได้ยินเรื่องเล่า หนังผี ของสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่เรียกว่า ‘ผี’ หรือ ‘วิญญาณ’ มาช้านาน แต่ใครเล่าจะบอกได้อย่างเต็มปากว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนี้มีอยู่จริง จะเต็มที่ก็มีเพียงหลักฐานชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น ภาพถ่าย ที่สุดท้ายผลพิสูจน์ก็มักออกมาในทางตรงกันข้ามเสมอจากการใช้กฎเกณฑ์ทางหลักวิทยาศาสตร์เข้าช่วย แล้วถ้าหากสมมติว่ามีคนที่ปักใจเชื่อเรื่องของการมีตัวตนอยู่ของโลกหลังความตาย และ พร้อมจะ ‘แลกทุกสิ่งทุกอย่าง’ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าพวกเขาเชื่อไม่ผิดนั้นจะเป็นอย่างไร

สิ่งที่กล่าวมาในข้างต้นคือธีมหลักของภาพยนตร์เรื่อง Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี ที่ผู้กำกับ ‘กอล์ฟ – ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ ต้องการนำเสนอออกมา ผ่านตัวละคร ‘กล้า’ – อาจอง สุญญตา (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) และ ‘วี’ – ชีวี พรหมเมธัส (ธนภพ ลีรัตนขจร) สองหมอแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ซึ่งมีความเชื่อในเรื่องของโลกหลังความตายแบบสุดขั้ว ทางหมอกล้าพยายามจะพิสูจน์ทุกวิถีทางให้คนอื่นเชื่อว่า ‘ผีมีอยู่จริง’ จากอดีตวัยเด็กที่เขาปักใจเชื่อว่าเคยพบกับวิญญาณของพ่อผู้เสียชีวิตไป ขณะที่หมอวีเชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องจินตนาการ หลักการวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายเรื่องลี้ลับนี้ได้ทั้งหมด จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่ง พวกเขาได้มองเห็นวิญญาณที่โดนไฟคลอกร่วมกัน และ จุดนี้เอง ส่งผลให้ทั้งคู่ตกลงปลงใจเริ่มแผน ‘ล่าแสงเหนือ’ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าผีมีอยู่จริง และ นำงานวิจัยที่ว่าตีพิมพ์ลงยังนิตยสาร The Experiment

บทตั้งต้นภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่เรามักจะได้เสพภาพยนตร์แนวภูตผีจากฝีมือผู้กำกับไทย ชนิดที่ว่าเป็นการเจอจากการลบหลู่ ลองของ หรือแนวสืบสวนสอบสวน แต่กลับไม่ค่อยเห็นในแนวตั้งข้อสมมติฐานเป็นแก่นหลักของเรื่องเสียเท่าไรนัก Ghost Lab จึงเปรียบเสมือนข้อเชื้อเชิญผู้ชมให้ก้าวตามมา แล้วอุดมคติในเรื่องโลกหลังความตายของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

จุดนี้ถือเป็นวัตถุดิบฟรีสไตล์อย่างมากในการทำหนังผี เพราะเชื่อเถอะว่าไม่เคยมีคนตายที่ไหนกลับมาเล่าให้เราฟังแบบตัวเป็น ๆ ได้ว่า เมื่อถึงจุดจบของชีวิตแล้ว พวกเขาเจอต้องไปพบเจออะไรบ้าง

บทสรุป

ผลงานจากค่าย GDH ของผู้กำกับ ปวีณ ภูริจิตปัญญา หนังผี gth ที่เน้นทำแนวสยองขวัญจากผลงานแจ้งเกิด บอดี้ ศพ19 (2550) และ กำกับ 4 กับ 5 แพร่งตอน “ยันต์สั่งตาย” กับ “หลาวชะโอน” ซึ่งมาคราวนี้เหมือนตั้งใจฉีกกฎหนังผีเต็มที่ด้วยการใช้แนววิทยาศาสตร์การทดลองมาร่วมด้วย ซึ่งในตอนแรกคิดว่าคล้าย FLATLINERS (ขอตายวูบเดียว) หนังสยองขวัญกึ่งผีกึ่งวิทยาศาสตร์ชื่อดังในอดีตที่พึ่งมารีเมคทำใหม่ไม่นานนี้

ด้วยพล็อตต้องการทดลองพิสูจน์หาชีวิตหลังความตายเหมือนกัน แต่โกสแล็บเน้นไปที่เรื่องราวการทดลองให้ผีปรากฎตัว ซึ่งตัวเรื่องดูตั้งใจให้มีความแปลกใหม่กับหนังผีไทย เมื่อเรื่องเริ่มจากการพิสูจน์หาผีในรูปแบบต่าง ๆ แต่ที่หนังนำมาใช้กลับไม่ได้ใหม่ซะทีเดียว เพราะหนังผีแนวพิสูจน์บ้านผีก็เคยนำวิธีพวกนี้มาใช้จนเกร่อแล้ว อย่างกล้องจับความร้อน หรือการใช้กล้องถ่ายผีโดยตรงไม่ติดตามกฎในเรื่องที่อ้างว่ายุคนี้มีกล้องมากมายทำไมไม่มีคลิปผีจะ ๆ

กลายเป็นการพิสูจน์โดยการถ่ายพวกปรากฎการณ์ โพลเตอร์ไกสท์ (Poltergeist) ก็คือปรากฎการณ์ผีหลอกจากข้าวของเคลื่อนที่ได้ ทำให้ตัวเรื่องที่ดูเหมือนจะแปลกใหม่ ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกให้เห็นเลย ซ้ำร้ายยังกลายเป็นว่าความพยายามให้เรื่องนี้ฉีกกฎต่าง ๆ ของหนังผี กลับกลายเป็นความไม่สมเหตุผลจนถึงขั้นตลก (อย่างไม่ตั้งใจ) กับบทหนังที่พยายามจริงจังสุดชีวิตไปแทน

หนังผีที่พยายามอย่างมากที่จะฉีกแนวหนังผีไทย แต่บทกลับไปไม่ถึงไหน หลายสิ่งที่นำเสนอไม่ได้ใหม่เลยกับคนดูหนังผีแนวท้าพิสูจน์แบบต่าง ๆ ที่เคยมีมาก่อนเยอะแล้ว แต่ปัญหาของเรื่องจริง ๆ คือความพยายามลากเรื่องให้น่ากลัวแบบมีเหตุผลควบคู่ไปกับทฤษฎีวิทยาศาสตร์ แต่ไม่สำเร็จเพราะเหตุผลกับการเดินเรื่องมันไปกันไม่ได้ มีความย้อนแย้งกันในตัวตลอดเวลา จนรู้สึกแอบตลกอยู่หลายฉากแบบไม่ตั้งใจไปจนจบเรื่องเลยทีเดียว

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

พร้อมแล้วครับ ที่ซุปเปอร์สตาร์ดังอย่าง มาริโอ้ จะกลับมาเฉิดฉาย หนังไทยมาใหม่ กลับมาทวงบัลลังก์ความเป็นซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 อีกครั้ง ส ปอย หนัง ซึ่งอย่างที่ใคร ๆ หลาย ๆ คนต่างรู้ดีว่า ฝีไม้ลายมือการแสดงของเขานั้น ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ยอดเยี่ยมเพียงไหน ซึ่งต้องยอมรับเขาจริง ๆ ของคนไทยอีกครั้งด้วยผลงาน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ โกอินเตอร์อย่างเต็มตัว เรื่องแรกในชีวิตการเป็นนักแสดงสำหรับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง 77 Heartwarmings – 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการแสดงของพระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ กับผลงานโกอินเตอร์ ระดับเอเชียแบบเต็มตัว ในภาพยนตร์ฮ่องกงครั้งแรก อย่าง “77 Heartwarmings (77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก)” ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ผลงานผู้กำกับ เฮอร์แมน เหยา โดย ไร้ท์ บิยอนด์ และ เอ็มเพอร์เรอร์ โมชั่น พิคเจอร์ส บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวผู้ต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตนั่นก็คือ “การแต่งงาน” แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ยังไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้เสียทีว่า แท้ที่จริงแล้วเธอต้องการเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์จริง ๆ หรือแค่เพราะกลัวการที่จะต้องขึ้นไปโหนอยู่บน “คาน” กันแน่

ชื่อเรื่อง 77 Heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก
ประเภท โรแมนติก
นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, ชาร์ลีน ชอย, โจวป๋อหาว
กำกับโดย เฮอร์แมน เหยา
กำหนดฉาย 29 กรกฎาคม 2021 (เฉพาะโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ซีนีม่า)

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก 77 Heartwarmings – 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก 77 heartwarmings พากย์ไทย ซูเปอร์สตาร์หนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ สวมบทเป็นลูกชายคนเดียวของเศรษฐีผู้ร่ำรวย ซึ่งก้าวเข้ามาทำให้หัวใจของนางเอกสาวของเรื่องที่รับบทโดยนักแสดงสาวที่คอหนังจีนรู้จักกันดีอย่าง “ชาร์ลีน ชอย” ต้องถึงคราวหวั่นไหว เพราะต้องเลือกเอาระหว่างแฟนเก่าที่คบกันแบบคบ ๆ เลิก ๆ มาตลอด หรือต้องการที่จะสานสัมพันธ์ครั้งใหม่กับลูกชายเพลย์บอยของเศรษฐีคนนี้ที่เธอแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของเขาเลยสักนิดเดียว

เรื่องย่อ

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

ถึงเวลาเลือกชุดแต่งงานแล้ว แต่ “เอวา” (ชาร์ลีน ชอย) สาวสวยผู้อยากจะก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์จนตัวสั่นกลับยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องราวของชีวิตคู่อย่างไรดี เพราะไม่เพียงไม่รู้ว่าตนเองต้องการชุดแต่งงานแบบไหนเท่านั้น แต่เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า คนที่จะมาเป็น เจ้าบ่าว จะต้องเป็นคนอย่างไรอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการที่ต้องทำงานในฐานะของทนายความผู้เชี่ยวชาญในคดีฟ้องหย่าที่ผ่านการเห็นคนเลิกรากันมา แล้วสารพัดรูปแบบ ทำให้ เอวา กลายมาเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อถือในเรื่องของ รักแท้

การกลับมาของสตาร์อันดับ 1 มาริโอ้ เมาเร่อ

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเอกหนุ่มไทย 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก เต็ม เรื่อง ที่มีแฟนคลับฝั่งเอเชียมากเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับพระเอกหนุ่มซุปเปอร์สตาร์ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ที่มักจะมีผลงานโฆษณาพรีเซนเตอร์ให้แฟนคลับต่างชาติได้ดูกัน ล่าสุดปีนี้ได้ฤกษ์ปล่อยผลงานโกอินเตอร์แบบเต็มตัวเรื่องแรกกับภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้จากจีนเรื่อง “77 Heartwarmings” หรือ “77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก” มาให้แฟนคลับชาวไทยกับแม่ ๆ จีนได้ดูกันให้หายคิดถึง

แถมเรื่องนี้ยังได้รับบทเป็น “เพลย์บอยหนุ่มรูปงาม” จัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผมแบบหล่อสุด ๆ อย่างแน่นอน เริ่มฉายวันที่ 17 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เครือ เอส เอฟ เท่านั้น งานนี้ใครคิดถึงหนุ่มมาริโอ้ห้ามพลาด ไปส่งกำลังใจกันเยอะ ๆ หนุ่มโอ้จะได้มีผลงานโกอินเตอร์ออกมาให้ติดตามกันอีก

อันเนื่องมาจากเสน่ห์ในรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ และ ฝีไม้ลายมือในการแสดงของเขาที่ฝังอยู่ในใจของผู้ชมในภาคพื้นเอเชียอาคเนย์มานานแล้ว รวมไปถึงในประเทศจีน และ ฮ่องกง ตลอดจนในไต้หวัน ล่าสุด มาริโอ้ ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง “77 Heartwarmings” หรือ “77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก”

ซึ่งเป็นภาคต่อของ “77 Heartbreaks” ร่วมกับ นักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว และ ดาราสาวผู้โด่งดัง ชาร์ลีน ชอย (หรือ อาซา) โดยในเรื่องเขาจะต้องสวมบทเป็นคู่ปรับที่แข็งแกร่งในเรื่องความรักกับนักแสดงหนุ่ม โจวป๋อหาว เพื่อแย่งชิงความรักที่มีต่อนางเอกของเรื่องคือ ชาร์ลีน ชอย

ใน “77 Heartwarmings” มาริโอ้ รับบทเป็นมือที่ 3 ที่เข้ามาแทรกกลางความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวเอกของเรื่องคือ “โจวป๋อหาว” และ “ชาร์ลีน ชอย” ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงหัวใจของหญิงสาวที่เขากำลังหมายปองอยู่ “เขามีรูปร่างที่ฟิตสุด ๆ แถมยังมีทักษะของมวยไทยที่ดีมาก ๆ อีกด้วย” ผู้กำกับฯ เฮอร์แมน เหยา กล่าวเสริม “

นอกเหนือไปจากการที่เขาสามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครเป็นอย่างดี จึงทำให้การแสดงของเขาออกมาดูอบอบอุ่น และ เป็นธรรมชาติเหมือนกับผู้ชายที่พร้อมจะออกมาปกป้องสาวคนรัก แถมเวลาที่พักการถ่ายทำเราก็มักจะมีเรื่องสนุก ๆ มาคุยกันแทบไม่หยุด ทำให้บรรยากาศในกองถ่ายมีความเป็นกันเองมาก ๆ” นักแสดงสาว ชาร์ลีน ชอย กล่าวชื่นชมหนุ่มนักแสดงชาวไทยแบบแทบปิดไม่มิด

แต่แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือเก่งฉกาจแค่ไหน หากเมื่อ มาริโอ้ ได้เห็น ซาร์ลีน ชอย เป็นครั้งแรกก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นใจในการทำงานกับเธอ “ผมได้ยินมาว่าเธอเป็นถึงซูเปอร์สตาร์ในฮ่องกงคนหนึ่ง ผมเคยดูภาพยนตร์ของเธอมาแล้วหลายเรื่อง และ คิดว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถอย่างน่าทึ่ง

ดังนั้นตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ผมเลยจับมือทักทายเธอแบบเขิน ๆ และ พูดว่า สวัสดีครับ ผมชื่อมาริโอ เมาเร่อ รู้สึกดีใจ และ โชคดีที่ได้ร่วมงานกับคุณ คุณเป็นคนที่น่ารักมาก และ อายุของเรายังใกล้เคียงกันอีกด้วย” ในขณะที่ฝ่ายของ ชาร์ลีน ชอย เองก็กล่าวชมมาริโอ้ว่า “ตัวจริงของคุณน่ารักมาก และ ฉันได้ยินมาว่านอกเหนือจากการที่คุณเป็นนักแสดงหนุ่มชาวไทยที่เก่งสุด ๆ แล้วแล้ว คุณยังชอบซื้อพวกของเล่นต่าง ๆ ตามร้านขายของเล่นตามห้างสรรพสินค้าเหมือนฉันอีกด้วย

รีวิว 77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก

รีวิว77 heartwarmings 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก 77 Heartwarmings สานต่อความสำเร็จของ 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก ซับไทย  “77 Heartbreaks” ที่ออกฉายเมื่อปี 2560 ซึ่งทำให้เกิดเสียงสะท้อนของคนดูทั้งทางฝั่งของผู้หญิง และ ผู้ชายออกมามากมาย อาทิ ผู้ชายบางคนก็บอกว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่แฟนสาวของเขาทำนั้นมันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี ส่วนฝ่ายผู้หญิงก็บอกว่า เพราะแฟนหนุ่มของเธอชอบสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้เธออยู่บ่อย ๆ ต่างหาก

ผลงานโก-อินเตอร์ในฐานะนักแสดงนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ใน “77 Heartwarmings – 77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก” โดย ไร้ท์ บิยอนด์ และ เอ็มเพอร์เรอร์ โมชั่น พิคเจอร์ส ได้ตั้งแต่ 19 ธันวาคม 2562 นี้เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ , เอสเอฟซีนีม่า , เมเจอร์ฮอลลีวู้ด และ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า

เลยนำมาสู่บทสิ้นสุดของความรัก และ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน  ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หลังจากแต่งงานกันแล้วชีวิตรักของพระนางจะเป็นการจบแบบมีความสุขหรือไม่  ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ เอริก้า หลี่ โดยครั้งนี้ยังคงได้ทีมงานชุดเดิมทั้งเบื้องหน้า และ เบื้องหลังของหนังภาคก่อนมาร่วมงานกัน

บทสรุป

ถึงอย่างไรคนที่กระตุ้นให้เธอก้าวเข้าสู่จุดหมาย จังหวะหัวใจปกติ ปลายทางของความรัก ก็คือผู้เป็นแม่ และ เพื่อนรักที่คอยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการแต่งงาน และ มีครอบครัว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเตือนเธอถึงเรื่องสำคัญนั่นก็คือ เธอพร้อมที่จะกลับไปหาอดีตแฟนหนุ่มอย่าง อดัม (โจว ป๋อหาว) ผู้ที่เธอเคยหักอกเขามาแล้วไหม?

หรืออยากจะแต่งงานกับ ศิลปินหนุ่ม (มาริโอ้ เมาเร่อ) ที่เธอแทบไม่รู้จักนิสัยใจคอของเขาเลย นอกจากการเป็นลูกเศรษฐีร่ำรวยที่มีทรัพย์สินมหาศาล รวมทั้งเครื่องบินส่วนตัวสุดหรู หาไม่แล้วเธอก็จำต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าจะต้องห้อยโหนอยู่บน คานทอง ไปจนตลอดชีวิต

เหนืออื่นใดสิ่งที่เอวาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยก็คือ การที่ชายหนุ่มทั้งคู่ต่างก็พยายามที่จะพิชิตใจเธอโดยอาศัยตัวช่วย คือ แอปพลิเคชั่นจีบสาวยอดนิยมที่เรียกว่า 77 Heartwarmings เพื่อที่จะละลายน้ำแข็งในหัวใจของเธอให้กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง

โดยสรุปผมขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 6/10

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ถือเป็นภาพยนตร์เปิดโลก หนังไทยnetflix ที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านเรามากนัก ซึ่งตัวหนังเองก็ยังคง concept หนังไทยอยู่ ส ปอย หนัง นั้นก็คือความฮาที่แทบจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ของหนังไทยไปซะแล้ว แต่หนังก็ยังแฝงไปด้วยข้อคิดมากมายให้เราอีกด้วย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี สำหรับภาพยนตร์ไทยแนวตลกใน พ.ศ. 2565 นำแสดงโดย ณัฏฐ์ กิจจริต และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ เข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2565 และ จัดจำหน่ายโดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า ภาพยนตร์ผลงานของผู้กำกับคนเก่ง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่เคยฝากผลงานไว้อย่างฮาวทูทิ้ง (2019) และ ฟรีแลนซ์.. ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2015) เรื่องนี้ยังคงเป็นสไตล์ดราม่า แต่มีความโรแมนติกคอมเมดี้เข้ามาด้วย ได้นักแสดงนำแม่เหล็ก อย่างสาวสวยญาญ่า อุรัสยา ประกบคู่กับหนุ่มหล่อ ณัฎฐ์ กิจจริต ตอนนี้ออกอากาศให้รับชมทาง Netflix แล้ว

เรื่อง : Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ
ประเภท : โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า
นักแสดง : ญาญ่า อุรัสยา, ณัฎฐ์ กิจจริต
ระยะเวลาการรับชม : 2 ชั่วโมง 11 นาที

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์รสชาติใหม่ของเต๋อ เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ ดู นวพลซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์เป็นหนังคำคมของเหล่าสายเฮิร์ต ผสมผสานการเปิดโลกกีฬาสแต็ก ที่วัดกันด้วยความเร็วแบบวิต่อวิ และ คราวนี้หนังของเขาก็ ’แรง’ ขึ้นกว่าเดิมมากจริง ๆ จนมีสปีดพอ ๆ กับหนังแอ็กชันเลยล่ะ

แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีความฉีกจากแนวเดิมที่นวพลเคยทำมา แต่หนังก็ยังคง DNA ความเป็นนวพลไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องราวของการเติบโตของชีวิต และ ความสัมพันธ์ที่เป็นดั่งแก้วอันเปราะบาง เพราะเมื่อไหร่ที่มันแตกสลาย ก็จะไม่มีวันกลับไปเป็นแก้วได้ดังเดิมอีก

รวมไปถึงเรื่องราวความหลังสุดบีบหัวใจ ที่นวพลได้ซ่อนการจิกกัดสังคมไทยไว้ภายใต้ความเป็น ‘หนังกวนส้นตีน’ ของเขา ซึ่งสะท้อนมุมมองให้เราต้องฉุกคิดอยู่ตลอด ที่แม้ว่าโลกของเราในยุคนี้จะเร็วเพียงใด แต่กรอบบางอย่างก็ยังคงถูกฝังรากไว้ไม่เปลี่ยนแปลง

อีกประเด็นที่หนังยังเน้นคงเน้นหนักคือ การทำให้ตัวละครอย่างเกากลายเป็นตัวละครที่ Coming of Age ในวัย 30 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของอีโก้ผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง จนวันหนึ่งอีโก้เหล่านั้นจะทำลายตัวเขาเองในที่สุด เกาจึงเป็นภาพสะท้อนของการยอมรับตัวตนว่า Coming of Age นั้นไม่ใช่เพียงแค่การเป็นผู้ใหญ่เพราะวัย แต่คือการก้าวพ้นตัวตนเก่า ยอมรับความผิดพลาด ใช้ประสบการณ์ น้ำตา และ ความเจ็บปวด บ่มเพาะให้เติบโตเป็นคนที่ดีกว่าเดิม

เรื่องย่อ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

มันเป็นเรื่องราวของ เกา และ เจ คนแรกมุ่งหวังอยากจะเป็นเลิศในการแข่งขันเรียงแก้วเร็ว หรือที่เรียกว่า Sport Stacking แม้จะไม่มีใครมองเห็น ไม่มีคนสนใจ แต่คนที่เล็งเห็น และ เป็นแรงผลักดันเรื่อยมาคือคนหลัง เกาพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเป็นคนที่เร็วที่สุดในโลก

ส่วนเจเป็นคนที่มีความฝันอันธรรมดาที่สุด แต่เธอมีความพิเศษคือ ‘ใจดี’ ส่งผลให้เจทำทุกอย่างเพื่อให้เกาได้ใช้เวลาไปกับการฝึกให้มากที่สุดแต่ดูเหมือนสิ่งที่คิดไว้จะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไม่นานพวกเขาก็เลิกรากัน ไม่เท่านั้น ยังมีเด็กใหม่จากอีกฟากโลกที่เก่งกล้าท้าลองดี ดรามาบังเกิดแล้วตอนนี้ แถมมันยังส่งผลต่อความเร็วของเขาอย่างมาก ทางออกพอมี แต่จะใช่ทางออกจริง ๆ หรือไม่

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

ชอบตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องเลยที่คุณครูถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ชอบคำตอบของนักเรียนแต่ละคนรวมทั้งนักแสดงที่มาคามีโอด้วย เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ netflix แค่เปิดเรื่องก็ฮาแล้ว เรื่องราวความฝันของเกา ที่อยากเป็นนักเรียงแก้วกับบริบทสังคมไทย ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ นำเสนอออกมาได้ดี น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน

หนังให้ข้อคิดดี ๆ หลายเรื่อง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ และ เรื่องการทำตามความฝัน ไม่ว่าจะนักกีฬาโอลิมปิกหรือ นักเรียงแก้ว หรือใครก็ตามที่อยากทำอะไรให้สำเร็จสักอย่างหนึ่ง คีย์สำคัญคือการทุ่มเทฝึกซ้อม พัฒนาฝีมืออย่างหนัก และ ในการที่จะมีเวลาฝึกซ้อมให้ได้อย่างเต็มที่ มันมีหลายคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะพ่อ แม่ เมีย และ โค้ช

หนังเล่าส่วนนี้ออกมาได้ซึ้งกินใจ บางครั้งเมื่อหมกมุ่นกับอะไรมาก ๆ เราอาจหลงลืมความจริงข้อนี้ไปได้ และ อีกด้านหนึ่งถ้ามองในมุมมองของชีวิตคู่ เมื่อความรักมันไปต่อไม่ได้ มันก็เหมือนขโมยเวลาของกัน และ กัน

ผสมผสานเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่เข้ามาได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เรื่องซื้อบ้าน ทำอาหารเช้า ยันซักผ้า ตลอดไปจนถึงขายบ้าน ผู้กำกับใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อยที่ใส่ลงไป ทำให้หนังมีความสมจริง เข้าถึงได้ไม่ยาก เป็นชีวิตคู่ที่ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายให้ตลอดเวลา ส่วนอีกฝ่ายก็รับลูกเดียว มีความดราม่าเป็นช่วง ๆ แต่ไม่หน่วง ทุกปมดูสนุก ชอบบ้านของเกากับเจ สวยน่าอยู่

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ

รีวิว เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ เอาจริง ๆ ก็เหมือนหนังหยิบเอาลายเซ็นความเป็นเต๋อ นวพล มาใส่ไว้ทั้งหมด ทั้งบทพูด เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ 037 ลีลาการพูด มุกตลก ลีลาการตัดต่อ เหมือนหนังโฆษณาของแกนั่นแหละ แต่แค่มันยาว 2 ชั่วโมง 12 นาทีเท่านั้นเอง ครั้งนี้ มันเล่าเรื่องราวของความรักในอะไรที่คนส่วนใหญ่เขาเมินเฉย แต่เป็นสิ่งที่อายุไม่เกี่ยว เด็กหรือแก่เท่าไหร่ก็เล่นได้หมด ว่าแต่…มันจริงหรือ?

นอกจากหนังจะเล่าถึงเจ คนรักที่ยินดีมาอยู่ด้วยกันเพื่อให้เกาได้ทำตามฝันอย่างเต็มที่ ก็ยังมีปอ (วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ) คนที่คล้ายจะเป็นผู้จัดการส่วนตัว และ คนดูแลสถาบันสอนการเล่น Sport Stacking แม่ของเกา (กนกวรรณ บุตรชาติ) ที่ปล่อยให้เกาได้ฝึกปรือฝีมือ และ เลือกจะเอาใจช่วยในแบบของตนเอง เมทัล (อนุสรา กอสัมพันธ์) แม่บ้านที่เก่งทุกอย่างเกี่ยวกับงานบ้าน

นอกเหนือจากนั้น ก็ยังมีคนขับรถ คนสอนภาษา เด็ก ๆ ในอะคาเดมีของเกา โดยเฉพาะ ไผ่หลิว (คีตภัทร ป้องเรือ) ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญพาเขาข้ามผ่านขีดจำกัดของตนเองได้

โดยเฉพาะเจ แฟนสาวที่เห็นดีเห็นงามกับความฝันที่ใคร ๆ มองว่าไร้ค่า แต่เธอกลับทุ่มเทเพื่อเขามาเป็นสิบปี มันเป็นเวลานานเกินไปด้วยซ้ำ จนไม่น่าจะมีใครยอมทำเพื่อความฝันของคนอื่นโดยทิ้งลืมความฝันความสุขของตนเองได้ขนาดนี้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ toxic ชวนรู้สึกอึดอัดแทน แม้หนังจะหันกลับมาเล่าในมุมของเจบ้าง แต่หนังก็ยืดไปยืดมาพร้อมกับเล่นมุกหน้าตาย จนเริ่มทำลายสิ่งที่ปูมา

บทสรุป

เป็นภาพยนตร์ไทยแนว เร็วโหดเหมือนโกรธเธอ สนุกไหม โรแมนติกคอมเมดี้ ดราม่า ที่สนุก ขำ ดูไม่เบื่อ เพลินตลอดทั้งเรื่อง เล่าเรื่องการทำตามความฝัน และ ความสัมพันธ์ชีวิตคู่ ได้สมจริง มีดราม่าแต่ไม่หนักหน่วง ดูเพลินมาก

โดยรวมแล้ว Fast and Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ โดดเด่นในแง่ของการนำเสนอรสชาติใหม่ในหนังของเต๋อ นวพล ซึ่งค่อนข้าง ‘ย่อยง่าย’ กว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ของเขา แถมหนังยังอุดมไปด้วยกองทัพนักแสดงที่ตบเท้าเข้ามารับส่งมุกกันอย่างพร้อมเพรียง และ ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สอดแทรกการ Coming of Age ของผู้ใหญ่ได้อย่างดีมาก จนเราอยากรู้เลยว่าหนังเรื่องต่อไปของเขา จะเอาอะไรมาเล่าอีก

นับเป็นอีกหนึ่งผลงานของสาวญาญ่าที่ไม่ควรพลาด ให้คะแนน 7/10 รับชมได้ทาง Netflix

รีวิว ส้มป่อย

รีวิว ส้มป่อย

สวัสดีครับนี่คือหนึ่งในหนังไทยอีกเรื่อง หนังไทยnetflix ที่มีความฮา ผสม กับ ความบ้านนอก ๆ อารม คล้าย ๆ ไทยบ้าน นั้นแหละครับ ส ปอย หนัง สำหรับ ส้มป่อย นี่คือหนังรอมคอมสไตล์ไทย ๆ ที่จะพาพวกเราไปเยือนเมืองเหนือ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี แถว ๆ จังหวัดลำพูน กับเรื่องราวของสาวสวยผู้เบื่อบ้านเกิดตัวเอง และ อยากจะหนีออกไปไกล ๆ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ส้มป่อย คือชื่อของตัวเอก และ เป็นชื่อหนังเรื่องนี้ ส้มป่อย (น้ำตาล พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ จากละครเรื่อง แค้นรักสลับชะตา และ ประกาศิตกามเทพ) เป็นสาวเหนือที่มีบุคลิกไม่เรียบร้อย ผิดจากภาพลักษณ์สาวเหนือในความคิดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งอาจส่งผลให้เธอยังไม่มีแฟนสักที เธอเป็นสาวที่ค่อนข้างเบื่อกับงานวันรวมญาติที่เหล่าเครือญาติที่ได้ผัวเป็นคนกรุงเทพฯ จะพาผัว และ ลูกกลับมาเยี่ยม ก็คงจะมีแต่แม่ของเธอนี่แหละที่ไม่ได้มีผัวเป็นคนกรุงเทพฯ เหมือนอย่างญาติคนอื่น และ นั่นอาจเป็นสาเหตุให้เธอคิดอยากจะมีแฟนเป็นคนกรุงเทพฯ

ประเภท: ตลก / โรแมนติก
ผู้กำกับ: ส้มป่อยทีม
นำแสดงโดย: พิจักขณา วงศารัตนศิลป์, ธนพล จารุจิตรานนท์, ธัชทร ทรัพย์อนันต์
ความยาว: 120 นาที
กำหนดฉายในไทย: 4 พฤศจิกายน 2021

รีวิว ส้มป่อย

รีวิว ส้มป่อย

รีวิว ส้มป่อย หนังไทยเรื่องนี้ มีพล็อต ส้มป่อยเต็มเรื่อง บท และ การดำเนินเรื่องที่เรียกได้ว่า ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน และ เน้นใช้เสน่ห์ของนักแสดง ผสมกับความสามารถในการแสดงที่สามารถใส่ได้ทั้งคอมิดี้ เล่นให้ดูตลก โอเวอร์เล็ก ๆ แต่ก็มีความน่ารักผสมอยู่ในนั้นแต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเล่นซีนดราม่าก็เอาอยู่มากพอจะทำให้คนอินตาน้ำตาซึมตามได้ เหมาะสำหรับคอหนังที่ต้องการเสพความบันเทิง ไม่ต้องการอะไรที่เคร่งเครียดเกินไป ไม่คาดหวังสิ่งที่แปลกใหม่หรือการดำเนินเรื่องที่เกินคาด

เพลงประกอบของหนังก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ‘อยากมีแฟนแล้ว’ เวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่ในหนังหรือเวอร์ชันใหม่ที่ร้องไว้โดย ส้ม มารี (Zommarie) แต่ที่ประทับใจสุด ๆ ก็เห็นจะเป็น ‘ไม่เคย’ เวอร์ชันภาษาเหนือที่ร้องไว้โดย ไม้เมือง

เป็นหนังที่ทำให้เห็นลีลา และ บทบาทใหม่ ๆ จาก น้ำตาล พิจักขณา เพราะเธอต้องเล่นเป็นผู้หญิงกระโดกกระเดก ที่ชอบกินลาบ ชอบกินเหล้า มักจะเมาเละภาพตัดอยู่หลายช่วง ซึ่งน้ำตาลผู้มีเบาหน้าสไตล์สวยมหาชนก็ดูไม่ห่วงสวย ใส่ลีลาปากจัดเต็มที่

ขณะเดียวกันลีลาอ่อยผู้ชายก็ใส่เต็มเช่นกัน ขณะที่ตัว ป๊อป ธัชทร อาจจะไม่ได้บทที่ส่งให้มากนัก แต่กับ ตี๋ ธนพล ดูเหมือนจะได้เล่นอะไรมากกว่า แม้โดยส่วนตัวจะไม่ค่อยชอบใจนัก กับการที่ตัวเอกของเรื่องมีอาชีพคนทรงแบบนี้ [แถมในเรื่องก็ยังโดยนางเอกจับได้ซะอีก] แต่พอถึงช่วงเวลาดราม่า เขาก็ทำได้ดี

โดยส่วนตัวแล้วไม่ถึงกับขำคิกคักไปกับบทคอมิดี้สักเท่าไหร่นัก แต่ความน่ารักของน้ำตาลพาให้ผ่านไปได้เกือบหมด ถ้าใครเป็นคนเหนืออยู่แล้วก็น่าจะอิน และ สนุกกับหนังเรื่องนี้เพราะประสบการณ์ร่วมย่อมจะมากกว่า

เรื่องย่อ

รีวิว ส้มป่อย

ส้มป่อย สาวละปูน(ลำพูน) สาวโสดขาแรง สายฮา ที่ไม่อยากติดแหง็กใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในบ้านเกิด การได้แฟนดี ๆ ไปใช้ชีวิตคูล ๆ อยู่กรุงเทพฯ ถือเป็นลาภอันประเสริฐ ความหวังเดียวที่จะช่วยให้ฝันเป็นจริงคือต้องหาแฟนเป็นหนุ่มชาวกรุง และ แล้วฟ้าก็ประทาน “แวน” ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวมาให้

ส้มป่อยจึงโร่ปรึกษา “แซ้ป” เจ้าเข้าทรงสายแว้นซ์นั่งทางในหากลเม็ดมัดใจผู้บ่าวเมืองกรุง โดยที่ส้มป่อยไม่รู้เลยว่าแซ้ปแอบชอบเธอ จู่ ๆ เสน่ห์ก็แรงขึ้นมา ส้มป่อยจะเดินหน้าอ่อยแวนต่อหรือพอแค่นี้

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ส้มป่อย

เราอาจจะได้เห็นได้ดูหนังทรงไทบ้านทางฝั่งอีสานมาก็ประมาณแล้ว ส้มป่อย HD แต่ไม่ค่อยได้เห็นสไตล์กำเมืองออกมาโลดแล่นบนหน้าจอหนังไทยบ่อยสักเท่าไหร่ และ เรื่องนี้ก็ได้เข้ามาเติมเต็มเสน่ห์พื้นเมืองของไทยอีกภาคได้อย่างค่อนข้างเติมเต็ม หนังเรื่องนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าใครเป็นผู้กำกับ เพราะแปะติดเอาไว้ว่า ภาพยนตร์โดย ส้มป่อยทีม ที่เป็นการรวมตัวของนักสร้างหนังหน้าใหม่ที่มาร่วมกันระดมความคิดในหนังเรื่องนี้

ส้มป่อย ก็เป็นหนังไทยที่มาพร้อมกับสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างตายตัวเรื่องหนึ่ง เพราะแน่นอนว่าบทหนังแทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย แต่หนังเลือกหยิบเอาความเป็นสาวเอื้องเหนือ วิถีความเป็นล้านนา เสน่ห์ความผู้คนทางภาคเหนือมาถ่ายทอดในมุมมองที่อาจจะไม่ค่อยได้พบเจอสักเท่าไหร่ กลายเป็นหนังภาษากำเมืองที่แทรกซึมคลุกวงในไปได้อย่างไม่รู้

พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยความจำเจ กับแค่พล็อตแม่สาวอยากมีผู้ที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะได้สะดุดตาผู้ และ ได้มาครอบครอง กับเส้นเรื่องเลิฟไลน์ที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือไปจากที่คิดเอาไว้สักเท่าไหร่ แต่ตลอด 2 ชั่วโมงของหนังก็สามารถตรึงใจผู้ชมเอาไว้ได้ค่อนข้างอยู่หมัด มีทั้งมุมน่ารัก ๆ มุมประทับใจ และ มุมน่าเบื่อ ปะปนกันไปเป็นองค์ประกอบ

แต่ ส้มป่อย ก็ได้นักทำหนังระดับยอดฝีมือมาช่วยปลุกปั้นงานอยู่ นำโดย “โขม ก้องเกียรติ” กับ “มะเดี่ยว ชูเกียรติ” เข้ามาทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ และ ที่ปรึกษาให้หนังเรื่องนี้ตามลำดับ กลั่นกรองออกมาเป็นเรื่องราวรักพัลวันตามประสาแม่สาวที่มีอินเนอร์ความแฮ่นป้อจายเต็มปรอท ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับที่พอขำได้แบบเบาะสั่น

แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยพยุงหนังเอาไว้ได้มาก ๆ ก็คือ “น้ำตาล พิจักขณา” ที่มารับหน้าที่ และ แบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่องได้อย่างทรงเสน่ห์ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นผลงานหนังเรื่องแรกของเธอ แต่กลับงัดทักษะทางการแสดง และอินเนอร์ของสาวแพร่ออกมาใช้ในการถ่ายทอดเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมชาติ บวกกับความน่ารักแก่นแท้ในตัวเธอ ส่งเสริมให้หนังเรื่องนี้อบอวลไปด้วยเสน่ห์ที่แตะต้องได้

ต้องยอมรับเลยว่า น้ำตาล พิจักขณา เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ช่วยขับเคลื่อน และ ประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ส้มป่อยจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องมีเธอเป็นหนึ่งในส่วนประกอบในนั้นจริง ๆ ในขณะที่ 2 หนุ่มที่เข้ามาเสริมก็ช่วยซัพพอร์ตหนังได้ค่อนข้างดี

ไม่ว่าจะเป็น “ตี๋ ธนพล” หรือ “ป๊อบ ธัชทร” แม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่ค่อยเจนจัด และ มีชั่วโมงบินทางการแสดงได้เท่ากับนางเอก แต่เสน่ห์ของพวกเขาก็ช่วยส่งเสริมตัวหนังได้เป็นอย่างดี

รีวิว ส้มป่อย

รีวิว ส้มป่อย หนังไทยที่พาเราขึ้นเหนือไปชมบรรยากาศ ส้มป่อย นักแสดง ต่างจังหวัดในแถบลำพูน พาไปพบกับเรื่องราวของสาวละปูนที่มีทั้งความแก่น ความฮา และ ไม่รู้สึกมีความสุขกับการที่ต้องติดอยู่ที่นั่น ฝันอยากได้แฟนที่เป็นคนกรุงเทพฯ จนมาเจอหน้าหล่อ ๆ ของแวน ชายหนุ่มที่มาถ่ายภาพบ้านเมือง วัฒนธรรม และ ธรรมชาติของล้านนา ทำให้เธอได้เจอเขา

แต่หนังก็สร้างตัวละครอีกตัวมาเป็นคู่แข่งกัน แซ้ป คือชายหนุ่มผู้มีอาชีพเป็นหมอดูร่างทรง ที่สาวเจ้าไม่เคยเชื่อถือ และ มองเห็นเป็นความหลอกลวง แต่เพียงแว้บแรกที่เขาเห็นเธอก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง แน่นอนว่า เขาต้องใช้ความเป็นร่างทรงออกอุบายเพื่อให้แวนไม่สมหวัง

เรื่องนี้ ตัวละครแทบจะพูดภาษาเหนือกันทั้งเรื่อง เหลือไทยกลางไว้สำหรับแวน คนกรุงเทพฯ ไว้เท่านั้น ให้ฟีลลิ่งล้านนา เหมือนคนดูได้ไปใช้ชีวิตท่ามกลางคนเหนือ

เริ่มต้นเรื่อง อาจจะขัดเขินอยู่บ้าง แต่พอเรื่องราวเดินไปก็เหมือนจะเข้าฝักกันมากขึ้น ตัวหนังเดินเรื่องไปเรื่อย แม้อาจช้าบางจุด หากก็ไม่มีเวิ่นเว้อเอาแต่เล่นมุขเฮฮา บทหนังพาเราไปในจุดที่คุ้นเคยไม่มีอะไรแปลกใหม่

ทุกอย่างจึงคล้ายจะเดินไปตามความคาดเดาของคนดู จะติดอยู่บ้างก็คงเป็นระยะเวลาของเรื่องราวที่กระชั้นสั้นจนเกินไป ทำให้รู้สึกทุกอย่างมันรวดเร็วเกิดความกังขาในความรักของคนทั้งสาม แต่ถึงกระนั้น ตัวหนังก็พาให้เราอินไปกับฉากชวนสะเทือนใจได้อยู่

เหมือนหนังจะเล่าเรื่องความคิดระหว่างคนต่างจังหวัดที่มีต่อคนกรุงเทพฯ นางเอกเองที่ตั้งใจจะหาแฟนเป็นคนกรุงเทพฯ ที่สามารถพาเธอออกไปจากบ้านเกิดที่แสนน่าเบื่อ แต่ก็กลับได้พบอีกคนที่อยู่บ้านเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน กินอาหารเหมือนกัน และ ถ้าทั้งสองคนต่างยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวเธอเหมือน ๆ กัน เธอจะเลือกคนไหนดี?

อีกทั้งหนังก็ยังอาจเล่าไปถึงขั้นว่า เราควรเป็นคนแบบไหนดี ควรจะทำตัวเรียบร้อยอย่างที่คนหนึ่งชอบ หรือควรจะเป็นตัวของตัวเอง

บทสรุป

จะบอกว่า ส้มป่อยเป็นความเซอร์ไพรส์หรือไม่ ส้มป่อย Pantip ก็อาจจะเป็นได้ เพราะถือว่าหนังค่อนข้างเหนือความคาดหมายจากที่คิดเอาไว้เล็กน้อย สูตรสำเร็จที่ขับเคลื่อนด้วยเอกลักษณ์ของนักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ กับการหยิบเอาวัฒนธรรมพื้นเมืองมาตีแผ่ในรูปแบบที่ค่อนข้างอินไซด์ และ เก็บรายละเอียดวิถีท้องถิ่นได้อย่างเข้าถึงในประมาณหนึ่ง นี่จึงเป็นเสน่ห์ที่ส้มป่อยสามารถทำได้ถึงแก่น

โดยสรุปแล้ว ส้มป่อย เป็นหนังไทยที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่ใด ๆ เหมือนเปรียบเทียบกับหนังรอมคอมเรื่องอื่น ๆ แต่มีเสน่ห์เพราะการหยิบเอาวิถีท้องถิ่นของคนภาคเหนือมาถ่ายทอดในรูปแบบที่ลึกซึงถึงแก่นได้จริง ๆ บทหนังอาจจะเบาโหวง แต่ก็ได้เสน่ห์ และ ทักษะของนักแสดงนำมาช่วยเกื้อหนุนเอาไว้ได้ดี ทำให้หนังไทยที่ชื่อว่า ส้มป่อย สื่อออกมาได้น่าประทับใจ๋ได้ระดับหนึ่ง…

รีวิว แอปชนแอป app war

รีวิว แอปชนแอป app war

สารภาพตามตรงว่านี้ไม่ไช่ หนังไทยมาใหม่ หนังแนวที่ผมชอบเลย แต่ก็ต้องยอม เพราะกระแสหนัง App War แอปชนแอป ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี มาแรงมาก ๆ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะสื่อไหน ต่างก็พูดถึง จนในที่สุดก็ต้องดู มันอยู่ไม่ได้จริง ๆ 555 โดยภาพยนตร์ ส ปอย หนัง เรื่องนี้ ต้องบอกก่อนเลยว่า เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ กำกับโดย ยรรยง คุรุอังกูร ผลิต และ จัดจำหน่ายโดย ที โมเมนต์ นำแสดงโดย ณัฏฐ์ กิจจริต วริศรา ยู พัศชนันท์ เจียจิรโชติ สิราษฎร์ อินทรโชติ ธนาภพ อยู่วิจิตร ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์ และ อภิวิชญ์ เรียร์ดอน โดยมีกำหนดฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ต้องการชิงทุนจากบริษัทดังด้วยการสร้างแอป

ในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ สังเกตว่าจะมีหนังเข้าฉายในบ้านเราค่อนข้างเยอะพอสมควร ทำให้คนที่ไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง ๆ ไปนั่งดูหนังอย่างผม ต้องเลือกมากสักหน่อยกว่าจะเข้าไปดูแต่ละเรื่อง ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องที่ไม่ได้เลือกก็ใช่ว่าจะไม่มีคุณภาพ แต่หลายครั้ง จริต ความอยาก และ ปริมาณของหนังที่พอดีกับเรามันก็บังคับไปในตัว ทำให้สัปดาห์นี้หนังไทยอย่าง ‘App War แอปชนแอป’ ถูกเลือกส่วนหนึ่งเพราะนักแสดงบางคนในนั้น

App War แอพชนแอพ
แนว : Drama / Romantic / Comedy
กำกับโดย : เสือ – ยรรยง คุรุอังกูร
แสดงนำโดย : ธิชา วงศ์ทิพย์กานนท์ / จิงจิง วริศรา ยู / พัศชนันท์ เจียจิรโชติ (อร BNK48) ณัฏฐ์ กิจจริต / ทู สิราษฎร์ / หรั่ง อภิวิชญ์ / เติร์ท ธนาภพ
กำหนดฉาย : 1 สิงหาคมปี 2018

รีวิว แอปชนแอป app war

รีวิว แอปชนแอป app war

รีวิว แอปชนแอป app war มันเป็นหนังวัยรุ่น app war เต็มเรื่อง ที่เขียนมาเพื่อเล่าเรื่องเด็กวัยรุ่นยุคนี้ ยุคที่ไอทีเข้ามาเกี่ยวข้องสูงมาก โลกของอินเทอร์เน็ต โลกที่ผู้คนเชื่อมโยงสัมพันธ์กันด้วยแอปพลิเคชัน โลกที่ใช้มือถือเป็นดั่งอวัยวะสำคัญของร่างกาย ความฝัน ความพยายาม ก็เลยถูกควบรวมอยู่ในนั้น การแสวงหาตัวตน จุดเริ่มต้นของการถูกยอมรับ ในนั้นมีความฝันความซ่อนตัวอยู่

ใน ‘แอปชนแอป’ วัยรุ่นสองกลุ่มกำลังคร่ำเคร่งกันสร้างแอปที่มีคอนเซปต์ความสัมพันธ์ที่ใช้ความชอบเฉพาะอย่างเป็นตัวเชื่อม กับธุรกิจ Startup อันเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงที่จะ “เจ๊ง” และ มีเพียงสวนน้อยเท่านั้นที่จะสำเร็จ

มากกว่านั้น หนังยังพยายามเล่นกับคำว่า Start ด้วยการบอกให้มองถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างแอปขึ้นมาสักตัว แต่อย่างไรก็ดี Startup ก็เป็นธุรกิจ แผนการตลาดที่เป็นไปได้ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ นอกเหนือไปจากเงินทุนที่ต้องพึ่งคนมีกะตังค์ วัยรุ่นหลาย ๆ คนก็อาจจะประสบความสำเร็จในฐานะมือใหม่ที่สร้างธุรกิจใหม่ ๆ และ ประสบความสำเร็จ การเล่าเรื่องด้วยการแข่งขันเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายสำหรับคนดูมากที่สุด

เรื่องย่อ

รีวิว แอปชนแอป app war

บอมบ์ กับ จูน สองหัวหน้าทีมทำแอปหน้าใหม่ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการประกวด Startup เวทีไหนมาก่อนเลย วันหนึ่งพวกเขาได้เจอกันโดยบังเอิญ เมื่อได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นก็พบว่าต่างคนต่างก็ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน จนคุยกันถูกคอ และ เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ขึ้น

ค่ำคืนนั้นทำให้บอมบ์ได้แรงบันดาลใจ และ ปิ๊งไอเดียแอป แอปหนึ่งขึ้นมา แต่หลังจากเปิดตัวแอปได้ไม่นานก็มีอีกแอปหนึ่งเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งไอเดีย และ คอนเซปต์คล้ายของเขาจนแทบจะเรียกได้ว่า “ก๊อบ” กันออกมาทีเดียว และ เมื่อสืบถึงตัวเจ้าของแอป ก็พบว่าแอปนั้นเป็นของ จูน นั่นเอง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว แอปชนแอป app war

หนังหยิบเอาประเด็นของคนรุ่นใหม่ ณัฏฐ์ กิจจริต ที่อยากเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่อยากทำงานออฟฟิซ จึงต้องมาเริ่มทำกิจการของตัวเอง และ “การพัฒนาแอพลิเคชั่น” คือสิ่งที่หนังนำเสนอ จนมี ทีมนักธุรกิจวัยรุ่นมาแข่งกันสร้างแอปพลิเคชัน และ แต่ละคนก็มีปม

มีประเด็นของตัวเองที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ ซึ่งหนังทำออกมาได้เข้าใจง่าย ย่อยง่ายมาก คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ Start Up ก็ดูได้ (แถมดูแล้วได้แนวคิดดี ๆในการใช้ชีวิตด้วย) เราจะเห็นรูปแบบการทำงานของเหล่านักพัฒนาแอพลิเคชั่นที่มีเรื่องราวให้ลุ้นระทึก หักเหลี่ยมเฉือนคมที่ดูสนุก และ น่ารักดี

ส่วนแอคติ้งนักแสดง ทำออกมาได้ดี ดูแล้วเชื่อ ดูแล้วอิน แม้คาแรคเตอร์ตัวละครบางตัวจะดูฝืน ๆ หรือออกไปทางเหนือจริงนิด ๆ แต่มันทำให้ภาพที่ออกมาชัดเจนว่าตัวละครนี้คือพระเอก เก่งการเขียนโปรแกรม มันก็จะมีบุคลิกแบบนี้ หรือเด็กฝึกงาน ที่เป็นสายลับ ก็จะมีคาแรคเตอร์แบบในหนัง หรือแม้แต่นายทุน ที่ลีลาแอคติ้งชวนหมั่นไส้ ก็ทำหน้าที่สำคัญในเรื่องได้ดีเช่นกัน

ส่วนจุดที่คนทั่วไปอาจจะเบื่อนิด ๆ คือหนังพยายามใส่สถานการณ์ กับประเด็นเยอะจนล้น และ มันส่งผลให้หนังมีความยาวน้อง ๆ Avenger Infinty War เลยทีเดียว เพราะหนังยาวมาก บางจุดก็เล่ามาทำไมไม่รู้ ดูยืด ๆ ไปนิด ทั้ง ๆ ที่มันสามารถตัดฉับ และ รวบบทได้เลยแท้ ๆ

รีวิว แอปชนแอป app war

รีวิว แอปชนแอป app war หนังจากค่าย T Moment ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นค่ายหนัง App War ความหวังหนึ่งของคอหนังไทยเลยนะ โดยเฉพาะกับหนังระลอก 2 ที่ค่ายนี้เตรียมปล่อยโดยเริ่มที่หนังเรื่องแรกคือ App War นี่เอง หนังเป็นผลงานกำกับของ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร ที่เคยกำกับหนังไทยที่ได้ใจไปแบบม้ามืดในปี 2558 เรื่อง 2538 อัลเทอร์มาจีบ ของ ค่ายโมโนพิคเจอร์ ก่อนที่จะมารวมกับ ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์

ก็นับว่ามารอบใหม่ยังคงเก็บจุดเด่นในเรื่องภาพเท่ ๆ สวย ๆ เนื้อหามัน ๆ เข้าใจง่าย ๆ เข้าอกเข้าใจวัยรุ่นวัยเรียนเช่นเคย ส่วนที่พัฒนาขึ้นคงเป็นการกล้าที่จะเล่าเนื้อหาใหม่ ๆ ไม่อิงความนิยมเดิม ๆ แบบนอสตัลเกียอย่างเรื่องก่อน เพราะสตาร์ทอัปถึงจะเป็นคำฮิตที่ได้ยินบ่อยในช่วงไม่กี่ปีนี้

แต่เอาเข้าจริงเด็กไทยก็ไม่ได้สนใจหรืออยากจะเข้าใจอะไรไปมากนัก ตรงนี้ทำให้ App War มีจุดสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ให้หนังไทยอย่างที่ ฉลาดเกมโกง เคยทำไว้เช่นกัน หนังที่กล้าสร้างเทรนด์ที่ดีให้สังคมแบบนี้จึงเป็นอะไรที่ต้องสรรเสริญ ไม่ใช่แค่ชื่นชมเลยครับ

หนังใช้ดาราหน้าใหม่เป็นตัวหลัก แม้เราจะคุ้นหน้าจากงานโฆษณา หรือเอ็มวีมาบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ฐานแฟนคลับยังไม่ใช่ขนาดตัวเรียกเงินทองได้ ดังนั้นค่ายก็ต้องมั่นใจในฝีไม้ลายมือกันระดับหนึ่งเลยล่ะ ตรงนี้ก็ขอพูดรวบทีเดียวเลยว่า กลุ่มนักแสดงตัวหลักทั้งฝั่งพระเอก และ นางเอก นั้นมีเสน่ห์น่าสนใจ

แต่การแสดงนั้นอยู่ในกรอบมาตรฐานที่ดี ยังไม่ได้โดดเด้งจนจดจำนัก อย่างพระเอก ณัฏฐ์ กิจจริต ในบท บอมบ์ โปรแกรมเมอร์เทพก็ถูกนำเสนออย่างเด็กเนิร์ดจัดที่มีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ตามเนื้อเรื่องก็ทำให้ไม่ได้โชว์ฝีมือการแสดงได้จะแจ้งจนไปตัดสินได้

ฝั่งนางเอกอย่าง จูน ที่แสดงโดย วริศรา ยู แม้จะทำได้ดีในบทปะทะอารมณ์ และ บททั่ว ๆ ไป แต่ในโมเม้นท์เขินอายเข้าพระเข้านางก็ยังมีจังหวะแปลก ๆ ที่เห็นชัดว่าเคมียังไม่เข้ากันกับพระเอกดีนัก แต่ก็เป็นฉากสั้น ๆ ที่อาจปล่อยผ่านไปก็ได้ล่ะนะ

บทสรุป

โดยสรุปหนังเรื่องนี้จัดเป็นหนังไทย App War Netflix ที่ภาพเท่มาก ๆ คอสตูมดีไซน์ต่าง ๆ คิดมาอย่างมีรสนิยม เนื้อเรื่องมีการนำเทรนด์ทางปัญญาให้เด็ก ๆ มีฝันในยุคแห่งนวัตกรรม และ ยังให้เห็นอุปสรรคชีวิตจริงว่าความสำเร็จมันไม่ได้มาง่าย ๆ ไม่ฟุ้งลอยเกินไปด้วย

ในขณะเดียวกันแม้ข้อคิด และ สาระจะมากมี แต่ก็สมดุลกับความบันเทิงที่มีเรื่องของมิตรภาพ และ ความรักเป็นพื้นได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน หนังอาจไม่เด็ดขาดอย่างหนังแนวธุรกิจแบบเดียวกันของฝรั่ง หรือเข้มข้นระทึกขวัญขนาดฉลาดเกมโกง

แต่ก็มีความดีงามไปอีกทางหนึ่งที่หนังเรื่องที่กล่าวมาไม่อาจนำเสนอได้ คือจากใจเลยคือมองว่าสำหรับช่วงปีสองปีนี้หนังเป็นรองแค่ ฉลาดเกมโกง เท่านั้นเอง ดังนั้นเชื้อเชิญอย่างยิ่งเลยให้ทุกคนไปดูครับ