Tag Archives: ดูหนังออนไลน์ ชัด

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

สวัสดีครับ นี้เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ผมอยากมาแนะนำในวันนี้ ส ปอย หนัง หนังได้เรื่องนี้เล่าถึง สตั้นท์กลุ่มหนึ่ง ที่ได้ทำการเข้าแข่งขัน เพื่อที่จะได้เป็นนักแสดงหนังคิวบู๊ ดูหนังฟรี ซึ่งหลังจากฟาดฟันกันมา ก็เหลือสองทีมที่เก่งสุด มาชิงที่หนึ่ง ซึ่งการชิงที่หนึ่ง หนังไทยย้อนยุค คือการกระโดดปีนป่ายเพื่อแย่งของกันหนึ่งชิ้น 2นาทีจบ … เหอเหอ นึกว่าจะซัดอะไรกันมันส์กว่านี้ ดูหนังออนไลน์ พี่ชิงที่หนึ่งกันนะครับ แข่งเป็นทีมด้วยแต่ดันส่งคนเก่งแข่งคนเดียว เตรียมพบการกลับมาของหนังในตำนาน “โคตรสู้ โคตรโส” หรือ “Bangkok Knockout” ภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี 2553 และสร้างชื่อคว้ารางวัลรางวัลสตันต์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์แอ็คชั่น เฟสต์ ปี 2554 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีนักแสดงชื่อคุณภาพอย่าง ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, กระแต-ศุภักษร ไชยมงคลม, สรพงษ์ ชาตรี, เสนา หอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค, แพทริค คาซู แทงค์ และกลุ่มนักบู๊ไฟท์ติ้งคลับ ร่วมแสดง อีกทั้งยังได้ พันนา ฤทธิไกร นั่งแท่นผู้กำกับคิวบู๊ เรียกว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชมกันเลยทีเดียว

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส โคตรสู้ โคตรโส (Bangkok Knockout) เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นไทย โครตสู้โครตโส 037 ที่ได้นำเสนอรูปแบบศิลปะการต่อสู้หลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็น มาร์เชี่ยลอาร์ท, คาโปเอร่า, ฟรีรันนิ่ง, ไทเก็ก, เทควันโด, กังฟู และมวยไทย กำหนดฉายในประเทศไทยครั้งแรก 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ออกแบบฉากต่อสู้โดยพันนา ฤทธิไกรและมรกต แก้วธานี โดยใช้เวลาในการออกแบบกว่า 1 ปี ร่วมกับทีมสร้างภาพยตร์ชุด องค์บาก, ต้มยำกุ้ง, ช็อคโกแลต และจีจ้า ดื้อสวยดุ

ซึ่งมีนักแสดงสมทบอย่าง ชัชพล อภิชาติ, กิติศักดิ์ อุ่นจิตต์, สำเร็จ เมืองพุทธ, ธนวิช วงศ์สุวรรณ, ภุชงค์ ศาสตร์นอก, วิรัช เข็มกลัด, ศราวุธ คำสอน, ปุญญพัทร บุญคุณชนก และ วินัย เวียงย่างกุ้ง ที่ได้แสดงรูปแบบศิลปะการต่อสู้หลากแขนงในภาพยนตร์ชุดดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

กลุ่มของนักศึกษาผู้มีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้ซึ่งมีชื่อว่า “Fighting Club” ได้แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของตนภายหลังจากสำเร็จการศึกษา ต่อมาพวกเขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองในการเป็นนักแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นฮอลลีวูด ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด นั่นคือได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น

เมื่อทุกคนฟื้นขึ้นมาก็พบว่างานสังสรรค์นี้ได้กลายเป็นสถานที่ที่มีแต่ความเงียบงัน เพื่อนของพวกเขาถูกจับตัวไป ทั้งยังมีมือสังหารคอยกำจัดพวกเขา นั่นได้ทำให้พวกเขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเป็นฝีมือที่เกิดขึ้นจากพวกใด

และมีสาเหตุอะไรที่ต้องทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีเพียงทางเลือกเดียวในการช่วยเหลือพวกพ้องของตน

นั่นคือการร่วมมือกันต่อสู้กับเหล่าร้าย พร้อมกันนี้เหล่านักสู้ที่เหลือก็ต้องพบความจริงอันน่าเจ็บปวดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้มีบางคนในกลุ่มของพวกเขาหักหลังไปเข้ากับเหล่าร้ายพร้อมกับจัดฉากสร้างเรื่องราวทั้งหมดขึ้น

ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

ถ้าเรามาพูดถึงในด้านของข้อเสียในเรื่องนี้ ชัชพล ศิริกุลวุฒิชัย อย่างเเรกเลยคือ “ฉากการชิงเเชมป์ในตอนเเรก” ใครที่ได้ดูมาเเล้วคงรู้ว่า คุณเหลืออยู่ 2 ทีมเเละชิงเเชมป์เพื่อไปเเสดง ฮอลลีวู้ด เเต่รอบชิงเเชมป์กลับทำได้เเค่ “ปืนเพื่อไปเก็บกล่อง” เเค่นี้หรอครับ คือ มันติ๊งต๊อง มากไปหน่อยไหมหละครับ

นอกจากนี้นั้นเรื่องใหญ่เลยคือ เรื่องบท ที่อ่อนมาก ๆ โดยเฉพาะ งานเลี้ยง นั้น อะไรมันจะไปตรงกัน เป๊ะ ๆ กับพวกที่ตัวร้ายจัดหรืออะไรเเบบนี้ บลา บลา ไม่รู้จะอธิบายยังไงเเล้ว กับบทที่อ่อนมาก ๆ กับเรื่องนี้ รวมทั้งการที่พยายามจะทำเป็น หักมุม ในตอนจบ ซึ่งใช้มุขเก่า ๆ + บทเนื้อเรื่อง ที่ออกไปเเนว หนังฮอลลีวู้ด นั้น ทำออกมาไม่ดีทั้งสิ้น

ซึ่งนอกจากความมันส์เเล้วนั้น นักเเสดงในเรื่องนี้ที่อยากพูดถึงเลยนั้นก็คือ พวกกลุ่มสตันท์ ทั้งหลายนั้นเเหละ รู้สึกเรื่องนี้เหมือนเอามาเป็น นักเเสดงทดลอง ยังไงไม่รู้เเหะ ให้สตันท์ มาเล่นเป็นพวกพระเอก อย่างบอกเลยว่า “ท่าของเหล่าสตันท์ นั้นสวยมาก โดยเฉพาะฉากเตะ ๆ ต่อย ๆ ไม่รู้ออกเเบบ + ทำมาได้อย่างไร”

เเต่ในด้านการเเสดงอยากบอกเลยว่า “สอบตก” อย่างเเรก + ขัดหู ขัดตา อย่างมากเลยหละครับ กับการเเสดง ฉากคุยกัน เหมือนกับ อ่านบท ยังไงยังงั้น เเต่ก็ต้องยอมรับกับเขาจริง ๆ เเหละ ว่าฉากเเอ็คชั่น เหล่าสตันท์ เล่นกันได้ดี + ลื่นไหล กันทุกคน โดยเฉพาะ คนนึงในกลุ่ม จำชื่อไม่ได้ เเต่ท่าสวยมากครับ

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส

รีวิว โคตรสู้ โคตรโส ได้มีโอกาสดูเรื่องนี้ตั้งเเต่ รอบสื่อ เเล้วหละครับ พอดีได้บัตรฟรีไปดูมานะครับ ดูหนัง โคด สู้ โคด โส เรื่องนี้ก่อนดูก็ไม่ได้ คิดอะไรอยู่เเล้ว ส่วนตัวเห็นตัวอย่าง เเล้วก็ออกเเนว เฉย ๆ เเนวโน้มไปด้าน อยากดู ก็มีบ้าง

เรื่องนี้นั้้นเป็นผลงานการออกเเบบฉากเเอ็คชั่นโดยผกก.ไทยมากมาย ส่วนหนังจะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยครับ

โคตรสู้ โคตรโส , เรื่องราวเริ่มต้นที่การเเข่งขัน เพื่อชิงการได้ไปเเสดงเป็น ดาราฮอลลีวู้ด โดยพระเอกของเรานั้น ที่มีกลุ่ม นักสู้ อย่าง Fighting Club นั้น ซึ่งพวกเขาก็ได้ผ่านเข้ามาในรอบสุดท้าย ซึ่งภายในตอนหลังนั้น พวกเขาก็ได้ ชนะ ทีมที่เขาเเข่งขันด้วย พวกเขา จึงได้จัดงานเลี้ยง

โดยในงานนั้น มีกลุ่ม Fighting Club ของพวกเขา + น้องสาวของเขาอย่าง “ใบเฟริน” เเละ เพื่อนหญิงอย่าง “จอย” รวมทั้ง นักดนตรีหลงทาง (เสนาหอย)

ซึ่งภายในวันต่อมานั้น พวกเขาได้ตื่นขึ้นมาเเละกลับพบว่า พวกเขาได้โดนมอบยา เเละ ถูกจับไปไว้ที่ไหนไม่รู้สักเเห่ง ซึ่งภายในตอนหลังพวกเขาก็ได้พบความจริงว่า นี้คือ “บททดสอบของพวกเขา”

โคตรสู้ โคตรโส ผลงานกำกับเอง เล่นเอง ของ พันนา ฤทธิไกร ที่ข้อดี ข้อเสีย มีมากมาย เเละ ต่างกันออกไปอีกเเล้ว ขอเริ่มจาก ข้อดี ง่าย ๆ ของหนัง เเละ การพัฒนา ของฉากเเอ็คชั่นไทย ซึ่งอย่างเเรกเลยคือ เรื่องนี้คนดูก็ต้องอยากรู้อยู่เเล้วว่า ฉากเเอ็คชั่น นั้นมันส์ไหม

ผมอยากบอกได้เลยครับว่า “มันส์” ไม่รู้เพราะอะไรนะครับ เเต่ว่า ช่วงนี้อยากชมเลยว่า “เเอ็คชั่นไทย” นั้นได้พัฒนาเเล้ว เเละเรื่องนี้ถ้าให้เทียบกับหนังที่เข้าฉายปีเดียวกันอย่าง “อินทรีเเดง”

ในด้านความมันส์เเล้วนั้นต้องบอกเลยว่า มันส์น้อยกว่า อินทรีเเดง เเค่นิดเดียวเท่านั้นเองครับ เเละถ้าให้เปรียบเรื่องนี้ไปกับหนังเเอ็คชั่นในค่ายของ สหมงคล ก็ต้องบอกเลยว่า มันส์เท่าเทียบกับพวกรุ่นพี่อย่าง องค์บาก หรือ ต้มยำกุ้ง ได้เลย (อันนี้นับเฉพาะความมันส์)

บทสรุป

โคตรสู้ โคตรโส เป็นเรื่องราวของ ไฟท์ติ้งคลับ โครตสู้โครตโส เต็มเรื่อง ที่เกิดจากการวมตัวของกลุ่มนักศึกษาผู้หลงใหลในศิลปะการต่อสู้ หลังจากเรียนจบสมาชิกในคลับต่างแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของชีวิต ก่อนที่ทุกคนจะได้รับเชิญให้มางานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองการได้เป็นนักแสดงแอคชั่นของฮอลลีวู้ด

จึงทำให้พวกเขาได้มีโอกาสรวมตัวกันอีกครั้ง โดยมีกลุ่มไฟท์ติ้งคลับ และน้องสาวของเขาอย่าง “ใบเฟิร์น” (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เเละ เพื่อนหญิงอย่าง “จอย” (กระแต-ศุภักษร) รวมทั้ง นักดนตรีหลงทาง (เสนาหอย เกียรติศักดิ์) ร่วมปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน

หนังเรื่องนี้เป็นหนังเเอ็คชั่น เเนว ดูเพลิน ๆ มันส์ ๆ ที่มีข้อเสียเรื่องบท อย่างเเรง นักเเสดงที่บางตัวละครออกน่ารำคาญ พูดเหมือนอ่านบท เเต่ถ้าดูเฉพาะฉากเเอ็คชั่นอยากบอกเลยว่า คุ้มมากครับ เพราะว่ามันส์ดี

เเต่ถ้าใครชอบดูบทหนัก ๆ เรื่องนี้ปล่อยผ่านได้เลยครับ ถ้าดูเพลิน ๆ ก็ดูเลยค้าบ

รีวิว แช่ง chaeng

รีวิว แช่ง chaeng

สวัสดีครับก็เรียกได้ว่าประเทศไทยเรานั้นอยู่คู่มากับตำนานผีๆพื้นเมืองมานานแล้ว สำหรับหนังผี แช่ง เรื่องนี้นั้น หนังไทยnetflix เป็นผลงานกำกับของ จิต กำเหนิดรัตน์ ซึ่งเคยกำกับหนังร่วมในเรื่อง เลิฟอะรูมิไลค์ รักอะไรไม่รู้ (2558) และ ยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษ ดูหนังฟรี ภาควิชาภาพยนตร์ วิชา Art of storytelling ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (2553 -2556) นอกจากนี้ยังมีผลงานกำกับ ดูหนังออนไลน์ หนังทุนกระทรวงวัฒนธรรมเรื่อง Eternal นิรันดร์ (2554) อีกด้วย สำหรับเรื่องแช่งนี้นับเป็นการกำกับเดี่ยวครั้งแรกกับหนังค่าย มันเวิร์ก และ เช่นเดิม ยังสามารถดึงดาราระดับคนดูรู้จักดีมาร่วมเล่น ส ปอย หนัง ได้มากมาย ทั้ง เดวิด อัศวนนท์ ในตอน วิปลาส, ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน กับ วรรณปิยะ ออมสินนพกุล หรือ กวาง เดอะเฟซ ในตอน Tattoo และ หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์ น้องชายของ บอย ปกรณ์ ในตอน สาปแช่ง

นอกจากเนื้อหาที่วางปริศนาน่าติดตาม นัยยะที่ซ่อนคมคาย วิธีการหลอน ที่แปลกใหม่ หนังยังมีโปรดักชั่นที่จัดว่าดีน่าสนใจทั้งการถ่ายภาพ วางสี โลเกชั่น คอสตูม และ ที่น่าจะต้องพูดถึงคือเอฟเฟกต์ การแต่งหน้าผี ทำปีศาจ รวมถึงซีจีที่พอดีไม่มากน้อยเกินไป พูดได้ว่าหนังโดยรวม เป็นหนังไทยนอกสายตาที่ แอบดี แอบมีของ น่าลองดูอยู่ไม่เบาเลยทีเดียวล่ะ

รีวิว แช่ง chaeng

รีวิว แช่ง chaeng

รีวิว แช่ง chaeng หนังผีไทย มักชอบทำแนวหลายเรื่องสั้น แช่ง เต็มเรื่อง รวมร่างกัน มีธีมร่วมบ้าง หรือ บางทีก็เป็นโปรเจ็กต์ รวมทีมงานต่างสไตล์ ของค่ายเท่านั้น และ แช่ง ก็เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุด ที่ทำหนังสั้น 3 ตอนรวมกันภายใต้ธีมเดียวกัน คือ คำสาปแช่ง ต่างที่มา ต่างวิธีการ ต่างยุคสมัย และ ต่างเหตุผลซึ่ง ถือว่าความตั้งใจ และ แนวคิดนั้น น่าสนใจอยู่ไม่เบา แม้หน้าหนังจะดูช่างเดิม ๆ และ ไม่มีอะไรเสียเลย แต่หนังตัวอย่าง ที่ปล่อยมาก็กลับทำให้เห็นว่ามันมีของเล่นแปลกใหม่ ที่น่าติดตาม เป็นการทดลองและบูชาการเล่าเรื่องผี ในหลายหลากวิธีการ และ เมื่อได้ดูตัวหนังเต็ม ก็พบว่าผู้สร้างไม่ได้แค่อยากทำหนังผีทั่ว ๆ ไป แต่ยังทดลอง และ นำเสนอกระบวนการคิดวิพากษ์สังคมไทยอย่างมีชั้นเชิงด้วย

การดำเนินเรื่อง

รีวิว แช่ง chaeng

หนังแบ่งออกเป็น 3 เรื่องย่อย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวของกัน ภาพรวมคือเราชอบไอเดีย แช่ง เต็มเรื่อง 037 หนังที่อยากเล่นเรื่องคำพูด หรือ คำสาปแช่งที่ออกมาจากปากของเราโดยตั้งใจ หรือ อาจไม่ตั้งใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตัวเอง และ คนอื่น เราว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ ทั้ง ๆ 3 เรื่องขอชมในเรื่อง ของงานภาพก่อนเลย ภาพ แสง สีสวยมาก ๆ จัดองค์ประกอบของภาพได้สวย โดยเฉพาะเรื่องที่ 2 ชอบมุมกล้องหลาย ๆ มุม

เนื้อหาแต่ละตอน

รีวิว แช่ง chaeng

1: วิปลาส

โจเซฟ (เดวิด อัศวนนท์) บาทหลวงวัยกลางคนได้รับเบาะแสการตายของเพื่อนบาทหลวงผู้ทำหน้าที่มิชชันนารีในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยเบาะแสนั้นก็คือเครื่องบันทึกแผ่นเสียงการแสดงละครรำในคืนที่เชื่อกันว่าเป็นต้นตอของคำสาปที่ทำให้คนในหมู่บ้านค่อย ๆ ล้มตายไปกว่าครึ่ง

โดยเสียงเพลงที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงร้องที่ไพเราะประหนึ่งนางอัปสรบรรเลงพิณ แต่กลับให้ความรู้สึกโหยหวนราวกับเสียงของปีศาจ โจเซฟจึงตัดสินใจออกไปตามหาต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด จนพบกับความจริงที่ค่อย ๆ เผยให้เห็นถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์ และ ต้นตอของคำสาปที่น่าสะพรึงกลัว เชิญพบจุดจบที่น่าเวทนาในบรรยากาศความลึกลับน่ากลัวของบรรยากาศบ้านป่าของประเทศสยามในปลายรัชสมัย รัชกาลที่ 6 ที่ความเจริญยังไม่รุกคืบความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์

2: Tattoo

เฟรดดี้ (ชิน ชินวุฒ) หนุ่มช่างสักฝีมือดีที่ใช้ชีวิต ให้ผ่านไปแต่ละวัน หลังจากที่ต้องเลิกรากับหญิงสาวนาม เฟิร์น (กวาง วรรณปิยะ) ผู้เป็นรักเดียวของเขา จนกระทั่งวันหนึ่งเฟิร์น กลับมาหาเขาพร้อมกับความน่าสะพรึงกลัวบางอย่าง ที่ตามหลอกหลอน และ พาให้คนรอบตัวของเธอ ต้องพบกับความหายนะ จากคำสาปแช่ง อันเกิดจากความลุ่มหลง จมสู่กิเลสอันลึกล้ำ และ ดูเหมือนคำสาปนั้นจะเข้าจู่โจม เชส เพื่อนของเฟรดดี้ที่หลงมาหลงรักเฟิร์นโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย

เฟรดดี้จึงตัดสินใจที่จะป้องกัน และ ขัดขวางไม่ให้เรื่องราวเลวร้าย เกิดขึ้นกับคนที่เขารักทั้ง 2 แม้ต้องเผชิญกับความผิดบาปที่ทั้งสองต่างมีส่วนร่วมสร้างมันขึ้นมาแบกไว้ที่ตนเอง เล่าผ่านด้วยอารมณ์ความรักอันแสนอึมครึม และ ความเย็นเยียบที่กัดกินความเหงาของหนุ่มสาวสมัยใหม่ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง

3: สาปแช่ง

ซัน (หน่อง ธนา) ชายหนุ่มผู้ซึ่งพยายามเป็นที่ยอมรับ และ เป็นสามีที่ดีของจีจี้ผู้เป็นภรรยา วันหนึ่ง เขาเกิดจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงสามวันที่ผ่านมา และ เขารู้สึกว่ามีอะไรตามหลอกหลอนเขาตลอด จนคนรอบข้างต้องหาวิธีช่วยเหลือเหตุการณ์ที่เขาต้องเผชิญ ปะติดปะต่อกันถึงสาเหตุของความทรงจำที่หายไป ท้ายสุดทุกอย่างก็ถูกเฉลย และ ทุกคนก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอันเกิดจากพวกเขาเอง

นี่เป็นตอนที่ทดลองอะไรมากสุด มีของเยอะมาก แต่ปล่อยมาชนปนเปมั่วไปหน่อย ทำให้พล็อตหลักเลือนลาง และ กลายเป็นตอนที่เฟลที่สุดใน 3 ตอน ช่วงแรกนั้นหนังทำได้ค่อนข้างดีกับการผูกปริศนาซึ่งเหมือนเป็นเทคนิคการเล่าที่ผู้กำกับใช้มาตลอดทุกตอนให้คนสนใจติดตามค้นหาความจริง ทว่ากับตอนนี้นั้นกลับใส่ทิศทางของปริศนามามั่วเกินไป ทั้งเรื่องผี ผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายแฟนของพระเอก ภาพหลอนในวัยเด็กที่พระเอกแอบเห็นคุณครูบังอรเล่นคุณไสย

เพื่อนสาวที่ทำงานของพระเอกที่โดนโซเชี่ยลรุมแช่งเพราะบางอย่างที่พระเอกทำไว้ และ ความทรงจำของพระเอกที่หายไป มีเรื่องการสะกดจิต และ พิธีสาปแช่งมาร่วมอีก ทั้งอารมณ์มีทั้งสืบสวน ทั้งผี ทั้งตลก ซึ่งยังไม่กลืนเป็นเนื้อเดียวกันนักโดยเฉพาะสัดส่วนความเป็นตลกที่หลุดเหมือนน้ำคนละเนื้ออยู่ ส่วนกิมมิกที่เชื่อมกับตอนที่ 2 ก็มีรูปปั้นเทพีที่ใช้ประกอบพิธีสาปแช่ง

รีวิว แช่ง chaeng

รีวิว แช่ง chaeng ทั้งสามเรื่องเราว่าปัญหาเดียวที่มีคือการตัดต่อ แช่ง ภาพยนตร์ ที่ยังไม่ค่อยลื่น ตัดฉากสลับไปมาเลยทำให้เรารู้สึกไม่ต่อเนื่อง แต่ด้วยเนื้อเรื่องทั้งสามที่เรียกว่าไม่ได้ none-sense ซะจนรับไม่ได้ แถมยังตรงกับสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจากคนดู ให้ตระหนักถึงคำพูดที่ได้เอ่ยออกไปทุกคำ การที่เราพลั้งพลาดพูดแช่งอะไรใครไป มันไม่มีทางจะนำสิ่งที่ดีกลับมาให้ใคร ทั้งตัวคนที่เราแช่ง หรือ แม้แต่ตัวเราเอง ก็คิดว่าหนังจะสอนให้คนดูตระหนักอะไรได้ไม่มากก็น้อย

บทสรุป

อาถรรพ์จากคำสาปแช่ง ที่เกิดขึ้นจากแรงอาฆาต สาป แช่ง เต็ม เรื่อง ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งการจองเวร 3 เรื่อง 3 ความแค้น หนังผี กับหนังไทย เป็นของคู่กัน และ สำหรับปีนี้ เปิดต้นปี ด้วยหนังผีไทย ที่มีคอนเซ็ปต์น่าสนใจ กับหนังผี 3 เรื่อง ชวนให้นึกถึงหนัง ผี 3 บาท ยังไงยังงั้น และ จากการได้ดูตัวอย่างแล้ว ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศหลอนใช้ได้ สรุปแล้วสำหรับเราหนังเรื่องนี้มีคอนเซ็ปที่น่าสนใจนะ กับการเอาคำสาปแช่งมาเล่น โดยแบ่งเป็น 3 ตอน แต่เหมือนว่ามันเบาเกินไปสำหรับความเป็นหนังผี สักเรื่องนึง

รีวิว bikeman 2

รีวิว bikeman 2

สวัสดีครับพบกับหนังไทยสุดฮา อินดี้ ที่ว่ากันว่า ครั้งนึงในชีวิตต้องดูครับ เป็นเรื่องราวที่เป็นเรื่องครอบครัวนี่นับว่านักแสดงนำทำได้ดีทีเดียวแหละ เปลี่ยนจาก หนังไทยnetflix หนังดูชวนหัวเราะร่า ให้กลายเป็นช่วงเวลาซึ้งอินน้ำตาไหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากเรื่องราวที่ดูไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่า ดูหนังฟรี พ่อที่ต้องการหาคนที่ดีให้ลูก เมื่อลูกบอกว่ามีแฟนแล้วจึงอยากรู้จักครอบครัวของแฟน เป็นหนังคอมเมดี้ที่คิดเร็วทำเร็วได้จริง ดูหนังออนไลน์ หลังจากไบค์แมนภาคแรกออกฉายเมื่อปีที่แล้ว ทำรายได้จากทั่วประเทศทะลุ 100 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมรายได้ที่ขายสิทธิ์ให้ไปอีกหลายประเทศด้วยนะ ส ปอย หนัง ทำให้ “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นหนังคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในช่วงหลัง ๆ ของค่าย รฤก โปรดั๊กชั่น ของ ยอร์ช ฤกษ์ชัย เพราะเรื่องล่าสุดที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ค่ายก็ต้องย้อนไปถึง “คุณนายโฮ” ปี 2555 นู่น รฤก โปรดั๊กชั่น ก็รีบคลอด ไบค์แมน2 ตามติดในปีต่อมา มอบหน้าที่ให้ พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับจากภาคแรกมาสานต่อความสำเร็จ

ด้วยความที่ได้ดูหนังตัวอย่างแล้วรู้สึกว่า หนังไทยเรื่องนี้จะสนุก แม้จะไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อนก็ตามแต่ก็คิดไม่น่าจะเป็นปัญหาในการติดตามเรื่องราว วันนี้ผมจึงได้มาดูหนังไทยอีกเรื่อง แถมยังเป็นหนังไทยภาคต่ออีกด้วย ‘ไบค์แมน 2’ นั่นเองครับ อีกส่วนหนึ่งก็เพราะชื่นชอบในหน้าตา และ ผลงานของน้อง ฝน ศนันธฉัตร เป็นทุนอยู่แล้ว กับความน่าสนใจที่หนังไทยสักเรื่องจะได้ผลตอบรับจนมีภาคต่อ ทั้งหมดรวมกันกลายเป็นแรงผลักดันให้เดินทางฝ่ารถติดเพื่อไปดูหนังเรื่องนี้

ผู้กำกับภาพยนตร์: พฤกษ์ เอมะรุจิ
ควบคุมงานผลิต: ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์
ชื่อภาพยนตร์: ไบค์แมน 2 / Bikeman 2
นักแสดงนำ: พีช พชร จิราธิวัฒน์, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, ค่อม ชวนชื่น, โรเบิร์ต สายควัน

รีวิว bikeman 2

รีวิว bikeman 2

รีวิว bikeman 2 ไบค์แมน 2 ภาคต่อของหนังไทยม้ามืดปีก่อน ที่แจ้งเกิดเป็นหนังตลกน้ำดีที่ซ่อนดราม่าประทับใจเอาไว้ในเรื่องราวอย่างไม่น่าเชื่อ หน้าหนังดูจากเทรลเลอร์ไม่มีส่วนนี้เลย แต่หนังกลับผูกปมเรียกน้ำตาไว้อย่างดีงาม ซึ่งเมื่อน้ำขึ้นก็ต้องรีบตัก ผู้สร้างก็ไม่รอช้าคิดบทสดด่วน ๆ เพื่อทำภาคต่อทันที กลายเป็นว่าจากหนังตลกน้ำดีที่หาได้ยากในเมืองไทย กลับกลายเป็นหนังตลกดาษดื่นตามท้องตลาดเมืองไทยไปซะงั้น

ภาคนี้เรื่องราวต่อจากตอนจบภาคแรกทันที ด้วยการมาของพ่อของจ๋าย (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) ที่มากรุงเทพแล้วพบเจอศักรินทร์กำลังป้อล้อลูกสาวอยู่พอดี จึงตามไล่ล่าแล้วก็กลายเป็นเรื่องราวการขอทำความรู้จักครอบครัวของพระเอก ซึ่งก็กลายเป็นการยกเอาตัวตัวละครเก่ามายกก๊วน เรียกเสียงฮาให้เรื่องราวครั้งใหม่ที่มี “ศักดา” พ่อของจ๋ายเป็นศูนย์กลางของเรื่อง

หนังหยิบเอาสูตรสำเร็จจากภาคแรกมาใช้เพียบ อย่างประเด็นที่ว่าด้วยเรื่อง “การโกหก” รอบนี้ทั้งก๊วนแก๊ง ต้องแต่งเรื่องโกหกว่า จ๋ายกับศักดิ์ เป็นแฟนกันจริง ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกแก๊งที่ต้องช่วยกันแต่งเรื่องมาหลอกศักดาคุณพ่อของจ๋าย ศักดิ์เองก็เล่นตามน้ำไปซะยังงั้น ทั้งที่ในใจเขานั้นอยากเป็นแฟนกันจริงไม่ต้องมาโกหกแบบนี้ หนังก็เลยได้มุกแต่งเรื่องโกหกแบบภาคแรกมาประยุกต์ใช้อีกรอบ

เมื่อตัวละครหลักมารวมกันอยู่หมด การจะเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ทำได้ง่ายขึ้น หนังก็เลยมีฉากเรียงเสียงฮาได้ถี่ ๆ ตลอด 1 ชั่วโมง 47 นาที หนังเรียกเสียงฮาได้จริง แต่พลังความฮายังด้อยกว่าภาคแรกนัก ฉากเด็ดที่สุดในภาคนี้ก็น่าจะเป็น “ฉากงูเห่า” นั่นแหละ

ในขณะที่หนังเดินหน้าไปด้วยเส้นเรื่องหลัก ว่าด้วยการสร้างสัมพันธ์ของ 2 ครอบครัว เส้นเรื่องรองก็คือเรื่องการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างศักดากับเจ้าพ่อที่ต้องการซื้อเหมืองแร่ของศักดาในราคาต่ำ ก่อให้เกิดความอลหม่านยุ่งเหยิงในฉากท้ายเรื่อง ดูแล้วชวนให้นึกถึงสูตรสำเร็จแบบที่ แฟรนไชส์ “บุญชูสระอูยาว” ชอบใช้ในทุกภาค สร้างสถานการณ์ให้ตัวละครมารวมกัน เขียนบทให้หยอดมุกฮาเรี่ยไร่รายทางไปเรื่อย

แล้วจบด้วยความวุ่นวายยุ่งเหยิง แล้ววกเข้าแฮปปี้เอนดิ้งในตอนจบ ไบค์แมน2 ก็มาด้วยสูตรนี้แบบเป๊ะ ๆ แต่ด้วยเหตุที่ว่านี่คือหนังชื่อ “ไบค์แมน” พระเอกของเรื่องคือหนุ่มผู้รักความเร็วของมอเตอร์ไซค์ ฉะนั้นก็ต้องมีฉากให้ศักดิ์ได้โชว์ความสามารถในการขี่มอเตอร์ไซค์ ก็ถือว่าทีมงานหาทางใส่ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ให้ศักดิ์เข้าไปในเรื่องราวได้อย่างลงตัว

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว bikeman 2

ศักรินทร์ เมื่อสามารถสอบเข้าทำงานในธนาคารได้สำเร็จ (เนื้อเรื่องภาคที่ 1) ก็มาชีวิตที่ดี มีความสุข ไบค์แมน 3 พร้อมกับ “จ๋าย” หญิงสาวที่เขาหลงรักมาตลอด แต่ไม่กล้าบอก วันหนึ่งจ๋ายได้บังเอิญพบกับพ่อของเธอ และ ขอให้ศักรินทร์ขับมอเตอร์ไซด์หนี เมื่อพ้นสายตาพ่อของเธอ ศักรินทร์จึงถามจ๋ายถึงเหตุผลที่ไม่อยากเจอพ่อ และ เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อของเธอ จ่ายจึงเล่าให้เพื่อนของเธอฟังว่า พ่อของเธอนั้นชอบบังคับเธอในทุก ๆ เรื่อง และ เรื่องแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น

ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เธอกำลังจะถูกบังคับ เธอจึงขอให้ศักรินทร์ช่วยปลอมตัวเป็นแฟนปลอม ๆ ชองเธอเพื่อหลอกให้พ่อของเธอเชื่อ และ ปล่อยเธอในเรื่องนี้ การที่ศักรินทร์ตอบตกลง ทำให้เขา และ เธอต้องพบกับเรื่องราววุ่น ๆ ของ 2 ครอบครัวที่ตามมา และ นำพาไปผู้ชมทุกท่านร่วมลุ้นไปกับศักรินทร์ และ จ๋าย ในเรื่อง “ไบค์แมน 2” ซึ่งผู้ชมทุกท่านสามารถรับชมได้ทาง NETFLIX

ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ

รีวิว bikeman 2

ยังคงรักษามาตรฐานความสนุก และ ตลกได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่รู้สึกขัดข้องใจเมื่อดูต่อจาก “ศักรินทร์ ตูดหมึก” ซึ่งเป็นภาคที่ 1 แม้เส้นเนื้อเรื่องจะต่างออกไป มีการขี่มอเตอร์ไซด์ซึ่งเป็นจุดเด่นของภาคที่ 1 น้อยลง แต่ในภาคนี้จะเน้นหนักไปที่แอคชั่นมากกว่า โดยจะมีฉากขับหนีการตามล่า หรือขับฝ่าระเบิด

ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่งของหนังชุดนี้ Biker man 2 อย่างไรก็ตามจุดเด่นของเรื่องก็ยังคงเป็นความตลกขบขัน ที่มักจะเรียกเสียงฮาได้เกือบตลอดทั้งเรื่อง โดยนักแสดงทุกคนแสดงออกมาได้ดี และ เข้าถึงอารมณ์ของเรื่อง ส่งให้เรารู้สึกอินตามไปกับเนื้อเรื่อง การที่เน้นหนักไปที่ความรักของพ่อ และ ลูก อาจทำให้หลาย ๆ คนคิดถึงพ่อ หรือแม่ หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบก็เป็นได้ครับ

เนื้อหาความพยายาม ความรัก ความทุ่มเทของศักรินทร์ในการพิชิตใจจ๋ายจากภาคแรกก็หดหายไป เหลือแค่ฉากพยายามเอาใจพ่อตาในอนาคตของศักรินทร์ ซึ่งก็เข้าใจว่าบทหนังโฟกัสไปที่ภารกิจตรงนี้ แต่ก็น่าจะเกลี่ยบทมายังเรื่องราวของทั้งคู่ให้มากขึ้น ซึ่งพอมันแห้งแล้งมาก อารมณ์กุ๊กกิ๊กน่ารักของทั้งคู่ก็เลยหายไปเกือบหมด กว่าจะมาก็โผล่ตอนท้ายเรื่อง ซึ่งเป็นอะไรที่แฟนเรื่องนี้ในภาคแรกน่าจะต้องการมากที่สุด มากกว่าพวกมุกตลกทั้งหลายในเรื่องเสียด้วยครับ

สำหรับหนังเรื่องนี้ จุดด้อยของตัวเรื่อง คือบทละคร ที่ไม่มีความซับซ้อน สามารถคาดเดาได้ง่าย ซึ่งอาจจะขัดใจผู้ชมบางคนที่เสพเนื้อเรื่องเป็นหลัก อย่างไรก็ตามการที่ตัวหนังเป็นหนังตลกแนวครอบครัว ซึ่งจุดประสงค์หลักของเรื่อง คือการเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชม จึงอยากจะให้ทุก ๆ คนมองข้ามจุดด้อยนี้ไปครับ

รีวิว bikeman 2

รีวิว bikeman 2 เนื้อหาหลักภาคนี้บทเล่นวงแคบลงมาก ๆ ทุกอย่างโฟกัสไปที่ภารกิจพิชิตใจพ่อจ๋าย ไบ ค์ แมน 2 HD 2019 ซึ่งบทศักดาพ่อจอมบงการชีวิต หวงลูกสาวเป็นที่ 1 ไม่ได้มีมุกตลกให้ตบให้ชงแล้วหัวเราะโดยตรง แต่เป็นตลกจากท่าทางขึงขังของคาแรกเตอร์แบบนี้เอง ซึ่งเต๋าสมชายก็เล่นได้ดี มีความกวนเฮี๊ยบ ๆ จนกลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกหนังไบค์แมนเพิ่มมาอีกคนได้สบาย ๆ (และ ก็เป็นตัวละครหลักหน้าใหม่คนเดียวที่เพิ่มเข้ามาด้วย)

เมื่อหนังเล่นเรื่องราวต่อจากภาคแรกทันที แถมเลือกเล่นหลัก ๆ อยู่แค่ที่โลเกชั่นเล็ก ๆ ในบ้านต่างจังหวัดกับเหมืองระเบิดหินของพ่อจ๋าย ก็เลยกลายเป็นการหยิบยืมมุกภาคเก่ามาซะเยอะ อย่างมุกปลอมตัวของก๊วนวินมอเตอร์ไซด์ของศักรินทร์ก็ยกมาใช้แบบรีไรท์ใหม่แค่นั้น ตัวละครก็แทบไม่ได้มีพัฒนาการอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย แต่ถ้าใครประทับใจรักในตัวละครแบบเดิม ๆ อยู่แล้ว ก็คงโอเคกับการยกมาทั้งกระบิชุดเดิมหมดแบบนี้

แต่ถ้าคาดหวังหนังตลกควบรวมกับดราม่าดี ๆ แบบที่ภาคก่อนมีให้ ก็คงต้องทำใจยาก เพราะภาคนี้แทบไม่มีความลึกซึ้งของเนื้อหาดราม่าเลย เนื้อหาส่วนหลักมีแต่ความพยายามยัดเยียดมุกตลกจากภาคก่อนเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เห็นจากในหนังตัวอย่างกันไปเกือบหมดแล้ว กลายเป็นหนังตลกสูตรสำเร็จที่อาจจะไม่แป๊ก แต่ก็ไม่ได้สำเร็จน่าประทับใจไปพร้อมกับดราม่าดี ๆ ที่แฝงไว้ในเนื้อหาเนียน ๆ แบบภาคแรก ซึ่งนี่เป็นส่วนสำคัญที่ผมคาดหวังว่าหนังจะยังคงรักษาไว้ แต่กลายเป็นว่าหนังละทิ้งส่วนที่ทำให้หนังดูประทับใจบอกต่อกันปากต่อปากนี้ไป ซึ่งนี่เป็นหัวใจหลักเลยที่ทำให้หนังทำรายได้ยืนยาวจนประสบความสำเร็จแบบม้ามืด

บทสรุป

ในภาคนี้ยังมีความพยายามใส่สกิลนักบิดของพระเอกไว้กับเรื่องราวแอ็กชั่นช่วงไคลแม็กซ์ท้ายเรื่องเหมือนเดิม ไบค์แมน 1 แต่เพิ่มความเว่อร์เข้ามาหลายเท่า ซึ่งก็เป็นอีกสูตรสำเร็จเดิมที่หยิบมาใช้นอกจากมุกตลก ซึ่งก็โอเคเข้ากันดีไม่มีอะไรให้ติ แค่ติดลูกโอเวอร์มากไปเท่านั้น

นี่เป็นหนังตลกที่ยังมีมุกตลกพอขำ ๆ ไปตลอดเรื่อง แต่ออกจะเป็นมุกที่จงใจยัดเข้าฉากมากไปหน่อย กลายเป็นความพยายามให้ตลกแบบไม่เป็นธรรมชาติมากไป ซึ่งก็แล้วแต่เส้นหัวเราะของแต่ละคน (ผมขำพอสมควร) ถ้าดูในโรงก็รับว่ายังทำเอาคนค่อนโรงขำได้อยู่ ซึ่งหนังคงสอบผ่านไปได้

แต่ก็เสียดายเรื่องราวดราม่าลึกซึ้งที่ผูกปมไปกับเรื่องราวดี ๆ ในแบบภาคแรกหายไป แม้จะมีความพยายามยัดมาตอนท้าย แต่ก็ไม่ได้ประทับใจเท่ากับในภาคแรกที่ทำไว้ได้ดีมากนัก ถ้ามีทำต่อในภาค 3 ก็หวังว่าจะหวนกลับมาให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากขึ้น ไม่งั้นหนังเรื่องนี้ก็คงกลายเป็นหนังตลกโหล ๆ อีกเรื่องหนึ่งของไทยไปจนได้ครับ

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

สวัดสีครับหากพูดถึงช่วงหยุดฤดูร้อน ใครๆก็คงนึกถึง ประเพณี นึง อย่าง สงกรานต์ วันนี้ผมจึงหยิบยกหนัง แสบสะท้านโลกันตร์ มาแนะนำ ซึ่งผมเชื่อลึก ๆ ว่าหาก หนังไทยnetflix เอ็มมานูเอล ลูบิซกี้ หรือ ลุงโรเจอร์ ดีกินส์ ได้ดูสงกรานต์สะท้านโลกันตร์ ก็ต่างต้องทบทวนการทำงานตัวเองเสียใหม่ ส ปอย หนัง เพราะกฎพื้นฐานในการคุมความต่อเนื่องของภาพไม่ได้อยู่พจนานุกรมของ พี่พชร์ ที่ถือว่า ความต่อเนื่องเป็นธุระของผู้ชม ดูหนังออนไลน์ เราเลยได้เห็นตำแหน่งตัวละครที่ถือเป็นอนิจจัง เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา ทิศทางการตัดต่อภาพแต่ละกล้อง ดูหนังฟรี พี่พชร์ให้อิสระกับระบบตัดต่อระบบ AI เต็มที่ ซึ่งถือเป็นมุมมองใหม่ที่มนุษย์อาจคิดไม่ได้ ซึ่งบรรดานักเรียนหนังควรศึกษาไว้เป็นตัวอย่าง และ ถ้าจะให้ดีควรไปขับไล่อาจารย์ที่สอนวิชาตัดต่อตามโรงเรียนหนังหรือมหาวิทยาลัยที่ตามเทรนด์นี้ไม่ทันออกจากระบบการศึกษาให้หมด!

ภาพยนตร์ตลกอารมณ์ดีที่เข้าฉายในช่วงประเพณีสงกรานต์ปีก่อน (11 เมษายน 2019) นำแสดงโดยตัวเอก นิก คุณาธิป จับคู่ พิ้งกี้ สาวิกา พร้อมดาวตลกดัง อาทิ โรเบิร์ต สายควัน , น้าค่อม ชวนชื่น,นุ้ย เชิญยิ้ม,บอล เชิญยิ้ม ฯลฯ โดยเป็นเรื่องราวของค่ายมวย เสือ ส. วาเลนไทน์ ที่กำลังตกต่ำสุดขีด และ ต้องปลุกปั้นยอดนักมวยคนใหม่ขึ้นกอบกู้สถานการณ์

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ นับว่า สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในปีนี้ของผู้กำกับ พชร์ อานนท์ หลังจากปลายปีที่แล้วส่ง หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ (2018) ที่คาดว่าจะเป็นการปิดฉากแฟรนไชน์ภาพยนตร์ ซึ่งได้กระแสตอบรับจากแฟนหนังขาประจำค่อนข้างดีทีเดียว

แม้ดีกรีความฮาจะลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นที่นิยม และ ถูกพูดถึงมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง

งานนี้ผู้กำกับร้อยล้านก็ยังไม่หยุดพัก สานต่อโปรเจกต์สร้างความฮากับ สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ ตามมาติด ๆ โดยคราวนี้ได้ดาวตลกฮาลำดับต้น ๆ ของวงการจากทีมบริษัทฮาไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น น้าค่อม ชวนชื่น, ตั๊ก บริบูรณ์, บอล เชิญยิ้ม, โรเบิร์ต สายควัน รวมไปถึงนางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา สองหนุ่มหล่อหน้าใส นิก คุณาธิป และ ยอร์ช ยงศิลป์

ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มาเป็นตัวละครหลัก และ ช่วยสร้างสีสันใหม่ ๆ จากตัวอย่างแรกก็พอจะทราบแนวทางการดำเนินเรื่องว่าจะไปในทิศทางใดบ้าง จะออกมาฮาถูกใจแฟน ๆ แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละบุคคลไป

ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ คนน่าจะเกิดอาการเดียวกันหลังจากได้เห็นตัวอย่างหนังที่ถูกปล่อยออกมาให้ชมกันก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ในใจก็ได้แต่หวังว่า สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ จะทำให้เกิดความหวังในการสร้างเสียงหัวเราะได้สำเร็จ หลังจากผลงานส่วนใหญ่ที่ผ่าน ๆ มาของผู้กำกับค่อนข้างจะฝืด และ ฝืนพอสมควร

เมื่อได้รับชมเรื่องราวต่างใน สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ ต้องยอมรับว่าสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อนอกเหนือจะไปจากความตลกที่ได้จากทีมบริษัทฮาไม่จำกัดแล้ว หนังสอดแทรกเรื่องราวความพยายาม ความตั้งใจ และ การพิสูจน์ตัวตนผ่านตัวละครหลาย ๆ ตัวที่ไม่แน่ใจว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม มันทำให้เราเห็นมุมดี ๆ อีกมุมหนึ่งก็ว่าได้

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

หลัง สมจริง จงจ้องหอย (สมจิตร จงจอหอ) นักมวยค่ายตัวเองต้องปราชัย เสือ ส. วาเลนไทน์ (น้าค่อม ชวนชื่น) เจ้าของค่ายมวยก็ดูจะหมดหวังกับการปั้นใครขึ้นมาแทน ยิ่งความแค้นทำให้พลั้งปากท้าส่งนักมวยไปต่อยกับค่ายของศัตรู (ตั๊ก บริบูรณ์) จนต้องปั้นนักมวยรายใหม่ขึ้นมา แต่จะเอาไอ้แหว่ง (บอล เชิญยิ้ม) เหยิน (นุ้ย เชิญยิ้ม) ก็ดูสิ้นหวัง สงกรานต์ แสบสะท้าน โล กันต์ เต็มเรื่อง

หรือจะเป็นสองลูกชายสุดหล่ออย่าง ปีใหม่ (ยอร์ช ยงศิลป์) หรือ ลอยกระทง (นิก คุณาธิป) ก็ดูจะไม่เอาในทางมวยเสียเลย คงเหลือแต่ สงกรานต์ (โรเบิร์ต สายควัน) ลูกชายที่เคยถูกจับในวันบวช เป็นความหวังสุดท้าย แต่จะได้ชัยชนะหรือไม่คงต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อย

ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

ในส่วนของเรื่องราวความฮานั้นถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางฝืดเสียส่วนมาก สงกรานต์ แสบสะท้าน โล กันต์ เต็ม เรื่อง movie2free ซึ่งเสียงหัวเราะที่ได้ส่วนใหญ่มาจากบทบาทของ น้าค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน แค่เปล่งออกมาเพียงไม่กี่ประโยคก็ได้ใจไปแล้ว ส่วนตัวละครอื่น ๆ ก็นับว่ามาช่วยสร้างสีสัน บางครั้งยังคิดเลยว่าไม่มีก็ได้ โดยเฉพาะบทบาทของสองหนุ่มหน้าหล่อ นิก และ ยอร์ช ดูช่างไร้มิติ เหมือนมาเพียงแค่เรียกกระแสจากสาว ๆ เท่านั้น

ในทางเขียนบท นักเรียนมักถูกกำหนดกรอบในการคิดเรื่องด้วยการวาง พลอต ไว้ก่อนซึ่งถือเป็นเป็นการตีกรอบความคิดที่ควรอิสระ ดังนั้นการได้ดู สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ น่าจะเป็นการเปิดโลกการศึกษาได้เป็นอย่างดีครับ เพราะหนังเรื่องนี้มีเหตุการณ์หลายอย่างที่อัดแน่นกันตลอดเวลาร่วมชั่วโมงกว่าๆ ทั้งค่ายมวยที่มีทั้งพ่อคอยด่าลูกๆ มีพระมาฉันเพลแต่ฉันไม่ทันเที่ยงจนหิวเพื่อให้คนหัวเราะ มีห้องน้ำที่สงกรานต์มักเข้าไปอัดควันแล้วเยิ้มออกมา

ซึ่งทุกเหตุการณ์ควรเล่นย้ำๆ อย่างน้อย 2 เที่ยวเพื่อไม่ให้ผู้ชมหลงลืม มีร้านอาหารที่ลอยกระทงเข้าไปจีบ เจ๊เมษา (พิ้งกี้ สาวิกา) อยู่ 1 ครั้งซึ่งไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลใดๆ และมีฉากห้องซ้อมดนตรีที่เราจะได้เห็น ลอยกระทง และเพื่อนๆ มีปัญหากับมอเตอร์ไซค์วินจนได้เมีย ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลเช่นกัน

หรือแม้กระทั่งอาชีพพยาบาลของ เจ๊สิตางศ์ แต่งมา 1 ฉากเพื่อให้ถูกล้อว่าไปกินศพ เหล่านี้ถือเป็นการปลดล็อกกฎเกณฑ์การเขียนบทที่ว่าพลอตคือการวางเหตุการณ์อันเป็นเหตุเป็นผลกันลงโดยสิ้นเชิง ซึ่งถือเป็นคิดพลอตที่ก้าวล้ำมากๆ

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์

รีวิว สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ พจน์ อานนท์ ไม่ได้เป็นศูนย์กลางปัจจัยที่ทำให้หนังไทยไม่พัฒนาหรือไม่ถูกเหลียวแล ไม่ใช่เลย สงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์ netflix คนทำหนัง นายทุน คนทำธุรกิจโรงหนัง รัฐบาล และ คนดูหนังต้องช่วยกันสนับสนุนการทำหนังที่กำลังค่อย ๆ หลากหลาย และ มีคุณภาพอื่น ๆ ให้จริงจัง และ จริงใจ

ขณะเดียวกันก็ต้องอ้าแขนยอมรับหนังแบบ พจน์ อานนท์ และ หนังอื่นที่ถูกมองว่าแย่ให้เป็นหนึ่งเดียวกันในนามของหนังไทยด้วย ไม่ต้องถึงขนาดกับโอบกอดปกป้องหรอก มีติบ้าง ด่าบ้าง และ ชมบ้างก็ได้ และ อย่างน้อยก็จริงใจที่จะให้หนังเหล่านี้ยังคงเป็นหนึ่งในความหลากหลายของหนังไทย และ เติบโตงดงามไปด้วยกัน

เชื่อลึก ๆ ว่าหาก เอ็มมานูเอล ลูบิซกี้ หรือ ลุงโรเจอร์ ดีกินส์ ได้ดู สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันตร์ ก็ต่างต้องทบทวนการทำงานตัวเองเสียใหม่ เพราะกฎพื้นฐานในการคุมความต่อเนื่องของภาพไม่ได้อยู่พจนานุกรมของ พี่พชร์ ที่ถือว่า ความต่อเนื่องเป็นธุระของผู้ชม

เราเลยได้เห็นตำแหน่งตัวละครที่ถือเป็นอนิจจัง เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา ทิศทางการตัดต่อภาพแต่ละกล้อง พี่พชร์ให้อิสระกับระบบตัดต่อระบบ AI เต็มที่ ซึ่งถือเป็นมุมมองใหม่ที่มนุษย์อาจคิดไม่ได้ ซึ่งบรรดานักเรียนหนังควรศึกษาไว้เป็นตัวอย่าง และ ถ้าจะให้ดีควรไปขับไล่อาจารย์ที่สอนวิชาตัดต่อตามโรงเรียนหนังหรือมหาวิทยาลัยที่ตามเทรนด์นี้ไม่ทันออกจากระบบการศึกษาให้หมด!

สตานิสลาฟสกี้ เคยกล่าวว่านักแสดงควรรู้จักความจริงภายในเพื่อความสมจริง ซึ่งถือเป็นความเชื่อผิด ๆ ที่นักเรียนการแสดงทั่วโลกร่ำเรียนมา เพราะหากผ่านการกำกับของพี่พชร์ ผู้ปฏิเสธการสร้างความจริงภายใน หรือการทำสมาธิทุกรูปแบบเพราะกลัวทำหนังไม่ทัน

ดังนั้นจึงเกิดการกำกับแบบเอาความจริงตรงหน้า เช่น คิดบทไม่ออกช่วยพูด ๆ อะไรออกไปให้หน่อย หรือคิวถ่ายจะหมดจะทำอะไรก็ทำ เหล่านี้ถือเป็นงานกำกับชั้นสูงที่เหล่านักเรียนหนังอาจเข้าไม่ถึง หรือ อาจารย์อาจยังไม่เคยสอนเพราะถือเป็นทฤษฎีใหม่ โดยเป็นหน้าที่ของผู้กำกับในการหยิบเลือกเหตุการณ์ที่พอเป็นหนังมาร้อยเรียง แล้วโบ้ยงานในการจัดวางให้คนตัดต่ออีกทีเพื่อให้เงินค่าจ้างคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

บทสรุป

แต่ถึงอย่างไรหนทางที่จะทำให้ภาพรวมของหนังไทยนั้นหลากหลายขึ้นทั้งเรื่องราว ประเภทหนัง แนวการเล่า และ คุณภาพไม่ใช่การไปห้าม พจน์ อานนท์ ไม่ให้ทำหนังภาคต่อแบบ หอแต๋วแตก ห้าม หม่ำ จ๊กมก ไม่ให้ทำหนังแบบ สิ้นสามต่อนหรือห้าม ยอร์ช ฤกษ์ชัย ไม่ให้ทำหนังแบบ สงกรานต์ แสบสะท้านโลกันต์ 037 คุณนายโฮ ซึ่งเป็นหนังในแบบที่พวกเขาสนุกที่จะทำมันขึ้นมา และ คนดูที่สนับสนุนพวกเขาก็สนุกกับหนังในแบบที่เขาอยากดู

และ การห้ามมันก็เป็นการริดรอนสิทธิ์ และ อิสระในการเสพ และ การสร้างสรรค์ไม่ต่างกับการแบนหรือเซ็นเซอร์หนังที่เราเฝ้าก่นด่าหน่วยงานรัฐ อีกสิ่งหนึ่งที่รับไม่ได้เกี่ยวกับมุกตลกในหนังก็คือ การเล่นมุกที่เกี่ยวกับอาหาร เล่นกับของกิน ที่ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่ามันสกปรกมากจริง ๆ

หากหลีกเลี่ยงการนำมุกเหล่านี้มาเล่นมันน่าจะทำให้หนังดูทันสมัย และ น่าสนใจขึ้นไม่น้อยเลย เอาเป็นว่าท้ายที่สุดแล้วหนังจะสนุกหรือไม่สนุกนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการมาดูหนัง หากต้องการความตลก และ เพลิดเพลินก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดี แต่ไม่ถึงขั้นดีมาก

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

สวัสดีจ้าส่วนตัวคิดว่าหลายๆคนคงจะเห็น หนังไทยnetflix หนังไทยเรื่องนี้มีชื่อนักแสดงปรากฏออกมาล่อตาล่อใจแฟนๆอยู่มากมายตั้งแต่เริ่มโปรโมตหนังแล้ว รวมถึงพล็อตหนัง บทหนัง เรื่องย่อที่ดูเหมือนจะง่าย ๆ ดูหนังฟรี แต่ส่วนตัวผมแล้วมันน่าสนใจมาก ว่าด้วย ชายผู้เป็นมะเร็งใกล้ตาย อยากตามหาแฟนเก่าเพื่อคืนของ เพื่อนก็ลงทุนบินจากเมกาเพื่อมาขับรถพาตะลอน ดูหนังออนไลน์ จากนั้น แล้วจะอะไรต่อ เชื่อว่า หลายคนคงมองไว้ก่อนแล้วว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดแค่เรื่องเท่านี้แน่ ๆ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไม่ใช่แค่ตัวละครที่เดินทางพร้อมสำรวจชีวิตตนเอง ส ปอย หนัง ตัวเราคนดูก็ไม่ต่างกัน หนังทำให้เราหวนนึกไปว่า ที่ผ่านมา เราเคยใจร้ายกับใครบ้าง เราเคยทำใครผิดหวังเอาไว้บ้าง เคยทำตัวนิสัยเสียจนวันนึงทำให้ชีวิตใครต้องพังหรือเปล่า แน่นอนว่า ไม่มีใครย้อนอดีตได้ เราทำได้เพียงย้อนความทรงจำ หลังได้รับบทเรียนจากมัน เราก็ก้าวเดินต่อไป

วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (อังกฤษ: One for the Road) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า ผลิตโดย เจ็ตโทน คอนเทนต์ส บล็อกทู ดิสทริบิวชัน และ เฮาส์ตัน สตูดิโอ ของ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ อำนวยการสร้างโดย หว่อง ก๊า ไหว่ และ จัดจำหน่ายโดย เจ็ตโทน คอนเทนต์ส โดยจีดีเอช ห้าห้าเก้า เป็นผู้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำแสดงโดย ธนภพ ลีรัตนขจร และ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ตัวภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานตัดสินใจออกเดินทางด้วยรถยนต์ด้วยกันเพื่อตามหาเพื่อนเก่าเพื่อคืนของสำคัญ และ บอกลากันก่อนจากไป

ชื่อเรื่อง : One for the Road (วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ)
ผู้กำกับ : นัฐวุฒิ พูนพิริยะ
ความยาว : 2 ชั่วโมง 16 นาที
แนว : ชีวิต , ดราม่า , มิตรภาพ
วันที่ฉาย : 10 กุมภาพันธ์ 2022
ช่องทางการรับชม : วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’ เดินเรื่องคล้าย ๆ ว่าไม่รีบร้อน แต่บทจะเข้าท่อนฮุคก็จัดเต็มแรง ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงไม่ใช่แนวโรแมนซ์​ แต่เป็นดราม่าที่แทรกทั้งเรื่องราวความรัก ครอบครัว ฐานะ ความฝัน ความทรงจำ และ ความสัมพันธ์ รวมทั้งหมดเอาไว้ด้วยกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

จากตัวอย่างหรือช่วงเวลาเริ่มต้นของหนัง อาจบ่งบอกถึงความเป็นทริปแห่ง redemption ของผู้ชายนิสัยห่วย ๆ สองคน ที่คนดูหลายคนอาจมองอย่างไม่สบอารมณ์ว่าเหตุใดพวกเขาถึงต้องหาเรื่องกลับไปหาแฟนเก่าที่ตนเองเคยทำระยำทิ้งไว้ อาจไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะยินดีกับการกลับมาเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย

แต่หนังก็ยังเล่าไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนอีกด้วย อู๊ดกับบอส ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ใครจะรู้ว่าก่อนหน้าที่จะมีวันนี้ พวกเขาเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง สิ่งใดที่พวกเขาทำต่อกัน และ พาให้ชีวิตของพวกเขาเดินมาถึงตรงนี้ หนังจะพาเราไปสำรวจ องก์ที่สามจึงดูหนักหน่วงแต่แตกต่างไปจากก่อนหน้า

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของ อู๊ด (ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์) ที่ป่วยเป็นโรคร้าย และ มีเวลาอยู่ได้อีกไม่นาน เขาจึงตัดสินใจโทรตามเพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของบาร์อยู่ที่ New York อย่าง บอส (ต่อ ธนภพ) ให้กลับมาเมืองไทย เพื่อพาเขาขับรถไปเจอหน้าแฟนเก่าครั้งสุดท้ายก่อนตาย วันสุดท้ายก่อนบายเธอออนไลน์

เพราะหมอไม่อนุญาติให้เขาขับรถ เลยต้องให้เพื่อนมาขับให้ ซึ่งเขาจะไปหาแฟนเก่าทุกคนเพื่อเคลียร์ และ ไม่ให้มีอะไรค้างคาต่อกันอีก เรื่องราวของพวกเขาทั้งสองคนจะลงเอยอย่างไร และ จะทำได้สำเร็จตามที่คิดไว้หรือไม่ คงต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

บอกก่อนเลยว่า ดีเกินคาดมาก ๆ งานภาพสวยจริง ๆ ยอมรับเลย ไม่เสียชื่อหว่อง กาไว จริง ๆ งานละเอียด และ ดูสากลกว่าหนังไทยทั่วไปมาก ๆ วันสุดท้ายก่อนบายเธอ hd แต่ต้องบอกว่าเรื่องนี้งานภาพไม่ได้ออกมาสไตล์หว่องขนาดนั้น แต่ก็มีกลิ่นอายไม่น้อย แต่ไม่เหมือนไปซะทั้งหมด ซึ่งบอกเลยว่าไม่ได้มีดีแค่งานภาพที่สวยงาม แต่มันดีเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะบท ที่เขียนมาได้ดีมาก ๆ มีรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ทำให้ได้เห็นมิติของตัวละครทุกตัวได้อย่างชัดเจน และ ทำให้คนดูเข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้อย่างถ่องแท้

แถมทุกอย่างยังมีความหมาย และ สื่อถึงกันแบบหมดจด ทำให้รู้เลยว่า คนทำหนังเขาตั้งใจให้มันออกมาดีจริง ๆ ในส่วนของนักแสดงก็แสดงดีกันทุกคน โดยเฉพาะซีนดราม่า ทำกันได้ดีไม่มีข้อกังขา แต่ขอติเรื่องบทพูดบางฉาก ที่บทพูดมันแปลกๆ ดูไม่ธรรมชาติยังไงไม่รู้ แต่ก็แค่บางฉากแหละ ภาพรวมคือดีหมด

นอกจากงานภาพที่ผมชอบมาก ๆ แล้ว อีกอย่างที่ชอบคือเพลง เสียงประกอบฉากต่าง ๆ ทำออกมาได้โคตรดีมาก ๆ เลือกเพลง และ เสียงประกอบฉาก และ อารมณ์ต่าง ๆ ได้ดี เหมาะกับภาพ และ สถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ไปอย่างลื่นไหล อีกอย่างคือการที่เอาเสียงของตัวละครพ่อที่เป็นดีเจคลื่นวิทยุมาใส่ประกอบเป็นเสียงพื้นหลังอยู่เป็นระยะ ๆ มันเป็นอะไรที่เท่ห์ และ ดีมาก ๆ จริง ๆ เพราะเสียงที่คลอนั้นมันซ่อนเรื่องราวและความรู้สึกของตัวละครหลักไว้ ทำให้หนังมันมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมามาก ๆ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ

รีวิว วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ 2021 เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564 และ ได้รับรางวัล World Dramatic Special Jury Award จากงานดังกล่าว ผลตอบรับของภาพยนตร์อยู่ในระดับกลาง ๆ คิม ยูทานิ ผู้คัดเลือกหนัง และ จัดเทศกาลซันแดนซ์ ระบุว่าเป็นภาพยนตร์ที่เข้ามาไม่ทันตั้งตัว วันสุดท้ายก่อนบายเธอ netflix จึงถูกจัดให้ฉายในวันเปิดงาน และ ส่งเข้าประกวดในหมวดหนังจากทั่วโลก (นอกอเมริกา) ในประเภทดราม่า ตัวภาพยนตร์มีกลิ่นอายความเป็น หว่อง ก๊า ไหว่ โดยชัดเจน วาไรตี ระบุว่าตลอดเวลา 136 นาที

ภาพยนตร์มีความตื่นเต้น และ ชื่นชมในลูกเล่นการเล่าเรื่องที่ฉลาดของบาส ที่พลิกไปพลิกมาแถมบางครั้งยังกล้าล้มล้างพล็อตตั้งต้นอย่างมีรสนิยม ด้าน เดตไลน์ ระบุว่าแม้จะน่าเสียดายที่หว่องกาไวไม่ได้สร้างหนังอะไรมา 8 ปีแล้ว แต่การมาอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ก็งดงาม และ พิเศษไม่แพ้กันเลย แต่ อินดีไวร์ ให้คะแนนเพียง C+ โดยติว่า หนังมีความละมุนหวนให้อดีตที่สวยงาม ราวกับการพินิจรถคลาสสิกเรียบหรู

ทว่าเมื่อผู้กำกับเข้าเกียร์เดินเครื่องแต่ละทีกลับกระชากและ ให้อารมณ์ที่รุนแรงท่วมท้นไปพร้อมกัน รวมถึงความไม่เข้ากันของผู้รับบทสองคนคือ ธนภพ และ ณัฐรัตน์ รวมถึงการสับเปลี่ยนระหว่างพาร์ทเนื้อเรื่องของทั้งสองตัวละคร ทำให้บทสรุปของภาพยนตร์ในช่วงสุดท้ายดูไม่มีเหตุผล และ การที่ผู้กำกับใส่ความเป็นหว่องกาไวเข้ามา มันเยอะดูเหมือนจะยัดเยียดเกินไปซึ่งไม่เข้าท่า

บทสรุป

โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ แล้ว วันสุดท้าย ก่อนบายเธอ เต็มเรื่อง พากย์ไทย ผมชอบพอสมควร แต่ก็ยังไม่ถึงกับชอบมาก แต่รับรองว่าไม่เสียดายค่าตั๋วแน่นอน 100% ความดีงามของเรื่องนี้มันอยู่ระดับที่เอาไปฉายให้ต่างชาติดูได้แบบไม่อายเลย ผมมองว่าหนังไทยควรเริ่มจากหนังดราม่าเนี่ยแหละ เพราะใช้ทุนไม่เยอะ แต่สามารถทำออกมาให้ดีในระดับสากลได้

ถ้าอยากเห็นหนังไทยดีขึ้น และ สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนหนังไทยกัน แต่ไม่ได้บอกว่าให้ดูทุกเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ควรดู เพราะมันดีจริง คนทำจะได้มีกำลังใจทำหนังดี ๆ ออกมาให้เราได้ดูอีก สุดท้ายนี้ ขอให้คะแนนไว้ที่ 9/10 เลยแล้วกันครับ

รีวิว อาชญาเกม

รีวิว อาชญาเกม

สวัสดีครับ นี่ก็นับว่าเป็นหนังไทยม้ามืดอีกเรื่อง หนังไทยnetflix ที่โดยความรู้สึกส่วนตัวแล้วแอบรู้สึกเซอร์ไพรส์พอควรหลังจากปล่อยตัวอย่างมาแล้วมู้ด และ โทนหนังมันดูน่าสนใจดูดีมาก เป็นดราม่าธริลเลอร์ที่ดูเข้มข้นทีเดียว สำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Up Rank อาชญาเกม คือภาพยนตร์ไอเดียสุดเจ๋งจาก Kantana Motion Pictures และ XSpring โดยฝีมือของสองผู้กำกับ กัลป์ กัลย์จาฤก และ วทัญญู อิงควิวัฒน์ ส ปอย หนัง ที่หยิบนำเรื่องราวอีกด้านของวงการเกมอย่าง ‘การรับจ้างปั๊มแรงก์’ ดูหนังออนไลน์ ที่แม้จะผิดกฎเกมแต่ก็ไม่ผิดกฎหมายมานำเสนอ ดูหนังฟรี พร้อมได้ 4 นักแสดงนำรุ่นใหม่อย่าง เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ, กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ หรือ กิต Three Man Down, แจ็ค-กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา และ มีน-สุดารัตน์ ผุงศิริ มาร่วมฟอร์มทีมรับจ้างครั้งนี้

หนังไทยม้ามืดที่ส่วนตัวรู้สึกเซอร์ไพรส์พอควรหลังจากปล่อยตัวอย่างมาแล้วมู้ด และ โทนหนังดูดีมาก เป็นดราม่าธริลเลอร์ที่ดูเข้มข้นทีเดียว แต่ก็คงเช่นเดียวกับผู้ชมกลุ่มเป้าหมายของหนังซึ่งคงเป็นวัยรุ่นที่เล่นเกมอยู่แล้วบ้าง ที่ดูแล้วก็เกิดคำถามตั้งแต่ตัวอย่างว่า การปั๊มแรงก์

ที่นำมาเป็นหัวใจของหนังนั้นมันเป็นปัญหา และ นำพามาถึงความรุนแรงอย่างที่เสนอได้เลยหรือ ? แน่นอนว่ามันก็ต้องให้โอกาสผู้สร้างในการนำเสนอก่อน ถ้าเขาเอาชนะความสงสัยนี้ได้ ที่เหลือก็สบายเพราะดูทรงแล้วทำได้ดี แต่ถ้าผ่านไม่ได้ก็จะทำให้หนังที่เหลือยืนอยู่บนข้อสงสัยว่ามันไม่น่าจะเกิดจริงได้ ซึ่งเป็นอันตรายพอควรถ้าอยากทำหนังบันเทิงให้คนอิน

รีวิว อาชญาเกม

รีวิว อาชญาเกม

รีวิว อาชญาเกม หากภาพยนตร์เรื่อง Mother Gamer เกมเมอร์ เกมแม่ (2563) ของผู้กำกับ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร เป็นผลงานที่ทำหน้าที่พาผู้ชม (โดยเฉพาะผู้ใหญ่) ไปทำความรู้จักกับโลกของวงการเกมอีสปอร์ตไทย เพื่อยืนยันกับทุกคนว่า ‘เกม’ ไม่ได้เป็นเพียงสื่อบันเทิงชนิดหนึ่งเท่านั้น แต่มันยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพหรือเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตได้จริง ๆ

The Up Rank อาชญาเกม ของสองผู้กำกับ กัลป์ กัลย์จาฤก และ วทัญญู อิงควิวัฒน์ ก็ดูเหมือนจะเป็นผลงานที่กำลังนำเสนอ ‘มุมมองอีกด้าน’ ของวงการเกมให้เราได้ทำความรู้จักผ่านการหยิบประเด็นของการรับจ้างปั๊มแรงก์ หรือการรับจ้างเล่นเกมให้กับลูกค้าที่อยากให้ไอดีของตัวเองอยู่ในระดับแรงก์ที่สูงเหนือกว่าใคร ซึ่งผู้เขียนคิดว่าผู้กำกับ และ ทีมสร้างสามารถตีโจทย์ และ นำเสนอเรื่องราวดังกล่าวออกมาได้อย่างน่าสนใจ และชวนติดตามมาก ๆ

อย่างแรกคือการตัดสินใจที่จะไม่ลงรายละเอียดของ ‘รูปแบบการเล่น และ การแข่งขันภายในเกม’ มากนัก และ เลือกที่จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของกลุ่มตัวละครหลักที่ต้องเผชิญกับปมปัญหาต่าง ๆ เป็นหลัก

มันจึงทำให้ตัวภาพยนตร์มีความชัดเจนในเนื้อหาที่อยากจะเล่า และ ไม่พาผู้ชมหลุดไปจากประเด็นดังกล่าวมากนัก ซึ่งหากว่ากันตรง ๆ มันก็คือการโกงนั่นแหละ และ หากถูกจับได้ บทลงโทษของคน ‘จ้าง’ หรือ ‘รับจ้าง’ ก็คือการถูกแบนออกจากเกมนั้น ๆ หรืออาจถูกแบนจากวงการเกม และ ดูเหมือนว่าผู้กำกับ และ ทีมสร้างจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ประเด็นของการรับจ้างปั๊มแรงก์เท่านั้น แต่พวกเขาเลือกที่จะลอง ‘ขยายผล’ ของประเด็นดังกล่าวให้กว้างขึ้นว่าหากการรับจ้างปั๊มแรงก์มันสามารถทำเงินได้ดีจนเติบโตเป็นธุรกิจได้จริง ๆ มันจะเป็นอย่างไร

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว อาชญาเกม

หนังจะเล่าผ่านสายตาของ ยู (กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ หรือ กิต วง Three Man Down) เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นเกม แต่มักถูกคนรอบตัวมองว่าไม่มีอนาคตโดยเฉพาะจากพ่อของเขา (ดู๋-สัญญา คุณากร) ที่มองว่าเอาแต่เล่นเกมจนไม่ไปเรียนไม่หางานทำ โชคดีที่บ้านของยูมีธุรกิจงานพิมพ์เล็ก ๆ พ่อจึงใช้ยูไปส่งของให้ลูกค้าบ้าง

วันหนึ่งเขาได้รับข้อเสนอจาก โฮม (เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ) ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมรับจ้างปั๊มแรงก์ที่ชื่อ The Up Rank ร่วมกับ พีท (แจ๊ค-กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา) อดีตโปรเพลเยอร์อีสปอร์ตที่ยังมีฝีไม้ลายมือเป็นกำลังหลักของทีมปั๊มแรงก์ และ ทอย (มีน-สุดารัตน์ ผุงศิริ) สตีมเมอร์สาวสวยที่เป็นแฟนกับพีททำหน้าที่ประสานงานกับลูกค้า อาชญาเกม เต็มเรื่อง เมื่อกิจการไปได้ดีโฮมเริ่มคิดการใหญ่ขยายจำนวนทีมเพื่อรับจ้างปั๊มแรงก์ให้ได้มากขึ้นโดยไปกู้เงินนอกระบบจากมาเฟีย (เฟิด-คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ หรือ เฟิด วง Slot Machine) ซึ่งเป็นก้าวที่ทำให้โฮมถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว และ เมื่ออะไร ๆ ไม่เป็นดังหวังจนทีมเริ่มแตก โฮมก็เริ่มใช้อำนาจจอมบงการเข้าควบคุมทุกคนโดยไม่เลือกวิธีการ

ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ

รีวิว อาชญาเกม

จุดเด่นข้อต่อมาที่เราอยากชื่นชมเป็นการส่วนตัวคือ งานโปรดักชันที่เข้ามาเสริมให้บรรยากาศของภาพยนตร์จริงจัง และ เข้มข้นมากขึ้นหลายเท่า อาชญาเกม รีวิว ทั้งการเลือกใช้การตัดต่อแบบ Quick-Cut เพื่อให้เรื่องราวในบางฉากมีความกระชับ และ ดูน่าสนใจ หรือการเลือกใช้มุมกล้อง และ การจัดแสงเพื่อขับเน้นคาแรกเตอร์ของตัวละครให้โดดเด่นขึ้นมา ทั้งความน่าเกรงขามของเจ้าพ่อมาเฟียที่รับบทโดย เฟิด-คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ (เฟิด Slot Machine)

ที่แม้จะออกมาน้อย แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความอันตรายของตัวละครตัวนี้ได้ทุกครั้ง หรือจะเป็นการเปลี่ยนสีเสื้อผ้าที่ตัวละครยูสวมใส่เพื่อนำเสนออารมณ์ และ ความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวละคร ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ก็ยังมีจุดที่เรารู้สึกเสียดายในแง่ของการนำเสนอ Background และ ปมปัญหาของตัวละครให้ผู้ชมรู้จัก

ซึ่งเราคิดว่าผู้กำกับ และ ทีมสร้างใช้เวลาในการเล่าเนื้อหาส่วนนี้น้อยไปสักหน่อย ยกตัวอย่างเช่น เหตุผลที่ผลักดันให้โฮมต้องการเงินจำนวนมาก เขาจึงทุ่มเททุกอย่างเพื่อธุรกิจปั๊มแรงก์ ภาพยนตร์ก็เลือกที่จะเล่าประเด็นดังกล่าวผ่านบทสนทนาสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค และ ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน หรือจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างยูและพ่อ (ดู๋-สัญญา คุณากร) ที่ภาพยนตร์พาเราไปรู้จักพวกเขาเพียงผิวเผินเท่านั้น

รีวิว อาชญาเกม

รีวิว อาชญาเกม เรื่องนี้เป็นการจับมือกันทำหนังของ 2 นักทำหนังรุ่นใหม่ อย่าง “กัลป์ กัลย์จาฤก” และ “โอ๊ต-วทัญญู อิงควิวัฒน์” ที่พวกเขาเลือกที่จะหยิบเอาวงการด้านมืดของวงการเกม อาชญาเกม pantip และ อีสปอร์ตมาตีแผ่ ผ่านวงการปั้มแรงค์เกมที่ถือว่าเป็นกิจการใต้ดินที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้เล่นที่มีฝีมือ และ อาจจะต่อยอดให้กับตัวเอง เป็นด้านมืด ๆ เทา ๆ ที่นานครั้งจะเห็นวงการหนังไทยหยิบเล่นอะไรแบบนี้มาขึ้นจอใหญ่สักหน และ เรื่องนี้ก็กล้าที่จะนำเสนอประเด็นนี้ออกมาแบบขึงขัง

นอกจากนี้ผู้กำกับ และ ทีมสร้างก็สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ของตัวละครหลักทั้ง 4 ตัวออกมาได้น่าสนใจ ไม่มีใครโดดเด่นมากน้อยไปกว่ากัน เช่น ยู เกมเมอร์หนุ่มที่เป็นตัวแทนในการพาผู้ชม (ทั้งคนที่เล่นเกมอยู่แล้วหรือไม่เล่นก็ตาม) เข้ามาทำความรู้จักพื้นที่สีเทาของวงการเกมภายในเรื่อง พร้อมชวนเราตั้งคำถามว่าสิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ และ เราควรจะทำอย่างไรหรือมีมาตรการอะไรเพื่อมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างเห็นผลที่สุด หรือ ทอย

ซึ่งเป็นตัวแทนของสตรีมเมอร์สาวที่เผยให้เราเห็นว่าแม้เธอจะสามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองด้วยการเล่นเกมก็ตาม แต่ขณะเดียวกันเธอก็ต้องเผชิญกับคอมเมนต์บนโลกโซเชียลที่ไม่ให้เกียรติ จนหลายครั้งก็ลามไปถึงการใช้ถ้อยคำที่ส่อไปทางเหยียดเพศหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ยังคงเกิดขึ้นจริงกับสตรีมเมอร์หลายคนในปัจจุบัน และ พีท อดีตโปรเพลเยอร์ที่ถูกเพื่อนร่วมทีมเหยียดหยามในความสามารถจนตัดสินใจลาออกมาทำงานรับจ้างปั๊มแรงก์ร่วมกับโฮม

เพียงแต่ว่าน่าเสียดายไปสักนิด เพราะในท้ายที่สุดแล้วนั้น The Up Rank อาชญาเกม กลายเป็นหนังที่ค่อนข้างจะเพลย์เซฟไปสักหน่อย หนังยังไม่สามารถเข้าถึงแก่น และ ด้านหม่นของวงการเกมที่หยิบมาชูเป็นประเด็นของหนังได้อย่างได้เข้มข้นสักเท่าไหร่ ให้ความรู้สึกเหมือนยังกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะตีแผ่ สุดท้ายจึงกลายออกมาเป็นบทหนัง และ การเล่าเรื่องที่เพียงแค่นำเสนอในระยะผิวเผินของวงการนี้เท่านั้น ไม่ได้ยั้งลึก ไม่ได้สร้างมิติ และ ยังไม่มีแก่นสารที่หนักแน่นมากพอนัก

บทสรุป

ในภาพรวมแล้ว แม้ว่า The Up Rank อาชญาเกม จะมีจุดที่ทำให้เรารู้สึกติดขัดอยู่บ้าง แต่ด้วยกลวิธีนำเสนอที่สร้างสรรค์ งานโปรดักชันที่เก็บทุกรายละเอียด ปมปัญหาหลักของเรื่องที่นำเสนอได้น่าสนใจ รวมถึงการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงทุกคนที่ชวนให้เราเข้าใจ และ มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร อาชญาเกม ภาพยนตร์

ทั้งหมดนี้จึงส่งให้ The Up Rank อาชญาเกม เป็นภาพยนตร์ไทยอีกหนึ่งเรื่องของปีนี้ที่มีความแปลกใหม่ และ นำเสนอเรื่องราวอีกแง่มุมหนึ่งของวงการเกมออกมาได้อย่างน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

หนังไทยnetflix สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำภาพยนตร์ไทย สุดอินดี้ แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอเกริ่นก่อนเลยนะครับว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ไช่สำหรับทุกคน โดยเป็นภาพยนตร์เรื่อง จำเนียร วิเวียน โตมร หนังไทยที่มีความยาว 115 นาที นำแสดงโดย ชมพู่ อารยา, บอย ปกรณ์ และ อาเล็ก ธีรเดช หนังจากค่าย M39 กำกับโดย ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ที่เค้าการันตีมาว่าเป็นหนังตลก จะตลกจริงหรือตลกฝืดก็ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาคุณเอง เพราะกระแสไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก

ส ปอย หนัง เป็นประจำทุกปีที่ค่ายหนัง M39 โดยผู้กำกับอารมณ์ดี ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ จะต้องส่งหนังสายฮาอารมณ์เข้ามาสร้างสีสันในแวดวงภาพยนตร์เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่แห่งการเฉลิมฉลองที่กำลังจะมาถึง ซึ่งสำหรับปีนี้เจ้าตัวก็ได้ส่งภาพยนตร์บู๊-คอมเมดี้อย่าง จำเนียรวิเวียนโตมร เข้ามารับหน้าที่ดังกล่าว ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ชื่อภาพยนตร์ : จำเนียร วิเวียน โตมร
ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้
ผู้กำกับ : ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์
นักแสดงนำ : ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต, บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร ก่อนไปดูได้เห็นตัวอย่างหนังหลายต่อหลายครั้งก็ยังรู้สึกแบบเดิมซ้ำ ๆ ว่า “น่าจะฝืด” เนื่องจากไม่รู้สึกถึงความหวือหวา แปลกใหม่ หรือความตลกที่จะได้จากคนสวยหล่อ และ เดา ๆ ว่าน่าจะหมดมุกแล้วก็คงวน ๆ กลับไป กลับมา กับนักแสดงเดิม ๆ หลายปีที่ผ่านมา “รฤก และ ผกก. ยอร์ช ฤกษ์ไกร” เองก็มีเรื่องที่ตลกแต่ยังไม่มีเรื่องไหนสามารถทลายกำแพงของ “แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า” ที่เคยโด่งดังมาก และ ถือเป็นผลงานการันตีฝีมือ “ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้” ที่เรียกเสียงฮาจนต้องซื้อแผ่นกลับมาดูซ้ำที่บ้านลงได้

เรื่องย่อ/เนื้อหา

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

หนังเรื่อง จำเนียร วิเวียน โตมร เป็นเรื่องราวของ วิเวียน ที่ไปขอพรเรื่องความรักจากศาลเจ้าซึ่งเป็นเหตุให้มีชายหนุ่มสองคนเข้ามาพัวพันในชีวิตเธอ นั่นคือ จำเนียร และ โตมร ที่ทั้งสองต่างแย่งชิงความรักจากหญิงสาว ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กำลังถูกหมายตาจากแก๊งอันธพาลผู้ทรงอิทธิพลในชุมชนย่านนั้น ส่งผลให้ทั้งสามต้องฝ่าฟันทั้งเรื่องราวชุลมุน และ การหาทางออกให้กับความรัก สุดพิสดารในครั้งนี้

ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่า ถ้าใครคิดจะดูเรื่องนี้ไม่ต้องใช้สมองเยอะมันเปลืองพลังงาน ดูขำ ๆ ยามว่างก็พอจ้า พล็อตชายสองคนแข่งกันจีบสาวงามหนึ่งคน แล้วจู่ ๆ ก็แต่งงานกันอยู่กินกันสามคน โดยมีการตามราวีจากแก๊งอันธพาล ไปดูหนังเรื่องนี้ ห้ามพกสมองไปดูเด็ดขาด เพราะหนังหาเนื้อหาสาระไม่ได้ พล็อตกลวงอย่างไร้แก่นสาร ชายสองคนแข่งกันจีบสาวงามหนึ่งคน จู่ ๆ ก็แต่งงานกันอยู่กินกันสามคน มีการราวีจากแก๊งขาลอยเป็นซับพล็อตซึ่งเหมือนมาเอาฮาอย่างเดียว ฉากบู๊ดูปลอม ๆ อย่างตั้งใจปลอม มุกตลกก็มีทั้งฮาบ้างไม่ฮาบ้าง แต่บางอันก็ฮาระดับสิบกะโหลก จําเนียรวิเวียนโตมร เต็มเรื่อง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

จุดเด่นอย่างแรกสำหรับหนังเรื่องนี้มาจากตัวอย่างภาพยนตร์ที่ผู้กำกับเลือกตัดมาให้ผู้ชมได้เห็นว่าเรื่องราวของภาพยนตร์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรักแบบชาย 2 หญิง 1 (ซึ่งทั้งสามฝ่ายต่างยินยอมน้อมรับเงื่อนไขนี้) นับเป็นลักษณะการวางพล็อตที่น่าสนใจทีเดียวว่าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร และ ตัวละครแต่ละฝ่ายจะประคับประคองความสัมพันธ์แบบนี้ไปตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่

ความพิเศษอย่างที่สามสำหรับภาพยนตร์ ก็คือความปังของคอสตูมที่มีความวินเทจ ในเลเวลที่เสริมภาพลักษณ์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะชุดของฝ่ายนางเอก ที่สะท้อนถึงความเชื่อเรื่องโชคลางของเจ้าตัว ทั้งยังสามารถบ่งชี้ยุคสมัยของเรื่องได้แบบคร่าว ๆ อีกด้วยนอกเหนือจากความแปลกใหม่ที่กล่าวไปนั้น…เนื้อเรื่องของภาพยนตร์ก็ดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ทั้งตัวเอก และ ตัวร้ายต่างมีบุคลิกการแสดงออกที่ชัดเจน

อีกทั้ง พระ-นาง แต่ละคนต่างรับส่งมุกกัน อย่างไม่ห่วงหล่อห่วงสวย ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกร่วมไปกับอารมณ์ขัน ที่ผู้กำกับและทีมเขียนบทออกแบบไว้ได้ แต่ที่เด็ดกว่านั้นก็คือเหล่านักแสดงสมทบสายฮาทั้งหลายแหล่ (ทั้งตัวหลัก และ นักแสดงรับเชิญ) ที่พร้อมจะระดมมุกแย่งซีนกันตลอดเวลา ชนิดที่ว่าควรมีสักคนที่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบจากเวทีประกาศผลรางวัล จําเนียร วิเวียน โตมร เรื่องย่อ

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร

รีวิว จำเนียรวิเวียนโตมร กลุ่มเป้าหมายของหนังที่ไม่ว่าจะยังไงก็จะต้องชอบหนังเรื่องนี้แน่ ๆ คือกลุ่มฐานแฟนคลับสามนักแสดงนำในเรื่อง โดยเฉพาะแฟน ๆ ของสองพระเอก บอย – ปกรณ์ และ อาเล็ก – ธีรเดช ฟินลืมแน่นอน มีฉากให้จ้งให้จิ้น กรี๊ดจิกเบาะกันหลายช็อตหลายซีน ส่วน ชมพู่ – อารยา สวยงามตามท้องเรื่อง ชอบแฟชั่นชุดนางทุกชุดทุกสีส่วนคนดูทั่วไปที่ไม่ใช่ติ่งดารา

ถึงแม้อาจจะไม่องไม่อินกับอะไรสักอย่างของหนังก็ไม่เป็นไร เพราะหนังยังมีข้อดีที่ดีมากอยู่อย่างนึง นั่นก็คืองานโปรดักชั่น และ คอสตูมดีไซน์ สีสวยมาก วินเทจอย่างมีสไตล์โดยสรุป จำเนียร วิเวียน โตมร เป็นหนังที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นหนังเซอร์วิซแฟนคลับ ถ้าไม่ใช่แฟนคลับ ก็คิดซะว่าไปดูเอาคลายเครียดส่งท้ายปี ไปนั่งดู บอย – ปกรณ์ และ อาเล็ก – ธีรเดช แข่งกันจีบ ชมพู่ – อารยา และ ก็ชื่นชมความเป๊ะของ ชมพู่ – อารยา กับแฟชั่นวินเทจ 7 วัน 7 สีของนาง ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ย่ำแย่อะไร จําเนียร วิเวียน โตมร pantip

บทสรุป

กล่าวได้ว่า จำเนียรวิเวียนโตมร เป็นหนังที่เน้น “ความฮา” มากกว่าตรรกะ และ สาระว่าด้วย “การเลือกคนดีมาเป็นคู่ครอง” อย่างเห็นได้ชัด…อีกทั้งระดับความตลกของเรื่องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานภาพยนตร์คอมเมดี้ของ ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาความบันเทิงมาเสพแบบไม่ต้องคิดอะไรมากในช่วงปลายปีนี้ เรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับลูกเล็กเด็กแดงนัก หากพาลูกไปดูก็อย่าลืมแนะนำด้วยว่าอันไหนไม่ควรทำตาม

แนะนำว่าเหมาะกับวัยรุ่นขึ้นไป เพราะหนังเองก็แทรกมุกทะลึง ทะเล้น และ ใช้คำหยาบคาย มาอยู่เป็นระยะ ๆ แต่รับรอง “ได้เสียงหัวเราะ” กลับมาแน่ ๆ และ ไม่ทำให้รู้สึกเสียดายค่าตั๋วสำหรับหนัง “โรแมนติกคอมเมดี้” ของคนไทย ถึงแม้เราจะไม่ใช่แฟนคลับเหล่านักแสดงนำที่ตั้งตารอดูฉากแฟนเซอร์วิสก็ตาม สรุปแล้วเป็นหนังที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก

ก็คิดซะว่าไปดูเอาคลายเครียดส่งท้ายปี ไปนั่งดู บอย – ปกรณ์ และ อาเล็ก – ธีรเดช แข่งกันจีบ ชมพู่ – อารยา และ ก็ชื่นชมความเป๊ะของ ชมพู่ – อารยา กับแฟชั่นวินเทจ 7 วัน 7 สีของนาง ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ย่ำแย่อะไร ส่วนตัวให้คะแนนโดยรวม 6 ครับ จําเนียร หาดใหญ่

 

รีวิว love battle

รีวิว love battle

หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับวันนี้มาแนะนำหนังไทยอีกเรื่องที่ชวนให้น่าติดตามไม่น้อย สำหรับ ในเรื่อง ของ ความรัก คุณเชื่อในข้อมูลหรือหัวใจหรือเปล่าละ เป็นธีมสำคัญของหนังไทยเรื่องล่าสุดที่มีชื่อว่า “Love Battle รัก 2 ปียินดีคืนเงิน” หนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ จากค่าย CJ Major Entertainment ที่แม้หน้าตาของหนังจะดูสูตรสำเร็จ แต่หนังก็ถ่ายทอดมุมมองความรักที่มีเรื่องของ “สถิติ” และ “ระยะเวลา” เข้ามาเกี่ยวข้อง ออกมาได้น่าสนใจทีเดียว รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน

เล่าเรื่องราวของ กรมธรรม์สุดแปลก “2 ปี ทวีทรัพย์” เงื่อนไขคือ หากคู่รักคบกันเกิน 2 ปี จะได้เงินคืนบวกกำไร 30% นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้คน 2 คน โคจรมาพบกัน ระหว่าง “แทน” นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ที่ไม่เชื่อในความรัก แต่เชื่อในตัวเลขสถิติ ผู้ออกแบบกรมธรรม์สุดแปลกนี้ และ “จี๊ด” สาว Matching คู่รัก ที่ศรัทธาในรักแท้

ส ปอย หนัง เรามักจะได้ยินประโยคที่ว่า “เพราะชีวิต คือความไม่แน่นอน” อยู่บ่อยครั้ง เราอาจจะพบว่าคนรู้จักรอบตัวเรา ป่วย ไม่สบาย หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตไปโดยที่ ไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ ไม่ทันได้ตั้งตัว ความไม่นอนดังกล่าวทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทประกัน ที่ออกกรมธรรม์ต่าง ๆ เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของชีวิตเหล่านั้น เพียงเพราะผู้ซื้อประกันจะได้รับเงินชดเชย หรือกระทั่งการดูแลในยามที่เราประสบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว love battle

รีวิว love battle

รีวิว love battle เดิมทีบทหนังเขียนโดย คิม มินยอง กับ ชเว จินวอน นักเขียนบทชาวเกาหลี ซึ่งทางโปรดิวเซอร์อย่าง โยนู ชเว ก็เลือกมาพัฒนาบทกับทางซีเจ เมเจอร์ และ เวิร์คพอยต์ โดยให้ทาง วิรัตน์ เฮงคงดี ผู้กำกับยอดมนุษย์เงินเดือนและ รายการดังของเวิร์คพอยต์มากำกับ

ซึ่งจุดเด่นที่สุดของไอเดียเรื่องคงหนีไม่พ้นทัศนคติแบบแอนตี้โรแมนติกของตัวละคร แทน ที่คำนวนทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ความรัก ซึ่งหากทำได้ถึงเชื่อว่านี่น่าจะเป็นหนังโรแมนติกพลอตก้าวหน้าสไตล์เกาหลีเทียบเคียง My Sassy Girl (2001) ได้เลย

แต่น่าเสียดายว่าพอเดินทางมาเป็นหนังไทย ตัวหนังกลับกลายร่างเป็นเพียงหนังโรแมนติกเล่าเรื่องธรรมดาผสมกราฟิกให้พอตื่นตาสไตล์หนังอย่าง Stranger Than Fiction (2006) เท่านั้นเอง โดยหนังดันไม่ลงลึกหรือเล่นกับรายละเอียดประกันมากพอว่ารูปแบบการชำระเบี้ยหรือผลประโยชน์ที่บริษัทจะให้เป็นแบบไหนถ้าเลิกกันก่อน2ปี รู้แค่ว่ารักให้ถึง 2 ปีประกันจะคืนผลตอบแทนให้ 30% และ พอรายละเอียดไม่มากพอความน่าเชื่อถือก็ลดลง ทีนี้การนำมาเชื่อมโยงกับปมปัญหาที่ว่าความรักคนเรามีอายุแค่ 2 ปีจริงเหรอ? เลยไม่ทำงานกับคนดูอย่างที่มันควรจะเป็นนัก

ส่วนในครึ่งหลังที่หนังเริ่มมาเล่าความสัมพันธ์ของ แทน กับ จี๊ด ก็ดันมาแบบงง ๆ โดยสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างประทับใจกัน คนดูได้แต่สงสัยว่า เฮ้ย! แกมองกันไม่ออกตั้งแต่แรกเหรอ แถมการวางปมอุปสรรคช่วงท้ายยังเหมือนดูยัดเยียดให้หนังหักมุมสไตล์หนังเกาหลีที่ต้องการให้คนดูสัมผัสรสเศร้าก่อนจะปลอบประโลมภายหลัง

ด้วยความที่หนังเล่าด้วยจังหวะที่ไม่คงเส้นคงวาทั้งเรื่อง แถมผู้กำกับยังไม่แม่นยำในแนวหนังที่ตัวเองกำลังทำ เลยยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่หนังวางไว้นัก แถมช่วงท้ายที่พยายามเอาคอนเทนต์ RAP IS NOW หรือ แรปอิสนาว ของเวิร์คพอยต์เองมาเป็นจุดพลิกผันของเรื่องยังทำให้เห็นความไม่พร้อมของนักแสดงในการเพิ่มทักษะที่หวังให้เป็นเสน่ห์ตัวละครจนพระเอกดูเอ๋อไปเลย

เรื่องย่อ

รีวิว love battle

เป็นเรื่องราวสงครามความรักของ แทน พระเอกหนุ่มผู้มองความรัก เป็นเพียงตัวเลข สถิติ และ การคำนวณ ด้วยการเอาความรักมาออกกรมธรรม์ ประกันความรัก กับ รัก 2 ปี ทวีทรัพย์ และ ไม่เชื่อว่ามีรักแท้ และ อีกฝ่ายหนึ่ง จี๊ด นางเอกสาวผู้ศรัทธาในความรักอย่างสุดซึ้ง เห็นความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

และไม่สามารถคิดคำนวณได้จึงเกิดสงครามการพิสูจน์ สถิติรัก กับ รักแท้เป็นหนังไทยที่ทำได้แปลกใหม่จากที่เราเคยได้ดู ซึ่งเป็นหนังที่ดูแล้วสนุก และ มีมุขตลก เบาสมอง แต่แฝงด้วยข้อคิดเป็นหนังที่มีเนื้อหาที่เข้มข้น น่าติดตาม มีความหลากหลายของอารมณ์ ทั้งเศร้า ดราม่า และ ตลก จัดว่าเป็นหนังดีมีคุณภาพเลยทีเดียว

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว love battle

ความน่าสนใจของ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน (Love Battle)” อยู่ตรงประเด็นที่ว่า ระหว่างทางของเรื่องที่หนังทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครอย่างแทน และ จี๊ด ในมุมมองของความรักที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาได้เจอกับเคสต่าง ๆ ของลูกค้าประกันรักสองปีทวีทรัพย์ ที่มีทั้งรัก ทั้งผิดหวัง สับสนในความสัมพันธ์ ทั้งสองก็เริ่มกลับมาสำรวจแง่มุมความรักของตัวเอง และ ตกผลึกทีละเล็กทีละน้อย เริ่มทำความเข้าใจในมุมมองของอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น

ตัวหนังเองค่อนข้างประสบความสำเร็จในการทำให้เราเชื่อไปกับโลกของตัวละครในเรื่อง ที่ไม่ว่าจะดู “เสมือนจริง” แค่ไหนก็ตาม แต่ “รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” ก็ยังอยู่ในหมวดหมู่หนังรักแฟนตาซี ที่มีหลากหลายรสชาติของความรัก แต่ท้ายที่สุดแล้ว

หนังก็ทำให้คนดูฉุกคิดได้เหมือนกันว่า ในทุกการตัดสินใจกับความสัมพันธ์ระหว่างคนเรานั้น จำเป็นแค่ไหนกันที่จะหยิบเอาข้อมูล “สถิติ” ของคนอื่น มาตัดสินความสัมพันธ์ของเราเอง ในเมื่อความรักนั้นเป็นเรื่องของคนแค่สองคน หาใช่คนทั้งประเทศหรือคนทั้งโลก

รีวิว love battle

รีวิว love battle โดยบาดแผลสำคัญคงหนีไม่พ้นการที่หนังดันไปเน้นที่ มิชชั่นในการตามเคสประกันมากกว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแทนกับจี๊ดที่กว่าหนังจะคิดได้ก็ปาไปครึ่งเรื่องแล้ว แถมเคสแต่ละเคสก็ยังเป็นเคสเดาง่าย ๆ แม้จะพลิกบ้างเช่น แม่สามีกับลูกสะใภ้เน็ตไอดอล คุณหมอเจ้าของร้านกาแฟกับกัปตันที่ฝ่ายหญิงดันมีอดีตกับแทน (แต่ดูแถให้เกี่ยวข้องกันมากเลย) หรือจะเป็นเจ๊เจ้าของร้านเครื่องสำอางกับเทรนเนอร์ฟิตเนส เพื่อพิสูจน์ว่า ทัศนคติของสังคม, อดีตของคนรัก หรือแม้แต่วัย จะชนะอุปสรรคของความรักได้หรือไม่

แน่นอนละว่าหนังโลกสวยพอจะให้ทุกเรื่องราวจบลงอย่างแฮปปีเอนดิงอยู่แล้วแต่กลับไม่ได้ทำให้คนดูเชื่อหมดใจเหมือนหนังโรแมนติกดี ๆ สักเรื่อง ซ้ำร้ายเรายังรู้สึกว่าบทหนังมักง่ายที่ไม่ได้เจาะลึกหรือให้มิติกับปัญหาความรักในปัจจุบันนัก

ทั้งที่คอนเซปต์ของเรื่องสามารถเดินไปสู่การวิพากษ์ปมปัญหาความรักในยุคดิจิทัลที่ยังคงมีเรื่องความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยมไปอย่างน่าเสียดาย พูดถึงนักแสดง ปั้นจั่น ปรมะ ไม่ได้แสดงแย่อะไร แต่เหมือนบทไม่ค่อยส่งเขาแต่แรก ดันให้มาโชว์เท่ตอนท้ายองก์ 2 ซึ่งถือว่าช้าเกินไป

แถมบุคลิกร้าย ๆ ของเขาในตอนแรกยังไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่าที่ควร ส่วน เอสเธอร์ ต้องบอกว่ารูปทรัพย์ช่วยเธอไว้ได้เยอะ เมื่อบทดันไม่ค่อยให้โอกาสเธอได้เล่นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแต่แรก แต่ครึ่งหลังนี่หลายซีนทำเอาหนุ่ม ๆ ละลายได้เหมือนกัน

ตรงข้ามกับนักแสดงสมทบอย่าง อุล ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา ที่เวิร์คพอยต์ปั้นมาอย่างดี และ เขาก็ขโมยซีนชาวบ้านซะเยอะ แถมให้มุกฮา ๆ กับเรื่องเยอะเลย นอกนั้นการปรากฎตัวของ เป้กกี้ ศรีธัญญา หรือ แรปเอก ก็ทำให้หนังมีสีสันไม่แห้งแล้งเกินไปได้ดี แต่ยังเทียบไม่ได้กับ ป้าแจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล อดีตนักแสดงสังกัดแดสเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มาในมาดคุณหญิงแม่ไม่ปลื้มลูกสะใภ้เน็ตไอดอลได้มีสีสัน และ ให้การแสดงสุดคมคาย รัก2ปียินดีคืนเงิน เต็มเรื่อง พากย์ไทย

สรุป

ถือว่าเป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่ง ดูแล้วสนุก และ ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ และ สุดท้ายยังได้ฝากข้อคิดในเรื่องของความรัก ที่แสดงให้เห็นว่า “ความรัก” นั้นเป็นเรื่องของสมอง และ หัวใจ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว และไม่สามารถที่จะคิดคำนวณออกมาเป็นตัวเลขได้

โดยรวมนี่เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ชอบมากครับ เป็นหนังที่ทำให้หัวเราะได้อย่างเต็มอิ่มมาก ๆ คอหนังรอมคอม ที่มีซีนจิกกัดเสียดสี แต่ภาพรวม Feel Good น่าจะชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากเลยครับ ยินดีคืนเงิน ภาษาอังกฤษ

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ

หนังไทยย้อนยุค คุณเชื่อเรื่องผีมั้ย คุณเคยถ่ายภาพติดวิญญาณมั้ย สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำหนังไทยในตำนานอีกเรื่อง ที่ถ้าหากใครเป็นแฟนหนังผี เชื่อว่าคงจะเคยได้ยินชื่อของ “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ” ผ่านหูกันมาก่อนอย่างแน่นอน แต่หลายคนอาจจะยังไม่มีโอกาสได้รับชมหนังเรื่องนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่มั่นใจว่าสนุกหรือเปล่า!? ถ้าหากใครกำลังลังเลใจว่าควรจะลองเปิดหนังผีเก่า ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณดูกันหรือเปล่า!? รับรองว่าการอ่านรีวิวจากบทความชิ้นนี้จะช่วยไขความกระจ่างได้เป็นอย่างดี อย่างแน่นอน…

ส ปอย หนัง คุณเคยสังเกตภาพถ่ายที่คุณมีอยู่หรือไม่ บางทีอาจมีบางสิ่งซ่อนอยู่โดยที่คุณไม่รู้ตัว เป็นเรื่องราวของ ธรรม์ ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ กับ เจน แฟนสาวของเขา เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง แล้วตัดสินใจขับหนีไป ไม่นานทั้งคู่ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ประหลาด ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

เมื่อภาพถ่ายของ ธรรม์ นั้น ถ่ายติดแสงเงาประหลาดมาด้วย แรกเริ่มเขาก็คิดเพียงว่ามันเป็นแค่รูปเสีย แต่แล้วเขาก็พบว่ามันมีอะไรบางอย่างมากกว่านั้น คือมีเงาคล้ายกับใบหน้าของผู้หญิงติดมาในรูปด้วย ทั้งคู่เริ่มค้นพบว่าเงาที่ปรากฏในภาพทั้งหลายนั้นมีบางอย่างที่เชื่อมโยงถึงกัน ทั้งสองจึงเริ่มออกค้นหาว่าหญิงสาวในภาพคือใคร และ ต้องการสื่อสารอะไรกันแน่…

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ สำหรับ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ นั้น นับเป็นหนังผีสุดคลาสสิคอีกเรื่องของไทย ที่ในตอนฉายก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทะลุ 100 ล้านบาทไปแบบเต็ม ๆ อีกทั้งด้วยความสำเร็จบ้านตัวเอง ก็เลยได้รับความสนใจจากต่างประเทศทั้งจากฮอลลีวู้ด และ อินเดีย ที่ขอซื้อเอาลิขสิทธิไปสร้างต่ออีก ซึ่งหากใครที่ชอบหนังผี หนังสยองขวัญอยู่แล้ว Shutter ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องเก็บไว้ใน List ต้องดูอีกเรื่องอยู่เหมือนกัน ใครที่ชอบหนังสยองไทยพล็อตดี ๆ จากค่ายนี้อย่าง แฝด หรือ ลัดดาแลนด์ แล้ว ก็ควรเก็บเรื่องนี้เอาไว้อีกสักเรื่อง

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (อังกฤษ: Shutter) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญในปี 2547 ร่วมเขียนบท และ กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ณัฐฐาวีรนุช ทองมี และ อชิตะ สิกขมานา สามารถทำรายได้ในประเทศไทย 107.1 ล้านบาท ยังขายลิขสิทธิ์ได้ใน 30 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้ ฉายในสิงคโปร์ได้ 33 ล้าน ที่เกาหลีติดอันดับ 5 หนังทำเงิน ฉายที่บราซิล 4 สัปดาห์แรก ทำรายได้สูงถึง 100 ล้านบาท

ชัตเตอร์ยังได้รับรางวัล Best Asian Film จากเทศกาล Fantasia Film Festival 2005 ที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และ รางวัลหนังแฟนตาซีที่ดีที่สุดในงาน Fantastic’s Arts Festival of Gerardmer ประเทศฝรั่งเศสภาพยนตร์ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2550 กำกับโดย Masayuki Ochiai ผู้กำกับชาวญี่ปุ่น นำแสดงโดย ราเชล เทย์เลอร์ นักแสดงชาวออสเตรเลีย ซึ่งมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Transformer มีกำหนดออกฉายในปี พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ยังมีผู้สร้างภาพยนตร์บอลลีวูด นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ภาษาทมิฬ ออกฉายในปี พ.ศ. 2550 ชื่อเรื่อง Sivi กำกับโดย K. R. Senthil Nathan ผู้กำกับชาวอินเดีย

เรื่องย่อ

รีวิว กดติดวิญญาณ

ธรรม์ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ช่างภาพหนุ่มกับ เจน (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) แฟนสาวของเขา ทั้งคู่ขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งอย่างแรง แล้วตัดสินใจขับหนีไป ต่อมาทั้งคู่พบเหตุการณ์ประหลาด เมื่อภาพที่ธรรม์ถ่ายติดแสงเงาประหลาด และ บางภาพมีเงาคล้ายกับใบหน้าของผู้หญิงติดมาในรูปด้วย และ เป็นที่มาของการสืบเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ part 2

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว กดติดวิญญาณ

ส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ มีความน่าสนใจมากขึ้น อาจเป็นเพราะในช่วงเวลานั้น หนังผีในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงซบเซาเป็นอย่างมาก การเข้ามาของหนังผีที่มีเรื่องราว และ ภาษาหนังที่ถ่ายทอดความรู้สึกในการเป็นหนังผี ในฉากที่ไม่น่าจะมีอะไรก็ทำให้น่ากลัวได้ รวมไปถึงตอนจบที่ทำให้หลายคนคาดไม่ถึง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ กลายมาเป็นหนังที่น่ากลัว แม้จะไม่ได้ดีที่สุดแต่ก็เป็นแบบ “ลงตัว” เมื่อรวมเข้ากับการแสดงที่ดี ทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ กลายมาเป็นหนังที่น่าดูมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว

ในด้านความสยดสยองของภาพยนตร์ความน่ากลัวของผี ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญที่สุดในชัตเตอร์กดติดวิญญาณ และ ขึ้นชื่อลือชาจนกลายเป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดในใจของใครหลายคน มีฉากจำอยู่หลายฉากเช่น ฉากผีหลอกในสตูดิโอถ่ายภาพ ฉากผีหลอกในห้องเรียนวิชาถ่ายภาพ ฉากผีหลอกในห้องล้างฟิล์ม ฉากผีหลอกขณะขับรถตอนกลางคืน ผีหลอกในโรงแรมค่ำคืนวันฝนตก ผีหลอกในห้องแล๊ปชีววิทยาของมหาวิทยาลัย

และ ฉากเด็ดที่สุดที่อยู่ตอนท้ายเรื่องที่ทั่งหักมุม ทั้งตกใจ ทั้งอึ้ง ซึ่งทำให้หลายคนต้องตกตะลึงกับการเฉลยแบบนั้น การออกแบบผีนั้นมีความน่ากลัวสไตน์ญี่ปุ่น ซึ่งสไตล์การหลอกหลอนแบบญี่ปุ่นนั้น ได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้นอย่างเช่นผีใน Juon หรือผีใน the Ring คือการใช้สาวผีผมยาว และ ผีมักคลานเข้าหาตัวละคร หลอนทุกที่ ทุกเวลาไม่เว้นกลางวันกลางคืน ในเรื่องของจังหวะจะโคนจังหวะตกใจ เขาทำได้ดีมาก สรุป ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ

รีวิว กดติดวิญญาณ หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ได้รับการยอมรับจากคนดูทั่วไป และ นักวิจารณ์ภาพยนตร์อย่างมากว่า เป็น “หนังผีที่น่ากลัวที่สุด” และ ชื่อเสียงดังกล่าว ก็ยังคงทำให้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ขึ้นแท่นหนังผีน่าชมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ณ ปัจจุบัน แถมยังเป็นหนังผีที่ได้รับรางวัลมากมาย นอกจากนี้หนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ยังถูกซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นของฮอลลี่วูด และ บอลลีวูดของอินเดียอีกด้วย

เรียกได้ว่าหนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของความน่ากลัว และ พล็อตของเรื่องราว ที่ถูกใจชาวโลกเป็นอย่างมากเลยทีเดียว จากความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง และ วิธีการเล่าเรื่องรวมถึงวิธีการหักมุมที่ชาญฉลาดนั้น ทำให้ชัตเตอร์กดติดวิญญาณเป็นหนังผีขึ้นทำเนียบความน่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งของไทย และ เข้าไปอยู่ในทำเนียบหนังผีที่น่ากลัวที่สุดในดวงใจใครหลายคน ทำรายได้ในการฉายไปประมาณ 107 ล้านบาท ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ส ปอย

บทสรุป

สำหรับผู้เขียนแล้วหนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เป็นหนึ่งในหนังผีในดวงใจตลอดกาลเรื่องหนึ่ง เพราะหนังผีเรื่องนี้ไม่ได้ขายเฉพาะ “ผีตุ้งแช่!” (ผีที่โผล่ออกมาหลอกให้ตกใจแบบไม่ทันตั้งตัว) แต่ในส่วนของเนื้อเรื่อง และปริศนายังมีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ part 1

จนทำให้ต้องคอยลุ้นแบบตัวโก่งไปจนกระทั่งจบเรื่องพร้อมกับความสงสัยว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไรกันแน่!? ดังนั้น ถ้าหากใครยังลังเลใจอยู่ว่าหนังผี ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณน่าดูหรือเปล่า!? อยากบอกเลยว่าไม่ต้องคิดแล้ว แนะนำให้หามาดูรับความหลอนกันเลย รับรองไม่มีผิดหวังกันอย่างแน่นอน…

ชื่อภาพยนตร์ : กดติดวิญญาณ
ประเภท : ผี / สยองขวัญ
ปีที่ฉาย : 2004
IMDb: 7.1/10

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด

หนังไทยมาใหม่ หากพูดถงึหนังไทย คงร้อยละ 60 % หละมั้งครับ ที่เป็นธีม อีสาน 5555 สำหรับผมนั้นไม่ได้ว้าวอะไรกับหนังเรื่องนี้ เนื่องจากเห็นออกมาเรื่อยๆเลยช่วงนี้ ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่เข้าฉายในเดือนพฤษภาคมต้อนรับวันแรงงาน สำหรับ ออนซอนเด ผลงานการกำกับล่าสุดของ ธีรเดช สพันอยู่ ที่นักร้องร้อยล้านวิว เบิ้ล ปทุมราช ขอพ่วงตำแหน่งนักแสดงนำ และ ผู้อำนวยการสร้างด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ยังได้พี่น้องนักร้องเลือดอีสานมาร่วมสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟน ๆ มากมาย อาทิ ก้อง ห้วยไร่, แซ็ค ชุมแพ, ธัญญ่า อาร์สยาม และ ยังได้ แน็ก ชาลี โดดมาสมทบอีกด้วย

ส ปอย หนัง ผลงานเรื่องที่ 2 ของ 3 ศิลปินลูกทุ่งสายอีสาน เบิ้ล ปทุมราช , ก้อง ห้วยไร่ และ แซค ชุมแพ ต่อเนื่องจาก “ฮักแพง” ที่ออกฉายไปเมื่อปีที่แล้ว และ ประสบความสำเร็จไปพอควร เบิ้ล ก็เลยสานต่อโปรเจ็กต์นี้ และ ได้เพื่อนเก่าทั้ง ก้อง ห้วยไร่ และ แซค ชุมแพ กลับมาร่วมงานกันเหมือนเดิม พร้อมทั้งผู้กำกับคนเดิม พร้อมผู้กำกับ ธีรเดช สพันอยู่ ที่รู้มือรู้ใจกันมาก่อนจากเรื่องที่แล้ว มารอบนี้ เบิ้ล ปทุมราช มั่นใจถึงขนาดควักกระเป๋าออกทุนสร้างเองในนาม บริษัท แลนด์ ออฟ สไมล์ ฟิล์ม ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด ถ้าถามถึงพล็อตเรื่องของ “ออนซอนเด” นั้น จัดได้ว่าเบาบางยิ่งกว่ากองฟางข้างทุ่งนาเสียอีก เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้โฟกัสอยู่แค่ “การจีบหญิง” ของ ต่ง (เบิ้ล ประทุมราช) รวย (ก้อง ห่วยไร่) และ หนุ่มน้อยอย่างเดียว (เรียว เชฟแดนปลาแดก) โดยหนังเลือกจะเปิดเรื่องมาที่งานคอนเสิร์ตหมอลำ ซึ่งมีนักร้องอีสานชื่อดังอย่าง “บัวผัน” มาเปิดการแสดง

ด้วยความม่วนของเหล่าแฟนเพลง ต่งที่บังเอิญเหลือบไปเห็นแพตตี้ (ธนาพร มณีพันธ์) สาวสวยที่จากบ้านเกิดแดนอีสานไปนาน เพราะมัวแต่ไปหลงแสงสีในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ต่งจึงไม่รอช้าที่จะตรงปรี่ไปขายขนมจีบขณะที่ต่งกำลังจีบแพตตี้ อ๊อดแอด (แซ็ค ชุมแพ) ขาใหญ่ประจำหมู่บ้านก็ตรงปรี่มา ร่วมวงขอหลีแพตตี้อีกราย

ส่งผลให้สองหนุ่มต้องเข้าปะทะจนเกิดมวยกันกลางงานหมอลำ ร้อนให้เพื่อนสนิทอย่างรวยต้องมาช่วยเพื่อนฝ่าดงตีน ก่อนที่รวยจะได้รับบาดเจ็บระหว่างพาต่งหลบหนีการตามไล่กระทืบจากกลุ่มเพื่อนของอ๊อดแอดระหว่างที่รวยเดินทางไปยังอนามัยของหมู่บ้าน เขาก็ได้พบกับมะลิ (เสาวลักษณ์ สารกาล) คุณหมอคนสวย จมูกคมเป็นสัน หน้ารูปไข่ เขาตกหลุมรักทันที ระหว่างนั้นเองภารกิจตามจีบสาว ๆ ของหนุ่มก็เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความสรวลเสเฮฮาที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

เรื่องย่อ

รีวิว ออนซอนเด

ออนซอนเด ว่าด้วยเรื่องราวของ ต่ง, รวย, อ๊อดแอ๊ด สามหนุ่มอีสานบ้านทุ่งวัยแตกพันธุ์ที่กำลังมองหาแม่พันธุ์ทีดีสำหรับชีวิตคู่ ต่งนั้นต้องการแม่พันธุ์ที่เพรียบพร้อมเลิศเลอเพอร์เฟกต์ จึงมองข้าม ดอกหญ้า สาวไทบ้านเดียวกันที่มอบหัวใจให้ต่งไปทั้งดวง แต่พอมี ยุทธ หนุ่มเมืองกรุงมาดเซอร์ นักอนุรักษ์ท้องถิ่นเข้ามาชอบดอกหญ้า ทำให้ต่งเริ่มไม่พอใจ ส่วนรวยก็ต้องการ มะลิ มาเป็นคู่ชีวิตที่จะดูแลกัน และ กันตลอดไปแต่กำแพงเงินตราที่ต่างชั้นเป็นขวางหนามกั้นกลาง ออนซอนเด เต็มเรื่อง hd

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ออนซอนเด

สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือบรรดานักแสดงนำที่ล้วนเป็นนักร้อง แต่เมื่อมาสวมบทนักแสดง ก็ต้องชื่นชมว่าทุกคนทำได้ดี เล่นกันได้ลื่นไหลเหมือนกับนักแสดงมืออาชีพ มีที่ไม่ผ่านคนเดียวคือ ซาร่า เสาวลักษณ์ นางเอกใหม่หน้าลูกครึ่งที่มาจากเวทีประกวดนางงามหลายเวทีมารับบทเป็น “มะลิ” คุณหมอที่เป็นที่หมายปองของรวย , อาจจะด้วยความสำเร็จของ “ฮักแพง” เรื่องก่อนหน้า และ ตัวเบิ้ล ปทุมราช ที่น่าจะเป็นที่รักใคร่ของพี่น้องร่วมวงการ

ทำให้ “ออนซอนเด” กลายเป็นหนังรวมดาวทั้งวงการตลก และ วงการเพลงลูกทุ่ง ที่มีนักแสดงรับเชิญเยอะมาก นับว่าเป็นสีสันที่ดีของหนัง ที่มีบรรดานักแสดงออกมาแจมคนละนิดคนละหน่อยเยอะมาก น้าค่อม ชวนชื่น และ โรเบิร์ต สายควัน มารับบทเป็นหลวงตา และ ลูกศิษย์วัดตัวแสบ ที่สร้างเสียงหัวเราะได้อย่างดีเหมือนเคย โน้ต เชิญยิ้ม และ เขาทราย แกแล็กซี่ ก็โผล่มาแจมเล็กน้อย

ด้านนักร้องลูกทุ่งก็มรุ่นลายครามมาร่วมแสดงทั้ง ศิรินทรา นิยากร และ สุนารี ราชสีมา และ บัวผัน ทังโส เป็นรายเดียวในเรื่องที่ได้มาโชว์เพลงอีกจุดที่อยากชื่นชมก็คืองานถ่ายภาพ แสดงให้เห็นเจตนาดีของทีมงานผู้สร้างที่แฝงมาในหนัง กับการถ่ายทอดทัศนียภาพความงามของภาคอีสาน

หนังใช้กล้องโดรนในหลาย ๆ ฉาก ให้เห็นความงามของทุ่งนา ชะง่อนผา พระธาตุฯอะไรก็ไม่ทราบชื่อ แต่ทุกฉากที่เน้นภาพมุมกว้างก็ได้ความประทับใจถึงทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา และ สิ่งที่ตามมาก็น่าจะสร้างความใคร่รู้จากผู้ชมว่าหนังไปเสาะหาโลเคชั่นจากที่ไหนมาถ่าย ส่งผลต่อเนื่องถึงการท่องเที่ยวภาคอีสานตามรอย “ออนซอนเด” ก็นับว่าเป็นเจตนาอันดีงามของผู้สร้างที่แฝงมาโดยไม่ได้พยามอวดอ้างเอาความดีความชอบแต่อย่างใด ออนซอนเด เต็มเรื่อง hd พากย์ไทย

รีวิว ออนซอนเด

รีวิว ออนซอนเด ดูเหมือนว่าจากกระแสหนังอีสานที่กำลังมาแรง และ ทำเงินได้ดีในสองสามปีหลัง ๆ มานี้ส่งผลให้หลายค่ายทยอยผลิตผลงานแนวนี้ออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะค่าย เอ็ม พิคเจอร์ส ที่ดูเหมือนว่าจะมาเอาดีสนับสนุนหนังไทยมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่รู้ว่า ออนซอนเด จะทำรายได้มากอย่างที่คาดหวังไว้หรือไม่ เพราะจากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาก็คล้ายกับว่าไม่ค่อยมีมุกให้เล่นมากนัก ออกจะซ้ำซาก และ จำเจไปไม่น้อย

แต่จะว่าไปอาจจะเป็นม้ามืดทำรายได้หลายสิบล้านก็เป็นได้พล็อตเรื่องของ “ออนซอนเด” มีอยู่แค่นี้จริง ๆ หนังเรื่องนี้แทบไม่ต่างอะไรจากละคร “ซิทคอม” ที่ฉายทางฟรีทีวี ที่เน้นขายมุกตลกสถานการณ์ นำพาฉากหนึ่งไปสู่อีกฉากหนึ่งเท่านั้น มุกตลกส่วนมากในหนังเรื่องนี้มักจะเป็นมุกแบบ “ตลกเจ็บตัว” อันเกิดจากความซุ่มซ่ามของตัวละคร

โดยเฉพาะรวย ซึ่งรับบทโดยก้อง ห้วยไร่ ซึ่งลงทุนเล่นฉากเหล่านี้ด้วยการแสดงแบบทุ่มสุดตัว ไม่ว่าจะต้องดูดง่ามเท้าของเบิ้ล ปทุมราช ถูกเตะผ่าหมากเข้ากลางง่ามขา กระโดดคร่อมจักรยานที่ไม่มีอาน ตกหลุมโคลนหน้าคะมำ หรืออีกหลายสถานการณ์ที่จังหวะจะโคนในความซวยนั้น สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูอย่างสัมฤทธิ์ผลถึงจะเป็นหนังประเภทขายเสียงฮาโดยไม่สนใจเส้นเรื่อง

ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังเลือกจะใส่ซับพล็อตรองที่ว่าด้วยการพัฒนาสินค้าอย่าง “ปลาร้าบรรจุขวด” ของครอบครัวต่ง ซึ่งมีสาวดอกหญ้า (ธัญญ่า อาร์สยาม) เป็นสาวที่คอยพัฒนาสินค้า เลือกใช้ช่องทางอย่างโซเชียลมีเดียในการต่อยอดช่องทางการขายให้ได้รับความนิยมของตลาด ก็ถือว่าเป็นโมเมนต์ที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ( และ มีดราม่าเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีกันทางการค้าอีกด้วย)

แต่อย่างที่บอก เมื่อมันไม่ใช่อะไรที่หนังต้องการนำเสนอ ประเด็นเหล่านี้จึงใส่เข้ามาแบบลวก ๆ นำเสนอแบบผ่าน ๆ เสียมากกว่าการขนเอาบรรดานักร้องสายลูกทุ่งยุคใหม่อาทิ ก้อง ห้วยไร่,เบิ้ล ปทุมราช, แซ็ค ชุมแพ, ธัญญ่า อาร์สยาม มาเป็นตัวเรียกแขกนั้น ก็เรียกได้ว่า ทีมผู้สร้างอย่าง แลนด์ อ๊อฟ สไมล์ ฟิล์ม รู้ดีว่าทำหนังเรื่องนี้เพื่อเจาะผู้ชมที่เป็นแฟนเพลงของเหล่านักร้องกลุ่มนี้นั่นเอง ออนซอน เด เต็มเรื่อง 1080p

บทสรุป

ต้องบอกกันตามตรงว่าด้วยเรื่องราวของ ออนซอนเด นั้นไม่ได้มีความแตกต่างหรือแหวกแนวไปจากหนังอีสานเรื่องอื่น ๆ ที่พยายามนำเสนอความเป็นไทบ้านออกมาให้แฟน ๆ ได้ชม ทั้งเรื่องราวการใช้ชีวิต การปรับตัวให้เข้ายุคสมัย จนไปถึงเรื่องราวความรักสามเศร้า รักต่างชนชั้น ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องที่ธรรมดาจนไม่ค่อยน่าสนใจ บางจุดก็ยืดเยื้อไปมาก บวกกับการแสดงของหลาย ๆ ตัวละครที่แข็งทื่อ ทั้งยังต้องพบกับบทบาทเดิม ๆ ของนักแสดงนำ

หนังจึงไม่ได้สร้างความประทับใจเท่าที่ควรแต่ก็ใช่ว่าหนังจะไม่สนุกเลย เพราะก็มีหลาย ๆ ฉาก หลาย ๆ ตอนที่สร้างเสียงหัวเราะ และ รอยยิ้มให้ผู้ชมได้เหมือนกัน ที่สำคัญหนังสร้างเรื่องราวความโรแมนติกคอมเมดี้หวังตีตลาดคนอีสานโดยเฉพาะ โดยเฉพาะความตลกกับการสนทนาแบบอีสาน หากเป็นคนภาคอื่นอาจจะต้องใช้เวลาในการเข้าใจการรับส่งมุกตลกเหมือนกัน อย่างไรก็ตามด้วยภาษาของหนังก็คงไม่ยากเกินกว่าจะเข้าใจแน่นอน ออนซอนเด เต็มเรื่อง 037