รีวิว รัก7ปี ดี7หน
เห้อวันนี้หนังไทยก็ไม่พ้นค่ายเจ้าพ่อหนังไทยอย่าง gth อีกแล้ว ที่เรียกว่า gth อาจจะครองวงการหนังไทยไปแล้วก็ได้ 55 โดยเรื่องราวนี้ จะประกอบไปด้วย หนังสั้นเกี่ยวกับ หนังไทยnetflix ความรักสามเรื่องของสามผู้กำกับ โดยมีคียเวิร์ดเกี่ยวกับเลข 7 และ เล่นกับความเชื่อ ส ปอย หนัง ที่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี การเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างจะเกิดขึ้น ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ในช่วงเวลานั้น คงจะมีค่ายหนังไม่กี่ค่าย บริษัทไม่กี่บริษัท ที่สามารถทำให้ผู้ชมหรือลูกค้ารู้สึกถึง ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ ความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียว เป็นครอบครัวกันได้ GTH เองก็เป็นหนึ่งในนั้น และ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาของ GTH ที่แบ่งปันร่วมกับผู้ชมก็ผ่านมาแล้วร่วม 7 ปี และ ด้วยเป็นการเฉลิมฉลองในรูปแบบของครอบครัวมากกว่าบริษัทเชิงพาณิชย์ พวกเขาจึงเลือกที่จะเฉลิมฉลอง และ กล่าวขอบคุณผู้ชมด้วยภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเลข 7 เช่นเดียวกับอายุของค่ายหนังพวกเขา และ นั่นก็ออกมาเป็นหนังเรื่องนี้นี่เอง
ทุก 7 ปี ความรักมักมีการเปลี่ยนแปลง มีบางคนเชื่อกันแบบนั้น แต่มันจริงไหม ผมว่าถ้ามันจะจริงก็คงเพราะว่าการที่คนเราคบกันมานานขนาดนั้น ความสดใส ตื่นเต้น ซาบซ่าตอนที่คบกันใหม่ ๆ ได้จางลงแล้ว กลายเป็นความคุ้นเคย ชินชา และ อาจเลิกถึงขั้นเบื่อหน่ายจนเลิกรักกัน เพื่อให้ความรักก้าวผ่านหลัก 7 ปี ไปได้ คู่รักคงต้องหาอะไรที่แปลกใหม่มามอบให้แก่กัน และ นำพากันสู่ความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้น ซับซ้อนขึ้น เข้มข้นขึ้น
รีวิว รัก7ปี ดี7หน
รีวิว รัก7ปี ดี7หน ด้วยความที่มาตรฐานของ GTH ในเรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน Pantip ก่อนๆ สร้างไว้ดีมาก + เป็นหนังฉลองครบรอบ 7 ปี และ แน่นอนเพราะมีนิชคุณมาแสดงด้วย ทำให้ “รัก 7 ปีดี 7 หน” เป็นหนังที่หลายคนตั้งความหวังเอาไว้สูง(มาก) ส่วนตัวที่เป็นแฟนตัวยงของ GTH ก็ตั้งความหวังไว้สูงเช่นกัน ซึ่งหลังจากได้ไปดูถึง 2 รอบ ก็ตอบกับตัวเองได้ว่า “ไม่ผิดหวัง”
สำหรับเรื่องแรก 14 แม้จะไม่ใช่อายุของตัวละครทั้งสองคนในเรื่อง แต่ดูเหมือนจะโยงความหมายเกี่ยวกับเรื่องของความรักครั้งแรกที่หนังได้ปุเอา ไว้ในตอนแรก เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นในยุคโซเซี่ยลเน็ตเวิร์คกับเรื่องราวของเด็กหนุ่ม ที่เริ่มมีแฟนสาวเป็นตัวเป็นตน แ
ต่ระหว่างโซเซี่ยลเน็ตเวิร์ค และ เทคโนโลยีที่เป็นพลังต่อชีวิตเค้าตลอดกับ แฟนสาวที่ก้าวผ่านมาในชีวิต
ใน 14 นี้ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบฉูดฉาด และ ทันสมัย ใช้อุปกรณ์ และ เครื่องมือ social media มากมายในการเล่าเรื่องเพื่อที่จะนำเสนอในความเป็นเด็ก วัยรุ่น และ ประชาชนหลายกลุ่มในปัจจุปัน ถ้าให้คาดเดาอย่างไม่เขอะเขิน หนังเรื่องนี้ก็คงมุ่งเน้นพุ่งจับไปที่อารมณ์ร่วมของกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาในยุคนี้ หลังจากเมื่อ 7 ปีก่อน
หนังเรื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่โด่งดังอย่าง แฟนฉัน เองก็จับความรู้สึก และ อารมณ์ร่วมของผู้ใหญ่ที่ผ่านวัยเด็กอันหลากหลายมาแล้ว
ดังนั้นการเล่าเรื่องของ 14 นั้นจึงจะออกไปแนวรวดเร็ว ฉาบวย และ ฉูดฉาด จนบ่อยครั้งมันกลายเป็นมิวสิควีดีโอขนาดย่อม ๆ แม้จะเป็นการที่ทำให้ประเด็นเล็ก ๆ ของหนังที่ดูเผิน ๆ แล้วไม่มีอะไรน่าสนใจให้มีชีวิตชีวา และ น่าสนใจขึ้นมาได้ แต่บ่อยครั้งไปมันก็เหมือนกับการฆ่าเวลา แต่ไม่มีผลอะไรกับหนังโดยรวมเท่าไหร่เพราะเนื่องจากเนื้อหาของหนังเองก็ไม่ ได้มีอะไรมาก
ประเด็นของหนังที่ค่อนข้างชัดเจนแต่แรก จึงสามารถที่จะดึงอารมณ์ของผู้ชมเข้ามาร่วมกับหนังได้พอสมควร
เรื่องย่อ
เป็นหนังดราม่าโรแมนติกที่แบ่งออกเป็นเรื่องราว ๆ ต่าง 3 เรื่องอยู่ในหนังเรื่องเดียว ภายใต้คอนเซ็ปต์ตัวเลขที่มีช่องว่างระยะห่างกันทีละ 7 จำนวน แบ่งเป็นเรื่องแรก “14” เรื่องราวความรักของ ป่วน และ มิลค์ ที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อ ป่วน ตัดสินใจเปลี่ยน Status ใน Facebook เป็น ‘In Relationship’ เขาโพสต์คลิปเผยแพร่ความรักของตัวเองลงใน Youtube อย่างละเอียด ด้วยความภาคภูมิใจ และ ยอด Views ก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ ป่วน ถลำลึกลงไปในโลกของฟีดแบ็คจากคนที่เขาไม่รู้จัก ส่วนคนที่เขารักนั้น ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งมีค่าน้อยกว่ายอดคลิก Like ในหน้า Facebook ของเขาเสียอีก
ความรู้สึกหลังรับชม
แม้ว่าความน่าประทับใจของภาพรวมจะอยู่ในระดับ รัก 7 ปี ดี 7 หน Netflix ที่แกว่งขึ้นแกว่งลง รวมถึงมีจุดต่าง ๆ ที่ทางหนังใส่เข้ามาเพื่อเป็นการตอบแทนแฟนคลับของหนังค่ายนี้ให้วี้ดว้าย เต็มไปหมด (แต่ก็นับว่าโชคดีที่หนังไม่ได้ทำออกมาอย่างประเจิดประเจ้อว่าหนังเรื่องนี้ เราทำเพื่อขอบคุณทุกคนนะจ๊ะ จุ๊บ ๆ แต่อย่างใด ยกเว้นฉากมิวสิควีดีโอหลังเครติดที่ค่อนข้างโจ่งแจ้งไปหน่อย
มีจุดที่น่าเสียดาย แต่ก็พอเข้าใจได้ เกี่ยวกับมุมมองด้านบวกของหนังที่หนังเลือกที่จะขึ้นไปจนสุดจนเรียกได้ว่า มองโลกในแง่บวกแบบสุด ๆ แต่พอมุมมองในแง่ลบหนังกลับดึงลงมาในระดับปานกลาง ความรู้สึกมันเลยดูไม่สมดุล แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียอะไรเท่าไหร่นักเพราะหนังเองก็พยายามประณีประนอมในบางจุด ไม่ให้ล้ำเส้นเกินความจำเป็น
แต่นับโดยภาพรวม นอกจากจะเป็นภาพยนตร์สำหรับสร้างความบันเทิง และ ความรู้สึกดี ๆ ได้แล้ว เพียงแค่ตอนแรกกับตอนสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ก็พอจะสร้างความหวังได้ว่า บางทีอาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในแง่ที่ดีขึ้นทั้งแนวคิด และ วิธีการทำของหนังค่ายนี้ต่อไปอีกก็เป็นได้
รีวิว รัก7ปี ดี7หน
รัก 7 ปี ดี 7 หน ออกฉายครั้ง รัก 7 ปี ดี 7 หน doomovie แรกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2555 ในปีนี้หนังก็มีอายุ 9 ปีเต็มแล้วพอดี หนังได้ 3 ผู้กำกับฝีมือดีแห่งค่ายจีทีเอช ไม่ว่าจะเป็น “กอลฟ์-ปวีณ ภุริจิตปัญญา”, “ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม” และ “เก้ง-จิระ มะลิกุล” มาแบ่งพาร์ตกันทำงานในหนังสั้นแต่ละเรื่อง พร้อมทั้งได้นักแสดงเกือบทั้งวงการมา ตบเท้ามาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ แม้จะโผล่มาแว่บ ๆ ก็ยังดี
แต่หนังได้นักแสดงนำหลัก ๆ อย่าง “เก้า จิรายุ”, “ปันปัน สุทัตตา”, “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์”, “คริส หอวัง”, “สู่ขวัญ บูลกุล”, “โอปอล์ ปาณิสรา” และ “นิชคุณ หรเวชกุล” ที่รายหลังนี้ได้แบ่งคิวจากการเป็นไอดอลเกาหลี มีรับงานแสดงหนังไทยเรื่องแรกในชีวิตก็เรื่องนี้ด้วย
บทสรุป
“รัก 7 ปีดี 7 หน” เป็นหนังที่แทรกอะไร รัก 7 ปี ดี 7 หน เรื่องย่อ ไว้มากมาย ทั้งดารารับเชิญ การเอาประโยคเด็ด ๆ จากหนังเก่าของ GTH ภาพของหนังแฟนฉันที่เป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท รวมไปถึงการทำหนัง 3 เรื่องให้หลุดออกไปจากสูตรสำเร็จเดิม ๆ
ผลคือคนดูถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือที่ชอบก็จะชอบมาก คนที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย
ก็ไม่แปลกที่รายได้จะไม่สูงเหมือนที่หลายคนคาดคิด (7 วันไม่ถึง 50 ล้านบาท)
อย่างไรก็ดี “รัก 7 ปีดี 7 หน” คือหนังที่คุณภาพดีเยี่ยม มีอะไรมากมายให้เก็บระหว่างทาง สมกับที่เป็นหนังฉลองครบรอบ 7 ปีของค่ายหนังที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด กว่าจะประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ ดูจบก็แอบยิ้มเล็ก ๆ ได้ข้อคิดหน่อย ๆ