Tag Archives: หนังผีสยอองขวัญเต็มเรื่องไทย

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

netflix

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท มาพบดูหนังออนไลน์กับหนังไทยแนวระทึกขวัญอย่าง ปริศนารูหลอน เรื่องราวของ พิม และ พัท 2 พี่น้องที่จำเป็นต้องมาอาศัยอยู่กับ คุณตา และ คุณยาย เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก คุณแม่ ของพวกเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนมีอาการสาหัสโคม่านอนไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่พวกเขาก็ไม่เคยรู้จักกับทั้ง คุณตา และ คุณยาย มาก่อนเลย เมื่อพวกเขาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านของคุณตาคุณยาย พวกเขาก็ค่อยๆ ได้สัมผัสกับเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับรูปริศนาบนกำแพง ที่อยู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นมา และดูเหมือนจะมีแต่เพียงเฉพาะพวกเขาแค่สองคนเท่านั้นที่มองเห็นรูนั้น และเมื่อพวกเขาได้ลองส่องเข้าไปดูในรูปริศนานั้น พวกเขาก็ได้พบเห็นเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับความลับอันดำมืดที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาทีละนิด เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามชมหนังไทยnetflix กันได้เลย

 

ความเป็นมา ปริศนารูหลอน หนังไทยแนะนำ ใน netflix

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไปและไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

 

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี หนังสือ’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว

 

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

 

‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’ เป็นภาพยนตร์ netflix original movies แนวดราม่า-ระทึกขวัญผลงานล่าสุดของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ พิม (รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และ พัท (รับบทโดย แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับตา (รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล) และยาย (รับบทโดย ทาริกา ธิดาทิตย์) ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เพราะแม่ (รับบทโดย นิโคล เทริโอ) ประสบอุบัติเหตุนอนโคม่า แต่เมื่อย้ายเข้าไปในบ้านทั้งสองก็ได้พบกับรูหลอนปริศนา ที่เรียกพวกเขาไปพบกับความจริงบางอย่างที่ซ่อนไว้

 

เนื้อเรื่อง

The Whole Truth เปิดเรื่องด้วยชีวิตประจำวันธรรมดาของเด็กนักเรียนสองคนและแม่ของเขา เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ แวะจอดข้างทาง และพาคนดูหักเลี้ยวไปเรื่องที่ร้อยเรียงไปตามลำดับเมื่อความจริงหลังรูเล็กดำมืดค่อย ๆ เปิดเผยปริศนา ความลับดำมืดให้เห็น ดูแล้วอาจจะเหมือนภาพยนตร์ netflixดราม่าทริลเลอร์หักมุมทั่วไปหนึ่งเรื่อง แต่เมื่อเรามองให้ดีประเด็นสำคัญของการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่ามันสนุกแค่ไหน แต่อยู่ที่มันกำลังสื่อสารอะไรกับเราผ่านสัญลักษณ์ในเรื่อง และเมื่อเราได้ดู ภาพที่เราเห็นในจอจึงไม่ใช่แค่ตัวละคร บ้านหนึ่งหลัง และรูหนึ่งรู แต่ขยายใหญ่กว่านั้นขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะตีความเห็นเป็นอะไร

 

ความจริงบางครั้งก็เหมือนรู้สีดำเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในความมืด มันอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา เพียงแต่เรามองไม่เห็น แต่ทันทีที่แสงสว่างสาดส่องไปถึง มันจะปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน จนเราตกใจว่ามันอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

ประโยคนี้ที่ดังขึ้นในเรื่องถึงสองครั้งตอนเปิดเรื่องและตอนเฉยปมเป็นเหมือนการเปิดลายแทงที่ทำให้เราค้นเจอชิ้นส่วนต่าง ๆ และปะติดปะต่อต่อสิ่งที่เห็นในจอจนเป็นภาพของประเทศไทยซ้อนทับอยู่ในบ้าน ตัวละครเป็นตัวแทนของคนแต่ละยุค รู นาฬิกา นมที่พัทดื่ม หรือแม้แต่ชั้นวางของในเรื่อง ต่างก็มีความหมายในตัวของมันเอง

 

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

 

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

ตา ตัวแทนของ ไซเลนท์เจนเนอเรชั่น (Silent Generation) ที่ถูกเรื่องนำเสนอให้มีคาแรกเตอร์ที่ให้ความสำคัญของการมีระเบียบแบบแผน มีความสัมพันธ์ที่พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัวและผู้กุมอำนาจสูงสุดในบ้าน ทุกคนในบ้านต้องเห็นคล้อยตามผู้นำ เหมือนที่คุณตาจะมีอารมณ์ทุกครั้งหากหลานมีความเห็นที่ต่างออกไป และการบังคับให้คุณยายกินยาเพื่อลืม แม้จริงนั้นจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ติดอยู่กับตำแหน่งใช้ตำแหน่งและอำนาจในมือให้เป็นประโยชน์แก่ตน เน้นความเป็นพวกพ้องรุ่นพี่รุ่นน้องแสดงผ่านการใช้เส้นสายส่วนตัวในวงการตำรวจ ยึดความถูกต้องในแบบที่ตัวเองเข้าใจเป็นหลัก

 

ยาย ตัวแทนของ ผู้หญิงยุคเบบี้บูมเมอร์ส (Baby Boomers) ที่ภาพยนตร์ออนไลน์นำเสนอให้มีหน้าที่เป็นผู้ตามในครอบครัว ยึดถือหลักการคล้ายกับคุณตา ยังคงให้ความสำคัญกับแบบแผนและตำราเช่นการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ ความเข้มงวดในเรื่องต่าง ๆ และหากมีสิ่งไหนที่แตกแถวไปจากความสมบูรณ์แบบตามความเข้าใจของพวกเขาจะต้องถูกกำจัดไป เชื่อในการอดทนต่อปัญหามากกว่าแก้มัน

 

แม่ ตัวแทนของเจ็นเอ็กซ์ (Gen-X) ที่ผู้หญิงพึ่งพาตัวเองมากขึ้นและความเป็นผู้นำครอบครัวไม่ติดกับเรื่องเพศอีกต่อไป ให้อิสระกับลูกมากกว่า แก้ปัญหาอย่างประนีประนอม หลับตาข้างเดียวได้

 

ส่วนลูกสองคนคือตัวแทนของกลุ่ม เจ็นแซด (Gen-Z) ที่ตั้งคำถาม ใคร่รู้ และมองตรงไปยังปัญหา แต่พิมอาจจะเป็นตัวแทนของกลุ่ม privileged หรือ ผู้มีสิทธิพิเศษ ด้วยความ ‘สมบูรณ์แบบ’ ของเธอ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่ได้ตั้งคำถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลายครั้งเลือกที่จะไม่มองเข้าไปใน ‘รู’ ทั้งที่มันส่งเสียงเรียกหาอยู่ข้างหน้า ในขณะที่พัทอาจจะเป็นตัวแทนของคนกลุ่มชายขอบสะท้อนผ่านความพิการของขา ที่ส่งให้เขาอยากไขปริศนาและไม่กลัวที่จะมองเข้าไปแม้สิ่งที่เขาจะมองอยู่มันน่าสยองแค่ไหนก็ตาม

 

พินยา ตัวแทนของปัญหา ความจริงที่บิดเบี้ยวน่ากลัวซึ่งถูกซ่อนไว้ แต่ไม่เคยหายไปไหน เหมือนกับร่างของพินยาที่ถูกซ่อนไว้ในตู้ใต้บันได แต่ยังคงออกมาเรื่อย ๆ หรืออาจจะเป็นคนที่เห็นต่างมีความคิดไม่สมบูรณ์ตามแบบแผนในสายตาของคนบางกลุ่มที่ต้องถูกกำจัดไปเหมือนที่คุณยายต้องการกำจัดพินยาที่มีใบหน้าย้อยออกมาเป็นเหลี่ยมอยู่ครึ่งหนึ่ง

 

รู เป็นตัวแทนของความจริงและปัญหาที่โดนมองข้ามและถูกซ่อนไว้ในอดีตและภาพในรูที่พิมและพัทเห็นชัดขึ้นทุกทีก็อาจจะเป็นตัวแทนของเวลาคนเรามองตรงไปยังความจริงที่ซ่อนไว้และยิ่งให้เวลาพิจารณาค้นหามากเท่าไหร่ ความจริงก็จะยิ่งปรากฏชัดให้เห็นกับตา

 

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท

 

นม ตัวแทนของแนวคิดของคนรุ่นก่อนที่คนรุ่นใหม่ถูกขืนให้ฝืนกิน สะท้อนผ่านการที่ยายบังคับให้พัทดื่มนมด้วยเหตุผลของความหวังดี โดยมองว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะรักษาความแตกต่าง เหมือนกับที่ยายบอกว่านมจะช่วยให้กระดูกขาที่บกพร่องของพัทแข็งแรง แต่ยาพิษที่ถูกผสมอยู่ข้างในนั้นกำลังจะฆ่าพัทให้ตาย

 

นาฬิกา อาจจะสื่อถึงอดีตที่เคยเรืองรองที่คนบางกลุ่มเคยสัมผัสและยังคงเห็นมันอยู่ แต่สำหรับคนอีกรุ่นที่มองเห็นแค่เพียงราง ๆ เหมือนร่องรอยบางเบาในกำแพงตรงที่นาฬิกาเคยอยู่

 

ชั้นวางของที่มีทั้งถ้วย โล่รางวัลที่เก่าจนสีหม่น และสิ่งละอันพันน้อยจากยุคต่าง ๆ ทั้งเครื่องลายครามจากจีน ตุ๊กตากระเบื้องของฝรั่ง เปรียบได้กับเกียรติยศและความภูมิใจในอดีตและวัฒนธรรมที่หยิบยืมและหลอมรวมจากหลายชาติไว้ในชั้นสูงใหญ่ที่ถูกนำมาปิดบังรูเจ้าปัญหานั่นไว้ แต่ก็ปิดไม่ได้และทุกอย่างก็ล้มลงมา แตกกระจายเป็นเสี่ยง

 

ความรู้สึกหลังจากได้ดูจบแล้ว

รีวิว ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ปั่นประสาท ฟังดูหนัง ปริศนารูหลอน มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก การที่หนังมีทรงของหนังสย่องขวัญ netflixที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก

 

ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และเป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิมและพัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิตและเพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์และการกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

 

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัว พอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสย่องขวัญพากย์ไทยมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย

 

 

ความล้มเหลวในด้านการเป็นหนังหักมุม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนังดูไม่สนุกเพราะถึงฉากสยองจะไม่น่ากลัว แต่หากปริศนาตามชื่อเรื่องมันน่าสนใจก็ยังดึงคนดูให้ดูจนจบได้และบางทีอาจชอบหนังอยู่ไม่น้อย ทว่าหนังกลับเล่นกับปริศนาได้น่าผิดหวังเช่นกัน คำว่ารูหลอนที่พยายามเล่นคำกับทฤษฎีรูหนอนก็ถูกเอามาอ้างแบบขอไปทีจนรู้สึกน่าเสียดาย การให้ดูเหตุการณ์เพื่อหลอกความเข้าใจของคนดูต่อความจริงบางอย่างในครอบครัวของตัวละครก็เป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยาก ถึงขนาดว่าครึ่งเรื่องเราก็แทบรู้แล้ว และมันน่าหงุดหงิดที่หนังตั้งใจทำให้ตัวละครดูคิดไม่ออก เหมือนว่าความลับนั้นยังดำมืดอยู่ทั้งที่ความน่าสนใจความอยากรู้ต่าง ๆ สำหรับคนดูมันเหือดหายไม่เหลือแล้ว

 

และเมื่อมาถึงการเฉลยทุกอย่างจนหมดสิ้น มันก็ไม่ได้อัดหมัดหนักใส่คนดูได้อย่างที่คิด การแสดงของคนร้ายตัวจริงในช่วงหลังก็ออกแบบเสียจนกลายเป็นละครโทรทัศน์ขาดความเป็นหนังไปหมดแล้ว และว่ากันตามตรงเอาที่ตัวหนังอย่างเดียวไม่นับพวกระหว่างบรรทัดของหนังมันก็แทบไม่ได้เหลืออะไรทิ้งค้างคาไว้ในหัวเราเท่าไรเลย ทั้งที่จริงสาระต่าง ๆ ที่เป็นไอเดียสร้างหนังมานั้นมันดีมากทีเดียว เป็นอีกงานที่น่าเห็นใจนักแสดงและทีมงานสร้างที่พยายามแล้วก็คงแก้อะไรกับการเล่าเรื่องที่ไม่สนุกและไม่น่าเชื่อถือนี้ได้

 

จุดเด่นจุดสังเกตของเรื่องนี้

การออกแบบศิลป์และการกำกับภาพช่วยให้หนังดูดี การแสดงทำได้น่าจดจำ ไอเดียและข้อความระหว่างบรรทัดของหนังชวนคิดและน่าตกตะลึง ซีจีย่ำแย่และไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยหลายฉาก การแต่งหน้าผีทำได้แย่ การเล่าเรื่องถือว่าผิดพลาดถ้ามองจุดประสงค์การเป้นหนังซ่อนความลับและความสยองขวัญ

 

 

สรุปการรีวิว ปริศนารูหลอน

the whole truth พากย์ไทย ปริศนารูหลอน จึงไม่ใช่ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่พูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากราวกับอยู่ในบ้านของเรา และการสื่อเรื่องผ่านสัญญลักษณ์ทำให้การดูเหมือนกับการเติมคำในช่องว่างว่าผู้ชมจะเลือกแทนค่าตัวละครในเรื่องเป็นใคร เป็นอะไร และเพลงปิดเรื่องที่พิมฮัมซึ่งมีเนื้อร้องว่า ‘เสียแรงหลงกู่ ยู้หู ยู้หู ยู้หู ยู้หู หลงอยู่ทุกคืนทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน ละเมอ…หาเธอ หาเธอจนสิ้นลมหายใจ’ ‘เธอ’ ที่ว่านั้น หมายถึงใครกัน

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006 หนังผีอมตะ ตลอดกาล ที่ควรค่าแก่การดู

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับหนังผีไทย ในตำนาน อีกหนึ่งเรื่อง อย่าง เด็กหอ 2006 เป็นหนังผีไทยที่ผมคิดว่ามันมีสเน่ห์ และ เอกลักษณ์ เป็นของตัวเองมากๆ และ ขอบอกเลยว่า บรรยากาศ ความลึกลับ ในเรื่องเนี่ย คือดีมาก ทำออกมาให้ชวนติดตามจริงๆ ทำให้คนไม่กลัวผีก็อาจจะกลัวไปได้เลยก็เป็นไปได้ สำหรับคนที่ไม่เคยดูจะเข้ามาลองอ่านรีวิว หนังไทยย้อนยุค ย้อนยุคเรื่องนี้ก่อนก็ได้ครับ

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006 หนังแนวสยองขวัญ ที่กำกับโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์

เป็นภาพยนตร์ไทย แนวสยองขวัญที่ถูกนำเข้ามาฉายเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 กำกับการแสดงโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ถึง 3 บริษัท

ได้แก่ GMM GRAMMY, Thai Entertainment, Hub Ho Hin แต่ปัจจุบันบริษัท Thai Entertainment พร้อมกับนักแสดงนำ จินตหรา สุขพัฒน์ (แหม่ม) แสดงเป็น ครูปราณี , ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ก)

แสดงเป็น ต้น หรือ ชาตรี , ศิรชัช เจียรถาวร (ไมเคิล) แสดงเป็น วิเชียร โดยเนื้อเรื่องถูกสร้าง มาจากเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริง

โดยเป็นเรื่องเล่าที่เคยได้ยิน มาจากโรงเรียบ อัสสัมชัญ ศรีราชา โดยตัวละคร วิเชียรนั้น ก็มีอยู่จริงซึ่งเด็กคนนั้น ได้ประสบอุบัติเหตุในขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียน อัสสัมชัญ

ซึ่งเด็กคนนั้นก็ชื่อวิเชียร เหมือนกัน นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้น และ แรงบรรดาลใจ ให้กับผู้กับที่ได้กำกับภาพยนต์เรื่องนี้

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006

เรื่องย่อ เด็กหอ 2006

dorm เรื่องย่อ ชาตรี เด็กชาย อายุ 12 เรียน ม.1 เป็นเด็กไร้ความหมาย ที่พ่อของเขาส่งไปเรียนที่สายชลวิทยา ที่จังหวัดชลบุรี อย่างฉุกละหุก ก็เพื่อที่ชาตรีจะได้พ้น

ไปจากบ้านไกลไปเสียจากพ่อ เพราะชาตรีรู้ความลับของพ่อทั้งหมด เพื่อนของชาตรีได้พูดคุยเรื่องผีในโรงเรียน และ เรื่องครู ในตอนกลางคืนชาตรีรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา

พอฉี่เสร็จชาตรีได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง เหมือนมันเคลื่อนที่ได้ แต่พอเข้าไปแล้วประตูก็เลยล็อก ชาตรีตกใจมากเลยอยากออกไป จนสักพักประตูก็เปิดได้ ชาตรีวิ่งหนีไปหอพักจนเขารู้สึกกลัวมาก

แล้วชาตรี ก็ได้พบกับ วิเชียร เพื่อนร่วมห้อง ที่ดูเหมือนจะรู้อะไร ๆ ในโรงเรียนไปเสียทุกอย่าง และ แล้วมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้ง 2 ก็ก่อตัวขึ้น

ก่อนที่พบว่าแท้ที่จริงแล้ว วิเชียร ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา ๆ แต่พอเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าชาตรีก็เริ่มผูกมิตร กับวิเชียรได้ เพราะว่าทั้งสองคนเหมือนกัน อยู่อย่างหนึ่ง

นั่นก็คือ “ไม่มีใครเห็นว่ามีตัวตน” อย่างตอนที่ชาตรีคิด จะทำอะไรแผลง ๆ เพื่อถอดวิญญาณ มาช่วยวิเชียร วิเชียรก็พูดว่า “สัญญากับฉันสิ ว่าจะไม่ทำอะไรบ้า ๆ เพื่อช่วยฉัน

ชาตรี สัญญากับฉันสิ” ชาตรีไม่ตอบ กลับยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนถึงเวลา 6 โมงเย็น มันคือ เวลาตายของวิเชียร แต่วิเชียรต้องกลับไปที่สระว่ายน้ำนั้น เพื่อลิ้มรสความทรมานจากการจมน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน

ชาตรีเจ็บปวดมากที่ได้เห็นวิเชียรทรมานแบบนั้น แต่ตัวเขากลับได้แต่ยืนมอง แตะต้องอะไรวิเชียรไม่ได้ จนในที่สุด ชาตรีก็ไปดมสารอีเทอร์ มากเกินขนาด

จนในที่สุดวิญญาณก็หลุดออกจากร่าง แล้วชาตรีก็ไม่คิดจะเหลียวมองดูร่างของตนเองเลยแม้แต่น้อย เขาวิ่งไปทางสระว่ายน้ำนั้นโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

และ ชาตรีก็ช่วยวิเชียรขึ้นมาจากสระจนได้ และ ต่อจากนั้นเอง ที่วิเชียรลาชาตรีไปเกิด แค่ลากันสั้น ๆ แต่สายตาสื่อความหมายว่าทั้งสองคนผูกพันกันมากมายเพียงใด

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006

ความรู้สึกหลังรับชม เด็กหอ 2006

การดำเนินเรื่อง เนื้อเรื่อง หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ ความเป็นหนังผี ลูกล่อลูกชนในการหลอกหลอนก็นับว่าทำได้เยี่ยมยอด หลาย ๆ

ฉากมีการบิ้วท์อารมณ์คนดูด้วยเสียงดนตรีเครื่องสี แบบหนังสยองขวัญเมืองนอกที่ชอบใช้กัน ซึ่งปัจจุบัน ในบ้านเราคงไม่ค่อยได้ใช้ดนตรีเครื่องสี ออเครสตร้าเป็นดนตรีประกอบในหนังผีสักเท่าไหร่นัก ซึ่งผมว่ามันให้อารมณ์ผวา ลึกลับได้ดีมากครับ

เด็กหอ ก็เป็นอีกหนังไทยอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ดารานักแสดงล้วนรับบทบาทกันได้อย่างยอดเยี่ยม ความเป็นหนังผีก็สนุก น่ากลัว และ ขนหัวลุก หลายฉากในหนังทำออกมาได้ดี งานสร้างหรือว่าภาพเทคนิค สรุปแล้ว งานนี้แนะนำกันให้หากันมาดูเลยครับ

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006 หนังสยองขวัญ อันดับต้นๆ ของประเทศไทย

รีวิวหนังไทยย้อนยุค เด็กหอ 2006 เป็นหนังผีไทยที่ผมชอบมากเป็นอันดับต้น ๆ เลยครับ ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องนี้มีฉากผีหลอกหลอน ที่น่าขนพองแบบสุด ๆ เนื่องด้วยว่าผมชอบความที่มันไม่ได้เน้นไปที่ความเป็น

ผีหรือจงใจให้เป็นโทนวิญญาณหลอกหลอนตามล้างแค้น …หนังผีเรื่องนี้กลับลงลึกไปที่เรื่องราวการก้าวผ่านข้ามวัยของตัวละครวัย ม.ต้น ที่ต้องพบเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่จะพิสูจน์ตัวตนของเขา 60 เปอร์เซ็นต์ของหนังเลยให้อารมณ์ดราม่าชีวิต ซึ่งผมชอบมาก มันเป็นหนังดราม่าบนอารมณ์ลึกลับที่ดีมากครับ ที่เหลือก็เป็นอารมณ์ขนหัวลุกแบบหนังผีซึ่งทำได้ดีเลยครับ

หนังเรื่องนี้กำกับโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ (วัยรุ่นพันล้าน, ซีรี่ย์ Hormones) ผู้กำกับที่ผมมองว่าทำงานหนังกับนักแสดงรุ่นเด็กหรือวัยรุ่นแล้ว

เขาจะสามารถดึงสักยภาพฝีไม้ลายมือของนักแสดงในรับบทออกมาได้ดีมาก แน็ก ชาลี ปอเจส จากแฟนฉันก็รับบทได้ดีมาก บทขยี้อารมณ์หรือจุดสะเทือนอารมณ์ก็แสดงออกมาได้อินมาก

ยิ่งไปกว่านั้นอีกหนึ่งคนที่เล่นได้ดีไม่แพ้กันนั้นคือไมเคิล ศิรชัช ผมนับว่าเป็นตัวละครเซอร์ไพรส์ ที่สามารถทำให้ผมซึ้ง และ อินไปกับตัวละครนี้ได้ดีเลยทีเดียว …

ส่วนพี่แหม่ม จินตหรา ในบทคุณครูก็นับว่าน่าสะพรึง และ คาแรคเตอร์ส่งให้มีความน่ากลัวเข้าไปอีก (น่ากลัวแค่ไหนต้องลองไปหาดูครับ)

บทสรุป เด็กหอ 2006

หนังเรื่องนี้เคยเป็นที่ถกเถียง ของแฟนหนังเป็นอย่างมาก เนื่องจากสงสัย ว่าเรื่องราวในหนังสร้างมาจากเหตุการณ์ ที่เคยเกิดขึ้นจริงหรือไม่

อีกทั้งยังถูกหยิบยก ไปเปรียบเทียบกับหนังสเปนที่ชื่อว่า The Devil’s Backbone ที่มีบางเสียงแย้งว่ามีเนื้อหาที่คล้ายกัน เป็นอย่างมาก

แต่ ย้ง ทรงยศ ได้ออกมาปฏิเสธ ว่าไม่ได้แรงบันดาลใจใด ๆ จากหนังเรื่องดังกล่าว แม้จะเคยดูหนังเรื่องนี้ เป็นการรีเสิร์ชมาก่อนก็ตาม แต่สิ่งที่สร้างออกมา เป็นเรื่องเล่าที่เขาได้ยินสมัยเรียน อยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา

เด็กหอ ยังเป็นหนังไทยได้มีโอกาส รับเชิญไปเทศกาลภาพยนตร์ นานาชาติเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในปี 2007 พร้อมกับได้รับรางวัล Glass Bear สาย Generation Kplus และ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รองอันดับ 1 สาย Generation Kplus กลับมาครองอีกด้วย

ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง 15 ปีแล้ว แต่หนังก็ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของแฟนหนังไทยอยู่ถึงในวันนี้ เด็กหอ เป็นหนังอีกเรื่องที่โลดแล่นอยู่ในวงการหนังในช่วงยุคเฟื่องฟูของวงการหนังไทย

ที่ในช่วงนั้นทำเงินอู้ฟู่เป็นว่าเล่น และ มีหนังไทยที่ประสบความสำเร็จ หลายเรื่อง ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะกวาดเงิน ได้แค่น่าพอใจ ประมาณ 50 ล้านบาท ก็ตาม แต่ก็ถือว่าหนังประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้านเช่นกัน