รีวิว fearless love
หนังไทยมาใหม่ สวัสดีครับนี่คือหนังไทยใหม่ล่าสุด ระทึกขวัญ หนังไทยเรื่องล่าสุดของ นักแสดงชายตัวพ่ออย่าง แดน วรเวช ที่เป็นทุกอย่างจริงๆสำหรับเรื่องนี้ 555 ทั้งกำกับเองและเล่นเอง จากสารตั้งต้น คือ ไวรัล “ทวงคืนแพทตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช” งานนี้แดนแกงตัวเอง สู่หนังที่จะทำให้คุณเดาทางไม่ออก ตั้งแต่เห็นตัวอย่าง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
ส ปอย หนัง จากนักร้องบอยแบนด์แห่งยุค กลายมาเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าเสน่ห์ และทุกวันเขาก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งคนสร้างหนังที่คลอดผลงานใหม่ ๆ ออกมาเสริมวงการหนังไทยเสมอ และนี่คือผลงานล่าสุดของ “แดน วรเวช” ที่ยังรักษาคอนเซ็ปต์แนวคิดและความเป็นตัวของตัวเขาเองเช่นเดิม กลั่นกรองออกมาเป็น “ทวงคืน Fearless Love” หนังรักในท่วงทำนองของความเฮี้ยน ที่สารภาพตรง ๆ ว่าตอนแรกที่หนังโปรโมตออกมา ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะเป็นหนังรัก หนังตลก หรือหนังบู๊ แต่สุดท้ายแล้ว มันคือหนังผีจ้าาาาา…คุณผู้ชม ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว fearless love
รีวิว fearless love ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่แรกว่า ทวงคืน เป็นหนังที่ทำให้เรารู้สับสนเล็ก ๆ ว่าตกลงมันคือหนังอะไรกันแน่ ตัดทีเซอร์ออกมาทีแรกเหมือนจะเป็นรอมคอม หนังออกมาอีกตัวมีกลิ่นหนังบู๊ แต่พอใบปิดโผล่ออกเท่านั้น สรุปว่าเป็นหนังผี เป็นหนังที่แกงฟิลลิ่งคนดูได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกฉาย และผลลัพธ์ที่ออกมานั้น…ไม่แกง แต่เกือบจะกลายเป็นความเละเทะปะปนทนดูไปตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของเรื่องที่แสนฟุ่มเฟือยเกินไป
แน่นอนว่า แดน วรเวช มารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขยนบทหนังเรื่องนี้เอง โดยเขาหยิบเอาคอนเซ็ปต์ที่สังคมมักจะแอบแซวเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแฟนสาวในชีวิตจริง อย่าง “แพทตี้ อังศุมาลิน” ที่เอาจริง ๆ นะ แค่การคิดหยิบเอาประเด็นนี้มาชูเป็นหนังก็ถือว่าไอเดียบรรเจิดดีแล้ว เป็นอะไรที่ท้าทายและเล่นกับสังคมกลุ่มหนึ่งได้อย่างน่าลิ้่มลอง เพียงแต่การตีโจทย์และนำเสนอของหนังจะออกมาเป็นอย่างไรเท่านั้นแหละ
ซึ่งผลสุดท้ายก็คือ ทวงคืน คือหนังที่หยิบเอาประเด็นดังกล่าวมาใช้ได้แทบจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใด ๆ สุดท้ายมันก็เป็นแค่คำโปรโมตของหนังคำเดียวเท่านั้น เพราะเนื้อหาในหนังได้ฉีกไปอีกแทบ เต็มไปด้วยส่วนที่ขาด ๆ เกิน ๆ บางจุดก็เอ่อล้นเจิงนอง กับจังหวะที่ใส่เข้ามาแบบทีเล่นทีจริง ไม่สามารถหาจังหวะไหนที่จะหัวเราะได้เต็มสูบ หรือซึ้งสะกิดใจได้เลยสักเลย กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความสะเปะสะปะ ใส่กลิ่นอาย (tone) และทิศทาง (setting) ไปทางสากล แต่ไม่นำไปสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จได้สักทาง ทวงคืน นักแสดง
เรื่องย่อ
เรื่องราวของคู่รักยูทูปเบอร์ที่กำลังจะเลิกรา “ดิน” แดน วรเวช และ “พลอย” แพทตี้ อังศุมาลิน แต่ต้องแกล้งรักกัน เพื่อทำ Content ทายอินลูกค้า แหวนเพชรเม็ดเป้ง ระหว่างทาง จับพลัดจับผลูมาเจอ “บริบูรณ์” บีม กวี ไลฟ์โค้ชพ่อลูกอ่อนที่ใช้ลูกช่วยทำมาหากิน และนำไปสู่เรื่องราวประหลาดระหว่างทาง ที่มี “ลุงพล” เต๋า สมชาย ชายลึกลับ ที่นำพาพวกเขาไปพบกับบ้านร้างเก่าแก่กลางทุ่งข้าวโพด ที่มีรูปปั้นโบราณของชายนามว่า “ขุนอำมหิตตราชัย” เต๋า เศรษฐพงษ์ จนพบเจอเรื่องหลอนจากอดีตชาติ ที่รอคอยการ ทวงคืน บางสิ่ง จากพวกเขาในชาตินี้ และตบท้ายด้วยมุมมอง ความรักชวนซึ้ง แบบหักมุม ที่คุณคาดไม่ถึง
บทวิจารณ์
ส่วนที่โดดเด่นที่สุดและเหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดปูทางมาเพื่อสิ่งนี้ก็คือ โมเมนต์หวาน ๆ ระหว่างแดน-แพทตี้ ที่เราจะได้เห็นทั้งในบทบาทของดิน-พลอย และวิดีโอหวาน ๆ จากแดน-แพทตี้ที่แทรกอยู่ในเรื่อง ส่วนนี้แฟน ๆ ของทั้งคู่ต้องอิ่มอกอิ่มใจกันแน่นอน
และส่วนที่ผู้เขียนคิดว่า ทวงคืน ทำได้ดีที่สุดคือความสยองขวัญ ฉาก Jump Scare ทำให้คนดูส่งเสียงกรี๊ดและสะดุ้งได้หลายครั้งตลอดเรื่อง การเห็นภาพวิญญาณปรากฏผ่านหน้าจอโทรศัพท์และกล้องยิ่งทำให้ความรู้สึก ‘มีอยู่แต่จับต้องไม่ได้’ มีมากขึ้น และทำให้คนดูรู้สึก ‘เสียเปรียบ’ ไปพร้อมกับตัวละคร
งานกำกับและดีไซน์ต่าง ๆ ของทวงคืนนั้น ถือว่ายังให้ผ่าน ออกแบบมาได้ค่อนข้างพอใจ แต่หนังมาตกม้าตายทุกครั้งกับการใส่จังหวะที่ประดักประเดิดตลอดทั้งเรื่อง ซ้ำร้ายคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครก็ช่างบิ้วท์ทำให้ดูน่ารำคาญใจมาก ๆ จะบอกตามตรงเลยว่า ช่วงครึ่งแรกของหนังนั้นเหมือนเป็นการจับคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ทั้ง 3-4 คนมาใส่เอาไว้รวม ๆ กัน แล้วก็เถียง ๆ คิด ๆ ไปคนละทาง ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ขับขันด้วยแล้ว แทนที่จะบิวท์อารมณ์ให้น่ากลัวกลับกลายเป็นน่ารำคาญแทน
แต่ก็ยังดีที่หนังได้ทีมนักแสดงที่ช่วยเอาไว้มาก ๆ โดยเฉพาะ แดน-แพทตี้ ที่คือคู่รักในชีวิตจริงอยู่แล้ว เขารู้จังหวะและการเข้าหาทางแสดงที่ดีของกันและกัน ทำให้ทุกอย่างดูไหลลื่นดี (ไม่นับอินเนอร์ที่น่ารำคาญของตัวละครที่ทั้งคู่ได้รับนะ) โดยเฉพาะในท้าย ๆ กับฉากอารมณ์ที่ทั้งสองผลัดกันสื่อสารกันไปมา ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ก็น่าเสียดายว่าจุดดีเพียงเล็กน้อยเท่านี้นั้น ไม่สามารถลบล้างความสะเปะสะปะของหนังลงไปได้
ขณะที่ “บีม กวี” ที่ถือว่ากลับมาขึ้นจอใหญ่เล่นหนังอีกครั้งในรอบหลายปี ก็มาด้วยบทที่เหมือนมาเป็นตัวเสริมที่จริง ๆ ไม่ต้องมีก็ได้ บางจุดก็ดูไปได้กับแคสติ้งของ แดน-แพทตี้ แต่บางจุดจะใส่เข้ามาเป็นเชื่อมก็ยังดูโดด ๆ และขัดแย้งชอบกล แม้จะใส่คาแรกเตอร์ของเขามาให้เป็นอีกตัวละครที่มีมิติอยู่ไม่น้อย แต่มันยังดูไม่ค่อยเข้ากับหนังเรื่องนี้ จะว่าเป็นส่วนเกินของหนังก็ไม่ใช่ แต่ก็ยังเป็นบทบาทที่ไม่เข้ากับหนังทั้งเรื่องนี้อีกอยู่ดี ทวงคืนออนไลน์
รีวิว fearless love
รีวิว fearless love จากเนื้อหาหลักของเรื่อง สิ่งที่เราเห็นจากภาพยนตร์ ทวงคืน อย่างเด่นชัดคือการล้อเลียน ทั้งคู่รักเน็ตไอดอล คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมาทั้งที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง การสร้างภาพ การหาแสง ความสำคัญของยอดการเข้าถึง ล้วนเป็นภาพสะท้อนโลกปัจจุบันที่สื่อและโซเชียลมีเดียมีบทบาทต่อชีวิตคนมาก ยอดวิว ยอดไลก์ และยอดแชร์เป็นสิ่งที่ผู้คน โดยเฉพาะอินฟลูเอ็นเซอร์ทั้งหลายให้ความสำคัญมากจนเกิดปัญหา และความตลกร้ายของ ทวงคืน คือการล้อเลียนที่ดูเหมือนจะเป็นการล้อเลียนนักแสดงผู้รับบทบาทในภาพยนตร์เอง นับว่าเป็นอารมณ์ขันร้าย ๆ ที่ครีเอทีฟดีทีเดียว
อย่างที่หลายคนอาจได้เห็นจากตัวอย่างภาพยนตร์แล้วว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้รวมหลายสิ่งหลายอย่างไว้มากมายเหลือเกิน ทั้งความรัก ผี ความตลก การสะท้อนสังคม การล้อเลียน และมุกตลกที่พยายามอัปเดตให้เป็นปัจจุบันที่สุด แต่การใส่หลายประเด็นหลากอารมณ์ในระยะเวลาอันสั้นทำให้ ทวงคืน เป็นยำใหญ่ที่รสชาติยังไม่กลมกล่อมนัก และอาจทำให้คนดูรู้สึกเบื่อไปตั้งแต่ครึ่งแรกของภาพยนตร์ หรือสับสนว่าควรรู้สึกสนุกหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่รับรสได้มากที่สุดในยำจานนี้ก็คือความพยายาม
กล่าวคือภาพยนตร์มีการนำเสนอเหตุการณ์ในบางช่วงที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก เพื่อให้เรื่องราวของตัวละครสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างลื่นไหล มันจึงทำให้เราเกิดคำถามกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพอสมควร และส่วนที่อาจผิดหวังได้หากตั้งความหวังไว้สูงเกินไปคือความตลกขบขัน ที่ดูเหมือนว่าผู้กำกับพยายามจะขับเน้นให้ภาพยนตร์ดูตลกมากเกินไปจนส่งผลให้บางมุกอาจดูฝืน ๆ ไปสักหน่อย ทวงคืน netflix
สรุปภาพยนตร์
โดยสรุปแล้วก็มีจุดที่ทำให้รู้สึกติดขัดอยู่บ้างในแง่ของมุกตลกขบขัน และการสร้างสถานการณ์ที่ดูไม่สมเหตุสมผล แต่โดยภาพรวมแล้ว ทวงคืน ก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีการนำเสนอที่แปลกใหม่ มีการใส่สัญลักษณ์บางอย่างผ่านการกระทำของตัวละครที่ชวนให้เราตีความ รวมถึงฉาก Jump Scare ที่สอดแทรกเข้ามาได้ตรงจังหวะ และที่สำคัญคือการกลับมารวมตัวกันบนจอภาพยนตร์อีกครั้งของศิลปินที่ทุกคนต่างคิดถึง
เอาเป็นว่า..เราสรุปให้ทุก ๆ คนได้ทราบว่า ทวงคืนเป็นหนังผีแกมตลกนะทุกคน ใส่ปมความรักซึ้ง ๆ เข้ามาบางหน่อย โดยภาพรวมนั้นยังถือว่าหนังไม่ได้มอบรสชาติที่อร่อยสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพอทานได้ แค่อาจจะต้องฝืนกลืนลงท้องไปสักนิด เพราะด้วยการหยิบเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ เข้ามาอย่างมากมายของหนังเรื่องนี้ ทำให้รสชาติยังไม่จัดจ้านและถึงที่สุดเพียงพอ เดี๋ยวหวาน เดี๋ยวเค็ม เดี๋ยวเผ็ด แบบสลับไปมาตลอด 2 ชั่วโมง
แม้ว่าการแสดงของทีมนักแสดงทั้งหมดจะค่อนข้างดีตามมาตรฐาน แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถช่วยยกระดับให้ ทวงคืน หลุดพ้นออกจากตราบาปของจังหวะหนังที่เกือบจะเละเทะไปได้ แม้ว่าหนังจะพยายามสื่อสารในความหมายของชื่อหนังอยู่เรื่อย ๆ แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นข้อความที่ยังไม่สามารถซื้อใจผู้ชมได้อยู่ดี และค่อนข้างเบาบางและความโดดเด่นไปสักหน่อย ก็บริโภคได้…แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลย ทวงคืนสนุกไหม